ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

10 อันดับการแต่งงานแปลก ๆ ในออสเตรเลีย

10. Bungee Jumping Off a Bridge


เขาวิจารณ์ว่า....การที่คู่บ่าวสาวยอมผูกตัวเองเข้าด้วยกัน และโยนตัวลงมา เป็นสัญญลักษณ์ของการผูกมัด (commitment) ของคู่บ่าวสาวนั่นเองค้า...อุ้ย..เข้าใจตีความนิ




9.  Parachuting in Tropical North Queensland


ก็มีคำถามว่าทำไมต้องใช้บริการที่เขาจัดไว้ทุกอย่างอย่างสมบูรณ์แบบก่อนบ่าวสาวจะโดดร่มลงมา  น่าจะโดดกันจากเครื่องบินที่เช่ามาธรรมดาก็พอ....สงสัยบ่าวสาวตอนเรียนชอบโดดร่มแน่ๆ เลย อิ อิ




8.  Boggo Road Jail


Boggo Road Jail เป็นเรือนจำแห่งหนึ่งในควีนส์แลนด์ มีชื่อเสียงโด่งดังลือกระฉ่อน ปัจจุบันกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์  ซึ่งชาวออสซี่นิยมมาทัวร์ดูผีกัน แต่ก็มีคู่บ่าวสาวที่ประหลาดๆ มาแต่งงานกันที่นี่ด้วย ภาพนี้ของจริง...สงสัยคู่รักจอมโจรจอมใจ




7. Abseiling and Rock Climbing the Blue Mountains


Blue Mountains ภูเขาที่คู่บ่าวสาว ปีนป่ายขึ้นไปแต่งงานกันบนหน้าผา  ไม่เหนื่อยกันมั่งรึไงนะ




6.  In the Middle of a Crocodile Farm


ส่งทีมไปวิจัยว่าทำไมคู่บ่าวสาวถึงอยากไปแต่งงานกันกลางฟาร์มจระเข้ ก็ไม่ได้คำตอบ แทนที่จะซื้อกระเป๋าหนังจระเข้นะคนเรา...ก๊ากๆๆๆๆ ภาพฟาร์มจริงๆ ในออสเตรเลีย สงสัยจะเป็นชาละวันเมืองเขา ถึงไม่กลัวคุณเข้เยย...




5.  At the bottom of the Great Barrier Reef


คล้ายๆของไทยเราที่ตรัง คู่บ่าวสาวดำน้ำไปแต่งงานกันที่ก้นมหาสมุทร แถบ Great Barrier Reef อันมี่ชื่อเสียงโด่งดัง แทนที่จะแต่งบนเรือยอร์ช เป็นห่วงนะว่าจะจุ๊บยังไงในอุปกรณ์ชุดดำน้ำง่ะ...นี่ไงถอดมาจุ๊บ แต่ไม่ใช่สถานที่จริง




4.  On A Rollercoaster


เฮ้อ..ไปแต่งงานกันบนรถไฟเหาะตีลังกา แทนที่จะขับรถแต่งยังจะดีกว่า แล้วบาดหลวงจะเป็นยังไงกัน  ตอนทำพิธีให้คู่บ่าวสาวบนนั้นง่ะ ฮ่าๆๆๆๆ ฉี่ราดกันลงมาแหงม




3.  On a Yacht in Lake Eyre


Lake Eyre  เป็นทะเลสาบภายในที่ใหญ่ที่สุดของ Australia แต่มีน้ำช่วงหน้าฝนเท่านั้น  น่าแปลกที่ติดอันดับเพราะอยู่ไกลปีนเที่ยง ถ้าไม่อยากให้ใครหาเจอ คู่บ่าวสาวพรรค์นี้ล่ะเหมาะ (สงสัยหนีของจริงที่จดทะเบียนมาง่ะ)




2. In the middle of the Simpson Desert


Simpson Desert อยู่ในแถบ Outback ของ Australia ก็ไม่รู้จะดั้นด้นไปทำไมเนาะดีกว่าอันดับ 1 นิดนึง แล้วใครจะแบกเบียร์ไปฉลองง่ะ ทะเลทรายอยู่ไกลขนาดนั้น..แหงะ




