Group Blog
 
All Blogs
 
นางผู้รักลูกยิ่งชีวิต (๒)

สามก๊กฉบับฮูหยิน

นางผู้รักลูกยิ่งชีวิต

ตอนที่ ๒ กรรมของสองแม่ลูก

"เล่าเซี่ยงชุน"

เมื่อ เล่าปี่ กลับไปรักษาเมืองซินเอี๋ยนั้น โจโฉ ก็ให้ แฮหัวตุ้น คุมพลสิบหมื่นมาตีเมืองซินเอี๋ย แต่ผลปรากฎว่าถูกเล่าปี่และ ขงเบ้ง ที่ปรึกษากับ กวนอู เตียวหุย จูล่ง สามทหารเสือดักโจมตีที่ทุ่งพกบ๋องนอกเมืองซินเอี๋ย จนแตกพ่ายไปอย่างยับเยิน

โจโฉจึงต้องยกทัพใหญ่มีกำลังพลห้าสิบหมื่น มาตีเมืองซินเอี๋ยด้วยตนเอง

คราวนี้เล่าเปียวได้ข่าวก็ตกใจล้มป่วยลง และให้ตามตัวเล่าปี่มาหาที่เมืองเกงจิ๋ว และออกปากฝากฝังบ้านเมืองว่า

".....ตัวเราทุกวันนี้เป็นไม้ใกล้ฝั่ง นับวันอยู่แต่จะตาย ซึ่งให้หาท่านมาบัดนี้ หวังจะฝากเมืองเกงจิ๋วแก่ท่าน ด้วยว่าบุตรเรานี้ สติปัญญาก็อ่อนนัก แม้ว่าบุญเราหาไม่ จะรักษาบ้านเมืองสืบไปเห็นจะขัดสน ตัวท่านเป็นผู้ใหญ่มีสติปัญญา จงช่วยรักษาบ้านเมืองไว้ อย่าให้เป็นอันตรายไปแก่ผู้อื่นเลย....."

เล่าปี่ก็คำนับแล้วร้องไห้ว่า

"....ตัวข้าพเจ้าทุกวันนี้ มีความสุจริตต่อท่านด้วยกตัญญูมิได้คิดสิ่งไร ถึงว่าท่านจะหาบุญไม่ก็ดี ข้าพเจ้าจะช่วยทำนุบำรุงบุตรท่านทั้งสองสืบไป....."

แม้ว่าเล่าปี่จะนอบน้อมถ่อมตนต่อเล่าเปียวผู้อาวุโส แต่นางชัวฮูหยินที่แอบฟังความอยู่ก็น้อยใจว่า เล่าเปียวนั้นรักเล่าปี่มากกว่าบุตรภรรยา จะยกบ้านเมืองให้ หามีความเอ็นดูต่อบุตรของตนเองไม่

เมื่อเล่าปี่ขอลาไปป้องกันเมืองซินเอี๋ยแล้ว นางจึงให้ ชัวมอ น้องชายกับ เตียวอุ๋น ผู้เป็นที่ไว้วางใจ คอยดูแลตรวจตราที่พักของเล่าเปียว มิให้ผู้ใดเข้ามาหาถึงตัวได้อีก

ฝ่ายเล่ากี๋ซึ่งไปอยู่ที่เมืองกังแฮได้ข่าวว่าบิดาป่วยหนักก็รีบมาเยี่ยม แต่ ชัวมอกับเตัยวอุ๋นไม่ยอมให้เข้าไปพบอ้างว่า

"...ตัวท่านนี้บิดาให้ไปอยู่รักษาเมืองกังแฮ มิได้ให้หามา แลท่านทิ้งเมืองเสียฉะนี้ แม้ซุนกวนรู้จะยกกองทัพจู่มาตีเอา เมืองกังแฮนั้น จะมิเสียหรือ อนึ่งบิดาท่านป่วยหนักอยู่ ซึ่งท่านจะเข้าไปบัดนี้ ก็เห็นว่าบิดาท่านจะโกรธ ว่าทิ้งเมืองเสีย โรคนั้นก็จะกำเริบขึ้น เหลือกำลังก็จะถึงแก่ความตาย เหมือนท่านเอายาพิษมาเจือเข้าอีก....."

