กินๆดื่มๆ กับพวกแม่ๆญี่ปุ่น
การเข้าร่วมกิจกรรมยูโดของลูก นอกจากลูกจะได้สังคมแล้ว ยังโยงมาถึงพ่อแม่ก็มีสังคมของผู้ใหญ่อีกด้วย โดยเฉพาะแม่ๆ ยิ่งพักหลังๆนี่เล่นนัดกินและดื่มกันเดือนละครั้งเลยทีเดียวเชียวแหละ .. จะว่าเปลืองก็เปลือง แต่เป็นสังคมที่เราก้าวเท้าเข้าไปแล้ว ก็ต้องไปย่ำต๊อกกะเค้าด้วย เข้าเมืองตาหลิ่วแล้วนี่คะ..
ส่วนสังคมพ่อๆนั้น เคยนัดกันไปดื่มอยู่สองครั้ง เนื่องมาจากครูฝึกคนหนึ่งที่ไปร่วมกินดื่มด้วยนั้นยังตกงานอยู่ ก็อายุมากแล้วน่ะนะคะ งานก็หายากเป็นธรรมดา แต่ลูกเต้าครูคนนี้โตๆกันหมดแล้ว จริงๆไม่ต้องทำงานแบบจริงๆจังๆแล้วก็ได้ เพียงแค่ทำเพื่อให้ไม่ให้ชีวิตว่างเปล่าเกินไปนัก.. เพราะงั้นไอ้ครั้นจะมานัดกินดื่มสังสรรค์เฮฮากันในขณะที่เพื่อนตกงาน มันก็กระไรอยู่ พวกพ่อๆเลยซาๆกิจกรรมนี้ไป ปล่อยให้พวกแม่ๆซ่าส์ส์ส์..กันต่อปาย..
ทุกเดือนที่นัดกัน จะเวียนคนจัดการจองร้านอาหาร ติดต่อเรื่องรายการอาหาร เครื่องดื่ม เขาก็จะเวียนกันไปแต่ป้าโซเป็นกรณีพิเศษ.. ไม่ต้องเวียนทำกับเขาเพราะหาสามารถไม่ เขาเลยเว้นให้คนนึงคอยแต่โทร.มาบอกว่านัดกันวันไหนที่ร้านไหนกี่โมง
ส่วนมากก็จะนัดกันทุ่มครึ่ง ร้านที่ไปก็จะเป็นพวกร้านอาหารที่สามารถนั่งดื่มเหล้าไปได้ด้วย แต่เต็มที่พวกเราก็กินๆดื่มๆกันไม่เกินห้าทุ่ม จากนั้นก็เปลี่ยนร้านไปนั่งดื่ม ใครจะต้องทำงานวันรุ่งขึ้นก็แยกย้ายกลับบ้านไป สำหรับป้าโซรู้ล่วงหน้าว่าจะไปกินดื่มกับเขาวันไหน ก็จะลางานล่วงหน้ามันซะเลย..
เพราะงานที่ป้าโซทำ มันเป็นงานพาร์ทไทม์ ซึ่งจ่ายค่าแรงตามจำนวนชม.ที่เราไปทำงาน เพราะงั้นสามารถลาได้โดยไม่ขัดเขินว่าจะกินเงินบริษัทฟรีๆ แต่ลามากนักก็ให้ละอายแก่ใจอยู่เหมือนกัน นอกจากละอายแก่ใจแล้วก็จะท้องแฟบอีกต่างหากเนื่องจากไม่มีกิน
ไปกินมาหลายหน ส่วนมากคนที่จัดการเค้าจะสั่งแบบสะเปะสะปะ คือดูๆเมนูไว้ก่อน นึกๆไว้แล้วพอเพื่อนๆมากันครบ ก็จะสั่งมาอาหารชนิดละสองสามจานหลายๆอย่าง อาหารก็จะทะยอยมาเรื่อยๆ กินหมดก็ยกจานไปเก็บ เพราะงั้นการเก็บภาพจะอิหลักอิเหลื่อ คือเดี๋ยวถ่าย เดี๋ยวหยุด อาจรบกวนสมาธิในการกินของเพื่อนร่วมโต๊ะ มีคราวนี้ที่เค้าเซ็ตไว้เป็นเมนูของแต่ละคน ซึ่งพอจ่อมก้นนั่งกับที่ได้ คนจัดการก็แบมือขอเก็บเงินล่วงหน้าก่อนนะค้า.. เล่นเอาต่อมอยากกินชะงักไปเล็กน้อย พร้อมๆกับน้ำย่อยในกระเพาะออกมากกว่าเดิมเพราะเครียด อ๊ะ..เรื่องควักเงินออกจากกระเป๋าใครชอบมั่ง ?