1.  At the bottom of a Mine Pit


ง่า...ลงไปแต่งกันก้นเหมือง อย่างว่าประเทศนี้มีเหมืองเยอะ แต่ถ้าจะบ้าและแปลกจนยกให้เป็นอันดับ 1 เพราะเขาล่ามโซ่ตรวนเข้าด้วยกันบ่าวสาว ยังกะจะไปลงนรก ทั้งร้อน ทั้งชื้น ทั้งสกปรก  คิดได้ไงเนี่ยตะเอง เหอ เหอ


ที่มา :  //atcloud.com/stories/70771




 

Create Date : 03 กันยายน 2556   
Last Update : 3 กันยายน 2556 22:40:59 น.   
Counter : 3651 Pageviews.  

10 ทีมแชมป์การซื้อตลาดนักเตะยุโรป

10 ทีมแชมป์การซื้อตลาดนักเตะยุโรป
10 ทีมแชมป์การซื้อตลาดนักเตะยุโรป

ฟุตบอล : ของยุโรปได้ปิดตัวลงไปแล้ว เรามาดูกันว่าใครเป็นแชมป์การซื้อประจำปีนี้

10 อันดับทีมที่ใช้เงินทุ่มซื้อนักเตะมากที่สุด

1.โมนาโก (ฝรั่งเศส) 145 ล้านปอนด์

กุฟเฟรย์ คอนด็อกเบีย จาก เซบีญ่า 17.6 ล้านปอนด์
เซอร์จิโอ โรเมโร่ จาก ซามป์โดเรีย ยืมตัว
บอร์ฆ่า โลเปซ จาก สปอร์ติ้ง กิฆ่อน 1.9 ล้านปอนด์
ฟาบินโญ่ จาก ริโอ อาฟ ยืมตัว
อีริค อบิดัล จาก บาร์เซโลน่า ฟรี
เจเรมี่ ตูลาลอง จาก มาลาก้า 4.4 ล้านปอนด์
ราดาเมล ฟัลเกา จาก แอตเลติโก้ มาดริด 52.8 ล้านปอนด์
เจมส์ โรดิเกวซ จาก ปอร์โต้ 39.6 ล้านปอนด์
เจา มูตินโญ่ จาก ปอร์โต้ 22 ล้านปอนด์
แอนโธนี่ มาร์เตียล จาก ลียง 4.4 ล้านปอนด์
นิโคลัส อิซิมัต-มิริน จาก วาลองเซียน 3.5 ล้านปอนด์
ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ จาก เรอัล มาดริด ฟรี
เกเตโน่ โมนาเชลโล่ จาก โอลิมเปียกอส นิโคเซีย

2.เรอัล มาดริด (สเปน) 143.8 ล้านปอนด์

แกเร็ธ เบล จาก สเปอร์ส 80 ล้านปอนด์
อาเซียร์ อีญาร์ราเมนดี้ จาก เรอัล โซเซียดาด 26.4 ล้านปอนด์
อิสโก้ จาก มาลาก้า 26.4 ล้านปอนด์
ดาเนี่ยล คาร์วายัล จาก เลเวอร์คูเซ่น 5.7 ล้านปอนด์
คาเซมิโร่ จาก เซา เปาโล 5.2 ล้านปอนด์

3.ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส (อังกฤษ) 105 ล้านปอนด์

อีริค ลาเมล่า จาก โรม่า 26.4 ล้านปอนด์
คริสเตียน อีริคเซ่น จาก อาแจ็กซ์ 11.8 ล้านปอนด์
วลาด ชิริเชส จาก สเตอัว บูคาเรสต์ 8.3 ล้านปอนด์
เอเตียน กาปู จาก ตูลูส 9.6 ล้านปอนด์
โรแบร์โต้ โซลดาโด้ จาก บาเลนเซีย 26.4 ล้านปอนด์
นาเซอร์ ชาดลี่ จาก ทเวนเต้ 7.1 ล้านปอนด์
เปาลินโญ่ จาก โครินเธียนส์ 17.3 ล้านปอนด์

