ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

6 รุ่นแท็บเล็ตที่แบตเตอรี่ทรหดที่สุด

แนะนำแท็บเล็ตสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับความอึดของแบตเตอรี่มาเป็นลำดับแรกๆ จากการทดสอบและจัดอันดับของเว็บไซต์เทคโนโลยีชื่อดัง CNET

การจะเลือกซื้อแท็บเล็ตสักเครื่องเราจำเป็นจะต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสเป็ก ราคา ดีไซน์ ความคุ้มค่าในการใช้งาน ฯลฯ แต่ถ้าหากความอึดและทนของแบตเตอรี่เป็นโจทย์ที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ แท็บเล็ตที่จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดซึ่ง CNET เว็บไซต์เทคโนโลยีชื่อดังได้ทำการทดสอบและจัดอันดับมาแล้ว โดยอันดับหนึ่งของแท็บเล็ตที่มีแบตเตอรี่ซึ่งอยู่ได้นานที่สุดในขณะนี้คือ Lenovo Yoga Tablet 8 แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่มาพร้อมดีไซน์ขาตั้งซึ่งยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นได้ แท็บเล็ตรุ่นนี้โดดเด่นด้วยความสามารถที่ใช้งานได้นานถึง 14.2 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งแซงหน้าแท็บเล็ตแบตเตอรี่อึดอันดับที่ 2 อย่าง iPad Air ไปถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการที่ความละเอียดหน้าจอของแท็บเล็ต Lenovo Yoga Tablet 8 นั้นอยู่ในระดับที่ไม่สูงนักจึงส่งผลให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้นนั่นเอง

สำหรับอันดับที่ 2 ของแท็บเล็ตแบตเตอรี่ทน ที่ครองตำแหน่งโดย iPad Air ของ Apple นั้น แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 13.2 ชั่วโมงจากการทดสอบของ CNET ซึ่งทำโดยการเปิด airplane mode และเล่นวิดีโอ Toy Story 3 ติดต่อกันไปเรื่อยๆ ที่ความละเอียด 720p จนกระทั่งแท็บเล็ตดับไปเองในที่สุด

อันดับ 3 ตามมาด้วยแท็บเล็ตอีกรุ่นจากค่าย Lenovo ค่ายเดิม ซึ่งก็คือ Yoga Tablet 10 ที่ใช้งานได้นาน 12.2 ชั่วโมง อันดับที่ 4 คือ Surface 2 จากค่าย Microsoft ที่ระยะเวลา 11.6 ชั่วโมง และอันดับที่ 5 คือ Nexus 7 รุ่นล่าสุด ที่อยู่ได้นานถึง 11.5 ชั่วโมง ซึ่งมีความน่าประทับใจตรงที่นอกจากจะมีความละเอียดของหน้าจอสูงแล้ว ขนาดของแท็บเล็ตก็ยังค่อนข้างเล็ก ทั้งที่โดยปกติแล้วแท็บเล็ตขนาดเล็กจะหมายความว่าผู้ผลิตจะมีพื้นที่ให้ใส่แบตเตอรี่ได้น้อยก็ตาม

ปิดท้ายการจัดลำดับของ CNET ด้วยอันดับที่ 6 Samsung Galaxy Tab 3 ขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว ที่ใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง

สรุป 6 อันดับแท็บเล็ตแบตเตอรี่อึดจากการทดสอบของ CNET

1. Lenovo Yoga Tablet 8 (14.2 ชม.)

2. Apple iPad Air (13.2 ชม.)

3. Lenovo Yoga Tablet 10 (12.2 ชม.)

4. Microsoft Surface 2 (11.6 ชม.)

5. Google Nexus 7 (11.5 ชม.)

6. Samsung Galaxy Tab 3 (10 ชม.)

by Jitsupa

สนับสนุนเนื้อหา: life.voicetv.co.th/living/95717.html




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2557 20:29:13 น.   
Counter : 2249 Pageviews.  

หลั่งภายนอกจะท้องไหม?

ถาม

ผมกับแฟนยังไม่พร้อมจะมีลูก แต่ผมก็อยากจะสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในส่วนสงวนของเธอ ผมจึงทำได้แค่เพียงสอดเข้าไปแล้วแช่ไว้เฉยๆ จนเราสองคนพอใจ แล้วเราก็ใช้การทำออรัลเซ็กซ์ หรือใช้มือช่วยกันจนเสร็จ คือหลั่งภายนอกแน่นอน ผมอยากถามว่าผมกับแฟนทำกันแบบนี้เธอจะมีโอกาสท้องไหม...