เล่ากี๋ได้ฟังดังนั้นก็ร้องไห้ ขึ้นม้ากลับไปด้วยความเสียใจ

ตัวเล่าเปียวนั้นก็ป่วยหนักลงทุกวัน คอยบุตรชายคนโตก็ไม่เห็นมาจนถึงเดือนสิบขึ้นสามค่ำ ก็ถึงแก่ความตาย นางชัวฮูหยินก็ปรึกษากับชัวมอเตียวอุ๋น ทำหนังสือเป็นลายมือของเล่าเปียวมีความว่า แม้ตนเองหาบุญไม่แล้ว ก็ให้ เล่าจ๋อง บุตรของนาง ชัวฮูหยิน รักษาแผ่นดินเมืองเกงจิ๋วสืบไป

แล้วนางชัวฮูหยินก็เรียกประชุมขุนนางน้อยใหญ่ และเอาหนังสือปลอมนั้นให้ดู พวกขุนนางทั้งปวงก็ไม่มีใครคัดค้าน เล่าจ๋องมีอายุได้สิบสี่ปี มีความคิดสติปัญญาดี จึงปรึกษากับขุนนางทั้งปวงว่า

".....บิดาเราหาบุญไม่แล้ว เล่าปี่ผู้อาเรา และเล่ากี๋ผู้พี่ก็ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งท่านทั้งปวงจะตั้งเราเป็นใหญ่นั้นไม่ควร ถ้าแลเล่าปี่เล่ากี๋มีความน้อยใจ จะยกกองทัพมาทำอันตรายเรา ท่านทั้งปวงจะคิดอ่านประการใด....."

ลีกุ๋ย ซึ่งเป็นขุนนางพลเรือนก็ว่า

".....ท่านว่านี้ชอบนักต้องด้วยประเพณีโบราณสืบมา ขอให้ท่านแต่งหนังสือไปเชิญเล่ากี๋ผู้พี่ มาเป็นเจ้าเมืองเกงจิ๋ว แล้วให้ เชิญเล่าปี่มาช่วยคิดอ่านกิจการทั้งปวง จะได้ป้องกันซุนกวนแลโจโฉสืบไป....."

ชัวมอก็ตวาดเอาว่า

".....เล่าเปียวจะตายก็เขียนหนังสือให้ไว้เป็นสำคัญ เราท่านทั้งปวงก็เป็นผู้ใหญ่ช่วยกันคิดอ่านทำนุบำรุงอยู่ แลซึ่งจะให้มีหนังสือไปเชิญ เล่ากี๋เล่าปี่มานั้น คนทั้งสองนี้จะมีสติปัญญาความคิดมาเป็นประการใด....."

ลีกุ๋ยขัดใจก็ด่าชัวมอว่า

".....เป็นคนหาปัญญามิได้ ไม่กระทำตามขนบธรรมเนียมแต่ก่อนจัดแจงเอาเองตามอำเภอใจฉะนี้ จะทำให้แผ่นดินเมืองเกงจิ๋ว แลหัวเมืองทั้งเก้านี้เป็นอันตรายยิ้ม แลตกอยู่ในเงื้อมมือผู้อื่นเป็นมั่นคง แค้นใจด้วยท่านผู้มีวาสนาซึ่งตายไปนั้น มิมาหักคอเอาไปเสียเลย....."

