เด็ก..การก้าวเข้าสู่เรื่องเพศศึกษา และสื่อในสังคม(ของญี่ปุ่น) สืบเนื่องมาจากเพื่อนป้าโซเธอได้เห็นคลิปหลุดของเด็กนักเรียนม.ต้นของไทย เป็นคลิปที่เด็กถ่ายการมีเซ็กส์ด้วยกันของเหล่าเพื่อนหญิงชายในห้องน้ำของร.ร. ทำไมจึงเกิดเรื่องเช่นนี้กับเด็กในวัยเรียนที่เพิ่งจะเริ่มก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ? ก่อนจะตอบคำถามนี้ ก็คงต้องมามองกันถึงหลายๆอย่าง เช่น สภาพแวดล้อม การอบรมเลี้ยงดู ความเอาใจใส่ต่อเด็กของผู้ปกครอง ก็ไปนั่งคิด นั่งวิเคราะห์กันไปค่ะ แต่จากแนวความคิดของเพื่อนป้าโซ เธอว่ามางี้ .. " เมืองไทยเราเนี่ยนะ เราไม่มีร้าน sex shop ถูกต้องตามกฎหมาย เราเซ็นเซอร์นมชิซูกะ เซ็นเซอร์นมไจแอ้นท์ แต่ผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยขึ้นหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ได้ และวางขายตามปกติ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีการกวาดล้างของลามกที่ขายในเว็บไซต์ แล้วเราก็หาซื้อพวกซีดีโป๊พวกนี้ได้อย่างข้างถนน มันเหมือนไปคนละทางเลยอ่ะ " และจบด้วยคำถามยังงี้ .. " ประเทศอื่นๆ เค้าแก้ปัญหาพวกนี้กันไงอ่ะ แต่ว่าฝรั่ง มันก็มีกันตะเด็กเหมือนกันนี่ใช่มะ แต่ยี่ปุ่นคงไม่ รึป่าว ? " ไอ้ประเทศอื่นๆน่ะ เค้าแก้ปัญหายังไงนี่ป้าโซไม่ทราบ ส่วนประเทศญี่ปุ่นที่ป้าโซอยู่นี่.. ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เอาเป็นว่าขอเล่าในส่วนที่เห็นๆมาบ้างแล้วกัน ซึ่งจะตรงแค่ไหนนี่ไม่ทราบได้ อาจมีผิดมีถูก ถ้าใครทราบต่างไปจากที่ป้าโซเคยได้รับมาก็ช่วยเข้ามาเล่ากันด้วยค่ะ.. ตอนเจ้าตัวเล็กอยู่ชั้นป.ห้า มีอยู่กิจกรรมหนึ่งที่ทางร.ร.ชวนเชิญผู้ปกครองไปร่วมด้วย กิจกรรมที่ว่านี่จะจัดให้ผู้ปกครองกับเด็กนั่งอยู่ในห้องประชุมพร้อมๆกัน แล้ววิทยากรที่ทางร.ร.เชิญมา ก็จะพูดเชิงอบรมสอนเด็กเรื่องความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเมื่อเติบโตขึ้น ความแตกต่างในร่างกายของชายหญิง กลไกในการทำงานของต่อมฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งเด็กได้เรียนรู้มาบ้างแล้วจากหนังสือเรียน พอสไลด์ถ่ายมาถึงรูปวาดของมดลูกผู้หญิง ก็ได้ยินเสียงเด็กผู้ชายร้องยี้กันประปราย เป็นที่ขำขันของพวกแม่ๆ ประมาณ เออ.. พวกแกร้องยี้ แต่พวกแกก็ก่อตัวมาจากตรงนั้นนั่นแหละว้า.. จากนั้นก็ไล่เด็กเข้าห้องเรียนตามชม.เรียนปกติ แต่เก็บตัวผู้ปกครองไว้ก่อนเพื่ออบรมกลายๆกับผู้ปกครองต่อ ว่าควรจะเตรียมตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย กับอารมณ์ที่จะเปลี่ยนไปของเด็ก ควรจะให้ความรู้ อธิบายให้เด็กเข้าใจ อย่าไปปิดบังเพราะจะยิ่งทำให้เด็กไขว่คว้าอยากรู้และไปหาทางเรียนรู้เอาอย่างไม่ถูกทาง ที่สำคัญควรให้ความเอาใจใส่ใกล้ชิดกับเด็ก เพื่อเป็นการเตรียมและป้องกันการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ควร เช่น เด็กผู้หญิงที่เริ่มมีรอบเดือน ก็สอนไปว่าวัยเขาพร้อมจะให้กำเนิดเด็กได้แล้ว เพราะฉะนั้นควรจะระวังอะไรบ้างก็ว่ากันไป.. ส่วนเด็กผู้ชาย อาจพบเจอแม็กกาซีนสำหรับผู้ชายในห้อง เวลาเก็บเสื้อผ้าซักอาจเจอคราบตามชั้นใน สิ่งเหล่านี้ก็บ่งบอกว่าลูกได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นวัยรุ่นไปอีกขั้น ก็ต้องสอนเรื่องการวางตัว การปฏิบัติตัวต่อผู้หญิงที่จะมีขึ้นในอนาคต .. คงไม่มีใครอยากมีหลานโดยประมาท .. นั่นคือการเตรียมพร้อมที่ทางร.ร.และครอบครัวมีส่วนร่วมด้วยช่วยกันอบรมสั่งสอนดูแลและสอดส่องเด็ก ส่วนในเรื่องทางสังคม สื่อเช่นแม็กกาซีนโป๊จะวางขายกันเป็นเรื่องปกติ ตามชั้นหนังสือของพวกผู้ชาย แต่จะโป๊แค่ไหนก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่กฏหมายเขากำหนดด้วย เช่น พวกสาหร่ายห้ามแพลม อันนี้พูดถึงบนดินทั่วๆไปนะคะ ไม่ลงใต้ดินซึ่งใต้ดินนี่ประเทศไหนๆก็คงเหมือนกันนะป้าโซว่า .. พวกหนังปลุกอารมณ์เสือป่าก็มีให้เช่าตามร้านให้เช่าดีวีดี วิดิโอทั่วไป ซึ่งจะทำเป็นสัดส่วนมีผ้าม่านบังตาซะ แล้วเขียนตัวหนังสือกำกับไว้ว่ามุมหนังสำหรับผู้ใหญ่ อายุต่ำกว่าสิบแปดปีห้ามเข้า นอกจากนี้ยังมีบางแห่งวางตู้ให้เช่าหนังประเภทนี้แบบตู้อัตโนมัติอีกด้วย คงเหมือนเราเลือกหยอดเหรียญกดเครื่องดื่มที่เราชอบมั้งคะ วาดภาพพจน์ไปงั้นเพราะขั้นตอนเป็นอย่างไรนี่ไม่ทราบ ไม่เคยจอดรถแวะเข้าไปหรอกค่ะ ป้าโซเข้าใจว่าสังคมที่นี่เขาปฏิบัติจนดูเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว จะไม่แอบๆ เซ็นเซอร์มากมายอย่างบ้านเรา เพราะฉะนั้นถ้าเด็กจะพบจะเห็นบ้างว่าก็จะรู้ว่านี่คือส่วนของผู้ใหญ่นะ เด็กก็จะผ่านๆไปเพราะวัยของเขายังไม่ถึงตามที่กฏหมายอนุญาต อ๊ะๆ.. ทำไมความอยากรู้อยากเห็นของเด็กจะต้องเชื่อกฏหมายด้วยงั้นรึ? โดยความเห็นส่วนตัว ป้าโซคิดว่าคนที่นี่พร้อมใจกันปฏิบัติตามกฏต่างๆ เก้าสิบเปอร์เซ็นต์อัพค่ะ นั่นหมายความรวมถึงเด็กด้วยที่เขาปลูกฝังกันมาอย่างนั้น .. และเมื่ออายุเด็กเข้าข่ายตามกฏแล้ว เมื่อนั้นความอยากรู้อยากเห็นเพื่อการเรียนรู้ก็จะตามมาเองเหมือนกัน ที่ว่ามานี่พูดถึงเด็กส่วนมากทั่วๆไปไม่นับเด็กที่มีเซ็กส์ก่อนวัยอันควรซึ่งคิดว่าไม่ว่าประเทศไหนก็คงมีเหมือนกัน มากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง ซึ่งพฤติกรรมของเด็กพวกนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาหาสาเหตุกันต่อไปว่าเพราะอะไร เพราะเป็นกรณีพิเศษที่เกิดขึ้น อีกเรื่องที่ป้าโซคิดว่ามีส่วนอย่างมากที่จะช่วยเลี่ยงๆ เพลาๆความสนใจทางเพศสำหรับเด็กในวัยเรียนก็คือ.. ที่ญี่ปุ่นนี่จะมีกิจกรรมตามชมรมต่างๆภายในร.ร. ให้เด็กเลือกเข้าไปเป็นสมาชิกตามความชอบของตัว ซึ่งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของชมรมเหล่านี้จะเป็นกีฬา ต้องออกแรงฝึกซ้อมอยู่บ่อยครั้ง ส่วนมากชมรมกีฬาแทบทุกชนิดจะให้เด็กมาฝึกซ้อมในวันหยุดด้วย ดังนั้นเวลาว่างของเด็กที่มีหลังจากเลิกเรียน ก็จะถูกใช้เผาผลาญพลังงานด้วยกีฬานั่นเอง วันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ป้าโซต้องพาเจ้าตัวเล็กออกไปแข่งยูโด เช้าๆจะเห็นเด็กเล็กเด็กโตใส่ชุดกีฬาปั่นจักรยานไปกันเป็นแถว เห็นแล้วให้ความรู้สึกว่า เออ.. เด็กเขาก็มีเรื่องให้ทำของเขานะ ไม่มานั่งว่างๆ หายใจทิ้งเคว้งคว้างไปวันๆว่าจะทำอะไรในวันหยุด มันเหมือนมีตารางสำเร็จให้เขาทำอยู่แล้ว ไอ้เรื่องนัดกันไปช้อบปิ้ง ไปเดินห้างอะไรนี่ ตามบ้านนอกที่ป้าโซอยู่นี่เห็นไม่ค่อยเยอะค่ะ แต่ในตัวเมืองจะเป็นอย่างไรนั้น .. ไม่ทราบเหมือนกัน ที่ญี่ปุ่นนี่พออายุครบยี่สิบปีเต็มก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่สมบูรณ์ จะมีวันทำพิธีต้อนรับความเป็นผู้ใหญ่นี่โดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อเป็นผู้ใหญ่แล้วสามารถสูบบุหรี่ดื่มเหล้าได้ และสามารถแต่งงานมีลูกได้เช่นกัน ในสังคมที่ป้าโซอยู่ จะพบเห็นหนุ่มสาวที่เพิ่งกระโจนเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่หมาดๆ ตกลูกในทันทีเช่นกัน.. คืออายุประมาณยี่สิบ ยี่สิบเอ็ด ยี่สิบสอง ก็ตั้งท้องมีลูกกันแล้ว และพอตั้งท้องแล้วถึงค่อยแต่งงาน เคยถามผู้หญิงญี่ปุ่นว่าทำไมถึงได้รีบแต่งงานตั้งแต่อายุน้อยๆกัน เธอบอกว่าการแต่งงานให้ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ที่สามารถมีชีวิตของตัวเองพ้นจากปกครองของพ่อแม่ มามีครอบครัวมีลูกของตัวเอง .. ไม่แปลก.. ถ้าจะคิดอย่างนี้และถ้าสามารถประคองชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัวไปได้อย่างตลอดรอดฝั่งโดยไม่มีการหย่าร้างตามมา แต่เท่าที่เห็นนี่ส่วนมากคนที่แต่งงานด้วยอายุน้อยๆอย่างนี้จะหย่าร้างกันภายหลัง ป้าโซเคยถามสาวๆที่โรงงาน เห็นหน้าตายังอายุน้อยๆ ยี่สิบสองมั่ง ยี่สิบสี่มั่ง.. แต่งงานหรือยังคะ? เธอตอบว่า ดิชั้นบัทสึอิชิ ค่ะ.. ความหมายของคำว่า "บัทสึ" ในที่นี้ก็ประมาณ ล้มเหลว .. ผิดพลาด .. "อิชิ" ก็คือหนึ่ง .. "บัทสึอิชิ" ก็หมายถึงล้มเหลวครั้งที่หนึ่ง บัทสึนิ ก็ล้มเหลวครั้งที่สอง ตัวเลขข้างหลังก็เติมไปเรื่อยๆของจำนวนความล้มเหลวจากการแต่งงาน.. ในความเห็นโดยส่วนตัวของป้าโซเกี่ยวกับการให้ความรู้กับเด็กเกี่ยวกับเรื่องเพศ การพัฒนาข้ามขั้นไปจนถึงแต่งงานมีลูกมีครอบครัว การเปิดเผยเรื่องพวกนี้ในที่สาธารณะ สมควรต้องพิจารณาให้มีความพอดีโดยการจับของไทยบวกญี่ปุ่นแล้วหารสอง.. ไหนๆก็มาเรื่องนี้แล้ว ขอเติมอีกนิดเรื่องเซ็กส์กับความเป็นญี่ปุ่น.. เป็นที่พูดกันอย่างมากมายถึงเรื่องความก้าวหน้าทางเรื่องนี้ของชนชาตินี้ ถ้าพูดถึงญี่ปุ่นแล้วที่จะมองกันควบคู่ไปกับความเจริญของเขาหนึ่งในนั้นก็คือเซ็กส์ อันนี้คงเนื่องมาจากหนังใต้ดินที่ผลิตกันหลากหลายถ่ายทำกันด้วยฉากแปลกๆหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ จนกลายเป็นสัญญลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศนี้ไป ทั้งที่จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่นที่ผลิตหนังพวกนี้ออกมาขายมากมายในตลาด แต่ที่มันดังๆก็คงเป็นเพราะความเป็นผู้นำทางวิวัฒนาการของเขา ก็เลยแสดงความเป็นผู้นำด้วยการถ่ายทำให้มันแหวกแปลกแนวออกไปซะด้วยเลยงั้นหรือเปล่า? เลยเป็นที่ฮือฮาของบรรดาเสือป่าทั้งหลาย .. ตรงนี้ป้าโซตอบไม่ได้จริงๆ ถึงแม้จะมีผู้ถามมาบ่อยมากก็ตาม ..   Create Date : 31 พฤษภาคม 2553 18 comments Last Update : 31 พฤษภาคม 2553 22:01:47 น. Counter : 5367 Pageviews. Share Tweet

