Group Blog
 
All Blogs
 
คนดวงดี

เสี้ยวสามก๊ก

คนดวงดี

เล่าเซี่ยงชุน “

ข้อความที่ปรากฎอยู่ในตำนานเรื่องสามก๊ก พระนิพนธ์ของ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ว่า ผู้แต่งเป็นพวกเล่าปี่ ตั้งใจแต่จะยกย่องเล่าปี่เป็นสำคัญ นั้น เป็นความจริงแท้แน่นอน เพราะมีผู้คนในเรื่องที่นับถือและยกย่องเล่าปี่ ทั้ง ๆ ที่เล่าปี่ไม่ได้ทำอะไรให้เลย เป็นจำนวนมาก อย่างเช่น เล่าเปียวเจ้าเมืองเกงจิ๋ว เล่าเจี้ยงเจ้าเมืองเสฉวน จูล่งชาวเมืองเสียงสัน อุยเอี๋ยนชาวเมืองงีหยง แม้แต่โลซกที่ปรึกษาของเมืองกังตั๋ง รวมทั้งเรื่องที่ จะเล่าในตอนนี้ด้วย

เมื่อโตเกี๋ยมเจ้าเมืองเมืองชีจิ๋วป่วยหนัก ได้ขอร้องให้เล่าปี่ปกครองเมืองแทน โดยกล่าวว่า

“……..ทุกวันนี้ตัวเราก็ชรา ทั้งโรคก็บังเกิดป่วยหนัก มิรู้ว่าความตายจะมาถึงวันใด แต่วิตกอยู่ว่าเมืองชีจิ๋วหาผู้ใดว่าราชการเมืองมิได้ จึงให้เชิญท่านมาหวังจะมอบให้ท่าน จงมีใจเมตตาเรา รับตราสำหรับที่นี้ไว้ บำรุงราษฎรชาวเมืองสืบไป ให้เราสิ้นวิตก……”

เล่าปี่ก็ตอบว่า

“…….ท่านมีบุตรอยู่ถึงสองคน ชื่อว่าโตสงผู้พี่ โตเอ๋งผู้น้องนั้น เป็นไฉนท่านจึงมิมอบเมืองให้…….”

โตเกี๋ยมจึงว่า

“…….บุตรเราทั้งสองหาสติปัญญามิได้ ถ้าจะมอบเมืองให้ นานไปราษฎรทั้งปวงก็จะได้ความเดือดร้อน เราเห็นแต่ท่านมีใจกว้างขวางอารี จะครองเมืองได้ เราจึงเชิญมาว่ากล่าว ถ้าเราหาชีวิตไม่แล้ว ท่านอย่าให้บุตรเราทั้งสองครองเมืองเลย……..”

เล่าปี่ก็ถ่อมตัวว่า ตนเองมีกำลังน้อย จะครองเมืองชีจิ๋วซึ่งเป็นเมืองใหญ่นั้น เห็นจะขัดสน โตเกี๋ยมก็ว่าทหารในเมืองนี้มีมาก และจะให้ซุนเขียนกับบิต๊กที่ปรึกษา ช่วยทำราชการอยู่ด้วย ว่าแล้วก็สิ้นใจตายไป เล่าปี่จึงต้องยอมรับเป็นเจ้าเมืองชีจิ๋ว โดยมิได้คาดฝัน

ขุนนางเก่าของโตเกี๋ยมนั้น นอกจากซุนเขียนกับบิต๊กแล้ว ยังมีที่ปรึกษาอีกคนหนึ่งคือ ตันเต๋ง ซึ่งมีความภักดีต่อเล่าปี่ ก็ทำราชการอยู่กับเล่าปี่ต่อมา ด้วยความเต็มใจ และต่อมา เล่าปี่ก็ได้น้องสาวของบิต๊ก คือนางบิฮูหยินเป็นภรรยาคนที่สอง รองจากนางกำฮูหยิน

ครั้นลิโป้อัศวินใหญ่ ถูกโจโฉตีแตก หนีจากเมืองปักเอี้ยงและเมืองตันลิว มาขออาศัยอยู่ที่เมืองชีจิ๋ว เล่าปี่เกรงใจว่าลิโป้มีอาวุโสกว่า จะยกเมืองชีจิ๋วให้ปกครอง แต่ลิโป้ไม่กล้ารับจึงขอไปอยู่ที่เมืองเสียวพ่ายก่อน

