Caselover รวมเคสสวยโดนใจ ให้แตกต่างอย่างมีสไตล์ Caselover รวมเคสสวยโดนใจ ให้แตกต่างอย่างมีสไตล์ เทรนด์สินค้าแฟชั่นในปัจจุบันกำลังเรียกหาสิ่งที่แตกต่าง และแสดงถึงความเป็นตัวตนของผู้ใช้ ซึ่งอุปกรณ์ไอทีอย่างโทรศัพท์มือถือก็มาอยู่ในกระแสแฟชั่น เมื่ออุปกรณ์เสริมอย่างเคสมีการออกแบบที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่ง //www.caselover.com ของ ภาคภูมิ ยุทธสารศิริ ก็ได้นำเข้าเคสและอุปกรณ์มือถือแบรนด์ชั้นนำต่างๆ โดยเน้นในเรื่องของคุณภาพ และดีไซน์ที่แหวกแนวจากสินค้าที่วางขายทั่วไป ภาคภูมิ เล่าว่า จุดเริ่มต้นของ Caselover เกิดจากความชื่นชอบสั่งซื้อสินค้าอุปกรณ์ตกแต่งมือถือทั้งไอโฟน แบล็กเบอร์รี่ และไอแพดจากเว็บไซต์ต่างประเทศ ก่อนที่ตัวเขาจะเกิดความคิดที่จะสั่งซื้อสินค้าร่วมกับเพื่อนๆ เพื่อประหยัดค่าจัดส่งก่อนจะเติบโตเป็นธุรกิจขึ้น ซึ่งในช่วงแรกภาคภูมิได้ขายสินค้าควบคู่ไปกับการทำงานประจำ จึงใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซซึ่งไม่ต้องใช้เวลาดูแลมาก โดยเลือกบริการเว็บฯ สำเร็จรูปของทางไทยอีเพย์มาเป็นเวลานานถึง 4 ปี เนื่องจากความสะดวกในการจัดการและความเป็นมืออาชีพ “ตอนนี้เราออกมาทำเต็มตัว โดยทำทั้งเว็บฯ และกำลังจะเปิดร้านที่คริสตัลพาร์ค นอกจากนั้นเรายังวางสินค้าที่ทรูคอฟฟี่ทุกสาขา รวมทั้งไอสตูดิโอ ลอฟท์ และร้านค้าทั่วไป ห้างสรรพสินค้าประมาณ 2-3 ร้าน เรายังขายส่งในระดับ 100 ชิ้นขึ้นไป นับได้ว่าเราเป็นผู้นำเข้าอย่างจริงจัง โดยแต่ละแบรนด์ก็จะมีทั้งที่เรานำเข้าเจ้าเดียวในไทย และแบรนด์ที่เรานำเข้าพร้อมๆ กับเจ้าอื่น แต่โดยส่วนใหญ่เราจะเน้นการนำเข้าเองเพราะดูแลราคาได้ง่ายกว่า” ภาคภูมิ กล่าว ปัจจุบันสินค้าที่มาแรงที่สุดก็คือ เคสของไอแพด 2 โดยแบรนด์ที่ขายดีที่สุดคือ VIVA และ OSAKI ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนทำงาน เพราะสินค้าราคาค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่ที่ซื้อบนออนไลน์จะมาจากต่างจังหวัด ขณะที่ลูกค้ากรุงเทพฯ จะซื้อผ่านหน้าร้าน ซึ่งทางร้านจะประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นต่างๆ ไปยังลูกค้าเก่าผ่านระบบของไทยอีเพย์ซึ่งผลตอบรับจะค่อนข้างดี รวมทั้งเปิดแฟนเพจบน Facebook เพื่อการโฆษณาสินค้าให้เกิดกระแสปากต่อปาก ทั้งเปิดสินค้าตัวใหม่ และจับคู่สินค้าเพิ่มไอเดียในการใช้งานด้วย “ตอนนี้เว็บไซต์เรามีคนเข้ามาประมาณ 5 แสนราย ทางด้านสินค้าของเราที่ออกไปต่อเดือนก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เรามีลูกค้าที่ขายปลีกและขายส่งพอๆ กัน เราจึงต่อยอดไปยังหน้าร้านที่เรากำลังจะทำ เปรียบเสมือนเป็นโชว์รูมให้ลูกค้าสามารถเข้ามาซื้อที่หน้าร้านได้ นอกจากนั้น