ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

วิกฤติเหนือวิกฤติของปีศาจแดง

วิกฤติเหนือวิกฤติของปีศาจแดง

การที่ ไม่สามารถตอบคำถามผู้สื่อข่าวได้ว่าภาวะวิกฤติของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานี้เกิดจากสาเหตุใดนั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งครับ

ต่อเนื่องจากการแพ้ เอฟเวอร์ตัน คาโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี พวกเขาพ่ายต่อนิวคาสเซิล ทีมซึ่งเคยเป็น "ขนม" กินนิ่มสำหรับพวกเขาเป็นครั้งแรกในรอบ 41 ปี

และพวกเขาไม่เคยแพ้ 2 นัดติดต่อกันแบบนี้มายาวนานกว่า 4,231 วัน หรือกว่า 11 ปี

แมนฯ ยูไนเต็ด ยังแพ้ไปแล้ว 5 นัด ในเวลานี้ ซึ่งมากเท่ากับฤดูกาลที่แล้วที่พวกเขาคว้าแชมป์มาครองได้



สิ่งเหล่านี้ และอีกมากมายหลายอย่างที่ไม่ได้พูดถึงนั้นกำลังบ่งบอกอะไรอยู่?

ผมรู้ว่าในหัวใจของชาวเรดอาร์มี่ ชอกช้ำระกำทรวง และไม่ไว้วางใจให้เดวิด มอยส์ ทำหน้าที่ต่อไป

สังเกตจากอาการของ "เด็กผี" รอบตัว ทุกคนต่างรับไม่ได้กับการทำงานของมอยส์ ซึ่งมีจุดชวนขัดใจหลายสิ่งหลายอย่าง บวกกับผลงานการเริ่มต้นฤดูกาลพรีเมียร์ลีกที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 12 ปี ทำให้เวลานี้เริ่มมีเสียงขับไล่กุนซือชาวสกอตแลนด์ดังขึ้นทุกที

และจากการสังเกต โดยส่วนใหญ่แฟนแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ไร้ซึ่งเหตุผล พวกเขาเข้าใจและทำใจเอาไว้แล้วว่าหลังการล่ำลาของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ว่าทีมจะมีปัญหาอยู่บ้าง



แต่ไม่ได้เผื่อใจเอาไว้ว่ามันจะแย่ขนาดนี้

เสียง "โห่" หลังจบเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแทนคำตอบของหัวใจเรดอาร์มี่ทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้แม้มอยส์ จะไม่สามารถหาคำตอบที่ดีให้แก่ผู้สื่อข่าวได้ว่าเหตุใดทีมจึงอยู่ในสภาพนี้ แต่เรายังพอสามารถลงลึกในรายละเอียด "วิกฤติเหนือวิกฤติ" ครั้งนี้ของแมนฯ ยูไนเต็ด มันมีเหตุและผลมากมายที่พอจะหยิบยกมาอธิบายได้

อาการบาดเจ็บของผู้เล่นนั้นย่อมส่งผลแน่ กับทีมที่ไม่ได้อยู่ในสภาพที่มีขุมกำลังพร้อมสรรพ ขุนพลตัวหลักผลัดกันบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงเบอร์หนึ่ง แนวรับที่มีปัญหาตลอดเวลา หรือ ไมเคิล คาร์ริค ห้องเครื่องผู้ปิดทองหลังพระ ซึ่งจากสถิติในเกมกับนิวคาสเซิล แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านบอลได้แค่ 284 ครั้ง น้อยกว่า "แม็กพายส์" ที่ผ่านบอลได้ 384 ครั้ง สะท้อนความสูญเสียจากการขาดหายของคาร์ริคได้เป็นอย่างดี



แต่เรื่องใหญ่กว่านั้นคือระบบการเล่นที่ มอยส์ เซ็ตไว้ขัดใจแฟนอย่างมาก เมื่อแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ใช่ทีมที่เล่นได้อย่างดุดัน สู้ไม่ถอย และไม่มีแววของการเป็นทีมที่ Never Say Die เหมือนเดิม

นักเตะหลายรายไม่ได้รับโอกาสอย่างที่สมควรจะได้ เช่น ชินจิ คางาวะ หรือฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ เช่นกันกับการปรับทัพเสริมทีมซึ่งเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงกับการได้แค่ มารูยาน เฟลไลนี่ มาคนเดียวในวันสุดท้ายของการซื้อขาย (อีก 2 รายที่เป็นนักเตะโนเนมจนนึกชื่อไม่ออกนั้น ผมไม่นับครับ) แถมยังต้องจ่ายแพงกว่าที่ควรจะจ่ายอีก 4 ล้านปอนด์ด้วย

