คุณพระ! ตุ๊กตาบาร์บี้ ในมุมร้ายๆ ที่คุณไม่เคยเห็น หยุดโลกสวยได้แล้ว เพราะแม้แต่ในโลกของ "ตุ๊กตา" ก็มีมุมร้ายๆ ไม่แพ้กับชีวิตจริง ไม่เชื่อลองมาดู "ตุ๊กตาบาร์บี้" ในมุมร้ายแรงกันสิ ทิชชี่รับรองว่าคุณไม่เคยเห็นเป็นแน่!!! "ตุ๊กตาบาร์บี้" เป็นของเล่นสุดฮิตสำหรับเด็กผู้หญิง และเป็นขวัญใจผู้หญิง(ที่ไม่เด็กแล้ว) มายาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผู้หญิงทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่จึงหลงใหลมานานขนาดนี้ ตอนเด็กๆ ใครๆ ก็อยากมีบาร์บี้ไว้ในครอบครอง พอโตมา ก็อยากสวย หุ่นเป๊ะเหมือน "ตุ๊กตาบาร์บี้" และด้วยความที่ "ตุ๊กตาบาร์บี้" เป็นตุ๊กตาจำลองรูปคน ที่มีสัดส่วนเหมือนหญิงสาว นางจะเน้นเรื่องการแต่งตัวตามแฟชั่นตลอด ยุคไหนต่อยุคไหน นางมาแรงแซงโค้ง นำสมัยสุดๆ  เด็กๆ จึงสนุกกับการเล่นเปลี่ยนชุดไปมา ส่วนผู้ใหญ่ก็สนุกกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ชุดให้สวยเริ่ดสุด บาร์บี้จึงครองใจผู้หญิงทั่วโลกมายาวนานจนถึงปัจจุบัน ถ้าเปรียบเป็นคน "ตุ๊กตาบาร์บี้" น่าจะมีอายุ 55 ปี เป็นคุณป้าที่ยังแซ่บอยู่ และด้วยความสวยแซ่บมากๆ ทำให้นางถูกนำไปล้อเลียน ในทางเสียๆ หายๆ มีภาพพจน์แย่ๆ ทิชชี่เชื่อว่ามุมนี้ของ "ตุ๊กตาบาร์บี้" คุณไม่เคยเห็นแน่ๆ ซึ่งก็มีทั้งบาร์บี้ตอนไม่ได้เมกอัพ ไม่ได้โบท็อกซ์ ผลงาน Eddi Aguirre ดีไซเนอร์จากเม็กซิโก, สมรสไม่สมรัก ของบาร์บี้และเคน ผลงาน Dina Goldstein ช่างภาพจาก แคนาดา, บาร์บี้เปลือยเครื่องใน ผลงาน Jason Freeny ศิลปินจากรัฐแมนฮัตตัน และบาร์บี้สาวนักฆ่าขี้เมา ผลงานMariel Clayton ช่างภาพชาวแคนาเดียน อยากรู้ว่า "บาร์บี้" แรง และร้ายกาจขนาดไหน ทิชชี่รวบรวมมาให้ชาว Sanook! Women ได้เห็นแล้วค่ะ ถึงบางมุมนางจะร้ายไปบ้าง แต่ทิชชี่ก็เชื่อว่า สาวก บาร์บี้ทั้งหลาย ก็ยังรักนางอยู่จริงไหมคะ ^^ ขอบคุณภาพประกอบ : //www.pinterest.com/ ขอขอบคุณ Thichy Na Sanook ผู้สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 30 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 30 มกราคม 2557 20:21:32 น.     Counter : 11220 Pageviews.   Share Tweet

นิสสันอุดช่องโหว่ส่งรถครบเซ็กเมนต์ เปิดเกมดูดลูกค้าเอ็มพีวีเข็น“ลิวิน่า“ปั้นยอดแสนคัน นิสสัน เติมเต็มความต้องการลูกค้า ส่งรถยนต์คลุมทุกเซ็กเมนต์ ลั่นปีนี้พร้อมส่งเพิ่ม 3 รุ่นใหม่ ประเดิมเอ็มพีวี "ลิวิน่า" มั่นใจขายทะลุแสนคัน ทุ่มมอเตอร์สปอร์ตเต็มสูบ เทงบฯ "อะคาเดมี ทัวร์ริ่ง" ปั้นนักแข่งไทยสู่อินเตอร์      นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงแผนธุรกิจปีนี้ว่า นิสสันจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยเตรียมส่งรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอย่างน้อย 2-3 รุ่น ทั้งผลิตและประกอบในประเทศไทย รวมถึงนำเข้าทั้งคัน      ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่บริษัทต้องการมีรถยนต์ไว้เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าได้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ อย่างปีที่ผ่านมาบริษัทได้ส่งรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดถึง 5 รุ่น ได้แก่ ซิลฟี, พัลซ่าร์, บิ๊กเออร์แวน, เทียน่า และจู๊ค ซึ่งแต่ละรุ่นได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี ส่วนปีนี้รถยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่นของบริษัทนั้นก็คาดว่าจะได้การตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน      ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นิสสันอยู่ในช่วงการวางผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด จากที่ก่อนหน้านี้นิสสันมีสินค้าอยู่ไม่กี่ตัว เราเริ่มสตาร์ตตั้งแต่ มาร์ช, อัลเมร่า และค่อย ๆ เติมเต็มรถยนต์ในเซ็กเมนต์ต่าง ๆ ตอนนี้เรียกว่า มาที่โชว์รูมนิสสันมีรถไว้พร้อมให้ลูกค้าได้เลือกตามความต้องการ "จากแผนงานที่เราเตรียมส่งสินค้าออกสู่ตลาดในปี 2557-2558 นั้น เชื่อว่านิสสันจะมีสินค้าครอบคลุมตลาดได้ถึง 80% ซึ่งถือว่าเยอะมาก ทั้งสินค้าในเชิงวอลุ่มซึ่งเรามีมาร์ช อัลเมร่า ซิลฟี พัลซ่าร์ และเทียน่า จู๊ค เพื่อเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม เรียกว่า นิสสันเรามีส่วนผสมของสินค้าที่กลมกล่อม รวมถึงอนาคตเราก็เข้ามาเสริมเรื่อย ๆ"       ด้านแผนการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายนั้น จะเห็นได้ว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีโชว์รูมและศูนย์บริการใหม่มากกว่า 45 แห่งทั่วประเทศ และจากนี้ไปจะมีโชว์รูมอีก 60-70 แห่งที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่เพื่อให้ตรงตามมาตรฐานของบริษัท รวมถึงความพยายามเพิ่มตัวแทนจำหน่าย หรือโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุมในพื้นที่ที่ขาดให้ได้ตรงตามมาตรฐานของนิสสันด้วย      นายประพัฒน์กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนรุกกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตให้มากขึ้น ภายใต้รูปแบบของการสนับสนุนนักแข่งชาวไทย โดยจะเปิดโอกาสและคัดเลือกนักแข่งคนไทยมาอบรมพัฒนาศักยภาพเพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าไปอบรมในอาเซียน โดยจะลงทุนสนับสนุนยกระดับให้เป็น "แกรนด์ทัวริ่งอะคาเดมี" ก่อนที่จะก้าวไปสู่การแข่งรถยนต์ในรายการระดับโลกต่อไป      และเพื่อเป็นการสนับสนุนกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต นิสสันเองเตรียมนำเครื่องยนต์เทอร์โบเข้าไปใส่ไว้ในรถบางรุ่นเพื่อนำเสนอต่อลูกค้าในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย และอาจจะมีการนำรถรุ่นดังกล่าวมาพัฒนาเพื่อเข้าร่วมรายการแข่งขันต่าง ๆ ต่อไป      "นักแข่งชาวไทยจะเข้าไปร่วมการแข่งขันตรงนี้ได้นั้นจะต้องผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นมาก ๆ เราต้องการให้ชาวไทยได้มีโอกาสเข้าไปร่วมการแข่งขันระดับโลก แต่ทั้งนี้ก็จะต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของนักแข่งชาวไทยว่าจะสามารถผ่านการคัดเลือกอันเข้มข้นนี้ได้หรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปสำหรับโครงการนี้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า"      ส่วนยอดขายของนิสสันในปีนี้ (เม.