พฤติกรรมต้องเปลี่ยน ถ้าไม่อยากเพลียแต่เช้า เคยมั้ยคะ...นอนก็เต็มที่ แต่พอสายๆ หน่อยกลับรู้สึกหมดพลังซะแล้ว? บางทีอาจจะเป็นเพราะเรื่องเล็กๆ พวกนี้ก็ได้นะ ดื่มกาแฟเร็ว/ช้าเกินไป ก่อนยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ หันมองนาฬิกาสักหน่อยนะ สตีเวนมิลเลอร์ นักศึกษาปริญญาเอกด้านประสาท-วิทยาจาก Uniformed Services University of Health Sciences พบว่าหลังคุณลุกจากเตียงประมาณหนึ่งชั่วโมง พลังงานจะดร็อปลงไปมากที่สุด หากดื่มกาแฟในช่วงนั้น คุณจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่ายาวไปถึงช่วงบ่ายเลย กินข้าวเช้าเบาไปมั้ย? น้ำเต้าหู้หนึ่งแก้ว หรือโยเกิร์ตสักถ้วยกับผลไม้สดดูเป็นอาหารเช้าสุดเฮลตี้ แต่ไม่ดีอย่างที่คิดหรอกนะ ดร. มิเชลล์ ดาเวนพอร์ต ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการบอกว่า อาหารเช้าที่ดีจริงต้องครบ 5 หมู่และให้พลังงานอย่างน้อย 450 แคลอรี คุณจะได้อิ่มยาวและสดชื่นไปจนถึงกลางวัน เลิกคว้าโทรศัพท์ตั้งแต่ลืมตาตื่น ดร. เมลิสสา แม็กครีรีย์ บอกว่าการเข้าสู่โลกโซเชียลหรือเช็กอีเมล์ตั้งแต่ลืมตาตื่น จะทำให้คุณรู้สึกเครียด เหนื่อย และเพลียไปทั้งวัน เปลี่ยนไปเป็นทำอะไรชิลล์ๆ อย่างออกกำลังกายเบาๆ จิบชา หรือเมาท์มอยกับเพื่อนๆ จะดีกว่า สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 23 ธันวาคม 2556     0 comment Last Update : 23 ธันวาคม 2556 21:49:29 น.     Counter : 1572 Pageviews.   Share Tweet

DIY เสื้้อสเวตเตอร์ Hoody น้องหมา ช่วงนี้อากาศหนาวใครที่มีน้องหมาก็คงไม่อยากให้น้องหมาสุดที่รักนี้ต้องหนาวกายใช่ไหมคะ วันนี้เรามีวิธีทำเสื้อกันหนาวแบบ Hoody มาฝาก แต่เหมาะสำหรับน้องหมาขนาดเล็กที่จะใช้ถุงเท้าเก่าของคุณมาทำให้น้องหมาอุ่นแล้วถ้าเราเจอวิธีทำเสื้อสำหรับน้องหมาตัวใหญ่เมื่อไรเราจะรีบนำมาอัพเดทด่วนๆเลยค่ะ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 1) ถุงเท้าที่มีรูปแบบที่ดีหรือสี 2) กรรไกร ขั้นตอนการทำ 1) ตัดปลายถุงเท้าออก 2) ใช้ปลายถุงเท้าที่คุณตัดออกไป ตัดใบโดยรอยย่นของถุงเท้าสวมผ่านแค่ นี้กลายเป็นหมวก 3) ใช้ที่เหลือของถุงเท้าตัดส่วนที่ข้อเท้าแน่น (ดูรูป) 4) ใช้ถุงเท้าที่เหลือและตัดใบในทั้งสองด้านของถุงเท้าใกล้กับจุดที่ส้นเท้าของคุณจะไป 5) สวมใส่ให้น้องหมาระหว่างช่วงคออาจจะเกินออกมาให้คุณพับเป็นคอเต่าแค่นี้ก็ดูดีที่สุดแล้วเก๋ น่ารักฝุดๆ   Create Date : 23 ธันวาคม 2556     0 comment Last Update : 23 ธันวาคม 2556 21:48:56 น.     Counter : 2458 Pageviews.   Share Tweet