อีกไม่นานโจโฉก็มีหนังสือ มายุให้เล่าปี่หาทางกำจัดลิโป้เสีย แม้เล่าปี่จะไม่เชื่อ แต่เมื่อเล่าปี่ได้รับคำสั่งจากโจโฉในนามของฮ่องเต้ ให้ยกทัพไปตีเมืองลำหยงของอ้วนสุด เตียวหุยอยู่รักษาเมืองชีจิ๋วกับตันเต๋ง เตียวหุยก็หาเรื่องทำโทษโจป้าพ่อตาของลิโป้ ให้ได้รับความเจ็บอาย ลิโป้จึงถือโอกาสยกทหารมาตีเมืองชีจิ๋ว เตียวหุยสู้ไม่ได้ก็หนีออกจากเมืองไปหาเล่าปี่ ปล่อยให้ลิโป้ยึดครองเมืองชีจิ๋วแทน

เล่าปี่จึงเลิกทัพจากเมืองลำหยงกลับมา ด้วยความเป็นห่วงครอบครัว แต่ลิโป้ระลึกถึงคุณเล่าปี่ จึงดูแลภรรยาสองคนของเล่าปี่เป็นอย่างดี และเชิญให้เล่าปี่เป็นเจ้าเมืองดังเดิม แต่เล่าปี่มิยอมอยู่ขอลาไปอยู่เมืองเสียวพ่ายแทน ลิโป้ก็ส่งเสบียงอาหารให้มิได้ขาดแคลน

อ้วนสุดได้ทีก็ให้ทหารเอกยกทัพมาตีเมืองเสียวพ่าย ลิโป้ก็ช่วยขัดขวางไว้จนทหารของอ้วนสุดต้องยกกลับไป ต่อมาอ้วนสุดคิดจะเอาลิโป้เป็นพวก เพื่อกำจัดเล่าปี่ จึงสู่ขอบุตรสาวของลิโป้ ให้แก่ลูกชายของตน นางเหงียมซีผู้เป็นมารดาก็เห็นด้วย

แต่พอลิโป้จัดขบวนแห่ส่งตัวบุตรสาว ไปกับหันอิ้นเถ้าแก่ของอ้วนสุด มีดนตรีประโคมอื้ออึง ผู้เฒ่าตันกุ๋ยบิดาของตันเต๋งที่นับถือเล่าปี่ ก็ทำอุบายแต่งตัวโพกผ้าขาวหน้าตาโศกเศร้าเข้าไปหาลิโป้ ครั้นลิโป้ถามก็ตอบว่าตนได้ยินเสียงดนตรีครึกโครม คิดว่าเขาประโคมศพลิโป้ จึงมาหวังจะคำนับศพ ลิโป้ก็ตกใจว่าผู้ใดบอกว่าตนจะตาย ตันกุ๋ยก็ชี้แจงโดยอ้อมค้อมว่า

“…….แต่ก่อนท่านรับสิ่งของเป็นสินบนของอ้วนสุด แล้วภายหลังท่านก็ยกไปช่วยเล่าปี่ ครั้นมาบัดนี้ได้ยินว่าท่านยกลูกสาวให้แก่บุตรอ้วนสุด เมื่อท่านกับอ้วนสุดเกี่ยวดองกันแล้ว อ้วนสุดก็จะยกไปตีเมืองเสียวพ่าย ท่านจะไปช่วยเล่าปี่ก็มิได้ เมื่อเมืองเสียวพ่ายเสียแก่อ้วนสุดแล้ว เห็นว่าเมืองชีจิ๋วจะไม่เป็นสุข……..”

ตันกุ๋ยเห็นลิโป้ชักจะหลงคารมของตน จึงสาธยายต่อไปอีกว่า

“…….. อ้วนสุดจะเบียดเบียนยืมทหารแลเสบียง ท่านจะเสียอ้วนสุดมิได้ ราษฎรทั้งปวงก็จะได้ความเดือดร้อน เห็นท่านกับอ้วนสุดก็จะผิดใจกันเป็นมั่นคง ประการหนึ่งอ้วนสุดคิดขบถต่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ หัวเมืองทั้งปวงก็ย่อมแจ้งอยู่สิ้น แลท่านจะมาคิดกับอ้วนสุดดังนี้ คนทั้งหลายก็จะพลอยเป็นศัตรูท่าน…….”

