ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

10 นักเตะดังย้ายทีมจากกฎ

10 นักเตะดังย้ายทีมจากกฎ
10 นักเตะดังย้ายทีมจากกฎ

ก่อนจะไปเข้าเรื่องกัน เราไปทำความรู้จักกับกฎ "บอสแมน" กันสักหน่อย!

กฎ "บอสแมน" คือ หากนักเตะคนใดที่หมดสัญญากับทีมต้นสังกัดแล้วนั้นจะสามารถย้ายทีมได้ทันทีโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ และถ้าหากช่วงเวลา 6 เดือนก่อนอายุสัญญาจะหมดนั้น นักจะสามารถเจรจาล่วงหน้าย้ายไปร่วมทีมใดก็ได้ โดยไม่มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้น และนั่นจึงเป็นที่มาคร่าวๆ ของกฎ "บอสแมน" นั่นเอง หวังว่าคงจะเข้าใจกันนะ


โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้



เหตุผลที่เราหยิบเรื่องนี้เอามาพูดนั้นก็เพราะอยากให้ทุกคนได้รู้ถึงการย้ายทีมด้วยกฎ "บอสแมน" ของนักเตะดังตลอดช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเราจะหยิบยกมาใช้ชมกันประมาณ 10 คนด้วยกัน

โดยล่าสุดที่เราได้ทราบกันไปเมื่อเร็วๆ นี้ก็คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ได้เซ็นสัญญาล่วงหน้าโอนสังกัดจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปซบตักคู่แข่งล่าถ้วยแชมป์อย่าง บาเยิร์น มิวนิค แบบไม่มีค่าตัว สำหรับหลายๆ คนคงช็อกกับเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น เพราะนักเตะฝีเท้าระดับ เลวานดอฟสกี้ เนี่ยนะ! จะย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัว แถมยังย้ายไปอยู่กับคู่อริอย่าง "เสือเหลือง" อีกด้วย สำหรับผมแล้วมองว่า บาเยิร์น เหมือนถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง แต่อีกฟากนึง ดอร์ทมุนด์ นั้นเหมือนกับว่าหนี้ท่วมหัว และต้องโดนยึดทรัพย์สินทั้งหมดไป (ไม่รู้ว่าเกี่ยวอะไรกันรึเปล่านะ)

เอาล่ะ! อย่ารอช้าเราไปดูอีก 10 นักเตะที่ย้ายทีมด้วยกฎ "บอสแมน" กันเลยดีกว่า

10. สตีฟ แม็คมานามาน




แม็คมานามาน อยู่กับ "หงส์แดง" มานับ 10 ปีขึ้นชื่อว่าเป็นตำนานของสโมสร แต่เขาได้เซ็นสัญญา 5 ปีย้ายไปร่วมทีมเรอัล มาดริด ในปี 1999 แบบไม่มีค่าตัว หลังจากเขาได้ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาใหม่กับ ลิเวอร์พูล ขณะเดียวกันในช่วงนั้นเองจะมีข้อเสนอจาก บาร์เซโลน่า, ลาซิโอ, อินเตอร์ มิลาน และยูเวนตุส ยื่นมาให้เขาเช่นกัน

ตอนอยู่กับ ลิเวอร์พูล นั้นหน้าที่ของเขาคือลากเลื้อยแนวริมเส้น แต่พอได้มาหวดแข้งในแดนกระทิงดุนั้นบทบาทของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก และก็สามารถทำมันได้ดีทีเดียว ซึ่งเขามีส่วนสำคัญอย่างมากที่ช่วยให้ "ราชันชุดขาว" นั้นคว้าแชมป์ลีก 2 สมัย, แชมป์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ และแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ อย่างละ 1 สมัย รวมถึงถ้วยใบยักษ์ในยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย ในปี 2000 ซึ่งในเกมนัดชิงนั้น แม็คมานามาน ยิงประตูได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการเซ็นสัญญาดึงตัวมาฟรีๆ ที่คุ้มเอามากๆ ของ เรอัล มาดริด

9. เฮนริค ลาร์สสัน



ลาร์สสัน ตำนานดาวเตะของ กลาสโกว์ เซลติก เซ็นสัญญา 2 ปีย้ายจากแดนวิสกี้มาอยู่กับ บาร์เซโลน่า แบบไม่มีค่าตัวเมื่อปี 2004 และก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเจ้าตัวมีส่วนสำคัญอย่างมากพาทีมดังแห่งแคว้นกาตาลัน คว้าแชมป์ลา ลีกา ได้ 2 สมัย, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างละ 1 สมัย ซึ่งในเกม "บิ๊กเอียร์" นั้น ลาร์สสัน นั้นถูกส่งลงสนามช่วงครึ่งหลัง และทำ 2 แอสซิสต์ ให้ "บาร์ซ่า" พลิกแซงเอาชนะ อาร์เซน่อล 2-1 คว้าแชมป์ไปครอง

