โรคที่สุนัข แมว เป็นได้แต่คนไม่รู้ 1. โรคมะเร็ง ได้แก่ เต้านม , ผิวหนัง , เม็ดเลือดขาว , กระดูก , กระเพาะปัสสาวะ , ช่องปาก 2. โรคไตวายทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง   - แบบเฉียบพลัน อาการ เจ็บหลัง เดินขาแข็ง แห้งน้ำ ไม่มีปัสสาวะหรือมีน้อยลง   - แบบเรื้อรัง กินน้ำบ่อย ปัสสาวะมาก น้ำหนักลด และปากมีกลิ่นเหม็น  3. โรคนิ่ว เกิดทุกส่วนของระบบทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ ที่ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ ทำให้เยื่อบุทางเดินปัสสาวะเกิดการระคายเคือง มีอาการเจ็บปวด ปัสสาวะขัด หรือบางรายปัสสาวะไม่ออก 4. โรคหัวใจ ได้แก่ พยาธิหนอนหัวใจ ลิ้นหัวใจรั่ว หัวใจวายเฉียบพลัน หัวใจวายเรื้อรัง อาการที่พบ หอบ เหนื่อยง่าย ไอแห้ง กินอาหารลดลง 5. โรคเบาหวาน ในสุนัขเกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายทำลายเซลล์ตับอ่อนจึงผลิต Insulin ไม่ได้ , ในแมวเกิดจากความอ้วน ตับอ่อนอักเสบ หรือภูมิคุ้มกันเหนี่ยวนำให้ทำลายเซลล์ของตับอ่อนตัวเอง สัตว์จะมีอาการกินน้ำและปัสสาวะมาก กินมากแต่น้ำหนักลด เกิดภาวะขาดน้ำ ในสุนัขเกิดต้อกระจกตามมา 6. โรคภูมิแพ้ ได้แก่ แพ้อาหาร , ฝุ่น หรือ อากาศ สุนัขที่เป็นจะแสดงออก โดยการเกา เลียเท้า เอาหน้าถูพื้น อาจมีท้องเสีย หรืออาเจียนได้ 7. โรคต้อกระจก เกิดได้ทุกพันธุ์ ทุกอายุ มีหลายสาเหตุ โดยอาจเป็นแต่กำเนิดหรือสาเหตุอื่นโน้มนำ เช่น เบาหวาน ติดเชื้อ ได้รับสารพิษ และความชรา ลักษณะที่พบ แก้วตามีสีขาวขุ่น มองเห็นลดลง เดินชนสิ่งของ 8. โรคข้อสะโพกเสื่อม สุนัข เกิดได้ทุกช่วงอายุ ทำให้มีท่าเดินหรือวิ่งที่ผิดไป ในรายที่เป็นมาก อาจไม่ยอมเดิน 9. โรคเอดส์แมว มักมีอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้ออื่น เพราะระบบภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่องสัตว์จะเสียชีวิตได้ การติดต่อ เกิดจากน้ำลาย จากการกัดกัน โดยเฉพาะแมวตัวผู้ 10. ลมชัก ยังไม่สาเหตุที่แน่นอน มักพบในสุนัขอายุ 1-5 ปี อาการชักมีตั้งแต่กระตุกที่ใบหน้าจนถึงนอนชัก ปัสสาวะและ อุจจาระไม่รู้ตัว โดยถ้าสัตว์ชักนานเกิน 5 นาที ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล  ที่มาบทความ : npw-animalhospital.org รูปภาพจาก : catthailand.com   Create Date : 10 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 10 มกราคม 2557 20:54:36 น.     Counter : 1578 Pageviews.   Share Tweet

