สเป็คหลุด! All-new Honda City 2014 แบบหมดเปลือก หลุดสเป็ค All-new Honda City 2014  ก่อนวันเปิดตัวที่จะเริ่มขึ้นวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) ซึ่งรายละเอียดที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นเพียงข้อมูลก่อนการเปิดตัวเท่านั้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลังได้      เริ่มต้นด้วยรุ่นย่อยที่จะมีให้เลือก 6 รุ่น ได่แก่ S M/T, S A/T, V A/T, V A/T Plus, SV A/T และ SV A/T Plus      โดยทุกรุ่น (เริ่มตั้งแต่รุ่น S) จะมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า รองรับเชื้อเพลิง E85, โหมด ECO Assist, พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง, รองรับ Bluetooth ได้ 5 เครื่อง, ระบบเบรค ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSA, ระบบ HAS, กุญแจรีโมทพร้อมฟังก์ชั่นเปิดฝากระโปรงท้าย, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า      สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาในรุ่น V ได้แก่ ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว, กุญแจอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, มาตรวัดเรืองแสงสีฟ้า, กระจกแต่งหน้า, ช่องจ่ายไฟด้านหลัง      สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาในรุ่น V Plus ได้แก่ หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว, ช่องต่อ HDMI, รองรับสมาร์ทโฟน, รองรับ Siri, รองรับ Honda Link, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, รองรับ Bluetooth สูงสุด 6 เครื่อง, ปุ่มควบคุมโทรศัพท์, ระบบแอร์อัตโนมัติ, กล้องมองหลังปรับองศาได้ 3 ระดับ และเสาอากาศแบบครีบฉลาม      สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาในรุ่น SV ได้แก่ ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว, Cruise Control, เกียร์ CVT 7 สปีด, ระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย, ลำโพง 8 จุด, เบาะหลังพับได้ 60:40, ช่องจ่ายไฟด้านหลัง 2 ตำแหน่ง, ไฟตัดหมอกหน้า, ไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง, ที่วางแขน, ไฟอ่านแผนที่ และ กระจกมองข้างพับด้วยไฟฟ้า      ส่วนในรุ่นท็อปสุด SV Plus มีอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นมาได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้าง, ม่านถุงลมด้านข้าง, ไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านหลัง สีของ All-new Honda City 2014 จะมีให้เลือกทั้งหมด 7 สีด้วยกัน ได้แก่ สีแดง, สีน้ำตาล, สีขาว, สีดำ, สีเทา, สีเงิน และสีน้ำเงิน      ส่วนรายละเอียดที่ชัดเจนอย่าลืมติดตามงานเปิดตัว Honda City 2014 วันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) ทาง Sanook!Auto ครับ Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014 Honda City 2014   Create Date : 22 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2557 21:34:23 น.     Counter : 3716 Pageviews.   Share Tweet