8. มิชาเอล บัลลัค



ในปี 2006 บัลลัค อดีตดาวเตะทีมชาติเยอรมันทำเอา เรอัล มาดริด และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อกหักไปตามๆ กัน หลังนักเตะตัดสินใจเลือกมาอยู่กับ เชลซี แบบไม่มีค่าตัว ซึ่งในช่วงแรกนั้นเขามีปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าทำให้ชีวิตของเขาไม่ค่อยมีความสุขนัก แต่พอในฤดูกาล 2007-08 สามารถพา เชลซี ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ แต่โชคร้ายที่ต้องกินแห้ว เนื่องจากแพ้ในช่วงดวลจุดโทษ อย่างก็ตามเขาก็ถือได้ว่าเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ เชลซี ในยุคนั้น


7. โซล แคมป์เบล




แคมป์เบล ถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศต่อสโมสร ซึ่งตรงกับคำกล่าวในวงการฟุตบอลที่ว่า "จูดาส" เนื่องจากเจ้าตัวนั้นเป็นผู้เล่นที่มีความหมายต่อ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อย่างมาก แต่ในปี 2001 เขากลับย้ายไปอยู่กับคู่อริร่วมกรุงลอนดอนอย่าง อาร์เซน่อล จึงทำให้เขาเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในช่วงนั้น แต่หลังจากย้ายมาอยู่ใน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เขาก็ได้กลายเป็นคนสำคัญของทัพ "ปืนใหญ่" และสามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้มากมาย อาทิ ถ้วย พรีเมียร์ลีก 2 สมัย และเอฟเอ คัพ 3 สมัย โดยในปี 2006 เกือบคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ด้วย แต่กลับถูก บาร์เซโลน่า พลิกแซงซิวแชมป์ไปในที่สุด

6. มาร์คุส บับเบิ้ล




บับเบิ้ล ย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2000 แบบไม่มีค่าตัว ซึ่งตอนอยู่ที่ เยอรมัน นั้นเขาประจำการในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก แต่พอมาอยู่ที่ อังกฤษ นั้นเขาถูกจับไปเล่นในตำแหน่งแบ็กขวา และเขาก็ทำมันได้ดีจนได้ชื่อว่าเป็น 1 ในแบ็กขวาที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ยุคนั้นเลย โดยผลงานของ บับเบิ้ล ตลอดช่วงปี 2000-04 นั้นสามารถพา "หงส์แดง" คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า คัพ และ ลีก คัพ ได้อย่างละ 1 สมัย

5. เฟร์นานโด ยอเรนเต้



ยอเรนเต้ ก็เหมือนกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ขึ้นว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดดาวยิงของยุโรป โดยเขาได้ย้ายจาก แอธเลติก บิลเบา มาอยู่กับ ยูเวนตุส เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านแบบไม่มีค่าตัว สำหรับ ยอเรนเต้ ในตอนแรกดูเหมือนว่าจะไม่มีอนาคตกับ "ไอ้ม้าลาย" เลย แต่พอมาใช้ช่วงหลังๆ เขากลับยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ และจับคู่กับ คาร์ลอส เตเวซ ได้อย่างสุดยอด และมีโอกาสด้วยที่จะพา "เบียงโคเนรี่" คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ติดต่อกันเป็นสมัยที่ 3

4. แบรด ฟรีเดล



ฟรีเดล ได้รับอนุญาตให้ย้ายไปอยู่กับสโมสรใดก็ได้ เนื่องจาก ลิเวอร์พูล ในช่วงปี 2000 นั้น ซานเดอร์ เวสเตอร์เฟลด์ นั้นเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ก่อนที่นายทวารเลือดมะกันจะย้ายไปอยู่กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในปีดังกล่าว และก็ได้กลายเป็นคนสำคัญของทีมตลอดช่วงปี 2000-08 ลงเฝ้าเสาไป 287 เกม (ยิงได้ด้วย 1 ประตู โดยยิงใส่ ชาร์ลตัน แอธเลติก ในปี 2004 ) จนกระทั่งได้ย้ายไปอยู่นายทวารคนสำคัญของ แอสตัน วิลล่า และท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในอีกไม่กี่ปีต่อมา

3. เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่



กัมบิอัสโซ่ เป็นนักเตะของ เรอัล มาดริด ในช่วงปี 2000-04 แต่เขาเองนั้นไม่ได้เป็นผู้เล่นตัวจริงของทีม ถึงแม้ว่าในปี 2003 โคล้ด มาเกเลเล่ จะย้ายไปอยู่กับ เชลซี แล้วก็ตาม แต่เขาเองก็ยังไม่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกเบอร์ 1 ของทีมอยู่ดี จึงตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ในปี 2004 จนตอนนนี้เขาได้เป็นบุคคลสำคัญของทัพ "งูใหญ่" ไปแล้ว โดยลงเล่นไปเกินกว่า 400 นัด พาทีมคว้า "สคูเด็ตโต้" ได้ 4 สมัย

