All Blog
รักออกอากาศ ตอนที่ 9




รักออกอากาศ ตอนที่ 9

รุ่งเช้าวันต่อมาผู้คนทั่วประเทศ หลากวัย หลายอาชีพ ต้องตกตะลึง เมื่อหนังสือพิมพ์ตีข่าวการกลับมาของขุนทองอีกครั้งในรายการเรียลลิตี้ ไฮโซบ้านเฮา แฟนคลับทุกเพศทุกวัยดีใจกรี๊ดกร๊าด วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งในร้านกาแฟอ่านข่าวในมือถือ

“อ้ายขุนทองคัมแบ็ก! มีหวังดังระเบิดกว่าเดิม ฟันธง!” วัยรุ่นคนหนึ่งเอ่ยขึ้นกับเพื่อนๆ
เพื่อนอีกคนอดกรี๊ดออกมาไม่ไหว เพราะปลื้มอ้ายขุนทองในรายการอย่างมาก
“อ๊ายยย!”
มีเพียงแมทธิวคนเดียวที่เลือดขึ้นหน้า และนั่งมองอยู่อย่างโมโห ไม่พอใจที่เจ้าคุณกลายเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศ
“ไอ้คุณ!”
ไม่นานเอมี่ก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามานั่งข้างแมทธิว
“แมท! แมท รู้ข่าวรึยัง เจ้าคุณกลับไปบ้านนอก แล้วยังจะทำไฮโซบ้านเฮาต่อ...”
แมทธิวตวาดกลับทันที
“รู้แล้ว! รู้ตั้งนานแล้ว”
เอมี่สะดุ้งเฮือกก่อนจะใส่อารมณ์กลับบ้าง
“รู้แล้วยังจะมานั่งใจเย็นจิบกาแฟอยู่เนี่ยนะ ใจคอไม่คิดจะทำอะไรมั่งรึไง”
“คิดซิ...ทำไมจะไม่คิด โดยเฉพาะเรื่องของแกไอ้คุณ ฉันไม่เคยหยุดคิดเรื่องของแกแม้แต่วินาทีเดียวเลย ไอ้เพื่อนรัก”
แมทธิวยิ้มอย่างเยือกเย็นและครุ่นคิดแผนร้ายในใจ

คืนนั้น ก้องเกียรติยื่นซองสีน้ำตาลที่ใส่เงินมาแล้วเรียบร้อยให้เจ้าคุณรับไว้ กิ่งแก้วนั่งอยู่ข้างๆ
ส่วนกำโป๊งนั่งทำหน้าเบื่อโลก ไม่อยากสนใจเพราะหวั่นคนม่วนแต๊จับได้เรื่องวางแผนหลอกเรื่องเจ้าคุณ
“ฉันถามแกอีกครั้ง....แกแน่ใจแล้วเหรอไอ้คุณ”
ก้องเกียรติถามเพื่อนเพื่อความชัวร์อีกครั้ง
เจ้าคุณถอนใจ แต่กำโป๊งแทรกขึ้นมา
“ไม่ถามข้ามั่งเหรอวะไอ้ก้อง จู่ๆ ก็จะถ่ายรายการกันต่อ ถามความสมัครใจข้ามั่งรึยังวะ”
“ลงเรือลำเดียวกันแล้วนะคะลุง”
กิ่งแก้วพูดพลางยิ้มให้กำโป๊ง แต่โดนกำโป๊งค้อนใส่
“เออ! เรือล่มเมื่อไหร่ล่ะมีหวังจมน้ำตายกันทั้งลำ เฮ้อ! กรรมของไอ้โป๊ง”
“ว่าไง..ไอ้คุณ”
ก้องเกียรติถามต่อ แต่เจ้าคุณไม่ตอบยัดซองเงินใส่มือกำโป๊งอย่างรวดเร็ว
“อ่ะ..ลุง”
กำโป๊งลืมตัวเผลอขอบคุณเจ้าคุณทันที
“ขอบใจ เฮ้ย! ไอ้บ้า จู่ๆ เอาเงินมายัดใส่มือข้าทำไม ข้าไม่รับสินบน ไม่กินเงินใต้โต๊ะ ข้าคนใจซื่อมือสะอาด ข้า...”
“ไม่ใช่...ฉันฝากเงินนี้ไปให้ลุงหมาย”
“ให้พ่อหมาย”
เจ้าคุณพยักหน้า
“...เอาไปฟื้นฟูไร่ชา”
กำโป๊งอึ้งไปในน้ำใจของเจ้าคุณ
“แต่ห้ามบอกเด็ดขาดว่าได้มาจากฉัน”
“อ้าว..ไอ้เวร! ไม่ให้บอกว่าได้มาจากเอ็งแล้วจะให้ข้าบอกว่าได้มาจากใคร”
“ไม่รู้...ก็แล้วแต่ลุง”
กำโป๊งลำบากใจไม่น้อย หน้าตากังวลมากกว่าเดิม
“แล้วแต่ข้า ไอ้บ้า! ชาติที่แล้วข้าไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้กับพวกเอ็งนักหนาวะเนี่ย”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วมองหน้าเจ้าคุณด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจ ส่วนเจ้าคุณสบายใจในสิ่งที่ได้ตัดสินใจทำลงไปใบหน้าคลายความกังวลเช่นกัน

คืนนั้น ไส้อั่วแอบมาพบแคบหมู แล้วหลบพุ่มไม้ข้างทาง
“อร้าย! ไอ้อั่ว! ไอ้ว่อก เสียแรงเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ไม่คิดเลยว่าเอ็งจะใจชั่วฉุดข้ามาปล้ำ”
แคบหมูเข้าใจผิด รีบด่าไส้อั่วทันที
“อีบ้า! กล้าพูด! พูดจาไม่ดูหน้าตาตัวเองเล๊ยนังแค๊บ แล้วไหนจะหุ่นอีก อย่างแกน่ะเหรอจะมีใครฉุดไปปล้ำ เชอะ! จับไปถลกหนังทำแคบหมูได้อย่างเดียวล่ะ...อีอ้วน!”
“หนอย! คำก็อ้วน สองคำก็อ้วน คอยดูนะ...โตขึ้นข้าจะเป็นนางแบบให้เอ็งดู”
“ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะนังแค๊บ!”
ไส้อั่วแอบจิกตาแถมโฑสต์ท่านางแบบสาวกว่าแคบหมูเสียอีก
“โอเค. ไม่โดนปล้ำแน่แล้วอีแค๊บ เออ..ว่าแต่งั้นลากข้ามาทำไมวะเนี่ย”
“เออจริง! ลืมไปเลย คืองี้ หมอก้องกะพยาบาลกิ๋งมาหาอ้ายขุนทองอีกแล้ว”
“จริงเหรอไอ้อั่ว”
แคบหมูตกใจ
“จริงซิ! ตะกี๊ข้าเห็นกะตา พอเห็น ข้าก็รีบมาบอกเอ็งนี่แหละ..นังแค๊บ”
“ตายละ!! จะมาจับอ้ายขุนทองไปโรงพยาบาลอีกรึเปล่า รีบไปบอกเจ๊ใจ๋กันเหอะ”
สองคนกำลังจะวิ่งไปบอกสมใจ แต่ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อพบว่ามีคนยืนอยู่ด้านหลัง
“ปลัด!”
สองคนตกใจเมื่อเห็นปลัดจืดยืนเอาเรื่องอยู่ด้านหลัง

เวลาเดียวกัน ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว เตรียมทำท่าจะกลับ เจ้าคุณเดินมาส่ง
“ขอบใจมากนะ..ไอ้คุณ”
ก้องเกียรติเอ่ยอย่างจริงใจ แต่เจ้าคุณยังคงโกรธอยู่แต่จำต้องทำเพราะคนรัก
“ไม่ต้องเลยไอ้ก้อง ฉันไม่ได้ทำเพราะแก จบเรื่องนี้เมื่อไหร่แกกับฉันต้องเคลียร์กันแน่”
ก้องเกียรติน้อมรับชะตากรรมโทษฐานโกหกเพื่อนมาตลอด ส่วนกิ่งแก้วยืนอมยิ้มมองเจ้าคุณ
“ว่าแต่ฉันล่ะอยากรู้จังเลยเจ้าคุณว่าเรื่องนี้มันจะจบเมื่อไหร่ แล้วก็จบยังไง”
“แกก็อีกคนไอ้กิ๋ง อย่านึกว่าเป็นผู้หญิงแล้วจะรอด”
เจ้าคุณแกล้งกลบเกลื่อน แต่กิ่งแก้วกลับทำหน้าเยาะเย้ยกลับ
“แกจะเคลียร์รึจะขอบใจฉันกันแน่..ไอ้คุณ”
“ไอ้กิ๋ง!”
เจ้าคุณผลักหัวกิ่งแก้วเบาๆ ส่วนก้องเกียรติยืนมองในความเปลี่ยนแปลงของเจ้าคุณ
“ไอ้คุณ....แกรู้ตัวมั้ยว่าแกเปลี่ยนไปมาก”
เจ้าคุณอึ้งในคำพูดของเพื่อน แต่แววตาไม่มั่นใจนักว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เพราความรักแต่สมใจจะเข้าใจเขาหรือไม่

เวลาต่อมา ปลัดจืด แคบหมู และไส้อั่ว เร่งเดินไม่รอช้า จนแคบหมูหอบและแอบกังวลใจ
“เราไปบอกเจ๊ใจ๋ก่อนไม่ดีเหรอปลัด”
“ฉันเป็นปลัดนะแคบหมู ใครจะมาจะไปในม่วนแต๊ ฉันต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ใจ๋”
แคบหมูหน้าเสีย หลังโดนปลัดจืดดุ
“ไงล่ะ..นังแค๊บ มันจุกอกมั้ยล่ะ”
ไส้อั่วกันมาทับถมแคบหมู
ปลัดจืดยิ่งเร่งฝีเท้าอย่างใจร้อนเลย จึงชนเข้ากับหวานเจี๊ยบที่ขี่จักรยานสวนมา จึงล้มกลิ้งไปพร้อมๆกัน
“อร้าย!”
หวานเจี๊ยบกรี๊ดลั่น ปลัดจืดรีบลุกขึ้นก่อน
“โหย! ซุ่มซ่ามสุดๆ เลยยัยลิงเจี๊ยก”
“ไอ้หน้าจืด! ชนเขาล้มแล้วยังมีหน้ามาด่าเขาอีกโอ๊ย!”
หวานเจี๊ยบจะลุกขึ้นแต่ขาเริ่มเจ็บมากขึ้น ปลัดจืดชะงักพยายามมองว่าเจ็บจริงหรือไม่
“เจ็บจริงเหรอน่ะ”
“ไอ้ปลัดจ๋อย! เห็นฉันเป็นนางเอกละครรึไงยะ โดนแกชนล้มซะขนาดนี้ก็เจ็บซิโว้ย!เจ็บจริง!”
หวายเจี๊ยบทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ปลัดจืดแอบถอนหายใจ
“ปลัดอะไรรังแกประชาชน ใจร้าย ใจดำ”
ปลัดจืดรู้สึกผิด เลยเดินเข้าไปยื่นมือให้อย่างจริงใจ
“อ่ะ! ลุกขึ้นเร็วๆ”
หวานเจี๊ยบไม่พอใจเอามือฟาดปลัดจืดอย่างดัง
“ไม่ต้อง! ไม่ต้องมายุ่ง”
หวานเจี๊ยบพยายามลุกขึ้น แต่ยังกะเผลก เธอพยายามมองหารองเท้าที่กระเด็นหายไปข้างหนึ่ง
“หาอะไรเจ๊หวาน”
แคบหมูถามขึ้น
“รองเท้าอ่ะซิ..หายไปไหนไม่รู้”
ไส้อั่วชูรองเท้าของหวานเจี๊ยบที่ขาดวิ่นทันที
“นี่ล่ะป่าว”
“เฮ๊ย! รองเท้าชั้น..โฮ!”
หวานเจี๊ยบเสียใจที่รองเท้าคู่โปรดขาด ปลัดจืดหน้าสียเพราะไม่ได้ตั้งใจ
“ เพราะแกคนเดียวไอ้หน้าจืด เพราะแกคนเดียว...ฮือๆ”
ปลัดจืดเสียใจ แต่กำลังกังวลเรื่องเจ้าคุณอยู่ แต่ก็ยังหันมาแสดงความรับผิดชอบ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แคบหมู ไส้อั่วพาเขาไปส่งบ้านที ฉันจะรีบไปบ้านลุงกำโป๊ง”
พูดจบปลัดจืดรีบเดินออกไปทันที
“ไอ้ว่อก! ไอ้จืด! ไอ้บ้า! ฮือๆ รองเท้าฉัน”

ต่อจากนั้นปลัดจืดรีบวิ่งมาที่บ้านกำโป๊งด้วยสภาพหอบเหนื่อย
“ขุนทอง!”
ปลัดจืดเรียกเจ้าคุณเสียงดัง เจ้าคุณหันมองด้วยความสงสัย
“หมออยู่ไหน”
“หมออะไร”
ปลัดจืดมองอย่างจับผิด
“ก็หมอก้องไง เมื่อกี๊หมอก้องมาที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
เจ้าคุณเริ่มนึกได้
“อ๋อ..ใช่”
“หมอไปไหนแล้ว”
“กลับไปแล้ว”
“งั้นหมอมาทำไม”
“ถามทำไม”
“ฉันเป็นปลัดของม่วนแต๊ ใครจะมาจะไปฉันต้องรู้”
ปลัดจืดมองหน้าเจ้าคุณ
“หมอก็มาตรวจคนไข้ซิปลัด จะให้มาจับผู้ร้ายรึไง”
คราวนี้ปลัดจืดหมั่นไส้พุ่งเข้าปรี่ไปกระชากคอเสื้อเจ้าคุณทันที
“ฉันถามดีๆ ก็ตอบมาดีๆ”
แต่ไม่ทันมีเรื่องกำโป๊งเดินเข้ามาพอดิบพอดี
“เฮ่ยๆ..มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันก็ได้”
“หลานลุงเริ่มก่อน
ปลัดจืดออกโรง เจ้าคุณก็หาได้กลัวไม่
“เริ่มอะไร”
สองคนจ้องหน้ากันไม่มีใครยอมใคร
“ไอ้ขุนทอง! ขอโทษพ่อปลัดเขาเดี๋ยวนี้!”
เจ้าคุณลืมตัว
“ขอโทษ ตั้งแต่เกิดมฉันไม่เคยขอโทษใคร”
ปลัดจืดฟังแล้วยิ่งสงสัย
“แฮ่มๆ”
กำโป๊งสงสัญญาณว่าเจ้าคุณอาจทำความลับแตกเสียเอง
เจ้าคุณรู้ตัว แต่ไม่ยอม จึงปัดมือปลัดแล้วเดินออกไป
“มันบ้าๆ บอๆ น่ะพ่อปลัด อย่าไปถือเลยนะ นึกซะว่าฉันขอ”
ปลัดจืดไม่ติดใจเอาความ แต่มองตามเจ้าคุณอย่างอดคลางแคลงใจไม่ได้