เรื่องอย่างนี้ ผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองเรา ชอบทำแบบ ปากว่าตาขยิบค่ะ ป้าโซ เคยเห็นรูป เซ็นเซอร์หน้าอกชิซูกะ นี่ ขำก๊่า่กเลย แต่หนังสือถ่ายแบบ โป๊ กึ่งเปลือยนี่มีกันเกลืือนจริงๆ ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิดกันที่มาเซ็นเซอร์การ์ตูนต่างๆ อย่างที่เยอรมัน ก็จะมีการสอนเรื่องเพศศึกษา ตั้งแต่ชั้น ป.๕ เหมือนกัน เรื่องการเรียนในโรงเรียนของเด็กที่นี่เป็นหน้าที่ครูค่ะ พ่อแม่ไม่ได้ไปดูด้วย แบบที่ญี่ปุ่น แต่จะมีวันนัดพบผู้ปกครอง ซึ่งครูจะมีวันเวลา มาให้เราเลือกนัด ไปคุยเกี่ยวกับการเรียน และำพฤติกรรมของเด็กๆ ..การให้ความรู้เด็กที่นี่ จะเป็นไปตามวัยของเด็กๆ เค้าจะไม่ปกปิด แต่ก็มีข้อจำกัดให้ ว่า อยู่ในระดับไหน ที่ยุโรป (แน่ๆคือ เยอรมัน- สวิตเซอร์แลนด์ )จะระมัดระวังในเรืืืองเกี่ยวกับเด็กๆมาก และ เรื่องจำกัดอา่ยุเด็กในเรื่องต่างๆ จะ เน้นชัดเจนมากในทุกเรื่อง ส่วนหนังสือโป๊ ฯลฯ.นี่ จะมีขายในร้าน Sex Shop ซึ่งห้ามเด็กต่ำกว่า ๑๘ ปีเข้า อยู่แล้ว ถ้าเกิดมีเด็กหลงเข้าไป ก็โดนไล่ออกค่ะ เพราะตำรวจที่นี่โหดมาก ในทีวี ก็จะมีสารคดี ดีๆมาให้เด็กดูและเรียนรู้มากมาย หลากหลายช่อง เป็นประจำ แต่พฤติกรรม และการเรียนรู้ นอกจากที่ โรงเรียน ก็จะเป็นหน้าที่พ่อแม่ล่ะค่ะ ที่ต้องคอยสอดส่องดูแล และใ้ห้ความรู้แก่ลูก ที่นี่ เมื่ออายุ ครบ ๑๘ ปี ก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ต้องขอความเห็นชอบจากพ่อแม่ ในเรื่องต่างๆ ไม่ต้องให้พ่อแม่ไปพบครู อีก สามารถทำทุกอย่างได้เองค่ัะ อ่านแล้วอาจจะงง คนพิมพ์เอง ยังงง เลยค่ะ   โดย: บังเอิญสวย(ช่วยไม่ได้) 1 มิถุนายน 2553 3:43:25 น.