5 เรื่องราวที่สุด...ของที่สุด ในซีเกมส์ ครั้งที่ 27 5 เรื่องราวที่สุด...ของที่สุด ในซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27  ที่กรุงเนย์ปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อย โดยจะมีพิธีปิดการแข่งขัน จะมีขึ้นในช่วงหัวค่ำของวันนี้ (22ธันวาคม) ซึ่งผลปรากฏว่า ทัพนักกีฬาไทย โชว์ผลงานได้อย่างสุดยอด ผงาดเจ้าเหรียญทองได้เป็นสมัยที่ 12 โดยคว้ามาได้ถึง 107 เหรียญทอง 94 เหรียญเงิน  81เหรียญทองแดง ในซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ประเทศสิงคโปร์จะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ เราคงต้องมาลุ้นกันอีกครั้งในอีกสองปีข้างหน้า แต่วันนี้เราจัด 5 อันดับสุดยอดของซีเกมส์หนนี้มาให้ชม ลองไปดูว่าจะมีเรื่องราวอะไรกันบ้าง ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- # ที่สุดแห่ง "ความเร็ว" คือ "เจ้ามิ้ว" จิระพงศ์ มีนาพระ 17 ทอง 13 เงิน 9 ทองแดง นี่คือผลงานอันเอกอุ ของทัพกรีฑาแห่งเมืองสยามที่ฝากไว้บนแผ่นดินของเมียนมาร์ เป้าหมายที่วางไว้ว่าน่าจะได้ 14 เหรียญทอง  แต่เอาเข้าจริง ทีมนักกรีฑาไทย เดินหน้ากวาดเหรียญทองเป็นว่าเล่น จนสุดท้ายทะลุเป้าได้อย่างสุดยอดและน่าชื่นชม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลีลาลมกรดใหม่แกะกล่องอย่าง "เจ้ามิ้ว" จิระพงศ์ มีนาพระ ที่แจ้งเกิดแบบเต็มภาคภูมิ 3 เหรียญทองจากวิ่ง 100 เมตร, 4X100 เมตร  และ วิ่ง 200 เมตร เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของเด็กหนุ่มวัย 20 กะรัตแห่งเมืองสุราษฎร์ธานีรายนี้ อย่างไม่ต้องสงสัย ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- # ที่สุดแห่ง "เจ้าลูกหนังซีเกมส์" คือ ทีมฟุตบอลชาย,หญิง + ฟุตซอลชาย,หญิง ฟุตบอลชาย ในยุคใหม่ต้องจารึกประวัติศาสตร์ไว้อีกครั้ง เพราะนี่คือวันที่ขุนพลช้างศึกรุ่นอายุต่ำกว่า 23 ปี ได้ฉลองแชมป์ซีเกมส์ที่เรารอคอยมากว่า 4 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทีมลูกหนังหนุ่มของไทย กระเด็นตกรอบแรก ชนิดโดนด่าเละ สองครั้งติดต่อกัน มาคราวนี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนามเมือง พาลูกทีมวัยคะนอง ทวงแชมป์แห่งศักดิ์ศรี มาให้คนไทยได้ชื่นชมแบบชื่นมื่น ส่วนฟุตบอลหญิง ฟุตซอลชาย และ ฟุตซอลหญิง ก็ไม่น้อยหน้า พาเหรดกันเก็บเหรียญทองเหนือคู่ปรับเวียดนามไปแบบสะใจและราบคาบจริงๆ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- # ที่สุดแห่ง "ความระทึกใจ"  คือ วาสนา วินาโท กับเฮือกสุดท้ายเข้าเส้นชัย วิ่งข้ามรั้ว 400 ม.หญิง ถือเป็นช็อตเด็ดจริงๆ กับเฮือกสุดท้ายของ วาสนา วินาโท ก่อนวิ่งแซงคว้าเหรียญทอง ที่ถูกชาวโลกโซเชียลพูดถึงมากที่สุดในเรื่องหัวจิตหัวใจของเธอ หลังจากชมการแข่งขันในช่วงท้าย หลายคนคงคิดว่าเธอคงหมดลุ้นไปแล้ว เพราะหลังจากโดดข้ามรั้วสุดท้ายเกิดระยะห่างจากนักวิ่งเวียดนามค่อนข้างมาก แต่ไม่น่าเชื่อว่าระยะประมาณ 10 เมตร สุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย วาสนา ทำเอาแฟนๆชาวไทยลุ้นระทึกหัวใจแทบวาย หลังเธอสวมหัวใจสิงห์ กัดฟันฮึดสู้ วิ่งแซงนักวิ่งเวียดนามเข้าเส้นชัย ทั้งๆที่เธอมีอาการบาดเจ็บและเป็นประจำเดือนอีกด้วย ต้องบอกเลยว่า ณ เวลานั้น ทำเอากองเชียร์ไทยสะใจกันแบบสุดๆ ก่อนเธอจะเป็นลมล้มหน้าคะมำลงไปกับพื้นสนาม งานนี้บอกได้เลยว่าเธอคนอึดของแท้ประจำซีเกมส์ไทยเลยทีเดียว ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- # ที่สุดแห่ง "ความเสียใจ" คือ ผู้แพ้แบบเจ็บกระดองใจ จะว่าไปแล้วทุกครั้งที่มีการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ประเทศเจ้าภาพ มักจะได้เปรียบเสมอในการตัดสิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาที่ให้คะแนนด้วยสายตา และหนนี้ก็เช่นกัน กีฬาอย่าง "มวย" และเทควันโด้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ตอกย้ำให้เห็นว่า ซีเกมส์ กลายเป็นซีโกง ในพริบตา เพราะคำว่า "กรูคือเจ้าภาพ" ไม่ใช่แค่ไทยเท่านั้น ที่โดนปล้นชัยไปหลายต่อหลายคู่ แต่ทั้งฟิลิปปินส์ เวียดนาม ต่างก็โดนกันถ้วยหน้า ที่สำคัญ ภาพของเหล่านักกีฬาเหล่านี้ ยืนร้องไห้ บนเวที มันกำลังบ่งบอกว่า กีฬาของภูมิภาคแห่งนี้ มันบ้านใครบ้านมันจริงๆ ปัดโธ่! ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- # ที่สุดแห่ง "เจ้าเหรียญทอง" คือ นักกีฬาทีมชาติไทย ต้องบอกเลยว่า ก่อนเดินทางมายังถิ่นพม่ารามัญ ทีมนักกีฬาไทยไม่ได้ตั้งความหวังว่าจะได้เป็นเจ้าเหรียญทองในครั้งนี้แต่อย่างใด โดยตั้งเป้าแค่ทำผลงานให้ได้ประมาณ 100 เหรียญทองแค่นี้ก็หรูสุดๆแล้ว นั่นเป็นเพราะว่า ทางเจ้าภาพ บรรจุกีฬาพื้นบ้านแบบเต็มแม็กซ์ เรียกได้ว่าหลายคนเพิ่งเคยได้ยินชื่อกีฬาแบบนี้ ก็ในซีเกมส์ครั้งนี้นี่แหล่ะ ที่สำคัญ ในแต่ละชนิดกีฬาอย่างเช่น ชินลง,โววีนั่ม,เคมโป้ ก็จัดให้ชิงเหรียญทองเยอะเหลือเกิน ที่สำคัญยังสอดแทรกด้วยการมีท่ารำ โน่น นี่ นั่น ที่ให้คะแนนด้วยสายตาอีกด้วย แต่สุดท้าย เราคงต้องยกให้ความแข็งแกร่งของทีมนักกีฬาไทย ที่สามารถดั้นด้นจนคว้ามาได้ถึง 107 เหรียญทอง 94 เหรียญเงิน  81 เหรียญทองแดง คว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองมาครองได้เป็นสมัยที่ 12 ที่สำคัญ กีฬาสากล ที่มีบรรจุในกีฬา โอลิมปิก ทีมชาติไทยของเรายังทิ้งชาติอื่นแบบไม่เห็นฝุ่นอีกด้วย สุดท้ายนี้ คงต้องขอบคุณนักกีฬา สต๊าฟโค้ช และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ และขอบคุณที่ได้มอบความสุขให้เหล่าคนไทย ขอบคุณจริงๆครับ เรื่องโดย "บอล ส้มซิ่ง" สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 22 ธันวาคม 2556     0 comment Last Update : 22 ธันวาคม 2556 20:03:16 น.     Counter : 2988 Pageviews.   Share Tweet