เช้าวันใหม่ ที่บ้านสมใจ กำโปีงยื่นซองเงินที่เจ้าคุณให้มากับสมหมาย จนอีกฝ่ายตั้งตัวไม่ถูก
“อะไรน่ะ...อ้ายโป๊ง”
กำโป๊งอึดอัดหน้าตาซ่อนพิรุธ
“ก็..เอ่อ..ดูเอาเองละกัน”
สมหมายมองหน้าลูกเมียที่นั่งอยู่ข้างๆแบบใจดีสู้เสือ
“แน้! วันนี้มาแปลกแฮะ”
สมหมายงงกับอาการของกำโป๊ง
“อย่างนี้เขาเรียก มี เซอร์ไพรส์”
ออกเสียงจริงจังจนน้ำลายของแคบหมูกระจายใส่หน้ากำโป๊ง
“แฉะเลยนังแค๊บ!”
“แฮ่!”
“แกะดูเถอะพ่อ อยากรู้แล้ว”
สมใจเร่งสมหมายไปในตัว ไม่ต่างจากคำปุย แคบหมูและไส้อั่วที่อยากรู้เช่นเดียวกัน
“แกะเลยๆ”
“เอ้า! แกะก็แกะ”
สมหมายแกะซองพอรู้ว่ามีเงินเป็นฟ่อนในนั้นก็ชะงักหันไปถามกำโป๊ง
“อะไรกันเนี่ย นี่มันอะไรกัน...อ้ายโป๊ง”
“เอ่อ..คือ...”
กำโป๊งเหลือบมองไปที่มุมหนึ่ง เจ้าคุณแอบส่งสัญญาณอย่าบอกที่มาของเงินเป็นอันขาด
“อะไรเหรอพ่อ”
สมใจถามอย่างสงสัย สมหมายจึงหยิบเงินเป็นฟ่อนออกมาให้ดู
“ก็นี่ไง!”
ทุกคนฮือฮาสงสัย
“ตายจริง! นึกยังไงเนี่ยอ้ายโป๊ง จู่ๆ เอาเงินมาอวดกันเป็นปึกอย่างงี้”
สมศรีกล่าวอย่างสงสัย กำโป๊งทำหน้าคล้ายจะเป็นลม
“ไม่ใช่...ไม่ได้เอามาอวด แต่ฉัน..ฉัน...”
กำโป๊งเหลือบมองเจ้าคุณที่กำลังลุ้นให้พูดเสียที
“ทำไมเหรอจ๊ะ ลุงกำโป๊งเอาเงินนี่มาทำไมเหรอจ้ะไ
สมใจถาม
“ก็..ก็เอามาให้พ่อเอ็งน่ะซิไอ้ใจ๋”
“ห๊า! เอามาให้ฉัน”
ทุกคนตกใจไม่ต่างไปจากสมหมาย กำโป๊งสะดุ้งตกใจไปด้วย
“เย้ย! เบาๆ ก็ได้ หัวใจจะวาย”
“อ้ายโป๊ง แล้วนี่มันเรื่องอะไร ทำไมจะต้องเอาเงินมาให้ฉันมากมายขนาดนี้”
“ใจเย็นๆ พ่อหมาย คือ...ฉันเห็นพ่อหมายกำลังลำบาก ก็เลยอยากช่วยพ่อหมายฟื้นฟูไร่ชา...”
“ไม่ได้นะอ้ายโป๊ง อ้ายก็รู้จักฉันดีว่าเป็นคนยังไง”
“ก็รู้น่ะเซ่”
“พ่อ..พ่อเขาเกรงใจลุงกำโป๊งน่ะจ้ะ ให้พวกเราลองพยายามกันก่อนดีกว่านะจ๊ะลุง”
สมใจพูดอย่างเห็นในน้ำใจกำโป๊ง แต่ยังไม่อยากให้พ่อรับเงินนั้นไว้ เจ้าคุณมองอย่างซึ้งใจ
“ใช่..ไอ้ใจ๋พูดถูก”
สมหมายรีบเสริมลูกสาว กำโป๊งเริ่มจนปัญญา เหลือบมองเจ้าคุณที่ลุ้นให้ตื๊อต่อให้สำเร็จ
“เฮ้อ!...คืองี้พ่อหมาย ไอ้เราก็ไม่ใช่คนอื่นไกล ที่สำคัญ ฉันก็เป็นคนม่วนแต๊คนนึงเหมือนกัน อยู่ดีมีสุขได้ก็เพราะไร่ชาม่วนใจ๋ของพ่อหมายด้วย ถึงยามลำบากจะให้ฉันนิ่งดูดายอยู่เฉยๆ...มันก็อายหมานะพ่อหมายนะ”
กำโป๊งรีบพูดยกแม่น้ำทั้งห้า พร้อมรีบยัดซองเงินกลับให้สมหมายอีกรอบ
“ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้ มีหวังจะยิ่งฟื้นฟูยาก รีบๆ เอาไปเถอะ ไม่งั้นพวกเราจะลำบากกันทั้งหมู่บ้านล่ะทีนี้”

สมหมายอึ้งไป แอบมองหน้าสมศรีกับสมใจและก้อมมองซองเงินตรงหน้าอย่างครุ่นคิด
“ว่าแต่..อ้ายไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ”
“ก็..ก็..ไอ้..”
กำโป๊งเหลือบมองเจ้าคุณที่ทำตาโตใส่
“ก็..ไอ้..ไอ้ตัวฉันเองก็พอจะมีเก็บไว้บ้างตั้งแต่อพยพมาจากกรุงเทพฯ น่ะ”
เจ้าคุณโล่งอก
“ตาหมาย...ที่อ้ายโป๊งพูดก็ถูกนะ ขืนปล่อยไว้นาน ไร่ชาก็จะยิ่งฟื้นฟูยาก ชาวม่วนแต๊ก็จะยิ่งลำบาก”
สมหมายอึ้งแล้วยกมือไหว้ขอบคุณกำโป๊ง จนอีกฝ่ายรับไหว้แทบไม่ทัน
“ขอบใจอ้ายโป๊ง ฉันจะรีบฟื้นฟูไร่ม่วนใจ๋ แล้วฉันจะรีบชดใช้คืนให้เร็วที่สุด”
กำโป๊งโล่งอกที่ความไม่แตกเสียก่อน ทุกคนดีใจ โดยเฉพาะเจ้าคุณแววตาเปี่ยมสุขเมื่อรู้ว่ากำลังจะช่วยสมใจและชาวม่วนแต๊ได้

บ่ายวันเดียวกัน เจ้าคุณเดินอย่างสบายใจเมื่อรู้ว่ามีเงินช่วยแก้ปัญหาไร่ชาม่วนใจ๋ หัวใจของชาวม่วนแต๊และยังช่วยสมใจได้อีกทาง ไม่นานสมใจขี่จักรยานไล่หลังมาแล้วเรียกเจ้าคุณ
“ขุนทอง! อ้ายขุนทอง”
เจ้าคุณหยุดเดิน หันไปมองสมใจ
“เป็นอะไร ยิ้มแฉ่งเชียว”
“จริงเหรอ แหม..ก็คนมันมีความสุขอ่ะ”
“เหรอ ปลัดจืดมาจีบมุกไหนอีกล่ะ”
เจ้าคุณแกล้งหยอก ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าสมใจดีใจเรื่องอะไร
“ บ้า! ฉันมีความสุขที่ไร่ม่วนใจ๋จะกลับมาสวยงามอีกครั้งแล้วตะหากล่ะยะ”
เจ้าคุณแอบอิ่มเอมใจแต่ไม่แสดงออก แกล้งทำไม่รู้เรื่อง
“หมายความว่ายังไง”
“ก็ลุงกำโป๊งน่ะซิ อุตส่าห์เอาเงินมาช่วย ใจดีจริงๆ เลย”
สมใจพูดอย่างมีความสุข ทำให้เจ้าคุณฟังแล้วรู้สึกดีในใจ
“แต่พวกเราเกรงใจแกจะแย่ นายก็ต้องเตรียมตัวไว้นะ ต้องรีบมาช่วยฟื้นฟูไร่ชาโดยเร็วที่สุด จะได้รีบเอาเงินไปคืนลุงกำโป๊ง เพราะเงินของลุงกำโป๊งก็คือเงินของนาย”

“เฮ๊ย...ไม่ใช่นะ!”
เจ้าคุณตกใจ สมใจหัวเราะพอเห็นเจ้าคุณตกใจเสียหน้าซีดเผือด
“ทำไมต้องหน้าซีดเว่อร์ขนาดนั้นด้วย ที่ฉันพูดมันไม่จริงเหรอ ก็นายเป็นหลานลุงกำโป๊ง เงินของลุงกำโป๊งก็ต้องกลายเป็นเงินมรดกของนายในวันข้างหน้า ไม่ใช่เหรอ”
เจ้าคุณโล่งอก พยักหน้าตามน้ำไปตามระเบียบ
“แหม...ถ้ารู้ว่ารวยซะขนาดนี้ ตีซี้ไปตั้งนานแล้ว ฮ่าๆ”
เจ้าคุณสะอึกแต่แกล้งฝืนหัวเราะ
“เออ..ว่าแต่นี่นายจะไปไหนเนี่ย”
“ก็...ไม่รู้เหมือนกัน”
“บ้ารึเปล่า...จะไปไหนยังไม่รู้”
“ก็เดินไปเรื่อยๆ”
“งั้นไปด้วยกันมั้ย”
สมใจแอบชวน
“ไปไหน”
“ไปช่วยฉันเลี้ยงลูก”
“เลี้ยงลูก”
เจ้าคุณยังไม่เข้าใจ แต่สมใจยิ้มอย่างมีความสุข

ไม่นานนัก เจ้าคุณกับสมใจมาหยุดอยู่ที่เลี้ยงช้าง
“เนี่ยนะ..ลูกเธอ”
เจ้าคุณถามพลางยิ้ม
“ก็เออซิ! ทำไม ตลกตรงไหน”
“โธ่เอ๊ย...ลูกช้าง”
“ก็ลูกช้างซิยะ จะให้มีลูกคนได้ไง ยังหาพ่อไม่ได้เลย”
เจ้าคุณกับสมใจหันมามองหน้ากันโดยบังเอิญ พอรู้ตัวสมใจรีบเฉไฉคุยเรื่องอื่น
“อะไร ร้อนเหรอ ร้อนใช่มั้ย ไป..พาช้างไปอาบน้ำซิ ยืนเฉยทำเบื๊อกอะไร..หึ้ย!”
สมใจพูดแล้วเดินออกๆปทันทีด้วยความอายทิ้งให้เจ้าคุณมองตาม อมยิ้มกับช้างลูกรักของสมใจ

สมใจอาบน้ำให้ช้าง เจ้าคุณช่วยด้วยแม้ว่าตอนแรกจะดูไม่ถนัดเก้ๆ กังๆ แต่เพราะสมใจสอนให้ เจ้าคุณจึงเริ่มสนุกสนาน ครู่ต่อมาสมใจกับเจ้าคุณนั่งคุยกันริมน้ำ
“ชีวิตเจ้าช้างตัวนี้ มันน่าสงสาร”
เจ้าคุณหันมองสมใจแทนคำถาม
“พ่อมันโดนคนใจร้ายยิงเอางาไปขาย แค่นี้แท้ๆ มันเลยต้องกำพร้าพ่อ”
เจ้าคุณนึกถึงตัวเอง
“แต่มันฉลาดมากนะ สงสัยจะรู้ตัว กลัวไม่มีใครรัก มันขี้ประจบมาก พวกฝรั่งนักท่องเที่ยวจะรักมันมาก เวลามันพาพวกเขาเที่ยว”
“พาเที่ยว”
“อือ..ขี่ช้างไง รายได้หลักของเจ้าช้างตัวนี้มันเลยนะ ถึงจะกำพร้าแต่ก็ไม่ทำตัวเป็นช้างมีปัญหา”
เจ้าคุณหน้าจ๋อย นึกถึงตัวเองขึ้นมา
“เออ..อยากใช้บริการเจ้าช้างมั่งมั้ย?”
เจ้าคุณเลิกคิ้วมอง
“ไปขี่ช้างเที่ยวกัน”
เจ้าคุณดูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

ไม่นานนักเจ้าคุณกับสมใจขึ้นนั่งหลังช้างอย่างเพลิดเพลิน ทั้งสองมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เวลาเดียวกันที่บ้านเครือฟ้า ปลัดจืดกับหวานเจี๊ยบยังคงปะทะคารมกันอย่างไม่เลิกรา