4.แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) 102 ล้านปอนด์

มาติน เดมิเคลิส จาก แอตเลติโก้ มาดริด 4.4 ล้านปอนด์
สเตฟาน โยเวติค จาก ฟิออเรนติน่า 22.8 ล้านปอนด์
อัลวาโร่ เนเกรโด้ จาก เซบีญ่า 22 ล้านปอนด์
เฟอร์นานดินโญ่ จาก ชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค 35.2 ล้านปอนด์
เยซุส นาบาส จาก เซบีญ่า 17.6 ล้านปอนด์

5.ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) 97.5 ล้านปอนด์

มาร์ควินโญ จาก โรม่า 27.6 ล้านปอนด์
ลูคัส ดิกเน่ จาก ลีลล์ 13.2 ล้านปอนด์
เอดิสัน คาวานี่ จาก นาโปลี 56.7 ล้านปอนด์

6.นาโปลี (อิตาลี) 75.1 ล้านปอนด์

ดูวาน ซาปาต้า จาก เดอ ลา พลาต้า 5.2 ล้านปอนด์
เปเป้ เรน่า จาก ลิเวอร์พูล ยืมตัว
กอนซาโล่ อิกวาอิน จาก เรอัล มาดริด 32.5 ล้านปอนด์
ราอูล อัลบาโร่  จาก เรอัล มาดริด 10.5 ล้านปอนด์
โฆเซ่ มาเรีย กาเยฆอน จาก เรอัล มาดริด 8.3 ล้านปอนด์
ราฟาเอล จาก ซานโตส 4.4 ล้านปอนด์
ดรีส์ เมอร์เท่นส์ จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 8.5 ล้านปอนด์
พาโบล อาร์เมโร่ จาก อูดิเนเซ่ 3.5 ล้านปอนด์
เอมานูเอล คาเลียโล่ จาก เซียน่า 1.1 ล้านปอนด์
โจซิป ราโดเซวิช จาก ไฮจ์ดุ๊ค สปริท 8.8 แสนปอนด์

7.เชลซี (อังกฤษ) 68.5 ล้านปอนด์

คริสเตียน อัตซู จาก ปอร์โต้ 3.6 ล้านปอนด์
ซามูเอล เอโต้ จาก อันจิ มาคัชคาล่า ฟรี
วิลเลี่ยน จาก อันจิ มาคัชคาล่า 33.4 ล้านปอนด์
สติเป้ เปริก้า จาก เอ็นเค ซาดาร์ 2.1 ล้านปอนด์
คริสเตียน คูเอบาส จาก โอ ฮิกกินส์ 1.6 ล้านปอนด์
มาร์ค ชวาเซอร์ จาก ฟูแล่ม ฟรี
มาร์โก ฟาน กินเคล จาก วิเทสส์ 8.2 ล้านปอนด์
อันเดร ชูร์เล่ จาก ลิเวอร์คูเซ่น 19.3 ล้านปอนด์

8.บาร์เซโลน่า (สเปน) 61.6 ล้านปอนด์

เนย์มาร์ จาก ซานโตส 50.1 ล้านปอนด์
โบยาน เกร์กิช จาก โรม่า 11.4 ล้าน (ปล่อยให้อาแจ็กซ์ ยืมตัว)

9.ดินาโม มอสโกว (รัสเซีย) 59.7 ล้านปอนด์

คริสโตเฟอร์ แซมบ้า จาก อันจิ มาคัชคาล่า 8.8 ล้านปอนด์
วลาดิเมียร์ กาบูลอฟ จาก อันจิ มาคัชคาล่า 6.1 ล้านปอนด์
อเล็คซีย์ อิโอลอฟ จาก อันจิ มาคัชคาล่า 4.4 ล้านปอนด์
อเล็คซานเดอร์ โคโคริน จาก อันจิ มาคัชคาล่า 16.7 ล้านปอนด์
อิกอร์ เดนิซอฟ จาก อันจิ มาคัชคาล่า 13.2 ล้านปอนด์
ยูริ เชียร์คอฟ จาก อันจิ มาคัชคาล่า 9.6 ล้านปอนด์
จอร์จ ฟลอเรสคู จาก แอสต้า ฟรี
ดั๊กลาส จาก ทเวนเต้ ฟรี
วลาดิเมียร์ ดยาดยุน จาก รูบิน คาซาน 3.5 แสนปอนด์
อลัน คาเซฟ จาก รูบิน คาซาน ยืมตว