ประเทศที่ก้าวล้ำทั้งวิทยาการและวัฒนธรรมอย่างญี่ปุ่น มันก็เหมือนดาบสองคมนะป้า ยิ่งมีกรอบของวินัยมาบังคับ พอหลุดจากกรอบปั๊บก็มักจะมีผลเช่นนั้นตามมา คนไทยมีนิสัยเรื่อยเปื่อย อยากทำไรก็ทำ มันห้ามเด็กไม่ได้หรอก คลิปบ้าบอในเน็ตมีให้ดูรายวัน มันต้องกล้าพูดภาษาเดียวกับเขา แจกคอนดอมไปเรย เหอๆๆ ถ้าได้วินัยจากญี่ปุ่นมาสักครึ่งอะไรๆ ก็คงดีขึ้นเยอะ แล้วไอ้ยุ่นถ้าได้ความสบายๆ ของเราไปสักหน่อย คนฆ่าตัวตายก็คงน้อยลง หนังโป๊ หนังสือโป๊บ้านเขามันวางแผงกันเสรี บ้านเรายังปากว่าตาขยิบ แต่วินาทีนี้ หาดูกันฟรีตามเน็ตจนตาแฉะ ดูจนหลับคาเครื่อง ติดไวรัสเซ็กส์เสื่อมไปซะฉิบ... คิดว่าญี่ปุ่น มุมมองเขาเรื่องนี้มันไปไกลระดับสแกนดิเนเวีย แต่ความต่างคือ ยังมีประเพณีแบบเอเชียครอบคลุมอยู่ ชายยังเป็นใหญ่ หญิงเป็นผู้ตาม มันเลยมีเอกลักษณ์แปลกๆ ที่ไม่เหมือนใคร ของเราก็ไม่เบานะ ตามตูดไปติดๆ แต่ต้องทำปากว่าตาขยิบอย่างที่ว่าเพราะวัฒนธรรมดั้งเดิมครอบกบาลไว้ ออกหน้าออกตาก็จะกรี๊ดกร๊าดดิ้นกระแด่วรับไม่ได้ ทั้งๆ เซ็กซ์ทัวร์บินมาเที่ยวกันตรึม มันต้องปฏิวัตัทัคนคติคนไทยกันเองก่อน   โดย: พี่หมี (Bkkbear ) 1 มิถุนายน 2553 9:19:32 น.