“เว๊ย! ก็บอกว่าไม่รู้ๆ ไม่เห็นๆ ยังจะถามอยู่ได้เว๊ย!” หวานเจี๊ยบโวยวายใส่อย่างหงุดหงิด
“ถามดีๆ ก็ตอบดีๆ ไม่ได้เหรอ” ปลัดจืดโวยกลับ
“ถามดีที่ไหน น้าเครือเป็นพยาน ไอ้ปลัดจ๋อยมันขู่ ยังกะหมา ใช่มั้ยน้าเครือ”
ปลัดจืดกำลังจะหัดมาเจรจากับหวานเจี๊ยบ แต่เครือฟ้าตะโกนดุหลานสาวทันที
“นังหวานเจี๊ยบ! เป็นแม่หญิงยิงเรือพูดจาให้มันงามหน่อย”
หวานเจี๊ยบฮึดฮัดแบบเดิม
“อีกอย่าง...เราก็ต้องให้เกียรติพ่อปลัดเขาด้วย พูดจาว่าเค้าขู่ อย่างนี้มันใช้ไม่ได้”
“น้าเครือ น้าเครือก็เข้าข้างคนอื่นตลอด” คราวนี้หวานเจี๊ยบหันมาโวยน้าสาว
“คนอื่นที่ไหน พ่อปลัดจืดน่ะ น้าก็รัก เอ็นดูเหมือนหลานเขย” เครือฟ้าว่า
“เฮ๊ย!”
ทั้งปลัดจืดและหวานเจี๊ยบร้องขึ้นพร้อมๆ กัน เพราะตกใจกับคำพูดของเครือฟ้า เจ้าของคำพูดรีบแก้ต่าง
“เฮ๊ย! น้าก็รักเหมือนลูกเหมือนหลานน่ะ...แหะๆ... ว่าแต่ เอ็งไม่รู้จริงๆ เหรอหวานเจี๊ยบว่าไอ้ใจ๋มันหายไปไหน ปล่อยให้พ่อปลัดเขาตามหา”
“หึ้ย! จะตามหาอะไรนักหนา ตามหาทั้งวี่ทั้งวัน คนเขาไม่รักไม่ชอบแล้วยังจะหน้าด้านตื๊ออยู่ได้”
“นั่นสิ...นี่ถ้าเป็นนังหวานเจี๊ยบนะ น้ายกให้ฟรีๆ เลยแถมสมุนไพรให้อีก 3 ลัง”
เครือฟ้าเผลอลืมตัวพูดออกไปอีก ปลัดจืดสะดุ้ง แต่หวานเจี๊ยบโวยวาย
“น้าอ่ะ!”
“อุ๊ย! พูดเล่นน่ะจ้ะ...พูดให้ขำ..แหะๆ”
ปลัดจืดและหวานเจี๊ยบ มองหน้าแล้วค้อนใส่กันแบบจะกินเลือดกินเนื้อ
“ฉันไปขายน้ำหวานแล้วนะน้าเครือ ขืนอยู่นานอดใจไม่ไหวเดี๋ยวจะได้เตะหมา!”
หวานเจี๊ยบพูดจบจะรีบเดินออก แต่สะดุดพื้นจนหน้าทิ่ม
“ว๊าย!”
เครือฟ้ารีบเข้าไปประคอง
“เจ็บมั้ยนังหวาน”
ปลัดจืดส่ายหน้าระอา
“เจ็บซิน้า ถามได้”
เครือฟ้าไปหยิบดูรองเท้าที่ทำให้หวานเจี๊ยบล้มสะดุด เห็นสภาพขาดวิ่นจนแทบใส่ไม่ได้
“โธ่ถัง! รองเท้าพังอย่างนี้ยังจะเอามาใส่ ทิ้งๆ ไปเหอะ จะรักจะหวงไปถึงไหน”
ปลัดจืดมองอย่างสงสัย คิดในใจว่าเป็นรองเท้าคู่เดียวกันกับที่ตัวเองทำของหวานเจี๊ยบขาดหรือไม่
“ฉันจะไปแล้ว”
หวานเจี๊ยบใส่รองเท้าคู่สุดรัก แล้วเดินขากะเผลกออกไปทั้งเจ็บทั้งอาย ปลัดจืดแอบถามเครือฟ้าเรื่องรองเท้าของหวานเจี๊ยบ
“หวานเจี๊ยบเขารักรองเท้าคู่นั้นมากเลยเหรอครับ”
“อือ...รองเท้าของแม่มัน มันใส่ของมันมาตั้งแต่แม่มันตาย วันก่อนไปทำอีท่าไหนไม่รู้ ขาดซะ! กลับมานอนร้องไห้อยู่ทั้งคืน”
ปลัดจืดได้ยินแล้วถึงกับหน้าสลดไปด้วยความรู้สึกผิด

ทางด้าน เจ้าคุณกับสมใจยังคงมีความสุขอยู่กับภารกิจเลี้ยงช้าง เจ้าคุณลงจากช้างมาก่อน แล้วยื่นมือไปรับสมใจอยากช่วย แต่สมใจจะขอลงเอง
“ไม่ต้อง”
สมใจกระโดดลงเอง แต่ดันพลาดท่าลื่นร่วงลงมาอยู่ในอ้อมกอดเจ้าคุณ ทั้งสองคนสบตากัน สมใจรู้สึกเขินจึงหันไปพาลที่ช้างเชือกโปรด
“ใช้ไม่ได้เลยนะแก”
“อวดเก่งแล้วยังจะโทษ ช้างมันอีก”
“ว่าไงนะ”
“ก็จริงมั้ยล่ะ อวดเก่งอย่างเนี้ย...ถึงได้หาพ่อให้ลูกไม่ได้ซะที”
เจ้าคุณแหย่สมใจ จนโดนตีไปหลายที
“อะไรนะ อีตาบ้า! อีตาบ้า”
เจ้าคุณหัวเราะ สองคนวิ่งไล่ตีกันพัลวัน อย่าง...มีความสุข

เย็นนั้น ที่บ้านสมใจ ปลัดจืดกำลังสนทนากับสมหมายเรื่องเงินของกำโป๊งที่นำมาช่วย
“ว่าไงนะครับ ลุงกำโป๊งเอาเงินมาช่วยลุงหมาย”
“ใช่...เฮ้อ..ฉันเองก็เกรงใจอ้ายโป๊งเหลือเกินนะปลัด แต่...มันก็ไม่มีทางอื่นแล้ว”
ปลัดจืดยิ่งรู้สึกผิดที่ช่วยอะไรสมหมายไม่ได้
“...ผม..ขอโทษนะครับที่ช่วยลุงหมายไม่ได้”
“เฮ๊ยๆ ...อย่าพูดอย่างนั้นปลัด โธ่! ฉันเข้าใจ เงินทองมันไม่ได้หากันง่ายๆ”
สมหมายไม่ได้โกรธปลัดจืดแม้แต่น้อย
“นั่นซิครับ....เงินทองไม่ได้หากันง่ายๆ แล้วลุงกำโป๊งแกไปหามาจากที่ไหน” ปลัดจืดนึกสงสัย
“แกบอกว่าเป็นเงินที่แกเก็บหอมรอมริบมา”
“เหรอครับ เก็บได้ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
ปลัดจืดคาใจ ไม่เชื่อว่าเงินก้อนนั้นเป็นเงินของกำโป๊ง?

ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าคุณเดินมาส่งสมใจจนใกล้ถึงหน้าบ้าน
“ฉันส่งแค่นี้นะ” เจ้าคุณบอกสมใจก่อนจะเดินกลับ
“อ้าว!ไม่เข้าไปกินน้ำก่อนเหรอ” สมใจกลบเกลื่อน แท้ที่จริงอยากให้เจ้าคุณเข้าไปในบ้านก่อน
“พาลูกสาวเขาไปเที่ยวซะทั้งวัน เดี๋ยวลุงหมายเตะเอา” เจ้าคุณบอก
“บ้า! ไปละ!”
สมใจเดินออกไป แต่เจ้าคุณมองตามแล้วเรียกไว้
“สมใจ”
สมใจชะงัก รีบหันมามอง
“เอ่อ...” เจ้าคุณติดต่างกระทันหัน
“มีอะไรเหรอ”
“คือ...เอ่อ...” เจ้าคุณพูดไม่ออก
“อ้าว!...ติดอ่างอีกและ”
สมใจอมยิ้ม เจ้าคุณอยากพูดใจแทบขาดแต่ไม่กล้าพอ
“จะพูดรึไม่พูด ไม่พูดฉันเข้าบ้านนะ”
สมใจกำลังจะเดินออกไป เจ้าคุณรวบรวมความกล้าเรียกไว้อีกครั้ง “เดี๋ยว!”
สมใจชะงัก ยิ้มตอยหลับแล้วมองหน้าเจ้าคุณ
“ฉัน...ฉัน...ขอบใจเธอมาก”
“ขอบใจ...เรื่องอะไร”
สมใจยังไม่เข้าใจ
“ทุกเรื่อง”
สมใจยังไม่เข้าใจ แต่เจ้าคุณสีหน้าจริงจังมากขึ้นทุกที
“..นาย...เป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่า...เข้าบ้านเถอะ..ดึกแล้ว”
สมใจจ้องตาเจ้าคุณ เหมือนค้นหาความจริง
“ไม่เป็นไรจริงๆ...ไปเถอะ”
เจ้าคุณยังไม่กล้าบอกความในใจกับสมใจ
“นายก็...เดินกลับบ้านดีๆ นะ”
เจ้าคุณยิ้มลาส่งสมใจกลับเข้าบ้าน ก่อนที่ตัวเองจะหันกลับมาเศร้าแววตาละห้อย
แต่ทันใดนั้นเจ้าคุณต้องชะงักเมื่อปลัดจืดยืนขวางอยู่ด้านหลัง เจ้าคุณมองปลัดจืดแล้วพยายามจะเลี่ยงเดินออกไป แต่ปลัดจืดไม่มีท่าทีจะยอมปล่อยเจ้าคุณไปง่ายๆ
“นายเป็นใครกันแน่”
“พูดเรื่องอะไร”
เจ้าคุณแกล้งกลบเกลื่อน ทำใจดีสู้เสือ
“จู่ๆ ลุงกำโป๊งจะเอาเงินจากที่ไหนมาช่วยลุงหมาย”
“ไปถามลุงกำโป๊งซิ..มาถามฉันทำไม”
“ต้องถามนายนั่นแหละ...ถูกคนแล้ว”
“พอเถอะปลัด เลิกหาเรื่องฉันได้แล้ว ไม่มีประโยชน์”
เจ้าคุณพูดจบจะเดินออกไป แต่ปลัดจืดยังคงสงสัยต่อ
“หมายความว่ายังไง”
“ทุกอย่างมันใกล้จะจบแล้ว”
พูดจบเจ้าคุณเดินออกไป ปลัดจืดมองตามอย่างไม่เข้าใจว่าเจ้าคุณหมายถึงอะไรกันแน่

ค่ำคืนเดียวกันนั้น เอมี่กับแมทธิวลั้นลาอยู่ในผับ และกำลังคุยเรื่องเจ้าคุณกลับไปอยู่ม่วนแต๊อีกครั้ง
“ไม่มีทาง! มี่ไม่ยอมให้เรื่องนี้มันจบลงง่ายๆ แบบนี้เด็ดขาด แมท..ช่วยมี่ด้วยซิ จนป่านนี้คุณคะคุณขายังไม่เห็นกลับมาอย่างที่ยัยคุณหญิงแม่พูดไว้เลย”
แมทธิวเครียด เอมี่ทำทีเป็นสะอึกสะอื้น
“แมท..ทำไงดี ขืนปล่อยไว้นาน คุณคะคุณขาหลงกลิ่นสาปของอีนังบ้านนอกนั่นจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่ยอมกลับมาแต่งงานกับมี่ แล้วมี่จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ให้ที่บ้านล่ะ..ฮือๆ”
แมทธิวคิดแผนร้าย แล้วยิ้มออกมา
“ไม่เห็นจะยากเลยนี่เอมี่ ในเมื่อไอ้คุณมันไม่มา เราก็บุกไปหามันซะเลยซิ”
“ว่าไงนะ”
แมทธิวยักคิ้ว เอมี่หน้าตาเอาเรื่อง และเห็นด้วยกับแมทธิว
“จริงซินะ..มี่จะต้องไปเปิดตัวให้ทุกคนรู้ โดยเฉพาะอีนังบ้านนอกไร่ชานั่นมันต้องรู้ว่ามี่นี่แหละ คือว่าที่เจ้าสาวตัวจริงของเจ้าคุณ!”
แมทธิวยิ้มร้ายออกมาอย่างสะใจ ส่วนเอมี่มีสีหน้าหมายมาด เตรียมลุยม่วนแต๊ทวงคืนเจ้าคุณจากสมใจ

เช้าวันใหม่ ทุกคนรวมตัวกันที่ไร่ชาม่วนใจ๋
“ขอขอบใจทุกคนที่มาร่วมมือร่วมใจกันอีกครั้ง และต้องขอขอบใจมากเป็นพิเศษก็คือ...อ้ายกำโป๊ง”
สมหมายพูดกับชาวบ้าน ในขณะกำโป๊งสะดุ้งโหยง ปลัดจืดแอบสังเกตตลอดเวลา แต่เจ้าคุณเล่นละครตบตาได้อย่างแนบเนียน
“แม่ว่าแล้ว..แม่มองคนไม่ผิด อ้ายกำโป๊งเนี่ยเงาะซ่อนรูปจริงๆ เห็นอ้วนเตี้ยดำฟันเหยินอย่างนี้ แต่แอบมีเงินทองซ่อนไว้เยอะแยะ” ลำยองหันไปพูดกับลำใยลูกสาว
“ใช่จ้ะ..น่าได้มาเป็นพ่อเลี้ยงมากๆ” ลำใยหนับหนุน
“นั่นน่ะซิ!”
สองแม่ลูกชงกันไปมาอย่างมีความสุข ลำยองยิ่งรักกำโป๊งมากเข้าไปอีก สมใจรีบเรียกทุกคนลงมือกับไร่ชาทันที
“เอาล่ะจ้ะ..ถ้าพร้อมแล้ว พวกเราลงมือกันเลยดีกว่า ไร่ชาม่วนใจ๋จะได้กลับมาสวยงามอีกครั้ง”
“เย้!”
ทุกคนร้องอย่างดีใจ แล้วช่วยกันคนละไม้ละมือ สมใจยิ้มอย่างสดใสเป็นสุข ส่วนเจ้าคุณยิ้มไม่ค่อยออกแอบเศร้าข้างใน เพราะอาจใกล้ถึงเวลาต้องจากม่วนแต๊เข้าไปทุกที
ด้านหวานเจี๊ยบยังคงเคืองปลัดจืดเรื่องรองเท้า ในขณะที่คู่กรณียังจ๋อยอยู่ เสียใจไม่หายเพราะไม่ได้ตั้งใจ