ย.-มี.ค.) คาดว่าจะมียอดขายอยู่ในระดับ 100,000 คัน แต่หากนับตามปีปฏิทิน (ม.ค.-ธ.ค.) นิสสันมียอดขายที่ 98,187 คัน ซึ่งคาดว่าเมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณน่าจะมียอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้สำหรับการคาดการณ์ยอดขายของปีนี้ ขณะนี้ยังถือว่าเร็วไปที่จะประเมินอย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายอดขายของในปี 2557 ไม่น่าจะน้อยกว่าปี 2556 ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน      ด้านความคืบหน้าของโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ที่บริษัทได้ตัดสินใจลงทุนไปมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นโรงงานที่ 2 ในไทย รองรับการผลิตปิกอัพ ตามกลยุทธ์การเติบโตในไทยและภูมิภาคอาเซียน สู่เป้าหมายเพิ่มแชร์เป็น 15% ภายในปี 2559 นั้น โรงงานดังกล่าวคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเริ่มเดินสายการผลิตได้ราวเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้      โรงงานแห่งใหม่นี้จะประกอบปิกอัพ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศ และเพื่อส่งออกไปยังตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาค ด้วยกำลังการผลิตต่อปีระยะเริ่มต้นของการเปิดดำเนินการ 75,000 คัน และจะขยายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 150,000 คันต่อปี เมื่อรวมกับกำลังการผลิตรถยนต์นั่งและปิกอัพที่โรงงานแห่งแรกจำนวน 220,000 คันต่อปี จะทำให้มีกำลังการผลิตรถนิสสันในไทยรวม 370,000 คันต่อปี      ส่วนความหลากหลายของเทคโนโลยี นิสสันมีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นพลังงานไฟฟ้า, น้ำมันอี 85, อี 100, ซีเอ็นจี ฯลฯ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตลาดและความเหมาะสม      โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต รถยนต์ใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 1 มกราคม 2559 ซึ่งในเวลานั้น หากใครไม่ปรับตัวเพื่อรองรับกับโครงสร้างภาษีใหม่ย่อมเสียเปรียบอย่างแน่นอน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับรถใหม่ที่จะประเดิมตลาดในปีนี้จะเป็น นิสสัน ลิวิน่า เอ็มพีวี จากอินโดนีเซีย เปิดตัวราวเดือนมีนาคมนี้ โดยนิสสันตั้งเป้าขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ตัวรถเน้นความประหยัด กว้างขวาง ซึ่งจะทำให้นิสสันมีตลาดคอมแพ็คครบถ้วน ทั้งจู๊ค ซิลฟี่ พัลซ่า   Create Date : 30 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 30 มกราคม 2557 20:20:30 น.     Counter : 2472 Pageviews.   Share Tweet

