ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

10 นักเตะหัวฟูประจำเกาะอังกฤษ

10 นักเตะหัวฟูประจำเกาะอังกฤษ
10 นักเตะหัวฟูประจำเกาะอังกฤษ

: วิลเลี่ยน กองกลางแซมบ้ากำลังจะย้ายมาร่วมทีมสเปอร์สในเร็ววันนี้พร้อมกับหัวฟูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ วันนี้เราเลยรวบรวมนักเตะในพรีเมียร์ลีกสไตล์ "หัวฟู" หรือทรง afro (แอฟโฟ่ร์) มีใครกันบ้าง มาดูกันเลย!

1.มารูยาน เฟลไลนี่

ถ้าพูดถึงนักเตะหัวฟู แฟนบอลจะเอ่ยถึง มารูยาน เฟลไลนี่ กองกลางของทีมเอฟเวอร์ตัน ก่อนเป็นชื่อแรก นอกจากทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ความสูงก็โดดเด่นไม่แพ้กัน

2.อเล็กซ์ ซง

อดีตกองกลางของอาร์เซน่อล ก็ไว้ผมทรงนี้เช่นเดียวกัน พร้อมกับสีสันที่เตะตาดีจริงๆ โดยให้เหตุผลว่าที่ทำเพราะภรรยาที่บ้านสั่งมา!

3.ริโอ เฟอร์ดินานด์

กองหลังจอมเก๋าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นเจ้าพ่อแฟชั่นในเรื่องของทรงผม แว่วมาว่าที่หัวเฟอร์ดินานด์ฟูฟ่องเช่นนี้ เพราะโดน "แฮร์ ดรายเออร์" ของเฟอร์กี้ นั่นเอง

4.เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้

กองหลังจอมอาภัพของสเปอร์ส ที่กำลังจะกลายเป็นส่วนเกินในแคมป์ไก่เดือทอง ก็หัวฟูไม่เป็นรองใคร

5.เดวิด เจมส์

ผู้รักษาประตูระดับตำนานของลิเวอร์พูล ก็มีช่วงหัวฟูให้จดจำ พร้อมกับฟอร์มที่เฟอะฟะได้โล่

6.ดาวิด ลุยซ์

กองหลังเลือดแซมบ้าของเชลซี ก็มีทรงผมเป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่ย้ายเข้ามาร่วมทีมสิงห์บลูส์ และโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนบาร์เซโลน่าต้องการตัวไปร่วมทีม

7.โจ

อดีตกองหน้าจอมอาภัพของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ย้ายมาเพื่อดับโดยแท้ ด้วยผลงานยิงประตูให้เรือใบเพียงประตูเดียว

8.ทอม ฮัดเดิ้ลสโตน

สาเหตุที่อดีตแข้งสเปอร์สรรายนี้ ไว้ผมฟูแบบนี้ เพราะเคยให้คำมั่นว่า เขาจะไม่ตัดผมจนกว่าจะทำประตูได้ หลังหายจากอาการบาดเจ็บตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2011 ปัจจุบันฮัดเดิ้ลสโตรย้ายไปฮัลล์ ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์

9.เกล็น จอห์นสัน

แบ๊กจอมบุกของลิเวอร์พูลเคยไว้ผมทรงแอฟโฟ่ร์ ก่อนที่จะตัดสินใจตัดสกินเฮดซะเลย

10.เจอร์แมน เพนแนนท์

น่าเสียดายที่ฟอร์มการเล่นของนายคนนี้ไม่โดดเด่นเหมือนทรงผม สมัยที่ยังค้าแข้งกับ "ปืนใหญ่" อารืเซนอล และ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จึงใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนม้านั่งสำรอง



  • สนับสนุนเนื้อหา S! Sport




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2556   
Last Update : 23 สิงหาคม 2556 22:37:21 น.   
Counter : 6269 Pageviews.  

เปรียบเทียบกันจะๆ Ford Fiesta 2014 ที่จะเข้าไทยปลายปีนี้

ชั่วโมงนี้ หากใครจะนึกถึงฟอร์ดขึ้นมา ก็คงจะนึกถึงรถที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่าคู่แข่งระดับเดียวกัน  สมรรถนะช่วงล่างแน่นๆแบบยุโรป พร้อมรูปโฉมสวยงามไม่แพ้ใคร จึงทำให้มีผู้สนใจติดตามการเปิดตัวของ Ford Fiesta Minorchange ใหม่นี้กันพอสมควรทีเดียว ทีมงาน Sanook!Auto จึงอยากเปรียบเทียบให้ดูระหว่างเฟียสต้าโฉมปัจจุบัน และโฉมใหม่ ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