เลือกเสื้อผ้าใส่ตาม 12 ราศี รสนิยมในการแต่งตัวนั้นจะแตกต่างไปตามความชื่นชอบของแต่ละบุคคล แต่ชาวสนุก!ดูดวงรู้หรือไม่ว่าการแต่งตัวสามารถส่งผลกับดวงชะตาของคุณได้เช่นกัน โดยเฉพาะการแต่งกายให้เหมาะสมกับราศีเกิดของคุณจะช่วยส่งเสริมให้คุณเป็นคนที่ดูดีทั้งในด้านของรูปลักษณ์ภายนอกและดวงชะตา ลองมาดูกันสิว่าราศีไหนต้องแต่งตัวอย่างไร ต้องเสริมเติมแต่งสีใดเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตบ้าง ราศีมังกร (เกิดตั้งแต่ 22 ธันวาคม ถึง 19 มกราคม) ชาวราศีมังกร เป็นคนสุขุม สงบเยือกเย็น เจ้าระเบียบแบบสุดๆ อีกทั้งยังค่อนข้างเป็นคนหัวโบราณ วิตกกังวลใจง่าย นอกจากนี้ชาวราศีมังกรมักเป็นคนที่บ้างานเอามากๆ ดั้งนั้นการแต่งตัวจึงเน้นความสะดวกในการทำงาน ใส่สบาย สำหรับสีที่ควรใส่ ควรเน้นสีโทนเข้ม เช่น สีเทา ดำ น้ำตาล เป็นต้น และหากมีเครื่องประดับที่ทำจากโกเมนด้วยแล้วจะยิ่งส่งเสริมให้ดีขึ้นไปอีก ราศีกุมภ์ (เกิดตั้งแต่ 20 มกราคม ถึง 18 กุมภาพันธ์) ชาวราศีกุมภ์ เป็นคนเฉลียวฉลาด หาความรู้ใส่ตัวอยู่เสมอ เป็นคนตรงไปตรงมา เก่งในเรื่องของการประสานงาน สำหรับการแต่งตัวของชาวราศีนี้มีความเป็นตัวของตัวเองเป็นอย่างมาก ไม่นิยมแต่งตัวเรียบๆ ดังนั้นสีที่ชาวราศีกุมภ์ควรใส่คือ สีเหลือง สีม่วง และสีฟ้าสว่าง พร้อมเครื่องประดับที่มีเพชรพลอยเป็นส่วนประกอบจะยิ่งถูกโฉลกมาก ราศีมีน (เกิดตั้งแต่ 19 กุมภาพันธ์ ถึง 20 มีนาคม) ชาวราศีมีน เป็นคนประเภทเพ้อฝัน ช่างจินตนาการ คล่องแคล่วว่องไว หวั่นไหวง่าย ในเรื่องของการแต่งตัวชาวราศีนี้มักเลือกเสื้อผ้าเข้ารูป เน้นสัดส่วนเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้แล้วชาวราศีมีนควรเน้นการแต่งตัวที่แตกต่างไม่เหมือนใคร เช่น เลือกเสื้อผ้าที่ออกแบบใหม่ มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง พร้อมประดับด้วยสร้อยคอรูปทรงต่างๆ จะส่งเสริมให้คุณดูดียิ่งขึ้น สำหรับสีที่ถูกโฉลกกับคนราศีนี้เป็นอย่างมาก คือ สีม่วง สีเขียว สีน้ำเงิน ราศีเมษ (เกิดตั้งแต่ 21 มีนาคม ถึง 19 เมษายน) ชาวราศีเมษ เป็นคนเชื่อมั่นในตนเอง มีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ชอบในเรื่องของการต่อสู้แข่งขัน สำหรับชาวราศีเมษนั้นเป็นคนที่ชอบแต่งตัวหลากหลายแนว ในบางครั้งก็เป็นผู้นำในเรื่องของการแต่งตัวเลยทีเดียว ดังนั้นชาวราศีเมษควรเลือกเสื้อผ้าที่พอดีตัวอวดรูปร่างดีๆ เน้นความเรียบหรู ดูดี สำหรับสีที่เข้ากับคนราศีนี้คือ สีดำ สีแดง และสีทอง จะส่งเสริมให้ชาวราศีนี้ดูดีมีเสน่ห์ เย้ายวนใจมากยิ่งขึ้น ราศีพฤษภ (เกิดตั้งแต่ 20 เมษายน ถึง 20 พฤษภาคม) ชาวราศีพฤษภ เป็นคนมีเหตุมีผล รักสวยรักงาม มีความอดทนเป็นอย่างยิ่ง บางครั้งก็ออกจะเป็นคนดื้อด้วยซ้ำไป ดังนั้นชาวราศีนี้ควรเน้นการแต่งตัวแบบหรูหรา ภูมิฐาน สีไม่ฉูดฉาดจนเกินไป เช่น สีจำพวกพาสเทล สีเบจ ขาว ดำ น้ำตาล จะเหมาะกับคนราศีพฤษภเป็นอย่างยิ่ง พร้อมด้วยเครื่องประดับที่ทำจากมรกต หากเป็นสร้อยคอด้วยแล้วจะยิ่งดี ราศีเมถุน (เกิดตั้งแต่ 21 พฤษภาคม ถึง 21 มิถุนายน) ชาวราศีเมถุน เป็นคนที่เหมาะกับการทำงานประชาสัมพันธ์ นักข่าว หรืองานที่เกี่ยวกับการประสานงานต่างๆ เนื่องจากเป็นคนอยากรู้อยากเห็น ช่างเจรจา ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อีกทั้งยังเป็นคนที่มีสองบุคลิกในร่างเดียวอีกด้วย ด้านหนึ่งชาวราศีเมถุนเป็นคนเอาการเอางาน ขยันทำมาหากิน ทำงานเก่ง อีกด้านหนึ่งก็เป็นคนชอบท่องเที่ยว ดังนั้นการแต่งตัวของชาวราศีเมถุนควรเป็นแบบเรียบง่าย สบายๆ แต่ไม่ตกเทรนด์ อีกทั้งการใส่เสื้อผ้าสีส้มจะช่วยให้ชาวราศีเมถุนมีกระตือรือร้นและช่วยกระตุ้นให้มีความคิดไหลลื่นมากยิ่งขึ้น ราศีกรกฏ (เกิดตั้งแต่ 22 มิถุนายนถึง 22 กรกฎาคม) ชาวราศีกรกฎ เป็นคนอ่อนหวาน อบอุ่น ช่างเพ้อฝัน โรแมนติก เป็นคนที่มีความเป็นธรรมชาติและความสง่างามในตนเอง อีกทั้งยังเป็นที่มีอารมณ์ไม่คงที่อ่อนไหวไปตามสิ่งแวดล้อมได้ง่าย ดังนั้นชาวราศีกรกฎควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่ใส่สบาย เป็นธรรมชาติ ดูสดใส ไม่แฟชั่นจนเกินไป หากประดับด้วยลูกไม้น่ารักๆ พร้อมต่างหูประดับมุก และกระเป๋าเข้าชุด จะทำให้ชาวราศีนี้ดูหวานมากยิ่งขึ้น สำหรับสีที่เหมาะกับชาวราศีกรกฎได้แก่ สีเขียว และสีน้ำเงิน จะช่วยส่งเสริมให้ชาวราศีนี้มีอารมณ์ที่มั่นคงขึ้น ราศีสิงห์ (เกิดตั้งแต่ 23 กรกฎาคม ถึง 22 สิงหาคม) ชาวราศีสิงห์ เป็นคนเปิดเผย มีอารมณ์สดใสร่าเริง มักมีเพื่อนมาก ภาคภูมิใจในตนเองและรักศักดิ์ศรีของตนเองเป็นที่สุด เรื่องการแต่งตัวของชาวราศีนี้ค่อนข้างทันสมัย และมีรสนิยมดีอยู่แล้ว หากเพิ่มในเรื่องของความเรียบหรู เน้นสัดส่วนให้ชวนหลงใหล จะช่วยส่งเสริมในเรื่องของเสน่ห์ให้ชาวราศีนี้มากยิ่งขึ้น สำหรับสีที่ถูกโฉลกกับคนราศีสิงห์คือ สีน้ำตาลทอง สีดำ สีม่วง สีส้ม สีแดง จะเหมาะกับคนที่กล้าแสดงออกแบบชาวราศีนี้เป็นอย่างดี ราศีกันย์ (เกิดตั้งแต่ 23 สิงหาคม ถึง 22 กันยายน) ชาวราศีกันย์ เป็นคนมีระเบียบ รอบคอบ เข้ากับคนอื่นได้ง่าย เป็นนักคิดวิเคราะห์ จอมวางแผน อีกทั้งยังเป็นคนเก็บความรู้สึก สำหรับในเรื่องของการแต่งตัวเป็นคนที่มีสไตล์เป็นของตนเองไม่ค่อยตามแฟชั่นสักเท่าไหร่ ดังนั้นเสื้อผ้าที่ชาวราศีกันย์ควรใส่คือ เสื้อผ้าที่มีความเรียบหรู ดูสง่า พอดีตัว และเน้น สีน้ำตาล สีดำ สีครีม จะถูกโฉลกเป็นอย่างมาก ราศีตุลย์ (เกิดตั้งแต่ 23 กันยายน ถึง 22 ตุลาคม) ชาวราศีตุลย์ เป็นคนตรงไปตรงมา ยึดหลักความยุติธรรมเป็นที่ตั้ง สงบเยือกเย็น มีความคิดในแง่บวก อีกทั้งชาวราศีนี้ยังเป็นคนที่แต่งตัวได้ดูดีมีรสนิยม แต่ถึงอย่างไรชาวราศีนี้ก็ควรแต่งตัวให้ดูกลมกลืนกับคนอื่นๆ แต่งกายให้เรียบร้อยแต่ทันสมัย และควรเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสถานที่ หลีกเลี่ยงผ้าที่มีจีบเยอะ สำหรับสีที่เหมาะสมกับชาวราศีนี้คือ สีโทนเย็น เช่น สีฟ้า สีน้ำเงิน และสีที่บ่งบอกถึงความโรแมนติก เช่น สีชมพู นั้นเอง ราศีพิจิก (เกิดตั้งแต่ 23 ตุลาคม ถึง 21 พฤศจิกายน) ชาวราศีพิจิก เป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ ไม่ชอบให้คนอื่นมาออกคำสั่ง มีความเย่อหยิ่งในตนเอง ค่อนข้างเป็นคนที่มีอารมณ์ซับซ้อนลึกลับ ดังนั้นการแต่งกายที่เหมาะสมคือ การเลือกเสื้อผ้าที่มีความยาวมากกว่าปกติ และมีความพลิ้วไหว อีกทั้งยังควรเลือกเสื้อผ้าที่ดูทันสมัย โดดเด่น เน้นสัดส่วน หากเสริมด้วยแว่นตา จะช่วยส่งเสริมดวงชะตาของชาวราศีนี้ให้ดีขึ้น สำหรับสีที่เหมาะกับชาวราศีพิจิกคือ สีน้ำเงินสว่าง สีแดงเข้ม สีดำ จะช่วยทำให้ชาวราศีนี้มีเสน่ห์ ลึกลับ น่าค้นหามากยิ่งขึ้น ราศีธนู (เกิดตั้งแต่ 22 พฤศจิกายน ถึง 21 ธันวาคม) ชาวราศีธนู เป็นคนที่คล่องแคล่ว กระตือรือร้น และเป็นคนที่มีความซื่อตรงซื่อสัตย์ ใจดี ใจกว้าง มีความมุ่งมั่นในการทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จไม่แพ้ชาวราศีใด อีกทั้งยังเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ดังนั้นเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับชาวราศีนี้คือ เสื้อผ้าที่ทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวก ไม่รุ่มร่าม เน้นเสื้อผ้าที่มีลักษณะการตัดเย็บที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนมากนัก หรือเสื้อผ้าแนวสปอร์ต อีกทั้งยังควรเลือกสีม่วงซึ่งเป็นสีที่เหมาะกับคนที่มองโลกในแง่ดีอย่างชาวราศีธนู นอกจากนี้สีเขียวและสีเหลืองก็ยังช่วยส่งเสริมดวงชะตาของชาวราศีนี้ให้ดียิ่งขึ้น ขอบคุณข้อมูลจาก FW Mail ขอบคุณภาพประกอบจาก //www.dahong.co.kr   Create Date : 22 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2557 21:33:40 น.     Counter : 2335 Pageviews.   Share Tweet

เที่ยววัดเล่งเน่ยยี่2 อลังการวัดจีน ไหว้พระปีชง2557 วันตรุษจีนปี 2557 เขยิบใกล้เข้ามาแล้ว สนุก! ท่องเที่ยว เลยอาสาขอชวนคุณอ่านทุกท่านไปไหว้พระทำบุญกันที่วัดจีนที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศ นั่นคือ วัดเล่งเนยยี่ 2 หรือ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ตั้งอยู่ที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และเป็นวัดจีนสาขา 2 ที่ใหญ่กว่า วัดเล่งเน่ยยี่ 1 วัดดังที่ย่านเยาวราช กรุงเทพฯ ซึ่งงดงามตระการตา จนหลายคนเปรียบเปรยว่าเหมือนได้เดินอยู่ในพระราชวังจีน นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนที่เกิดปีชง มีความเชื่อว่าหากมา ไหว้พระ ทำบุญ สะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง2557 แล้วจะเป็นสิริมงคลช่วยให้คลาดแคล้วจากภยันตรายทั้งปวง ส่วนใครปีนี้ที่ไม่เป็น ปีชง ก็สามารถแวะเวียนไปทำบุญไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยรับ วันตรุษจีน ของชาวจีนได้เหมือนกัน วัดเล่งเน่ยยี่ 2 เป็นวัดจีนที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย มีพื้นที่ราวๆ 12 ไร่เศษ จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี (ในปี พ.