เมาแล้วขับ.
ป้าโซเข้าใจว่า ไม่ว่าที่ไหน เรื่องกฏระเบียบของการขับรถหลังการดื่ม คงจะเข้มงวดกันพอสมควร ยกเว้นบ้านเรา ฮี่ๆๆ ที่นี่ก็เช่นกันค่ะ การดื่มแล้วขับรถ จะเป็นเรื่องต้องห้าม มีกำหนดไว้ชัดเจนถึงระดับอัลกอฮอล์ว่าเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งคนส่วนมากก็จะปฏิบัติตามกัน นอกจากบทลงโทษที่รุนแรงแล้ว ป้าโซว่าขึ้นกับสามัญสำนึกของคนด้วยแหละค่ะ
คนที่ไม่ทำตามกฏที่ว่า นี่ก็มี และคนเหล่านี้ก็ได้ทำความเสียหาย.. สูญเสียให้กับสังคมไม่ใช่น้อย ทั้งความสูญเสียทางทรัพย์สินและทางจิตใจ ..
เมื่อปีที่แล้ว มีข่าวน่าสะเทือนใจอยู่ข่าวหนึ่ง พ่อแม่กับลูกเล็กๆสามคน อายุไล่เลี่ยกัน คนโตน่าจะสักประมาณสี่ห้าขวบ คนเล็กรู้สึกจะสองขวบมังคะ เป็นลูกชายทั้งหมด ครอบครัวนี้พากันขับรถไปเที่ยวเพื่อเก็บตัวด้วงที่นิยมเลี้ยงกัน เจ้าตัวด้วงพวกนี้ถ้าออกไปนอกเมืองหน่อย แถบที่มีต้นไม้เยอะๆ ก็จะหาได้ง่าย ระหว่างที่ครอบครัวนี้ขับรถอยู่บนสะพาน ก็มีรถอีกคันหนึ่งวิ่งชนท้ายจนรถของครอบครัวนี้เสียหลัก ไปชนราวสะพานหักตกลงไปในน้ำ (จำไม่ได้ว่าเป็นทะเลหรือแม่น้ำ) เมื่อรถตกลงไปในน้ำ พ่อกับแม่หาทางออกมาจากรถได้ แล้วก็ดำลงไปเพื่อช่วยลูกเล็กๆของตัว แต่..น่าเสียดายที่ไม่ว่าจะกลั้นใจดำน้ำลงไปกี่ครั้งๆ ก็ไม่สามารถช่วยลูกออกมาได้ จะด้วยสาเหตุที่ตัวเองก็เจ็บ หรือน้ำนั่นลึกมากจนกลั้นใจลงไปไม่ถึงหรือจะอะไรก็ตาม สุดท้าย..เด็กทั้งสามเสียชีวิตหมดทุกคน..
ด้วย ความรู้สึกของคนที่เป็นแม่ ป้าโซดูข่าวนี้อย่างสะเทือนใจมาก ใจของพ่อแม่คู่นั้นคงแทบสลายตามลูกๆไป คิดดูสิคะ กำลังน่ารักทั้งสามคน ไปพร้อมๆกันทั้งหมด โอย.. โหดร้ายจริงๆ.. เขาเอาวิดิโอที่ถ่ายทำเด็กๆตอนงานโรงเรียน ภาพถ่ายที่แม่ลูกถ่ายด้วยกันอย่างยิ้มแย้มมีความสุข เฮ้อออ..
ตัว ต้นเหตุที่ขับรถชนท้าย เป็นชายอายุอานามไม่มากนัก ยี่สิบกว่าๆ และแน่นอน... ดื่มเหล้าเมามาค่ะ แต่ไม่ว่าจะด้วยความเมาหรือไม่เมาก็ตาม เมื่อมีอัลกอฮอล์เข้าไปอยู่ในตัวแล้วก็ทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลงได้ ..
คนสูญเสีย นอกจากผู้เคราะห์ร้ายครอบครัวนั้น แล้วเจ้าตัวคนก่อเหตุก็ยังต้องสูญเสียอนาคตตัวเองอีก นอกจากนี้ใครจะรู้ว่าความสำนึกผิดในใจเขา อีกนานเท่าไรจะจางหายไป เขาจะต้องอยู่กับความสำนึกผิดนี้ไปตลอดชีวิตหรือไม่ นี่คือผลจากการไร้ความยั้งคิดเพียงชั่ววูบแท้ๆ
บทลงโทษของที่นี่ รุนแรงมากค่ะสำหรับการดื่มแล้วขับรถ..
กฏหมาย ใหม่เพิ่งจะเพิ่มบทลงโทษมาจากปรับห้าแสนเยนหรือจำคุกสามปี เป็นปรับหนึ่งล้านเยนหรือจำคุก.เอ.. เท่าไหร่จำไม่ได้แต่มากกว่าสามปีแน่นอนค่ะ ที่เจ๋งกว่าก็คือ ผู้ที่นั่งไปด้วยกับคนขับก็ต้องรับโทษด้วยเช่นกันนะคะ ฐานที่สมรู้ร่วมกระทำความผิด.. ฮ่าๆๆ สะใจ..