ขุมกำลังเป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องที่เมื่อไร้เงาของเฟอร์กี้พาดผ่านแล้ว เราได้เห็นว่าทรัพยากรในทีมผีแดงนั้นน้อยและด้อยกว่าหลายๆ ทีมในระดับเดียวกันมาก

เพียงแต่ในยุคของเฟอร์กี้ บรมกุนซือผู้นี้เจอวิกฤติมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ด้วยสติปัญญา ความเด็ดเดี่ยว และการตัดสินใจที่เข้มแข็งทำให้ทีมฝ่าฟันวิกฤติมาได้ทุกครั้ง

และอย่าลืมว่าทีมชุดเดียวกันนี้ เฟอร์กี้ พาเป็นแชมป์ได้อย่างสบายๆ ในฤดูกาลสุดท้ายของเขา



นั่นแปลว่ามอยส์ ยัง "มือไม่ถึง"

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในยามนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ได้เดินหน้าไปสู่ "ทางตัน" และพวกเขายังไม่ได้จมดิ่งในความมืดมิดอนธการเสียทั้งหมด

แม้จะไม่มากแต่เวลาและโอกาสยังพอมีอยู่ คำถามคือ มอยส์ จะพาทีมฝ่าความมืดในอุโมงค์ออกไปพบแสงสว่างที่ปลายทางไหวหรือไม่

ลูกทีมต้องเลือกว่าพวกเขาจะรวมใจช่วยเจ้านายอย่างมอยส์ หรือจะลงมติไม่ไว้วางใจและให้คำตอบด้วยผลงานแย่ๆ ในสไตล์ "บอลไล่โค้ช"

อีกเรื่องที่สำคัญคือความอดทนของฝ่ายบริหารจะมีแค่ไหน เมื่อสถานะของแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมอันดับหนึ่งของอังกฤษ อีกทั้งความมั่นคงของสโมสรยังฝากไว้กับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งผลงานในเวลานี้ไม่เป็นผลดีต่อความรู้สึกของนักลงทุนอย่างแน่นอน

ถึงจะมีแบ็กอัพใหญ่อย่าง "เฟอร์กี้" ที่เป็นผู้เลือกและการันตีกุนซือคนบ้านเดียวกันด้วยตัวเอง แต่โลกฟุตบอลยุคทุนนิยมนั้นไม่สามารถให้เวลามากเหมือนที่ เฟอร์กี้ เคยได้เวลาถึง 6 ปี ก่อนจะคว้าแชมป์แรกและเป็นการเปิดยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลอังกฤษ

เฟอร์กี้ อาจจะมีเวลา 6 ปี แต่มอยส์ อาจจะมีเวลาไม่ถึง 6 เดือน

ดีไม่ดีในช่วงหลังบ๊อกซิ่งเดย์นี้ หากทีมยังทรงและทรุดแบบนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้งครับ


by ลูกแม่กิ่ง
(lookmaeking@hotmail.com)



  • สนับสนุนเนื้อหา Hot Score




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2556   
Last Update : 9 ธันวาคม 2556 21:49:51 น.   
Counter : 1614 Pageviews.  

ฮือฮา!! ชิ้นส่วนโลหะ Samsung Galaxy S5 โผล่แล้ว

ล่าสุดเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้มีการเปิดเผยภาพหลุดของชิ้นส่วนที่เป็นโลหะอะลูมิเนียม สมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่อย่าง Samsung Galaxy S5 ออกมาแล้ว ซึ่งคาดว่าข่าวนี้คงถูกใจใครหลายๆ คนที่กำลังรอการเปลี่ยนแปลง สำหรับรายงานล่าสุดนั้นเปิดให้เห็นถึงภาพของชิ้นส่วนที่คาดว่าจะเป็นด้านหลัง เพราะเห็นได้ถึงตำแหน่งของกล้อง, และตำแหน่งอื่นๆ อย่างชัดเจน

ข่าวหลุดที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบน Samsung Galaxy S5

  • Samsung Galaxy S5 มาพร้อมหน้าจอ 5.3 นิ้ว ความละเอียด 2560x1440 พิกเซล
  • Samsung Galaxy S5 มาพร้อม RAM 4GB
  • Samsung Galaxy S5 สามารถกันน้ำ กันฝุ่นได้
  • Samsung Galaxy S5 มาพร้อมชิป Exynos 6
  • Samsung Galaxy S5 เปิดตัว เดือนมกราคม ปี 2014
  • Samsung Galaxy S5 (S V) มาพร้อมชิปประมวลผลแบบ 64-bit เหมือน iPhone 5s

นี้คงเป็นสัญญาณที่ดีว่าในปี 2014 นั้นทาง Samsung จะมีการขยับเปลี่ยนวัสดุอย่างโพลีคาร์บอเนต เป็นอย่างอื่นบ้างแล้ว!! คาดว่าทางซัมซุงน่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าว ส่วนกำหนดการเปิดตัว Samsung Galaxy S5 คาดว่า น่าจะเป็นช่วงต้นปีหน้าครับตามข่าวลือที่มีออกมาก่อนหน้าครับ

ปล. ข่าวนี้ยังคงถือเป็นข่าวลือนะครับ..จนกว่าจะได้รับการยืนยันจาก ซัมซุงอย่างเป็นทางการ

ที่มา: nowhereelse






 

Create Date : 09 ธันวาคม 2556   
Last Update : 9 ธันวาคม 2556 21:49:11 น.   
Counter : 1530 Pageviews.  

