ท้องถนนคนญี่ปุ่น




ชีวิตประจำวันของป้าโซก็ไม่ต่างกับคนทั่วๆไป  ตั้งนาฺฬิกาปลุกไว้ 5:45 ทุกเช้าให้มันเก๋ไก๋ไว้งั้นแหละ เพื่อที่จะเบิกตาครึ่งนึงแล้วเือื้อมมือมากดดับเสียงปลุก  จากนั้นก็นอนออกกำลังหนังตาด้วยการหยีตามาดูเวลาเป็นระยะๆ อีกซักสิบห้านาทีซึ่งบางวันก็นอนเกินเพลินฝันเข้าไปโน่น  สะดุ้งตื่นฟื้นพลิกมาได้ก็ตาลีตาเหลือกกดปุ่มตัวเองให้เป็นเครื่องจักรล่กๆๆ  ลงมาแปรงฟัน เตรียมอาหารเช้าเบาๆให้คุณคนเล็ก แล้วปั้นข้า้วติดไปอีกสองก้อนโตๆ เพราะคุณเธอต้องไปวิ่งออกกำลังกายตามกฏของชมรมทุกเช้าที่ร.ร.  กินหนักนักเดี๋ยวจุก พอวิ่งเสร็จค่อยแงะข้าวปั้นขี้มือแม่มากินอีกสองก้อนโตๆ  ที่ข้างในยัดไส้แซลม่อน ปลาคัทซึโอะ บ๊วย  คอมบุ เนื้อผัดปรุงรส .. เปลี่ยนไปเรื่อย






บางครั้งก็เป็นข้าวอบที่เหลือจากตอนเย็นเอามาปั้นๆเข้า ไม่ก็คลุกข้าวใส่เครื่องปรุงรสที่เค้ามีขายสำเร็จเช่น รสไก่ เนื้อยะกินิขุ แล้วก็ปั้นเข้า 







แล้วก็เตรียมโอะเบนโตสองที่ของพ่อกับแม่มัน 











ระหว่างนั้นก็ดูเวลาเป็นระยะๆ   6:30 ต้องวิ่งไปปลุกเจ้าตัวเล็ก..  6:50 ทุกอย่างต้่องสรุปให้เสร็จไม่ว่าจะเป็นเบนโต กระติกน้ำ  ชาร้อนๆของพ่อมัน   จากนั้นก็จัดการล้างหน้าตาแต่งตัวปากก็ร้องเร่งไอ้ตัวเล็กให้ไวๆ  .. 7:10 ขับไล่ไสส่งไอ้ตัวเล็กให้ปั่นจักรยานไปร.ร. จากนั้นถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้เป๊ะๆก็จะยังพอมีเวลาจัดการข้าวเช้าตัวเองซึ่งส่วนมากก็คือโอะชะซึเกะ .. ข้าวสวยโรยผงพวกสาหร่ายผสมโน่นนี่แล้วแต่รส เช่น รสปลาแซลม่อน รสบ๊วย .. ราดน้ำร้อนเข้าไป(จริงๆเค้าใ้ช้ชาญี่ปุ่นร้อนๆราด แต่ป้าโซไม่มีเวลาประดิดประดอย) ซดโฮกๆเป็นอันเสร็จสรรพ  วิ่งไปเก็บที่นอนไอ้ตัวเล็กที่บางวันเจ้าตัวเก็บไม่ทันแม่มันก็ตามเก็บให้   แง้มประตูบอกอิลุงที่ยังนอนแอ้งแม้งอยู่ว่าชั้นไปทำงานแล้วนะยะ  ที่หลับที่นอนอิลุงเ็ป็นคนเก็บเพราะตื่นไปทำงานทีหลัง  จากนั้นป้าโซก็เผ่นออกจากบ้านเวลาไม่เกิน 7:25 น.  เพราะถ้าเกินจากนี้จะไม่ทันไฟแดงหน้าปากซอยที่จะเปิดไฟเขียวเวลา  7:27 น.  