ด้านหน้า ได้รับการออกแบบใหม่พอสมควรทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้าใหม่ กระจังหน้าพร้อมแถบโครเมี่ยมใหม่ ที่ดูแล้วชวนให้นึกถึงรถสปอร์ตผู้ดีอย่าง Aston Martin เลยทีเดียว รวมไปถึงช่องดักลมด้านล่าง กรอบไฟตัดหมอกและกระโปรงหน้า ก็ถูกออกแบบใหม่เช่นกัน

ด้านหลัง ในรุ่น 5 ประตู ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก มีเพียงไฟท้ายที่เพิ่มลูกเล่นด้วยการเพิ่มกรอบโครเมียมเข้าไปบริเวณชุดไฟเบรค และไฟเลี้ยว แต่ก็ดูสวยหรูขึ้นเยอะ แต่ในรุ่น 4 ประตูนั้น ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน โคมไฟท้ายบนฝากระโปรงถูกออกแบบให้ลากยาวมาถึงช่องทะเบียน ทำให้รถดูกว้างขึ้น เพิ่มชายกันชนด้านล่างสีดำ พร้อมแถบดำลากยาวตลอดแนวกันชนไปจรดกับไฟทับทิม คล้ายกับที่พบใน New Focus

เครื่องยนต์ จากปัจจุบันที่มีความจุให้เลือกตั้งแต่ 1.4 ลิตร ไปจนถึง 1.6 ลิตร แต่รุ่นไมเนอร์เชนจ์จะมาพร้อมเครื่องยนต์ EcoBoost 3 สูบขนาด 1.0 ลิตร โดยมีทั้งแบบ 100 แรงม้า และ 125 แรงม้า ขึ้นอยู่กับว่าประเทศไทยจะได้ใช้ตัวไหน ซึ่งเครื่องตัวนี้แหละที่ถือเป็นไฮไลท์การมาถึงของเฟียสต้าใหม่นี้เลยทีเดียว เพราะนี่คือเครื่องยนต์ที่ทั่วโลกกำลังกล่าวถึง นอกจากนั้น ยังคงมีเครื่องยนต์ 4สูบ บล็อคเดิมขนาด 1.5 ลิตร มาให้เลือกกันอยู่

EcoBoost เป็นเครื่องยนต์ที่พ่วงระบบไดเร็คอินเจ็คชั่นเข้ากับระบบเทอร์โบชาร์จ ซึ่งให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม แต่ให้กำลังเทียบเท่าเครื่อง 1,600 ซีซี โดยถึงแม้ว่าเครื่อง 3 สูบ มักจะมีจุดด้อยในด้านความไม่สมดุลกัน ฟอร์ดจึงได้ระดมวิศวกรกว่า 200 คน จากอังกฤษและเยอรมัน ช่วยกันทำให้เครื่องเดินได้อย่างราบรื่นไร้กังวล เครื่องยนต์อีโคบูสต์นี้ จะถูกติดตั้งในรุ่นที่แพงกว่า รุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังมีราคาสูงอยู่ แต่ก็แลกมาด้วยความแรง และความประหยัดที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

     ฟอร์ดประเทศไทยประกาศว่าจะได้พบกับ Ford Fiesta Minorchange ในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2556 นี้แน่นอนครับ





  • สนับสนุนเนื้อหา auto.sanook.com




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2556   
Last Update : 23 สิงหาคม 2556 22:36:29 น.   
Counter : 3398 Pageviews.  

ประกาศ โค้งแตก !! iPhone 5S ,5C , iOS7 และ iPad 2 รุ่น

iPhone 5S - ยังคงเป็นประเด็นร้อนที่วงการไอทีบ้านเรา เฝ้าจับตามองและนำเสนอข่าวสารกันอย่างต่อเนื่องสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของทางค่าย Apple ที่สื่อต่างๆ คาดเดาไปว่าอาจจะมีทั้ง iPhone 5S, iPhone 5C  iPhone ราคาประหยัด, และ iPad รุ่นใหม่ พร้อมทั้งเคาะวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งคือวันที่ 10 กันยายน หรือประมาณอีก 3 อาทิตย์กว่าๆ นั้นเอง


ล่าสุด Dr.Bia ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังต่อไปนี้

- งานวันเปิดตัวคอนเฟิร์ม 10 กันยายน 2556 100%
- สินค้าที่จะนำไปเปิดตัวมีดังต่อไปนี้

  • iPhone 5S ซึ่งจะมีขนาดความจุ 16GB, 32GB, 64GB และพิเศษในรุ่นสีทอง ที่จะมาพร้อมความจุ 128GB
  • iPhone 5C ซึ่งจะมีขนาดความจุ 8, 16, 32
  • iPad 5 Retina Display แน่นอนแล้ว คอนเฟิร์ม 100%
  • iPad Mini 2 (Non Retina Display)
  • iOS7
  • New iPod Mini ?