ชัวมอก็โกรธจึงสั่งให้เอาตัวลีกุ๋ยไปประหารเสีย ลีกุ๋ยก็ด่าช้วมอไม่ขาดปาก จนทหารลงดาบขาดใจตายไป

ชัวมอก็ตั้งเล่าจ๋องขึ้นเป็นเจ้าเมืองเกงจิ๋วสืบแทนเล่าเปียวและแต่งตั้ง
สมัครพรรคพวกแซ่เดียวกันขึ้นเป็นใหญ่ ทั้งทหารและพลเรือนทุกตำบล แล้วให้อยู่รักษาเมืองเกงจิ๋ว ส่วนตนเองพานางชัวฮูหยินกับเล่าจ๋องไปอยู่ที่เมืองซงหยง เพื่อป้องกันมิให้ เล่าปี่และเล่ากี๋ยกมาตีเมืองเกงจิ๋ว

แต่ปรากฎว่ากองทัพโจโฉมาถึงก่อน เล่าจ๋องก็ตกใจปรึกษากับชัวมอแล ขุนนางทั้งปวงว่าจะทำประการใด ฮูสวน ซึ่งเป็นขุนนางผู้ใหญ่ก็ว่า

"....นี่หากว่าโจโฉยกทัพมา ท่านจึงรู้จักสำนึกตัวกลัวอันตราย ถึงมารตโจโฉไม่ยกมา ดีร้ายเล่าปี่กับเล่ากี๋ก็จะยกมาเป็นมั่นคง เพราะท่านทำการละเมิดแต่ตามอำเภอใจ มิได้บอกให้เล่าปี่กับเล่ากี๋รู้ด้วย แม้เล่าปี่เล่ากี๋มีความน้อยใจ จะยกกองทัพมาตีกระหนาบเข้า เห็นท่านจะได้ความเดือดร้อน กลอุบายของข้าพเจ้ามีอยู่ประการหนึ่ง แม้ท่านกระทำตาม ชาวเมืองทั้งปวงก็จะไม่มีอันตราย ทั้งตัวท่านก็จะได้ครองเมืองเป็นสุขสืบไป....."

เล่าจ๋องก็ถามว่าอุบายนั้นคืออย่างไร ฮูสวนก็บอกว่า

"....ขอให้ท่านยกเมืองเกงจิ๋ว กับทั้งเก้าหัวเมืองนี้ให้แก่โจโฉ เห็นโจโฉจะมีความยินดีก็จะชุบเลี้ยงให้มีความสุข...."

เล่าจ๋องได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงว่า

"....บิดาเราถึงแก่ความตาย บัดนี้เราได้ครองเมืองยังมิทันใดแลท่านมาคิดอ่านจะให้เราเอาเมืองไปให้แก่โจโฉนั้นเพราะเหตุสิ่งใด....."

เก๊งอวด ขุนนางอีกคนหนึ่งก็ว่า

"...อันฮูสวนว่านี้ชอบนัก เพราะเกิดมาเป็นคน จำจะรู้จักที่หนักที่เบาจึงควร แลทุกวันนี้โจโฉได้เป็นมหาอุปราชมีน้ำใจกำเริบ จะทำการสิ่งใดก็ถือเอารับสั่ง พระเจ้าเหี้ยนเต้ เป็นประมาณ เที่ยวปราบปรามได้บ้านเมืองเป็นอันมาก บัดนี้ท่านก็พึ่งตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่ แต่การภายในพี่น้องของท่านก็ยังไม่ปกติกัน ซึ่งจะคิดอ่านทำศึกภายนอกนั้นเห็นไม่ควร แม้โจโฉยกมาถึงแล้ว อาณาประชาราษฎรทั้งปวงก็จะกลัว และชวนกันหนีไปเข้าด้วยโจโฉสิ้น เห็นท่านจะสู้ไม่ได้....."

เล่าจ๋องก็เสียงอ่อนลงว่า

"...ซึ่งท่านว่านี้ชอบอยู่แล้ว แต่ว่าบิดาเรามอบเมืองไว้ยังมิทันไร จะยกให้ผู้อื่นเสียนั้น ก็เหมือนหนึ่งเรารักษาทรัพย์มรดกของบิดามิได้ จะมิเป็นที่ครหานินทาติเตียนแก่เราหรือ....."