เกินเวลานี้ก็จะเข้าไปไม่ได้ในเส้นทางซึ่งจำกัดเวลาเข้าในช่วง 7:30-8:30 น. อันเป็นช่วงที่นักเรียนเดินไปร.ร.กันเยอะตามถนนเล็กๆสายนี้ถ้าเกินกว่านี้ก็ต้องไปอีกเส้นทางที่อ้อมกว่าหน่อย  .. ฟังดูเหมือนโรคจิตกลายๆเลยเนาะ ที่ตารางทุกอย่างต้องเป๊ะๆๆ  คงติดโรคตารางเวลาจากคนญี่ปุ่น  แม้กระทั่งเวลาไฟเีขียวแดงยังกะได้เป๊ะๆSmiley


อิป้ายเนี่ย .. ด้วยความง่อยของภาษาคันจิหะแรกป้าโซไม่รู้หรอกว่ามันเขียนว่าไร  เห็นตะรูปคนจูงมือเด็กก็เดาเอาว่าเป็นเส้นทางที่เด็กเดินไปร.ร.กันเยอะ  เห็นคันจิเขียนวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดเหมือนกัน กับเวลาก็ไม่ได้สนใจนัก คิดว่าเวลาช่วงนั้นเด็กเดินไปร.ร.กันเยอะ ขับรถระวังๆหน่อยนะยะ  แต่มีอยู่วันนึงที่ป้าโซขับเข้าไปในเส้นทางนี้ตอนเลยเจ็ดโมงครึ่งไปนิดเดียวเอง ประมาณสองสามนาทีได้  คุณลุงที่คอยยืนดูแลเด็กตรงทางข้ามรถไฟเป็นประจำทุกวันก็โบกมือให้จอดแล้วบอกว่าเวลานี้ห้ามเข้านะคร้าบบบ  คราวหน้าช่วยระมัดระวังด้วยเลยถึงบางอ้อ.. ว่าไอ้เวลาที่เค้าเขียนไว้ที่ป้ายน่ะมันคือห้ามเข้ายกเว้นวันเสาิร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ   คนเรา..มันก็ต้องมีบ้างที่โง่มาก่อนพลันปัญญาเิกิด Smiley






พอเ้ข้าเส้นทางปกติได้ก็เหยียบสะบัดถ้าไม่มีรถขับช้ามาเกะกะอยู่ข้างหน้า  วันไหนโชคไม่ช่วยรถค้นหน้าขับอืดเป็นเต่าวันนั้นก็ต้องทำใจเพราะอยู่ในเขตห้ามแซง  จะไปนึกโกรธเค้าก็ไม่สมควรเพราะเค้าก็ขับตามกฏที่  40km/hr   ระบายได้แค่แหกปากกับตัวเองดังๆว่า เอ๊า..เอาเ้ข้าไป  อืดซะให้พอใจเลยคุ่ะคุณลุงSmiley  อืดได้อืดไปอิฉันกัดฟันรอได้Smiley   รอช่วงจังหวะที่จะเข้าทางลัดเพื่อตะบึงได้ต่อไป  การเร่งความเร็วเกินพิกัดนี่ก็ทำได้แค่ช่วงที่ไม่ใช่เขตชุมชน รถไม่เยอะ แล้วก็..แฮ่ๆ ไร้หมาต๋า..   ซึ่งส่วนมากคุณตำหนวดจะหลับหูหลับตาช่วงเร่งด่วนเช้าๆ ไม่มาปรากฏร่างให้เห็นนักหรอก  ขากลับจากทำงานค่อยเ้อ้อระเหยลอยชายขับดุ๊ยดุ่ยเรื่อยๆได้ 


ที่นี่จะได้ยินเสียงหวอของรถฉุกเฉินบ่อยมาก  เนื่องจากผู้สูงวัยเยอะอัตราความเสี่ยงของสุขภาพก็สูงตามไปด้วย   คงจะเดี๋ยวป๊อก..เดี๋ยวป๊อก จะต้องได้ยินเสียงหวอรถฉุกเฉินนี่ทุกวันๆละหลายๆหน  ถ้าอยู่บนท้องถนนก็ต้องเหลียวซ้ายแลขวาหน้าหลังดีๆว่ารถนั้นจะมาจากทางไหนแล้วต้องจอดรถแอบข้างทางเปิดถนนให้รถฉุกเฉินตะลุยผ่านไป  รถทุกคันบนท้องถนนจะเป็นอย่างนี้หมด เห็นแล้วก็ทึ่งตะลึงๆในความร่วมมือของคนที่นี่  มันเป็นน้ำใจที่สวยงามจริงๆ  คนบ้านเราก็คงน้ำใจงามอย่างนี้แหละ แต่ติดตรงบนถนนในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรนั้น  ถึงแม้อยากขยับเปิดทางให้แต่บางครั้งก็ขยับได้เพียงในใจเพราะไม่สามารถกระดิกกระเดี้ยหลบไปที่ใดได้..