เวลาเดียวกัน ที่อีกฟากหนึ่งของไร่ชา อาฟง อาเฟยกับสมุน แอบซุ่มยืนมองชาวม่วนแต๊ช่วยกันฟื้นฟูไร่ชาอย่างแข็งขัน อาฟงมีสีหน้าไม่พอใจ
“หนังเหนียวจริงๆ ไอ้พวกนี้"
อาฟงผิดหวังที่สมหมายหาเงินมาฟื้นฟูไร่ชาจนได้
“ลุยมันเลยมั้ยครับเสี่ย”
ลูกน้องอาฟงเสนอลูกพี่เอาหน้าอยากจัดการเต็มแก่ แต่อาเฟยหันไปไม่พอใจนัก
“พ่ออยากได้ไร่ชานี่จริงๆ เหรอ”
“ทำไม ลื้อถามงี้หมายความว่าไง” อาฟงถามลูกชายอย่างสงสัย
“เปล่า..ก็แค่ถามดู”
“นี่อย่าบอกนะ..ว่าลื้อ...”
อาฟงคล้ายจะรู้ทัน จนอาเฟยรีบแทรกตัดบท
“เปล่า!”
“ฮ่าๆ เดี๋ยวนี้คิดจะโกหกอั๊วเหรอ อั๊วเป็นป๊าลื้อนะเว๊ย! ทำไมอั๊วจะดูไม่ออก อาเฟย..ในเมื่ออั๊วอยากได้ไร่ชา ส่วนลื้ออยากได้ลูกสาวเจ้าของไร่ชา ถ้างั้นเราก็เอามันมาทั้ง 2 อย่างซะเลยสิ ฮ่าๆ”
อาฟงกับสมุนหัวเราะชอบใจ ส่วนอาเฟยหน้าเสีย เมื่อรู้ว่าพ่อรู้ความในใจว่าแอบชอบสมใจอยู่ไม่น้อย

ทางด้านสมใจก้มหน้าก้มตาทำงาน จังหวะหหนึ่งเจ้าคุณรีบยื่นขันใส่น้ำให้อย่างเอ็นดู
“ขอบใจ” สมใจยิ้มให้ขณะรับขันน้ำ
สองคนมองหน้ากันอย่างเข้าใจกันมากขึ้น ในขณะที่ปลัดจืดยืนมอง แล้วเหลือบตาลงมองถุงน้ำแดงในมือตัวเอง ก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่ หันกลับมาเจอแคบหมูกับไส้อั่วยืนจ้องอยู่
“น้ำแข็งละลายหมดแล้วจ้ะปลัด” แคบหมูเอ่ยขึ้น
“จริงด้วย...ไม่รีบกินเดี๋ยวจืดหมดนะจ๊ะ” ไส้อั่วเสริม
“อ่ะ...เอาไปกินที”
ปลัดจืดยกถุงน้ำแดงให้แคบหมูกับไส้อั่วแล้วเดินห่างออกไป สองแสบแย่งกันดูดดับร้อนอย่างมีความสุข

ค่ำคืนนั้น สมหมายกลับถึงบ้านก็ทิ้งตัวลงนั่งด้วยความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หลังทุ่มเทฟื้นฟูไร่ชาในวันนี้ แต่ก็แอบสุขใจ
“เฮ้อ! แก่แล้วเส้นสายมันตึงเอาเหมือนกันนะนี่” สมหมายบ่น
สมใจปรี่เข้ามาจะนวดให้พ่อทันที “มา! ฉันนวดให้”
“เออ..สบาย..ใช้ได้เหมือนกันนะเรา รู้จักบีบนวดเอาใจ นึกว่าเป็นแต่ไล่เตะไล่ต่อย”
“แหม..พ่อ”
“โอ๊ย!”
สมใจเขินจึงบีบแขนพ่อแรง ขึ้นจนสมหมายทั้งเจ็บทั้งขำ
“เออ...ว่าแต่เสร็จงานแล้วเราคงต้องจัดเลี้ยงตอบแทนชาวบ้านกันหน่อยนะพ่อปลัด”
สมศรีเอ่ยขึ้น
“ผมว่าอย่าเลยครับ เอ่อ..เก็บสตางค์ไว้ใช้ฟื้นฟูไร่ม่วนใจ๋ดีกว่า ที่สำคัญ ทุกคนเต็มใจช่วยอยู่แล้ว”
“แต่ว่า...”
“จริงด้วยแม่ ภาวะแบบนี้เราควรประหยัด ใช้จ่ายให้คุ้มค่า”
สมใจเห็นด้วยกับปลัดจืด
“ก็จริง...แต่ฉันเกรงใจชาวบ้าน”
“เอางี้ซิ..ยังไงก็เป็นประเพณีปฎิบัติของพวกเราว่าหลังจากเหนื่อยแล้วก็ต้องสนุกสนานกันหน่อย คราวนี้ถ้าเราไม่กินเลี้ยงสังสรรค์กัน แต่เราก็สนุกสนานกันได้นี่นา”
สมหมายออกหัวคิด ในขณะที่สมใจ สมศรี และปลัดจืดยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านได้สนุกจากการทำงานใหญ่ครั้งนี้

หลายวันถัดมา ที่ลานแข่งขันซิกโก๋งเก๋ง อันเป็นประเพณีสืบทอดมาหลายชั่วคนของชาวม่วนแต๊ สมหมายเดินออกมาตรงหน้าชาวบ้านทุกคน ที่แต่งตัวมาร่วมงานกันตามประเพณีม่วนแต๊
“ขอต้อนรับพ่อแม่พี่น้องสู่งานกีฬากระชับความสามัคคีชาวม่วนแต๊ ซิกโก๋งเก๋งถือกำเนิดขึ้นมานานแสนนาน สมัยก่อนถนนหนทางไม่สะดวกเป็นโคลนเป็นฝุ่น เมื่อเดินด้วยเท้าธรรมดา จะทำให้เกิดโรคเท้าขึ้น ชาวชนบทล้านนาถึงคิดหาวิธีการที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เท้าเปื้อนโคลนฝุ่นและเชื้อโรค จึงคิดทำโก๋งเก๋งออกมาเพื่อใช้เดินอย่างปลอดภัย ต่อมาชาวบ้านนำมาเล่นกันเพื่อความสนุกสนาน แต่ถึงวันนี้ลูกหลานเราเล่นซิกโก๋งเก๋งกันน้อยลงทุกที วันนี้เราจึงขอนำมาฟื้นฟูเพื่ออนุรักษ์กีฬาพื้นบ้านของเราให้อยู่ยืนยาวสืบไป บัดนี้ขอเชิญพ่อแม่พี่น้องพบกับความสนุกกันได้แล้ว”
ทุกคนปรบมือ เป่าปากวี้ดวิ่วอย่างสนุกสนาน นักกีฬ่าที่ลงแข่งเดินออกมา ตามด้วยดำเกิง เจ้าคุณและปลัดจืด ที่เหล่มองหน้ากันมาแต่ไกล ทุกคนถือไม้ไผ่ของตัวเองออกมา และสวมชุดชาวเขาเตรียมพร้อมแข่งขัน เคนกับติ๊กเชียร์ลูกพี่สุดใจขาดดิ้น ถือป้าย “ดำเกิงสู้สู้” หรา
“นักกีฬาประจำที่”
สมหมายประกาศเสียงดังลั่น นักกีฬาเข้าประจำที่
แต่ทันใดนั้นสองแม่ลูกหัวใจกิมจิ ลำใยกับลำยองซึ่งแต่งตัวเต็มยศเดินออกมา ร้องขึ้นเสียงดัง
“เดี๋ยวก่อน!”
ทุกคนหันไปมองลำใยกับลำยองด้วยความตกใจ
“พวกเราสองแม่ลูก” ลำยองพูดก่อน
“มีโชว์พิเศษมาให้ชาวม่วนแต๊ทุกคน” ลำใยเสริม
ว่าแล้วลำยองกับลำใยก็โชว์เต้นในมาดเชียร์ลีดเดอร์ อย่างสนุกสนาน
“สู้มั้ยสู้”
ลำยองถามนำร่อง โดยมีลำใยลูกสาวคอยเป็นลูกคู่
“สู้ๆ”
“สู้มั้ยสู้”
“สู้ตาย”
“สู้มั้ยสู้”
ไว้ลาย”
“สู้ตาย”
“สู้ๆ”
ลำยองกับสำใยตบมือเป็นจังหวะ ร้องกันสองคนสลับไปมาอย่างสนุกสนาน แล้วจบด้วยการโพสท่าที่คิดว่าสวย แต่พอมองรอบตัวทุกคนเงียบกริบ ไม่มีใครสนใจ สองแม่ลูกหน้าม้าน สีหน้าค่อยๆ สลดลง
สมหมายจึงเดินไปเป่านกหวีดปรี๊ดที่ข้างหูสองแม่ลูกจนสะดุ้งโหยง
“เริ่มการแข่งขัน!”

ทุกคนส่งเสียงเชียร์นักกีฬาที่ลานแข่งขันโก๋งเก๋ง ที่ผู้เข้าแข่งขัน แข่งกันเดินบนไม้ไผ่
“ขุนทอง ขุนทอง ขุนทอง..” หวานเจี๊ยบส่งเสียงเชียร์เสียงสนั่น
“ขุนทองขุนทอง” คำปุย แคบหมู และไส้อั่วก็เช่นเดียวกัน
สมใจมองเจ้าคุณแอบลุ้นอยู่คนเดียว ปลัดจืดหันไปเห็นรู้สึกใจเสียนิดๆ จึงเร่งแซงเจ้าคุณ แต่เจ้าคุณไม่ยอม รีบแซงกลับปลัดจืด ส่วนกำโป๊งยืนเยิ้มอยู่กับเครือฟ้าพูดคุยกันอย่างสนิทสนมกลมเกลียว
“เห็นแล้วนึกถึงสมัยหนุ่มๆ เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว” กำโป๊งว่า
เครือฟ้าส่งตาหวานให้กำโป๊ง
“แม่นกะเจ้า! อ้ายกำโป๊ง แชมป์ซิกโก๋งเก๋ง 3 สมัย เท่ขนาดๆ”
สองคนหันมายิ้มให้กันด้วยความอาย
การแข่งขันเป็นไปอย่างตื่นเต้น ขณะนั้นดำเกิงเร่งแซงหน้าปลัดจืดกับเจ้าคุณ สองคนหันไปมองดำเกิงแล้วก็รีบเร่งเดินอย่างเร็ว จนดำเกิงตามไม่ทัน จึงเหล่ไปข้างทางเห็นสมุนเคนกับติ๊กแอบอยู่ ดำเกิงขยิบตาส่งซิก เคนกับติ๊กหายออกไป
เจ้าคุณเดินมาตามทาง ทันใดนั้นมีท่อนไม้ไผ่ท่อนยาวๆ ยื่นมาขวางตรงหน้ากะให้เจ้าคุณสะดุด แต่เจ้าคุณกลับกระโดดข้ามไปได้ เคนกับติ๊กโผล่หน้าขึ้นมาจากหลังพุ่มไม้ หันไปมองเจ้าคุณอย่างฉงน
“มันข้ามไปได้ไงวะ”
ลูกน้องดำเกิงยังทึ่งในความเก่งกาจสามารถของเจ้าคุณ
เจ้าคุณเร่งฝีเท้าออกเดินตามมาด้วยปลัดจืด และดำเกิง ดำเกิงโมโหที่เห็นปลัดจืดกับเจ้าคุณแซงหน้า
“บ้าเอ๊ย!”
ปลัดจืดเดินไม่ค่อยถนัด เห็นดำเกิงตามมาทัน ดำเกิงขี้โกงยกไม้ไผ่เขี่ยไม้ไผ่ของปลัดจืด ทำให้ปลัดจืดเสียหลักล้มลงไปบนพื้น ดำเกิงหันมายิ้มพร้อมยักคิ้วแล้วรีบเดินไป ปลัดจืดจะลุกแต่ลุกไม่ขึ้น เพราะเจ็บขา มองไปเห็นเลือดไหล
เจ้าคุณได้ยินเสียงจึงหันไป เห็นเหตุการณ์เริ่มไม่พอใจ ดำเกิงยิ้มร้ายอย่างสะใจแล้วรีบเดินลอยหน้าไป
“ขี้โกงนี่หว่า”
“ในการแข่งขันไม่มีคำว่า เพื่อน เว้ย...ไอ้ขุนทอง!”
ดำเกิงรีบเดินไป เจ้าคุณหันไปมองเห็นปลัดจืดเจ็บก็ทนไม่ได้ จึงเข้าไปช่วยยื่นมือส่งให้ ปลัดจืดชะงัก เงยหน้าเห็นเจ้าคุณ ปลัดจืดลังเล ก่อนจะยื่นมือให้ เจ้าคุณรีบดึงปลัดจืดขึ้นมา
“ไป...ลุยต่อ”
“ปล่อยฉันไว้นี่แหละ รีบไปเหอะ ไม่งั้นแพ้แน่”
“ฉันไม่ได้ลงแข่งเพราะอยากชนะ”
เจ้าคุณพูดหน้านิ่ง ปลัดจืดกัดฟันจะเดินต่อ เจ้าคุณพยุงปลัดจืดให้เดินไปด้วยกัน ปลัดจืดอึ้งกับความมีน้ำใจของเจ้าคุณ

เวลาผ่านไป...ดำเกิงเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ทุกคนอึ้งตะลึงไม่อยากเชื่อสายตา เคนกับติ๊กแหกปากดีใจกันอยู่แค่สองคน นักกีฬาอีกสามคน ตามเข้าเส้นชัยมา
“ทำไมอ้ายขุนทองยังไม่กลับมา” หวานเจี๊ยบถามขึ้น
“ปลัดจืดด้วย” คำปุยเอ่ยทัก
สมใจชักกังวลใจ ทันใดนั้นก็หันไปเห็นเจ้าคุณประคองปลัดจืดมาไกลๆ แคบหมูกับไส้อั่วเห็นรีบตะโกนขึ้นพร้อมกัน
“ปลัดจืด!” / “อ้ายขุนทอง!”
ทุกคนหันมองตาม เห็นเป็นเจ้าคุณประคองปลัดจืดที่เลือดอาบขากลับมา ทุกคนตกใจมาก คำปุย หวานเจี๊ยบ แคบหมู ไส้อั่ว ลำยอง และลำใย กรูเข้าไปหาอย่างเป็นห่วง
“ตาหมาย...” สมศรีเรียกสามีให้ดูปลัดจืด
“อืมม์..เห็นแล้ว”
สมศรีเหลือบมองผัวแล้วอมยิ้ม เมื่อเห็นสมหมายมองเจ้าคุณอย่างทึ่งในความมีน้ำใจ
ส่วนสมใจได้แต่ยืนมองเจ้าคุณอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ และซึ้งในน้ำใจเป็นที่สุด

