ช่วงสิ้นปี2013 มีโอกาสได้ไปฮ่องกงคราวนี้ไม่ได้เป็นการท่องเที่ยวแบบธรรมดาทั่วๆไปแต่มีการซ้อมยูโดควบคู่กันไปด้วยเริ่มต้นจากสายสัมพันธ์โคโดกังที่เคยซ้อมยูโดด้วยกันในญี่ปุ่นและมีการติดต่อกันบ้างเป็นครั้งคราวทำให้การซ้อมในต่างแดนครั้งนี้เกิดขึ้นได้ไปทั้งหมด8วัน แรกๆวางแผนที่จะซ้อมซัก2ครั้ง แต่พอไปถึงจริงๆแล้วผิดจากที่วางไว้เล็กน้อยทำให้ไปซ้อมได้4ครั้ง

การซ้อมครั้งแรกสุด เบาะแถวสถานีจอร์แดน

เนื่องจากไม่รู้จักสถานที่และที่ตั้งของเบาะเลยต้องขอนัดเจอกับเพื่อนที่สถานีจอร์แดนทางออกc2 เวลา18.30 ถึงเวลาก็เจอกันตามนัดพร้อมกับเพื่อนใหม่อีกคนอ้วนๆน้ำหนักดูแล้วต้องมี120โลขึ้นไปเบาะยูโดที่ฮ่องกงอยู่ในตึกที่คล้ายๆตึกแถวดูจากด้านนอกอาคารแล้วดูไม่ออกเลยว่าด้านบนจะเป็นที่ซ้อมยูโดขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น5 ห้องซ้อมเป็นห้องอเนกประสงค์มีกระจกอยู่ด้านนึงดูแล้วสามารถเอามาเป็นที่เรียนโยคะเต้นแอโรบิคหรือกิจกรรมอื่นๆรวมไปถึงยูโดจากนั้นก็เริ่มจากการเอาเบาะที่จะแผ่นมาปูลงพื้นจนกลายเป็นเบาะยูโดขึ้นมาระหว่างการสร้างสนามซ้อมนั้นก็มีคนฮ่องกงมาเพิ่มอีก4คน ชาย2หญิง2 1ใน4คนนี้เคยเป็นโค้ชทีมชาติฮ่องกงมาก่อนซ้อมวันนี้จำนวนสมาชิกรวมแล้ว7คน จริงๆแล้วถ้าไปติดวันหยุดเทศกาลช่วงคริสตมาสกับปีใหม่คนที่มาซ้อมจะจำนวนมากกว่านี้ แต่วันนี้มีเท่านี้ก็ซ้อมเท่านี้แหละ

เนื้อหาในการซ้อม เริ่ม19.00-21.00

1.วอร์มอัพ เป็นการวอร์มอัพครั้งแรกจริงๆในเวอร์ชั่นฮ่องกง

2.การฝึกเข้าท่าในท่านอน ตรงนี้อิสระให้เลือกใช้วิธีการและท่าที่ตนเองชอบ

3.เนวาซะรันโดริ

4.การเรียนและการวิเคราะห์เจาะลึกในส่วนของเนวาซะคำถามที่เกิดขึ้นมาจากการรันโดริเมื่อกี้ก็ถามกันไปเพื่อที่จะได้มาช่วยกันคิดช่วยกันแก้โดยรวมแล้วอาจารย์ที่คุมเบาะจะเป็นคนแนะแนวทางให้

5.อุจิโกมิในส่วนของท่ายืน

6.รันโดริ

7.คูลดาว์น

สิ่งที่ได้จากการมาซ้อมที่เบาะแห่งนี้นอกเหนือจากเพื่อนใหม่แล้วก็คงมี

1.การวอร์มอัพในเวอร์ชั่นฮ่องกง

2.วันนี้โค้ชที่คุมเบาะนี้สอนการพลิกตัวจากการโดนกดในท่าโยโกชิโฮขึ้นมาเป็นฝ่ายกดคู่ต่อสู้แทนท่านี้เคยเรียนมาจากโคโดกังแล้ว แต่จากการเรียนรู้จากโค้ชท่านนี้ทำให้ได้รายละเอียดเล็กๆมาเพิ่มเติมทั้งในเรื่ององศาและทิศทางในการพลิกตัวการใช้แรงส่งจากสะโพกและการใช้แรงส่งจากขา