10.ชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน) 58.9 ล้านปอนด์

เบอร์นาร์ด จาก แอตเลติโก้ มิเนโร่ 22 ล้านปอนด์
ฟาคุนโด เฟอร์เรย์ร่า จาก แอตเลติโก้ เวเรซ 6.1 ล้านปอนด์
เฟรด จาก สปอร์ต คลับ จาก อินเตอร์เนชั่นแนล 13.2 ล้านปอนด์
เฟอร์นานโด จาก เกรมิโอ 9.6 ล้านปอนด์
เวลลิงตัน เนม จาก ฟลูมิเนเซ่ 7.9 ล้านปอนด์




  • สนับสนุนเนื้อหา S! Sport




 

Create Date : 03 กันยายน 2556   
Last Update : 3 กันยายน 2556 22:40:20 น.   
Counter : 2925 Pageviews.  

iPhone 5C ตอนนี้ขอบอกว่ามันมีจริง!!

ขณะที่ Galaxy Note 3 กับ Samsung Gear เตรียมเปิดตัวในสัปดาห์นี้ ทางฝั่งของ Apple ก็ขยันมีภาพหลุด ข่าวหลุด คลิปหลุด ออกมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน


iPhone 5c (ไอโฟน 5c)

ล่าสุดนั้นทางเว็บไชต์ cultofmac.com ได้นำเสนอภาพหลุดของ iPhone 5c (ไอโฟน 5c) ที่เรียกได้ว่าชัดเจนที่สุด (จนตอนนี้ทางทีมงานคิดไปว่าต่อไปคงพาดหัวข่าวว่า ภาพหลุดไม่ได้แล้ว) โดยภาพที่เราเห็นในข่าวล่าสุดนั้นถือได้ว่าเกือบสมบูรณ์ พร้อมที่จะขับเคลื่อนสู่ตลาดแล้ว

iPhone 5c (ไอโฟน 5c)

iPhone 5c (ไอโฟน 5c)

ส่วนของราคา iPhone 5C (ไอโฟน 5c) จะถูกและประหยัดสมคำร่ำลือรึเปล่า ซึ่งก็มีการวิเคราะห์แล้วว่ามันอาจมีราคาอยู่ที่ 99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,000 บาท ในกรณีติดสัญญา 2 ปีกับค่ายโอเปอร์เรเตอร์ของสหรัฐฯ และหากไม่ติดสัญญาจะมีราคาอยู่ที่ 400 - 500 ดอลลาร์สหรัฐ ตกเป็นเงินไทยก็ประมาณ 12,000 - 15,000 บาท


iPhone 5C (ไอโฟน 5c) คาดว่าจะได้รับการเปิดตัวควบคู่ไปกับ iPhone 5S ตามกำหนดการเดิมที่สื่อต่างๆ คาดหมายนั้นคือวันที่ 10 กันยายนนี้ แม้ว่าตอนนี้นั้นทาง Apple ยังไม่มีการส่งหมายเชิญสื่อมวลชนไปรวมงานอย่างเป็นทางการก็ตาม!! ถึงตอนนี้แล้วยังไงทางทีมงาน Sanook! Hitech ก็มั่นใจเกือบ 100% แล้วว่ามันมีตัวตนแน่นอน!! รอแค่วันเปิดตัวอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง.........

ที่มา: //www.cultofmac.com




 

Create Date : 03 กันยายน 2556   
Last Update : 3 กันยายน 2556 22:39:29 น.   
Counter : 2448 Pageviews.  