ลิโป้ซึ่งมีฝีมือลือลั่น แต่ความคิดน้อย ก็หลงเชื่อคำพูดของตันกุ๋ย จึงให้ทหารเอกตามไปชิงตัวลูกสาวกลับคืนมา แล้วเอาเถ้าแก่ไปขังคุกไว้ ทำให้ผิดใจกับอ้วนสุดจนได้ ต่อมา เตียวหุยก็ก่อเรื่องขึ้นอีก โดยไปชิงม้าที่ลิโป้ให้ลูกน้องไปซื้อมาถึงสามร้อยตัว ลิโป้ก็ยกทหารมาจะจับตัวเตียวหุย ถือว่าเป็นโจรปล้นม้า เตียวหุยก็คิดสู้รบจึงว่าตนชิงม้านั้นลิโป้โกรธ แต่ทีลิโป้ชิงเมืองชีจิ๋วไปครองนั้น ตนไม่โกรธบ้างหรือ ทั้งสองจึงรบกันนับร้อยเพลง เล่าปี่จำต้องเข้าข้างเตียวหุยน้องชาย แต่ก็สู้ไม่ได้ ลิโป้ตีเมืองเสียวพ่ายแตก เล่าปี่จึงต้องพาพี่น้องหนีไปหาโจโฉ ที่เมืองฮูโต๋

โจโฉก็ดีใจตั้งให้เป็นเจ้าเมืองอิจิ๋ว แล้วให้เตรียมกำลังไว้ จะได้ช่วยกันกำจัดลิโป้ ให้ได้ ต่อมาโจโฉในฐานะผู้สำเร็จราชการของฮ่องเต้ ก็หลอกให้ลิโป้ไปช่วยรบเอาชนะอ้วนสุด จนอ้วนสุดหนีไปจากเมืองลำหยง โจโฉจึงให้เล่าปี่เป็นเจ้าเมืองเสียวพ่ายอีกครั้งหนึ่ง แต่สั่งไว้ว่าให้ร่วมมือกับตันเต๋งและตันกุ๋ยที่อยู่ในเมืองชีจิ๋ว ช่วยกำจัดลิโป้ให้จงได้

สองพ่อลูกจึงคอยยกยอปอปั้นลิโป้ ให้หลงระเริงในฝีมือและอำนาจของ
ตน จนไม่ยอมเชื่อฟังที่ปรึกษา ซึ่งเตือนว่าตันกุ๋ยกับลูกชายนั้นพูดจาสรรเสริญลิโป้แต่ปาก ใจนั้นคิดจะทำร้ายอยู่ตลอดเวลา นานไปจะมีอันตราย จนวันหนึ่งก็จับผู้ถือหนังสือจากเล่าปี่ถึงโจโฉได้ ก็รู้ว่าโจโฉร่วมมือกับเล่าปี่คิดกำจัดตน จึงยกกองทัพไปตีเมืองเสียวพ่ายแตก แล้วให้ทหารเอกรักษาไว้ บิต๊กซึ่งรักษาครอบครัวของเล่าปี่อยู่ในเมืองเสียวพ่าย ก็ขอร้องลิโป้มิให้ทำอันตรายแก่ครอบครัวของ เล่าปี่ ลิโป้ก็ว่า

“………อย่าวิตกเลย เรากับเล่าปี่เป็นมิตรกันมาแต่ก่อน ซึ่งครอบครัวของเล่าปี่นั้น เรามิได้ทำอันตราย……”

แล้วเมื่อลิโป้กลับเมืองชีจิ๋ว ก็ให้บิต๊กพาภรรยาของเล่าปี่ ไปอยู่ที่เมืองชีจิ๋วด้วย ส่วนเล่าปี่ซึ่งหนีเอาตัวรอดไปกับซุนเขียนสองคนนั้น ในระหว่างเดินทางนั้นมิได้มีเสบียงติดตัว ครั้นถึงบ้านรายทางตำบลใด ก็ชวนกันเข้าไปในบ้านราษฎร ซึ่งส่วนใหญ่ต่างก็มีใจรักเล่าปี่ รู้ว่าเล่าปี่ตกระกำลำบาก ก็แต่งโต๊ะอาหารรับรองให้เล่าปี่กับซุนเขียนกิน มิได้ขาด