น้องชายอ่อนตัวกลางคัน ถาม อวัยวะของผมอ่อนตัวค่อนข้างง่ายมากทั้งๆ ที่มีอารมณ์และการแข็งตัวตั้งแต่เริ่มแรกนั้นแข็งตัวดีแต่ใช้งานไปสักระยะก็อ่อนตัวกลางคันทำให้แฟนผมหมดอารมณ์ไปแล้วหลายครั้ง มีอะไรแนะนำไหมครับที่จะช่วยได้ ตอบ สาเหตุของการเกิดภาวะอ่อนตัวกลางคันทั้งๆ ที่ก็แข็งตัวดีอาจเป็นเพราะวาวส์ที่ปิดกั้นไม่ให้เลือดที่ไปคั่งอยู่ไหลกลับก็เป็นได้ และถ้าเป็นแบบนี้อาจต้องใช้การผ่าตัดรักษา แต่ก่อนอื่นถ้ายังไม่อยากไปพบแพทย์ลองไปหาซื้อวงแหวนที่ใช้รัดโคนอวัยวะเพศมาลองใช้ก่อนก็น่าจะดีนะ วงแหวนดังกล่าวทำจากยางซึ่งเมื่อรัดอวัยวะเพศแล้วก็จะทำให้เลือดสามารถคั่งได้นานไม่หดตัวกลางคัน เมื่อเสร็จกิจแล้วอวัยวะก็จะอ่อนตัวเองตามธรรมชาติตอนนั้นก็แค่เอาวงแหวนออกก็เรียบร้อยแล้ว นี่เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด แต่ถ้ายังไม่ได้ผลอาจลองไปปรึกษาแพทย์แล้วใช้ยาในกลุ่มที่เรียกว่า PDE 5-inhibitor ก็น่าจะได้ผลไม่มากก็น้อยและปัจจุบันราคาของยาในกลุ่มนี้ก็ไม่ได้แพงเกินไปจนไม่สามารถจะหาซื้อมาใช้ได้ และถ้าใช้การแล้วได้ผลดีก็อาจจะหยุดแค่นี้ก่อน ทั้งสองวิธีการนี้เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้และไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่ถ้าใช้ทั้งสองวิธีแล้วไม่ได้ผลคงจะต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจดูว่ามีการรั่วของเส้นเลือดที่จะทำให้ไม่สามารถที่จะคั่งได้นานพอที่จะปฏิบัติกิจได้จนเป็นที่พอใจ ซึ่งจะทำได้โดยการฉีดสีเข้าไปแล้วเอ็กซเรย์ดูและถ้าพบว่ารั่วที่บริเวณใดก็จัดการผ่าตัดตกแต่งวาวส์ที่รั่วเสียก็สามารถที่จะกลับมาปฏิบัติการดังเดิมได้ ขอขอบคุณ นิตยสารเพนท์เฮ้าส์ ผู้สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 30 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 30 มกราคม 2557 20:19:02 น.     Counter : 2979 Pageviews.   Share Tweet

10 ตลาดเช้าน่าเดิน อร่อยเริ่ดที่สุดในเมืองไทย 1. ตลาดฉัตร์ไชย ที่นี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลทั้งสดและแห้งที่มีให้เลือกอย่างละลานตาแล้ว หากอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งกินอาหารเช้าที่นี่ ก็มีทั้งข้าวแกง โจ๊ก ต้มเลือกหมู ปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ให้เลือก ที่ตั้ง: ริมทางหลวงหมายเลข 4 ติดกับ ถ. เดชานุชิต อ. หัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์ ติดตลาด: 05.00-15.00 น. ทุกวัน 2. ตลาดสดเทศบาลตำบลเชียงคาน ตลาดเปิดตั้งแต่เช้าตรู่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินมาได้เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลจากริมโขง เหมาะสำหรับใครที่อยากมาชมและชิมอาหารพื้นถิ่น และขอแนะนำให้ไปชิมปาท่องโก๋ยัดไส้ซึ่งเป็นสูตรของคนเชียงคาน ที่ตั้ง: อยู่ในเทศบาลตำบลเชียงคาน อ. เชียงคาน จ. เลย ติดตลาด: 04.00-08.00 น. ทุกวัน 3. ตลาดน้ำดอนมะโนรา เป็นตลาดน้ำแบบดั้งเดิมที่ยังคงวิถีชีวิตแบบคนริมน้ำ ชาวบ้านแถวนี้เรียกว่า "นัดปากคลองดอน" ซึ่งกำหนดวันซื้อขายสินค้าตามการนับเวลาแบบจันทรคติ ชาวบ้านจะพายเรือมาซื้อขายตั้งแต่เช้ามืด ของส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเนื้อสัตว์ พืชผัก ผลไม้และขนม ที่ตั้ง: บ้านดอนมะโนรา ต.