ตอบ

จะบอกว่าไม่มีโอกาสท้องเลยก็ไม่กล้า เพราะเรื่องแบบนี้คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต แต่ความเป็นจริงก็คือมีโอกาสท้องน้อยมากนอกจากผู้มีบุญจะมาเกิด

ถามว่ามีโอกาสท้องได้อย่างไรคำตอบก็อยู่ที่ว่าเวลาที่คุณมีอารมณ์เพศนอกจากอวัยวะจะแข็งตัวแล้วยังจะมีน้ำหล่อลื่นออกมาจากท่อของคุณด้วย และในคนที่เป็นหนุ่มแน่นนั้นบางครั้งก็อาจจะมีตัวอสุจิที่แข็งแรงเล็ดลอดออกมากับน้ำหล่อลื่นก่อนที่จะเกิดการหลั่งออกมาเวลาถึงจุดสุดยอดได้

ถ้าคุณไม่รังเกียจถุงยางอนามัยแล้วล่ะก็สวมถุงยางอนามัยปลอดภัยไร้กังวลมากกว่าเลยไม่ว่าจะแค่สอดเข้าไปไว้เฉยๆ แล้วไม่ขยับ หรือจะขยับให้เป็นจังหวะจะโคนจนสุขสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ถ้าคุณชอบทำแบบที่ว่ามาจะขอแนะนำท่าที่ทำแล้วมีความสุขก็คือ

คุณสองคนจะต้องนั่งหันหน้าเข้าหากันแล้วค่อยสอดเข้าไปจนแนบแน่นอยู่ในท่าที่นั่งทับขากันแบบนั้นแล้วใช้ความรู้สึกถึงการสัมผัสที่ลึกซึ้งโดยการหลับตาเพื่อที่จะตัดการรบกวนจากนั้นคุณจะได้อรรถรสและซาบซึ้งจากความสุขที่ได้รับมากขึ้นไม่เชื่อก็ลองดู บางคนว่าแบบนี้เป็นการร่วมรักในแบบที่เรียกว่า ‘ตันตระ’ นั่นแหละ



penhouse ขอขอบคุณ นิตยสารเพนท์เฮ้าส์ ผู้สนับสนุนเนื้อหา




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2557 20:28:45 น.   
Counter : 1471 Pageviews.  

จุดเปลี่ยนตลาดจตุจักร บูมศูนย์ค้าส่ง“ห้างติดแอร์“

จุดเปลี่ยนตลาดจตุจักร บูมศูนย์ค้าส่ง“ห้างติดแอร์“

ร่วม 2 ปีมาแล้วที่ "ตลาดนัดจตุจักร" อยู่ภายใต้การบริหารงานของ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินรับช่วงต่อจาก "กทม.-กรุงเทพมหานคร" หลังสัญญาเช่าที่ดินเนื้อที่ 68 ไร่ยุติลงเมื่อ 1 มกราคม 2555 


ทัวร์จีน-มาเลย์หดหาย

ผู้สื่อข่าวลงสำรวจพื้นที่พบว่า ถึงแม้จะเปลี่ยนมือผู้บริหาร แต่ตลาดนัดแห่งนี้ยังมีเสน่ห์ดึงดูดขาช็อปอย่างสม่ำเสมอ แม้บรรยากาศค้าขายโดยรวมจะซบเซามาหลายปีจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจ แถมสถานการณ์ "การเมือง" ที่คุกรุ่น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเอเชียและยุโรปที่เป็นลูกค้าหลักค่อนข้างบางตา 

โดย มีร้านค้าตกแต่งใหม่ ติดป้ายโฆษณาเป็นภาษาจีนและอังกฤษเพื่อเรียกแขกเข้าร้าน พร้อมลดกระหน่ำราคาขาย บางรายปรับฟังก์ชั่นใหม่จากขายของมาเป็นร้านนวดแผนไทย ขณะที่มีบางร้านติดป้ายประกาศให้เช่าหรือเซ้งร้านกระจายไปตามโครงการต่าง ๆ 

"กลุ่ม ทัวร์จีนและมาเลเซียลูกค้าหลักของตลาดหายไปเยอะ ส่วนนักท่องเที่ยวยุโรปยังมีแต่มาเดินมาเที่ยวมากิน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยซื้อ" เป็นคำสะท้อนของแม่ค้าค้าส่งเสื้อผ้ารายหนึ่งในตลาด

ทำเลทองเซ้งห้องละ 2.6 ล้าน 

แม่ ค้ารายนี้ยังระบุอีกว่า...จตุจักรตอนนี้ธุรกิจอยู่ได้คือค้าส่งที่ขายหลัง ร้านคืนวันศุกร์ เพราะมีลูกค้าประจำมารับไปขายต่อ ส่วนคนที่ขายปลีกหน้าร้าน ถ้าของ (สินค้า) ไม่เจ๋งจริงขายไม่ค่อยดี 

"ถึงขายไม่ค่อยดีแต่ที่ ไม่เคยตกเลยคือค่าเช่ากับค่าเซ้งแผงค้า ยังแพงเหมือนเดิม เช่น โครงการ 1 และ 2 ติดรั้วคนเดินเยอะ อยู่ที่ 3-5 หมื่นบาทต่อเดือน โครงการ 16 ขึ้นไปโซนขายส่ง ราคา 1 หมื่นบาทขึ้นไป โครงการ 14 ลงมาอยู่ที่ 7-8 พันบาท ถูกสุดเป็นที่เช่าโครงการเลี้ยงสัตว์ 4-5 พันบาท ส่วนใหญ่ไม่ใช่เจ้าของแผงตัวจริง เป็นนายหน้าปล่อยต่อหวังกำไร นอกจากนี้ก็มีผู้ค้าบางรายที่เริ่มถอดใจหันไปหาตลาดใหม่ เช่น ตลาดอินโดจีน เอเชียทีค ประตูน้ำ แต่ก็ยังมีแม่ค้าหน้าใหม่หมุนเวียนเข้ามาเรื่อย ๆ" 

สอดคล้องผลสำรวจราคาค่าเช่าและค่าเซ้งแผง พบว่า มีหลากหลายราคาและหลายโซน อาทิ โครงการ 12 อยู่ที่ 8,000-9,000 บาท/เดือน โครงการ 16 อยู่ที่ 14,000 บาท/เดือน โครงการ 14 อยู่ที่ 7,000 บาท/เดือน โครงการ 21 ราคา 18,000 บาท/เดือน โครงการ 10 ค่าเช่า 7,000 บาท/เดือน ส่วนค่าเซ้งอยู่ที่ 3 แสนบาท โครงการ 2 ประกาศเซ้ง 2.6 ล้านบาท โครงการ 23 ค่าเซ้ง 4 แสนบาท จากเดิมเคยเซ้งราคา 3 แสนบาท โครงการ 14 ค่าเช่า 7,500 บาท/เดือน 

ตลาดนัดติดแอร์ผุดพรึ่บ 

เมื่อ ขยายวงเดินสำรวจพื้นที่รอบนอก ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันทำเลย่านนี้เริ่มเปลี่ยนแปลงไป หลังมีรถไฟฟ้าใต้ดินและบีทีเอส ทำให้การเดินทางมายังย่านนี้ทั้งสะดวกและรวดเร็ว ทำให้มีผู้ประกอบการสายป่านยาวเข้ามาเช่าที่ดิน ร.ฟ.ท.ระยะยาว เพื่อลงทุนพัฒนาพื้นที่ ตั้งเป้าผลักดันทำเลนี้เป็น "ศูนย์ค้าปลีกค้าส่ง" รองรับกำลังซื้อต่างชาติที่คาดว่าจะหลั่งไหลเข้ามาหลังเปิด "เออีซี-ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" 

ในปี 2558ห้างที่เพิ่งเปิดบริการใหม่หมาดเมื่อปลายปีที่แล้วพบว่ามี "อินสแควร์ ช้อปปิ้ง มอลล์" ของกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ในนามบริษัท เจ.เจ.เซ็นเตอร์ จำกัด ทุ่มเงิน 2,000 ล้านบาท สร้างตึก 8 ชั้นบนที่ดิน 7.8 ไร่ มีพื้นที่กว่า 2 หมื่นตารางเมตร เป็นศูนย์ค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ ติดรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีกำแพงเพชร และถนนกำแพงเพชร 2 ปัจจุบันมีผู้เช่าประมาณ 95% 