เย็นวันหนึ่งเดินมาเป็นระยะทางที่ห่างตำบลบ้าน ไม่มีที่จะอาศัยจึงปรึกษา
หารือกัน พอดีเห็นมีบ้านหลังหนึ่งอยู่ในป่า ก็ดีใจจึงเข้าไปขออาศัย เจ้าของบ้านชื่อเล่าอั๋น เป็นคนเข็ญใจอยู่สองคนกับภรรยา ทำไร่ปลูกผักหาเนื้ออยู่ในตำบลนี้ เล่าปี่ก็บอกความที่หนีข้าศึกจะไปเมืองฮูโต๋ บัดนี้เวลาพลบค่ำแล้วจะขออาศัยนอนสักคืนหนึ่ง เล่าอั๋นก็เชิญทั้งสองเข้าไปในบ้าน และเข้าไปข้างในจัดแจงหาอาหารจะมาเลี้ยง แต่ไม่มีสิ่งอันใดเลย ครั้นจะไปเที่ยวหา ก็มืดค่ำลงแล้วไม่ทันการ เล่าอั๋นจึงฆ่าภรรยาของตนเสีย แล้วเชือดเอาเนื้อที่ลำแขนภรรยานั้น มาผัดคั่วเป็นเครื่องกับข้าว แล้วยกออกมาให้เล่าปี่กับซุนเขียนกิน ทั้งสองนั้นก็กินจนอิ่ม แล้วเล่าอั๋นก็เอาม้าสองตัวไปผูกไว้หลังบ้าน เชิญแขกเข้านอนในห้อง

ครั้นรุ่งเช้าเล่าปี่ลาเล่าอั๋นและไปเอาม้าหลังบ้าน พบศพผู้หญิงกลิ้งอยู่ก็
ตกใจ ถามเล่าอั๋นว่าศพผู้ใดจึงเอามาทิ้งไว้ดังนี้ เล่าอั๋นก็บอกว่าศพภรรยาของตนเอง และเล่าเนื้อความทั้งปวงให้เล่าปี่ฟัง เล่าปี่ก็ร้องไห้สงสารภรรยาของเล่าอั๋น แล้วจึงว่าคุณของท่านอยู่กับเราหาที่สุดมิได้ แม้เรายังมีชีวิตอยู่จะแทนคุณท่าน

เมื่อทั้งสองเดินทางต่อไปได้ประมาณสามร้อยเส้น ก็พบกับกองทัพของโจโฉ จึงพากันเข้าไปหาโจโฉเล่าเรื่องที่แตกมาจากเมืองเสียวพ่าย พลัดกับกวนอูเตียวหุย ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีประการใด แล้วก็ร้องไห้เล่าเนื้อความที่เล่าอั๋นฆ่าภรรยา เอาเนื้อมาเลี้ยงตนด้วย โจโฉจึงให้ซุนเขียนเอาทองร้อยตำลึง ไปให้เล่าอั๋นซึ่งมีคุณแก่เล่าปี่ แล้วก็พากันเดินทางไปถึงด่านเสียวก๋วน ใกล้เมืองเสียวพ่าย เพื่อทำศึกกับลิโป้

ฝ่ายลิโป้รู้ข่าวก็ปรึกษากับตันเต๋งเพื่อทำศึกใหญ่กับโจโฉ ตันเต๋งก็แนะนำให้ลิโป้ยกครอบครัว และเสบียงอาหารไปไว้ที่เมืองแห้ฝือก่อน เผื่อพลาดพลั้งจะได้มีที่อาศัย แล้วลิโป้ก็พาตันเต๋งไปในกองทัพยกไปยันกับโจโฉ ที่ด่านเสียวก๋วนใกล้เมืองเสียวพ่าย ตนเต๋งก็ให้ลิโป้หยุดตั้งกองทัพไว้นอกด่าน ตนเองรับอาสาไปฟังข่าวศึกในด่าน ซึ่งตันก๋งที่ปรึกษาของลิโป้รักษาอยู่ ตันเต๋งก็แอบเขียนหนังสือผูกลูกเกาทัณฑ์ ยิงไปทางกองทัพของโจโฉในเวลาค่ำ เป็นความว่า

“…….ข้าพเจ้าตันเต๋งจะอาสาเป็นใส้ศึกอยู่ในกำแพง ข้าพเจ้าจะเอาเพลิงจุดขึ้นเป็นสำคัญ ให้มหาอุปราชยกเข้าปล้น ข้าพเจ้าจะช่วยทำการให้สำเร็จ…….”