2. โรแบร์โต้ บาจโจ้



บาจโจ้ สร้างผลงานเอาไว้อย่างยอดเยี่ยมกับ ยูเวนตุส เมื่อช่วงปี 1990-95 ก่อนย้ายไปอยู่กับ เอซี มิลาน แต่ทว่าโชคร้ายนักที่เขานั้นกลับถูก อาร์ริโก้ ซัคคี่ ดองยาวอยู่ที่ม้านั่งสำรอง ต่อไปก็ได้ย้ายไปอยู่กับ โบโลญญ่า แบบไม่มีค่าตัว และสามารถช่วยให้ทีมนั้นอยู่รอดบนเวทีกัลโช่ เซเรีย อา ได้ ด้วยการจบสูงถึงที่ 8 จาก 22 ประตูของเขา ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาทำให้ถูกเรียกตัวติดทัพ "อัซซูรี่" ลุยบอลโลกปี 1998 และจากนั้นก็ได้อยู่กับ อินเตอร์ มิลาน โดยเขายังได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ในสุดยอดดาวเตะชาวอิตาเลี่ยน

1. อันเดรีย ปีร์โล่



ปีร์โล่ ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เล่นฟุตบอลได้สวยงามที่สุด แต่เรื่องของเขา ณ ตอนนี้ก็ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงย้ายจาก เอซี มิลาน มาอยู่กับ ยูเวนตุส เมื่อปี 2011 อย่างไรก็ตามเขาก็ยังได้รับการยอมรับว่ายังเป็น 1 ในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในยุโรป เขามีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ "ม้าลาย" กลายเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในอิตาลี ณ ตอนนี้


เรื่องโดย : HaMu




  • สนับสนุนเนื้อหา Smm Sport




 

Create Date : 13 มกราคม 2557   
Last Update : 13 มกราคม 2557 20:14:55 น.   
Counter : 2628 Pageviews.  

Toyota Vitz RS พี่น้อง Yaris แต่งหล่อแบบจัดเต็ม

  โตโยต้าเปิดตัว 'Vitz RS G Sports' คอนเซ็พท์คาร์เวอร์ชั่นเสริมหล่อของพี่น้อง Yaris 2014 ที่งานโตเกียวออโต้ซาลอน

Toyota Vitz RS G Sports

     ' RS G Sports' มาพร้อมชุดแต่งภายนอก ที่เปลี่ยนกันชนหน้าและหลังใหม่ทั้งชุด รวมถึงสเกิร์ตด้านข้าง และสปอยเลอร์ด้านหลังขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มความสปอร์ตถึงขีดสุด

     ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์เท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง เพราะ 'Vitz RS G Sports' มาพร้อมช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งแบบสปอร์ต เบรคใหญ่ขึ้น วางบนล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

     'Vitz RS G Sports' ใช้เครื่องยนต์แบบสี่สูบขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร พ่วงเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ส่งกำลังที่ได้ผ่านไปยังล้อคู่หน้า

     ส่วนภายใน มีการปรับแต่งแผงคอนโซลใหม่ พร้อมติดตั้งเบาะนั่งแบบสปอร์ตอีกด้วย

     ต้องรอดูเวอร์ชั่นผลิตจริงกันอีกที






 

Create Date : 13 มกราคม 2557   
Last Update : 13 มกราคม 2557 20:14:00 น.   
Counter : 2670 Pageviews.  

แกะกล่อง Nokia Asha 503 สมาร์ทโฟนตัวเก่งรองรับ 3G

เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปได้ไม่นานสำหรับ Nokia Asha 503 สมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาพร้อมกล้อง 5 ล้านพิกเซล รองรับ 3G งานนี้เรียกได้ว่าทางโนเกียส่งสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจออกมาอีกหนึ่งรุ่น(มีผู้ให้ความสนใจสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นจำนวนมาก)

ดังนั้นวันนี้ทางทีมงาน Sanook! Hitech มีโอกาสได้สัมผัส ก็เลยลองเล่น Asha 503 รุ่นนี้กันหน่อย มาดูกันว่าดีจริงอย่างที่ใครหลายๆ คนบอกหรือเปล่า

Nokia Asha 503 นั้นโดดเด่นด้วยเรื่องของสีสัน ที่ขอบอกว่าสุดซี๊ดจริงๆ โดยมี 6 สีมาตรฐานให้เลือก (แดง-Bright Red, เหลือง-Yellow, เขียว-Bright Green, ฟ้า-Cyan, ขาว-White และ ดำ-Black) ชอบแบบไหนจัดไป!!