รูปนี้ไปหยิบมาจากกูเกิ้ล ขอขอบคุณค่ะ..Smiley





พูดถึงมารยาทการขับรถบนท้องถนนที่นี่  คนส่วนมากจะเื้อื้อกันนะเรื่องเส้นทาง..ป้าโซว่า  ถึงแม้อิลุงจะบ่นๆว่าคนไร้น้ำใจในเรื่องการให้ทางสำหรับรถจะเีลี้ยวก็ตาม  เหอเหอ..มาขับรถที่เมืองฟ้าอมรของอิฉันเป็นได้ตีอกชกหัวสะอื้นไห้ดิ้นพราดๆเป็นแน่Smiley  ปาดได้เป็นปาด แทรกได้เป็นแทรก บีบแตรกันเป็นวงโยธวาทิต  กรูจะเลี้ยวขวับไม่ให้สัญญาณเมิงก็ตาไวๆเองก็แล้วกัน  ชนเมื่อไหร่อ๊ะๆๆ.. กรูถูกตะพึดตะพืออย่ามาเถียงนะเว้ย เดี๋ยวมีชกมีเสียบมียิง   .. อิลุงก็เคยชินกับการขับรถในกรุงเทพฯอยู่หรอกเพราะอยู่มาหลายปี    แต่ก็เถียงว่านี่ัมันญี่ปุ่นไม่ใช่เมืองไทย ระบบมันก็ต้องเป็นที่ๆไปเซ่ะ  เออ..ตกลงว่าระบบบ้านเราเป็นงั้นฮีเลยรับได้ แต่ระบบที่นี่มันเป็นงี้ถ้าไม่ทำตามกฏสังคมก็รับไม่ค่อยได้ซะงั้น


แรกๆที่เห็นสัญญาณไฟที่(บ้านนอก)นี่ ก็แปลกใจว่าทำไมไม่มีสัญญาณไฟเลี้ยวเลยแฮะ  จะมีก็เฉพาะในตัวเมืองที่เป็นสี่แยกใหญ่จริงๆ  รถจะเลี้ยวตรงสี่แยกนี่ต้องใจเย็นเพราะต้องรอรถทางตรงให้ผ่านไปก่อนถ้าได้ช่วงที่ไม่มีสวนมาค่อยเลี้ยวไปได้ แต่ก็มีช่วงรถตรงข้ามจะเลี้ยวขวาเหมือนกัน ต่างคนต่างก็ต้องไปจอดรออยู่ที่กลางถนนซึ่งเค้าทำเครื่องหมายไว้ให้  แล้วคอยจ้องว่ารถตรงข้ามที่ตามมาจะตรงมาหรือเปล่า ถ้ายังตรงมาก็ต้องรอต่อไป   เพราะฉะนั้นบางครั้งหนึ่งไฟแดงรถเลี้ยวขวาจะผ่านไปได้แค่สี่ห้าคันเท่านั้น  แต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะถนนที่นี่เชื่อมต่อกันตลอด ไม่เลี้ยวครั้งนี้ก็ตรงไปเลี้ยวอีกเส้นทางนึงได้  ไม่เคยประสบปัญหารถติดหนึบหนับ


การให้ทางจะใช้สัญญาณไฟกระพริบใส่กันครั้งเดียว   เช่น ถ้ามีรถฝั่งตรงข้ามจะเลี้ยวขวาและเราอยู่ในระยะที่สามารถชะลอให้เค้าได้ก็จะกระพริบไฟให้เค้าเลี้ยวไปก่อน  รถคันที่เลี้ยวก็จะยกมือเป็นพระปางห้ามญาิติข้างนึงเพื่อแสดงความขอบคุณ(เอ๊ะ..เกี่ยวไรกับพระปางห้ามญาิติด้วยSmiley)  หรือไม่ก็กดแตรสั้นๆครั้งเดียวเป็นการขอบคุณ  ถ้ารถที่จะเลี้ยวจากซอยออกมาและรถบนถนนกระพริบไฟให้ทาง พอรถออกมาเข้าสู่ทางตรงได้ก็จะเิปิดไฟขอทางกระพริบวาบๆให้รถคันหลังเป็นการขอบคุณอีกเช่นกัน  ไอ้เรื่องกระพริบไฟเนี่ยค่อนข้างจะต่างจากบ้านเราที่บ้านเรากระพริบไฟหมายถึงการขอทางไม่ใ่ช่ให้ทางอย่ามานะเว้ยยย  กรูชนแหลกกกก.. 