ฟอร์ด มาสด้า เชฟโรเลต จ้องเสียบอีโคาร์เฟส 2

  "ฟอร์ด-มาสด้า-เชฟโรเลต" จ้องเสียบเฟส 2 สมาคมอุตฯยานยนต์ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจผู้บริโภคได้ประโยชน์เต็ม ๆ ฟาก 5 ผู้ผลิตเฟสแรกบอกตรงกันสนใจ แต่ไม่เคลียร์เม็ดเงินลงทุน หวั่นตลาดอีโคคาร์ล้นทะลัก

     นางเพียงใจ แก้วสุวรรณ ประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอาเซียน และในฐานะนายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การเปิดให้การส่งเสริมผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์เฟส 2 ขณะนี้ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ รวมถึงผู้ที่สนใจเข้าร่วมยังมีเวลาทบทวนรายละเอียดไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2557 ซึ่งเชื่อว่าจะมีค่ายรถหลายยี่ห้อที่เอาจริงเอาจัง

     อย่างไรก็ตามถือเป็นเรื่องดี เพราะโครงการแบบนี้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนได้อย่างมาก แต่อยากฝากไปยังภาครัฐ คือ ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ 5 ค่ายแรกด้วย

     ซึ่งที่ผ่านมาเรียกหารือจริง แต่ก็ยังมีคำถามและข้อสงสัยอีกหลายข้อ ซึ่งยังไม่ชัดเจนเพราะแต่ละค่ายรถยนต์ก็มีความพร้อมและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะการลงทุน ว่าจะนับรวมเม็ดเงินลงทุนที่ลงกันไปแล้ว หรือเม็ดเงินใหม่

     นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตอนนี้ยังเร็วไปที่ให้คำตอบว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ทั้งนี้การส่งเสริมของบีโอไอยังไม่ชัดเจน ถ้าพูดกันที่สเป็กรถ เพียงแค่ปรับปรุงเครื่องยนต์ให้ปล่อยมลพิษตามเงื่อนไขอีโคคาร์เฟส 2 คือ 100 กรัมต่อ กม. และกินน้ำมัน 4.3 ลิตรต่อ 100 กม. เชื่อว่าทุกค่ายทำได้อยู่แล้ว และทุกค่ายก็พร้อมจะพัฒนาไปตรงนั้น

     "เรามองว่าตลาดอีโคคาร์ 2-3 ปีจากนี้จะมีความสนุกและน่าตื่นเต้น เนื่องจากจะมีรถยนต์จากหลากหลายค่ายหลากหลายแบรนด์เข้ามาทำตลาดและเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค และมิตซูบิชิมั่นใจว่า รถของเราจะสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแน่นอน"

     ขณะที่นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ทีมงานนิสสันกำลังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดของโครงการในเฟสที่ 2 เนื่องจากยังมีเงื่อนไขบางประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ 5 ค่ายในเฟสแรกจะเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์เฟส 2 นั้น จะมีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติม ต้องใช้เวลารอดูความชัดเจนอีกระยะ

     "กรอบเงื่อนไขใหม่และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ดีขึ้น อาจจะยังมีความได้เปรียบเสียเปรียบกับ 5 ค่ายแรกที่ได้ภาษีแค่ 17% ขณะที่เฟสใหม่ได้ 14% ซึ่งคงจะต้องใช้เวลาศึกษารายละเอียด และรอให้ทุกอย่างชัดเจน และคงต้องหารือกับบริษัทแม่อีกครั้ง เนื่องจากอาจจะต้องมีการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นจำนวนค่อนข้างสูงอยู่"

     นอกจากนี้ในส่วนของจำนวนการผลิตอีโคคาร์ของทั้ง 2 โครงการนั้น ขณะนี้ยังไม่แน่นอนว่าความต้องการของตลาดรถยนต์ประเทศนี้ทั้งในประเทศ และตลาดส่งออกจะมีมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะมีตลาดรองรับหรือไม่ ส่วนเทคโนโลยีความประหยัดน้ำมันที่ 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 23.2 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ลิตร การปล่อยค่าไอเสียไม่เกิน 100 กรัมต่อ 1 กิโลเมตรนั้น เชื่อว่าหลาย ๆ ค่ายมีเทคโนโลยีและอยู่ในวิสัยที่จะทำได้แน่นอน

     "ตอนนี้ตลาดรถอีโคคาร์มีความต้องการในประเทศอยู่ 2.3 แสนคันต่อปี ซึ่งจากข้อกำหนดของ 5 ค่ายแรก จะต้องผลิตค่ายละ 1 แสนคัน รวม เป็น 5 แสนคันต่อปี และเมื่อรวมกับค่ายรถใหม่ที่เข้าร่วมผลิต ก็ทำให้มีกำลังผลิตรถอีโคคาร์เพิ่มขึ้น คำถามคือเราจะหาตลาดที่ไหนมารองรับตรงนี้ การลงทุนจะมีความคุ้มค่าหรือไม่ โดยเฉพาะส่วนต่างเพียง 3% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 10,000 บาท ยังไม่ดึงดูดให้ลงทุน"