ไม่นานหลังจากนั้น ปลัดจืดทำแผลอยู่ที่อนามัย ทุกคนยืนรอด้วยความเป็นห่วง
“เป็นไงปลัด” สมใจรีบถามอาการ
“สบายมาก” ปลัดจืดยิ้ม
“โธ่! พี่ใจ๋ สมัยนี้คนดีตายง่าย คนชั่วตายยาก ก็รู้อยู่”
หวานเจี๊ยบนั่นเองประชดใส่ปลัดจืด จนอีกฝ่ายหันไปมองหวานเจี๊ยบที่ทำลอยหน้าลอยตา
“ไม่เป็นอะไรกันก็ดีแล้ว” สมหมายเอ่ยขึ้น
ปลัดจืดยื่นมือไปจับเพื่อแสดงความขอบคุณเจ้าคุณ “ขอบใจ”
ทุกคนมองปลัดจืดกับเจ้าคุณจับมือกัน สองหนุ่มยิ้มให้กัน

สมใจยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดีและมีความสุข ที่เห็นสองคนเริ่มเป็นมิตรต่อกันมากขึ้น










Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 9:38:44 น.
Counter : 256 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 8 (ต่อ)




บ่ายวันต่อมาชาวบ้านและครอบครัวสมใจอยู่กันพร้อมหน้าที่ไร่ชาม่วนใจ๋ หารือเรื่องวิธีกำจัดแมลงที่กัดกินใบชาจนหงิกงอไปทั้งไร่

“ฉันต้องขอโทษทุกคนด้วยที่น้ำยาชีวภาพสูตรใหม่ไม่ได้ผล”
ปลัดจืดเอ่ยขึ้นด้วยแววตาเศร้า
“นั่นไง! ฉันพูดไม่มีผิด กระจอก! ไม่มีน้ำยา!” หวานเจี๊ยบรีบใส่ทันที
“หวานเจี๊ยบ!” สมศรีรีบดุหวานเจี๊ยบ ไม่ให้ซ้ำเติมปลัดจืด
สมหมายเดินมาตบไหล่ปลัดจืดอย่างให้กำลังใจ
“เอาน่า..ปลัด! ของใหม่มันก็งี้แหละ ปรับปรุงอีกซักหน่อยมันก็คงจะใช้ได้”
“บรรลัยหมดซิไม่ว่า” หวานเจี๊ยบยังไม่ยอมหยุด
“เอ๊ะ! นังหวานเจี๊ยบนี่”
สมศรีมองหน้าหวานเจี๊ยบปรามให้หยุด จนอีกฝ่ายหน้าเสียไป สมใจถอนหายใจหมดแรง
“แล้วเราจะทำยังไงต่อไปล่ะพ่อ”
สมหมายอึ้ง ในขณะที่ชาวบ้านทุกคนรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

เวลาถัดมา สมหมายตัดสินใจเกี่ยวกับการฟื้นฟูไร่ชาได้แล้ว จึงบอกปลัดจืดให้ช่วยจัดการต่อ
“เอาจริงเหรอครับลุงหมาย”
ปลัดจืดถามเพื่อความมั่นใจ
สมหมายมีสีหน้ากังวลแต่จำต้องยอมรับวิธีนี้
“ก็คงจะต้องอย่างนั้นล่ะปลัด ไม่เป็นไร เพื่อกอบกู้ไร่ชาม่วนใจ๋ กัดฟันส่งดอกส่งต้นธนาคาร อีกไม่นาน เราก็คงได้ไร่ชาม่วนใจ๋ของเรากลับมา”
ปลัดจืดฟังแล้วรู้สึกเศร้า
“ว่าแต่...ปลัดจืดต้องรับปากฉันนะ ว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร โดยเฉพาะแม่ศรีกับ ไอ้ใจ๋!”
ปลัดจืดอึ้งไป ในขณะที่สมหมายมีสีหน้าไม่สบายใจไปกว่าปลัดจืดเท่าใดนัก

ต่อจากนั้นไม่นาน สมใจ คำปุย แคบหมู และไส่อั้ว เดินเล่นมาพร้อมกัน แต่ต้องมาชะงักเมื่อมีสมุน
ของอาเฟยขวางทางอยู่
“พวกแก!”
สมใจจำได้ถนัดตาเพราะเคยโดนพวกนี้เล่นงานมาแล้วรอบหนึ่ง สมุนสามคน เปิดทางให้อาเฟยซึ่งยืนอยู่นานแล้ว ทันทีที่สมใจเห็นก็โวยวายใส่ทันที
“จะอะไรอีก ต้องการอะไร”
อาเฟยยิ้มแล้วตอบชัดเจน
“ต้องการไร่ม่วนใจ๋”
“ไอ้บ้า!”
ทั้งสมใจ คำปุย แคบหมูและไส้อั่ว ตอบพร้อมกันแล้วทำท่าลุย แต่สมุนของอาเฟยควักปืนและมีดขู่ไว้
“หยุด! แค่ผู้หญิงกับเด็กนะเว๊ย!”
อาเฟยสั่งลูกน้องอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามรุนแรง
“เด็กแล้วไง”
“ใช่! เด็กแล้วไง”
แคบหมูกับไส้อั่วรีบท้าทาย จนหนึ่ในสมุนอาเฟยจะเข้ามาตบไส้อั่ว
“เฮ๊ย! อย่าทำเด็ก!”
อาเฟยร้องทัก จนสมใจหมั่นไส้
“มาเฟีย มีคุณธรรมด้วยเรอะ”
อาเฟยมองสมใจแล้วยิ้ม
“อยากขายไร่ม่วนใจ๋เมื่อไหร่ บอกฉันได้เสมอนะ..สมใจ ไป!”
อาเฟยสั่งลูกน้องให้กลับ
“ครับ! เถ้าแก่น้อย”
อาเฟยและสมุนเดินออกไป
“ใจ๋! ฉันว่าไอ้เถ้าแก่น้อยนั่นมันมองแกแปลกๆ นะ”
คำปุยรีบท้วง
“จะบ้าเหรอนังปุ๋ย ไอ้มาเฟีย ฝันไปเถอะ!”
“นี่ถ้าอ้ายขุนทองอยู่นะ ป่านนี้ชกหน้ามันหักไปแล้ว”
แคบหมูยังคิดถึงเข้าคุณ สมใจชะงักอึ้งหน้าสลดไป
“จริงด้วย...หายไปตั้งหลายวันแล้ว ป่านนี้ไปติงต๊องอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้”
ไส้อั่วติดตลกแต่เวลานี้สมใจแอบคิดถึงเจ้าคุณขึ้นมาจับใจ

คืนนั้นในผับแห่งหนึ่ง แสงเสียงวูบวาบดูคึกคัก แต่กลับเจ้าคุณนั่งอยู่กับไมเคิลแค่สองคน เจ้าคุณเริ่มมึนได้ที่ ในขณะที่ไมเคิลแอบกระสับกระส่าย
“เอ่อ..คุณหนูครับ...คุณหนู”
เจ้าคุณตวัดสายตามามองไมเคิลทันที
“อะไร”
“ป่านนี้คุณผู้หญิงเป็นห่วงคุณหนูแย่แล้วนะครับ”
ไมเคิลทั้งที่แอบกลัวเจ้าคุณโกรธเช่นกัน
“ไอ้ไมค์! เดี๋ยวเตะ!”
ไมเคิลสะดุ้งสุดตัว
“เย้ย!”
“หุบปาก! พูดมากนัก ไปเลย ไปเต้น”
“หา!”
“ไปเซ่! เต้น!”
ไมเคิลกล้าๆกลัวๆ
“เอาจริงเหรอครับคุณหนู”
“เดี๋ยวเตะ!”
ไมเคิลรีบลุกขึ้นแล้วค่อยๆเต้น เหลียวซ้ายแลขวาด้วยความอาย
“เต้นอีก เต้นอีก สนุก เข้าใจมั้ย สนุก”
ไมเคิลรีบเต้นเอาใจเจ้านาย
“เต้นไป! อย่าหยุด!”
เจ้าคุณสั่ง ไมเคิล สักครู่แมทธิวมุ่งตรงเข้ามาหาเจ้าคุณทันที
“ท่าทางจะสนุกกันน่าดูเลยนะ..ไอ้คุณ”
เจ้าคุณหันไปเห็นแมทธิวยืนอยู่กับเจอาร์ เจอาร์รีบปรี่เข้ามาหาเจ้าคุณ
“ไอ้คุณ! อาร์ยูเครซี่ นี่แกเพี้ยนไปรึเปล่าวะมายเฟรนด์ จู่ๆ ก็เล่นสั่งปิดผับให้ไมเคิลมัน แดนซ์ซิ่งอยู่คนเดียวเนี่ยนะ บ้ารึเปล่า โซเครซี่”
“เรื่องของฉัน แล้วพวกแกเข้ามาได้ไง ฉันจ่ายเงินปิดผับไปแล้วนะเว๊ย!”
เจ้าคุณตอบแบบไม่สนใจใครหน้าไหน แมทธิวแอบหมั่นไส้ในความรวยของเจ้าคุณจึงรีบสวนขึ้น
“รู้...ว่าแกรวยมากไอ้คุณ แต่น่าสงสาร รวยแทบตายกลับไม่มีความสุข”
เจ้าคุณไม่พอใจผลักแมทธิวอย่างแรง
“แกพูดอะไร”
“พูดอะไร ฉันไม่ได้พูดอะไร ก็แค่อยากแสดงความยินดีกับเพื่อนรักที่กำลังจะต้องแต่งงานกับเอมี่”
“แกรู้ได้ยังไง”
เจ้าคุณสงสัย แต่แมทธิวรีบกลบเกลื่อน
“รู้ได้ยังไงไม่สำคัญ สำคัญที่ว่ามันคงทำให้แกมีความสุขมาก”
เจ้าคุณสุดโกรธต่อยแมทธิวล้มหงาย เจอาร์กับไมเคิลที่เต้นอยู่ รีบปรี่เข้ามาช่วยดึงเจ้าคุณไว้ แมทธิวรีบโวยวาย
“อะไรวะ ฉันพูดกับแกดีๆ ทำไมต้องมาต่อยกันด้วย”
“แก...พวกแก! ทำลายความสุขของฉัน ทำลายความสุขของฉัน”
เจ้าคุณล้มทรุดไปดว้ยความเมา โดยมีไมเคิลประคองไว้
“ใจเย็นครับ...คุณหนูเมาแล้วนะครับ”
“ไม่เมา..ไม่มาววว”
เจอาร์มองเจ้าคุณด้วยความสงสาร
“อาการหนักขนาดนี้เลยเหรอวะมายเฟรนด์”
แมทธิวแอบย้มร้ายสะใจในความทุกข์ของเจ้าคุณ

เวลาถัดมา เจอาร์กับไมเคิลประคองเจ้าคุณลงนอนเบาะหลัง แมทธิวยืนมองอย่างสะใจ
“ดูคุณหนูแกหน่อยนะเว๊ย...ไมเคิล”
เจอาร์สั่งไมเคิล
“คับพ้ม! เยสเซ่อ!”
“เออ..ดีมาก..ไปๆรีบไป เดี๋ยวคุณหญิงแม่เอาตาย”
ไมเคิลรับปาก
“เยสเซ่อ”
ไมเคิลขับรถออกไป เจอาร์มองตามด้วยความสงสารเจ้าคุณ
“เฮ้อ! น่าสงสารไอ้คุณมันเหมือนกันนะ เฮ้ย! ว่าแต่ตะกี้แกบอกว่าไอ้คุณมันจะแต่งงานกับเอมี่จริงเหรอวะ”
เจอาร์สงสัย แมทธิวยิ้ม ยักคิ้วตอบแทน
“โอ มาย ก็อด”
เจอาร์ตกใจเมื่อรู้ว่าเจ้าคุณต้องแต่งงานกับเอมี่ในเวลาอันใกล้นี้

คืนนั้น ในรถเจ้าคุณที่อยู่ในสภาพเมาเต็มที่ ไมเคิลรับหน้าที่คนขับรถที่ขับไปบ่นไปตลอดทาง
“เวรกรรมของไอ้ไมค์ จะโดนไล่ออกมั้ยวะเนี่ยตู เฮ้อ! คุณหนูนะคุณหนู...หาเรื่องให้ไอ้ไมค์แท้ๆ”
เจ้าคุณเริ่มโผล่ขึ้นด้านหลัง หน้าตายังมึนได้ที่
“ ไมค์...”
“นั่น! เรียกทั้งวัน หาเรื่องให้ทั้งวัน”
“ไอ้ไมค์!”
เจ้าคุณเรียกเสียงดังขึ้น จนไมเคิลตกใจ
“เย้ย! คุณหนู!! ตกใจหมดเลย โธ่! นึกว่าหลับมีอะไรครับ”
เจ้าคุณนิ่งไปสักครู่ ก่อนตัดสินใจถามไมเคิล
“แกรักฉันมั้ย”
“เฮ่ย! คุณหนู ผมไม่ใช่ ผมไม่ได้เป็นไ
ไมเคิลคิดว่าเจ้าคุณบอกรักตนแบบชายรักชาย
“แกอยากเห็นฉันมีความสุขมั้ย”
เจ้าคุณเมา เพ้อต่อ
“แน้ คุณหนู ผมชอบผู้หญิง!”
ไมเคิลยังเล่นต่อ แต่เจ้าคุณโพล่งขึ้น
“พาฉันไปม่วนแต๊!”
“ห๊า!”
ไมเคิลตกใจ เบรกรถจนเจ้าคุณหิ่วทิ่ม
“ไอ้ไมค์!”
ไมเคิลตาเหลือก
“คุณหนู! เมาใช่มั้ยครับ ที่พูดตะกี๊เมาใช่มั้ย”
เจ้าคุณพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาเศร้า
“พาฉันไปม่วนแต๊ เป็นครั้งสุดท้าย”
ไมเคิลอึ้ง ในขณะที่เจ้าคุณยังคงแววตาเศร้าและอยากกลับไปม่วนแต๊อีกครั้งก่อนที่จะทำตามใจแม่บังเกิดเกล้าโดยการแต่งงานกับเอมี่