ความเชื่อเรื่องแมวกวักนำโชคญี่ปุ่น นับตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้วที่คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า แมว เป็นสัตว์นำโชค มะเนะกิเนะโกะ หรือ แมวกวัก คือรูปปั้นแมวตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ว่าจะนำโชคลาภเงินทองมาให้เจ้าของ สำหรับร้านค้าก็จะดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านเช่นเดียวกับนางกวักของไทย สำหรับรูปร่างหน้าตาของ มะเนะกิเนะโกะ หรือ แมวกวัก จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับแมวพันธุ์พื้นเมืองของญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่ไม่มีหางที่เรียกว่า เชอแปนิสบ๊อบเทล (Japanese Bobtail) ปัจจุบันในประเทศญี่ปุ่นหรือแม้แต่ในประเทศไทยจะพบเห็นแมวกวักอยู่ทั่วไป ซึ่งมีหลากหลายขนาดและสีสัน บางส่วนก็ทำกลไกให้มือซ้ายสามารถขยับในลักษณะกวักเข้าหาตัวได้ด้วย ในขณะที่มืออีกข้างนึงก็ถือเหรียญไว้ เพราะมีความเชื่อว่า ถ้าแมวที่เลี้ยงไว้ยกขาหน้าขึ้นเสมอหูข้างซ้ายแล้วจะมีคนมาหา ถ้าเป็นร้านค้าก็จะมีลูกค้าเข้าร้าน ตำนานแมวกวัก ในยุคเอะโดะ มีหญิงชราคนหนึ่งยากจนมาก แต่นางมีแมวเลี้ยงอยู่ตัวหนึ่งและรักแมวมาก มีกินก็กินร่วมกับแมว อดก็อดพร้อมกับแมว จนในที่สุดก็ไม่สามารถเลี้ยงไหว จึงนำไปปล่อย คืนนั้นเอง นางก็นอนเสียใจร้องไห้ทั้งคืน กระทั่งฝันว่าแมว มาบอกกับนางว่า ให้ปั้นรูปแมวจากดินเหนียวแล้วนางจะโชคดี เช้าวันรุ่งขึ้น หญิงชราจึงตื่นขึ้นมาปั้นแมวจากดินเหนียวไม่ทันไรก็มีคนแปลกหน้าเดินผ่านหน้าบ้านขอซื้อตุ๊กตาแมวตัวนั้นจากนางไป จากนั้นนางก็เพียรปั้นแมวขึ้นมาอีกตัวแล้วตัวเล่า ตุ๊กตาแมวจากการปั้นของนางก็มีผู้มาขอซื้อไปตลอดเวลา นางจึงเริ่มมีเงินทองจากการขายตุ๊กตาแมว และสามารถนำแมวเลี้ยงสุดที่รักของนางกลับมาเลี้ยงได้อีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่นั้นมา จึงเป็นที่ร่ำลือว่า แมว เป็น สัตว์นำโชค และมีการปั้นและวางแมวกวักไว้ตามที่ต่าง ๆ ความหมายตามลักษณะของแมวกวักญี่ปุ่น แมวที่ยกเท้าขวาขาหน้าขึ้นบน ช่วยเรียกเงินทองและโชคลาภมาให้ แมวที่ยกเท้าซ้ายขาหน้าขึ้นบน ช่วยเรียกแขกผู้มาเยือน แมวสีขาว ที่ยกเท้าซ้ายและขวาขาหน้าขึ้นบน เรียกโชคชะตา แมวสีดำ ที่ยกเท้าซ้ายขวาขาหน้าขึ้นบน ปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากโรคร้าย แมวสีทอง ที่ยกเท้าซ้ายขาหน้าขึ้นบน ทำให้ร่ำรวยมีเงินหมื่นเงินแสน แมวสีเงิน ที่ยกเท้าซ้ายขาหน้าขึ้นบน ช่วยให้มีอายุยืนยาว แมวสีแดง ที่ยกเท้าซ้ายขาหน้าขึ้นบน รักษาความเจ็บป่วยและโรคร้ายของเด็ก แมวสีชมพู ที่ยกเท้าซ้ายขาหน้าขึ้นบน เรียกความรักและคู่ครองที่ดี แมวสีเหลือง