ท่าคา อ. บางคนที จ. สมุทรสงคราม ติดตลาด: วันขึ้นและแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำและ 12 ค่ำ เวลา 06.00-08.30 น. 4.ตลาดนัดเหนือคลอง มีความพิเศษอยู่ที่พ่อค้าแม่ค้าและผู้มาจับจ่าย ส่วนมากเป็นชาวมุสลิม สินค้าในตลาดจึงสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมของชาวใต้และความมุสลิม เช่นของทะเลสดๆ ยาขนมซึ่งมีลักษณะคล้ายกะลาแม และยานุ้ย ผักพื้นบ้านมีผลคล้ายทุเรียน ที่ตั้ง: ริมทางหลวงหมายเลข 4 (ตรงข้ามร้านโรสเบเกอรี่) อ. เหนือคลอง จ. กระบี่ ติดตลาด: 05.00-12.00 น. 5. ตลาดนัดชาวเขา (ตลาดปางมะผ้า) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับเครื่องแต่งกายของชาวเขาเผ่าต่างๆ เช่นลีซอ กะเหรี่ยง ซึ่งมาจับจ่ายที่นี้ สินค้าที่ขายก็มีผักพื้นบ้านไปจนถึงของหมักดอง ถั่วเน่า บางวันอาจมีของป่ามาวางขายด้วย ที่ตั้ง: อยู่บนทางหลวงหมายเลข 1095 อ. ปางมะผ้า จ. แม่ฮ่องสอน ติดตลาด: 05.00-12.00 น. ทุกวันอังคาร 6. ตลาดร่มหุบ เป็นตลาดที่มีสีสันมากที่สุดของ จ. สมุทรสงคราม มีของให้เลือกจับจ่ายหลายอย่าง โดยเฉพาะผักผลไม้ที่วางขายเป็นแนวยาวตามรางรถไฟ เมื่อถึงเวลารถไฟมา พ่อค้าแม่ค้าจะพร้อมเพรียงกันหุบร่ม พับกันสาดและเลื่อนของให้พ้นทางรถไฟ ที่ตั้ง: บริเวณสถานีรถไฟแม่กลอง อ. เมืองสมุทรสงคราม ติดตลาด: 02.00-18.00 น. ทุกวัน 7. ตลาดแลง (บ้านติ้ว) แม้ได้ชื่อว่าเป็นตลาดแลงหรือตลาดตอนเย็น แต่ก็ขายพืชผักพื้นถิ่นและปลาน้ำจืดมาตั้งแต่เช้า ด้วยความเป็นตลาดเก่า โครงสร้างยังคงเป็นไม้ดูคลาสสิก ยิ่งได้ยินการต่อราคาด้วยสำเนียงท้องถิ่นอีสาน อันเป็นเสน่ห์ให้น่าเดินชม ที่ตั้ง: บ้านติ้ว ต. กุดป่อง อ. เมืองเลย ติดตลาด: 08.30- 19.00 น. ทุกวัน 8. ตลาดทองผาภูมิ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ฉากหลังเป็นขุนเขา ภายในตลาดมีการจัดแบ่งอย่างเป็นระเบียบ ช่วงเช้าจะคึกคักมาก ข้าวของที่ขายส่วนใหญ่เป็นพืชผักผลไม้จาก นครปฐม ราชบุรี และปลาสดจากเขื่อนศรีนครินทร์ ที่ตั้ง: เทศบาลตำบลทองผาภูมิ อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี ติดตลาด: 03.00-18.00 น. ทุกวัน 9. ตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง ไม่ไกลกันมีเรือนริมน้ำให้ชมด้วย ภายในตลาดจัดแบ่งอย่างเป็นระเบียบ ของส่วนใหญ่เป็นปลาสดๆ จากแม่น้ำและผักพื้นถิ่น นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอาหารเช้าสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย ที่ตั้ง: ถ. ชัยพฤกษ์ เทศบาลเมืองอุทัยธานี อ. เมืองอุทัยธานี ติดตลาด: 05.00-10.00 น. ทุกวัน 10. ตลาดเทศบาลเวียงสา เป็นตลาดเก่าที่มีโครงสร้างเป็นไม้ แผงขายก็ยังกรุ่นกลิ่นของอดีตให้เห็น ของส่วนใหญ่เป็นผักพื้นถิ่น อาหารพื้นเมืองและเมี่ยงให้ชิมด้วย ที่ตั้ง: ถ. เทศบาล 4 อ. เวียงสา จ. น่าน ติดตลาด: 03.00- 08.00 น. ทุกวัน   Create Date : 30 มกราคม 2557     1 comment Last Update : 30 มกราคม 2557 20:16:32 น.     Counter : 3198 Pageviews.   Share Tweet

1 DAY DETOX ดูดีจากภายใน คำนี้คงได้ยินกันจนชินหู แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรถึงจะดูดีจากภายใน ให้โดดเด้งออกมาถึงภายนอกได้ งั้นลองมาเริ่มจากการดีท็อกซ์ หรือ ขับสารพิษกันมั้ยครับ เริ่มง่ายๆ ด้วยการล้างพิษร่างกายใน 1 วัน ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปถึงสปาครับ คงจะรู้กันมาบ้างแล้วว่าการล้างสารพิษที่หมักหมมในตัวออกไป จะทำให้ร่างกายแข็งแรง เลือดลมเดินสะดวก ถ้าทำเป็นประจำก็จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพและรักษาโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หอบหืด เบาหวาน รวมทั้งลดความอ้วนได้ด้วย หัวใจสำคัญในการล้างพิษใน 1 วัน คือ จะต้องกินให้ได้แคลอรี่น้อยกว่า 800 kcal เพื่อให้ระบบย่อยและตับได้พัก ต่อจากนั้นตับจะขับสารพิษออกมาได้และอาหารที่คุณจะทานในวันนั้นจะต้องไม่มีเนื้อสัตว์เข้ามาปะปนเด็ดขาด เข้าใจกันดีแล้วต่อไปเรามาเข้าสู่กระบวนการล้างสารพิษกันเลยดีกว่า 1. เลือกผลไม้ที่คุณชอบมา 1 อย่าง เช่น มะละกอ ฝรั่ง แคนตาลูป แอปเปิ้ล ส้มโอ ชมพู่ มะม่วง ฯลฯ ยกเว้นอยู่ 2 อย่าง คือ ทุเรียน และสับปะรด 2. ทานแต่ผลไม้ชนิดเดียวตลอดทั้งวัน โดยอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ เช่น ถ้าเลือกมะละกอก็อาจจะทานเป็นเนื้อมะละกอสุก หรือส้มตำ (มะละกอดิบ) ที่ใส่แต่มะละกอกับน้ำปลามะนาวเท่านั้น ไม่ใส่เครื่องประกอบอย่างอื่นเด็ดขาด 3. พอมาถึงมื้อกลางวันก็ทานมะละกออีก แต่อาจจะเป็นน้ำมะละกอปั่นใส่น้ำตาลน้อยที่สุด หรือน้ำมะละกอคั้นสดก็ได้ 4. มื้อเย็นก็ยังต้องทานมะละกออีกครั้งเป็นมื้อสุดท้ายของวัน โดยอาจจะบีบมะนาวลงไปด้วยนิดหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติให้ไม่เลี่ยนเกินไป 5. วันรุ่งขึ้นก่อนที่จะเริ่มมื้อเช้า คุณจะต้องดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นประมาณ 2 ขวดก่อน เพราะเมื่อเราล้างสารพิษ ตับจะขับสารพิษให้มารวมกันอยู่ที่ลำไส้เล็กส่วนต้น จึงต้องดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาวเข้าไปกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว เพื่อให้สารพิษถูกดันออกมากับอุจจาระ หลังจากที่ดื่มน้ำอุ่นแล้วคุณจะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำทันที แต่ถ้าไม่มีการดื่มน้ำกระตุ้นและไปทานอาหารเช้า สารพิษก็จะถูกดูดกลับเข้าไปในกระแสเลือดเหมือนเดิม ทำให้การอดอาหารล้างพิษของเราต้องเสียเปล่าไปครับ ข้อมูลจาก : คลินิกหมอสมุนไพรออนไลน์   Create Date : 29 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 29 มกราคม 2557 21:49:48 น.     Counter : 2020 Pageviews.   Share Tweet