ศ.2539) ที่อยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ แค่นิดเดียว ไม่ว่าจะขับรถหรือนั่งรถก็สบายๆใช้เวลาเดี๋ยวเดียวก็ถึง แต่เดิมสถานที่ตรงนี้ เป็นเพียงแค่โรงเจขนาดเล็กซึ่งมีพื้นที่แค่ 2 ไร่ อันเป็นสถานที่ซึ่งชาวบางบัวทองให้ความเคารพนับถือมาก แต่ด้วยแนวคิดของ วัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส จากมติของคณะสงฆ์นิกายจีนแห่งประเทศไทยที่ดำริจะสร้างวัดจีนขึ้น จึงได้มอบหมายหน้าที่นี้ให้กับ "เจ้าคุณเย็นเซี้ยว" (พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์) ได้ทำหน้าที่เป็นประธานที่ปรึกษาการจัดสร้างฝ่ายสงฆ์ ในการนี้ได้เปิดให้พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาได้มีโอกาสร่วมบุญในการจัดสร้างวัดแห่งนี้ด้วย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์นิกายจีนรังสรรค์" โดยมี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก เสด็จทรงเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ของวัด วัดเล่งเน่ยยี่ 2 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี ตั้งแต่พ.ศ. 2539-2551 ก่อนที่ความยิ่งใหญ่อลังการและศิลปะความงดงามทางจิตวิญาณแห่งนี้จะปรากฏแก่สายตาชาวโลกดังที่เราได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน บริเวณโดยรอบของวัดมีการจัดเคลียพื้นที่จอดรถอย่างกว้างขวางทั้งสองด้าน แต่ถึงกระนั้นเราก็คิดว่าคงยังไม่พอ เพราะเหลือบไปเห็นป้ายบอกทางไปที่จอดรถของวัดจุดที่ 3 ซึ่งอยู่ค่อนข้างไกลออกไป นั่นยืนยันถึงจำนวนผู้คนจำนวนมากที่เดินทางมาถึงวัดแห่งนี้ในโอกาสสำคัญได้เป็นอย่างดี วัดเล่งเน่ยยี่ 2 หันหน้าไปทางทิศใต้ ตั้งอยู่ในทิศขวางตะวัน ดังนั้นเราจึงสามารถถ่ายภาพได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกโดยมีมหาวิหารเป็นฉากหน้า หลังซุ้มประตูนั้นเรียงรายด้วยหุ่นศิลา "จับโป่ยหล่อหั่ง" หรือ 18 อรหันต์ รูปสลักลอยตัวแบบที่แกะจากหินทั้งก้อนอันแสดงถึงฝีมือในการสลักหินอย่างชัดเจน หากไปแล้วอย่าลืมสังเกตฐานล่างของหุ่นเหล่านี้ จะเห็นได้ทันทีว่ามีที่มาจากหินทั้งก้อนจริงๆ วิหารหลังแรกที่ขึ้นไปถึงนั้นคือ "วิหารจตุโลกบาล" ซึ่งเต็มไปด้วยรูปเคารพของพระอรหันต์และพระโพธิสัตว์รวมทั้งเทพเจ้าตามคติความเชื่อแบบจีนสีทองอร่ามตา เป็นจุดแรกที่มีคนนิยมไหว้ขอพรกันมาก วิหารขนาดย่อมลงมาที่ตั้งอยู่ทั้งสองด้านก็คือ "หอกลอง" และ "หอระฆัง" ขนาดใหญ่ยักษ์ ซึ่งมีการใช้งานจริงในฐานะที่เป็นเครื่องมือส่งสัญญาณในวาระต่างๆ ของวัดแต่ละช่วงเวลาในหนึ่งวัน ถัดจากนั้นเพียงบันไดหินอีกไม่กี่ขั้น ก็คือมหาวิหารใหญ่ซึ่งเป็นพระอุโบสถของวัดภายในมีพระประธานสีทองขนาดใหญ่อยู่สามองค์คือ พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) พระอมิตาภพุทธเจ้า และ พระไภษชยคุรุไวฑูรยพุทธเจ้า ซึ่งมีความสูงจากวัชรบัลลังก์ถึงยอดพระเกศา 4.02 เมตร กว้างถึง 3.08 เมตร และด้านบนเพดานของมหาวิหารนี้ก็ยังตกแต่งลวดลายและสีสันอย่างงดงามอร่ามตาตามแบบฉบับของอารยะธรรมจีน อาคารขนาดใหญ่อีกแห่งที่อยู่ด้านหลังก็มีความสำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ "วิหารพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์" เป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิม ปางพันตาพันมือ ซึ่งแกะสลักจากไม้เนื้อหอมส่งตรงจากประเทศจีน มีความงดงามและน่าศรัทธาเป็นอย่างมาก ซึ่งวัดเล่งเน่ยยี่ 2 นี้ เปิดให้ให้บุคคลภายนอกได้เข้าสู่บริเวณวัดได้ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. วันจันทร์-ศุกร์ ส่วนเสาร์-อาทิตย์ตั้งแต่ 08.00- 18.00 น.  