3.คนที่ซ้อมที่เบาะนี้มีพื้นฐานขาที่ดีและเร็วมากๆจังหวะชิงจับโดยรวมแล้วถือว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไป จังหวะการออกท่าบางคนทำได้ดีบางคนยังไม่ดีเท่าไหร่นักแต่ว่าการซ้อมโดยไม่ฝืนถือว่าถูกใจผมมากๆ การซ้อมโดยไม่ฝืนคือใช้ท่าที่ตัวเองซ้อมมาไม่ใช่อาศัยลูกมั่วตอนจังหวะพาไป

4.เสื้อ1ตัวและความรู้สึกดีๆจากเพื่อนใหม่ที่มาซ้อมด้วยกันในวันนี้

น่าจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเมื่อเป็นทีมเยือนไปซ้อมที่เบาะอื่น

1.ต้องมีการลองของกันคือไม่สามารถปฏิเสธคู่ซ้อมในการรันโดริได้วันนี้คนซ้อมไม่เยอะเท่าไหร่ ก็เจอเรียงคิวกันเข้ามาทั้งหมด คนละ2รอบทั้งท่ายืนและท่านอน

2.การแชร์ประสบการณ์หรือการอธิบายในท่าที่ถนัดของคนที่ไปซ้อมครั้งนี้ก็เช่นกันท่าที่ถูกนำมาใช้แชร์กับเพื่อนฮ่องกงนั้นมี ในส่วนของท่านอนผมเลือกที่จะอธิบายท่าโคอุริเอริจิเมะในจังหวะที่โดนกดจากท่าโยโกชิโฮส่วนท่ายืนไม่พ้นท่าโคอุจิการิที่เพื่อนฮ่องกงเป็นผู้ร้องขอเอง

การซ้อมครั้งที่สอง เบาะแห่งที่สองแถวสถานีชูเคย์วัน

เบาะนี้หรูหรากว่าจะเข้ามาได้ผ่านระบบเซเคียวริตี้หลายขั้นเริ่มจากประตูกระจกด้านหน้า(เหมือนพวกร้านเพชรที่เมืองไทย) มียามคอยดูว่าใครมาทำอะไรจะเปิดให้เข้ารึเปล่าต้องแล้วแต่วิจารณญาณเบาะอยู่ที่ชั้น9ของตัวตึก ขึ้นไปถึงชึ้น9มีประตูกระจกอีกชั้นนึงต้องมีบัตรหรือไม่ก็รหัสถึงจะเปิดเข้าไปได้ (เบาะยูโดหรือว่าสำนักงานเพนตาก้อนกันวะทำไมมันแน่นหนาจัง)เบาะนี้ไม่รู้จักใครเลย แต่ว่ารุ่นพี่ฮ่องกงที่โคโดกังเป็นคนพามาแนะนำให้ซ้อมดูเค้าบอกว่าเบาะนี้มีอะไรน่าสนใจอยู่ เบาะนี้จำนวนคนประมาณ20กว่าคนเบาะนี้ก็เหมือนกันหลังจากซ้อมเสร็จก็ต้องเก็บเสื่อกันขึ้นเป็นห้องอเนกประสงค์

เนื้อหาในการซ้อม เริ่ม19.30-22.00

1.วอร์มอัพ เบาะนี้วอร์มอัพไม่นานเท่าไหร่ (คงไม่มีที่ไหนวอร์มนานกว่าที่โคโดกังแล้วละครับ)