เรายังวางแผนจะขยายสาขาต่อไปในอนาคต” ภาคภูมิ กล่าว ภาคภูมิ ยังเสริมว่า จุดเด่นของร้านอยู่ที่รูปร่างหน้าตาของเว็บฯ รวมทั้งการวางสินค้า การแบ่งหมวดหมู่ที่หาง่ายไม่ซับซ้อน ขณะที่รูปภาพแสดงสินค้าก็มีขนาดใหญ่และสวยงาม โดยทางร้านติดต่อขอภาพจากเจ้าของแบรนด์โดยตรง ซึ่งเป็นสิ่งดึงดูดลูกค้าได้อย่างดี นอกจากนั้น ทางร้านยังให้ความสำคัญต่อการจัดส่งเป็นพิเศษอีกด้วย “หลักๆ แล้วเราจะส่งทาง EMS แต่สินค้าทุกอย่างเราจะใส่กล่อง ถ้าลูกค้าที่ชอบสินค้าประเภทนี้จะรู้ว่าบางร้านไม่ชอบใส่กล่อง ใส่แค่ซองกันกระแทก อย่างผมเองทุกวันนี้ก็ยังซื้อร้านอื่นๆ มาใช้ เขาก็ใส่ซองมา กว่าจะมาถึงเราก็เสียหาย นั่นคือจุดหนึ่งที่เรากังวล เราจึงไม่ใส่แค่ถุงหรือซอง แต่ใส่กล่องกันกระแทกหมด แม้กระทั่งเคสไอแพดถึงจะกล่องใหญ่แค่ไหนเราก็ใส่ ด้านในเราก็จะมีตัวกันกระแทกเป็นโฟม หรือพลาสติกที่ป้องกันสินค้าอีกที ซึ่งแบบนี้มันสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าด้วย เรายังกล้ารับประกันกรณีที่เสียหายระหว่างการขนส่ง ซึ่งปกติไปรษณีย์ไทยเขาก็ชดเชยค่าเสียหายอยู่แล้ว แต่ลูกค้าอาจจะไม่รู้ ซึ่งเราก็จะดำเนินการตรงนี้ ขณะเดียวกันก็ส่งสินค้าใหม่ให้ลูกค้าทันที” ภาคภูมิ กล่าวจากประสบการณ์ สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ ภาคภูมิ แนะนำว่า อาจจะเริ่มธุรกิจจากเว็บไซต์แบบไม่เสียเงิน เพราะยังไม่ต้องลงทุนอะไรมากและพร้อมขายได้ทันที จากนั้นก็อยู่ที่การโปรโมตร้าน และสินค้าที่นำมาขายว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากน้อยเพียงใด ซึ่งแน่นอนว่า ลูกค้าที่ซื้อจากออนไลน์จะต้องเป็นกลุ่มที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำอย่างคนทำงานที่มีอินเทอร์เน็ตใช้ ซึ่งถ้าสามารถหาสินค้าที่ตรงใจก็ขายได้ไม่ยาก จากนั้นจึงค่อยๆ ศึกษาเป้าหมาย และขยับขยายไปในเรื่องของการพัฒนาเว็บฯ เพิ่มเติมต่อไป “หลักๆ แล้ว คุณต้องมีเวลาให้อีคอมเมิร์ซ ขยันอัพเดตสินค้า ถ้าเป็นสินค้าอย่างของเราก็ต้องตามว่ามีอะไรใหม่ เราปล่อยตัวเองล้าหลังไม่ได้ จะเห็นว่าเคสมีหลายประเภท ทั้งซิลิโคน อะลูมิเนียม ซึ่งแฟชั่นก็จะมีเป็นช่วงๆ ว่าอะไรเป็นเทรนด์ เราก็ต้องนำเข้ามาไม่ต่างจากเสื้อผ้า ของเราจะขายให้แก่กลุ่มที่ไม่อยากเหมือนใคร ชอบใช้สิ่งของที่หาซื้อไม่ได้ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีเยอะมากที่จะยอมจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะได้แตกต่าง และสมราคาในเรื่องของคุณภาพด้วย” ภาคภูมิ กล่าว ปัจจุบัน Caselover ติดอันดับต้นๆ ในการค้นหาผ่าน Google เนื่องจากการดูแลด้าน SEO ขณะที่ยอดการสั่งซื้อของสินค้าก็มีมาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านค้าปลีกและค้าส่ง