อีกโครงการ "ทาวน์สแควร์" ของบริษัท ธนสารสมบัติ จำกัด ธุรกิจกลุ่มสิ่งทอลงทุนใกล้เคียงกันกว่า 2,000 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่ 10 ไร่ เป็นศูนย์ค้าปลีกค้าส่งสูง 5 ชั้น พื้นที่ 5.5 หมื่นตารางเมตร 700-800 ร้านค้า พร้อมที่จอดรถ 1,000 คัน อยู่ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์เด็ก โดยเปลี่ยนมือผู้บริหารใหม่จากคนไทยเป็นกลุ่มนักลงทุนไต้หวัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งก่อสร้างให้ทันเปิดกลางปีนี้ 

ในส่วนของเจ้า เดิมที่ปักหลักมานาน กลุ่มที่ปรับตัวชัดเจนคือ "สแควร์" ของบริษัท นวลจันทร์ ออโต้ จำกัด เช่าที่ดินจาก ร.ฟ.ท.มานานนับ 10 ปี ปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอกและภายในให้ไฉไล เปิดให้บริการแล้วภายใต้ชื่อ "เจเจ เอาท์เลท" 

ส่วน "ตลาด เจ.เจ.มอลล์-ตลาดจตุจักรพลาซ่า" ก็ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ เมื่อคู่แข่งเริ่มรุกคืบมากขึ้นทุกวันแบบนี้



  • สนับสนุนเนื้อหา ประชาชาติธุรกิจ




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2557 20:28:17 น.   
Counter : 2018 Pageviews.  

เม็ดพริกไทยดำทำอะไรได้อีกบ้างนะ

คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจากเป็นเครื่องปรุงรสแล้ว พริกไทยดำยังมีประโยชน์ในงานบ้านด้วยวิธีต่อไปนี้


- ผสมพริกไทยป่น 1 ช้อนชา ลงในกะละมังซักผ้าสี พริกไทยจะช่วยรักษาให้ผ้าของคุณคงสีสันสดสวย และไม่ซีดจางง่ายๆ

- โรยเม็ดพริกไทยดำไว้ในบริเวณที่มดใช้เป็นทางผ่าน จะช่วยไล่มดออกจากเขตที่คุณโรยพริกไทยกั้นไว้ หรือจะใช้ผงอบเชยก็ได้เหมือนกันนะ

- ส่วนของบ้านใครที่มักมีแมลงต่างๆ และกระรอกแวะมาป้วนเปี้ยนและทำให้ต้นไม้เสียหาย ผสมพริกไทยดำในอัตราส่วนเท่าๆ กับน้ำ แล้วฉีดพ่นลงบนต้นไม้ในสวน นอกจากนี้ พริกป่นปาปริก้าก็ช่วยป้องกันสวนของคุณจากสัตว์เล็กๆ เช่นกระรอกน้อยได้ด้วย



  • สนับสนุนเนื้อหา นิตยสาร Lisa




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2557 20:27:40 น.   
Counter : 1762 Pageviews.  

เสริมดวงคู่รักตามตำราจีน

การสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ และสามารถทำได้กับทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเงิน หรือดวงความรักเองก็ตามสามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งในวันนี้ Sanook! Horoscope ขอนำเสนอการเสริมดวงในรูปแบบของตำราจีน คือ "เสริมดวงคู่รักตามตำราจีน" ยึดหลักปีเกิดเสริมดวงที่เป็นมงคลตามแต่ละด้าน ปีไหนเสริมดวงด้านไหนบ้างมาดูกันเลยค่ะ

เสริมดวงคู่รักตามตำราจีน

คนเกิดปีชวด

ตามนักกษัตรจีนกล่าวว่า ปีชวด หากินเก่ง ปากจัด มั่งมี (ขึ้นอยู่กับดวง) ปี เสริมดวง จะแต่งงาน จะหุ้นส่วน จะคบหาล้วนดีทั้งสิ้นคือ

1. ปีฉลู (วัว) เสริมดวงเงิน
2. ปีมะโรง (งูใหญ่) เสริมความคิด
3. ปีวอก (ลิง) เสริมความสุข

ปีที่ห้าม : หรือชงกันคือ ปีมะเมีย (ม้า) จะทำให้ทะเลาะกันมากมาย เนื่องจากความคิดไม่ลงกัน