หลังจากพาเที่ยวชม วัดเล่งเน่ยยี่ 2 กันแบบอิ่มตาอิ่มใจแล้ว วันตรุษจีนปี2557 นี้ สนุก! ท่องเที่ยว ก็ขอกล่าวคำอวยพรล่วงหน้า ซินเจี่ยยู้อี่...ซินนี้ฮวดใช้  มีความสุข เฮง เฮง เฮง รวย รวย รวย ตลอดปีตลอดไปกันนะครับ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม วัดบรมราชาฯ โทร.0 2571 1155  การเดินทาง: จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางถนนงามวงศ์วาน ผ่านแยกแคราย มุ่งหน้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้า แล้วขับไปเรื่อยๆ จนเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกาญจนาภิเษก แล้วไปเลี้ยวขวาเข้าถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตรงไปประมาณ 4 กิโลเมตร จะสังเกตเห็นป้ายบอกทางเข้าวัด ขับไปอีกนิดก็จะพบทางเข้าวัด ขอขอบคุณข้อมูลจาก: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) งานแผนปฏิบัติการตลาดภาคกลาง และ //www.เที่ยวภาคกลาง.com สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 22 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 22 มกราคม 2557 21:33:03 น.     Counter : 2280 Pageviews.   Share Tweet

เกือบครบทีม!แฟนแห่โหวต9แข้งผีควรออกจากฝั่ง ฟุตบอล : แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง สำนักข่าวชื่อดังของ อังกฤษ ออกมาเปิดเผยผลสำรวจจากแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กว่า 5,000 คน ต้องการให้ทีมโล๊ะผู้เล่นในทีมชุดใหญ่มากถึง 9 รายในซัมเมอร์นี้ เดวิด มอยส์ พาทีมไปแพ้ต่อ เชลซี 1-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขามีคะแนนตามหลัง อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูงถึง 14 คะแนน โอกาสป้องกันแชมป์ริบหรี่เต็มที่ ซึ่งจากผลงานย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ สาวกของ เรด เดวิลส์ เชื่อว่างเวลาแล้วที่ทีมจะต้องมีการผ่าตัดใหญ่ อเล็กซานเดอร์ บุตเนอร์, แอชลี่ย์ ยัง, ฟาบิโอ, มารูยาน เฟลไลนี่, นานี่, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ไรอัน กิ๊กซ์ และ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ เป็นรายชื่อที่แฟนบอลมองว่าไม่สมควรที่จะเล่นให้กับ ยูไนเต็ด ขณะที่ อันแดร์สัน ที่ถูกปล่อยไปให้ ฟิออเรนติน่า ยืมตัว เป็นผู้เล่นที่ได้รับคะแนนน้อยที่สุดที่แฟนบอลอยากให้อยู่กับทีมต่อไป ขณะที่ เดวิด เด เคอา, ไมเคิ่ล คาร์ริค, เวย์น รูนี่ย์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, ฟิล โจนส์ และ ราฟาเอล คืออีกหนึ่งกลุ่มที่แฟนบอลต้องการให้อยู่ในสโมสรต่อไป โดยได้รับคะแนนโหวตมากกว่า 90% ทั้งหมด สรุปคะแนนโหวต (อยู่-ออก) อเล็กซานเดอร์ บุตเนอร์ 32.4-67.6, อันเดรส ลินเดการ์ด 72.7-27.3, อันแดร์สัน 6.8-93.2, อันโตนิโอ วาเลนเซีย 69.7-30.3, แอชลี่ย์ ยัง 18-82, เบน เอมอส 67.5-32.5, คริส สมอลลิ่ง 70.6-29.4, แดนนี่ เวลเบ็ค 88.8-11.2, ดาร์เรน เฟลตเชอร์ 85.8-14.2 