Asha 503 นั้นมีการดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Layered Design ซึ่งกรอบนอกตัวเครื่องผลิตจากพลาสติกที่โปร่งใสเหมือนคริสตัล และเช่นเคยครับ Asha 503 นั้นมาพร้อมกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass  และในส่วนของระบบปฎิบัติการนั้น Asha 503 มาพร้อมระบบปฏิบัติการแพลทฟอร์ม Nokia Asha 1.2

เปรียบเทียบในส่วนของ Design กับสมาร์ทโฟนรุ่นใกล้เคียง

สเปคเบื้องต้นของ Nokia Asha 503

  • การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Layered Design ซึ่งกรอบนอกตัวเครื่องผลิตจากพลาสติกที่โปร่งใสเหมือนคริสตัล
  • จอแสดง ผลแบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 262,144 สี ความละเอียด 240x320 Pixels (QVGA : กว้าง 3.0 นิ้ว : 134 ppi : อัตราส่วน 4:3) พร้อม User Interface แบบ Nokia Asha Software Platform เวอร์ชัน 1.2
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 64 MB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 32 GB
  • เชื่อมต่อ HTML Browser ผ่านระบบ WiFi, HSPA, EDGE หรือ GPRS พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
  • กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels (2592x1944 Pixels), ถ่ายภาพวีดีโอ (QVGA : 320x240 Pixels : 15 fps) 
  • ราคา 2,690 บาท

***ขอบคุณที่มา: thaimobilecenter.com

ลองมาดูกันครับว่า Nokia Asha 503 สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ จะคุ้มค่ามากแค่ไหน และ จะมีฟีเจอร์อะไรเด็ดๆ ให้ได้ใช้งานกันบ้าง มาชมกันเลยครับ

แกะกล่อง พร้อมสำรวจอุปกรณ์ต่างๆ

มาเริ่มแกะกล่องกันเลยดีกว่าครับ Nokia Asha 503 มาในกล่องในโทนสีฟ้า เหมือนเช่นสมาร์ทโฟนในตระกูล Asha รุ่นอื่นๆ ครับ

กล่อง Nokia Asha 503 ด้านล่างจะมีสัญลักษณ์ที่แสดงให้ทราบว่า ตัวเครื่องด้านในที่ซื้อมานั้นเป็นสีอะไร

ในส่วนต่อมาได้เวลาเปิดกล่องสำรวจอุปกรณ์ด้านในอย่างเป็นทางการแล้ว ที่สามารถเห็นได้อย่างแรกเลยคือ "ตัวของสมาร์ทโฟน"


สำหรับภาพเห็นด้านล่างที่เห็นนั้นเป็นการยืนยันว่า Nokia Asha 503 เครื่องนี้นั้นโดนเราแกะเป็นที่แรก.............

เมื่อนำตัวเครื่องออก และเปิดกระดาษรองขึ้นจะเห็นได้ว่าอุปกรณ์ประกอบไปด้วย

  • ตัวเครื่อง Nokia Asha 503
  • ชุดหูฟัง
  • แบตเตอรี่ 
  • คู่มือการใช้งาน ที่เป็นภาษาไทย
  • สายชาตร์ Nokia Asha 503

สำหรับ Nokia Asha 503 นั้นได้รับการออกแบบตัวเครื่องแบบ Layered Design ซึ่งกรอบนอกตัวเครื่องผลิตจากพลาสติกที่โปร่งใสเหมือนคริสตัล ใช้กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass Display ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก กันรอยขีดข่วน

ในส่วนของหน้าจอนั้นมีขนาด 3.0 นิ้ว พร้อมความละเอียด 240x320 Pixels ตัวเครื่องมีขนาด 102.6x60.6x12.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 110.2 กรัม

เรามาเริ่มไล่สำรวจ Nokia Asha 503 ในส่วนด้านหน้ากันก่อนเลย เริ่มต้นที่ตัวเครื่องด้านหน้า ในส่วนด้านบนสุด(ตามภาพประกอบ) จะเป็นลำโพงสำหรับสนทนา โดยใต้ลำโพงสนทนา ก็มีโลโก้ ของ Nokia อยู่ด้วยโดย Nokia Asha 503 นั้นไม่มีกล้องดิจิตอลด้านหน้ามาให้นะครับ

ด้านหน้าส่วนล่างจะเป็นตำแหน่งของปุ่ม Home(Back) เพียงปุ่มเดียวเท่าที่ลองกดไปมา ปุ่มค่อนข้างเล่นง่าย ตอบสนองการกดได้อย่างรวดเร็ว(ความรู้สึกนั้นบอกได้ เพราะก่อนหน้านี้ได้ลองรีวิว Nokia Asha 501)

อ่อ............... ผมลืมบอกไปว่าในส่วนของ Home(Back) นั้นไม่มีแสงไฟเมื่อมีการสัมผัส

ด้านหน้าของ Nokia Asha 503 ไม่มีอะไรมาก เรามาดูส่วนด้านหลังกันต่อครับ ด้านหลังมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ถัดลงมานิดหน่อยเป็นอักษร NOKIA พร้อมตัวเลขบอกขนาดของกล้องนั้นคือ 5 MP

