สกายไฮ ถือเป็นหนึ่งร้านอาหารเก่าแก่ที่อยู่คู่ประวัติศาสตร์ทางการเมืองบนถนนราชดำเนินมานานร่วม 40 ปี ผ่านการดำเนินงานมาหลายรุ่น แต่ฝีมือไม่เคยตกเลย เพราะปรุงโดยพ่อครัวแม่ครัวที่ทำมาตั้งแต่แรกเริ่ม จนหลายคนติดใจ แม้ไม่ได้มาทานนานขนาดไหน กลับมาอีกครั้งรสชาติก็ยังคงเดิม We Recommend ขอแนะนำสำหรับคนที่ยังไม่เคยลิ้มลอง รีบมุ่งตรงมาที่ถนนราชดำเนิน ฝั่งตรงข้ามกองสลากกินแบ่งรัฐบาล จะเจอกับร้าน สกายไฮ แห่งนี้ค่ะ แรกเริ่มที่ร้านเน้นขายข้าวต้มเป็นหลัก ก่อนจะค่อย ๆ ขยับขยายร้านและมีเมนูเพิ่มขึ้น จนตอนนี้มีทั้งอาหารไทย อาหารจีน และอาหารฝรั่ง ไม่ต้องมาทานเฉพาะข้าวต้มตอนกลางคืนก็ได้ เพราะช่วงกลางคืนคนจะแน่นมาก จึงเห็นที่ร้านทำอาหารออกมาวางโชว์ไว้ตั้งแต่หัววัน เตรียมรอรับลูกค้าที่มาถึงแล้วอยากทานเลย จะได้ไม่ต้องรอนานค่ะ เมนูเด็ดที่มาแล้วห้ามพลาดสั่งเลยเป็น ซุปเปอร์ขาไก่ (100 บาท) ต้นตำรับเจ้าแรกไม่เหมือนที่ไหน ต้มขาไก่และปีกไก่ที่เนื้อนิ่มจนล่อนได้ ไม่ติดกระดูก และยังปรุงรสออกมาได้โดนใจ ใช้มะนาวสด และพริกขี้หนูสวน เปรี้ยวแซ่บจัดจ้าน โดยลูกค้าสามารถบอกให้เพิ่มหรือลดดีกรีความแซ่บได้ตามใจค่ะ และอีกเมนู เป็ดพะโล้ (100 บาท) ซึ่งเป็นเมนูประจำของหม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ได้ให้คำแนะนำติชม จนปรับปรุงสูตรกลายเป็นรสชาติที่ทานกันในปัจจุบัน เด่นที่น้ำพะโล้รสชาติเข้มข้น เนื้อเป็ดนุ่ม ได้รสของเครื่องพะโล้ที่เข้าเนื้อในทุกคำ กุ้งอบซอส (350 บาท) เป็นอีกเมนูยอดนิยมเช่นกัน รสชาติออกเปรี้ยวหวานลงตัว ด้วยรสของมะขามเปียกที่ใส่เพิ่มเข้ามา และ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ (100 บาท) ถูกใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ที่ผัดเครื่องได้เข้ากันดี จะทานกับข้าวต้มหรือข้าวสวยก็อร่อยได้เช่นกันค่ะ ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เช้า 08.00-0100 น. เลือกเวลามาทานได้ตามชอบเลยค่ะ เผื่อคนที่ไม่อยากมาเจอคนแน่นช่วงกลางคืน ร้านยินดีให้บริการตลอดทั้งวันค่ะ Recommended Dishes - ซุปเปอร์ขาไก่ - เป็ดพะโล้ - กุ้งอบซอส - ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ที่ตั้ง : 14-16 ตรงข้ามกองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ พระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทร. : 0-2224-1947 เวลาเปิดบริการ : ทุกวันเวลา 08.00-01.00 น. ราคาต่อท่านโดยประมาณ : 101-300 บาทต่อคน บัตรเครดิตที่รับ : Visa, Master Card สัญชาติอาหาร : ไทย, จีน ประเภทอาหาร : ซีฟู๊ด, อาหารจานเดียว รูปแบบการให้บริการ : ร้านอาหารทั่วไป เหมาะสำหรับ : ครอบครัว ที่จอดรถ : ริมถนน facebook Page : //www.facebook.com/Skyhigh.Restaurant สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 30 กันยายน 2556     0 comment Last Update : 30 กันยายน 2556 22:20:40 น.     Counter : 1468 Pageviews.   Share Tweet