เรื่องเพิ่มกิจกรรมให้เด็กนี่น่าสนใจ เป็นทางช่วยแก้ปัญหาที่ดี เพราะเด็กบ้านเราเหมือนไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากมาย นอกจากเล่นเกม เข้าร้านเนต ขับมอเตอร์ไซค์ไปดริฟท์โชว์ไรงี้   โดย: เ จ้ า ช า ย น้ อ ย 1 มิถุนายน 2553 12:29:15 น.

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ พอผมอ่านเรื่องราวในบล็อกนี้จบ ผมก็เกิดคำถามขึ้นในใจทันทีเลยว่า .... " ไอ้คลิปที่ป้าโซเล่าในตอนแรก มันจะหาดูได้จากที่ไหนหว่า? " ก๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ ล้อเล่นครับ ... จริง ๆ แล้วไอ้คลิปพวกนี้ผมไม่อยากจะดูหรอกครับ (จริง ๆ นะครับ) เรื่องราวปัญหาทั้งหมด ผมว่ามันเกิดจากความบกพร่องในเรื่องของการศึกษาครับ ผมคิดว่าในประเทศที่เค้าพัฒนาแล้ว ที่มีระบบการศึกษาที่ดีและทันสมัย เรื่องราวเกี่ยวกับเพศศึกษาน่าจะได้รับการสอนให้แก่เด็กและเยาวชนได้มากกว่าในประเทศไทยของเราครับ ถ้าระบบการศึกษาของเราดีมากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ปัญหาเรื่องพวกนี้ก็จะหมดไปครับ อิอิ   โดย: อาคุงกล่อง 1 มิถุนายน 2553 14:44:27 น.