2.จับคู่เรียงแถว เข้าท่า

3.จับคู่เรียงแถว เข้าท่า+ทุ่ม

4.อิสระคำว่าอิสระคือใครสนใจจะรวมกลุ่มไหนในการเรียนรู้ท่าไหนก็อิสระ วันนี้แบ่งเป็น2กลุ่มคือกลุ่มท่ายืนกับกลุ่มท่านอนสำหรับผมแน่นอนต้องเลือกท่านอนเพราะว่ารุ่นพี่ผมอยู่ในกลุ่มท่ายืนและผมยังมีโอกาสซ้อมกับรุ่นพี่คนนี้นอกรอบอยู่แล้วที่สำคัญท่ายืนต้องอาศัยเวลาในการฝึกซ้อมในขณะที่ท่านอนถ้าจำหลักได้แล้วสามารถนำออกมาใช้ได้เลย

5.รันโดริในส่วนของท่ายืน

6.คูลดาว์น

สิ่งที่ได้มาจากเบาะนี้

1.การม้วนตัวตบเบาะในแบบพลิ้วไหว ท่าตบเบาะแบบนี้ต้องยอมจริงๆไม่เคยเรียนมาก่อนและไม่สามารถทำให้มันลื่นไหลเหมือนกับคนอื่นๆได้จุดนี้คงต้องนำกลับไปรวมอยู่ในเมนูฝึกซ้อมของผมต่อไป

2.ท่าหักแขน อุเดะฮิชิกิ-อุเดะกาตาเมะท่านี้ได้มาตอนที่อิสระแบ่งกลุ่มเรียนรู้หลักการใช้เคยเรียนรู้มาบ้างแต่คร่าวนี้เรียนตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงการพลิกแพลงไปถึงท่าฮิสะกาตาเมะคนฮ่องกงเล่นกันน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ยมีสายขาวบางคนเรียนด้วยแล้วพวกนี้จะยังไม่ค่อยรู้จังหวะหรือการออกน้ำหนักส่วนใหญ่จะออกแรงเยอะเกินไปพลาดขึ้นมาไม่อยากจะคิด

3.รันโดริในท่ายืนเบาะนี้คนเยอะสนุกและเหนื่อยกว่าเบาะแรกเพราะอย่างน้อยก็ต้องเจอคนจะรอบอยู่แล้วไม่รู้ว่าเตี้ยมกันมารึเปล่า ทำไมรู้สึกว่าสายดำมาเยอะจังในวันนี้ วนจนถึงคนสุดท้ายหมดแรงโดนคู่ซ้อมทุ่มเละ

จากการซ้อมก็ต้องมีการสอน เบาะนี้ได้เวลามานิดหน่อยในการสอนท่าซังกะกุจิเมะจากด้านหน้า

การซ้อมครั้งที่สาม เบาะแห่งที่สามแถวสถานีคอร์เวย์เบย์

เบาะนี้รุ่นพี่โคโดกังเป็นอาจารย์สอนอยู่เบาะนี้ถือเป็นเบาะที่เก่าแก่เบาะนึง ชื่อว่าเบาะscaa เทียบกับไทยคงประมาณกกท.สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยทำนอนนั้น ออกจากสถานีแล้วต้องเดินขึ้นเขาไปซักพักถึงจะถึงเรียกว่าเดินขึ้นมาก็เหนื่อยละ เบาะอยู่ที่ชั้นสองของตัวตึกชั้นล่างสอนคาราเต้ส่วนชั้นสองเป็นยูโด

ในทั้ง3เบาะเบาะนี้คนเยอะและหลากหลายฝีมือเบาะนี้จะว่าไปแล้วมันคุ้นเคยง่ายกว่า2เบาะที่ผ่านมาเพราะนอกจากรุ่นพี่จะเป็นอาจารย์สอนอยู่แล้วยังมีเพื่อนฮ่องกงอีกหลายคนที่รู้จักกันจากการซ้อมตอนซัมเมอร์ที่โคโดกังเรียกว่าเป็นการรียูเนียนก็ว่าได้ จำนวนคนที่มาซ้อมทั้งหมด ไม่ได้นับแต่มากกว่า20คนรันโดริในวันนี้ถือเป็นการทำตามสัญญาที่เค้าตกลงกันไว้ตอนที่ซ้อมซัมเมอร์คอร์สด้วยกันเนื่องจากตอนนั้นกระดูกไหปลาร้าหักทำให้ไม่สามารถรันโดริกับใครได้อย่างเต็มที่