รีวิว Nexus 5 : ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ยังดีมาจากข้างใน ช่วงนี้ห่างหายจากการรีวิวผลิตภัณฑ์กันไปพอสมควร และแล้ววันนี้ก็ได้ฤกษ์งานยามดีได้ Nexus 5 มาทดสอบกันซะหน่อย ซึ่งก็ต้องอวยกันซักนิดล่ะครับว่าหลังจากที่ได้ใช้งานแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า มือถือในแบบฉบับแอนดรอยด์เพียวๆ รุ่นนี้ สร้างความประทับใจในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน และหากใครที่สนใจอยากจะเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ตอนนี้ แนะนำเลยครับ Nexus 5  Nexus 5 กับดีไซน์ ในรุ่นนี้ทาง Google และ LG เปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกไปพอสมควร ทั้งหน้าจอที่ขยายเป็น 4.95 นิ้ว และฝาหลังที่เปลี่ยนมาใช้พลาสติกผิวด้าน ส่วนของหน้าจอ 4.95 นิ้ว ทำจากกระจก Corning Gorilla Glass 3 มีความละเอียดการแสดงผล 1920 x 1080 พิกเซล ความหนาแน่นของพิกเซล 441ppi ขนาดตัวเครื่อง กว้าง 69.17 มิลลิเมตร สูง 137.84 มิลลิเมตร หนา 8.59 มิลลิเมตร หนัก 130 กรัม  สำหรับปุ่มกดทางด้านขวามือจะเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และช่องใส่ซิม ส่วนด้านซ้ายจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง ตัวเครื่องด้านบนมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ด้านล่างพอร์ต Micro USB อยู่ระหว่างลำโพง ซึ่งหลังจากทดสอบเพลงในระดับความดังสุดแล้วเสียงจะแตกเล็กน้อย ฉะนั้นแนะนำว่าหากต้องการฟังเพลงโดยไม่ต่อหูฟังควรเปิดในระดับกลางๆ จะได้เสียงที่ดีที่สุดครับ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ แบตเตอรี่ ซึ่ง Nexus 5 ให้มา 2300 mAh หากในสายตาผู้ใช้หลายๆคนอาจมองว่าทำไมให้มาน้อยจัง แต่อย่าเพิ่งดูถูกไปนะครับเพราะเท่าที่สัมผัสดูแบตค่อนข้างอึดใช้ได้ โดยหากเล่นเกมหรือดูหนังควบคู่ไปด้วยแบตอาจอยู่ได้อย่างน้อยๆ 5-6 ชั่วโมง และจะพบว่าตัวเครื่องจะอุ่นๆขึ้นมา แต่หากเลือกเล่นเฉพาะโซเชียลเน็ตเวิร์คหรือโทรเข้าโทรออก แบตก็จะอยู่ได้ราว 8-9 ชั่วโมงครับ Nexus 5 กับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 KitKat นอกจาก Google และ LG จะพัฒนาภายนอกให้ดูใหญ่ขึ้นตามกระแสความนิยมแล้ว ส่วนของภายในยังถูกเนรมิตให้น่าใช้ขึ้นด้วย Android KitKat ซึ่งเวอร์ชั่นที่นำมารีวิวอัพเกรดเป็น 4.4.2 แล้ว จากการสัมผัสบอกเลยครับว่า Google พัฒนาซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุดได้ออกมาน่าประทับใจมาก ไม่ว่าจะเป็นการ swipe หน้าจอไปมาถือว่าลื่นไหลเป็นอย่างดี  รวมถึงอินเตอร์เฟซต่างๆแม้จะไม่ เลิศหรูเหมือน iOS 7 แต่ก็มีสไตล์ ดูเรียบง่าย เพื่อการใช้งานที่สะดวกและง่ายขึ้น ในหน้าล็อคสกรีนสามารถเรียกฟังก์ชันกล้องได้จากการ swipe ไปด้านซ้าย สามารถเรียกแถบ notification ลงมาได้ และยังใช้งาน Google Now ได้ทันทีเมื่อแตะที่ไอคอนลูกศรชี้ขึ้น (ใต้รูปแม่กุญแจ) นอกจากนี้เมื่อผู้ใช้แอพฟังเพลงอยู่ในขณะนั้น ในหน้าล็อคสกรีนจะโชว์ปกอัลบั้มเพลงนั้นๆ ได้แบบเต็มหน้าจอและควบคุมการทำงานได้ด้วย