สำหรับความเห็นตุ๊กตา(วิเคราะห์เองจากประสบการณ์ใกล้ตัวในเมืองฝรั่ง)นะป้า คิดว่าความเชื่อ+ค่านิยม+ขนบธรรมเนียมไทยๆที่เราถูกปลูกฝังมา เหมือนๆว่าจะดีนะป้าโซ แต่จริงๆมันกลับทำให้เด็กๆเก็บกด และทำให้อยากรู้/อยากเห็น/อยากลองหนักขึ้น พอสบโอกาสหรืออยู่ห่างสายตาผู้ใหญ่ก็จะพากันเลยเถิด ,ทำสิ่งที่ถูกห้ามนั้น ยกตัวอย่างง่ายๆแบบไม่ต้องถึงกับขั้นมีเซ็กส์หรอกเนาะป้า ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่(คนไทยนะ) เวลาได้เห็นเนื้อนมไข่ เห็นอะไรแว๊บๆว็อมแวม โป๊ๆเปลือยๆ ก็จะตาลุกวาวหรือถึงขั้นเกิดอารมณ์ ขณะที่เด็กฝรั่งจะไม่เป็น(หรือเป็น แต่มันไม่แสดงออก ไม่บอกใคร) สิ่งเหล่านั้นจึงถือเป็นภาพ/เรื่องปกติธรรมดา เพราะพวกเขาคุ้นเคยกับอวัยวะของหญิงชายตั้งแต่เด็กๆ อีกอย่างคือเด็กๆพอเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ว่าทำไมอวัยวะเพศเด็กหญิงชายเป็นแบบนี้ ทำไมไม่เหมือนกัน หรือถามว่าเขามาจากไหน / เกิดมาได้ยังไง ฯลฯ พ่อแม่(ฝรั่ง)ก็จะอธิบายเป็นภาษาเด็กๆแบบง่ายๆที่เด็กฟังแล้วเข้าใจ (นึกย้อนถึงตัวเองที่สมัยเด็กตุ๊กตาไม่กล้าถามพ่อแม่หรือผู้ใหญ่เลย เพราะเป็นเรื่องน่าอาย กลัวถูกดุ) ฝรั่งเขาจะไม่ดุที่ลูกถามแบบนั้น ไม่หลีกเลี่ยงและไม่อ้อมแอ้มตอบ อันนี้เป็นสิ่งที่ดีเนาะป้าโซ เพราะเด็กรู้จัก+เข้าใจ(บ้าง)+คุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เล็กๆ พอเข้า รร. ครูก็สอนทฤษฎี พอเข้าวัยรุ่นทางอนามัยเขาก็แนะวิธีป้องกันตัวเองพร้อมแจกอุปกรณ์ป้องกันเมื่อจะมีเพศสัมพันธุ์กัน เป็นสเต็ปๆไป สังคมเขาจึงไม่มีปัญหาอาชญากรรมเรื่องเกี่ยวกับทางเพศ หรือมีก็น้อยมาก แรกๆตุ๊กตาก็ติดนิสัยแบบไทยๆนะป้าโซ ที่ว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องน่าอับอาย เวลาพาสตีเว่นอาบน้ำในห้องน้ำผู้หญิง(ที่สระว่ายน้ำ)ก็ชอบบอกให้เขารีบๆอาบ ปิดไอ้นั่นไว้ อายคนอื่นเขา แล้วเวลาเห็นเขาจับอาจู๋เล่นก็ไปห้ามไปตำหนิเขาเสียงดังใหญ่โต ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเลย อันนี้น้องสะใภ้แนะนำมาถึงรู้ตัวว่าเราจะปลูกฝังตามอย่างสังคมบ้านเราไม่ได้ เด็กเขามีสิทธิ์ที่จะทำความรู้จักและคุ้นเคยกับอวัยวะของเขาเอง เป็นเรื่องปกติธรรมดา ช่วงนี้ตุ๊กตากับสตีเว่นมัวแต่หลงระเริงกับการปลูกผัก-ถากหญ้าในสวนกันอ่ะจ้ะป้าโซ อากาศดีมากๆ ปีนี้ลองปลูกคะน้ากับผักชีดู แต่สงสัยจะไม่ได้กินอ่ะป้า เจ้าสตีเว่นเขาหวังดีกับแม่อีกแล้ว ช่วยรดน้ำให้วันละ2-3รอบ (ทำตอนแม่เผลอ) รดน้ำจนจะเป็นแอ่งเลี้ยงปลา เมล็ดพันธุ์ที่หว่านมันก็พากันไหลไปกองรวมกันที่ไหนซักแห่ง ได้เรื่องยังไงจะเล่าบอกอีกที   โดย: ตุ๊กตาจ้ะ (เกลือหนึ่งกำน้อย ) 1 มิถุนายน 2553 14:55:33 น.

อ๊ายยยยยยยยย หนังโป๊ญี่ปุ่น หนูช๊อบ ชอบ อยากดู เอ่ย ไม่ใช่ ไม่เคยได้ดูสักครั้งเลย ตอนพลอยู่มอสอง จำได้แม่นเลยว่าเพื่อนคนนึงเอาหนังสือโป๊ แต่เป็นโป๊ฉบับการ์ตูนนะป้า การ์ตูนญี่ปุ่นนี่แหละ เพื่อนในกลุ่มก็จะเวียนกันเอาไปอ่าน พอถึงคิวพล แหม ซุกไว้ในกระเป๋าอย่างดี พอมาแอบค้นตอนไหนไม่รู้ มีการมาขู่พลว่าจะบอกแม่ ชิส์ กลัวแทบแย่ ก็ไม่รู้จะมาขู่ให้กลัวทำไม ตอนนั้นแค่สิบสี่เองอะน้อ กังวลมากมาย แต่สุดท้าย ก็ไม่มีไรเกิดขึ้น วัยรุ่นอะ ความอยากรู้อยากเห็นเป็นเรื่องธรรมชาติ ยิ่งไปห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ทุกยุคทุกสมัยมันก็คงเหมือน ๆ กันทั้งนั้นแหละ อยากรู้อยากเห็นเนี่ย แต่มาสมัยนี้ เ่อ่อ พูดไม่ออกบอกไม่ถูกกันเลยทีเดียว เด็กมันแร๊งงงงงงงงงงงงงงงงง สมัยพลว่ามีเพื่อนแรง ๆ แล้วนะ ตอนนี้วัยกลาง ๆ คนอย่างเรา ๆ เห็นแล้วได้แต่เอามือทาบอก แล้วอุทานว่า คุณพระ จริงปะป้า พลชอบนะวิธีการของญี่ปุ่นเนี่ย ทั้งเรื่องการสอนตรง ๆ แล้วก็ปลูกฝังให้เด็กมีกิจกรรมนอกบ้านทำเสมอ ๆ ไม่ต้องมัวหมกมุ่นอยู่แต่ในบ้าน บ้านป้าอะ เจ้าคนโตมีไรขำ ๆ เรื่องวันที่กำลังเปลี่ยนกันบ้างหรือเปล่าอะ ป้ามีวิธีการคุยกะลูกชายยังไงอะ หรือให้พ่อลูกเค้าคุยกันเอง นึกแล้วคงจะสนุก เคยดูหนังที่พ่ออยากคุยอยากสอนลูกเรื่องนี้อะน้อ แต่พวกลูก ๆ ส่วนมากจะอายพ่อแม่นะพลว่า เออ ๆ นึกถึงหนังเรื่อง อเมริกัน พาย ขึ้นมาตะหงิด ๆ เลยป้า ป้ารู้จักหรือเปล่า แหง ๆ ละน่าจะรู้จัก อย่างฮาอะป้า พลตามดูจนครบทั้งสามภาคเลย ส่วนบ้านเรา ก็ปากว่าตาขยิบ หรือจะเป็น มือถือสาก ปากถือศีล กันต่อไปปปปปปปป   โดย: พล (aoigata ) 1 มิถุนายน 2553 15:44:06 น.