จุดเปลี่ยน “พันธุ์ทิพย์“ อวสานตึกคอมพ์ ?

ต้องยอมรับว่า ทุกวันนี้ ศูนย์การค้าเฉพาะทางด้าน "ไอที" เสื่อมมนต์ขลังไปมาก ไม่ว่าจะเป็นตำนานค้าปลีกไอที "พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า" หรือบรรดาตึกคอมพ์ทั้งหลาย เพราะปัจจุบัน ไม่ว่าจะไปซื้อที่ไหน ก็ไม่มีความแตกต่างกันนัก ทั้งในแง่ราคา และผลิตภัณฑ์ เข้าทำนองว่า ที่ไหนสะดวก ก็ไปที่นั่น

เมื่อปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา "ประชาชาติธุรกิจ" ลงสำรวจ "พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า" ประตูน้ำอีกครั้ง พบว่าบรรยากาศการซื้อขายไม่คึกคักเท่าที่ควร มีร้านค้าหลายแห่งปิดตัวไปบ้าง บางจุดแทนที่จะขายสินค้าไอทีเหมือนเคย กลับมีเสื้อผ้าแฟชั่นเข้ามาแทน หรือภาพลักษณ์ศูนย์รวมสินค้าไอทีในอดีตกำลังจะค่อย ๆ หายไป

เท่าที่สังเกตผู้ที่เข้ามาเดินซื้อสินค้า ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติหนาตาร้านค้าแห่งหนึ่งกล่าวว่า ถ้าเป็นคนไทย ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนี้มากนัก ถ้าอยู่ไกลจะมาหาซื้อสินค้าไอทีที่ค่อนข้างเฉพาะทาง เช่น กราฟิกการ์ดราคาแพง หรือคอมพิวเตอร์มือสอง เพราะสินค้าไอทีทั่วไปซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ต้องปรับตัว

"การเปิดร้านขายที่นี่ นับวันจะมีลูกค้าน้อยลง เพราะเดี๋ยวนี้สินค้าไอทีเป็นอะไรที่หาซื้อที่ไหนก็ได้ แม้แต่คอมพิวเตอร์ประกอบเอง หรือพวกดีไอวาย ก็ไม่ได้รับความนิยมเหมือนแต่ก่อน มีแค่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ใครมีโน้ตบุ๊กอยู่แล้ว จะเปลี่ยนเครื่อง ก็หันไปหาแท็บเลต" เจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่งกล่าว

และถ้าเจาะไปที่ร้านจำหน่ายคอมพิวเตอร์ประกอบเอง ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วทุกชั้น พบว่าราคาสินค้าในแต่ละร้านค่อนข้างใกล้เคียงกัน เมื่อสอบถามพนักงานประจำร้านแต่ละแห่งต่างพูดตรงกันว่า จำนวนลูกค้าลดลงมาตลอด ตั้งแต่หลังน้ำท่วมเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ยังดีอยู่บ้างที่ตลาด "ดีไอวาย" โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เล่นเกมเริ่มเติบโตขึ้น ทำให้แม้ฐานลูกค้าจะน้อยลง แต่เครื่องดีไอวายสำหรับเกมเมอร์มีราคาสูงกว่าดีไอวายธรรมดาเกือบเท่าตัว จึงยังพออยู่กันได้

"ดีไอวายธรรมดา ไม่รวมจอ จะอยู่ที่ 1.2-1.5 หมื่นบาท ตอนนี้ไม่ค่อยมีลูกค้ามาซื้อเท่าไร เนื่องจากหลายคนมีโน้ตบุ๊กแล้ว แต่ก่อนพวกบริษัทต่าง ๆ ก็จะมาซื้อเครื่องประเภทนี้ ปัจจุบันเปลี่ยนไปใช้โน้ตบุ๊ก แต่ถ้าดีไอวายสำหรับคอเกม ราคาไม่รวมจอ จะพุ่งไปที่ 2.5 หมื่นบาทขึ้นไป นอกจากนี้ เรายังจำหน่ายอุปกรณ์เสริม เพื่อการเล่นเกมต่าง ๆ ได้อีกด้วย กำไรมาจากตรงนี้เยอะ แม้ลูกค้าจะน้อยลง เม็ดเงินต่อหัวเพิ่มขึ้น ทำให้อยู่ได้"