เนื้อหาในการซ้อม เริ่ม18.30-22.00

1.วอร์มอัพ การวอร์มอัพที่นี้ใกล้เคียงกับของโคโดกังมีการยึดกล้ามเนื้อวิดพื้น ซิทอัพ และอื่นๆในการขยับตัวม้วนหน้าม้วนหลังและตบเบาะ

2.อุจิโกมิในท่ายืน

3.นาเกะโกมิ การเข้าท่าและทุ่ม

4.รันโดริในท่านอน

5.รันโดริในท่ายืน

6.นอกรอบหลังเลิกแล้วยังมีคิวรันโดริที่ต้องเก็บให้หมด อย่างว่าตามธรรมเนียมไม่ควรปฏิเสธคู่ซ้อมถ้าหากเป็นทีมเยือน

สิ่งที่ได้มาจากเบาะนี้

1.บรรยากาศในการซ้อม ตลก สนุกสนานเนื่องจากรุ่นพี่เป็นคนสอนมันถึงออกมาแนวนี้ไม่แปลกใจอยู่แล้วนักเรียนคนไหนอย่าล้มลงระหว่างการซ้อมละกันจะโดนรุมทับเพิ่งเคยเจอการเรียนการสอนยูโดบนบรรยากาศแบบนี้เป็นครั้งแรกปกติที่ญี่ปุ่นจะมีแต่ตลกแบบมีขอบเขต

2.ท่าทานิโอโตชิที่เป็นท่าถนัดของรุ่นพี่ และจังหวะการเข้าท่าไทโอโตชิจากการรันโดริกับเพื่อนอีกคนนึง(เป็นอาจารย์ที่นี่เช่นกัน)เนื่องจากรุ่นพี่ลาออกจากการเป็นอาจารย์สอนยูโดที่นี้โดยมีผลตอนสิ้นปี2013ทำให้การเรียนการสอนวันนี้และอีกครั้งนึงที่เหลือจะเป็นท่าที่รุ่นพี่ถนัดและตั้งใจอยากที่จะสอนให้ลูกศิษย์

3.เพื่อนหลายคนสนิทกันง่ายมากอาจจะเป็นเพราะผมเป็นเพื่อนกับอาจารย์เค้า หรือไม่ก็เค้ายอมรับในโคโดกังตั้งแต่ตอนตบเบาะด้านข้าง และการม้วนตัวตบเบาะแล้วทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าการม้วนตัวทำอุเกมิของโคโดกังนั้นสุดยอดทั้งเสียงจังหวะมือ การวางขา การดีดตัวขึ้นมายืนหลังจากการม้วนตัวตบเบาะ รวมไปถึงการรันโดริ

4.รันโดริวันนี้คู่ซ้อมฝีมือหลากหลายระดับ สิ่งที่จำเป็นอีกอย่างของทีมเยือนคือการปรับฝีมือให้เข้ากับคู่ซ้อมทุกระดับฝีมือจุดนี้ถ้าทำได้ดีจะรู้สึกว่าแม้แต่การรันโดริกับเด็กตัวเล็กๆก็ยังสนุกและเป็นการฝึกซ้อมที่ดีเช่นกันการรันโดริในวันนี้แรกๆก็รันกันจนเต็มเบาะหลังๆกลายเป็นว่าคนที่อยากเจอกับผมก็ต่อแถวเรียงคิวกันรุ่มยำผมคนเดียวในช่วงท้ายๆกับช่วงที่เคารพเบาะไปแล้วแรกๆก็ยังพอไหวคนละ3นาทีแต่ตอนท้ายๆที่ทุกคนล้อมวงดูผมเจอยำนั้นต้องขอเปลี่ยนเป็น2นาทีแทน วันนี้พอใจมากๆในการซ้อมเพราะท่าที่ใช้ออกไปส่วนใหญ่จังหวะมันตรงกับท่าพอดีและทุ่มแล้วสามารถยืนเซฟอีกฝั่งได้ด้วยท่าที่ใช้หลักๆก็เดอาชิบารัย ซาซาเอะทรึริโกมิอาชิ โคอุจิการิ โอโซโตการิและอุจิมาตะ เรียกว่าเป็นท่าขาล้วนๆ