ที่ยกเท้าซ้ายขาหน้าขึ้นบน ทำให้คู่ครองอยู่กันจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร แมวไม่มีสีไม่มีลาย ที่ยกเท้าซ้ายขาหน้าขึ้นบน ช่วยในเรื่องความฝันและความหวังให้เป็นจริง แมวสีน้ำเงินหรือสีฟ้า ที่ยกเท้าซ้ายขาหน้าขึ้นบน ช่วยเรื่องการเรียน แมวสีเขียว ที่ยกเท้าซ้ายขาหน้าขึ้นบน ช่วยให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ความหมายอื่นๆ เพิ่มเติมของแมวกวักนำโชค กวักมือซ้าย = การงาน กวักมือขวา = โชคลาภ แมวถือลูกแก้ว , แมวพนมมือ = การขอพร ขอบคุณข้อมูลจาก FW Mail ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com   Create Date : 10 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 10 มกราคม 2557 20:53:53 น.     Counter : 3275 Pageviews.   Share Tweet

จำให้ขึ้นใจ ถ้าไม่อยากเสียเงินแบบผม อย่ากดลิงค์ SMS มั่ว จริงๆก็อยากให้เรื่องนี้ลบเลือนจากความทรงจำเพราะ เสียรู้พวกโจรครับ แต่พอดีวันนี้ได้ดู Clip ที่ น้องชายส่งมาให้บอกคล้ายๆ เรื่องที่ผมโดนเลย อันนี้เป็น Clip ครับ  https://www.youtube.com/watch?v=qtkQX_THJNQ หลังจากดู Clip นี้ผมเลยอยากให้แชร์เรื่อง เสียรู้ให้พวกโจรมาให้ทุกคนได้อ่านครับ คือ วันนั้นเป็นวันทำงานครับ อยู่ดีๆ ก็มี SMS ที่ส่งมาแต่หาที่มาไม่ได้ครับ เพราะมันแปลกตรงที่ปกติตอนลงท้ายของข้อความ SMS มักจะเป็นเบอร์ Call center แต่อันนี้กลับเป็นลิงค์เว็บของที่หน้าตาเหมือนธนาคารแทน ซึ่งตัวผมเองก็เห็นความผิดปกติ แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร แถมผมดันเผลอไป Click ลิงค์นั้นด้วยซึ่งหลังจาก Click ลิงค์นั้นไปแล้ว ก็เป็นหน้าเว็บคล้ายๆ Internet Bank ที่ผมรู้จักแต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ซึ่ง ใน SMS บอกว่าผมได้ดอกเบี้ยโอนเข้าจากธนาคารเป็นเงิน 500 บาท ผมเลย กรอก Username เข้าไปดู สุดท้าย มันก็ Error ไม่สามารถเข้า ไปดูบัญชีของผมได้ ซึ่งผมก็ไม่ติดใจอะไรอีกจนสุดท้าย ผมก็คิดว่าสัญญาณในมือถือผมคงไม่ดีไว้ค่อยเช็คใหม่ ซึ่งหลังจากนั้น ถัดไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็มีเมล์เด้งมาที่เมล์ผมว่า ผมได้ทำการโอนเงินออกไปยังบัญชีหนึ่งเรียบร้อยแล้วทั้งหมด 3500 บาท ซึ่งก็เป็นเงินทั้งหมดของบัญชีนั้น ซึ่งทำให้ผมคิดขึ้นได้ในทันทีว่าผมโดนพวกแก๊งขโมยเงินเข้าให้แล้ว เพราะความไม่เอะใจของผม แต่ก็ยังโชคดี ที่เงินที่อยู่ในบัญชีนั้นไม่ได้มากมาย แต่ก็เป็นเงินที่ผมไม่ควรจะเสีย ซึ่งหลังจากนั้น ผมก็รีบโทรไปแจ้งกับ Callcenter ธนาคารเล่าเหตุการณ์ให้เค้าฟัง ซึ่งเค้าก็รีบดำเนินการให้ ทันที แต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะเงินของผมได้ทำการโอนออกไปนอกประเทศเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางธนาคารก็อาสาจะตามเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งผมก็เข้าใจและไม่ได้กล่าวโทษทางธนาคาร เพราะมันคือความเผลอเลอของผมเองที่ไม่เอะใจ เรื่อง ลิงค์เว็บที่มากับ SMS เนี้ยแหละครับ เรื่องที่ผมอยากเล่าให้ฟัง ว่าโปรดอย่าคลิกลิงค์ใดๆ จาก SMS ที่อ้างว่าส่งมาจากทางธนาคาร สงสัยเพิ่มเติม ติดต่อ // แต่ตัวเลขตอนท้ายก็เป็นลิงค์ซะงั้น อ่านแล้วจำให้ขึ้นใจจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกโจรครับ   Create Date : 10 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 10 มกราคม 2557 20:53:15 น.     Counter : 1272 Pageviews.   Share Tweet

ณ ปลายฟ้าน่าน เที่ยวอิ่มใจตามรอย พระราชดำริ พระราชดำริน่านชวนฝันในวันที่สายหมอกหยอกเอินขุนเขา และเรายังมีประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อยากชวนผู้อ่านไปเที่ยวน่านกันอีกครั้ง โครงการ "ลัดฟ้าประชุมเมืองไทย...อิ่มใจ ตามรอยพระราชดำริ" ของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ "ทีเส็บ" พาเราเปลี่ยนบรรยากาศจากห้องประชุมสี่เหลี่ยมที่แสนน่าเบื่อ มานั่งคุยกันท่ามกลางธรรมชาติ สัมผัสวิถีชุมชนที่เดินตามรอยแนวทางพระราชดำริ และทำให้ Lisa ได้มีโอกาสกลับไปสัมผัสบรรยากาศแสนโรแมนติกของน่านอีกครั้ง เหมือนได้มาเติมพลังให้ตัวเองและยังได้แรงบันดาลใจดีๆ กลับไปทำงานต่ออีกด้วย ขึ้นภูฟ้าจิบชาชมหมอก เรานั่งรถไต่ความคดเคี้ยวชมวิวเขาสูงระฟ้าจนมาถึงอำเภอบ่อเกลือ เพื่อมายังศูนย์ภูฟ้าพัฒนาที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรักษาผืนป่าไปพร้อมๆ กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน เช่น ให้ความรู้ด้านการเลี้ยงสัตว์ ปลูกผักสวนครัว และทำประมงบนพื้นที่สูงตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตน-ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีศูนย์ศึกษาเพื่ออนุรักษ์ป่าและต้นน้ำ ตลอดจนศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ร้านภูฟ้าที่หลายคนคงเคยแวะช้อปกันบ่อยๆ เช่น ชาอู่หลงผ้าทอมือ กระเป๋าสาน ฯลฯ ทริปนี้เราจึงได้นอนพักฟังเสียงธรรมชาติบนภูฟ้าตื่นเช้าจิบชาดูสายหมอกและขุนเขา ซึมซับพลังธรรมชาติเข้าสู่ร่างกายอย่างเต็มที่ ขอบอกเลยว่าที่พักบนนี้จัดว่าสะดวกสบายเอาการ ทั้งยังมีห้องประชุมสัมมนาพร้อมสรรพ บริษัทเล็กๆ ที่กำลังมองหาสถานที่จัดสัมมนาหรือพักผ่อนประจำปีอยู่ละก็ที่นี่เหมาะเลยศูนย์ภูฟ้าพัฒนาตั้งอยู่ที่ต.