อย่างไรก็ตาม ค้าปลีกรายใหญ่ใช้ว่าจะหายไปจากห้าง เพียงแต่ไม่มีการเน้นทำตลาดในพื้นที่นี้ และไม่มีแผนขยายร้านภายในตึกคอมพ์ต่าง ๆ โดยพนักงานขายของค้าปลีกรายหนึ่งเปิดเผยว่า ยังได้เปรียบในการขายดีไอวาย เพราะมีแบรนด์ชัดเจน ราคาเชื่อถือได้ ทำให้มีลูกค้ามาซื้อคอมพิวเตอร์ประเภทนี้กับเราอยู่บ้าง ส่วนโน้ตบุ๊กค่อนข้างเงียบ ราคาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อยู่ที่ 1.5 หมื่นบาทลงไป รองลงมาเป็น 2.5 หมื่นขึ้นไป ร้านจำหน่ายสินค้านำเข้าจากประเทศจีน เช่น แท็บเลต และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เปิดเผยว่า มีต่างชาติเข้ามาเดินเลือกซื้อสินค้าในพันธุ์ทิพย์มากขึ้น ขณะที่ลูกค้าคนไทยไม่นิยมซื้อแท็บเลตราคาถูกแล้ว เริ่มต้องการสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น ยอมเพิ่มเงินเพื่อซื้อสินค้ามีแบรนด์ที่ราคาไม่ต่างกัน

ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างที่เห็นชัดขึ้น จากการเดินสำรวจพันธุ์ทิพย์ล่าสุด คือการวางจำหน่ายซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์มีน้อยลงอย่างชัดเจน จากเดิมมีร้านค้าเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วตึก ที่น่าสนใจก็คือภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ เปลี่ยนรูปแบบจากหนังแผ่นไปเป็นไฟล์ดิจิทัล ที่ให้อัพโหลดขึ้นเซิร์ฟเวอร์ และคิดค่าบริการ

สำหรับผู้บริโภคทั่วไป เมื่อ "โน้ตบุ๊ก" ลดความน่าสนใจลง "คอมพิวเตอร์พีซี" แบบประกอบเอง กลายเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มสำหรับคอเกม ทั้งหลายทั้งมวลล้วนแล้วแต่มีผลให้บรรดาร้านค้าปลีก หรือแม้แต่ผู้ให้เช่าพื้นที่ต้องปรับตัว



  • สนับสนุนเนื้อหา ประชาชาติธุรกิจ




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2556   
Last Update : 9 ธันวาคม 2556 21:48:29 น.   
Counter : 2275 Pageviews.  

9 เรื่องที่คิดกันว่าเซ็กซี่แต่ที่แท้ทำหมดอารมณ์!

ลีลาที่คิดกันว่าเซ็กซี่ที่เห็นในหนังหรืออ่านเจอในหนังสือ อาจใช้ไม่ได้ในชีวิตจริง และทำให้ผู้ชายหมดอารมณ์! ลองมาดูซิว่าทริกแบบไหนที่ไม่ได้ทำให้เขาเกิดอารมณ์ แล้วมาเปลี่ยนใช้วิธีการที่ได้ผลแทน

1. แต่งหน้าจัด ผู้ชายอาจชอบผู้หญิงสวยชวนมอง แต่ถ้าทาปากแดงแบบมาริลีน มอนโร จับคู่กับสโม้กกี้อายส์พร้อมรองพื้นแบบจัดเต็ม ชายหนุ่มของคุณอาจจะตาค้างด้วยความตกใจมากกว่าชอบใจ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ รสนิยมที่ดีทำให้ผู้ชายสนใจได้ แต่อะไรที่เว่อเกินไปก็จะทำให้พวกเขาหัวหดและอยากหนีให้ห่าง จำไว้ว่าน้อยคือมาก พยายามทำให้คุณดูดีในแบบที่เหมือนไม่ได้แต่ง ทั้งที่อาจแต่งแทบเป็นแทบตายก็ได้

2. นัดเวลามีเซ็กซ์ การส่งข้อความเชิญชวนอาจทำให้ชายหนุ่มของคุณหัวใจเต้นแรง แต่การบอกเวลาลงไปด้วย จะเป็นการเพิ่มแรงกดดันไปซะ ข้อความประเภท “รอคุณกลับมาบ้านคืนนี้ รับรองจัดเต็ม” หรือ
“หลังเล่นโยคะเสร็จ ฉันก็เป็นของคุณแล้วคืนนี้” ทำให้เซ็กซ์กลายเป็นเรื่องคาดเดาได้ ที่อาจทำให้ความตื่นเต้นของผู้ชายหดหายไป ถึงแม้การหาเวลาเพื่อมีเซ็กซ์จะเพิ่มโอกาสของคุณในการมีเซ็กซ์ แต่ให้คิดเรื่องเวลาเอาไว้ในใจเท่านั้น และให้ข้อความของคุณไม่ต้องเจาะจงนักก็ได้ เช่น “กำลังรอจะได้อยู่กับคุณเร็วๆ นี้”