สำหรับตัวเครื่องด้านขวาะประกอบไปด้วยตำแหน่งของปุ่มสำหรับ เปิด-ปิด เครื่องและยังเเป็นปุ่มล็อกตัวเครื่องไปในตัว ถัดมาเป็นตำแหน่งของปุ่มสำหรับควบคุมเสียง เพิ่ม-ลด (เรียงจากซ้ายไปขวา) >>>รู้ว่าหลายๆ คนอยากรู้มากที่สุดคือปุ่มกดง่ายไหม เท่าที่ทางทีมงานได้ลองเล่น กดง่ายครับ ตอบสนองไว

ในส่วนของตัวเครื่องด้านซ้ายนั้นราบเรียบ ไม่มีปุ่มอะไร

ส่วนต่อมาเป็นตำแหน่งของตัวเครื่องด้านบน ที่มาพร้อมช่องสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร และ พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และ ชาร์จไฟแบบ microUSB

โดยด้านข้าง ส่วนล่างนั้นไม่มีปุ่มควบคุม หรือพอร์ตเชื่อมต่อใดๆ อยู่ในตำแหน่งนี้มีเพียงรูของไมโครโฟนเท่านั้น

ขอเน้นส่วนนี้หน่อยนะครับ(ปุ่มสำหรับกด เพื่อปลดล็อกสำหรับถอดกรอบฝาหลังออก) ส่วนนี้ถ้าเป็นสาวๆ จะถอดง่ายแค่เล็บจิกลงไปที่ช่องว่างรอบปุ่ม ฝาหลังก็สามารถถอดออกมาอย่างง่ายดาย

เมื่อถอดฝาหลังออกจะพบอะไรบ้างมาดูกัน

เมื่อถอดฝาหลัง Nokia Asha 503 ออกนั้นจะพบกับช่องใส่ซิม ซึ่งเป็นซิมการ์ดแบบ microSIM

สำหรับในส่วนของช่องสำหรับใส่หน่วยความจำนั้นจะอยู่ด้านนอก ตัวเครื่องด้านซ้าย หากใส่กรอบเราจะไม่สามารถมองเห็นของสำหรับใส่การ์ดหน่วยความจำ

โดย Nokia Asha 503 รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 32 GB สำหรับ microSD Card ขนาด 4 GB เค้ามีแถมมาให้นะครับ

แบตเตอรี่ สำหรับ Nokia Asha 503 ที่แถมมาให้นั้นเป็นแบตเตอรี่ Li-Ion มีขนาดอยู่ที่ 1200 mAh ระยะเวลารอรับสายสูงสุด ประมาณ 840 ชั่วโมง และระยะเวลาสนทนาสูงสุด ประมาณ 12 ชั่วโมง (GSM) หรือ 4.5 ชั่วโมง (WCDMA) อึดมากครับ

กล้องดิจิตอลในตัว ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels  ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 2592x1944 Pixels ไฟแฟลชในตัว (LED Flash : ระยะทำการ 1 เมตร) สำหรับ Nokia Asha 501 นั้นจะมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล แต่จะไม่มีไฟแฟลชในตัว โดยรองรับการถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียด 320 x 240 แบบ 15 fps ได้

กล้องเด็ดมาพร้อมความอะเอียดถึง 5 ล้าน

Nokia Asha 503 มีจุดเด่นอีกเรื่องคือเรื่องกล้องนั่นเอง เพราะมีกล้องความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 2592x1944 Pixels พร้อมไฟแฟลชในตัว (LED Flash : ระยะทำการ 1 เมตร)

  • ตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้า (Self-Timer)
  • ปรับค่าสมดุลสีขาว (White Balance : Fluorescent, Daylight, Automatic)
  • ปรับค่าโทนสี (Sepia, Greyscale, Normal, Negative, Black and White)
  • โปรแกรมตกแต่งแก้ไขรูปภาพ
  • ถ่ายภาพวีดีโอ (QVGA : 320x240 Pixels : 15 fps)

Interface and Functionality

Nokia Asha 503 นั้นมาพร้อมกับ มาพร้อมระบบปฏิบัติการแพลทฟอร์ม Nokia Asha 1.2 โดยจากภาพด้านบนนั้นเป็นส่วนของ Homescreen ที่ผู้ใช้สามารถตกแต่ง Icon ได้เอง


สำหรับแอพพลิเคชั่นที่เห็นนั้น เป็นแอพเริ่มต้น ที่ถูกติดตั้งมาให้ตั้งแต่แกะกล่อง

Fastlane สไลด์เพียงครั้งเดียวเพื่อเข้าถึงแอพโปรด

ส่วนที่ต้องพูดถึง เพราะเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Nokia Asha 503 นั่นคือฟังก์ชั่น Fastlane ซึ่งจะรวบรวมแอพล่าสุดของคุณ รายชื่อติดต่อ รายการอัพเดทบน Facebook Twitter และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปฏิทินของคุณไว้บนหน้าจอเดียว แสดงรายการถูกใจและความคิดเห็นบนภาพถ่ายและโพสต์บน Facebook ของคุณโดยการปัดสไลด์นิ้วไปด้านซ้าย ซึ่งขอบอกว่ามันใช้งานได้ง่ายและไหลลื่นจริง