บ้านเราคนขับรถเป็นใหญ่ในการใช้ถนน  รถเล็กรถน้อยและคนเดินถนนมีหน้าที่ต้องหลบรถใหญ่  ไม่งั้นก็เสี่ยงเอาว่าจะไปเกิดใหม่หรือไม่?  แต่ที่นี่กลับกัน คนเดินถนนและรถเล็กรถน้อยเ่ช่นมอไซด์ จักรยาน สามารถใช้ถนนได้อย่างสบายใจ รถใหญ่มีหน้าที่ระวังหลบหลีกเอง เช่นจะัขับแซงรถจักรยานหรือคนเดินอยู่บนไหล่ถนนก็จะต้องเบนรถออกมาให้ได้ระยะและขับแซงด้วยการลดความเ็ร็วลง   ถ้ามีรถสวนมาก็ต้องชะลอรอให้รถสวนมาผ่านไปก่อนแล้วค่อยเบนรถออกให้ห่างพวกรถเล็กรถน้อยนั่น ถึงแม้เค้าจะขี่อยู่บนไหล่ทางก็ตามที  ชะรอยเป็นเพราะเกรงว่าถ้าขับเฉี่ยวใกล้ๆแล้วแรงลมอาจตีรถให้ล้มได้โดยเฉพาะถ้าท่านผู้เฒ่าทั้งหลายเป็นผู้ขับขี่  ถึงจะไม่ล้มเพราะแรงลมก็อาจเป็นลมล้มพับกระทันหันการระวังไว้เช่นนี้จะได้ไม่ไปเหยียบท่านเข้า..(อันนี้ป้าโซคิดเอง จะคิดน่ากลัวเกินไปมั้ยเนี่ย?)


เพราะความที่คนเดินถนนเป็นใหญ่นี่เองที่บางครั้งก็ทำความรำคาญให้อิลุง   โดยเฉพาะชม.เร่งด่วนตอนเช้า  เนื่องจากแถวบ้านเป็นร.ร.ประถมช่วงที่ลุงออกไปทำงานนั้นเด็กจะ้ข้ามถนนกันเยอะ ไอ้ข้ามตามสัญญาณไฟน่ะไม่เท่าไหร่แต่พวกเล่นเดินเอ้อระเหยลอยชาย  บางคนก็เดินแหย่กันกลางถนนซะงั้น  รถที่รอจะเลี้ยวก็ต้องจอดรถท่านเล็กๆพวกนี้ข้ามให้หมดก่อนซึ่งหมดสัญญาณไฟเขียวของรถพอดี  พวกอาสาสมัครที่มาคอยยืนกั้นรถให้เด็กก็ไม่ออกปากเร่งเด็กให้เดินเร็วๆ   ถึงแม้สิทธิ์คนเดินถนนจะมาก่อนแต่ก็ควรต้องคิดถึงคนอื่นที่ใช้ถนนร่วมกันด้วย  สอนใครว่าใครไม่ได้ก็มาลงที่ลูกตัวเอง.. จำไว้นะเอ็ง.. อย่าทำยังเง้ เจอเมื่อไหร่จะเปิดกระจกออกไปด่าซะให้ 


