เปิดบ้านป้าโซในญี่ปุ่น ... ตอน ห้องตะตะมิ
บล็อกนี้เขยิบความสนิทเข้ามาอีกนึิดนึง เชิญเข้ามาเยี่ยมชมข้างในบ้านกันบ้าง .. บ้านที่ญี่ปุ่นกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์จะต้องมีห้องๆนึงที่ปูด้วยเสื่อตะตะมิ ซึ่งทำมาจากหญ้าขนาดยาวประมาณเกือบสองเมตรและความกว้างจะเป็นครึ่งหนึ่งของความยาวพอดี ส่วนความหนาประมาณ 5 เซ็นต์กว่าๆ .. ส่วนมากจะเป็นบ้านหลังๆที่มีห้องปูด้วยตะตะมิ แต่ถ้าเป็นพวกตึำกๆอย่างอพาร์ทเม้นท์แมนชั่นที่มีพื้นที่ใ้ช้สอยประหยัดก็อาจจะไม่มี ตะตะมินับว่าเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมสืบทอดต่อๆมาของญี่ปุ่น จนนำมากำหนดเป็นเนื้อที่ของบ้านหรือแมนชั่นที่ให้เช่ากันเลยว่าบ้านนั้นๆมีเนื้อที่กี่ตะตะมิ และการสร้างห้องก็จะสร้างตามขนาดตะตะมิที่สามารถนำไปวางได้เป๊ะๆ
ตะตะมิที่บ้านขนาด 6 เสื่อ กรุณาอย่าดูความเก๋าของการใช้งาน ช่วงกลางๆนั่นเป็นที่ทางของปู่เพราะปู่ึยึดห้องนี้ไว้เป็นห้องส่วนตัว ดูทีวี พักผ่อน นอนกลางวันกลางคืน อยู่แต่ในห้องนี้ซะส่วนมาก ตะตะมิสามารถถอดเปลี่ยนใหม่ได้เป็นเสื่อๆค่ะ
สิ่งที่นับว่าคู่กับห้องตะตะมิอีกอย่างก็คือประตูบานเลื่อนที่ทำกรอบเป็นไม้และกรุด้วยกระดาษสีขาวขุ่น ซึ่งเจ้ากระดาษนี่มักจะขาดอยู่เสมอตามความระวังในการใช้งานโดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก จะขาดเป็นประจำไม่เอานิ้วจิ้มแรงๆเพราะหยิบขอบประตูพลาด ก็ไอ้พวกของเล่นนี่แหละที่จะไปโดนมันขาด จึงต้องเปลี่ยนกระดาษอยู่เรื่อยแ้ล้วแต่ความขยันและความต้องการเรื่องสวยงามเป็นระเบียบ แต่ระยะหลังๆนี่มีแบบพลาสติกที่ทำลายเลียนแบบกระดาษออกมาขาย จึงช่วยยืดระยะการใช้งานไปได้นานกว่าเดิม
วิธีการเปลี่ยนกระดาษก็คือต้องถอดบานประูตูออกไปข้างนอกแล้วเอาน้ำราดเพื่อให้กาวหลุดและลอกกระดาษเก่าออกมา รอจนไม้แห้งแล้วค่อยทากาวแปะกระดาษแผ่นใหม่เข้าไป เป็นการแปะเพียงครั้งเดียวเพราะกระดาษแผ่นใหญ่เท่ากรอบประตู ไม่ใช่ัต้องตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตามกรอบ.. พอจะนึกภาพกันออกนิ? แต่ปัจจุบันสามารถใ้ช้เทปกาวสองหน้าแทนเลยไม่ต้องราดน้ำกัน
ประตูบานเลื่อนที่ทำด้วยกระดาษ(ปลอมๆ)นี้ ถ้าเป็นประตูข้างในบ้านก็ติดตั้งกันซื่อๆอย่างนั้น แต่ที่บ้านทำบานประตูนี่ติดกับหน้าต่างนอกบ้านอีกที เรียกว่าเป็นประตูประดับนั่นแหละ ซึ่งต้องมีประตูกระจกจริงๆปิดข้างนอกอีกทีมิฉะนั้นเจ้าบานกระดาษนี่ไม่สามารถสกัดความเย็นได้ในหน้าหนาว