แต่ถ้าหากคุณปัดสไลด์นิ้วจากด้านบนลงมาด้านล่าง จะเป็นส่วนของเมนูลัดสำหรับเรียกใช้งานฟังก์ชั่นเกี่ยวกับ Network ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi Bluetooth เป็นต้น

Social Network Application

เรียกได้ว่า Nokia Asha 503 ตอบโจทย์ของคนที่ชอบพบปะ สังสรรค์บนสังคมออนไลน์แน่นอนเพราะ Asha 503 มีแอพอย่าง WeChat, Facebook, Twitter, Chat Line, LinkedIn ลงมาให้พร้อม รอแค่คุณมาล็อกอินเท่านั้น เชื่อหรือยังครับว่า Nokia Asha 503 นั้นรองรับ Social Network อย่างครบครัน

ฟรีเกมส์

Nokia Asha 503 มีเกมส์มาให้คุณได้เล่นกันฟรีๆ นับ 10 เกมส์(ดาวน์โหลดจาก Nokia Store)

การใช้งานกล้องดิจิตอลบน Nokia Asha 503

สำหรับในส่วนของกล้อง Nokia Asha 503 นั้นมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพ ในสภาวะแสงน้อยได้เป็นอย่างดีพร้อมทั้งมีฟีเจอร์ให้ปรับแต่งได้อย่างหลากหลาย

ภาพที่ถ่ายได้จะถูกบันทึกไว้ที่ส่วนของ Gallery สำหรับตัวอย่างของภาพถ่ายที่ได้จาก Nokia Asha 503 นั้นสามารถดูได้จากแกลอรี่ด้านท้ายบความ

นอกเหนือจากการถ่ายภาพแล้ว Nokia Asha 503 ยังสามารถถ่ายภาพวีดีโอ (QVGA : 320x240 Pixels : 15 fps)

สรุปผลการทดสอบในเบื้องต้นของ Nokia Asha 503



สำหรับความรู้สึกเบื้องต้นหลังจากได้ลองเล่น Nokia Asha 503 เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ ด้วยจุดเด่นหลายๆ ด้านที่โดนเสริมมา ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมในเรื่องของการใช้งานด้าน Social Network ที่มีมาให้พร้อมอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Wechat, Line และอื่นๆ อีกมากมาย

หากใครที่รักการถ่ายภาพ Nokia Asha 503 นั้น ก็มีกล้องที่ความละเอียดสูงถึง 5 ล้าน Pixels เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ อย่างแน่นอน หรือแม้แต่เรื่องของราคาที่เปิดออกมาแค่สองพันปลายๆ ด้วยราคานี้ใครๆ ก็สามารถเลือกซื้อหามาใช้งานได้

สำหรับคนที่รักในการถ่าพและหลงไหลชีวิตบนโลกโซเชีย Asha 503 กำลังรอให้คุณไปเป็นเจ้าของ

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com




 

Create Date : 13 มกราคม 2557   
Last Update : 13 มกราคม 2557 20:12:23 น.   
Counter : 4299 Pageviews.  

7 เสน่หามัดใจชาย



อุณภูมิร้อนนอกกายดับได้ด้วยเครื่องปรับอากาศแต่ความเร่าร้อนของตัณหานี่สิต้องดับด้วยกลเม็ดของคุณเอง

อากาศเปลี่ยนแปลง ฝนตก ฟ้าร้อง ไม่ได้เป็นอุปสรรคขัดขวางอารมณ์เซ็กซี่ของหญิงชายหรอกนะจะบอกให้ ทั้งคุณและเขาสามารถปรุงแต่งอารมณ์และบรรยากาศให้แสนโรแมนติก เพื่อปลุกเร้าใจกายให้โลดแล่นไปตามวิถีแห่งความรัก ด้วยเทคนิคการปลุกเร้าอารมณ์สุดที่รักของคุณจนติดใจไม่อยากมองหาใครอื่นอีก

1. สัมผัสลูบไล้ ควรเอาใจใส่ดูแลสุดที่รักของคุณหลังเลิกงานกลับบ้าน ด้วยการนวดผ่อนคลายความเมื่อยล้าและพูดจาหวานๆ กับเขา หากมือนุ่มๆ ของคุณค่อยๆ นวดและลูบไล้ไปยังส่วนนั้นของเขา รับรองว่าเขาจะต้องเร่าร้อนดั่งไฟเป็นแน่ หรือสลับกันให้เขานวดคุณบ้างก็ได้นะ