ป้าโซขา...หนูก็เป็นอีกคนที่โดนเพื่อน ๆ กลั่นแกล้งเพราะแต่งงานกับหนุ่มญี่ปุ่นนี่แหละค่ะ...มันจะมีประเภทดูหนังเอวีญี่ปุ่นสไตล์ฮาร์ทคอร์แล้วเชื่ออย่างจริงจังว่าผู้ชายญี่ปุ่นเป็นประเภทกดขี่ทางเพศ มีเซ็กวิปริต มาล้อมาแซวกันอยู่นั่น...หนูเลยบอกไปว่าไปว่าเค้าแบบนั้นไม่ได้นะ ต้องยอมรับด้วยว่าผู้ชายไทยที่วิปริตก็มีเหมารวมเค้าทั้งประเทศไม่ได้หรอก... การศึกษาของเราสอนนะคะเรื่องเพศเนี่ยแต่ในครอบครัวไม่ค่อยมีมานั่งมาบอกกันหรอกค่ะเพราะมันเป็นเรื่องที่ถือว่า"ไม่สมควร"เอามาพูดกันยิ่งลูกเราเป็นผู้หญิง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่...ต้องสอนค่ะ ไม่ใช่สอนแค่เรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ การป้องกันโรค แต่หนูว่าควรสอนเรื่องการเลือกคนที่จะมาแต่งงานมีครอบครัวในอนาคตด้วย ความพร้อม อาชีพการงาน ฐานะครอบครัว การศึกษา ทัศนคติ มันมีส่วนหมด หนูนะสอนน้องสาวเสมอว่าอย่าเลือกแต่งงานเพราะหัวใจอย่างเดียวเลือกคู่ต้องใช้สมองด้วยเพราะคนมากมายที่บอกว่า หนูรักเค้าเพราะ...หนูรักเค้านี่ ไอ้เด็กพวกนี้บางทีมันไม่สนใจหรอกค่ะว่าผัวใครเมียใคร พ่อใคร มีลูกมีเมียแล้วก้เอาเพราะรัก...เฮ้อ..แบบนี้ความรู้เรื่องเพศมันมี ความรู้การศึกษาดี หน้าที่การงานดี แต่ศีลธรรมเสื่อมค่ะ....ต้องสอนเรื่องพวกนี้เพิ่มด้วยนะคะเรื่องพวกนี้ป้าโซว่ามั๊ยคะ   โดย: ไก่ย่างถูกเผามันจะถูกไม้เสียบ 1 มิถุนายน 2553 21:37:17 น.

ตอบเรื่องผักก่อนเนาะป้าเนาะ "คะน้า"นี่ปีก่อนๆเพื่อนคนไทยที่เมืองตุ๊กตาอยู่เขาพากันปลูกหลายคนเลยจ้ะ ขึ้นงามมากจนกินไม่ทัน ต้องล็อกคอแจก ตุ๊กตาก็ได้รับแจกกะเขาเหมือนกัน ปีนี้เพื่อนเขาเอาเมล็ดมาให้ปลูก ก็เลยเอาซะหน่อย หยั่งเชิงพวกหอยทากดูด้วยอ่ะจ่ะป้าโซ ว่าจะเสร็จพวกมันอ๊ะเปล่า? เพราะปีที่ผ่านๆมาจับมันถ่วงน้ำเกลือเกือบหมดสวนแล้ว "ผักชี"เคยปลูกในกระถางก็งามดีอยู่จ้ะ แต่ปีนี้เลยทดลองปลูกลงดินดูบ้างน่ะป้า ผักบุ้งนี่สิน่าลองที่สุดเพราะเพื่อนๆบ่นว่ามันไม่ขึ้นให้เลย ตุ๊กตามีเมล็ดผักบุ้งอยู่ถุงนึงแต่ดันหาไม่เจอซะนี่ ไม่รู้ไปซุกไว้ที่ไหน รึว่าเจ้าสตีเว่นมันจิ๊กเอาไปหว่านเล่นตรงหม่องไหนแล้วก็ไม่รู้ เรื่องงาน ตอนนี้ตุ๊กตาทำงานประจำแค่นิดหน่อยเองจ้ะป้าโซ คือขายของที่ร้านอาหารเอเชียสัปดาห์ละ 13-17 ชม.เอง แล้วก็มีรับจ๊อบนังแจ๋วสัปดาห์ละ 5-6 ชม. อันนี้เป็นเงินดำจ้ะ ซึ่งก็คงทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้น่ะป้า รอให้เจ้าตัวแสบโตกว่านี้หน่อยก่อน แค่นี้พ่อเจ้าสตีเว่นก็บ่นกะปอดกะแปดเล้ยป้าโซเอ๋ย พูดถึงพี่ลูกหมู..นั่นสิป้า ป่านนี้แม่ของพี่ลูกหมูเป็นไงบ้างน้อ? คิดถึงแกเนาะ ไม่ส่งข่าวเลย   โดย: ตุ๊กตามารอบสองจ้ะ (เกลือหนึ่งกำน้อย ) 2 มิถุนายน 2553 1:34:19 น.

