精力善用 自他共栄

(เซเรียวกุเซ็นโย จิตะเคียวเอ) ไม่ว่าจะที่โคโดกังหรือว่าที่อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับยูโด มักจะเห็นคันจิ8ตัวนี้อยู่บ่อยๆ หรือไม่บางที่ก็จะเป็นภาษาอังกฤษที่เขียนไว้ว่า maximum efficient use of energy and mutual prosperity for self and others ที่มักเห็นประโยคพวกนี้อยู่บ่อยๆ ก็เพราะว่า มันคือเป้าหมายสูงสุดของยูโดและคนที่เล่นยูโดต้องพึงยึดถือไว้ตามหลักคำสอนของปรมาจารย์คาโน่ จิโกโร่

"เซเรียวกุเซ็นโย" หลักการใช้แรงให้น้อยที่สุดให้เกิดผลที่มากที่สุด พยายามเอามาปรับใช้ด้วยครับ จำไว้ว่าในส่วนของคาตะหรือสายต่อสู้ นักยูโดที่เก่งๆแล้ว จะไม่มีการเคลื่อนไหวหรือการขยับตัวที่เสียเปล่า

"จิตะเคียวเอ" เพื่อประโยชน์ของสังคม พยายามเอาไปปรับใช้ในทุกๆที่ทุกๆครั้งของการซ้อมครับ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไทยหรืออยู่ที่ไหนก็ตาม ทำให้บรรยากาศการซ้อมในเบาะเป็นมิตร ถ้อยทีถ้อยอาศัยและก้าวไปด้วยกัน

ตรงส่วนนี้ อาจารย์โคโดกัง มุราตะเซนเซ (8ดั้ง) เคยอธิบายในตอนเรียนภาคทฤษฎีถึงความหมายแปลเป็นไทยก็คือ การใช้แรงให้น้อยที่สุดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพหรือผลลัพธ์ออกมามากที่สุด หลักการตรงนี้นอกเหนือจากยูโดแล้วสามารถเอาไปปรับใช้ชีวิตประจำวันได้ พอเราสามารถเข้าใจและใช้พลังงานของเราเพื่อให้เกิดผลมากที่สุดแล้วจากนั้นก็เป็นการกระจายหรือการแชร์สิ่งต่างๆกลับคืนเพื่อประโยชน์สุขของสังคม

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมสังคมยูโดที่ญี่ปุ่นโดยเฉพาะที่โคโดกังจะมีบรรยากาศที่เป็นมิตร เท่าเทียมกันสูงต่ำไม่แบ่งแยกชนชั้น ใครที่เข้าใจในสิ่งที่เคยเรียนรู้มาแล้วก็จะเต็มใจและตั้งใจจริงในการที่จะสอนผู้ที่ยังไม่รู้ เหมือนกับการที่รุ่นพี่สอนรุ่นน้อง

หลักการตรงนี้ยังแทรกซึมอยู่ในการซ้อมยูโดด้วย ตัวอย่างเช่น

-การเคารพคู่ซ้อมก่อนที่จะเข้าคู่ซ้อมและการเคารพคู่ซ้อมหลังจากการซ้อม

-การให้เกียรติคู่ซ้อม ความตั้งใจจริงในการฝึกซ้อมเพื่อที่จะก้าวหน้าไปด้วยกัน ตามหลักเพื่อประโยชน์ของส่วนร่วมและสังคม

-การเต็มใจในการสอนสิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์กับรุ่นน้อง สิ่งที่รู้สึกได้คือ ครู อาจารย์และคนส่วนใหญ่ที่มาซ้อมที่โคโดกังนั้น ยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่งในการต้อนรับคนที่สนใจจะเรียนรู้ยูโด โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ก็เพราะท่านเหล่านั้นเข้าใจในสิ่งที่เรียกว่าจุดประสงค์สูงสุดของยูโด (ไอ้ตัวคันจิ8ตัวด้านบนนั้นแหละ)

-หลักในการรันโดริ ที่เน้นย้ำเรื่องการฝึกซ้อม แท้จริงแล้วหลักการรันโดริมีอยู่3ประเภท การรันกับคนที่เหนือกว่า การรันกับคนที่เท่าๆกัน และการรันกับคนที่ด้อยกว่า ทั้ง3ประเภทนี้มีคำพูดยูโดที่แปลเป็นไทยว่า "เทพเจ้าทั้งสาม" นั้นคือการให้ความเคารพในตัวคู่ซ้อม ไม่ว่าจะมีฝีมือที่เหนือกว่า เท่ากัน หรือด้อยกว่า คู่ซ้อมทุกประเภทสามารถสอนเราและมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้ด้วยกันทั้งนั้น คนที่เคยมาซ้อมที่โคโดกังอาจจะพอได้เจอคนที่เข้าใจหลักตรงนี้(ส่วนใหญ่เป็นสายดำที่ยอมให้เราทุ่มเค้าได้นั้นแหละ) แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังเรียนรู้และต้องใช้เวลาในการซึมซับหลักการตรงนี้ หลักในการรันโดริของโคโดกังไม่มีลักษณะแบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก ดังนั้นสามารถสังเกตุดูได้ว่าคนที่เล่นยูโดได้กับคนที่เล่นยูโดเป็นนั้นมันต่างกัน

หากมีโอกาสมาซ้อมที่โคโดกัง ตอนที่กลับไทยไปแล้ว อยากให้เอาสิ่งที่ได้เรียนรู้ บรรยากาศวัฒนธรรมสังคมยูโด และวิธีการรันโดริที่ถูกต้องนำไปปรับใช้ในการซ้อมที่ไทยครับ