คนเกิดปีฉลู

ตาม นักษัตรจีนกล่าวว่า ปีฉลู มุ่งมั่น เอาอะไรเอาให้ได้ ไม่ยอมคน ต่อสู้จนสำเร็จ ปีที่ เสริมดวง อยู่ด้วยกันดี จะแต่งงาน จะหุ้นส่วน จะคบค้าหาผลประโยชน์จะเสริมดวงคือปี

1. ปีชวด (หนู) เสริมการเงิน
2. ปีมะเส็ง (งูเล็ก) เสริมการงาน
3. ปีระกา (ไก่) เสริมความสุข

ปีที่ห้าม : หรือชงกันคือปีมะแม (แพะ) จะทำให้ล้มเหลวเข้ากันไม่ได้

คนเกิดปีขาล

ปีเกิดที่ เสริมดวง อยู่ด้วยแล้วรวย จะแต่งงาน จะหุ้นส่วน จะคบหา จะขอความช่วยเหลือจะเสริมดวงคือคนปี

1. ปีมะเมีย (ม้า) เสริมการเงิน
2. ปีจอ (สุนัข) เสริมความคิด
3. ปีกุน (หมู) เสริมร่ำรวย

ปีที่ห้าม : ชงกันคือ ปีวอก (ลิง) อยู่กันทำงานด้วยกันจะทำให้วุ่นวาย ไม่ลงรอยกัน

คนเกิดปีเถาะ

ตามนักษัตรจีนกล่าวว่า ปีเถาะใจคอกล้าหาญ รักสงบ ล้วนหาเงินให้ครอบครัว ปีที่ เสริมดวง จะแต่งงาน จะหุ้นส่วนธุรกิจ จะเสริมดวงคือคนปี

1. ปีมะแม (แพะ) เสริมความสุข
2. ปีกุน (หมู) เสริมการเงิน
3. ปีมะโรง (งูใหญ่) เสริมความคิด

ปีที่ห้าม : ชงกันคือ ปีระกา (ไก่) จะทำให้ยุ่งเหยิง ตีกัน ไม่เข้าใจกัน วุ่นวาย

คนเกิดปีมะโรง

ตาม นักษัตรจีนกล่าวว่า ปีมะโรง ปีงูใหญ่ มากมีบริวาร จิตใจห้าวหาญ ภายหลังได้ดี ปีที่ เสริมดวง จะแต่งงาน จะร่วมธุรกิจ จะคบค้าล้วนเสริมกันคือปี

1. ปีมะโรง , ปีมะเส็ง เสริมการเงิน
2. ปีชวด (หนู) เสริมความคิด
3. ปีวอก (ลิง) เสริมความรู้ซึ่งกันและกัน
4. ปีระกา (ไก่) เสริมการเงิน

ปีที่ห้าม : ชงกันคือ ปีจอ (สุนัข) จะทำให้พูดกันไม่รู้เรื่อง ทิฐิ เข้ากันยากได้

คนเกิดปีมะเส็ง

ตาม นักษัตรจีนกล่าวว่า ปีมะเส็ง ชีวิตมีไหวพริบ ชอบจินตนาการ หาสิ่งใหม่ ๆ (ขึ้นอยู่กับดวง) ปีที่ เสริมดวง จะแต่งงาน จะหุ้นส่วน จะคบหา ล้วนเสริมกันคือปี

1. ปีฉลู (วัว) เสริมเงิน
2. ปีระกา (ไก่) เสริมความสุข
3. ปีจอ (หมา) เสริมความคิด

ปีที่ห้าม : ชงกันคือ (หมู) จะทำให้มีปากเสียงกัน ไม่ยอมกันทำให้ชีวิตล้มเหลว

คนเกิดปีมะเมีย

ตาม นักษัตรจีนกล่าวว่า ปีมะเมีย วิ่งไปข้างหน้า ต่อสู้ชีวิต ล้มลุกคลุกคลาน ภายหลังได้ดี ปีที่ เสริมดวง จะแต่งงาน จะหุ้นส่วน จะคบหา จะทำธุรกิจ ล้วนเสริมดวงคือปี

1. ปีขาล (เสือ) เสริมการเงิน
2. ปีมะแม (แพะ) เสริมความคิด
3. ปีจอ (สุนัข) เสริมความรัก