ถามว่าถ้างั้นการดื่มเหล้าที่นี่ จะเดินทางกันอย่างไรหลังการดื่ม?
ปกติ เมื่อรู้ตัวว่าจะต้องดื่มเหล้า วันนั้นเจ้าตัวจะไม่ขับรถเองค่ะ จะขี่จักรยาน ขึ้นรถไฟ หรือไปด้วยแท็กซี่ก็ว่าไป.. ส่วนมากที่เห็น จะมีอยู่คนหนึ่งในกลุ่มที่จะไม่ดื่มเหล้า จะได้เอาไว้ขับส่งพวกดื่มๆทั้งหลายกลับบ้านกัน (ซึ่งนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่กลับบ้านคราวนี้ ป้าโซต้องไปทำใบขับขี่นานาชาติ ) หรือไม่ก็ไปหย่อนตามสถานีรถไฟ และรถไฟที่นี่จะมีถึงแค่เที่ยงคืน หลังจากนี้ก็ต้องพึ่งแท็กซี่ซึ่งแพงเอาการ แทบหายเมาเลยแหละค่ะ
มี อีกทางเลือกที่บ้านเราไม่มี ป้าโซเองก็เพิ่งเคยเห็นว่าเขามีบริการอย่างนี้ด้วย นั่นคือในกรณีที่เราขับรถไปแล้วดื่ม ขากลับจะโทร.เรียกบริษัทรถแท็กซี่ซึ่งมีบริการคนขับให้มาช่วยขับรถเรากลับ บ้าน ตอนมาเขาก็จะนั่งมากันสองคน แล้วคนหนึ่งจะเป็นคนขับรถเราให้เรานั่งกลับบ้าน อีกคนจะขับรถตามไปเพื่อรับเพื่อนกลับด้วยกัน สนนราคาก็คิดเป็นกิโลเมตร ความแพงก็ขึ้นกับย่านที่อยู่อาศัยแถวนั้นด้วยแหละค่ะว่าค่าครองชีพถูกแพง เพียงไร แต่ไม่แพงกว่ากันมากนัก อันนี้ป้าโซดูในทีวีแล้วขำมาก เพราะลูกค้าบางคน ขี้นรถตัวเองแล้วก็สบายอกสบายใจหลังจากกรึ่มมาพอควร ชวนคนขับคุย รู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง ยังดีที่บอกที่อยู่ที่บ้านได้ตอนโทร.เรียกรถมา ระบบเส้นทางที่นี่ก็ติดตั้งจีพีเอส ไม่ว่าอยู่ตามซอกซอยแค่ไหนก็ไปถึงค่ะ ขอให้จำที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ได้ก็แล้วกัน..
บท ลงโทษที่รุนแรง นอกจากเป็นตัวเงินหรือการจำคุกแล้ว สิ่งที่จะมีผลกระทบมากับตัวคนขับก็คือการดำเนินชีวิตต่อไปของเขาค่ะ เพราะการได้ใบขับขี่ของที่นี่ ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ ต้องเสียเงินทองมากมายกว่าจะได้มา ไม่มีการซื้อแบบบ้านเรา เมื่อถูกจับเพราะดื่มแล้วขับ นอกจากต้องจ่ายค่าปรับแล้วยังต้องถูกริบใบอนุญาตขับรถอีก มีกำหนดเงื่อนไขเป็นเวลาว่าเมื่อไหร่ถึงจะทำใหม่ได้ และกว่าจะได้มาก็แสนสาหัสพอควร เมื่อถูกริบใบขับขี่นั้น บางคนที่ต้องใช้เพื่อการขับรถในการทำงานก็ต้องเดือดร้อน นั่นคือเขาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่การงานได้ เพราะขับรถไม่ได้ ซึ่งแน่นอน บริษัทที่จ้างงานก็ต้องพิจารณาดูย้อนไปว่า ทำไม..คนๆนี้ถึงรับผิดชอบไม่ได้กับชีวิตเขา แล้วเขาจะมารับผิดชอบหน้าที่การงานได้อย่างไร ก็หัวร้อนไป..
บ้าน เรา.. บทลงโทษจะมีความศักดิ์สิทธิ์ ก็ต่อเมื่อไม่มีระบบสินบนกันนั่นแหละค่ะ ตราบใดที่เรายังจัดการกับระบบสินบนไม่ได้ กฏใดๆก็มีข้อยกเว้นได้เสมอ..
| Create Date : 21 พฤศจิกายน 2551 |
| Last Update : 21 พฤศจิกายน 2551 1:19:14 น. |
|
4 comments
|
| Counter : 1113 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [
ดีที่ขับไม่เร็วมาก...ไม่งั้น...ได้เลือด ^^
อยากให้ กม มีการนำมาใช้จริงๆจังๆ เหมือนกันครับ ไม่แค่ ยื่น 100 แล้วปล่อยผ่าน ^^