การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเชฟโรเลต ครูซ

     เชฟโรเลต ประเทศไทย ได้ส่งตัวเชฟโรเลต ครูซ โฉมใหม่ โมเดล ปี 2013 เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร E85 ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 2 ของเชฟโรเลต ที่ใช้พลังงาน E85 ต่อจากรุ่น แคปติวา ชูสมรรถนะอันโดดเด่น ยอดเยี่ยมของครูซ

     ครูซ โมเดล ปี 2013 เป็นรถเฟล็กซ์ฟิว (Flex-Fuel Vehicle - FFV) หรือรถที่รองรับเชื้อเพลิงได้หลากหลาย โดยสามารถเติมได้ทั้งน้ำมันเบนซินทั่วไปจนถึงน้ำมัน E85 เครื่องยนต์ของครูซ โมเดล ปี 2013 ช่วยเพิ่มสมรรถนะ ให้พละกำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที

     หัวใจ แห่งสมรรถนะของครูซ E85 คือการปรับซอฟท์แวร์และกล่องควบคุมอีซียู (Electronic Control Unit) ใหม่ เพื่อให้ครูซ สามารถใช้เชื้อเพลิงได้ตั้งแต่ E0 (น้ำมันเบนซิน) ไปจนถึง E85  (เบนซินผสมเอทานอล 85 เปอร์เซ็นต์) โดยทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์หลายตัว หัวฉีดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและระบบการลำเลียงเชื้อเพลิงที่มีความไหลลื่นสูง กว่าเดิม

ครูซ โมเดล ปี 2013  ยังมาพร้อมกับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด "Gen II" รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้ความแม่นยำยิ่งขึ้นและมอบความนุ่มนวลมากกว่าเดิมในการเปลี่ยนเกียร์ ขณะเดียวกันยังตอบสนองด้านอัตราเร่งได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย มาพร้อมระบบ Driver Shift Control ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบเกียร์ธรรมดา

ด้านดีไซน์ภายนอกก็ดึงดูดสายตา เปลี่ยนกันชนหน้าดีไซน์ใหม่และบริเวณไฟตัดหมอก กรอบไฟหน้าชุบโครเมี่ยมและกระจังหน้าใหม่ ส่วนกันชนหลังที่ยังเน้นความสปอร์ต แม็กห้าก้านที่เท่ไม่เบา ส่วนภายในรุ่น LTZ ได้ปรับเบาะตกแต่งด้วยสีน้ำตาลแดง ปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์เป็นทรงกลม ใช้งานสะดวกสบาย

นุ่มนวล ขับสบาย ตลอดทาง

สนุกออโต้ ใช้เส้นทาง กรุงเทพ - นครนายก ในการทดสอบรถเชฟโรเลต ครูซ โมเดล ปี 2013 สัมผัสแรกที่ได้นั่งคือความสบายในการขับขี่ เบาะที่นั่งรองรับได้เต็มแผ่นหลังคนขับ ทัศนวิสัยในส่วนของคนขับดีเยี่ยม กระจกซ้าย-ขวา หรือกระจกหลังอยู่ในตำแหน่งที่ดี ปุ่มกดสตาร์ทรถอยู่ซ้ายมือ ในตอนแรกตัวคนขับเองเคยชินกับการบิดกุญแจสตาร์ทในด้านขวา ทำให้รู้สึกแปลกๆเล็กน้อย

     รถที่ทางเชฟโรเลตส่งมาให้ทดสอบไม่ติดฟิล์มกรองแสง แต่ก็ไม่ได้ทำให้อุณหภูมิในรถสูงขึ้นแต่อย่างใด เพราะระบบควบคุมความเย็นของรถครูซตัวนี้ทำหน้าที่ของมันได้ดีทีเดียว

     หากใครชื่นชอบที่จะฟังเพลงในรถ เครื่องเสียงที่ติดตั้งอยู่ในครูซ โมเดล ปี 2013 ตัวนี้ ค่อนข้างดีเลยทีเดียว หากคนเล่นเครื่องเสียงแนะนำติดซับก็เพียงพอแล้ว (อันนี้ตามความคิดเห็นส่วนตัวผู้ทดสอบนะครับ)

     เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนที่ทรงพลัง ไม่อืด รอบไม่สูง ความนุ่มนวลในการขับขี่รถคันนี้ทำออกมาได้ดีมาก หากผู้อ่านได้ทดลองขับจะรู้สึกถึงความสะดวกสบายในการขับรถทีเดียว

ผมได้ลองเหยียบคันเร่งใช้ความเร็วถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เชฟโรเลต ครูซ โมเดล ปี 2013 ทำออกมาได้ดีมาก การทรงตัวของรถ ถึงแม้พื้นผิวถนนจะไม่เรียบเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ทำให้รถสั่นสะเทือนเลย ช่วงล่างของครูซทำออกมาได้ดีมากๆ เสียงจากภายนอกรถไม่เข้ามาในห้องโดยสารเลย ตลอดเส้นทางที่ขับไป-กลับ

  ระบบเกียร์เจนสองที่ทางเชฟโรเลตได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหม่ ทำได้ดีความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ทำออกมาได้ดีมาก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ค้างคาใจผมก็คือในช่วงความเร็วที่ 80-100 กิโลเมตร เข็มรอบเครื่องแสดงผลแปลกๆ คือเวลาเร่งความเร็ว เข็มจะค่อยๆขยับไปก่อนที่จะตกไปแบบรวดเร็ว และค่อยขึ้นมาใหม่ จากเหตุการณ์ตรงนี้ทำให้ผมตั้งข้อสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติหรือเปล่า

     ระบบเบรกของครูซ เนื่องจากรถรุ่นนี้เน้นความนุ่มนวลเป็นพิเศษ ทำให้เวลาเหยียบเบรกจะต้องเผื่อไว้นิดหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าเบรกไม่อยู่นะครับ เบรกอยู่แต่ต้องกะเผื่อไว้นิดนึง เวลาเจอรถติด หรือติดตามแยกไฟแดง

Chevrolet Cruze 1.8 LTZ  Model Year 2013 คุ้มค่า คุ้มราคา

     สำหรับรถ Chevrolet Cruze 1.8 LTZ  Year 2013 คันนี้ที่ทดสอบ ส่วนตัวผมค่อนข้างที่จะประทับใจกับความนุ่มนวลและฟีลลิ่งในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เครื่องยนต์ 1.8 เติมน้ำมัน E85 ได้ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนขับรถในเวลานี้เพราะราคาเชื้อเพลิงชนิดนี้ราคาไม่สูงมากนัก รูปทรงที่ดูสปอร์ต หากผู้ที่นิยมแต่งสวย รถรุ่นนี้เติมนิดเติมหน่อย ก็หล่อแล้ว แต่อย่างว่าสุดท้ายถ้าจะให้ดีผู้อ่านต้องลองทดสอบด้วยตัวเองได้ตามศูนย์เชฟโรเลตทั่วประเทศครับ

รถที่ใช้ทดสอบ Chevrolet Cruze 1.8 LTZ  Year 2013  ราคา 998,000 บาท

ข้อมูลน่ารู้ เชฟโรเลต ครูซ 1.8 LTZ
ความจุกระบอกสูบ (ซีซี) (ccm)                      1796
ให้พละกำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่                     6,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตรที่                       3,800 รอบ/นาที
ความจุถังน้ำมัน                                           60 ลิตร
ขนาดล้อ                                                   17" นิ้ว
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด                                     5.32 เมตร
ความจุห้องสัมภาระ                                     400 ลิตร
เบาะหลังพับ 60/40  
ไฟส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด (Automatic Headlamp)
ระบบเซ็นเซอร์ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ DSC
ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมระบบ Keyless entry
ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
มาตรวัดแสดงข้อมูลการเดินทางแบบดิจิตอล
ช่วงล่างแบบ Euro-Ride Tuning
อัตราการกินน้ำมันอยู่ที่ 10.4 กิโลเมตรต่อลิตร (ผู้ทดสอบได้วัดตามเส้นทางที่ใช้ทดสอบ)

• 
  
• สนับสนุนเนื้อหา

Create Date : 30 สิงหาคม 2556
Last Update : 30 สิงหาคม 2556 21:50:37 น.		0 comments
Counter : 3230 Pageviews.
Share Tweet