ป้าโซขับรถที่ญี่ปุ่นนานเท่าอายุการทำงานที่ใหม่นี่พอดีพอดิบ .. จะสองปีอีกไม่กี่เดือนเนี่ย  ปีหน้าเดือนกันยาถึงกำหนดต้องไปเปลี่ยนใบขับขี่ใหม่เพื่อต่ออายุละ   พูดถึงเส้นทางที่ป้าโซใ้ช้อยู่ก็ไม่ไ้ด้คืบหน้าไปจากปีแรกเลย เพราะไม่ค่อยออกนอกเส้นทางไปไหน จากบ้านไปที่ทำงาน ไปซื้อกับข้าว ไกลหน่อยก็พาลูกไปคลีนิคผิวหนังเรื่องสิวหนุ่ม  ล้วนแต่นอกๆเมืองทั้งนั้น ยังไม่เคยขับเข้าตัวเมืองเลยด้วยกลัวป้ายบอกทางต่างๆ ก็มีภาษาอังกฤษกำกับด้วยอยู่หรอกแต่ตัวเล็กมากเป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นอย่างยิ่ง  ถึงลุงบอกไม่ยากๆ ก็เหอะ.. แต่ก็หมายตาไว้นะว่าซักวันจะต้องลองขับเข้าไปลุ้นดู..


พบกันใหม่บล็อกหน้าขอบคุณที่ติดตาม  สวัสดีค่ะ..  Smiley






Create Date : 09 ธันวาคม 2555
Last Update : 9 ธันวาคม 2555 16:13:52 น. 22 comments
Counter : 3577 Pageviews.

 
การตั้งนาฬิกาปลุกกับการตื่นนอนไม่ต่างกับผมเลยครับ ไม่รู้จะตั้งให้เช้าทำไม เพราะหลังจากปลุกก็จะนอนต่ออีกสักหน่อย


โดย: ablaze357 วันที่: 9 ธันวาคม 2555 เวลา:16:27:11 น.  

 
ดูสนุกยุ่งๆวุ่นวายเหมือนกันนะญี่ปุ่นเนี่ยะ


โดย: story_dnp วันที่: 9 ธันวาคม 2555 เวลา:17:10:54 น.  

 
ตอนเช้าๆ อากาศดีมากเลยค่ะ ถึงจะหนาวแล้วก็ตาม (ตื่นเช้าเป็นบางวันค่ะ..ปกติตื่นสายมาก)

โอะเบนโตวน่ากินมากเลยค่ะ...ที่บ้านแค่ชงกาแฟกับเตรียมโอฟุโระก็ขี้เกียจแล้ว


โดย: นุ้ยหนุ่ย IP: 111.191.163.144 วันที่: 9 ธันวาคม 2555 เวลา:18:30:01 น.  

 
ดูเวลาที่ป้าตื่น เตรียมอหาร เก็บที่นอนอีกสาระพัดแล้วออกไปทำงานแล้วขอบอกว่าสุดยอดแม่บ้านจริงๆ ค่ะ


โดย: มารน้อยไร้สังกัด วันที่: 9 ธันวาคม 2555 เวลา:22:23:21 น.  

 
ตื่นเช้าเหมือนกันนะป้าโซ ตอนเช้าก็วุ่นๆ เป็นธรรมดา อ่านแล้วเข้าใจถึงจิดตใจคนเป็นแม่เลย ต้องตื่นขึ้นมาทำอาหาร แล้วยังต้องเร่งให้ลูกตัวเองตื่น แถมต้องแข่งกับเวลาอีก

จะว่าไปเรื่องตารางเวลาแบบเป๊ะๆ มันก็เป็นข้อดีเหมือนกันนะ ตรงที่ว่า เราสามารถกำหนดตารางเวลาที่ชัดเจนของเราได้ ถ้าพลาดก็โทษตัวเองอย่างเดียวเลย

เรื่องขับรถก็ต้องมีบ้างแหละที่แตกต่างกับของบ้านเรา บ้านเราเดี๋ยวนี้ยิงกันบ่อยด้วย น่ากลัว บางทีเจอพวกบ้าๆ ลงมาหาเรื่องรถเมล์ก็มี

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 ธันวาคม 2555 เวลา:23:29:35 น.  

 
เขียนดีมาก ชวนติดตาม อ่านไม่ขาดเลยครับ 555
ชอบอ่านแบบนี้ ได้ความรู้ด้วย


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 10 ธันวาคม 2555 เวลา:14:04:39 น.  