ทั้งนี้ทั้งนั้นแยกการจำหน่ายออกเป็น 4 ช่วง โดยปรากฏการวางจำหน่ายดังต่อไปนี้

1. iPhone 5S วางจำหน่ายพร้อมกันวันที่ 19 กันยายน โดยประเทศที่วางจำหน่ายกลุ่มแรกมีดังนี้ US , CN , CA , SG , HK , UK , FA ถ้ามีการหลุดมามากกว่านี้จะแจ้งอีก 1 รอบตอนนี้รายชื่อนี้ยังไม่คอมเฟิร์ม

2. iPhone 5C วางจำหน่ายพร้อมกันวันที่ 19 กันยายน โดยที่วางจำหน่ายกลุ่มแรก ตาม iPhone5S

3. iPad 5 , iPad Mini 2 วางจำหน่ายพร้อมกันวันที่ 24 กันยายน

4. iOS 7 จะเปิดให้อัพเดทตัวเต็มในวันที่ 15 กันยายน หากทาง Apple แก้ไขเรื่องบัคต่างๆ สมบูรณ์ก่อน อาจจะมาให้ใช้จริงวันที่ 10 กันยายนนี้ (หรือ iOS7 Beta GM นั้นเองครับ)


ในส่วนของราคานั้น คาดกันว่า iPhone 5C น่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 450-500 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ 13,500 - 15,000 บาทส่วน iPhone 5S ก็น่าจะราคาเท่ากับ iPhone รุ่นทั่วไปครับ ที่ประมาณ 20,000 บาทไม่รวมภาษี

ข่าวหลุดดังกล่าวนั้นยังคงเป็นเพียงแค่ข่าวหลุดข่าลือเท่าทั้น ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทาง Apple แต่อย่างใดครับ

ที่มา: Dr.Bia




 

Create Date : 23 สิงหาคม 2556   
Last Update : 23 สิงหาคม 2556 22:35:45 น.   
Counter : 2011 Pageviews.  

แฟชั่นเท่ๆ หวานๆ สไตล์ เชียร์ ฑิฆัมพร

วันนี้เราจะมาอัพเดทการแต่งตัวของสาวห้าว "เชียร์ ฑิฆัมพร" กัน หลายคนอาจจะคิดว่าเธอมีบุคลิกแบบนี้ เสื้อผ้าการแต่งตัวจะเป็นแนวบอยๆ เสื้อยืด กางเกงยีนส์แบบเดียวละซิ แต่จริงๆ แล้วสาวเชียร์เค้าก็แอบมีมุมความเป็นผู้หญิงอยู่ในตัว แต่งตัวหวานๆ ใส่กระโปรงกับเค้าเหมือนกันนะคะ สาวเชียร์เค้าบอกว่าจะเน้นที่ลวดลาย สีจัดจ้าน ชัดเจน เหมือนแฟชั่นของสาวๆ วงเกิร์ลกรุ๊ปแนวเกาหลีแบบที่สาวเชียร์ชอบไงค่ะ ใครที่ชื่นชอบสไตล์นี้แนะนำว่าหาเลกกิ้งลายเก๋ๆ สีจี๊ดๆ สักตัวมาแมทซ์กับเสื้อยืดเท่ๆ สักตัว แค่นี้ก็เปรี้ยวแบบสาวเกาหลีได้ง่ายๆแล้วค่ะ



  • สนับสนุนเนื้อหา Sanook! Campus




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2556   
Last Update : 21 สิงหาคม 2556 22:19:39 น.   
Counter : 3209 Pageviews.  

เชลซีที่รอคอย

ฟุตบอล : วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไฮไลท์ของวงการลูกหนังจับจ้องไปที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อเป็นสักขีพยาน การกลับมาของ โชเซ่ มูรินโญ่ ยอดกุนซือจอมอหังการที่กลับมาคุม อีกครั้ง

6 ปีที่แล้ว มูรินโญ่ ได้ออกจาก เชลซี ไปพร้อมกับความผิดหวังของแฟนๆ สิงโตน้ำเงินคราม เพราะอย่างที่รู้กัน กุนซือคนนี้ คือคนที่พาทีมครองเกาะอังกฤษในตอนนั้น ด้วยการคว้าแชมป์ทุกรายการในเมืองผู้ดีตลอด 3 ปีกว่าๆ ที่คุมทีม

จาก แกรนท์ จนถึง ราฟา 7 คนที่มาแทน มูรินโญ่ ไม่มีใครเหมาะกับเชลซีเท่า เดอะ แฮปปี้ วัน อีกแล้ว

นับตั้งแต่วันนั้น เชลซี ก็มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งกุนซือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อัฟราม แกรนท์, หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่, กุส ฮิดดิ้งค์, คาร์โล อันเชล็อตติ, อังเดร วิลลาส โบอาส, โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ และล่าสุดก็เป็น ราฟาเอล เบนิเตซ