หน้าล็อคสกรีน  เมื่อปลดล็อคเข้ามายังหน้าโฮมผู้ใช้ยังสามารถใช้งาน Google Now ได้จากแถบด้านบน เพียงแตะที่ไอคอนรูปไมโครโฟนก็สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ หรือหากไม่มั่นใจในสำเนียงสามารถแตะแถบเพื่อพิมพ์ประโยคหรือข้อความที่้ต้อง การค้นหาได้อีกเช่นกัน ในส่วนการเลือกใช้วิตเจ็ตทาง Google คงไม่ต้องการให้ผู้ใช้สร้างหน้าต่างให้รกโดยไม่จำเป็น ฉะนั้นจึงรูปแบบวิตเจ็ตมากมายให้ผู้ใช้เลือก เพียงแตะที่หน้าจอค้างไว้ก็สามารถเรียกใช้งานได้แล้ว ขณะเดียวกันในหน้าเดียวกันนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกวอลเปเปอร์ และตั้งค่า Google Now ได้อีกด้วย เมื่อเข้ามาในหน้ารวมแอพอาจจะไม่มีอะไรโดดเด่นนัก แต่ส่วนของ notification ก็จะพบว่าเป็นคีย์ลัดสำหรับเปิดใช้งานฟังก์ชันต่างๆดีๆนี่เอง ทั้งการเปิด-ปิด WiFi, บลูทูธ และอื่นๆ ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาในการเข้าถึงโหมดเหล่านี้ไปในตัวครับ  หน้าโหมดการโทรมีการปรับปรุงให้หน้าใช้ พร้อมแฝงฟีเจอร์ฉลาดๆอย่าง Smarter caller ID เมื่อสมาร์ทโฟนของคุณมีเบอร์แปลกๆโทรเข้ามา ตัวฟีเจอร์นี้จะทำงานร่วมกับ Google Maps โดยจะนำเบอร์ดังกล่าวไปเทียบเคียงกับธุรกิจห้างร้านต่างๆในบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่าเบอร์นี้เป็นของใคร ในส่วนของแป้นพิมพ์ใน Android KitKat ได้เพิ่ม Emoji มาให้เลือกใช้งานด้วย Nexus 5 กับโหมดการถ่ายภาพ Nexus 5 ใช้กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED มีฟังก์ชันให้เลือกตั้งแต่ HDR+, เปิด-ปิดแฟลช, ตั้งค่าการรับแสง, Photo Sphere, Panorama และอื่นๆ เป็นต้น ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล โหมดการถ่ายภาพ  สำหรับกล้องหลังของ Nexus 5 มีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่า Nexus 4  ทั้งการถ่ายภาพในที่แสงจ้าหรือในที่แสงน้อย ซึ่งหลังจากอัพเกรดเป็น Android 4.4.2 KitKat ด้วยแล้วยังช่วยแอพถ่ายภาพให้มีความเร็วชัตเตอร์เพิ่มขึ้น, ลดความเบลอของภาพ, ปรับความสมดุุลของแสงสีขาว ไม่ว่าจะใช้ในโหมดปกติหรือโหมด HDR+ นับว่าภาพจากกล้องหลังของ Nexus 5 โดนใจเป็นอย่างยิ่งครับ  นอกจากนี้กล้องหลังยังรองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 1080p อีกเช่นกันครับ ส่วนของกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 720p ซึ่งจากความรู้สึกยังไม่ประทับใจและยังต้องปรับปรุงต่อไปครับ ภาพจากกล้องหลัง Nexus 5 ภาพถ่ายในเวลากลางคืน ภาพถ่ายในเวลากลางคืนแบบเปิดแฟลช ภาพซ้ายในโหมดถ่ายภาพปกติ ส่วนภาพขวาเป็นภาพถ่ายในโหมด HDR+ Nexus 5 กับการเล่นเกม เนื่องจากการบรรจุชิปเซ็ตอย่าง Qualcomm Snapdragon 800 ก็คาดหวังว่าประสิทธิภาพในการประมวลผลโดยรวมจะสร้างความหน้าตื่นเต้นให้กับ การใช้งานได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเล่นเกมที่มีกราฟฟิกสูงๆ ซึ่งได้ลองเล่นเกม Alphalt 8 : Airborn ดูแล้ว บอกเลยไม่ผิดหวังจริงๆครับ ตลอดการเล่นไม่พบเรื่องการกระตุก หรือสะดุดเลยแม้แต่น้อย แถมหน้าจอเกือบ 5 ยังเพิ่มอรรถรสให้เร้าใจเพิ่มมากขึ้น สรุปความเป็น Nexus 5 น่าใช้และควรค่าแก่การลงทุนซื้อหรือไม่ ? Nexus 5 ถือเป็นมือถือตระกูลแอนดรอยด์ที่เกิดจากความเพียรพยายามของ Google และ LG ที่ต้องการสร้างสุดยอดมือถือที่เหมาะแก่การใช้งานแก่ลูกค้าทุกเพศทุกวัย แม้ตัวเครื่องจะไม่ได้เลิศหรู พรีเมี่ยมเท่า iPhone 5s แต่ด้วยความเรียบง่ายและหน้าจอการแสดงผลที่ใหญ่กว่าสามารถสร้างประสบการณ์ ที่ยอดเยี่ยมให้กับการใช้งานได้อย่างลงตัว ประกอบกับการเป็นมือถือในแบบฉบับแอนดรอยด์เพียวๆด้วยแล้ว ยังมีหนึ่งในมือถือรุ่นแรกที่จะได้รับการอัพเกรดเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ๆ ในอนาคตอีกด้วย ฉะนั้นแล้วหากเพื่อนๆคนไหนที่ยังลังเลหรือเกิดข้อสงสัยกับมือถือแอนดรอยด์อย่าง Nexus 5 ล่ะก็ อาจจะต้องเปลี่ยนใจ และด้วยราคาเริ่มต้น 16,900 บาท ความจุ 16GB จึงไม่แพงเกินไปนักสำหรับ Nexus 5 ที่มา: www.arip.co.th   Create Date : 22 ธันวาคม 2556     0 comment Last Update : 22 ธันวาคม 2556 20:02:15 น.     Counter : 2603 Pageviews.   Share Tweet

น้ำหนักเกิน...มีลูกยาก นักวิจัยกลุ่มหนึ่งในสหรัฐฯ ศึกษาพบความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหนักตัวกับคุณภาพของสเปิร์ม โดยชี้ว่าการมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (อ้วนลงพุง) อาจส่งผลให้ความแข็งแรงของสเปิร์มลดลง จนไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ หัวหน้าทีมวิจัยจากศูนย์ให้คำปรึกษาแก่ผู้มีบุตรยากในเมืองแอตแลนตา ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ดัชนีมวลกายมีผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพและปริมาณของสเปิร์ม คนที่อยู่ในภาวะน้ำหนักเกินอาจประสบปัญหาจำนวนสเปิร์มลดต่ำลงจนไม่เพียงต่อการปฏิสนธิ และอาจทำให้เกิดการแท้งในภายหลัง เนื่องจากตัวอ่อนไม่แข็งแรงพอ” พร้อมกันนี้หัวหน้านักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้แม้แต่ในกลุ่มผู้ชายที่มีน้ำหนักเกินเพียงเล็กน้อย ดังนั้นผลการศึกษาครั้งนี้อาจเป็นคำตอบก็ได้ว่า เพราะเหตุใดอัตราชายที่มีบุตรยากจึงสูงขึ้นตามสัดส่วนของผู้มีน้ำหนักเกินในประเทศทางซีกโลกตะวันตก และกำลังแพร่ระบาดมาทางซีกโลกตะวันออก ดังนั้นใครอยากมีลูก ทางหนึ่งซึ่งช่วยได้คือหมั่นออกกำลังกายให้แข็งแรง...และห้ามอ้วน! ขอขอบคุณ นิตยสารเพนท์เฮ้าส์ ผู้สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 22 ธันวาคม 2556     0 comment Last Update : 22 ธันวาคม 2556 20:00:03 น.     Counter : 1448 Pageviews.   Share Tweet