กลางดึกคืนเดียวกันวิบูลย์ เข้าของทีวีเคเบิลโวยวายอยู่ที่บริษัทของก้องเกียรติและกิ่งแก้ว
“พัง พังป่นปี้ สถานีของอั๊วจะโดนแฟนๆ ถล่มเละอยู่แล้ว”
วิบูลย์ด่ากราด ก้องเกียรติ กิ่งแก้วและพนักงานหน้าสลดไปตามๆกัน
“บริษัทเราก็เละเหมือนกันล่ะค่ะเสี่ย”
กิ่งแก้วเริ่มเถียงขึ้นบ้าง
“ยังจะมาพูด! เพราะพวกลื้อเลยอาคุณก้อง อาคุณกิ๋ง ทำอั๊วบรรลัยหมด จู่ๆ รายการไฮโซบ้านเฮาก็หายวูบไปจากจอ แล้วนี่จู่ๆ พวกลื้อก็บอกอั๊วว่าจะเลิกทำรายการ เลิกกันง่ายๆ ยังงี้เลยเหรอ”
“เราต้องขอโทษเสี่ยจริงๆ ครับ”
ก้องเกียรติเอ่ยขอโทษด้วยใจจริง
“ขอโทษ เลิกง่ายๆ แล้วยังพูดง่ายๆ เขาเป๋!”
“ก็ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้แล้วเสี่ยจะให้พวกเราทำยังไงล่ะคะ”
กิ่งแก้วชักเริ่มโมโห
ไทำยังไง อั๊วจะไปรู้เรอะ พวกลื้อตะหากที่ต้องบอกอั๊วว่าต้องทำยังไง”
“เอ๊ะ! เสี่ย...”
กิ่งแก้วฟิวส์ขาดจนก้องเกียรติต้องเข้ามาดึงไว้
“เสี่ยครับ...เรียนตรงๆ ว่าพวกผมก็ยังไม่รู้เลยครับว่าจะทำยังไงต่อไปดี”
“แต่อั๊วรู้ อั๊วจะบอกให้! พวกลื้อไปเตรียมหาทนายที่เก่งที่สุดเท่าที่พวกลื้อจะหาได้เอาไว้เลย อั๊วจะฟ้องพวกลื้อ”
“ฟ้อง!”
ก้องเกียรติ กิ่งแกล้ว และพนักงานตกใจ ไม่คิดว่าวิบูลย์จะมาเอาเรื่อง
“เออ! ฟ้อง แล้วเจอกันในศาล”
วิบูลย์พูดจบเดินออกไปทันที ทิ้งให้ก้องเกียรติและกิ่งแก้ว ยืนหน้าเสียทำอะไรไม่ถูก พนักงานต่างพากันวิจารณ์ แล้วเจอาร์เดินเข้ามาพอดิบพอดี
“แหม..คุยอะไรกันอยู่ดูแฮปปี้มีความสุข”
“สุขบ้านแกซิไอ้เจอาร์”
ก้องเกียรติด่าเจอาร์เต็มปาก
“อ้าว! วันนี้มันวันอะไรวะ เพื่อนฝูงมายเฟรนด์ ดูจะเครียดกันไปหมด เมื่อกี๊ก็ไอ้เจ้าคุณ ตอนนี้ก็พวกแก
“ไอ้คุณเหรอ”
ก้องเกียรติรีบถามกลับทันที
“เจ้าคุณทำไมอ่ะเจอาร์”
“อ๋อ..ไอ้คุณมันก็...”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว แอบถามสารทุกข์สุกดิบของเจ้าคุณจากเจอาร์

เช้ามืดของวันถัดมา เจ้าคุณนั่งซุ่มมองหลังคาบ้านสมใจอยู่ในรถที่เบาะหลัง โดยมีไมเคิลนั่งหน้าตากังวลอยู่ที่นั่งคนขับ รถของเจ้าคุณจอดซุ่มอยู่หลังพุ่มไม้
“คุณหนู...ถ้าคุณผู้หญิงรู้...”
ไมเคิลกลัวรจนาวรรณรู้เรื่องแล้วอาจถูกเล่นงานที่พาเจ้าคุณมาที่ม่วนแต๊อีกครั้ง
“เงียบ!”
เจ้าคุณนั่งมองหลังคาบ้านสมใจด้วยความคิดถึงจับใจ ไมเคิลเหลือบมองเจ้านายด้วยความรู้สึกเห็นใจ แต่ก็ตัดสินใจพูด
“คุณหนูครับ...อย่าเพิ่งเตะผมนะครับ”
เจ้าคุณมอง
“เอ่อ...คือ..ผมว่าถึงจะมานั่งมองหลังคาบ้านอย่างนี้ มันก็คงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอกครับ”
เจ้าคุณอึ้ง ก่อนจะหันไปมองที่บ้านสมใจดว้ยแววตาครุ่นคิด
เวลานั้นสมใจเดินอย่างหมดอาลัยตายอยากลงจากบ้านมา เจ้าคุณรีบหลบแล้วผลักหัวไมเคิลให้หลบด้วย
“หลบ! ไอ้ไมค์!”
“ไม่เห็นหรอกครับ อยู่ในพุ่มไม้ซะขนาดนี้”
เจ้าคุณค่อยๆ โผล่หน้าขึ้นมองสมใจ สมใจยืนเหงาเดียวดาย ก่อนจะตัดสินใจคว้าจักรยานขี่ออกไป
เจ้าคุณชะเง้อตามอย่างเป็นห่วง
“ใจ๋จะไปไหนน่ะ”
“คุณหนูครับ...ผมว่า..เรากลับกันเถอะครับ”
ไมเคิลพูดกับเจ้านายอย่างห่วงใย ในขณะที่เจ้าคุณชะเง้อมองสมใจด้วยความห่วงใย
“ใจ๋...”
“คุณหนู...”
เจ้าคุณกลุ้มใจ สุดท้ายตัดสินใจ
“ไมค์...”
“ครับ”
“กลับ!”
ไมเคิลยิ้มเมื่อได้ยินเจ้าคุณบอกให้กลับ
“ครับพ้ม!”
“แกกลับ! ฉันยังไม่กลับ!”
“ครับพ้ม! ห๊า! ว่าไงนะครับคุณหนู”
ไมเคิลช็อกเมื่อรู้ว่าต้องกลับไปกรุงเทพฯเพียงลำพัง
เวลาต่อจากนั้น สมใจปั่นจักรยานไปตามทาง ตามหาเจ้าคุณ จอดแวะถามแม่อุ๊ยตามทาง ถามจนอ่อนใจก้ยังไม่เจอเจ้าคุณ สมใจจูงจักรยานไปที่ที่เคยนั่งคุยกัน กินข้าวหนียวร่วมสาบานกันอย่างมีความสุข สมใจหน้าเศร้า จะขยับตัวออกแต่บังเอิญทำจักรยานล้มลง ก้มจะดึงจักรยานขึ้น ก็มีใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาช่วย สมใจชะงักกึก เงยหน้าขึ้นอย่างดีใจเพราะนึกว่าขุนทอง
“ขุนทอง...”
ปลัดจืดหน้าจ๋อย แต่ก็ยังฝืนยิ้ม
“ไม่ใช่...ฉันเอง”
“ปลัด..”
ปลัดจืดแกล้งกลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่องไป
“ออกมาได้ยังไงคนเดียวตั้งแต่เช้ามืด”
“ฉัน...”
“ลุงหมาย ป้าศรี คำปุย แคบหมู ตามหาใจ๋กันใหญ่”
สมใจก้มหน้า ยอมรับผิดคล้ายเด็กถูกตำหนิ ปลัดจืดมองอย่างเข้าใจและช้ำใจไปพร้อมๆกัน
“เรื่องขุนทองน่ะ..ไว้เป็นหน้าที่ฉันเอง”
สมใจเงยหน้าขึ้นอย่างดีใจ ในขณะที่ปลัดจืดหน้าจ๋อยเข้าไปอีก
“ต่อไปใจ๋อย่าทำอย่างนี้อีก มันอันตรายคนเขาเป็นห่วงรู้มั่งมั้ย”
“ปลัด..”
“ไป..กลับบ้าน...ฉันไปส่ง”
ปลัดจืดคว้าจักรยาน เตรียมไปส่งสมใจ แต่สมใจกลับดึงรั้งไว้
“ไม่เป็นไรหรอก ปลัดต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอ”
“ก็จะไปตามเรื่องขุนทองให้ไง”
“โอ๊ย...งั้นรีบไปเถอะ ฉันกลับเองได้ไม่ต้องไปส่งหรอก”
“โอเค ระวังตัวด้วยนะ”
“ไปเหอะ รีบไปเหอะ ไม่ต้องห่วงฉัน บ๊ายบาย”
สมใจรีบโบกมือส่งท้ายปลัดจืด อยากให้รีบตามหาตัวเจ้าคุณ ปลัดจืดยิ่งจำใจโบกมือตอบแล้วก็เดินออกไป สมใจยกมือหลับตาตั้งจิตอธิษฐาน
“เจ้าประคู้น...ขอให้ปลัดตามขุนทองกลับมาให้ได้ด้วยเถิ้ด”
สมใจลืมตาแวววาวมีความหวัง คว้าจักรยานหันหลังกลับแล้วแทบช็อกเมื่อเห้นเจ้าคุณในคราวเจ้าขุนทองยืนอยู่ สมใจดีใจจนพูดไม่ออก
“ขุน...ทอง...”
เจ้าคุณยิ้มให้สมใจอย่างดีใจไม่ต่างกัน
“ขุนทอง!”
สมใจกับเจ้าคุณโผวิ่งเข้ากอดกัน ซักพักสมใจรู้สึกตัว สะดุ้งออกห่างเจ้าคุณแล้วกลบเกลื่อนฟอร์มรีบคลายกอดนั้นออก
“อีตาบ้า! หายไปไหนมา”
“เอ่อ...”
เจ้าคุณอึกอัก สมใจไม่รอช้าทุบเข้าที่ลำตัวเจ้าคุณด้วยความห่วงใยและคิดถึงแต่ยังฟอร์มจัดเช่นเคย
“คิดว่าตัวเองเป็นนินจารึไงห๊า นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป”
เจ้าคุณไม่หลบยอมให้สมใจทุบตีอยู่อย่างนั้น
“ นิสัยไม่ดี! ไม่นึกถึงใจคนอื่นมั่งเลย คนเขาเป็นห่วงรู้มั่งมั้ย”
สมใจพูดจบก็ชะงักเอง รู้ว่าหลุดปาก เจ้าคุณรู้ใจสมใจมากขึ้น
“ต่อไปนี้อย่าทำอย่างนี้อีก เข้าใจมั้ย!”
สมใจรีบจูงจักรยานออกไป เจ้าคุณมองตามด้วยความเศร้า ก่อนจะนึกอะไรได้
“ใจ๋ เดี๋ยวก่อน! รอด้วย”
อีกมุมหนึ่งปลัดจืดมองทั้งสองคนอยู่ด้วยแววตาละห้อย ยืนพิงต้นไม้อย่างหมดแรง

บ่ายวันนั้น เจ้าคุณพาสมใจมาที่น้ำตกอุ๊ยนางรอ
“นายพาฉันมาที่นี่ทำไม..ขุนทอง”
เจ้าคุณนิ่งไป นึกถึงคำพูดที่สมใจเคยพูดไว้เกี่ยวกับน้ำตกศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
“พวกเราเชื่อกันว่าถ้าหนุ่ม-สาวที่รักกันพากันไปอธิษฐานและดื่มน้ำร่วมสาบานกันที่น้ำตก ความรักจะสมหวังและรักกันตลอดไป เหมือนกับว่าแม่อุ๊ยนางรอจะเอาใจช่วยอยากให้ทุกคู่รักสมหวัง ไม่ต้องผิดหวังเหมือนแม่อุ๊ยนางรอ”
“ว่าไง นึกยังไงถึงพาฉันมาที่นี่?
เจ้าคุณไม่ตอบแต่เหลียวมองหาใบไม้ที่พื้น หยิบใบใหญ่ แล้วหยิบมาแล้วเดินไปริมน้ำ สมใจมองด้วยความสงสัย เจ้าคุณใช้ใบไม้ตักน้ำแล้วแอบหลับตาอธิษฐาน สมใจชะเง้อมอง แล้วเดินเข้าไปนั่งลงใกล้ๆ แล้วเรียกเจ้าคุณ
“ขุนทอง”
เจ้าคุณอธิษฐานเสร็จแล้วลืมตาขึ้น ยื่นน้ำนั้นให้สมใจทันที
“กินหน่อยซิ”
“กิน”
“อืมม์..กินหน่อย นะ”
เจ้าคุณป้อนน้ำนั้นกับสมใจที่แม้จะเต็มไปด้วยความงง แต่ก็ตัดสินใจดื่ม เจ้าคุณยิ้มแววตาดีใจ แล้วดืมน้ำนั้นบ้าง
“อะไรของนายเนี่ย ลากฉันมากินน้ำที่น้ำตกเนี่ยนะ”
“อืมม์..ดื่มน้ำร่วมสาบานไง”
“ดื่มน้ำร่วมสาบาน”
เจ้าคุณมองสมใจด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก อาวรณ์ และรู้ดีว่าต้องจากสมใจไปในเวลาอีกไม่ช้านี้ สมใจมองเจ้าคุณด้วยสายตาใสซื่อ โดยไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอและเจ้าคุณ เจ้าคุณดึงสมใจมากอดไว้แน่นท่ามกลางน้ำตกแม่อุ๊ยนางรอที่เป็นความเชื่อของคนม่วนแต๊ว่าคนรักกันจะได้กลับมาเจอกันอีกหากมีคำมั่นสัญญาต่อกันไว้ ต่อจากนั้นสมใจกับเจ้าคุณขี่จักรยาน วิ่งลไจับกันราวกับคนรักอย่างมีความสุข