บางคนก็พาทีมล้มเหลว บางคนก็พาทีมเป็นแชมป์ แต่สำหรับสาวกสิงห์บลูส์ คนที่พวกเขารอคอย มีเพียงแค่คนเดียว ก็คือ โชเซ่ มูรินโญ่

หลายครั้งที่ เวลาที่ แฟนๆ ไม่พอใจกับผลงานของกุนซือคนปัจจุบัน ชื่อของ มูรินโญ่ ก็จะถูกตะโกนเรียกจากกลุ่มแฟนบอลโดยตลอด แม้ว่าตอนนั้นเจ้าตัวกำลังทำงานที่ประเทศสเปน ก็ตาม

และเมื่อวันอาทิตย์ เวลาที่แฟนๆ รอคอย ก็ได้ยุติลง เมื่อเชลซี ในซีซั่นใหม่ ได้เปิดซีซั่นด้วยการมี มูรินโญ่ คุมทีมที่ข้างสนามอีกครั้ง และทุกอย่างก็เหมือนจะถูกเซตมาเพื่อเป็นฉากเปิดตัวอันน่าประทับใจ โดยมี มูรินโญ่ เป็นพระเอก

ไม่มีป้ายด่า, ไม่มีคนต่อต้าน เมื่อตัวจริงเสียงจริงกลับมา เท่ากับความสมหวังของแฟนๆ เชลซี อย่างแท้จริง

เชลซี ในยุคของ มูรินโญ่ อาจจะเล่นได้ไม่ดุเดือดเร้าใจ แบบในยุคของ กุส ฮิดดิ้งค์ หรือโดยเฉพาะในยุคของ อันเชล็อตติ ที่ยิงทะลุ 100 ประตู ในลีก แต่ ฟุตบอลในแบบฉบับของ มูรินโญ่ ก็คือฟุตบอลที่ชนะ

จุดขายของ เชลซี ภายใต้การคุมทัพของ เฮียมู คือ การปิดเกม เรียกได้ว่า ขึ้นนำเมื่อไหร่ ก็แทบปิดประตูแพ้ได้เลย รวมถึงเมื่อไหร่ที่ถูกนำ พวกเขาก็จะไม่ย่อท้อ ดุจดั่งมีพลังแฝงและจะฮึดจนตีเสมอหรือแซงคว้าชัยชนะมาได้อยู่บ่อยครั้ง

แม้ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นแค่ ฮัลล์ ซิตี้ แต่ก็ดูเหมือนว่า แม้เวลาจะผ่านไป แต่ปรัชญาลูกหนังของ เชลซี ของ มูรินโญ่ ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

เกมรับที่พลาดง่ายๆ หลายครั้งเมื่อฤดูกาลที่แล้วกลับเล่นได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะ จอห์น เทอร์รี่ ที่เหมือนหายป่วย หลังเจ้านายคนเก่ากลับมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับหลายๆ คน ที่เล่นกันด้วยความคึกคัก และเป็นทีมเวิร์คกันชนิดที่ไม่ได้เห็นกันมานานหลายปี

2 รุ่นใหญ่ของทีมพร้อมใจกันคืนฟอร์มตอบสนองการกลับมาของเจ้านาย

เกมบุกในตอนนี้ ก็เหลือเพียงแค่การปรับจูนอีกเล็กน้อยว่าใครจะเป็นกองหน้าตัวจริง ระหว่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส และโรเมลู ลูกากู หลังทั้งคู่ ยังทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ในเกมนัดแรก โดยเฉพาะ ในรายของ เอล นินโญ่

ซึ่งบางที ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะ พวกเขาอาจจะมีกองหน้ารายใหม่เข้ามาสู่ทีม โดยเฉพาะที่เป็นข่าวอยู่ในตอนนี้ อยาง เวย์น รูนี่ย์ ซึ่งถ้าได้มาจริง ก็เรียกได้ว่าน่าจะสร้างความฮือฮาอีกไม่น้อย

ถ้าได้ตัวมาจริงๆ ก็จะเป็นการเติมเต็มและสกัดคู่แข่งแย่งแชมป์อย่างแมนฯ ยูไนเต็ด ไปในตัว

แมตช์กับ ฮัลล์ เป็นเพียงแค่การประเดิมสนาม ซึ่งนับจากนี้ บททดสอบต่างๆ จะตามมาอีกเรื่อยๆ แต่ กับการก้าวไปพร้อมกับชายที่ชื่อว่า โชเซ่ มูรินโญ่ แล้ว จะไม่ให้แฟนเชลซี ฝันไกลถึงความสำเร็จ คงจะไม่ได้แล้วล่ะครับ

เรื่องโดย "The Nut"



  • สนับสนุนเนื้อหา Sport Radio




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2556   
Last Update : 21 สิงหาคม 2556 22:18:59 น.   
Counter : 2161 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]