ในห้องตะตะมินี่จะจัดว่าเป็นห้องรับแขกด้วยก็ได้ สมัยก่อนเค้าจะต้อนรับแขกด้วยการชงชาเขียวให้แขกดื่ม เป็นชาเขียวจริงๆตามพิธีการที่เป็นผงชาเขียวผสมกัยน้ำร้อนเอาไม้คนที่ทำเป็นเหมือนแปรงคนๆๆชาจนเข้ากันดีเป็นฟอง หมุนถ้วยสามครั้งแล้วหันด้านที่มีลายสวยงามวางให้แขก ซึ่งเมื่อแขกรับมาแล้วก็ต้องหมุนถ้วยนั่นเอาลายเข้าหาตัวเหลือบดูความสวยงามของลายถ้วยซะก่อนจะดื่ม (ดีหน่อยที่ยังไม่ต้องถึงกับกำหนดลมหายใจเข้าออกระหว่างพิธีการ อิอิ.. )
สมัยนี้ถึงจะรับแขกในห้องตะตะมิแต่ก็นิยมเสิร์ฟชาเขียวธรรมดากันเพื่อความสะดวก จะว่าไปซะโดหรือชาเขียวแบบพิธีการที่ชงด้วยมัทชะเนี่ย จะค่อนข้างดื่มยากกว่้าชาเขียวธรรมดาทั่วไปเพราะจะออกรสเข้มข้นและออกขมเล็กน้อย เด็กๆมักไม่ชอบดื่มกัน ดังนั้นซะโดจึงมักจะเสิร์ฟคู่กับขนมญี่ปุ่นที่มีรสออกหวานเพื่อกลบความขม
ว่าไปเรื่อยลงลึกถึงเรื่องชาเขียวได้ไง นี่มันบล็อกตะตะมิ
สำหรับห้องตะตะมิในบ้านป้าโซนั้น จะตั้งหิ้งบูชาพระญี่ปุ่นและเพื่อไม่ให้เป็นการน้อยหน้า ป้าโซก็หอบโต๊ะหมู่บูชาพระไทยมาจากบ้านด้วย ถึงแม้จะไม่ได้กราบไหว้ประจำแต่ก็เป็นสิ่งยึดมั่นในใจ
ขอขยายเรื่องหิ้งบูชาของญี่ปุ่นนิ้ดดดส์ส์ส์..
ตามบ้านเกือบทุกบ้านเวลาสร้างบ้านจะต้องมีพื้นที่เผื่อไว้สำหรับสร้างหิ้งบูชาที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "บุทสึดัง" แต่ใช่ว่าพอสร้างบ้านปุ๊บแล้วติดตั้งบุทสึดังปั๊บ ถ้าบ้านนั้นยังไม่มีใครถึงแก่กรรมก็จะยังไม่ซื้อมาติดตั้ง ต้องมีสมาชิกในบ้านสิ้นบุญไปก่อนแล้วถึงจะซื้อบุทสึดังมาติดตั้งเป็นเรื่องเป็นราว กั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน อันว่าสนนราคาของบุทสึดังนั้นก็ขึ้นกับคุณภาพของไม้ที่ทำ ถ้าคุณภาพปานกลางราคาก็ประมาณ 200,000 เยน (เอา 3 หารคร่าวๆเป็นเงินไทย) ของที่บ้านนี่เปลี่ยนเลขตัวแรกเป็นเลข 5 .. เอื๊อกกกก!! ปู่และลูกชายเค้าััจัดการให้ย่าที่สิ้นไปเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว
เอ่อ.. อย่าไปดูที่ดอกไม้โรยๆนะฮ้าาา.. ยังไม่ได้เปลี่ยนดอกไม้เพราะคนดูแลเรื่องหิ้งพระทั้งสองนี่คือผู้เฒ่าของบ้าน ท่่านยังไม่ได้ฤกษ์ออกไปซื้อดอกไม้
รูปที่บล็อกนี้ดูแล้วอย่างงเน้อ ที่อะไรๆมันวางไม่เหมือนเดิมเพราะถ่ายมาคนละช่วงเวลา เดี๋ยวมีดอกไม้ เดี๋ยวไม่มีดอกไม้ เดี๋ยวมีหมอนขวาน เดี๋ยวไม่มีหมอนขวาน .. อันว่าหมอนขวานสามเหลี่ยมของไทยเรานั้นปัจจุบันห้ามนำเข้ามาแล้วค่ะ คงเพราะต้องการกันยัดไส้พวกยาเสพติดกระมัง
มุมไทย.. ทีวีของปู่ที่ติดรูปมายังเป็นทีวีเก่าอยู่เลย นี่แหละ ที่นั่งๆนอนๆของปู่เค้า
ห้องนี้ปู่ยึดค่ะ ตอนกลางคืนก็เอาที่หลับที่นอนจากตู้ข้างๆหิ้งบูชามาปูนอน เช้าก็เก็บให้ห้องมีพื้นที่โล่งๆ
ลากันด้วยภาพมุมไทยอีกภาพค่ะ.. เจอกันใหม่บล็อกหน้า ขอบคุณที่ติดตามจ้ะ สวัสดี..
Create Date : 31 มกราคม 2555 |
Last Update : 31 มกราคม 2555 16:30:24 น. |
|
31 comments
|
Counter : 6219 Pageviews. |
|
|
|