เวลาเดียวกันที่โรงพยาบาล เอมี่กำลังโวยวายใส่รจนาวรรณเรื่องที่เจ้าคุณหายตัวไป
“เจ้าคุณหายตัวไป มันไม่จริงใช่มั้ยคะ...คุณหญิงแม่ขา”
รจนาวรรณอาการหนัก เมื่อรู้ว่าลูกชายหายไป ดมยาดมโดยมีไมเคิลยืนตัวสั่นงันงกอยู่ด้วย
“ว่ายังไง....ไอ้ไมค์”
“วะ...วะ...ว่า...ว่า..โฮ คุณผู้หญิง คร้าบ ไว้ชีวิตไมค์ด้วยเถอะคร้าบผม”
ไมเคิลยกมือไหว้ท่วมหัว แต่เอมี่ปรี่เข้าไปหาไมเคิลทันที
“พูดอย่างนี้แสดงว่าแกต้องรู้แน่ๆ ว่าคุณคะคุณขาหายตัวไปไหน”
“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ไอ้ไมค์...ลูกคุณหายไปไหน”
รจนาวรรณขู่ไมเคิลหนักข้อขึ้น
“ธะ...ธะ...ธะ....โธ่! โธ่ คุณผู้หญิงค้าบ”
รจนาวรรณกับเอมี่ตั้งใจไมค์ด้วยแววตาลุกวาว

เย็นนั้น ไมเคิลมาหาก้องเกียรติกับกิ่งแก้วที่บริษัท
“ดีแล้วล่ะไมค์ที่แกไม่บอกคุณหญิงแม่”
“ดีมากเลยล่ะครับ โดนคุณผู้หญิงไล่ตะเพิดไม่มีที่จะซุกหัวนอนแล้วไอ้ไมค์”
“ใจเย็นน่า...คุณหญิงแม่ก็งี้แหละ โกรธง่ายหายเร็ว เอาเป็นว่า ตอนนี้ไมค์มานอนที่ออฟฟิศนี่ก่อนก็ได้ ไว้คุณหญิงแม่หายโกรธแล้วค่อยกลับ”
กิ่งแก้วพูดด้วยความสงสารไมเคิล อีกฝ่ายรีบยกมือไหว้ทันที
“ขอบคุณครับคุณกิ๋ง แต่ผมสังหรณ์ว่างวดนี้คุณผู้หญิงไม่น่าจะโกรธง่ายหายเร็วอย่างเคยแล้วล่ะครับ”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว มองหน้ากันด้วยความหวั่นใจ
“เออ..ว่าแต่ เจ้าคุณบอกไมค์รึเปล่าว่าทำไมถึงกลับไปที่ม่วนแต๊ แล้วก็จะไปอยู่นานแค่ไหน”
กิ่งแก้วถามไมเคิล อย่างรอฟังคำตอบ

เย็นวันเดียวกัน เจ้าคุณกำลังสนทนากับกำโป๊งอย่างออกรสชาติ
“เวร! เวรกรรมของไอ้กำโป๊งแต๊ๆ ใจคอเอ็งจะไปแล้วไปลับ ไปผุดไปเกิด ไม่ต้องกลับมาอีกไม่ได้เรอะไอ้ไฮโซ!”
“โธ่! ลุง..ฉันขอร้องล่ะนะ”
เจ้าคุณอ้อนวอนกำโป๊ง
“เชอะ! เดี๋ยวนี้ขอร้องเป็นแล้วเรอะ ตะก่อนเห็นเอ็งเอาแต่ชี้นิ้วสั่งอย่างโง้นอย่างงี้”
“เป็นซิลุง จะให้ฉันทำยิ่งกว่าขอร้องก็ได้”

เจ้าคุณคุกเข่าลงตรงหน้ากำโป๊ง ก้มหัวให้อย่างศิโรราบ
“เฮ่ยๆ พอๆ เยอะแล้ว”
เจ้าคุณไม่ยอมลุกขึ้น
“ขอเพียงแค่ให้ฉันได้อยู่ที่นี่ต่ออีกซักนิด”
“ห๊า! เอ็งเนี่ยนะ...ไอ้ไฮโซ..จะขออยู่ที่นี่ต่อ ไม่มีวัน ฝันไปเถอะไอ้ไฮโซ”
“โธ่...ลุง! ขอร้องเถอะ ครั้งนี้ฉันคงไม่รบกวนลุงมาก ขอให้ฉันได้อยู่อีกแค่วัน สองวันเท่านั้น”
“วัน..สองวัน เอ็งจะอยู่หาพระแสงง้าวอะไรมิทราบวะ”
เจ้าคุณอึ้งก่อนตัดสินใจพูด
“ฉันอยากอยู่...เพื่อ...จะได้สารภาพความจริงแล้วก็บอกลาสม...”
เจ้าคุณยังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเซ็งแซ่มาแต่ไกล
“อ้ายขุนทอง!”
เจ้าคุณกับกำโป๊งชะงักหันไปดู คำปุย หวานเจี๊ยบ แคบหมู ลำใย และไส้อั่ว วิ่งกรูมาเป็นพรวน พุ่งเข้ากอดรัด เจ้าคุณพัลวันด้วยความคิดถึง ยิ่งหวานเจี๊ยบ คำปุย และลำใยไม่มีใครยอมใคร
“อ้ายขุนทองหายไปไหนมา คิดถึงใจจะขาด เป็นห่วงจะแย่”
“หยุ๊ด! เป็นแม่หญิงม่วนแต๊ ไหงไม่รู้จักรักนวลสงวนตัวกันซะบ้างเลย ยิ่งนังหวานเจี๊ยบน่ะ..ดูอย่าง น้าเครือฟ้าของแกมั่งซิเว้ย กุลสตรีที่สุด!”
“แหม..ลุง! ขืนมัวแต่กุลสตรีอย่างน้าเครือ มีหวังผีกระสือผีปอบแถวนี้มันคงจะกินไส้อ้ายขุนทองไปซะก่อนน่ะซิ”
หวานเจี๊ยบหันไปพูดใส่หน้าลำใย จนอีกฝ่ายรีบสวน
“ด่าใครผีกระสือผีปอบ นังลิงเจี๊ยก”
“ไม่ได้ด่าฉันแน่ๆ เพราะชั้นสวยขนาดนี้จะเป็นผีได้ยังไง”
“ฉันก็สวยด้วย งั้นก็เหลือเจ๊ใยคนเดียวแล้วแหละ”
แคบหมูยกตำแหน่งผีให้ลำใยโดยปริยาย
“ขอบใจนังแค๊บ กรี๊ด! อร้าย! นังลิงเจี๊ยก! แกด่าฉัน”
ลำใยปรี่เข้าไปจะตบหวานเจี๊ยบ กำโปีงเริ่มรำคาญแต่ทันใดนั้นสมหมาย สมศรี สมใจ และปลัดจืดเข้ามาทันเหตุการณ์พอดิบพอดี
“อะไรกัน เอะอะโวยวายอะไรกัน..สาวๆ”

สมหมายทักขึ้นมา แต่ปลัดจืดกลับถอนหายใจ เมื่อมองไปเห็นเจ้าคุณและสมใจสบตากันหวานฉ่ำ
ในเวลาต่อมาทุกคนนั่งล้อมวงคุยกัน สมหมายดุเจ้าคุณที่หายตัวไปแล้วไม่ยอมบอกกล่าวจนทุกคนเป็นห่วง

“จะไปไหนมาไหนก็ต้องบอกลุงกำโป๊งก่อน ไม่งั้นใครต่อใครเขาจะพาลเป็นห่วง คนม่วนแต๊น่ะรักกัน เป็นห่วงกันเหมือนลูกหลานญาติมิตร เอ็งน่ะก็ลูกหลานม่วนแต๊คนนึงนะไอ้ขุนทอง”
เจ้าคุณอึ้งยิ่งซึ้งใจบอกไม่ถูก ส่วนสมใจอมยิ้ม ในขณะที่กำโป๊งเต็มไปด้วยความเซ็งเพราะไม่อยากให้เจ้าคุณอยู่ต่อ เพราะไม่อยากโกหกทุกคน
“อ้ายโป๊งก็ต้องดูๆมันหน่อยนะ อ้ายขุนทองมันไม่ได้ปกติอย่างพวกเรา บางทีมันอาจจะเอ๋อเผลอหายไปไหน เดี๋ยวจะวุ่นวายกันอีก”
สมศรีเอ่ยขึ้น กำโป๊งอยากจะเถียงใจแทบขาด
“นี่..แม่ศรี! อันที่จริงน่ะ...”
เจ้าคุณแอบเหยียบเท้าลุงกำโป๊งอย่างแรงเพื่อเตือนสติ
“จ๊าก!”
กำโป๊งร้องเสียงหลง จนสมศรีทักขึ้น
“เป็นอะไรน่ะอ้ายโป๊ง”
กำโป๊งอ้าปากจะพูดอีกแต่เจอสายตาเว้าวอนของเจ้าคุณ
“เปล่า..ไม่เป็นไร..คงจะดีใจมากที่เห็นไอ้ขุนทองหลานรักข้ากลับมาน่ะ..แม่ศรี”
เจ้าคุณโผเข้ากอดกำโป๊งอย่างแนบแน่นแล้วไปกระซิบข้างหู
“ฉันก็ดีใจมากเลยจ๊ะลุง”
กำโป๊งกัดฟันตอบด้วยความโกรธ
“เรื่องของมึง!”
สองลุงหลานตัวปลอมผละจากกัน
“เอาล่ะ...อ้ายขุนทองกลับมาก็ดีแล้ว จะได้ช่วยฟื้นฟูไร่ชากันอีกรอบ”
“เอาเลยเหรอพ่อ ไหนแม่บอกว่าเราหมดตังค์ไปเมื่อครั้งน้ำท่วมไร่เยอะมากไม่ใช่เหรอจ๊ะ แล้วนี่พ่อไปเอาตังค์มาจากไหน”
สมใจถามอย่างสงสัย รวมทั้งสมศรีก็สงสัยไม่ต่างกัน
“นั่นสิ...ตาหมาย”
สมหมายสะดุ้ง หันไปมองหน้าปลัดจืด
“เอ่อ..คือ”
สมหมายติดอ่าง แต่ปลัดจืดช่วยไว้ได้ทัน
“คืองี้ ในเมืองพอจะมีงบอยู่ ฉันก็เลยคิดว่าจะลองทำเรื่องขอดูน่ะจ๊ะ”
“...เหรอ”
สมใจถามกลับ แต่สมหมายกลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่องไปในที่สุด
“เอาล่ะ..ฉันว่าพวกเรากลับกันได้แล้วนะ ไปๆพวกเรา..กลับ”
สมหมายรีบชวนทุกคนกลับทันที
“ลุง...ไร่ชาม่วนใจ๋เป็นอะไรเหรอลุง”
เจ้าคุณถามกำโป๊งด้วยความสงสัย
“ก็แมลงมันลงน่ะซิ เละเลย เฮ้อ! เพิ่งจะน้ำท่วมไปหยกๆ ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ”
เจ้าคุณรู้สึกสงสารและเห็นใจคนม่วนแต๊มากยิ่งขึ้น

“แล้วนี่พ่อปลัดจะไปของบอะไรที่ไหน ขอทีไรก็ไม่เคยจะได้ น่าเห็นใจพ่อหมาย แกก็สู้น่าดู ทุกวันนี้คนม่วนแต๊อยู่ได้ก็เพราะไร่ชาม่วนใจ๋นี่แหละ เฮ้อ! นี่ถ้าไม่มีม่วนใจ๋ ม่วนแต๊ก็ไม่รู้จะอยู่กันยังไง”
เจ้าคุณอึ้งครุ่นคิดบางอย่างในใจ
“ลุง! ฉันอยากโทร.ไปกรุงเทพฯ”
กำโป๊งยังไม่เข้าใจว่าเจ้าคุณคิดจะทำอะไร
“นะ! ขอร้องล่ะ! ฉันรู้นะว่าลุงมีโทรศัพท์ ไม่งั้นลุงจะติดต่อกับไอ้ก้องได้ยังไง ใช่มั้ย”
กำโป๊งค้อนขวับ หลังจากโดนเจ้าคุณย้อน เรื่องโกหกกับก้องเกียรติให้ออกรายการเรียลิตีโดยเจ้าคุณไม่เคยรู้ตัวมาก่อน

ต่อจากนั้น กำโป๊งเดินไปที่ห้องลับ เจ้าคุณกวาดตามองเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ออกอากาศที่ไม่เคยรู้มาก่อน กำโป๊งหลบตาแบบแอบรู้สึกผิด ที่สมคบกับก้องเกียรติทำรายการไฮโซบ้านเฮา โดยที่ผู้แสดงอย่างเจ้าคุณไม่เคยรู้ตัวมาก่อนแม่แต่นิด
“จะโทรศัพท์ใช่มั้ย”
กำโป๊งชิ่งไปไขกุญแจโทรศัพท์กระติก
“เชิญ! ให้ไวด้วย มันแพง เดี๋ยว! ว่าแต่จะโทรไปไหน จะโทรหาใคร”