สนนราคาอาหารเซ็ตนี้ 4,000 เยนค่ะ เป็นราคาที่รวมค่าเครื่องดื่มไว้แล้วซึ่งได้แก่เบียร์สด เหล้าญี่ปุ่นผสมตามเลือกที่เขามีตามเมนูให้ น้ำอัดลม และน้ำชาเย็น ผู้หญิงญี่ปุ่นนี่ถ้าเป็นคนดื่มได้ละก็ ดื่มกันดุเดือดเอาเรื่อง ป้าโซเองจัดว่าเป็นคนดื่มได้(ตามกรรมพันธุ์.. ขอโทษนะคะพ่อ แต่มันเป็นเรื่องจริง) มาเจอแม่ญี่ปุ่นบางคน โอ้..เห็นปกติเธอจะหงิมๆ เรียบร้อย พูดน้อยคำ แต่เวลาดื่มนี่ ดุเดือดเลือดพล่านเอาการ แก้วต่อแก้ว แล้วไอ้เบียร์สดน่ะมันแก้วเล็กๆซะที่ไหน..
คนที่ดื่มไม่ได้เลยนี่ก็มีนะคะ และคนที่ต้องขับรถกลับบ้านเองก็ดื่มไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็มีบางคนพกพาเบียร์ไร้อัลกอฮอล์กระป๋องมาแอบทางร้านเปิดดื่มชนแก้วกับเพื่อนก็มี ส่วนคนที่ดื่มก็เตรียมตัวแต่แรกมาเลยโดยไม่ขับรถมาเอง ให้สามีมาส่งแล้วพอขากลับก็เรียกมารับ หรือไม่ก็เรียกแท็กซี่กลับบ้าน แต่ในกรณีป้าโซนี่ลุงแกไม่ไว้ใจให้นั่งแท็กซี่กลับเอง คงกลัวไปบอกแท็กซี่ไปอีกจังหวัดนึง
ดูอาหารมื้อนี้กันค่ะ ป้าโซว่าไม่ค่อยน่ากินซักเท่าไหร่ คงเพราะวางไว้จนดูชืดแล้วก็ได้ แต่วัตถุดิบก็โอเคอยู่ ..