3. ปิดไฟ มันมีเหตุผลที่ผู้ชายชอบดูฟุตบอลแบบเอชดีนะ ผู้ชายเป็นเพศที่ชอบใช้สายตา พวกเขาก็เลยอยากจะเห็นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในระหว่างมีเซ็กซ์ การจุ๊กกรูกันท่ามกลางความมืดอย่างเดียว อาจทำให้เขาคิดว่าคุณสนใจเรื่องรูปโฉมตัวเองมากกว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนั้น และความไม่มั่นใจของคุณก็อาจทำให้เขาเหี่ยวได้นะ ถ้าคุณไม่ค่อยสบายใจท่ามกลางแสงจ้าๆ ก็ลองหาห้องที่มีดิมเมอร์สามารถหรี่แสงไฟได้ หรือจุดเทียนแทน

4. ข่วนหลังเขา สิ่งที่ดูชวนวาบหวิวในหนัง อาจเป็นความเจ็บปวดนอกจอซะมากกว่า ความเร่าร้อนของช่วงเวลานั้นอาจอาจทำให้คุณอยากตะปบเขา แต่ก็ระวังอย่าฉีกเนื้อเขาเป็นชิ้นๆ ล่ะ แทนที่จะจิกเล็บลงบนเนื้อเขา เปลี่ยนมาใช้ปลายนิ้วและมือลูบไล้ไปทั่วร่างเขาดีกว่า บีบเขาหนักๆ เวลาที่เขาทำถูกใจ เพื่อให้เขามีกำลังใจจะทำต่อไปด้วย

5. เสแสร้ง การออกัสซั่มไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิงหรอกนะ ที่จริงแล้ว ผู้หญิงโดยเฉลี่ยใช้เวลาราว 20 นาทีกว่าจะเสร็จสม แล้วใครจะมีเวลามากขนาดนั้นล่ะ ผู้หญิงส่วนมากก็เลยคิดว่าพวกเธอต้องทำให้แฟนรู้สึกดี ด้วยการแสดงให้เห็นว่าเธอเสร็จสมแล้ว แต่ผู้ชายจะมองว่าคุณไม่จริงใจ ถ้าผู้ชายรู้สึกว่าคุณโกหกเขาในช่วงเวลาแห่งการแนบชิดเช่นนี้ เขาอาจสงสัยว่าเขามีความหมายกับคุณแค่ไหน ฉะนั้น แสดงให้เขารู้เวลาที่เขาทำให้คุณเกิดอารมณ์ แต่อย่าเสแสร้งในตอนท้ายสุดถ้ามันไม่เกิดขึ้นจริงๆ

6. ไม่ใส่ชุดชั้นใน การไม่ใส่กางเกงในเป็นบางคราวตอนออกเดตเป็นเรื่องเซ็กซี่ แต่การไม่ใส่กางเกงในตลอดเวลานั้นมากเกินไป เพราะมันทำให้คุณดู “ง่ายเกินไป” ใช้ทริกนี้เป็นครั้งคราวเวลาออกเดต เพื่อทำให้คนที่คุณตั้งใจยั่วยวนเกิดอารมณ์ แต่อย่าทำแบบนี้ในชีวิตประจำวันเลย…ขอร้อง!

7. เมา นักโฆษณามักชอบจับคู่แอลกอฮอล์กับหญิงสาวหน้าตาดี ที่ส่งสารออกเหมือนว่าการเมานั้นเป็นเรื่องเซ็กซี่ ในขณะที่เหล้าอาจทำให้คุณผ่อนคลาย แต่ก็ระวังอย่าใช้มันมากเกินไป เวลาที่ผู้หญิงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ มันจะทั้งน่าอายและไม่เร้าใจเลย ไม่มีอะไรเซ็กซี่เวลาที่ชายหนุ่มของคุณต้องคอยประคองคุณไม่ให้ลงไปกองกับพื้น!