เห็นด้วยกับการส่งเสริมให้เด็กๆ ทำกิจกรรม งานอดิเรก กีฬา ที่พวกเขาถนัดค่ะ เพราะในวัยนี้ควรสนใจและพัฒนาทักษะเหล่านี้ ป้าโซกับครอบครัวสบายดีนะค๊า เมื่อไหร่จะกลับมาเที่ยวไทยคะ   โดย: COCOSWEET 2 มิถุนายน 2553 14:11:15 น.

หวัดดีจ้าป้าโซ อูยยยยย ชอบบล็อกนี้ของป้ามากเลย ปรกติป้าเดซี่จะชอบคุยเรื่องพรรค์นี้แหละ อ่ะอ่ะ เรื่องพรรค์นี้หมายถึง เืรื่องพฤติกรรมของมนุษย์ที่มีสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมนั้น ๆ อ่ะนะ อย่าคิดลึก เรื่องแบบนี้น่ะ มันเกี่ยวกับการยอมรับของสังคม ของคนในสังคม จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ เรื่องเพศเป็นเรื่องต้องห้าม เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะหยิกยกมาพูดถึงเลยซะด้วยซ้ำ สมัยนี้ อย่าว่าแต่อะไรเลย บล็อกแก็งค์นี่แหละ ยังเห็นมีบล็อกเกอร์บางรายเอาเรื่องบนเตียงมาเล่าในบล็อกหน้าตาเฉย มันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมทุกวันนี้ ยังสงสัย เพราะฉะนั้น ไม่ต้องไปมองว่าเด็กมีปัญหาหรอก สมัยเด็ก ๆ ที่บ้านรับนสพ.เดลินิวส์ทุกวัน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น และคงเป็นเพราะฮอร์โมนด้วย กร๊ากกกส์ ก็มักจะแอบอ่านคอลัมน์หมอนพพรทุกวัน ต้องแอบอ่านนะ ให้ใครรู้ไม่ได้ อายเค้า ซึ่งจริง ๆ แล้วการอ่านเนี่ยมันก็ได้ประโยชน์กับตัวเอง เพราะคุณหมอแกขยันเอาจดหมายจากสาว ๆ ซึ่งชอบมาปรึกษาเรื่องไม่บริสุทธิ์ ประเภท....คุณหมอนพพรขา หนูเคยมีอะไรกับแฟนเก่าสี่ห้าครั้ง ตอนนี้กำลังจะแต่งงานกับแฟนใหม่ เค้าจะรู้มั้ยคะว่า หนูเคยเสียตัวมาแล้ว แฟนใหม่หนูเค้ารับไม่ได้แน่ ๆ คุณหมอก็จะบอกว่า รู้แน่นอนจ้า ทว่า...ถ้ารักกันจริง ก็ต้องยอมรับตรงนี้ได้ ตอนนั้นเราเด็ก ๆ ก็ฝังหัวมาเลยว่า อย่าเสียตัวก่อนแต่งเด็ดขาด ไม่งั้นจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ ผู้ชายมันก็คงไม่คิดอะไรมากหรอก เรื่องได้-เสียเนี่ย ตั้งแต่สมัยไหน ๆ ถ้ามันมีโอกาสทำประตูได้ มันก็คงทำ ตกหนักก็ที่ผู้หญิง (สมัยเรา) ทว่า สมัยนี้เค้าไม่ซีเรียสอะไรกับตรงนี้แล้วมั้ง ส่วนเรื่องที่ป้าโซพูดเอาไว้รั้งท้าย หนิป้า....ป้าเดซี่เคยคุยกับน้องผู้ชายเรื่องหนัง AV ของญี่ปุ่นเหมือนกัน มันว่าสมัยนี้น่ะ เค้าไม่ดูกันแล้วแบบกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันธรรมด้า ธรรมดาน่ะ เดี๋ยวนี้มีขนาดมานั่งกินอุนจิ กินกิ้งกือ กินหนอนให้ดูกัน โอยย.....เป็นที่ฮือฮา ชื่นชอบ ไอ้น้องผู้ชายคนนี้มันยังบอกเลยนะ ให้เป็นแฟนกับผู้หญิงคนนี้ (ที่มานั่งกินอึเนี่ย) มันเอานะ ผู้หญิงอะไรไม่รู้ บ้าดี กร๊ากกกส์   โดย: Oops! a daisy 2 มิถุนายน 2553 16:23:09 น.

เผลอแป๊บเดียวบล็อกป้าโซไปไกลจนก้อยตามไม่ทันแล้วอ่ะจ้า   โดย: Goizd 2 มิถุนายน 2553 19:03:38 น.