ซึ่งนอกจากหน้าร้านที่กำลังจะเปิดในอีกไม่นานแล้ว ภาคภูมิยังวางแผนจะมีโปรโมชั่นต่างๆ ผ่าน Facebook เพื่อเพิ่มฐานแฟน และจูงใจให้คนคลิก Like เข้ามามากขึ้น รวมทั้งขยายสาขาหน้าร้านเพิ่มเติมในอนาคต ขอขอบคุณ : E-Commerceผู้สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 19 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 19 มกราคม 2557 20:17:08 น.     Counter : 1731 Pageviews.   Share Tweet

หนีนายไปช้อป 9 ตลาดนัดวันทำงาน ตลาดนัดวันทำงานเป็นอะไรที่เวิร์กสุดๆ สำหรับสาวอ๊อฟฟิศโดยเฉพาะเวลาช่วงกลางวันคือนาทีทองสำหรับสาวนักช้อปตัวจริง lisa จะพาไปกินเที่ยวช้อปตลาดยอดฮิตของชาวอ๊อฟฟิศที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าไป-มาสะดวกแม้ตลาดเหล่านี้จะเปิดไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน แต่ก็ช่วยคลายเครียดจากการทำงานได้นะ ตลาดนัดตึกอาร์เอสทาวเวอร์ การเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยตลาดนัดบนตึกสูงที่คนภายนอกอาจไม่ค่อยรู้จักนัก อันที่จริงเป็นตลาดเปิดที่ยินดีต้อนรับลูกค้าทุกระดับ แต่ทางที่ดีควรไปถึงก่อนเที่ยงจะช้อปสบายกว่า ก่อนที่พนักงานในตึกหลายร้อยคนจะแห่มาเดินช้อปด้วย เรื่องสีสันความหลากหลายของร้านค้าจัดว่าไม่ขี้เหร่ มีครบครันทั้งของกินและของใช้ให้กระจายรายได้อย่างทั่วถึง เชิญแวะช้อปกันได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. ตลาดเมืองไทยภัทร การเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT สถานีสุทธิสาร ทางออก 2 และ 3ตลาดนัดวันทำงานที่คึกคักที่สุดบนถนนรัชดาภิเษก เปิดตลาดทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่ 10.00-15.00 น. มีทั้งที่โซนเต็นท์ขายของ ศูนย์อาหาร และโซนร้านค้าเช่าแบ่งเป็นห้องๆ ช่วงเช้าโดยมากเป็นร้านอร่อยเร่งด่วน ช่วงพักกลางวันคนแน่น ส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศที่มากินข้าวแล้วช้อปปิ้งต่อ สินค้าหลาก-หลายและราคากลางๆ ช้อปได้สบายใจ แล้วยังมีร้านทำสวยเร่งด่วนทั้งทำเล็บ นวดหน้า พอกหน้า เรียกว่าเป็นตลาดที่มีบริการครบครันจริงๆ 108-1 ตลาดรวมทรัพย์ ตลาดเพชรอโศก การเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรบุรีสองตลาดนัดขวัญใจของคนทำงานย่านอโศกที่จัดหนักจัดเต็มทั้งของกิน-ของใช้ สำหรับตลาดรวมทรัพย์จะอีกฟากของถนนหรือตรงข้าม มศว ประสานมิตรตลาดรวมทรัพย์ ตลาดเพชรอโศกการเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรบุรีสองตลาดนัดขวัญใจของคนทำงานย่านอโศกที่จัดหนักจัดเต็มทั้งของกิน-ของใช้ สำหรับตลาดรวมทรัพย์จะอีกฟากของถนนหรือตรงข้าม มศว ประสานมิตร ตลาดละลายทรัพย์ รัชดาฯ ซอย 4 การเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 ตลาดนัดวันทำงานที่รองรับ 4 บริษัทใหญ่ๆ ย่านรัชดาฯ-พระราม 9 แบ่งเป็นโซนเสื้อผ้า เบ็ดเตล็ด และอาหาร รวมแล้วกว่า 300 ร้าน หมุนเวียนกันทุกวัน โดยเฉพาะโซนอาหาร เปิดร้านกันตั้งแต่ตี 5 เน้นของอร่อยของดีเพื่อคนทำงานที่ใส่ใจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นผักสดผลไม้ ผักออร์แกนิกส์จากฟาร์ม น้ำผักผลไม้คั้นกันสดๆ โด๊ปให้ร่างกายสดชื่นพร้อมลุยงานแต่สินค้าแฟชั่นอย่างรองเท้า เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องสำอางก็จัดมาให้ช้อปเต็มที่ไม่มีน้อยหน้ากัน 109-1 ตลาดนัดฮ่องกง พลาซ่า การเดินทาง : รถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรีตลาดเก่าแก่ที่อยู่บริเวณซอยนราธิวาส-ราชนครินทร์ 5 หรือฝั่งตรงข้ามกับตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งอีกแห่งบนถนนสาทร-สีลมที่ได้รับความนิยมจากขาช้อปเร่งด่วน สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้า น้ำหอม สร้อย นาฬิกา แหวน ขนม ฯลฯ รวมทั้งมีโซนร้านอาหารด้วย เปิดตลาดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่ 11.00-15.00 น. (หยุดวันพุธ) 109-2 ตลาดนัดตึกซันทาวเวอร์ การเดินทาง : รถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต เดินต่อ 1 ป้ายรถเมล์จนถึงธนาคารทหารไทย แล้วเข้าซอยอีก500 เมตรตลาดนี้อยู่หลังธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่ เข้าถึงได้ทั้งทางถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี มีร้านค้าให้ช้อปมากกว่าร้อยแผงทั้งเจ้าประจำและขาจรที่หมุนเวียนกันมา สินค้าหลักๆ เป็นเสื้อผ้าสวยเริ่ดตามแฟชั่นสำหรับเวิร์กกิ้งวูแมน ตลอดจนแอ็กเซสซอรี่ชิ้นงามตั้งแต่หัวจรดเท้า สาวคนไหนมีความสามารถในการช้อปเร็วติดจรวด รับรองถูกใจแน่ๆ ตลาดเปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 10.00-14.30 น. ตลาดเต็นท์ศาลาแดง การเดินทาง : รถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง และรถไฟฟ้า MRT สถานีสีลมถึงจะเป็นเต็นท์ที่ร้อนอบอ้าว แต่ขาช้อปอย่าได้ประมาทไป เพราะนอกจากของกินอร่อยๆ มากมายให้เติมพลังวันทำงาน ทั้งก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ราดหน้า และข้าวแกงสำหรับคนรีบกินรีบช้อปเพราะมีร้านค้าแผงลอยล่อใจให้ยืดเส้นสายระหว่างพักเบรก ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าวันทำงานหลากหลายสไตล์ ตามด้วยของกิน-ของใช้จิปาถะ ตลาดนี้เริ่มช้อปกันตั้งแต่ 11 โมงเช้าจนถึงบ่าย 2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 109-3 ตลาดละลายทรัพย์ การเดินทาง : รถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง หรือสถานีช่องนนทรี เข้าซอยนราธิวาสฯ 3 และรถไฟฟ้า MRT สถานีสีลมแล้วเดินต่อไปสีลมซอย 5ตลาดใหญ่ใจกลางย่านธุรกิจที่มีร้านมากมายให้เดินช้อป ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ ไปจนถึงผักสดผลไม้ อาหารทะเล อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ ขนมนมเนย นอกจากสาวออฟฟิศที่เป็นขาช้อปเจ้าประจำในช่วงพักกลางวันแล้วยังมีแม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา แม้แต่ชาวต่างชาติก็มาเอ็นจอยช้อปปิ้งด้วย ตลาดเปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ และเริ่มช้อปกันได้ตั้งแต่สายๆ ไปถึง 4 โมงเย็นโน่น ตลาดซอยอารีย์ การเดินทาง : รถไฟฟ้า BTS สถานีอารีย์ขึ้นชื่อว่าซอยอารีย์ เรื่องอาหารการกินต้องมาเป็นอันดับแรก ใครชอบกินมากกว่าช้อปปิ้งรับรองไม่ผิดหวัง เพราะมีร้านอร่อยหลายร้านที่เป็นเจ้าเก่าแก่เปิดไล่เรียงกันมาตั้งแต่ต้นซอย ไหนจะร้านรถเข็นริมทางอีกเพียบ ส่วนร้านเสื้อผ้าก็มีแทรกตัวอยู่บ้างประปราย ในขณะที่อีกฝั่งมีคอมมูนิตี้มอลล์ อย่างลา วิลลา อารีย์ ก็ครบเครื่องทั้งร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านกาแฟ เลยทำให้ตลาดซอยอารีย์มีคนคึกคักตลอดทั้งวัน สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 19 มกราคม 2557     1 comment Last Update : 19 มกราคม 2557 20:16:28 น.     Counter : 4462 Pageviews.   Share Tweet

3 ไอเดีย แต่งตัวเก๋ๆ รับลมหนาว อากาศหนาวๆ หวนมาอีกรอบ สำหรับวัยรุ่นที่หลงรักในเรื่องของแฟชั่นการแต่งตัว คงไม่อยากจะใส่ชุดซ้ำๆ หรือแบบเดิมๆ ในช่วงลมหนาวมาเยือนติดต่อกันหลายวันแบบนี้ วันนี้เรามีไอเดียในการมิกซ์แอนด์ชุด ของสาวผิวขาวหุ่นดีอายุ 20 ปี จากประเทศอังกฤษ Olivia Emily มาให้ได้ดูกันค่ะ เป็นแฟชั่นรับลมหนาวถึง 3 แบบมาให้เพื่อนๆ ได้ไปเป็นไอเดียในการแต่งตัวกันค่ะ ไปดูกันเลย^^ แต่งตัวตามสไตล์ที่ชอบ แค่เน้นเสื้อกันหนาวตัวนอกให้ใหญ่ เว่อร์ อลังการไว้ก่อน กันหนาวได้ด้วย เด่นกว่าใครอีกด้วย กระโปรงสั้น เพิ่มถุงน่องหรือเลกกิ้ง และเสื้อหนังสีดำ แฟชั่นกันหนาวแบบเท่ๆ หรือถ้าไม่ได้หนาวมาก แค่จัดหมวกถักเก๋ๆ สักใบ แค่นี้ก็ได้ลุคชิคๆ แล้วค่ะ   Create Date : 19 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 19 มกราคม 2557 20:15:43 น.     Counter : 3939 Pageviews.   Share Tweet

เข็มกลัด รูปอึ นกพิราบ แพงซะด้วยนะ  ผู้สร้างเข็มกลัดนี้คือ "ฟรานเซส เวิร์ท โจนส์" เธออาศัยอยู่เอลลิ่ง บริเวณลอนดอนฝั่งตะวันตก ถือว่าเธอเป็นศิลปินคนแรกที่ทำเข็มกลัดรูปแบบคล้ายอึของนกพิราบ ทำจากอัญมณีที่มีค่า ออกแบบมาได้สวยงามและพิเศษมาก โดยเธอมีแรงบันดาลใจจากอึของนกพิราบตอนที่มันอึใส่เสื้อผ้าของคนเดินถนนทั่วไป ทำให้เธอสร้างผลงานขึ้นมา แถมเเพงอีกด้วย เข็มกลัดชิ้นนี้ขายในราคา 2,500 ปอนด์สเตอร์ลิง    Create Date : 18 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 18 มกราคม 2557 21:48:50 น.     Counter : 2205 Pageviews.   Share Tweet