5.บุฟเฟต์ฮอตพ๊อต หลังจากการซ้อม กินกันจนตีสองไม่มีรถไฟให้กลับ- -;

การสอนแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ได้เรียนรู้มา

1.โคอุจิการิท่านี้เพื่อนๆในเบาะเรียกร้องกันอีกตามเคย วันนี้ลงลึกกันหน่อยแบ่งเป็นสองส่วนในแบบพื้นฐานกับแบบแอดวานซ์ที่จะต่างกันเล็กน้อยในสเต็ปของขาที่สองรวมถึงวิธีการก้าวขาเพื่อใช้ดับเบิ้ลโคอุจิการิ

2.อุจิมาตะ เนื่องจากวันนี้อุจิมาตะผมเข้าตามเป้าที่ต้องการจะใช้ซะส่วนใหญ่สามารถใช้จัดการเพื่อนฮ่องกงสายดำไปหลายคนแบบงามๆทั้งยังยืนเซฟในจังหวะสุดท้ายได้ด้วยไม่เว้นแม้แต่คนที่มีน้ำหนักตัวเกิน100โลอัพ ทำให้มีเพื่อนสนใจที่ถามถึงหลักของการซ้อมเพื่อที่จะให้ออกมาเป็นอุจิมาตะอย่างที่ผมเป็นอยู่

3.จูจิกาตาเมะท่านี้เป็นท่าที่ผมต้องคิดแล้วคิดอีกก่อนที่จะใช้ออกไป เพราะกลัวพลาดทำคู่ซ้อมเจ็บแต่สำหรับคนฮ่องกงแล้ว ส่วนใหญ่ชอบใส่ท่านี้เมื่อมีโอกาสซะทุกทีขาดแต่ไม่สามารถดึงแขนของอีกฝั่งออกมาให้ตึงได้จุดนี้ผมมีเทคนิคที่จะสามารถจัดการให้เอาแขนออกมาให้ตึงหักได้โดยง่ายก็แชร์หลักการกันไป

4.โอโซโตการิท่านี้ผมก็ไม่ค่อยใช้โดดๆท่าเดียวซักเท่าไหร่ ก็สอนพื้นฐานการใช้มือในท่าโอโซโตการิและวิธีการซ้อนท่าโดยเอาโอโซโตการิเข้าไปเป็นส่วนผสม เช่นเดอาชิบารัย+โอโซโตการิโอโซโตการิ+ซาซาเอะ หรือ ซาซาเอะ+โอโซโตการิ และ โอโซโตการิ+ฮิสะกุรุม่าด้านหลัง

การซ้อมครั้งที่สี่ เบาะเดิม(เหมือนครั้งก่อน)แถวสถานีคอร์เวย์เบย์

วันนี้แรกๆไม่อยากซ้อมแล้วจะเอาเวลาไปเดินเที่ยวเดินกินในฮ่องกงบ้างแต่ว่าวันนี้รุ่นพี่สอนเป็นวันสุดท้ายที่เอสซีเอเอทำให้เหมือนมีความรู้สึกว่าน่าจะไปซ้อมอีกซักครั้ง รันโดริวันนี้ช่วงท้ายๆเล่นได้ไม่ดีนักหมดแรงไปเฉยๆโดนทุ่มซะส่วนใหญ่