ปีที่ห้าม : ชงกันคือ ปีชวด (หนู) อยู่ด้วยกันมักทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน

คนเกิดปีมะแม

ตาม นักษัตรจีนกล่าวว่า ปีมะแม มุ่งมั่นก้าวหน้า แต่บางคราเฉื่อยชา ควรยึดหลักขยันจะดี ปีที่ เสริมดวง จะแต่งงาน จะทำธุรกิจร่วม หรือจะหุ้นส่วนล้วนเสริมดวงคือปี

1. ปีเถาะ (กระต่าย) เชื่อว่าอยู่ด้วยกันแล้วจะเสริมความคิด
2. ปีมะเมีย (ม้า) เชื่อว่าอยู่ด้วยแล้วรวย
3. ปีกุน (หมู) เชื่อว่าอยู่ด้วยเสริมการเงิน

ปีที่ห้าม : หรือชงกันคือปี ปีฉลู (วัว) มักเป็นศัตรูกัน เนื่องจากอารมณ์แรงทั้งคู่

คนเกิดปีวอก

ตาม นักษัตรจีนกล่าวว่า ปีวอก เจรจาดี สิริตกที่ปาก มักเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป ปีที่ เสริมดวง จะแต่งงาน จะคบหา จะทำธุรกิจ ล้วนเสริมดวงคือคนปี

1. ปีชวด (หนู) เสริมการงาน
2. ปีมะโรง (มังกร) เสริมการเงิน
3. ปีมะเส็ง (งูเล็ก) เสริมความคิด

ปีที่ห้ามคบ : หรือชงกันคือ ปีขาล เชื่อว่าทิฐิทั้งคู่ มักมีปากเสียงวุ่นวาย

คนเกิดปีระกา

ตาม นักษัตรจีนกล่าวว่า ปีระกา ปากเจรจากล้า แต่พอทำจริงทำไม่ได้ (ขึ้นอยู่กับดวง) ปีที่ เสริมดวง จะแต่งงาน คบหา หุ้นส่วนธุรกิจ ล้วนเสริมดวงคือปี

1. ปีฉลู (วัว) เสริมการเงิน
2. ปีมะเส็ง (งูเล็ก) เสริมการงาน
3. ปีมะโรง (มังกร) เสริมความรัก

ปีที่ห้าม : หรือชงกันคือ ปีเถาะ (ปีกระต่าย) อยู่ด้วยกันแล้วทะเลาะ มีแต่ปัญหาเรื่องอารมณ์

คนเกิดปีจอ

ตาม นักษัตรจีนกล่าวว่า ปีจอ ตกฝีมือยอดเยี่ยม เจรจาเป็นเอก เป็นที่พึ่งของคนอื่น ปีที่ เสริมดวง จะแต่งงาน คบค้า ทำธุรกิจ หุ้นส่วน ปีที่เสริมดวงคือปี

1. ปีขาล (เสือ) เสริมการงาน
2. ปีเถาะ (กระต่าย) เสริมความคิด
3. ปีมะเมีย (ม้า) เสริมความสุข

ปีที่ห้าม : หรือชงกันคือ ปีมะโรง (มังกร) อยู่ด้วยกันมักไม่เข้าใจกัน

คนเกิดปีกุน

ตาม นักษัตรจีนกล่าวว่า ปีกุน ชอบหากิน วิ่งเต้น ใช้ปาก รักบ้าน ต่อไปได้ดี เพราะขนขวาย (อยู่ที่ดวง) ปีที่ เสริมดวง จะแต่งงาน จะร่วมทำธุรกิจ จะหุ้นส่วนจะให้ช่วยเหลือล้วนเสริมดวงคือปี

1. ปีขาล (เสือ) คบแล้วพารวย หรือมีบุตรเกิดปีนี้จะทำให้พ่อแม่รวย หรือหารูปเสือมาไว้ที่บ้านทางทิศตะวันออกจะเสริมดวง
2. ปีเถาะ (กระต่าย) เสริมการเงิน
3. ปีมะแม (แพะ) เสริมความคิด

ปีที่ห้าม : หรือชงกันคือ ปีมะเส็ง(งูเล็ก)อยู่ด้วยกันแล้ววุ่นวาย ไม่ยอมกัน เป็นศัตรูกัน


ขอบคุณข้อมูลจาก FW Mail
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2557 20:27:04 น.   
Counter : 1605 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]