ภูฟ้า อ.บ่อเกลือ จ.น่าน สอบถามรายละเอียดหรือสำรองห้องพักโทร. 054- 710-610 ชมศิลป์เมืองน่าน ทริปนี้ยังเปี่ยมด้วยสีสันและอัดแน่นด้วยความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมจากการแบ่งปันโดยศิลปินคนดังแห่งเมืองน่าน คุณวินัย ปราบริปู เจ้าของหอศิลป์ริมน่านแห่งท่าวังผาและเป็นผู้ปลุกตำนาน "ภาพกระซิบรักบันลือโลก" ของปู่ม่าน-ย่าม่านผลงานของหนานบัวผัน ศิลปินชาวบ้านไทลื้อหนองบัว ในงานจิตรกรรมฝาผนังที่วัดภูมินทร์ให้โด่งดังจนใครๆ ก็อยากมาดูให้เห็นกับตาโดยคุณวินัยมานำชมหอศิลป์ด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่ที่อาคารเฮือนหนานบัวผันที่รวบรวมภาพถ่ายจิตรกรรมฝาผนังจากวัดสำคัญๆในน่านเอาไว้มากกว่าร้อยภาพ ตลอดจนผลงานจิตรกรรมของคุณวินัยและศิลปินท่าน อื่นๆ และแน่นอนต้องเล่าถึงภาพกระซิบรักของปู่ม่าน-ย่าม่าน ก่อนพาเราไปชมภาพต้นฉบับจริงๆ ภายในวัดภูมินทร์ว่ากันว่าถ้ามาน่านแล้วไม่ได้มาดูภาพนี้ถือว่ายังมาไม่ถึงน่านหอศิลป์ริมน่านอยู่ที่ถนนน่าน-ทุ่งช้าง ต.บ่อ อ.เมืองจ.น่าน เปิดทุกวันยกเว้นวันพุธตั้งแต่ 09.00-17.00 น.โทร. 054-798-046 จับเคียวเกี่ยวข้าวที่บ้านน้ำป้าก สำหรับเด็กรุ่นใหม่อย่างเราเนี่ยถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ได้ลองเกี่ยวข้าวจริงๆ ก็คราวนี้ เพราะที่ชุมชนบ้านน้ำป้าก อำเภอท่าวังผาเป็นชุมชนตัวอย่างด้านการเกษตร ซึ่งในอดีตเคยถูกน้ำท่วมบ่อยๆ จนเมื่อโครงการปิดทองหลังพระฯ เข้ามาช่วยเหลือ จึงได้เรียนรู้เรื่องการจัดการน้ำและเกษตรผสมผสานตามแนวทางพระราชดำริชาวบ้านก็กลับมีความสุขอีกครั้ง หลังจากลองเกี่ยวข้าวกลางแดดเปรี้ยงๆ กันแล้ว เรายังได้ไปดูการทำสวนแบบผสมผสานจากพื้นที่แค่ 3 ไร่กว่าๆ แต่สามารถปลดหนี้และมีเงินเก็บหลักแสนได้ในเวลาไม่กี่ปีด้วยความใจสู้ของชาวบ้านน้ำป้ากและการมีชีวิตแบบพอเพียงตามคำสอนของพ่อหลวง ถือเป็นตัวอย่างดีๆ ที่เรานำไปใช้ได้จริงในชาตินี้...ไม่ต้องรอชาติหน้าเลย เยี่ยมบ้านมละบริ "ชนเผ่ามละบริ" หรือชนกลุ่มน้อยที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า"ผีตองเหลือง" ซึ่งผู้ถูกเรียกไม่ได้เป็นปลื้มไปกับชื่อนี้เท่าไหร่นัก ปัจจุบันพบว่าทั่วโลกมีชาวมละบริเหลืออยู่ราว 400 คนเท่านั้น สำหรับชาวมละบริในอำเภอบ่อเกลือนั้นยังอาศัยอยู่ในป่า แต่ทางศูนย์ภูฟ้าฯ ได้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมการอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรมมละบริขึ้นมีลักษณะเป็นศูนย์วัฒนธรรมที่มีชีวิตจริงๆ เพราะจะติดต่อให้ชาวมละบริออกจากป่ามาพูดคุยกับนักท่องเที่ยวและนำชมศูนย์ฯ ด้วยตัวเองตามเส้นทางเดินศึกษาในป่าธรรมชาติที่จัดไว้ เริ่มตั้งแต่พาชมบ้านมละบริจำลองในป่า รู้จักพันธุ์ไม้และสมุนไพรต่างๆ ที่ชาวมละบรินำมาทำอาหารและยารักษาโรค การเก็บชาและแปรรูปผลไม้ ปิดท้ายเรายังช่วยอุดหนุนงานฝีมือของชาวมละบริอย่างกระเป๋าหวายถักใบเล็กน่ารักที่ราคาไม่แพงอีกด้วย Fast Fact :โครงการ "ลัดฟ้าประชุมเมืองไทย...อิ่มใจ ตามรอยพระราชดำริ"มี 14 โครงการใน 5 จังหวัด เช่น ศึกษาการแปรรูปผลไม้ดอยคำที่โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปแห่งที่ 3 ในอำเภอเต่างอย ไปดูนกหายากกว่า 1,000 สายพันธุ์ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ดูงานประมงบนพื้นที่สูงที่สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ หรือไปเก็บผลแมคคาเดเมียที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ และมีสายการบินหลายแห่งพร้อมจะมอบโปรโมชั่นพิเศษให้ด้วย หากหน่วยงานใดสนใจสอบถามรายละเอียดที่ TCEBCall Center โทร. 1105 //www.ประชุมเมืองไทย.com สนับสนุนเนื้อหา   Create Date : 10 มกราคม 2557     1 comment Last Update : 10 มกราคม 2557 20:52:34 น.     Counter : 1854 Pageviews.   Share Tweet

วิธีทำไข่ปลาคาร์เวียจากรัสเซีย แบบนี้นี่เอง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้คาเวียร์สีแดง ในรัสเซียมันถูกสร้างขึ้นส่วนใหญ่อยู่ใน Kamchatka และ Sakhalin เมื่อฤดูการประมงจะเริ่มขึ้นเรือมาถึงสถานที่ตกปลา ในมหาสมุทรแปซิฟิกมหาสมุทรและทะเล Okhotsk และ Bering จากอวนชาวประมงคงนำมาจับพวกเขาไปที่เรือประมวลผล. บังเกอร์ปลา ถูกโหลดไปกับสายการควักไส้ คาเวียร์ที่นี่ถูกควักไส้ แยกออกจากตัวปลา ต่อมาปลาจะถูกบรรจุตามขนาด พร้อมที่จะถูกนำไปแช่แข็งไว้ การผสมคาเวียร์ ของปลาชนิดที่แตกต่างกัน ตอนนี้ Steins ควรจะแยกออกขนาดของคาเวียร์ โดยใช้วิธีการดังกล่าวอุปกรณ์การคัดกรอง จากนั้นคาเวียร์จะเค็มในสารละลายเกลือชนิดพิเศษและล้างกระบวนการเกลือใช้เวลา 10-20 นาที มันคือสิ่งที่พวกเขาทำสารละลายเกลือ สำหรับคาเวียร์ Prepacking ของคาเวียร์ สำหรับการทำให้คาเวียร์แห้งเกือบ เพิ่มน้ำมันหอม และสารกันบูด และคาเวียร์อยู่ภายใต้การควบคุมที่มีคุณภาพ ในที่นี่พวกเขายังเพิ่มน้ำมัน vegerable และอบอวลไปด้วย ป้ายที่มีวันที่การผลิตชนิดของคาเวียร์ ภาชนะปิดผนึก ปลาแซลมอนที่ไม่ได้รับการติด spawns ในแม่น้ำ   Create Date : 09 มกราคม 2557     0 comment Last Update : 9 มกราคม 2557 21:19:44 น.     Counter : 5304 Pageviews.   Share Tweet