5 ไอเดีย แต่งเสน่ห์ให้เป็นบ้านเก่า Let’s go Colonial Style 5 ไอเดีย แต่งเสน่ห์ให้เป็นบ้านเก่า สถาปัตยกรรมในรูปแบบโคโลเนียลที่เราได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบตะวันตกในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 และ 6 นั้น ทำเอาหลายคนหลงเสน่ห์ในความคลาสสิก ไม่ว่าเป็นจะรายละเอียดของโครงสร้างหรือดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าอย่างนั้นเราลองนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นไอเดียในการออกแบบบ้านกันดูดีกว่า เผื่อใครติดอกติดใจอยากลุกขึ้นมาแต่งบ้านสไตล์นี้บ้าง รับรองเป็นต้องหลงใหลแบบถอนตัวไม่ขึ้น 1 พื้นที่สำหรับอาบน้ำเลือกใช้กระเบื้องลวดลายที่ดูโบราณ แล้วกั้นส่วนด้วยการใช้ไม้มาทำเป็นโครงสร้าง แล้วกรุด้วยบานกระจกเพื่อความโปร่ง เพิ่มความสะดวกด้วยประตูบานกระจกเลื่อน แค่นี้ก็ช่วยกั้นส่วนให้ห้องน้ำดูเป็นสัดเป็นส่วนมากยิ่งขึ้น ทั้งยังได้อารมณ์เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปใช้ห้องน้ำแบบเก่าอีกด้วย 2 ตกแต่งบริเวณโถงบันไดด้วยการเจาะช่องทำเป็นหน้าต่างบานสูง เลือกใช้กระจกสีลายโบราณ เพื่อเพิ่มบรรยากาศภายในบ้านให้มีความคลาสสิก นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มแสงสว่างระหว่างทางขึ้นลงบันไดได้ด้วย 3 รูปแบบหน้าต่างสไตล์โคโลเนียลมีความชัดเจนตรงที่บานหน้าต่างมีความสูง ด้านบนมีผนังไม้ตีซ้อนเกล็ด เราอาจประดับลูกเล่นด้านในด้วยการใช้ผ้าลูกไม้ทำเป็นผ้าม่าน เพิ่มความพลิ้วไหวให้บ้านดูมีชีวิตมากยิ่งขึ้น 4 การเดินสายไฟแบบฝังในผนังอาจดูไม่คลาสสิกกับบ้านในสไตล์นี้เท่าไหร่นัก ดังนั้นการเดินสายไฟแบบลอยน่าจะเหมาะกว่า แต่แนะนำว่าควรระมัดระวัง เพราะการเดินสายไฟโชว์ต้องมีความเรียบร้อย อีกทั้งการเดินลักษณะนี้ยังสะดวกต่อการแก้ไขงานระบบเมื่อมีปัญหา 5 การเลือกกระเบื้องลวดลายโบราณเป็นการเพิ่มทางเลือกให้บ้านมีกลิ่นไอของความเก่าได้ไม่น้อย อาจใช้เป็นมุมระเบียงหน้าบ้าน หรือมุมใดมุมหนึ่งที่ชอบก็เพิ่มความน่าสนใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ขอขอบคุณ : ไอเดียจากบ้านคุณชมชล อนันตริยกุล และพ.ต.ท. ปิยะพันธ์ อนันต์โท ขอขอบคุณ นิตยสาร @ Kitchen ผู้สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 18 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 18 มกราคม 2557 21:48:19 น.     Counter : 2080 Pageviews.   Share Tweet