 
ตอนนี้หลับๆ ตื่นๆ ทำงานไปสัปหงกไป ต้องไปช่วยเพื่อนเขาทำห้องสมุดสารานุกรมไทยของในหลวง เลยไม่ค่อยได้อัพบล็อก ป้าสบายดีนะจร๊า

กินข้าวกล่องเบนโตะแบบนี้ทุกวันไม่เบื่อเหรอป้า 555 อีกหน่อยคงต้องดัดแปลงเป็นผัดกะเพรา ส้มตำ คอหมูน้ำตก อะไรเทือกนั้น

ป้าเก่งเนอะ ในที่สุดก็กลายร่างเป็นแม่ศรีเรือนฟูกุโอกะได้สมบูรณ์แบบ (ซะไม่มี)

ปล.เมื่อไรจะร้อง You've got a friend


โดย: Bkkbear วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:8:40:59 น.  

 
ป้าโซขา
หนูขอเบนโตะสักกล่องหนึ่งได้ไหมอ่าา
อยากลองทานอาหารญี่ปุ่นมั่งจัง
อิ อิ
หน้าตาน่าทานมากเลยค่ะ
เห็นข้าวโรยงาแล้วช๊อบ ชอบ


โดย: หกพันไมล์ วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:11:17:50 น.  

 
เท่ากับว่าป้าโซมีเวลา 1 ชั่วโมงกับ 27 นาทีหลังจากตื่นตอน 6.00 น. ในการทำภารกิจต่างๆ ยามเช้าให้เสร็จ
แล้วไปให้ทันไฟเขียวปากซอย และทันเข้าถนนที่จำกัดเวลาเข้า 7.30 น.-8.30 น.
มันก็เหมือนถูกบังคับกลายๆ ไม่ใช่โรคจิตหรอกครับ
เพราะถ้าไม่เป๊ะๆ ตามเวลากำหนด ป้าโซก็ต้องไปทำงานสายแน่ๆ


โดย: steelcobra วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:13:02:12 น.  

 


ชอบเบนโตะจังขอทานด้วยคนนะคะคุณน้อง

และชอบความมีระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่นม๊ากกกกกก



โดย: aew_ IP: 1.2.152.66 วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:15:03:06 น.  

 
หวัดดีครับน้องปร้า

หายหน้าไปเพราะติดเกมนี่เอง...เกมแข่งร้องเพลงน่ะเซ่
ที่บ้านพวกสาวๆก็ติดง็อมแง็มเหมียนกัลลล
ดูไปก็ชื่นชมไป..วิจารณ์คนโน้นคนนี้ มันส์เขาละ
แต่พี่ดิ่งหันหลังดู...ฟังแต่เสียงก็เพราะเสนาะหูแล่ว

อ่านดู...ท้องถนนแถวบ้านน้องปร้าแล้วยังโอเชเนอะ
ชอบความมีวินัยของชาวยุ่นมั่กมาก
ถึงไปช้าบ้าง ยังงัยน่าจะดีกว่าแบ็งค้อกน่อ

ดูของใส่ท้องแล้ว...น่าเจี๊ยะจัง
เบนโตะเนี่ย..มืออาชีพแหง็มๆ
ฝีมือเชฟโซ..ม่ายทำมะดา เค้าเรียกซะเหน่ห์ปลายจวักใช่มะ
เห็นแล้วก็นึกถึงข้าวเหนียวปั้นจิ้มบ้านพี่ดิ่ง แซ่บคักคัก

กลางเดือนที่แล้วแว่บไปแถวบ้านปร้าโซ
แต่ไปแป๊บเดียว..แล้วก็เป็นหมู่คณะหญ่ายเลยไม่ได้บอกกล่าว
ถูกใจมากที่ไปเห็นสีสันฤดูใบไม้ร่วงโดยมิคาดหมาย
ช่วงนี้กำลังรับนักเรียนรุ่นใหม่รอบ 1 และ 2 ยุ่งเอาการครับน้องปร้า


โดย: Dingtech วันที่: 11 ธันวาคม 2555 เวลา:20:30:52 น.  

 
สวัสดีจ้ะคุณป้าโซ

อาหารญี่ปุ่นนี่จัดว่าเป็นอาหารสุขภาพได้เลยนะครับ หนักผักและเนื้อก็ไม่มากมายนัก

การจราจรและทุกอย่างที่นั่นเป็นระเบียบดีครับ บ้านเราก็ดีแบบของเราแหละนะ เอาไปปนกันมันไม่ชินก็วุ่นวายแน่



โดย: find me pr วันที่: 12 ธันวาคม 2555 เวลา:11:36:12 น.  