อองซัน ที่ปรึกษาอีกคนหนึ่งก็ว่า

".....อันฮูสวนกับเก๊งอวดว่านั้นชอบนัก เหตุใดท่านจึงไม่ทำตาม ท่านประมาณใจท่านเห็นจะสู้โจโฉได้อยู่หรือ บัดนี้โจโฉก็มีที่ปรึกษาแลทหารมีฝีมือเป็นอันมาก แต่ ลิโป้ กับ อ้วนเสี้ยว อ้วนสุด ซึ่งมีสติปัญญาแลกำลัง โจโฉยังรบพุ่งทำอันตรายกำจัดเสียได้ แล้วมีใจกำเริบขึ้นเป็นอันมาก บัดนี้โจโฉยกมา กำจัดหัวเมืองฝ่ายใต้ ซึ่งท่านจะคิดอ่านสู้รบมิได้อ่อนน้อมต่อโจโฉนั้น นานไปท่านจึงจะรู้จักสำนึก เพราะท่านมิได้ฟังคำคนทั้งปวง....."

เล่าจ๋องได้ฟังขุนนางผู้ใหญ่ทั้งหลายพากันพูดเป็นเสียงเดียว ก็จนปัญญา แต่บ่ายเบี่ยงขอไปปรึกษามารดาก่อน พอดีนางชัวฮูหยินเดินออกมาจากที่ข้างใน จึงว่าแก่บุตรชายว่า

".....ท่านทั้งสามปรึกษาเห็นชอบพร้อมกันแล้วจึงว่ากล่าวทั้งนี้ เจ้าจะกลับเอาเนื้อความมาปรึกษาแม่ใยเล่า เจ้าจงประพฤติตามที่ชอบนั้นเถิด....."

เล่าจ๋องก็เชื่อฟังมารดาให้เขียนหนังสือไปขออ่อนน้อมต่อโจโฉ พอโจโฉยกมาถึงแดนเมืองอ้วยเซียได้รับหนังสือนั้นก็มีความยินดี แต่ให้เล่าจ๋องออกมาคำนับตามประเพณีก่อน แล้วจะช่วยทำนุบำรุงให้เป็นสุขสืบไป

ขณะนั้นเล่าปี่ได้ทราบข่าวว่าเล่าเปียวถึงแก่ความตาย เล่าจ๋องได้ขึ้นเป็นใหญ่แล้วคิดอ่านกับชัวมอและนางชัวฮูหยิน จะยกเมืองเกงจิ๋วให้โจโฉ ก็คิดจะรบกับโจโฉเพื่อชิงเอาเมืองเกงจิ๋วไว้ จึงยกกองทัพไปตีโจโฉที่เมืองอ้วนเซียจน โจหยิน ทหารเอกที่เป็นญาติของโจโฉแตกพ่ายไปอีก โจโฉจึงยกกองทัพใหญ่ของตนเข้าตีเล่าปี่ที่เข้ายึดเมืองอ้วนเซียไว้ เล่าปี่เห็นว่ากำลังของตนน้อยกว่าก็ถอยไปทางเมืองซงหยง แต่เข้าไม่ได้เพราะชัวมอขัดขวางไว้ เกิดการรบพุ่งเป็นจลาจลไปทั่วเมือง เล่าปี่จึงต้องถอยต่อไป หวังจะตั้งหลักที่เมืองกังแฮ

โจโฉก็ตามมาถึงเมืองซงหยง ชัวมอกับเตียวอุ๋นก็ออกไปต้อนรับโจโฉที่ นอกเมือง โจโฉจึงแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพเรือ และให้พาเล่าจ๋องออกมาคำนับตามที่ตกลง เช้าวันรุ่งขึ้น เล่าจ๋องกับนางชัวฮูหยิน ก็จัดแจงเครื่องบรรณาการ ออกไปคำนับพาโจโฉ เข้าเมืองซงหยงและมอบตราสำหรับตำแหน่งให้ด้วย โจโฉก็ตั้งให้เก๊งอวดเป็นเจ้าเมือง กังเหลง ให้ฮูสวนกับอองซันเป็นขุนนางผู้ใหญ่ และให้เล่าจ๋องเป็นเจ้าเมืองเฉงจิ๋ว