     ด้านนางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดบริษัท มาสด้าเซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า มาสด้ามีความสนใจ สำหรับโครงการอีโคคาร์เฟส 2 เนื่องจากมาสด้าอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งการเปิดโอกาสครั้งนี้ถือเป็นการขยับครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ทั้งนี้บริษัทจำเป็นจะต้องศึกษารายละเอียดให้ชัดเจนก่อน เนื่องจากวันนี้รายละเอียดต่าง ๆ ยังไม่นิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รายงานไปยังบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ว่ารัฐบาลไทยได้ขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการ แต่มาสด้าจะตัดสินใจลงทุนหรือไม่ คงต้องรอดูความชัดเจน

     ทั้งนี้จะเห็นว่าเงื่อนไขของโครงการเฟส 2 จะมีความเข้มข้นกว่าเฟสแรก ทั้งมูลค่าการลงทุน และความเข้มข้นของเงื่อนไข ซึ่งการส่งเสริมของรัฐบาลครั้งนี้ถือเป็นการมองภาพอุตสาหกรรมในระยะยาวโดยเฉพาะการกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ 100% นั้นถือเป็นเรื่องดี ที่ช่วยกระตุ้นและปกป้องผู้ผลิตชิ้นส่วนชาวไทย ให้เรียนรู้โนว์ฮาวและสามารถต่อยอดธุรกิจไปได้

     "ตอนนี้เชื่อว่าบริษัทรถยนต์ทุกค่ายต่างอยากได้คำตอบสุดท้ายจากภาครัฐโดยเร็ว เนื่องจากการลงทุนต่าง ๆ จะต้องใช้ระยะเวลา และต้องปรับปรุงพัฒนารถยนต์ ชิ้นส่วน เครื่องยนต์อีกค่อนข้างมาก เพื่อให้ได้ค่า Co2 และอัตราสิ้นเปลืองตามข้อกำหนด แม้ว่ามาสด้าจะมีเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่ช่วยให้รถมีน้ำหนักเบาลง แต่เราก็ต้องมีการลงทุนและใช้เวลา"

     ทั้งนี้มาสด้ามองว่า อีโคคาร์เฟส 2 นั้นจะต้องเป็นรถยนต์ที่มีราคาจำหน่ายสมเหตุสมผล เนื่องจากค่ายรถต้องลงทุนในการพัฒนาตรงนี้ วันนี้หากมองจากเงื่อนไขเชื่อว่า ผู้ผลิตเฟสแรกมีแต้มต่อที่เหนือกว่า เนื่องจากมีการทำตลาดและมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ก่อนแล้ว

     ส่วนกำลังการผลิตที่หลายคนกังวลว่าจะมีรถอีโคคาร์เกินความต้องการนั้น ต้องไม่ลืมว่ารถประเภทนี้มีการผลิตเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศแล้วยังมีการส่งออกด้วย และเชื่อว่าการลงทุนของค่ายรถยนต์เองก็จะต้องมีการต่อยอดไปเรื่อย ๆ ตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ

     เช่นเดียวกับ นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายรัฐกิจ ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเช่นเดียวกันว่า เชฟโรเลตมีความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ในเฟสที่ 2 หากเป็นไปได้ แต่ทั้งนี้บริษัทต้องเร่งศึกษาความพร้อมและโอกาสความเป็นไปได้ และมีระยะเวลาอีก 6 เดือนจากนี้

     นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่าขณะนี้ ฟอร์ดกำลังศึกษาข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการ อีโคคาร 2 เพื่อนำมาใช้ในการประเมินผลอย่างละเอียดรอบคอบ ซึ่งบริษัทจะตัดสินใจเข้าร่วมหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับการประเมินรายละเอียดต่างๆ โดยฟอร์ดมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันมากขึ้นและลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการมอบตัวเลือกที่หลากหลายและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค

     ขณะที่แหล่งข่าวจากบีโอไอที่ระบุว่า โครงการอีโคคาร์เฟส 2 ส่วนหนึ่งมาจากแรงผลักดันจากค่ายฟอร์ด

     ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้บริหารของค่ายโตโยต้า ฮอนด้า และซูซูกิ ถึงความสนใจและความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการเฟส 2 หรือไม่ ต่างได้รับคำตอบไปในทางเดียวกันว่าขอศึกษารายละเอียดและโครงการอีโคคาร์เฟส 2 ก่อน เนื่องจากมีข้อกำหนดหลายด้านที่ยังไม่ชัดเจน

     ขณะที่แหล่งข่าวระดับบริหารในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดส่งเสริมการลงทุนครั้งนี้หากมีค่ายรถยนต์จากยุโรปให้ความสนใจเข้าร่วมลงทุนนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี แต่คำถามคือค่ายรถยนต์ยุโรปเหล่านี้จะยินยอมใช้ผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทยหรือไม่





  • สนับสนุนเนื้อหา auto.sanook.com




 

Create Date : 03 กันยายน 2556   
Last Update : 3 กันยายน 2556 22:38:54 น.   
Counter : 1859 Pageviews.  

น้องชายอ่อนตัวกลางคัน

ถาม

อวัยวะของผมอ่อนตัวค่อนข้างง่ายมากทั้งๆ ที่มีอารมณ์และการแข็งตัวตั้งแต่เริ่มแรกนั้นแข็งตัวดีแต่ใช้งานไปสักระยะก็อ่อนตัวกลางคันทำให้แฟนผมหมดอารมณ์ไปแล้วหลายครั้ง มีอะไรแนะนำไหมครับที่จะช่วยได้

ตอบ

สาเหตุของการเกิดภาวะอ่อนตัวกลางคันทั้งๆ ที่ก็แข็งตัวดีอาจเป็นเพราะวาวส์ที่ปิดกั้นไม่ให้เลือดที่ไปคั่งอยู่ไหลกลับก็เป็นได้ และถ้าเป็นแบบนี้อาจต้องใช้การผ่าตัดรักษา แต่ก่อนอื่นถ้ายังไม่อยากไปพบแพทย์ลองไปหาซื้อวงแหวนที่ใช้รัดโคนอวัยวะเพศมาลองใช้ก่อนก็น่าจะดีนะ

วงแหวนดังกล่าวทำจากยางซึ่งเมื่อรัดอวัยวะเพศแล้วก็จะทำให้เลือดสามารถคั่งได้นานไม่หดตัวกลางคัน เมื่อเสร็จกิจแล้วอวัยวะก็จะอ่อนตัวเองตามธรรมชาติตอนนั้นก็แค่เอาวงแหวนออกก็เรียบร้อยแล้ว นี่เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด

แต่ถ้ายังไม่ได้ผลอาจลองไปปรึกษาแพทย์แล้วใช้ยาในกลุ่มที่เรียกว่า PDE 5-inhibitor ก็น่าจะได้ผลไม่มากก็น้อยและปัจจุบันราคาของยาในกลุ่มนี้ก็ไม่ได้แพงเกินไปจนไม่สามารถจะหาซื้อมาใช้ได้ และถ้าใช้การแล้วได้ผลดีก็อาจจะหยุดแค่นี้ก่อน


ทั้งสองวิธีการนี้เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้และไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่ถ้าใช้ทั้งสองวิธีแล้วไม่ได้ผลคงจะต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจดูว่ามีการรั่วของเส้นเลือดที่จะทำให้ไม่สามารถที่จะคั่งได้นานพอที่จะปฏิบัติกิจได้จนเป็นที่พอใจ

ซึ่งจะทำได้โดยการฉีดสีเข้าไปแล้วเอ็กซเรย์ดูและถ้าพบว่ารั่วที่บริเวณใดก็จัดการผ่าตัดตกแต่งวาวส์ที่รั่วเสียก็สามารถที่จะกลับมาปฏิบัติการดังเดิมได้






 

Create Date : 03 กันยายน 2556   
Last Update : 3 กันยายน 2556 22:37:40 น.   
Counter : 1973 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]