พอรุ่งเช้าก็ลาตันก๋งกลับมาหาลิโป้ ให้รีบยกกำลังเข้าไปช่วยตันก๋งในด่าน ลิโป้ก็ใช้ให้กลับไปบอกว่าตนจะยกเข้าไปในค่ำวันนี้ ตันเต๋งก็กลับไปบอกตันก๋งว่า

“……..ลิโป้สั่งมาว่า กำลังโจโฉมากเห็นท่านจะสู้โจโฉมิได้ แล้วด่านเสียวก๋วนนี้ก็ไม่เป็นที่สำคัญ ให้ยกทหารกลับไปเมืองชีจิ๋ว จะได้ช่วยลิโป้ป้องกัน……..”

ตันก๋งหลงเชื่อตันเต๋ง จึงพาทหารลอบหนีออกจากด่านเวลาค่ำ ตันเต๋งก็จุดเพลิงขึ้นเป็นสำคัญ โจโฉรู้ความจากหนังสือของตันเต๋งแล้ว ก็ยกทหารเข้าตีด่าน ส่วนลิโป้ก็ยกทหารจะเข้าด่านสวนกับทหารของตันก๋งในความมืด ทั้งสองฝ่ายคิดว่าแต่ละฝ่ายเป็นข้าศึก จึงเข้ารบพุ่งกันเป็นสามารถ ฆ่าฟันกันล้มตายเป็นอันมากทั้งสองฝ่าย โจโฉก็เข้ายึดด่านไว้ได้สำเร็จ

ครั้นเวลาสว่างขึ้นตันก๋งกับลิโป้จึงรู้ว่าหลงรบกันเอง และแจ้งว่าเหตุนี้เป็นเพราะกลอุบายของตันเต๋ง ลิโป้จึงพาตันก๋งและทหารที่เหลือ รีบกลับไปเมืองชีจิ๋ว ครั้นถึงเชิงกำแพงก็เรียกให้ทหารในเมืองเปิดประตูรับ

บิต๊กซึ่งอยู่บนกำแพงเมือง ก็ให้ทหารระดมยิงเกาทัณฑ์ลงไป แล้วร้องตะโกนบอกลิโป้ว่า

“……..เมืองชีจิ๋วนี้มิใช่ของตัว เป็นเมืองของเล่าปี่นายเราก่อน ตัวยกมาชิงเอา บัดนี้จะคืนเอาเมืองของนายเราแล้ว ตัวจงยกทหารกลับไปเสียเถิด…….”

ลิโป้ตกใจร้องถามว่า ตันกุ๋ยซึ่งให้รักษาเมืองนั้นไปไหนเล่า บิต๊กก็ว่าตนจับฆ่าเสียแล้ว ลิโป้ก็ยังเหลียวมาถามตันก๋งว่า ตันเต๋งบุตรของตันกุ๋ยมาด้วยหรือไม่ ตันก๋งก็ว่ามันหลอกให้เรารบกันเองแล้ว ไฉนจึงถามถึงอ้ายศัตรูอีกเล่า ลิโป้จึงได้สติแต่ก็ไม่สามารถจะหักเข้าเมืองได้ จึงพากันยกกลับไปเมืองเสียวพ่าย

ฝ่ายตันเต๋งเมื่อจุดเพลิงเป็นสัญญาณ ให้โจโฉยกทหารเข้ายึดด่านเสียวก๋วนแล้ว ก็รีบเข้าไปในเมืองเสียวพ่าย บอกกับทหารเอกสองคนที่ลิโป้ให้รักษาเมืองว่า

“……วานนี้โจโฉยกมาล้อมลิโป้ไว้ ลิโป้เห็นจะสู้โจโฉมิได้ จึงให้เรารีบมาหาท่าน ให้ท่านยกทหารไปช่วย…….”

ทหารเอกทั้งสองนายก็ตกใจสำคัญว่าจริง จึงยกทหารออกจากเมืองเสียวพ่ายจะไปช่วยลิโป้ จนไปพบกันกลางทาง จึงรู้ว่าถูกตันเต๋งหลอกเอาอีกแล้ว ลิโป้ก็ว่า

“………อย่าวิตกเลย ซึ่งตันเต๋งทรยศต่อเรานั้น เราจะตัดศรีษะมันเสียให้ได้….”