8. เล่นบทสาวผู้น่าสงสาร ผู้หญิงบางคนชอบคิดว่าการทำตัวเป็นสาวผู้น่าสงสารจะทำให้ผู้ชายรู้สึกอยากปกป้อง แต่คนรักของคุณอาจมองคุณว่าเป็นคนที่ต้องพึ่งพิงแต่คนอื่นหรือไม่ฉลาดนัก ซึ่งอาจทำให้เขาอยากเผ่นหนี เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนอยากเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ให้เขาได้ช่วยเหลือคุณในเวลาที่คุณต้องการจริงๆ สำหรับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก เพราะผู้ชายชอบการแก้ปัญหา แต่ถ้าคุณสามารถทำอะไรเองได้บ้าง ก็ทำเถอะ

9. เล่นบทผู้กำกับ มันต่างกันนะระหว่างการกล้าแสดงออก กับการเป็นผู้ควบคุมในเรื่องบนเตียง บอกเป็นนัยๆ ในสิ่งที่คุณต้องการ แต่อย่าทำให้เขารู้สึกว่าคุณกำลังควบคุมเขาทุกย่างก้าว การทำตัวเป็นเจ้านายไม่เซ็กซี่แม้แต่น้อย แค่พูดเวลาที่เขาทำอะไรถูกใจ เขาจะได้แน่ใจว่าเขามาถูกทางแล้ว

ภาพประกอบจาก //www.photos.com/

lisamag ขอขอบคุณ www.lisaguru.com ผู้สนับสนุนเนื้อหา




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2556   
Last Update : 9 ธันวาคม 2556 21:47:48 น.   
Counter : 1590 Pageviews.  

Samsung Galaxy S5 มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

อัพเดทข่าว Samsung Galaxy S5 (SV) โดยทีมงาน techmoblog ในวันนี้ เมื่อทางสำนักข่าว Reuters ระบุว่า Samsung Galaxy S5 อาจจะมี เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ แบบเดียวกับที่ใช้บน iPhone 5S และ HTC One Max ด้วยเช่นกันครับ


โดยเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า ซัมซุง ได้ซื้อ Fingerprint Cards มูลค่ากว่า $650 ล้านเหรียญฯ ซึ่งซีอีโอของเจ้าของเทคโนโลยีดังกล่าว ได้เคยเผยว่า ในปีหน้า น่าจะมี มือถือซัมซุง 1-2 เครื่อง ที่จะมาพร้อมกับ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ในตัว

โดย Fingerprint Cards นั้น ถือว่า เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแนวใหม่ ที่จะถูกใช้กับ มือถือ Android และ Windows Phone ซึ่งปัจจุบัน ทางบริษัทฯ ได้เซ็นสัญญากับแบรนด์มือถือชั้นนำของโลกไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Fujitsu (ญี่ปุ่น), Pantech (เกาหลี) และ Konka (จีน)

อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าว ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า Samsung Galaxy S5 จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วยหรือไม่ครับ - phonearena.com

Samsung Galaxy S5 มีให้เลือก 2 รุ่น พลาสติก และ โลหะ

ETNews สำนักข่าวในเกาหลีใต้ เผยว่า Samsung Galaxy S5 จะมีให้เลือก 2 รุ่นครับ ซึ่งได้แก่ รุ่นที่ตัวเครื่องโลหะ และรุ่นตัวเครื่องพลาสติก

โดย Samsung Galaxy S5 ตัวเครื่องโลหะ จะเป็นหน้าจอ OLED แบบยืดหยุ่น ส่วนตัวเครื่องพลาสติก จะเป็นหน้าจอ OLED แบบธรรมดา ส่วนหน่วยประมวลผลที่ใช้ ยังไม่มีข้อมูลที่เด่นชัดว่า ทั้ง 2 รุ่นจะใช้หน่วยประมวลผลต่างกันหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ น่าจะเป็นชิป Exynos แบบ 64-bit กับ Snapdragon รุ่นใหม่ล่าสุด ส่วน RAM มีขนาด 3 GB, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, รัน Android 4.4 KitKat และแบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh

ส่วนกระบวนการผลิต Samsung Galaxy S5 คาดว่า จะเริ่มในเดือน มกราคม ปีหน้า ก่อนเปิดตัวประมาณ เดือนมีนาคม - เมษายน 2014 - phonearena.com

Samsung Galaxy S5 มาพร้อมหน้าจอ 5.3 นิ้ว ความละเอียด 2560x1440 พิกเซล

ควันหลงงาน Samsung Analyst Day เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นอกจากจะมีข่าวว่า ซัมซุง จะเปิดตัว มือถือหน้าจอความละเอียด 560 ppi แล้ว ยังมี ข้อมูลเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S5 เผยออกมาด้วยครับ

โดยงานดังกล่าวนั้น ผู้สื่อข่าวไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน ฉะนั้น ข้อมูลที่หลุดออกมานี้ มาจากกลุ่มนักวิเคราะห์ที่เข้าร่วมงานนั่นเอง ซึ่งรายละเอียดสำคัญ เกี่ยวกับงานประชุมดังกล่าวนี้ เผยว่า Samsung Galaxy S5 จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล ครับ และคงจะเป็น สมาร์ทโฟนรุ่นแรก ที่มีความละเอียดหน้าจอที่ 560 ppi อีกด้วย

แน่นอนครับว่า ข้อมูลดังกล่าวนี้ แม้จะมาจาก กลุ่มนักวิเคราะห์ ที่เข้าร่วมงานโดยตรง แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ 100% ได้ว่า Samsung Galaxy S5 จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 5.3 นิ้วจริงหรือไม่ จนกว่าจะได้รับการยืนยันจาก ซัมซุง ครับ - phonearena.com

Samsung Galaxy S5 มาพร้อม RAM 4GB

สื่อไอทีแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ ได้เผยว่า Samsung Galaxy S5 จะมาพร้อม สเปค ที่แรงถึงใจอย่างแน่นอนครับ เพราะนอกจากจะใช้ชิปเซ็ตตัวใหม่ Exynos 6 แล้ว ยังมาพร้อม RAM ขนาด 4GB เลยทีเดียว

โดยชิป Exynos 6 ตัวนี้ จะเป็นชิปแบบ 64-bit ที่ทำงานพร้อมกันทั้งหมด 8 คอร์ ต่างจากชิป Exynos 5 ที่แยกกันทำงาน และน่าจะเป็น สมาร์ทโฟนรุ่นแรก ทีมาพร้อม RAM 4GB อีกด้วย (ถ้าหากไม่มีแบรนด์อื่นเปิดตัวตัดหน้าไปเสียก่อน)

ส่วนกำหนดการเปิดตัว Samsung Galaxy S5 คาดว่า น่าจะเป็นช่วงต้นปีหน้าครับ - phonearena.com

Samsung Galaxy S5 สามารถกันน้ำ กันฝุ่นได้ [ข่าวลือ]

แหล่งข่าว ET News ในประเทศเกาหลีใต้ เผยว่า Samsung Galaxy S5 จะเพิ่มคุณสมบัติในการกันน้ำ กันฝุ่น และกันกระแทกครับ

ก่อนหน้านั้น มีรายงานว่า Samsung Galaxy S5 จะใช้ชิป Exynos 6 แบบ 64-bit ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ดีกว่า ชิปรุ่นปัจจุบันถึง 2 เท่า เลยทีเดียว

ในระยะหลัง สมาร์ทโฟนแบบกันน้ำ กันฝุ่นได้ เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในวงการสมาร์ทโฟนครับ นำโดยแบรนด์โซนี่ ที่ชูจุดเด่นของ สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ อย่าง Sony Xperia Z หรือ Sony Xperia Z1 กับความสามารถในการกันน้ำ กันฝุ่น ส่วนของซัมซุงเอง ก็มี Samsung Galaxy S4 Active ที่เป็นสมาร์ทโฟนพันธุ์อึดเหมือนกัน ซึ่งแหล่งข่าวเผยว่า Samsung Galaxy S5 ที่เพิ่มคุณสมบัติ กันน้ำ กันฝุ่น เข้ามานั้น จะไม่มีการดาวน์เกรดสเปคลง เหมือน Samsung Galaxy S4 Active ครับ

อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าว ยังไม่ได้รับการยืนยันจากซัมซุง แต่อย่างใด - androidcritics.com

Samsung Galaxy S5 มาพร้อมชิป Exynos 6

แหล่งข่าว DDaily ในเกาหลีใต้ ได้อ้างข้อมูลวงใน ซึ่งระบุว่า Samsung galaxy s5 นั้น จะมาพร้อมชิปประมวลผลแบบใหม่ Exynos 6 ซึ่งรองรับการประมวลผลแบบ 64-bit นอกจากนี้ ยังผลิตที่สถาปัตยกรรม 14 นาโนเมตร อีกด้วย

โดยชิป Exynos 6 นั้น เป็นหน่วยประมวลผลแบบ big.LITTLE Octa-Core ซึ่งประกอบด้วยซีพียูทั้งหมด 2 ตัวด้วยกัน ได้แก่ Cortex-A53 และ Cortex-A57 ซึ่งประหยัดพลังงานได้ดีกว่า ชิป Exynos 5 ที่ใช้กับ มือถือระดับไฮเอนด์ของซัมซุงรุ่นปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังทำงานพร้อมกันทั้ง 8 คอร์อีกด้วยครับ

ก่อนหน้านั้น เคยมีข่าวออกมาว่า ชิปรุ่นถัดไปของซัมซุง จะผลิตที่สถาปัตยกรรม 20 นาโนเมตร (ชิป Exynos 5 ผลิตที่สถาปัตยกรรม 28 นาโนเมตร) ซึ่งถือว่า เป็นการข้ามขั้นเลยทีเดียว