ดาวิด เด เคอา 96.2-3.8, ฟาบิโอ 28.6-71.4, กีเยร์โม่ บาเลร่า 65.9-34.1, จอนนี่ อีแวนส์ 84.1-15.9, มารูยาน เฟลไลนี่ 49.4-50.6, ไมเคิ่ล คาร์ริค 91-9, นานี่ 23.5-76.5, เนมานย่า วิดิช 66.7-6.9-26.4(หมดสัญญา), ปาทริช เอฟร่า 53.5-46.5 ฟิล โจนส์ 95.1-4.9, ราฟาเอล 91.2-8.8, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 13.3-11.2-75.6(หมดสัญญา), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 90.6-9.4, ไรอัน กิ๊กซ์ 21.5-78.5(รีไทร์), ชินจิ คางาวะ 75.3-24.7, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ 36.3-63.7, เวย์น รูนี่ย์ 90.1-9.9, วิลเฟรด ซาฮา 86.1-13.9 สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 21 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 21 มกราคม 2557 20:35:09 น.     Counter : 1475 Pageviews.   Share Tweet

4 เรื่องที่คุณไม่รู้ของแอร์ในรถยนต์ แอร์รถยนต์ ไม่เพียงแค่เป็นแหล่งรวมของฝุ่นละออง แต่ยังเป็นที่อยู่ของเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียหลายชนิด ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพคุณและครอบครัว เพื่อสุขภาพอนามัย เราจึงควรล้างตู้แอร์ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และนี่คือ 4 เรื่องที่คุณไม่รู้ที่ควรอ่าน - ฝุ่น จากภายนอกรถจะเข้ามาในระบบแอร์ทุกครั้งที่เปิดแอร์ เมื่อฝุ่นละอองมาเกาะอยู่ตามแผงคอยล์เย็นในตู้แอร์ ทุกครั้งที่เปิดแอร์ ลมแอร์ก็จะพัดเอาฝุ่นเล็ก ๆ เข้ามาในตัวรถ ยิ่งนั่งอยู่ในรถนาน ก็ยิ่งสูดฝุ่นเข้าไปในร่างกาย สะสมไปเรื่อย ๆ นานวันก็จะกลายเป็นสาเหตุของปัญหาโรคภูมิแพ้ โรคเยื่อบุในระบบทางเดินหายใจ - ซากแมลงที่เน่าเปื่อยตายอยู่ในตู้แอร์ เป็นสิ่งที่พบได้เสมอ และนับเป็นอันตรายที่มองไม่เห็นและส่งผลต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง นอกจากคุณจะสูดฝุ่นละอองเข้าไป คุณยังสูดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย นั่นทำให้ร่างกายรับสารและก่อให้เกิดโรคแปลก ๆ ที่ไม่คาดคิดมากมาย โดยเฉพาะโรคจากการติดเชื้อในปอด และอวัยวะภายในร่างกาย - เครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่จะอยู่ด้านหลัง แต่ตัวคุณขับรถอยู่ด้านหน้า ลมแอร์ที่เป่าออกมา จึงเหมือนส่งตรงเข้าจมูก ปอด ให้สูดก่อนที่เครื่องฟอกอากาศจะฟอกอากาศ ในขณะที่การหาซื้อเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดีมาติดตั้ง ต้องใช้เงินมากกว่ามาก ดังนั้นการกำจัดที่สาเหตุ ด้วยการล้างตู้แอร์จึงเป็นทางหลีกเลี่ยงโรคภัยที่ดี และประหยัดกว่า - หนึ่งในการล้างตู้แอร์ที่ได้รับการตรวจสอบ และรับรองโดยองค์การอาหารและยา คือ การนำตู้แอร์มาทำความสะอาด ผ่านการล้างน้ำยาด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถแวะทำความสะอาดได้กับศูนย์บริการใกล้บ้าน ขอบคุณข้อมูลจาก วิชาการดอทคอม ภาพประกอบ //www.photos.com   Create Date : 21 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 21 มกราคม 2557 20:34:27 น.     Counter : 1642 Pageviews.   Share Tweet