แล้วลิโป้ก็ทหารทั้งปวงยกไปเมืองเสียวพ่าย ครั้นถึงริมกำแพงก็เห็นทหารที่รักษาหน้าที่เชิงเทินอยู่มั่นคงนั้น ปักธงของกองทัพโจโฉ เพราะตันเต๋งออกไปพาทหารของโจโฉเข้าไปตั้งในเมืองเสียวพ่ายแทนตั้งแต่เมื่อวาน ลิโป้เห็นตันเต๋งอยู่บนเชิงเทิน ก็ร้องด่าว่า

“…….ตัวมึงสองคนพ่อลูก กูรักใคร่ตั้งให้เป็นขุนนาง บัดนี้มึงทรยศต่อกู กูจะตัด ศรีษะมึงเสียให้ได้…….”

ตันเต๋งก็ชี้มือลงมา แล้วร้องตอบโต้ว่า

“……..ตัวอย่าโอหังเจรจา เราเป็นข้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ต่างหาก เมื่อครั้งอ้วนสุดยกมาตีเมืองชีจิ๋วนั้น ก็เพราะความคิดของเรากับบิดาเรา ตัวจึงรอดจากความตาย บัดนี้กลับมาว่าเราทรยศอีกเล่า……..”

ลิโป้ก็โกรธเป็นกำลัง ขับทหารเข้าตีหักจะเอาเมืองเสียวพ่ายให้ได้ พอดีเตียวหุยคู่อาฆาตเก่ายกทหารมาแก้แค้น ลิโป้จึงต้องถอยไปจนเจอกวนอูเข้าอีกคนหนึ่ง ไม่สามารถจะต้านทานฝีมือของพี่น้องคู่นี้ได้ จำต้องพาพรรคพวกไปตั้งหลักที่เมืองแห้ฝือ ตามแผนของตันเต๋งจอมเจ้าเล่ห์จนได้

เมื่อเล่าปี่กวนอูเตียวหุยพบกับโจโฉแล้ว ก็พากันกลับมาเมืองชีจิ๋ว พร้อมด้วย ตันเต๋ง ส่วนลิโป้กับพรรคพวก ซึ่งจนมุมอยู่ที่เมืองแห้ฝือนั้น ในไม่ช้าโจโฉก็ยกทัพใหญ่ไปตีได้ โดยไม่ต้องออกแรงเท่าไร และจับตัวลิโป้ไปประหารชีวิตเสีย ให้สิ้นเสี้ยนหนามไปอีกรายหนึ่ง

โจโฉก็ชมเชยตันเต๋งกับตันกุ๋ยผู้บิดาว่า ทั้งสองพ่อลูกมีความชอบอย่างใหญ่หลวง ถึงกับยกหัวเมืองฝ่ายตะวันออกสิบหัวเมืองให้ขึ้นกับตันกุ๋ย และตั้งให้ตันเต๋งเป็นนายทหารผู้ใหญ่ เป็นบำเหน็จความชอบ ในการเป็นใส้ศึกที่ทำให้โจโฉสามารถกำจัดลิโป้ ศัตรูที่มีกำลังเข้มแข็งได้สำเร็จ ด้วยเล่ห์กลอันชาญฉลาด แม้ว่าจะไม่สู้จะสะอาดนักก็ตาม.

นี่ก็เป็นอีกฉากหนึ่งของเล่าปี่ คนดวงดีที่มีแต่คนรัก ตั้งแต่โตเกี๋ยมเจ้าเมืองชีจิ๋ว บิต๊กและตันเต๋งกับตันกุ๋ย และแม้แต่ชาวบ้านป่าอย่างเล่าอั๋น ที่ได้ช่วยให้เล่าปี่มีชีวิตรอดอยู่ จนได้เป็นใหญ่ในสามก๊ก ซึ่งแม้แต่โจโฉเองก็ไม่สามารถที่จะโค่นลงได้ ตราบจนสิ้นลมหายใจ.

##########



Create Date : 13 กรกฎาคม 2559
Last Update : 13 กรกฎาคม 2559 14:43:06 น. 0 comments
Counter : 492 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.