เล่าจ๋องรู้ว่าต้องจากบ้านเมืองของตนไปก็อ้อนวอนว่า

".....ซึ่งท่านจะตั้งให้ข้าพเจ้าเป็นเจ้าเมืองเฉงจิ๋วนั้น คุณมหาอุปราชหาที่สุดมิได้ ซึ่งข้าพเจ้าอุตส่าห์ออกมาคำนับท่านทั้งนี้ ใช่จะมีความปรารถนาเป็นเจ้าบ้านผ่านเมืองนั้นหามิได้ ข้าพเจ้าจะขอเป็นแต่ไพร่อยู่ในเมืองเกงจิ๋วนี้ จะได้รักษาศพของบิดา แลญาติทั้งปวงตามประเพณี ขอท่านได้กรุณาแก่ข้าพเจ้าเถิด....."

โจโฉก็ว่าเมืองเฉงจิ๋วนั้นอยู่ใกล้เมืองหลวง จะได้เฝ้าแหน พระเจ้าเหี้ยนเต้ สะดวก และเมืองเกงจิ๋วนั้นเป็นชายแดนหน้าศึก ต่อไปจะได้รับความลำบาก เล่าจ๋องมีความกลัวโจโฉ ขัดมิได้ก็ต้องจำใจคำนับลา แล้วพามารดา
ไปเมืองเฉงจิ๋ว พร้อมด้วย อองอุ้ย ผู้จงรักภักดี

ส่วนพวกขุนนางทั้งปวงพากันมาส่งถึงฝั่ง ท่าน้ำแล้วก็กลับไปสิ้น

นางชัวฮูหยินกับบุตรชายเดินทางไปได้ไม่เท่าไร อิกิ๋ม ทหารเอกของโจโฉก็คุมทหารตามมาทัน แล้วร้องบอกว่า

"...บัดนี้มหาอุปราชใช้ให้เราตามมาฆ่าท่าน แม่ลูกทั้งสองเสีย ท่านอย่าวุ่นวายไปเลย จงนิ่งให้เราตัดศรีษะไปให้มหาอุปราชเสียโดยดีเถิด...."

นางชัวฮูหยินได้ฟังก็ตกใจกอดคอเล่าจ๋องร้องไห้กันระงม อองอุ้ยโกรธแค้น
แทนนาย ก็หันเข้าต่อสู้ขัดขวาง อิกิ๋มก็ให้ทหารจับตัวไปฆ่าเสีย แล้วก็ตัดศรีษะสองแม่ลูกไปให้โจโฉตามคำสั่ง

ชีวิตของมารดาที่รักบุตรมากเกินไป จนตัดสินใจผิดพลาด ไม่รู้จักแยกมิตรและศัตรู จึงต้องสิ้นชีพลงทั้งคู่ ด้วยฝีมือของข้าศึก ที่ไร้ความเมตตาปราณี เช่นนี้.

##########


Create Date : 26 เมษายน 2559
Last Update : 26 เมษายน 2559 8:57:17 น. 2 comments
Counter : 458 Pageviews.

 
แวะมาลงชื่ออ่านเป็นคนแรกค่ะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 26 เมษายน 2559 เวลา:13:38:39 น.  

 
ขอบคุณครับ ใครไม่อ่านก็ไม่ส่า ขอให้คุณป้ากุ๊กอ่าน ก็พอใจแล้วครับ

หามาอีกก็ได้ครับ ผมจะได้มีเรื่องเล่นต่อไปครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 26 เมษายน 2559 เวลา:14:18:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.