หนังเรทเอ๊กซ์ของเมืองไทยยังทำไม่ดี อุ อุ แต่เมืองไทยมีแผ่นผีจากนอกขายเกลื่อน โดยเฉพาะแถบชายแดน นิตยสารชนิดเรทอาร์เมืองไทย วางบนแผงก็มีเยอะนะครับ แต่ผมยังไม่เคยซื้อ อ่านที่ป้าโซเขียน ขอบอกว่ายอมรับและสนใจความทันเหตุการณ์ของโรงเรียนและธรรมเนียมญี่ปุ่น เมืองไทยไม่รู้ว่าเขาเชิญผู้ปกครองไปที่โรงเรียนกันบ่อยไหม? ไม่ทราบเลยจริงๆ พวกเน็ตออนไลน์ในเมืองไทย คงจะก้าวล้ำหน้าผู้ปกครองนะผมว่า ผมถามจากน้องสาวน้องเขย เขาไม่ค่อยได้เปิดเน็ต เพราะเหนื่อยกับงาน แต่เธอบอกว่า ลูกสาวลูกชายเล่นเน็ตทุกคืน ลูกที่ว่าคือหลานแท้ๆของผมเอง   โดย: yyswim 2 มิถุนายน 2553 20:08:31 น.

just drop to say hi paa so from thailand ka. tuk   โดย: tuk IP: 124.157.152.29 3 มิถุนายน 2553 12:41:58 น.

หวัดดีครับคุณน้องป้าโซ เอาเรื่องยากๆมาพูดกันนะเนี่ย เพศศึกษาเนี่ยควรจะเป็นหน้าที่ครูกับหมอละมั้ง ผมไม่เห็นใครสอนเก่งเท่าคุณหมอนพพร สังคมเรามันหน้าบางในที่แจ้ง แต่หน้าหนาในที่ลับ เด็กๆเลยไม่รู้จะหาความรู้ที่ถูกที่ควรจากไหน ในที่ลับก็มีแต่สื่อโป๊ลามก กระตุ้นราคะอย่างเดียว ปัญหายากๆจึงตามมาแยะ ไล่ตามแก้ไม่ทัน สงสัยต้องสังคายนาใหญ่เรื่องนี้ ให้เป็นวาระแห่งชาติคู่กับการเจรจาสมานฉันท์ปรองดอง...ท่าจะดีเนาะป้าโซ   โดย: Dingtech 3 มิถุนายน 2553 23:27:11 น.

คนไทยบางคนได้รับความเชื่อเรื่องเพศของคนญี่ปุ่นมาแบบผิดๆ เยอะเลย โดยเฉพาะเพื่อนหนู เวลากลับเมืองไทยเพื่อนชอบแซวเรื่องเพศ ประมาณว่าคนญี่ปุ่นเนี่ย บ้าเซ็กซ์ เซ็กซ์จัด โถๆๆๆๆแม่คุ๊น ปั๋วเดี๊ยน บ้าเหมือนกันค่ะ แต่ว่าบ้าทำงาน   โดย: คนไกลหัวใจเป็นไทย 4 มิถุนายน 2553 17:24:33 น.

อูยยย อ่านดูแต่ละเม้นท์ยาว ๆ ทั้งนั้นเลย ของอ้อเอาสั้น ๆ ว่า สิบปากว่า ไม่เท่ามือคลำ ค่ะ ของแบบนี้ 5555 (เกี่ยวเปล่าคะป้าโซ)   โดย: thainurse@norway 5 มิถุนายน 2553 4:25:58 น.

สวัสดีค่ะคุณป้าโซ เห็นจั่วหัวเรื่องนี้เลยสนใจ ที่สนใจเพราะบางครั้ง การให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาแก่เด็กที่กำลังจะเข้าสู่วัยรุ่นเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ที่เจอเข้ากับตัวเอง ก็เพราะว่าพี่ชายของแฟน เค้ามีลูกชายคน ลูกสาวคน ซึ่งกำลังจะเข้าวัยรุ่น อย่างลูกชายที่จะย่างเข้าสิบสี่สิบห้า เห็นแม่ของแฟนโทรมาเล่าแบบขำๆว่า เนี่ย เอริคกำลังคิดว่าจะสอนให้ลูกชายเรื่องเพศศึกษายังไงดี ประมาณเริ่มต้นไม่ถูก เพราะจะคุยกันแบบพ่อ ลูก สองคน อีกเหตุผลนึงเพราะเอริคน้อย เค้าสงสัยว่าเค้าเกิดมาได้ยังไง แต่จริงๆจะไปโทษเด็กไม่ได้เลยนะคะ ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะอธิบายให้เด็กฟังยังไง ในอนาคตถ้าเกิดเค้ามีปัญหาขึ้นมา เค้าควรจะหาวิธิแก้ไขแบบไหน ขอบคุณคุณป้าโซที่เขียนมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับสังคมวัยรุ่นญี่ปุ่น ให้ฟังในแบบที่แตกต่างจากสังคมเมืองไทย   โดย: aArMel 5 มิถุนายน 2553 21:40:14 น.

แวะมาอีกรอบ กิกิ ขอบคุณคุณป้าโซที่แวะไปทักทาย อืมมม ไม่รู้ว่าคุณพ่อเค้าอธิบายให้คุณลูกยังไงเหมือนกันค่ะ เพราะไม่เห็นมีใครเอามาคุยอีกเลย เพราะตอนที่เอริคน้อยเค้าถามพ่อเค้า เอริค เอามาปรับทุกข์กับคนเป็นแม่ แต่ก็น่าเห็นใจเนอะ   โดย: aArMel 6 มิถุนายน 2553 0:02:07 น.