2. โป๊แต่อย่าเปลือย จากแบบสอบถามได้ผลมาว่า 76% ของผู้ชายไม่เกิดความรู้สึกเร้าอารมณ์เมื่อแฟนสาวเปิดเปลือยหน้าอกโล่งแจ้ง แต่ถ้าเปิดให้เห็นวับๆ แวมๆ จะเกิดอารมณ์เซ็กซ์มากกว่า ดังนั้น การจะยั่วใจชายต้องมีเทคนิค การเปลือยกายให้สุดที่รักเห็นบ่อยๆ พอนานวันก็ขาดความเร้าใจได้เหมือนกันเพราะเห็นจนชินตา ดังนั้น หากคิดจะยั่วยุอารมณ์ของเขาก็ควรใส่เสื้อคอกว้างและก้มๆ เงยๆ ตรงหน้าเขาขณะสนทนา หรือใส่กระโปรงผ่าหน้า ผ่าข้างหรือผ่าหลังให้เขาเห็นเรียวขาของคุณวับๆ แวมๆ แค่นี้คุณก็ดูเซ็กซี่เหลือหลายในสายตาเขา

3. ลูกผู้ชายตัวจริง ถ้าสุดที่รักของคุณรู้สึกฮึกเหิมในความเป็นชายก็จะช่วยให้เขามีพลัง เซ็กซ์ที่สม่ำเสมอ ไม่ใช่หดๆ หายๆ สาวๆ จึงต้องรู้จักให้โอกาสเขาได้แสดงความเป็นอัศวินออกมา ส่วนคุณก็แสดงความนุ่มนวลและความอ่อนแอของผู้หญิงให้เขาเห็น อย่างเช่น ขอร้องเขาให้ช่วยรื้อโยกย้ายโต๊ะเก้าอี้ในห้องรับแขก หรือให้ช่วยดูยางรถยนต์ให้หน่อย และให้คุณคอยดูเขาทำงานและชมเชยความเก่งกล้าและกล้ามเนื้อที่เป็นมัดของเขา รับรองว่าไม่มีผู้ชายคนใดปฏิเสธความเป็นที่หนึ่งของตัวเองหรอก

4. ช่วยอาบน้ำ ในขณะที่เขากำลังอาบน้ำ ทำให้เขาประหลาดใจด้วยการนำเครื่องดื่มผลไม้ไปให้ และระหว่างที่เขากำลังดื่มก็ให้คุณถูสบู่ไปทั่วกายของเขา แต่ให้เลี่ยงหลบเจ้าหนูของเขา อย่าไปทักทายพญามังกรที่กำลังนิ่งสงบอยู่ เป็นการยั่วยุอารมณ์เขาให้รอคอยด้วยความระทึกใจและตื่นเต้น

5. จูบในอ้อมแขน รู้มั้ยว่าการยั่วยวนสุดที่รักของคุณให้กระพือไฟรักนั้นไม่ยากเลย ให้คุณใช้มือวางที่หลังศีรษะของเขา อีกมือหนึ่งกอดรอบตัวเขา และโน้มศีรษะของเขามาจูบ พร้อมกับเบียดร่างทุกส่วนเข้าหาเขาเพื่อให้เขาสัมผัสแนบชิดกับร่างกายของคุณ เมื่อคุณจูบเขาสักครู่หนึ่งก็ค่อยๆ ขยับร่างออกห่างเล็กน้อย เขาจะรู้สึกเหมือนภูเขาไฟที่กำลังเดือดพล่านพร้อมจะปะทุออกมา

6. เสียงสื่ออารมณ์ หากกำลังนั่งดูภาพยนตร์ทีวีที่น่าเบื่อด้วยกัน ให้คุณซุกกายลงในอ้อมกอดของเขาพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ มือลูบไล้ไปที่ท้องของเขาและคราง "ฮืม" ไปด้วย รู้มั้ยว่าผู้ชายชอบฟังเสียงแสดงความรู้สึกของผู้หญิง และในไม่ช้าเขาก็จะคล้อยตามอารมณ์คุณไปด้วย

7. เกมนี้มีรางวัล หาไพ่มาเล่นกับสุดที่รักของคุณ จะเล่นยังไงก็ได้เพียงให้มีผู้แพ้และผู้ชนะ คือ ผู้ชนะจะสั่งให้ผู้แพ้ทำอะไรก็ได้ จะช่วยเพิ่มความสนิทสนม ความสนุกสนานและเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่จะออกกำลังเพิ่มความร้อนแรงให้กับ อารมณ์พิศวาสของหญิงชายให้เร่าร้อนยิ่งขึ้น
lisamag ขอขอบคุณ www.lisaguru.com ผู้สนับสนุนเนื้อหา




 

Create Date : 13 มกราคม 2557   
Last Update : 13 มกราคม 2557 20:09:58 น.   
Counter : 1712 Pageviews.  