 
สวัสดีครับคุณป้าโซ

มาไดเอทอีกวันจ้ะ และก็ย้ำเป้าหมายที่หลังไมค์ด้วย


โดย: find me pr วันที่: 13 ธันวาคม 2555 เวลา:10:00:49 น.  

 
เขียนเล่าดีทีเดียวครับป้าโซ มีอารมณ์ขันๆแทรกอยู่ด้วย
ญี่ปุ่น บ้านเมืองเขามีระเบียบเป๊ะๆทีเดียว ทั้งๆที่ไม่ใช่คอมมิว..
ผม หากมีโอกาสได้ไปอยู่ที่นั่นยาว คงต้องปรับพฤติกรรมตัวเองหลายอย่าง


โดย: yyswim วันที่: 13 ธันวาคม 2555 เวลา:19:17:21 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะครับป้าโซ

ไม่รู้เป็นอะไรสำหรับยูโดเล่นแล้วติดเลิกไม่ได้ ตอนนี้ก็กลายเป็นพี่เลี่ยงเด็กที่อำเภอไปซะแล้ว ถึงขนาดไปซ้อมกับเด็กประถมก็ยังดีครับ เพราะมันผูกพันไปซะแล้ว

อาทิตย์หน้าจะไปผ่าตัดเอาเหล็กที่ดามขาออกแล้วละครับ ปีหน้าคงมีขาที่กลับมาพร้อม(หัก)จะซ้อมได้อย่างเต็มที่กันอีกครั้งครับ


โดย: ablaze357 วันที่: 13 ธันวาคม 2555 เวลา:22:04:06 น.  

 

แหล่มเลยค่ะ
ป้าโซเขียนบรรยายได้แหล่มมากๆ เลยค่ะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 14 ธันวาคม 2555 เวลา:6:22:39 น.  

 
ชีวิตต่างแดน น่าสนุกดีนะครับ แล้วจะมาอ่านอีกครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 14 ธันวาคม 2555 เวลา:13:19:51 น.  

 
ป้าโซ คิดถึงมากมาย เค้ายุ่งจริงๆ น๊า อยากกินข้าวปั็่นจัง โตจัง


โดย: ลูกหมูตัวกลม วันที่: 19 ธันวาคม 2555 เวลา:12:44:51 น.  

 
ปร้า...ปั้นข้าวนานไปแล้วนะจ๊ะ 55555


โดย: Bkkbear วันที่: 21 ธันวาคม 2555 เวลา:10:39:31 น.  

 
ชอบญี่ปุ่นที่บนถนนเต็มไปด้วยจักรยานนะคะ วันก่อนยังไปซื้อจักรยานมือสองญี่ปุ่นมาใช้เลย


โดย: พี่โมกข์กับน้องต้นไม้ วันที่: 21 ธันวาคม 2555 เวลา:12:57:12 น.  

 
ไม่ได้มาทักป้าโซนานเลย
สวัสดีค่ะ สบายดีนะคะ คริสต์มาสนี้ทำอะไรกินกันดี
ตุ๊กมีงานเข้าด้วยล่ะ ทำอาหารเลี้ยงฝรั่ง ไม่รู้จะหัวหรือก้อยงานนี้..


โดย: kamaron วันที่: 23 ธันวาคม 2555 เวลา:3:32:40 น.  

 
ขอบคุนรีวิวดีๆ ครับ ชอบและนับถือความเป็นระเบียบและวินัยในการขับขี่ของคนญี่ปุ่นมากครับ


โดย: wachi IP: 101.108.26.140 วันที่: 2 เมษายน 2556 เวลา:18:25:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ป้าโซ
Location :
คุรุเม่ ฟุกุโอกะ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]




สวัสดีค่ะ ..

ป้าโซอยู่อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งอยู่ในเกาะคิวชู เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น

เรื่องราวที่เล่าๆสู่กันฟังนี่ มาจากประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งสอดแทรกความคิดเห็นเข้าไปด้วย อันไหนไม่เข้าทีก็อ่านผ่านๆไปละกันนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาค่ะ
New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ป้าโซ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.