ก็ง่วงอะ ให้ทำไง ? //webboard.sanook.com/forum/?topic=3767162   Create Date : 30 กันยายน 2556     0 comment Last Update : 30 กันยายน 2556 22:19:54 น.     Counter : 1593 Pageviews.   Share Tweet

10วิธีหนีเรื่องเดิมๆ เพื่อเซ็กซ์ที่สดใส เริ่มต้นด้วยวิธีง่ายๆ ที่หลายคนอาจมองข้ามไป นั่นคือ การออกเดินทางท่องเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิตเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ ปรับสภาพร่างกายจากที่เหนื่อยล้า อ่อนแรงจากการทำงานหนักให้ได้พักผ่อน หย่อนใจ สิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำให้ได้สำหรับวิธีนี้ก็คือ คุณต้องรู้สึกจริงๆ ว่าต้องการพักผ่อน หยุดคิดเรื่องงาน งดคำนึงถึงเรื่องวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ให้วินาทีที่คุณแพ็คกระเป๋าและตัดสินใจออกเดินทาง มีเพียงคุณและเธอสองคนเท่านั้น จะเป็นริมเขาหรือหาดทรายขาวสะอาดตาก็ตามแต่ รับรองว่าเพลงรักบทถัดไปจะพลุ่งพล่านแน่นอน วิธีที่สองต่อเนื่องจากวิธีแรก หากหาดทรายขาวและบรรยากาศธรรมชาติยังไม่พอ การหาที่พักแนวบูทีคโฮเต็ลที่เลียนธรรมชาติ แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน บรรยากาศสบายๆ ที่นอนนุ่มๆ ก็ช่วยให้ได้บรรยากาศใหม่ๆ ที่ไม่จำเจ ก็มีสิทธิ์ทำให้เซ็กซ์ครั้งนี้สดใสกว่าเดิมได้ครับ วิธีที่สามรับรองว่าไม่ได้ยากเย็นจนเข็ญใจครับ เพราะเป็นการหาบรรยากาศโรแมนติกที่ลอยล่องคู่คุณและเธอไปด้วยกัน นั่นก็คือ การล่องลมชมวิวริมน้ำ ปัจจุบันก็มีให้เลือกหลายแห่งครับ ที่ชาวมิกซ์เราใช้บริการบ่อยครั้งก็น่าจะเป็น เรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์ เพราะเป็นพันธมิตรที่น่ารักเสมอมาครับ เรือจะล่องระหว่างสะพานตากสินไปจนถึงสะพานพระราม 8 ระหว่างทางก็มีเรื่องราวอารยธรรมให้คุณได้ชื่นชมไปตลอดทาง พร้อมทั้งอาหารที่ให้คุณได้อิ่มเอม หลังจากก้าวลงเรือ ก็ชวนกันไปโรแมนติกสองต่อสองได้เลย แต่หากใครไม่ชื่นชอบการลงเรือ และไม่มีเวลาไปพักผ่อนต่างจังหวัดหลายๆ วัน เพียงแค่ขับรถออกไปชานเมืองใกล้ๆ เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย อาจจะหาร้านอาหารอร่อยๆ ริมทางที่มีบรรยากาศวิวสวยๆ ก็สามารถให้คุณปล่อยใจสบายๆ ได้แล้ว สิ่งสำคัญก็คืออาจเป็นการเก็บภาพประทับใจระหว่างทางไปด้วย วิธีนี้อาจจะรู้สึกเหนื่อยสักหน่อย แต่การได้มีกิจกรรมดีๆ ร่วมกัน ก็นับเป็นการเพิ่มสัมผัสทางใจให้เกิดความรื่นรมย์ครับ สำหรับคู่ไหนที่มีเรี่ยวแรงเหลือพอและชอบชีวิตแบบสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ สวนสนุกนับเป็นทางเลือกที่ดีครับ การได้ปลดปล่อยพลังไปกับเครื่องเล่นนานาชนิด ได้เปล่งเสียงกรีดร้องอย่างเต็มที่ ก็มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายไม่น้อย หลังจากลงจากเครื่องเล่น การส่งกำลังใจผ่านทางสายตา หรือผิวกายที่แนบแน่นก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสุขได้ไม่น้อย ถ้าเครื่องเล่นโลดโผนโจนทะยานไปสำหรับชีวิตคู่คุณ การผ่อนคลายด้วยแพ็คเกจนวดคู่ ก็นับเป็นทางเลือกที่ดีครับ การนวดตัวทำให้กล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกายที่สะสมความเครียดมานานนมได้เกิดผ่อนคลาย อารมณ์ที่ไม่เคยปะทุ อาจปะทุขึ้นมาอย่างช้าๆ ยิ่งกลิ่นอโรมาอ่อนๆ ที่อยู่ภายในห้องสปา ก็ช่วยทำให้จิตใจสงบได้อย่างไม่ยากเย็น และเมื่อหลังจากร่างกายได้ผ่อนคลายอย่างสุดๆ สัมผัสรักที่คุณจะเริ่มต้นต่อไปจะร้อนแรงแค่ไหน แค่นึกก็ยิ้มแก้มปริแล้ว นอกจากการเล่นเครื่องเล่น วิธีการชวนกันไปออกกำลังกาย เล่นฟิตเนสก็ช่วยทำให้ร่างกายฟิตและเฟิร์มได้ครับ การออกกำลังกายอย่างต่ำวันละ 30 นาทีต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 3-4 ครั้งช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้นได้ รวมทั้งหากทำเป็นประจำก็จะทำให้สัดส่วนของคุณและเธอน่าชมครับ การควงแขนกันไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อช็อปปิ้งด้วยกัน ก็นับเป็นการสร้างสัมพันธ์ให้แนบแน่น ยิ่งได้ชมรักหนังรักโรแมนติกสักเรื่องก็ยิ่งเป็นการเพิ่มพูนความรู้สึกให้มากขึ้น หากช่วงนั้นโปรแกรมหนังที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไม่มีหนังรักให้ซาบซึ้ง คุณก็อาจจะหาตามร้านเช่าหรือซื้อดีวีดีมาชมแทน ระหว่างชมก็สัมผัสมือกันให้แนบแน่น แอบอิงพิงพักซึ่งกันและกัน แค่นี้ก็หวานแหวว น้ำตาลเรียกพี่แล้วครับ การชวนกันไปท่องราตรีก็นับเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะการได้ฟังเพลงที่ชื่นชอบ รวมถึงได้ลุกขึ้นเต้นอย่างสนุก รวมทั้งการเดินล่องท่องลมไปยังสถานที่ต่างๆ ก็นับเป็นการช่วยเติมความสัมพันธ์ให้เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ครับ แต่ก็ไม่ใช่ดื่มแอลกอฮอล์จนเมามาย เพราะจากที่หวังว่าจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ จะกลายเป็นเมาหมดแรง นอนแผ่ไร้อารมณ์แทน วิธีสุดท้ายนั่นก็คือ การพักผ่อนหย่อนใจที่บ้าน อาจจะทำอาหารมื้อเย็นกินร่วมกันสักมื้อ แนวบาร์บีคิวปิ้งย่าง หรือจะทำอาหารสักสองสามจาน จะเป็นปาร์ตี้เล็กๆ ระหว่างเพื่อนฝูงก็ได้ เพราะหลังจากที่ได้เสียงหัวเราะจากปาร์ตี้เล็กๆ แล้ว บทส่งท้ายก็มักจะเร้าร้อนไม่ธรรมดา ยังคงมีวิธีอื่นๆ ที่ทำให้คุณสามารถหลีกหนีกับเรื่องราวเดิมๆ ของชีวิต และทำให้ชีวิตเซ็กซ์ของคุณกลับมาซู่ซ่าได้เหมือนเดิม ลองดูครับ ถ้ารู้สึกว่าชีวิตนี้เริ่มจำเจ เพราะขนาดต้นไม้ยังต้องถูกน้ำถึงจะชุ่มชื่น ให้ร่มเย็น คนเราก็เช่นกัน สรรหาเรื่องดีๆ ให้กับชีวิตตั้งแต่วันนี้ เพื่อชีวิตเซ็กซ์ที่สดใสครับ สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 30 กันยายน 2556     0 comment Last Update : 30 กันยายน 2556 22:19:14 น.     Counter : 1747 Pageviews.   Share Tweet