เริ่มต้นจวกกันด้วยเซ็ตปลาดิบค่ะ ใครเห็นหนวดของญาติเจ้าพอลมั่ง? เยอรม้นแพ้นี่ กะจะกินปลาหมึกยักษ์ให้หมดสายพันธุ์ให้จงได้ .. ให้วาซาบิมาซะก้อนเบ้อเริ่มเทิ่ม ใส่หมดมีหวังสูดจมูกตัวลอยไปถึงเพดาน .. น่าอมเก็บกลับไปบ้านนิ ไอ้เจ้าปลาดิบนี่เค้าต้องกินเคล้ากับเบียร์สด .. ถึงจะเข้ากันดี๊ดี
จากนั้นก็มีไก่ทอด .. เฮ้อ.. ของพื้นๆ ทำกินเองอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
พอคีบไก่ชิ้นที่สองเข้าปาก สายตาไปปะทะถ้วยไข่ตุ๋น อ้าว.. มันต้องกินร้อนๆหนิ เลยโซ้ยตัดหน้าชาวบ้านก่อน
ปล่อยไก่ไว้งั้นก่อน เดี๋ยวตัดกำลังกัน กินอย่างอื่นก่อน เน้นปลาๆ .. ปลาอินทรีย่างเกลือก่อนเพื่อน
ตามด้วยกุ้ง ที่มองดูเหมือนเครื่องเซ่น
ถึงตอนนี้เบียร์สดแก้วที่สองละ.. ความเร็วในการสวาปามเริ่มช้าลง แต่ความตะกละเรียกพี่..ก็มาที่ปลาต้มโชยุ
โอยยย.. กว่าจะกินปลาตัวนี้หมดเบียร์หมดแก้ว ถ้าสั่งเบียร์ต่อนี่มีหวังอาหารเหลือแหงมๆ เพราะจะอืดเบียร์ซะก่อน กินก่อนแล้วค่อยไปต่อทีหลังน่า..
เจ้าปูนี่เค้ามีไม้แคะมาให้ด้วย ด้านนึงเป็นแหลมๆซี่ๆใช้จิกเข้าไปในที่ก้ามที่ลึกๆ อีกด้านสำหรับล้วงควัก เชิญตามอัธยาศัย .. เห็นไม้แคะเนื้อปูนี่แล้วนึกถึงเกาะล้านที่เคยไปสมัยก่อน ทางร้านเค้าจะมีสากไม้อันเล็กๆ แจกมาให้ทุบก้ามปูด้วย สมัยนี้ไม่รู้ว่ายังจะมีอย่างนั้นอยู่อีกหรือเปล่า..
หยุดแล้วค่ะ กินไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เจ้าปูนี่กินไปได้ก้ามเดียว เจ้าไก่นั่นไม่แลเอาเลย แถมทางร้านยังตบท้ายด้วยโอนิกิริ .. ข้าวเปล่าที่เอาเกลือทาๆมือแล้วปั้นข้าวห่อด้วยสาหร่ายย่างหอมๆ ก้อนเท่าควายอีกคนละสองก้อน .. ถ้าจะให้กินเจ้าข้าวปั้นนี่ต้องไปล้วงคอในห้องน้ำก่อน แต่ปกติป้าโซไม่ทานข้าวตอนเย็นอยู่แล้ว เพราะงั้น.. เมินซะเหอะ เก็บใส่ห่อทีหลัง อ่อ เค้ามีไอติมมะม่วงมาให้อีกคนละคำ ป้าโซกลืนไอติมนี่ล้างปากเป็นอย่างสุดท้าย..
จากนั้นก็ตุปัดตุเป๋ออกจากร้านนี้ พากันเดินต่อไปอีกหน่อยเป็นสแน็กบาร์ของแม่ยูโดนั่นแหละ ปกติหลังจากทานข้าวกันแล้วก็จะมาต่อกันที่ร้านนี้ประจำจะว่าเป็นร้านของเราก็ได้ เป็นร้านเหล้ามีคาราโอเกะให้ร้อง คืนนั้นกว่าจะเรียกราชรถมารับก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่ง.. ถึงบ้านตัวเหม็นบุหรี่หึ่งไปหมด สูบกันจั๊งงงง.. ผู้หญิงนะนี่
สรุปว่าคืนนั้นไม่เมาค่ะ กลัวคายของเก่าเพราะสะเดิ๊บเข้าไปเยอะ
Create Date : 08 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 8 กรกฎาคม 2553 15:06:07 น. |
|
31 comments
|
Counter : 1710 Pageviews. |
|
|
|
ผมชอบ เวลาที่เราเดินเข้าไปในร้าน แล้วเขาตะโกนน่ะครับ
ไม่รู้หรอกครับ ว่าแปลว่าอะไร
แต่ดูเขาไฮเปอร์กันดีครับ
แวะมาทัก ด้วยความ คิดฮอด