สามีให้เช่า
อ๊ะๆๆ.. มิได้ค่ะ มิใช่จะเอาลุงที่บ้านมาประจานให้เช่านะคะ ถึงอยากได้ทรัพย์อย่างแรงก็เถอะ
แต่จะมาเล่าถึงเรื่องราวของคนอื่นค่ะ ไม่ๆๆๆ.. เขาไม่เรียกว่านินทา เขาเรียกว่าเล่าสู่กันฟัง
ป้าโซมีเพื่อนชาวฟิลิปปินส์อยู่คนนึง เป็นแม่ของเพื่อนเจ้าตัวเล็กที่เคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันตอนป.1 ตอนที่เจ้าตัวเล็กเขาเรียนอยู่ป.1 นั้นครูประจำชั้นเขาติดต่อมาทางป้าโซขอให้ไปช่วยสอนการละเล่นแบบไทยๆให้กับเด็กๆด้วย ซึ่งเป็นวิชาว่าด้วยการสอนเด็กให้รู้ถึงการละเล่นของทั่วโลกที่มีกัน ณ ตอนนั้นมีชาติอื่นนอกจากญี่ปุ่นอยู่สองคน คือไทยและฟิลิปปินส์ ซึ่งครูเขาก็ทาบทามแม่ฟิลิปปินส์คนนี้มาช่วยสอนเด็กด้วย..
และแล้วป้าโซก็ได้รับรู้ว่าไม่ได้มีแต่กะเหรี่ยงจากเมืองไทยเท่านั้นยังมีกะเหรี่ยงฟิลิปปินส์ในร.ร.นี้อีกด้วย เอาละเฟ้ย.. ได้เพื่อนกะเหรี่ยงละ
แต่.. เมื่อได้ทำความรู้จักกัน ความหวังที่จะได้เพื่อนกะเหรี่ยงที่รู้ภาษาญี่ปุ่นงูๆปลาๆเริ่มหายไป เพราะเธอพูดภาษาญี่ปุ่นคร่อกยังกับภาษาตัวเอง มิไยที่ป้าโซจะอ้อนวอนเธอว่า ฉานกระดิกได้แค่นิ้ดดดดเดียวน้า.. ภาษาโนะๆเนะๆเนี่ย เพราะฉานเพิ่งมาปีแรก แล้วป้าโซก็พ่นอังกฤษเป็นตัวช่วยเพราะคิดว่าเธอน่าจะพูดได้เนื่องจากเป็นภาษาราชการที่บ้านเธอใช้ (ตามที่ได้เรียนมา) แต่เธอกลับทำหน้าไม่รับรู้พร้อมกับพ่นญี่ปุ่นตอบกลับ
ต่อเนื่องจากการได้เพื่อนคนนี้ กาลต่อมาเธอได้ติดต่อขอให้ป้าโซแนะนำงานที่ป้าโซทำอยู่ให้ ซึ่งป้าโซก็แนะนำปนขู่ไปว่ามันลำบากยังไง ต้องอดทนปานกระบือปนแรดเช่นไรบ้าง สุดท้ายเธอก็เข้ามาทำงานที่เดียวกับป้าโซ จวบจนวันนี้ก็ปาเข้าไปสามเดือนได้ละค่ะ เดือนแรกกระดี๊กระด๊ากับงานใหม่เพื่อนใหม่ ณ วันนี้เริ่มทำงานด้วยน้ำตานองหน้า
เพื่อนคนนี้เธอมาอยู่ญี่ปุ่นเข้าปีที่ยี่สิบสองแล้วค่ะ แต่งงานมาสองครั้ง มีลูกสาวกับสามีคนละหนึ่ง คนโตอายุยี่สิบปีแล้ว คนเล็กนี่แหละที่เป็นเคยเป็นเพื่อนห้องเดียวกับเจ้าตัวเล็ก แล้วเธอก็เลิกกับสามีคนล่าสุดอีก ด้วยเหตุผลว่าสามีเธอไปยุ่งเกี่ยวกับสาวฟิลิปปินส์ด้วยกัน ถ้าเป็นสาวญี่ปุ่นเธอจะไม่คิดน้อยเนื้อต่ำใจขนาดนี้..
แล้วเธอก็เล่าให้ฟังว่าสาวฟิลิปปินส์คนที่อดีตสามีเธอไปติดพันอยู่ด้วยนั้น มีสามีมีลูกสามคนทิ้งไว้ที่ฟิลิปปินส์ ตัวเองมาทำงานหาเงินที่ญี่ปุ่น ทำงานคลับเป็นนักเต้นแล้วก็เป็นนักร้อง ได้วีซ่าอยู่ที่นี่เพราะจดทะเบียนสมรสกับชายญี่ปุ่นซึ่งเขาคิดค่าตอบแทนในการจดทะเบียนสมรสเพื่ออ้างอิงนี้ในราคา 50,000 เยนต่อหนึ่งเดือน เธอจึงต้องการหาแหล่งวีซ่าถาวรที่ไม่ต้องเสียค่าตอบแทนรายเดือนโดยการคว้าสามีของเพื่อนป้าโซคนนี้มาแต่งงานด้วยจริงจัง
ล่าสุดเพื่อนป้าโซได้ข่าวว่าเธอคนนั้นกำลังถูกเจ้าหน้าที่ตม.ตามมาเช็คที่บ้านเพื่อตรวจสอบว่าได้อยู่กินจริงๆกับสามีที่จดทะเบียนสมรสหรือไม่ ถ้าถูกพบว่าเป็นความเท็จก็จะมีปัญหาเรื่องวีซ่าที่ได้ละค่ะ
ประเทศญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ขอวีซ่าค่อนข้างยากประเทศหนึ่ง โดยเฉพาะวีซ่าระยะยาว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอวีซ่าเพื่อติดตามคู่สมรสไปอยู่ด้วยนี่ เขาให้ส่งประวัติความเป็นมาเริ่มต้นที่รู้จักจนแต่งงาน มีนัดสัมภาษณ์ก็คงเหมือนประเทศอื่นๆแหละค่ะ แต่สำหรับป้าโซค่อนข้างง่ายเพราะเป็นการตามสามีที่มาทำงานอยู่เมืองไทยนานๆแล้วต้องย้ายกลับประเทศ แค่ทำเอกสารส่งไปให้เรียบร้อย ไม่ต้องมีการสัมภาษณ์ใดๆ ได้วีซ่าครั้งแรกหนึ่งปีพอครบปีก็ต่อได้อีกสามปีค่ะ
Create Date : 03 เมษายน 2552 |
Last Update : 4 เมษายน 2552 17:05:32 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1225 Pageviews. |
|
|
|
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
ป้าโซอยู่ญี่ปุ่นหรือนี่
น่าอิจฉาจังเลยค่ะ
หนูใหม่อยากไปมากๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ไปสักที
ขอบคุณที่แวะบล็อคหนูใหม่นะคะ