′ออดี้ คอนเซ็ปต์′ 700 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม. แค่ 3.7 วิฯ แม้ว่ารถยนต์ออดี้ในบ้านเราจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ปัจจุบันยังอยู่ภายใต้การนำเข้าและจำหน่ายโดยกลุ่มยนตรกิจ แต่สำหรับในตลาดยุโรปแล้ว รถยนต์ออดี้ถือว่าเป็นผู้นำอันดับต้นๆ เลยทีเดียว      อย่างล่าสุดในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์ โชว์ ค่ายออดี้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัว ออดี้ สปอร์ต ควอทโทร คอนเซ็ปต์ (Audi Sport Quattro Concept) รถต้นแบบที่เตรียมจะผลิตออกมาเอาใจแฟนๆ ออดี้ทั่วโลกเร็วๆ นี้      สำหรับรถต้นแบบออดี้รุ่นนี้ โครงสร้างเป็นอะลูมิเนียม คาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้น้ำหนักรถลงมาอยู่ที่ 1,850 กก. สเปกเครื่องยนต์ไฮบริด V8 TFSI ความจุ 4 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 560 แรงม้า จะทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรงขนาด 150 แรงม้า ทำให้กำลังรวมอยู่ที่ 700 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม.ในเวลาเพียง 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 305 กม.ต่อชม.      ส่วนแฟนๆ ชาวไทยจะได้ยลโฉมหรือเป็นเจ้าของออดี้รุ่นนี้หรือไม่ คงต้องรอดูท่าทีค่ายยนตรกิจที่ระยะหลังค่อนข้างเงียบมากในแวดวงธุรกิจยานยนต์บ้านเรา      หรือไม่เช่นนั้นคงต้องรอผู้นำเข้าอิสระหรือเกรย์ เชื่อแน่ว่าถ้าลูกค้าต้องการจริงๆ บรรดาเกรย์ไทยไม่มีปัญหา "จัดไป" ได้แน่นอน สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 30 กันยายน 2556     0 comment Last Update : 30 กันยายน 2556 22:16:48 น.     Counter : 1908 Pageviews.   Share Tweet

iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 ใครมาวิน ชนะเลิศ หลังจากที่ ทีมงาน techmoblog ได้สรุป เปรียบเทียบสเปค iPhone 5S vs Samsung Galaxy Note 3 กันไปแล้ว คราวนี้ เรามาเปรียบเทียบ iPhone 5S (ไอโฟน 5s) กับสมาร์ทโฟนตัวแรงอีกรุ่นจาก ซัมซุงกันบ้าง นั่นก็คือ Samsung Galaxy S4 (S IV) นั่นเอง (iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4) สำหรับ Samsung Galaxy S4 นั้น เปิดตัวครั้งแรก ตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา และถือว่า เป็น แอนดรอยด์โฟน ที่มีสเปคที่แรงที่สุดในตอนนั้นเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่า เมื่อ iPhone 5S (ไอโฟน 5S) คู่แข่งรายหลัก เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทั้ง 2 รุ่นนี้ จึงถูกเปรียบเทียบกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มาดูกันว่า เมื่อนำ iPhone 5S มาเปรียบเทียบกับ Samsung Galaxy S4 จะมีสเปคแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : การออกแบบ และวัสดุที่ใช้ สำหรับวัสดุตัวเครื่องบน Samsung galaxy s4 นั้น ยังคงเหมือนกับ มือถือซัมซุง รุ่นอื่นๆ นั่นก็คือ ทำมาจากพลาสติกครับ ในขณะที่ iPhone 5S ทำมาจากอะลูมิเนียม ซึ่งให้ความแข็งแรง และทนทานมากกว่า ถึงแม้ว่า iPhone 5 จะได้รับข้อติชมในเรื่องของ ตัวเครื่องเป็นรอยได้ง่าย แต่คาดกันว่า