เนื้อหาในการซ้อม เริ่ม19.30-22.00ทั่วไปแล้วเหมือนกับคราวที่แล้ว

สิ่งที่ได้เพิ่มเติมมาจากเบาะนี้

1.โซเดทรึริโกมิโกชิท่านี้เป็นอีกท่าที่รุ่นพี่ถนัด แต่ผมไม่ถนัดเอาซะเลยผมมีท่าโซเดในแบบของผมอยู่แล้วแต่ในเมื่อมาซ้อมที่นี้ก็ควรที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมก็ลองทำดู (สงสัยท่านี้ในเวอร์ชั่นรุ่นพี่คงไม่เหมาะกับผมเพราะไม่ชำนาญหากใช้ตามแบบที่รุ่นพี่สอนคงทำคู่ซ้อมเจ็บแน่ๆ)

2.พวงกุญแจกับเสื้อยึดของเบาะนี้1ตัว

การสอนแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ได้เรียนรู้มา

1.หลักพื้นฐานทั่วไปของการทุ่มด้วยสะโพกสามารถดัดแปลงเอาไปใช้กับท่าฮาเนโกชิและฮาไรโกชิได้รวมไปถึงอุจิมาตะแบบที่ปัดเข้าที่ขาแรกด้วย

2.ไทโอโตชิเวลามีไม่เยอะไม่สามารถลงลึกในรายละเอียดได้คงต้องเน้นกันที่พื้นฐานทั่วๆไปและรายละเอียดที่สำคัญของท่านี้

3.ซาซาเอะทรึริโกมิอาชิ สำหรับเก็งกังโยตสึ

4.ไฮไลต์ของวันนี้ ท่าโอคุริเอริจิเมะที่คราวก่อนผมจับคู่ซ้อมเชือดด้วยท่านี้ไป2-3คนทำให้คนที่โดนไปอยากจะเรียนรู้หลักการคร่าวๆของท่านี้

5.โอบิโทริไคเอชิ ตอนเนวาซะรันโดริใช้ออกไปแล้วอาจารย์ของเบาะนี้ที่เป็นผู้หญิงเห็นเข้าพอดีเลยสนใจที่อยากจะให้แชร์ให้กับเพื่อนคนอื่นๆในเบาะ

สรุปแล้วโดยรวมบรรยากาศการซ้อมของคนฮ่องกงนั้นก็สนุก ให้ความสำคัญกับการวอร์มอัพ แต่ว่าไม่ค่อยเน้นในการสร้างสมรรถภาพทางร่างกายในส่วนของท่านอนซักเท่าไหร่ สำหรับท่ายืนขาส่วนใหญ่แล้วขยับตัวกันดี ท่าฮิตเนื้อดีพิมพ์นิยมของคนฮ่องกงที่เจอมาในการซ้อม เซโอนาเกะ ไทโอโตชิ โอโซโตการิ โอโกชิ โทโมนาเกะ การซ้อมเป็นไปอย่างสนุกสนาน สนใจที่จะเรียนรู้ติดขัดตรงไหนก็จะถามทันที คนฮ่องกงหลายๆคนที่เล่นยูโดนั้นพูดภาษาญี่ปุ่นได้เล็กน้อยในระดับที่สื่อสารได้ เปิดใจให้กับคนต่างชาติ บางคนภาษาอังกฤษคล่องมากๆเพราะเรียนอยู่หรือเรียนจบจากอังกฤษไม่ก็อเมริกา สำหรับบรรยากาศในเบาะนั้นเป็นมิตรและต้อนรับกันด้วยความอบอุ่น (เจอรันโดริครบคนเข้าไปจากอบอุ่นกลายเป็นร้อนและเหนื่อยมากๆ) หากมีโอกาสคงต้องขอไปซ้อมอีกบ่อยๆ

Create Date : 01 มกราคม 2557
Last Update : 1 มกราคม 2557 0:08:06 น.		1 comments
Counter : 3008 Pageviews.
Share Tweet