สวนสำหรับคนรักเฟิร์น
การนำวัฒนธรรมข้าวและวิถีชีวิตในชนบท มาผสมผสานกับธรรมชาติของเฟิร์นอย่างลงตัว เป็นที่มาของ "บ้านสวนสันทราย Fern Paradise" สวนสวรรค์สำหรับคนรักเฟิร์น ดร.นิวัตร ตันตยานุสรณ์ สถาปนิกล้านนาผู้รักการปลูกเลี้ยงเฟิร์น ได้นำแนวคิดดังกล่าวมาสร้างเป็นรีสอร์ตเล็กๆ โดยดัดแปลง "หลอง" หรือ "ยุ้งข้าว" เป็นบ้านพักผ่อน จัดตกแต่งร่วมกับสวนเฟิร์นหลากชนิดในรูปแบบต่างๆ
"ตอนนี้จึงเหลือ หลองข้าวให้ดูน้อยมาก และส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใช้งานตามที่เคยเป็น จึงเกิดแนวคิดนำหลองข้าวมาทำเป็นที่พักอาศัย โดยใช้หลักสถาปัตยกรรมบวกธรรมชาติ สร้างหลองข้าวในพื้นที่ซึ่งเดิมเป็นสวนผลไม้เก่า ผมพยายามออกแบบให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเดิม ต้นไม้อยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น อาคารที่สอดแทรกเข้าไปจะไม่รบกวนสภาพเดิมที่ร่มรื่น เมื่อลงตัวจึงปลูกเลี้ยงเฟิร์นและนำมาจัดสวนด้วย"
พื้นที่แห่งนี้มีไม้ ใหญ่หรือไม้ประธานที่ช่วยให้เฟิร์นอยู่รอดปลอดภัยและสมบูรณ์ เพราะช่วยเพิ่มความร่มรื่นและความชื้นให้กับเฟิร์น โดยมีทั้งเฟิร์นต้น เฟิร์นคลุมดิน เฟิร์นคาคบ และเฟิร์นน้ำ ทั้งที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ และที่ปลูกเลี้ยง จากนั้นจึงจัดแต่งให้เข้ากับหลักภูมิสถาปัตยกรรม
เป้าหมายการทำบ้านสวนสันทราย Fern Paradise นอกจากในแง่ธุรกิจแล้ว ยังทำเพื่อรักษาเฟิร์นของโลก ขยายกลุ่มประชากรผู้รักเฟิร์น กระจายการปลูกเลี้ยงเฟิร์นออกไปสู่สังคม และเพิ่มมูลค่าของเฟิร์นในด้านการออกแบบ
"เราคิดถึงการแลกเปลี่ยน สปอร์อย่างเป็นระบบระหว่างไทยกับนานาชาติ การเสาะแสวงหาเฟิร์นจากเพื่อนๆในกลุ่มผู้ปลูกเลี้ยง การทำสปอร์แบงก์ และเพาะสปอร์ ขยายพันธุ์ให้ได้เฟิร์นจำนวนมาก ผู้มาพักผ่อนที่นี่จะได้เฟิร์นกลับไป หลายคนสัญญาว่าเมื่อเฟิร์นเติบโตจะส่งภาพกลับมาให้ดู เป็นการกระจายประชากรผู้รักเฟิร์นให้เพิ่มขึ้น และบางคนที่เป็นชาวต่างชาติก็สัญญาว่า จะนำสปอร์ของเขาส่งกลับมาให้เรา"
นอก จากปลูกเลี้ยงเฟิร์นแล้ว ดร. นิวัตรยังนำเฟิร์นมาใช้ตกแต่งสวนด้วย ในกรีนเฮ้าส์มีเฟิร์นพันธุ์แปลกหายากที่เจ้าของสะสม ส่วนบริเวณรอบบ้านพักทั้ง 9 หลังก็มีการจัดสวนเฟิร์น โดยชื่อที่พักจะตั้งตามชื่อเฟิร์นที่ขึ้นตามสภาพธรรมชาติ และจัดแต่งไว้ใน บริเวณนั้น เช่น "หลองก้านดำ" (Adiantum Barn) "หลองข้าหลวงหลังลาย"(Asplenium Barn) "หลองนาคราช" (Davalia Barn) "หลองใบมะขาม" (Nephrolepis Barn) "หลองชายผ้าสีดา" (Plalycerium Barn) "หลองลูกไก่" (Cibotium Barometz Barn) "หลองสร้อยนารี" (Lycopodium Barn) "หลองดิกซอเนีย" (Dicksonia Barn) และ "หลองมหาสะดำ"(Cyathea Barn)
สำหรับ ผู้หลงรักเฟิร์น นอกจากจะได้ชื่นชมเฟิร์นเหล่านี้แล้ว ที่นี่ยังมีโรงเรือนสำหรับเพาะขยายพันธุ์เฟิร์น ทั้งเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ที่มาพัก และจำหน่ายเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน รวมทั้งสอนวิธีการเพาะขยายพันธุ์เฟิร์นให้กับผู้สนใจอีกด้วย
หลองก้านดำ เป็นหลองที่ทดลองปลูกสร้างเป็นหลังแรก ด้านข้างตัวเรือนมีถนนสายหลักที่นำไปสู่ส่วนต้อนรับ
คอร์ตส่วนกลางของหลองทั้ง 4 หลัง จัดเป็นสวนเฟิร์น มีทั้งเฟิร์น ต้นเฟิร์นคลุมดิน และเฟิร์น คาคบ
ใช้พื้นที่ใต้ถุนบ้านสำหรับนั่งเล่น โดยยกระดับตัวบ้านให้สูงขึ้นด้วยฐานเสาปูน เพื่อความสะดวกสบายไม่อึดอัด
"เติ๋น" หรือชานบ้านที่เชื่อมต่อระหว่าง หลองลูกไก่ หลองสร้อยนารี หลองดิกซอเนีย และหลองมหาสะดำ
"เติ๋น" หรือชานบ้านที่เชื่อมต่อระหว่าง หลองลูกไก่ หลองสร้อยนารี หลองดิกซอเนีย และหลองมหาสะดำ
รางส่งน้ำที่ชาวชนบทในอดีตใช้เป็นท่อลำเลียงน้ำไปยังพื้นที่ต่างๆ
หลังคาของมุมนั่งเล่นที่ประยุกต์มาจากที่ฝัดข้าว ประดับด้วยรูปวาดที่บอกเล่าการใช้งานของที่ฝัดข้าวในอดีต
บ่อน้ำในกรีนเฮ้าส์
เรื่อง : "ทิพาพรรณ" ภาพ : กฤษดา , อภิรักษ์ เจ้าของ - ออกแบบ : ดร.นิวัตร ตันตยานุสรณ์ สถานที่ : บ้านสวนสันทราย Fern Paradise อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ที่มา : //www.baanlaesuan.com //www.fernsiam.com
สารบัญค้น เรื่อง แต่งบ้าน จัดสวน ที่มีในบล็อกค่ะ คลิกที่นี่ค่ะ
Create Date : 26 มกราคม 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 26 มกราคม 2553 15:15:23 น. |
Counter : 6470 Pageviews. |
|
|
|