น่าจะได้รับการปรับปรุงแล้วในรุ่นนี้ มาดูที่ขนาดหน้าจอกันบ้าง Samsung Galaxy S4 (S IV) นั้น มาพร้อมหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล แน่นอนว่า มีขนาดที่ใหญ่กว่า iphone 5s มากพอสมควร และน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย ส่วนเรื่องความหนาของตัวเครื่อง iPhone 5s มีขนาดที่บางกว่าครับ อยู่ที่ 7.6 มิลลิเมตร ในขณะที่ Samsung Galaxy S4 หนา 7.9 มิลลิเมตร ซึ่งถ้าถือใช้งานปกติ อาจจะมองได้ว่า ไม่ต่างกันมากนัก ส่วนเรื่องสีสันตัวเครื่อง iPhone 5s มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Space Gray, Gold และ Silver ส่วน samsung galaxy note 3 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว และ สีดำ แต่คาดว่า น่าจะเปิดตัวสีอื่นอีกในเร็วๆ นี้ iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : หน่วยประมวลผล มาดูกันที่เรื่องของ หน่วยประมวลผลกันบ้างครับ iPhone 5S นั้น เป็น iPhone รุ่นแรกที่มาพร้อมกับชิป Apple A7 โดยถึงแม้ว่า ทาง Apple จะยังไม่เผยรายละเอียดว่า Apple A7 นั้น เป็นหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Processor หรือ Quad-Core Processor แต่เชื่อกันว่า Apple A7 น่าจะเป็นหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.7 GHz ซึ่งบางที Apple อาจจะกำหนดการ clock ไม่ถึง 1.7 GHz ครับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วยประหยัดพลังงานนั่นเอง โดยชิป Apple A7 นั้น ทาง Apple เผยว่า ประมวลผลได้เร็วกว่า ชิป Apple A6 บน iPhone 5 และ iPhone 5C ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังรองรับการประมวลผลแบบ 64-bit อีกด้วย นอกจากนี้ Apple A7 ยังมีชิป coprocessor อีกตัวหนึ่ง ที่มีชื่อว่า M7 ซึ่งทำหน้าที่ในการประมวลผลผ่านทางเซ็นเซอร์ accelerometer และ gyroscope ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวโดยตรง ทำให้สามารถ track การเคลื่อนที่ของผู้ใช้ได้ โดยไม่สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่แต่อย่างใด ซึ่งหลักๆ แล้ว ชิป M7 จะใช้กับ แอพฯ ที่เกี่ยวข้องกับ สุขภาพ หรือ การออกกำลังกายเป็นหลักครับ ส่วน Samsung Galaxy S4 นั้น มาพร้อมกับชิปประมวลผลให้เลือกกันถึง 2 แบบ ซึ่งได้แก่ • ชิปเซ็ต Exynos 5 Octa ประกอบไปด้วย ซีพียู 2 ตัว ได้แก่ Quad-core Cortex-A15 processor ความเร็ว 1.6GHz และ Quad-core Cortex-A7 processor ความเร็ว 1.2GHz • ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 600 ซึ่งเป็นซีพียูแบบ Quad-core processor ความเร็ว 1.9GHz ซึ่งหน่วยประมวลผลที่ใช้บน Samsung Galaxy s4 นั้น ถ้าเปรียบเทียบกับ มือถือ แอนดรอยด์ รุ่นอื่นๆ ถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรงตัวหนึ่งเช่นกัน iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : ระบบปฏิบัติการ สำหรับระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้นั้น