9 อันซีนแดนสวรรค์ตะวันตก กาญจนบุรี ราชบุรี

พาไปสัมผัสความงามของแหล่งท่องเที่ยวในดินแดนด้านตะวันตกของประเทศ  จังหวัดราชบุรี และกาญจนบุรี เมืองสวยๆ ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและสวยงาม จนได้ชื่อว่า แดนสวรรค์ตะวันตก

1.เขาช้างเผือก เป็นชื่อของยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม น่าตื่นตา จนทำให้นักเดินป่าทั่วไทยทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่า ปรารถนาจะได้มาพิชิตซักครั้งหนึ่งในชีวิต เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือก เป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มีจุด Highlight ของการเดินทางอยู่ที่ "สันคมมีด" สันเขาที่สวยงาม และน่าหวาดเสียวไปพร้อมกัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขา จะสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศา

2. สะพานลูกบวบ  อ. สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี  อ. สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี หลังจากที่สะพานไม้ (สะพานมอญ) หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ พังถล่มลงมาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ชาวบ้านจึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสะพานลูกบวบขึ้นมา เพื่อทดแทนสะพานไม้ที่ขาดจากกันและใช้เป็นแพชั่วคราวสำหรับการสัญจรข้ามแม่น้ำซองกาเรียระหว่างรอการซ่อมแซมสะพานไม้ของชุมชน  ทำให้วันนี้สะพานลูกบวบได้กลายเป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ของสังขละบุรี ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องหาโอกาสเดินทางชมสะพานไม้แพลูกบวบ และเดินพิชิตผิวน้ำข้ามฝั่งบนแพลูกบวบกันให้ได้สักครั้ง

3. ด่านเจดีย์สามองค์  อ. สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ด่านเจดีย์สามองค์ ชายแดนที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดกาญจนบุรีของไทยกับเมืองพญาตองซูของพม่า ด่านเจดีย์สามองค์มีความสำคัญในอดีตเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเส้นทางการเดินทัพที่พม่าใช้เดินทางผ่านเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันเป็นแหล่งขายสินค้าของฝากของที่ระลึกที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาชอปกันสักครั้ง

4.เมืองบาดาล อ. สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมืองบาดาลแห่งนี้ในอดีต คือวังก์วิเวการาม (เดิม) วัดประจำหมู่บ้านมอญที่จมอยู่ใต้น้ำหลังการสร้างเขื่อนเขาแหลมเพื่อใช้สำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้า หากไปในช่วงเดินพฤศจิกายน-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงน้ำในเขื่อนลดลงมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปไหว้พระ ชมกำแพงโบสถ์ และถ่ายรูปกับเจดีย์หอระฆังได้อย่างจุใจ แต่หากไปในช่วงนํ้าขึ้นเต็มเขื่อน ประมาณเดือนมิถุนายน- ตุลาคม วัดแห่งนี้จะจมน้ำจนเกือบมิด นักท่องเที่ยวจะมองเห็นตัววัดที่โผล่พ้นเพียงเล็กน้อยจากบนเรือเท่านั้น

5.ปราสาทเมืองสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ปราสาทเมืองสิงห์  อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เป็นศาสนสถานโบราณ สร้างด้วยศิลปะขอมแบบบายนแห่งเดียวในภาคตะวันตกของประเทศไทย

6. โบสถ์แสตนเลส อ.ศรีสวัสดิ์ จ. กาญจนบุรี ล่องเรือสุดสายน้ำค้นหาโบสถ์และพระพุทธรูปมหัศจรรย์ทำจากสแตนเลส โบสถ์แสตนเลส อ.ศรีสวัสดิ์ แหล่งท่องเที่ยวอันซีนแห่งใหม่ ที่สร้างสรรค์จากแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก่อเกิดเป็นพระอุโบสถแสตนเลสหนึ่งเดียวในโลก ตั้งอยู่ทางตอนบนสุดของทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ ณ วัดปากลำขาแข้ง ต.เขาโจด เดินทางเข้าถึงได้ด้วยทางเรือเท่านั้น ภายในบริเวณวัดยังมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สร้างจากแสตนเลสอีกด้วย (สถานที่ตั้ง วัดปากลำขาแข้ง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

7. ทุ่งทะเลหมอก สวนผึ้ง ราชบุรี : จุดชมทะเลหมอกใกล้กรุงเทพฯ เพียงร้อยกว่ากิโลเมตร ณ เขากระโจม อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี (ใช้รถ 4×4 เท่านั้น ในการขึ้นยอดเขากระโจม)

8. หนังใหญ่ หนังไทย  อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี : ชมตัวหนังใหญ่กว่า 300 ตัวที่รำลือว่าเก่าและมากที่สุดในประเทศไทย ร่วมสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมล้ำค่ากับการแสดงเชิดหนังใหญ่จากนักเรียนโรงเรียนวัดขนอน ณ พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน

9. อุโบสถทองคำร้อยล้าน ณ วัดพระศรีอารย์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี แสดงถึงความยิ่งใหญ่อลังการแห่งพลังศรัทธาของคนไทยที่มีต่อพระพุทธศาสนาในการก่อสร้างอุโบสถทองคำมูลค่าร้อยล้าน



  • สนับสนุนเนื้อหา สนุกท่องเที่ยว




 

Create Date : 13 มกราคม 2557   
Last Update : 13 มกราคม 2557 20:09:29 น.   
Counter : 2171 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]