โดย Samsung Galaxy S5 คาดว่า น่าจะเปิดตัวตอนต้นปี 2014 ครับ - gsmarena.com

Samsung Galaxy S5 เปิดตัว เดือนมกราคม ปี 2014

สื่อจากเกาหลีใต้ ได้เผยข้อมูลวงในว่า Samsung Galaxy S 5 จะเปิดตัวในเดือนมกราคมปีหน้าครับ

ถ้าหากข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริง จะถือว่า Samsung Galaxy S5 จะเปิดตัวเร็วกว่า Samsung Galaxy S4 ประมาณ 2 เดือน (Galaxy S4 เปิดตัวเดือนมีนาคม) โดยวงในเผยว่า สาเหตุที่ต้อง เปิดตัว Samsung Galaxy S5 เร็วขึ้น เป็นเพราะยอดขาย Samsung Galaxy S4 ไม่เป็นไปตามเป้านั่นเอง

สำหรับ สเปคแบบไม่เป็นทางการของ Samsung Galaxy S5 ก็คือ ใช้ชิป Exynos 5430 ซึ่งเป็นแบบ 64-bit และกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งปรับปรุงเซ็นเซอร์แบบใหม่ ทำให้สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้คมชัดมากขึ้น และมีระบบกันสั่นดีกว่า กล้องดิจิตอล เสียอีก

อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางซัมซุงครับ - gsmarena.com

Samsung Galaxy S5 (S V) มาพร้อมชิปประมวลผลแบบ 64-bit เหมือน iPhone 5s

หลังจากที่ Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 5S (ไอโฟน 5S) ที่มาพร้อมชิปประมวลผลแบบ 64-bit แล้ว ล่าสุด ทางซัมซุงเอง ก็ได้ประกาศออกมาครับว่า Samsung Galaxy S5 (S V) จะใช้ชิปประมวลผลแบบ 64-bit ด้วยเช่นเดียวกัน

โดย JK Shin ซีอีโอของ ซัมซุง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า มือถือ Samsung Galaxy รุ่นถัดไป จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ 64-bit อย่างแน่นอน ซึ่งถึงแม้ว่า JK Shin จะยังไม่ระบุว่า เป็นรุ่นใด แต่คาดกันว่า น่าจะเป็น samsung galaxy s 5 ครับ

และเมื่อถูกถามถึงกำหนดการเปิดตัว สมาร์ทโฟน 64-bit จากซัมซุง ก็ได้รับการตอบกลับมาสั้นๆ ว่า "ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้"

ซึ่งคำพูดของ JK Shin นั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เนื่องจากทั้ง Apple กับ ซัมซุง เป็นคู่แข่งกันมานานหลายปีแล้ว และเมื่อ Apple เปิดตัว iPhone 5s แบบ 64-bit ออกมา จึงเป็นเหตุให้ซัมซุง ต้องเร่งพัฒนาชิปเซ็ตเพื่อให้มีความเท่าเทียมกับคู่แข่ง อย่างไรก็ดี JK Shin ยังไม่ได้เผย ฟีเจอร์อื่นๆ ของ samsung galaxy s 5 แต่ได้เน้นในเรื่องการทำตลาด ที่ประเทศจีน กับ ญี่ปุ่นก่อน เนื่องจากในตอนนี้ Apple เริ่มที่จะบุกตลาดจีนแล้วเช่นกัน - cnet.com

Samsung Galaxy S5 ตัวเครื่องทำมาจากโลหะ [ข่าวลือ]

เว็บไซต์ ET News ในประเทศเกาหลีใต้ ได้รายงานข่าว เกี่ยวกับ Samsung Galaxy S5 (กา แลคซี่ เอส 5) ครับว่า จะเป็นมือถือรุ่นแรกของซัมซุง ที่มาพร้อมตัวเครื่องแบบโลหะ โดยจะใช้ แมกนีเซียม ผสมกับอะลูมิเนียม และโลหะ แทนที่วัสดุประเภท โพลีคาร์บอเนต ซึ่ง ซัมซุง ใช้ผลิตมือถือในปัจจุบัย

นอกจากนี้ รายงานข่าว ยังเผยอีกว่า ขณะนี้ทาง ซัมซุง กำลังออกแบบ Samsung Galaxy S5 ดีไซน์ใหม่ พร้อมกับทดสอบคุณภาพของวัสดุแล้ว ในเกาหลีใต้ และส่งตัวอย่างบางส่วน ให้กับทีมงานที่อยู่ในประเทศเวียดนาม เพื่อทดสอบว่า ถ้าหากเปลี่ยนวัสดุเป็นโลหะ จะส่งผลกระทบต่อการรับสัญญาณมากน้อยแค่ไหน

อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าว ยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้นครับ - phonearena.com

สนับสนุนเนื้อหา: www.techmoblog.com




 

Create Date : 07 ธันวาคม 2556   
Last Update : 7 ธันวาคม 2556 21:28:38 น.   
Counter : 2709 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]