มีความแตกต่างกันครับ โดย Samsung Galaxy S4 เป็นระบบปฏิบัติการ Android 4.2 Jelly Bean ส่วนบน iPhone 5S เป็น iOS 7 ที่จะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ดาวน์โหลดกัน ในวันที่ 18 กันยายน ที่จะถึงนี้ ถ้าหากจะถามว่า OS ตัวไหนดีกว่า จริงๆ แล้วเป็นคำถามที่หาคำตอบไม่ได้ครับ เพราะขึ้นอยู่กับว่า ผู้ใช้ชื่นชอบ ระบบปฏิบัติการ ตัวใดมากกว่ากัน iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : กล้อง สำหรับคุณสมบัตินี้ ทั้ง Samsung Galaxy S4 และ iPhone 5S มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เนื่องจาก galaxy s4 นั้น มาพร้อมกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลแล้ว ในขณะที่ กล้องด้านหลังบน iPhone 5S ยังคงมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล เท่า iPhone 5 แต่อย่าเพิ่งเข้าใจว่า ทุกอย่างจะเหมือนเดิมครับ เพราะ Apple ได้ชี้แจงแล้วว่า กล้องบน iPhone 5S นั้น คุณภาพดีกว่า iphone 5 เพราะได้ปรับปรุงฟีเจอร์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น • เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น • จุดพิกเซล มีขนาดอยู่ที่ 1.5 ไมครอน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า iPhone 5 ทำให้ได้ภาพที่สว่าง และคมชัดมากกว่า หมดปัญหาเรื่องการถ่ายภาพในที่แสงน้อย นอกจากนี้ ยังตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย • รูรับแสงขนาด f/2.2 (ของเดิม f/2.4) • เพิ่มฟีเจอร์ Burst shot โหมดถ่ายภาพรัว และ Slo-Mo ถ่ายคลิปแบบ slow motion ที่ 120fps iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : Touch ID เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เรียกได้ว่า Touch ID หรือ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั้น เป็นจุดเด่นของ iPhone 5S เลยก็ว่าได้ โดยเซ็นเซอร์ดังกล่าว ฝังอยู่ตรงปุ่ม Home ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ต่อไป เวลาจะทำการปลดล็อค ไม่จำเป็นต้องใส่รหัส passcode แล้ว slide to unlock อีกต่อไปครับ เราสามารถแปะนิ้วที่ปุ่ม Home เพื่อปลดล็อคได้เลย ส่วน Samsung Galaxy S4 (S IV) ยังไม่มี เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือครับ แต่คาดว่า เราน่าจะได้เห็นบน Samsung Galaxy S5 (S V) ซึ่งจะเปิดตัวในปีหน้า ก็เป็นได้ สำหรับการเปิดตัว iPhone 5S (ไอโฟน 5S) ในปีนี้ แม้ว่าเราจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านการออกแบบ แต่ในเรื่องของซอฟท์แวร์นั้น ถือว่า ปรับปรุงไปมาก ซึ่ง iPhone 5S จะดีกว่า Samsung Galaxy S4 (S IV) หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ใช้เป็นหลักครับว่า ชอบ สมาร์ทโฟนรุ่นใดมากกว่ากัน เรียบเรียงข้อมูลโดย : ทีมงาน techmoblog.com   Create Date : 30 กันยายน 2556     0 comment Last Update : 30 กันยายน 2556 22:13:28 น.     Counter : 2745 Pageviews.   Share Tweet