เวลาเดียวกันที่บริษัทของก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว ทุกคนนั่งๆ กองกับพื้น ช่วยกันเก็บข้าวของใส่ลัง
“อีตาเสี่ยนะอีตาเสี่ย บอกจะแถมให้อีก 2 รายการ ไอ้เราก็รีบไปดาวน์รถ ดาวน์คอนโดฯ ฮือๆ จะเอาเงินที่ไหนไปผ่อนเขาล่ะ ฮือ”
จอยร้องไห้โฮ
“เจ๊ยังดี ฉันซิเมียเพิ่งคลอดลูก จะเอาอะไรกินกันล่ะทีนี้”
บ๊วยเล่าเรื่องตัวเองบ้าง จนกิ่งแก้วและก้องเกียรติต่างรู้สึกเห็นใจลูกน้อง
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ดัง จอยรีบลุกขึ้นไปรับทันที
“งาน! งานเข้าแล้วค่ะบอส ฮาโหล สวัสดีค่ะ..อ้าว”
แต่ปรากฏว่ามือถือที่ดังเป็นมือถือของไมเคิล
“ของผมครับ”
“กร่อย!”
จอยหน้าจ๋อยไป ทุกคนก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อไป ไมเคิลรีบรับโทรศัพท์
“ครับพ้ม! คุณหนู!”
ทุกคนหันขวับเมื่อรู้ว่าาเจ้าคุณโทรมาหาไมเคิล
“ไอ้ไมค์!แกรีบเอาเงินมาให้ฉันด่วนเลย”
“เงิน”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วย่องเข้าไปฟังทันที
“เออ! เงินในห้องฉัน มีเท่าไหร่เอามาให้หมด”
เจ้าคุณสั่งไมเคิล ไมเคิลนับเงินในกระเป๋าตัวเองทันที
“เฮ้อ! ร้อยห้าสิบ ไหวมั้ยครับคุณหนู”
“ไอ้บ้า! อย่ามาตลก ไม่ขำ”
“ไม่ขำล่ะครับ กลับมาจากไปส่งคุณหนู คุณผู้หญิงโกรธมากไล่ผมออกเลย”
“ห๊า!”
เจ้าคุณตกใจ
“ยังดีที่คุณก้องคุณกิ๋งให้ผมอาศัยอยู่ด้วย”
เจ้าคุณอึ้ง กิ่งแก้วรีบคว้ามือถือไมเคิลมาพูด ก้องเกียรติตกใจ
“เจ้าคุณ! อย่าเพิ่งวางหูนะ!”
เจ้าคุณชะงัก
“ใจเย็นๆ ฟังฉันก่อน! มีอะไร..เราคุยกันได้นะเพื่อน”
เจ้าคุณอึ้ง กิ่งแก้วพยายามอธิบายให้เจ้าคุณยอมรับฟัง

เย็นนั้น ที่ห้องพักคนไข้ เอมี่กับรจนาวรรณกำลังคุยเรื่องเจ้าคุณหายไป
“ทำไงดีล่ะคะคุณหญิงแม่ จนป่านนี้คุณคะคุณขายังไม่กลับมาเลย”
“นั่นซิ...ทำไงดี ไมค์! ไอ้ไมค์!”
รจนาวรรณลืมตัวเรียกไมเคิลอีก ทั้งที่โมโหไล่ออกไปแล้ว
“คุณหญิงแม่คะ..ตะโกนจนคอแตกไมค์มันก็ไม่มาหรอกค่ะ ก็คุณหญิงแม่ไล่มันออกไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ”
“เออ..จริงด้วยซิ! ทำไงดีล่ะ”
เอมี่แอบค้อน แถมพึมพำด่ารจนาวรรณ แต่อีกฝ่ายไม่ได้ยิน
“ช่างเถอะ! หนูมี่ใจเย็นไว้ เชื่อแม่ ลูกคุณไม่มีทางไปไหนรอด เพราะแม่สั่งตัดเงิน ตัดเครดิตธนาคารทุกสิ่งอย่างของลูกคุณหมดแล้ว รับรองว่าแป๊บเดียวก็ต้องวิ่งโร่กลับมาหาแม่ ฮิๆ”
“คุณหญิงแม่ร้าย เอ๊ย! เก่งที่สุดในโลกเลยอ่ะค่ะ”
รจนาวรรณมั่นใจ เอมี่โผเข้ากอดแต่แววตาไม่ได้ประสงค์ดีกับเจ้าคุณและรจนาวรรณแม้แต่น้อย

เวลาต่อมา กิ่งแก้วยังคงกล่อมเจ้าคุณอยู่
“กิ๋ง! นี่แกยังกล้าพูดเรื่องนี้อีกเหรอ จนอย่างนี้แล้วแกยังกล้าขอให้ฉันอยู่ที่นี่ต่อเป็น...เป็นอ้ายขุนทอง เป็นตัวตลกให้คนเขาฮากันทั้งเมืองอีกเหรอ แกกล้ามากนะไอ้กิ๋ง”
“เดี๋ยวซิ..ไอ้คุณ...ใจเย็น..ฟังฉันก่อน แกไม่ใช่ตัวตลกนะ ใครๆ เขาก็รักแกกันทั้งนั้น แต่นั่นก็คงไม่สำคัญเท่าแกรักใครหรอก...จริงมั้ย”
เจ้าคุณไป เหมือนโดนจี้ใจดำ
“แกพูดอะไร”
“ฉันพูดอะไรแกก็รู้อยู่และก็รู้ดีที่สุด เจ้าคุณ...ในเมื่อแกเองก็อยากอยู่ที่นั่น สมใจเองก็กำลังเดือดร้อนต้องการใช้เงิน แต่ตอนนี้แกไม่มีเงิน....”
ก้องเกียรติมองกิ่งแก้วด้วยความงงว่ากำลังต้องการทำอะไรกันแน่
“ถ้าแกยอมอยู่ทำรายการไฮโซบ้านเฮาต่อ ฉันจะไปขอเงินเสี่ยวิบูลย์เจ้าของสถานีมาให้แกเพื่อเอาไปช่วยสมใจ”
เจ้าคุณอึ้ง ในขณะที่ก้องเกียรติตกใจมาก
“กิ๋ง! ฉันเอง! อย่านะเว๊ย แกรีบกลับมาดีกว่า”
ก้องเกียรติรีบห้ามกิ่งแก้ว
“ก้อง! อะไรเนี่ย”
ก้องเกียรติไม่สน แล้วพูดต่อ
“ก่อนที่อะไรมันจะวุ่นวายไปมากกว่านี้ ก่อนที่แกกับคุณหญิงแม่ของแกจะมีปัญหากันมากกว่านี้ แกรีบกลับมาเร็วๆ เถอะไอ้คุณ เชื่อฉัน!”
เจ้าคุณอึ้ง กิ่งแก้วรีบคว้าโทรศัพท์มาพูดเอง
“เอามานี่...เขาพูดเอง!”
ก้องเกียรติเอาโทรศัพท์หนีกิ่งแก้ว แล้วกดสายทิ้งทันที กิ่งแก้วถึงขั้นโกรธก้องเกียรติ
“ก้อง!”
ก้องเกียรติโยนโทรศัพท์แล้วเดินออกไป
“ก้อง!”
เจ้าคุณที่ปลายสายยังติดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดีกับเรื่องหน้าที่และหัวใจในเวลานี้

ต่อจากนั้นก้องเกียรติเดินจ้ำอ้าวไม่สนใจใคร จนกิ่งแก้ววิ่งตามมากระชากแขนไว้
“บ้าไปแล้วเหรอ ตัวเองเป็นบ้าไปแล้วเหรอ”
กิ่งแก้วตะโกนใส่ก้องเกียรติ
“ตัวเองซิบ้า! กิ๋ง...ตัวเองทำอย่างนั้นได้ยังไง ไม่เห็นใจไอ้คุณมันบ้างเหรอ แค่นี้มันก็ย่ำแย่แล้วนะ”
“ก็เพราะเห็นใจน่ะซิ! เห็นอยู่เต็มตาว่าเจ้าคุณมันรักสมใจ”
กิ่งแก้วเถียง ก้องเกียรติยังชะงักนิ่งไป
“อย่าบอกนะว่าตัวเองไม่เห็น”
“....แต่มันก็เป็นไปไม่ได้หรอกกิ๋ง เจ้าคุณกับสมใจ..มันเป็นไปไม่ได้”
กิ่งแก้วอึ้ง สองคนหนักใจไม่แพ้กัน

เย็นวันนั้น สมใจมองใบชาหงิกงอในมือ แล้วเงยหน้ามองไร่ชาของตัวเอง สมใจถอนใจเฮือกใหญ่ กำลังจะหันหลับแต่ก็พบกับเจ้าคุณ
“ขุนทอง ตกใจหมด นึกว่าผีใบชา
เจ้าคุณยิ่งทึ่งในความเข้มแข็งของสมใจ แล้วเหลือบไปมองใบชาที่กำลังหงิกงอ
“ต้องทำยังไงต่อไป”
เจ้าคุณถาม สมใจฝืนยิ้มออกมา
“อ๋อ..ก็..เดี๋ยวก็ปลูกใหม่”
“ฉันอยากช่วยเธอจริงๆ”
“ชัวร์! นายต้องมาช่วยฉันปลูกชาแน่นอน ห้ามอู้! อ้อ แต่งวดนี้ตังค์อาจจะออกช้าหน่อย อย่าว่ากันนะ เงินมันช็อต ฮิฮิ”
สมใจพูดหน้าตาซื่อ เจ้าคุณยิ่งรู้สึกสงสารสมใจขึ้นมาจับใจ
“สมใจ....”
เจ้าคุณอยากพูด แต่ใจยังไม่กล้า
“หื้ม”
สมใจยังคงรอฟัง
“ว่าไง”
“คือ...ชะ....ชะ...ฉัน”
“อ้าว! ติดอ่างอีกแระ ใจเย็นๆ มีอะไรก็ว่ามา ไม่ต้องตื่นเต้น”
เจ้าคุณรู้สึกดีที่สมใจรู้ใจ
“อ่ะ! ว่าไง”
“คือ...ฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกเธอ”
“เรื่องสำคัญ อะไรอ่ะ บอกว่าเร็ว อยากรู้!”
เจ้าคุณอึ้ง เมื่อเจอสมใจเร่งคำตอบ
“เร็วดิ!”
“คือ..คือว่า...”
“คืออะไร”
“คือว่า...ฉันหิวข้าว”
“หิวข้าว”
เจ้าคุณยิ้มกลบเกลื่อน และยังไม่กล้าบอกความในใจกับสมใจอีกเช่นเคย

เวลาต่อจากนั้นสมใจกำลังลุ้นสุดขีด เพราะกำลังพยายามเก็บไข่จากรังมดแดงบนต้นไม้
เจ้าคุณยืนรออยู่ข้างล่าง
“ทำอะไรของเธอนะใจ๋”
“ชู่ว์...”
สมใจกำลังมีสมาธิกับการหาไข่มดแดง เจ้าคุณยังสงสัยว่าสมใจกำลังทำอะไร
“ตะกี๊ชวนไปหาอะไรกินกัน แล้วนี่มาปีนต้นไม้เล่นทำไม”
“บอกให้เงียบ!”
“หิวจริงๆ แล้วนะ!”
เจ้าคุณตะโกน สมใจคว้าไข่มดแดงมาได้ แต่ก็สะดุ้งเสียงเจ้าคุณเลยเสียหลักร่วงลงจากต้นไม้ลงมา
“เย้ย!”
“เฮ้ย!”
สมใจร่วงลงมาทับเจ้าคุณ แถมมือสมใจยังกระชากกิ่งไม้ที่มีมดแดงตามลงมา จนทั้งคู่โดนมดแดงรุมกัด ร้องลั่น จนสมใจแอบหัวเราะใส่เจ้าคุณไม่เลิก
“ยังจะมาขำอีก นี่เธอทำอะไรของเธอเนี่ย”
“ก็จะทำกับข้าวให้นายกินไง หิวไม่ใช่เหรอ”
เจ้าคุณทำหน้าไม่เข้าใจ แล้วก็ร้องเสียงหลง ตะปบก้นตัวเองเพราะมดเข้าไปกัดที่ก้นเจ้าคุณเต็มๆ จน สมใจขำกลิ้ง

คืนนั้นที่บ้านสมใจ สมศรีแกงผักหวานไข่มดแดงลงกลางวง ทุกคนมองตาม
“วันหลังอยากกินก็บอก แม่จะจัดให้ ไม่ต้องไปลำบากให้มดแดงมันรุมกัดจนเจ็บตัวกันอย่างนี้”
สมศรีเอ่ยขึ้น สมใจกับเจ้าคุณมองหน้ากันแล้วขำ ส่วนคำปุยกับแคบหมูแอบเหล่สองคนไม่วางตา
“คนบางคนเขาก็อาจจะอยากจะ..เจ็บแต่ทำ บอบช้ำเรื่องธรรมดา ตามหา..ความฝัน”
คำปุยกัดจนโดนสมใจผลักหัวทิ้มทั้งสองคน
“นี่แน่ะ! เจ็บ เจ็บมั้ย”
“เจ็บซิ!”
“พอแล้วๆ ไอ้พวกนี้เล่นอะไรกันยังกะเด็กๆ เอ้า! ขุนทองไหนว่าหิวก็รีบกินซะซิ แกงผักหวานไข่มดส้มนี่ นอกจากผักหวานกับไข่มดส้มแล้วก็ยังมีใบมะขาม เป็นยา มีประโยชน์ทั้งนั้น...กินซะ”
สมศรีเรียกเจ้าคุณกินข้าว เจ้าคุณมองอย่างซาบซึ้งใจ
“ขอบใจจ๊ะป้าศรี”
เจ้าคุณตักน้ำแกงจะซด สมศรีแอบมอง
“ดูๆ ไปไอ้ขุนทองนี่มันก็หล่อเป็นดาราได้เหมือนกันนะ”
เจ้าคุณได้ยินสำลักน้ำแกงทันที จนสมใจต้องรีบยอกขันน้ำให้
“เฮ่ย! ใจเย็นๆ”
“อะไรวะ ชมว่าหล่อหน่อยทำสำลัก”
สมศรีแอบขำ
“นั่นซิป้าศรี! แหม...แค่นี้ทำเขิน ที่สำคัญนะ อ้ายขุนทองน่ะหล่ออย่างเดียวซะที่ไหน หืมม์ ซิกแพ็คงี้ปึ้กๆ”
คำปุยรีบชมเจ้าคุณออกนอกหน้า
เจ้าคุณยิ่งไอใหญ่ สมใจช่วยตบหลัง
“เอ๊า! ไอใหญ่เลย ไอเลิฟยูล่ะป่าว”
สมใจตาวาว เอามือตบหลังเจ้าคุณมาตบกะโหลกแคบหมูแทน
“นี่แน่ะ! ไอเลิฟยู”
“โอ๊ย! อะไรเนี่ยเจ๊ใจ๋ ฉันแค่แซวอ้ายขุนทองเล่นๆ อ่ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกะเจ๊ฮึ”
“ไอ้แค๊บ!”
สมใจค้อนใส่
“นั่นน่ะซิ เอ๊ะไอ้ใจ๋นี่ พิลึก”
สมศรีเห็นด้วย คำปุยกับแคบหมูหันไปหัวเราะใส่กัน สมใจค้อนขวับ เจ้าคุณอมยิ้ม อิ่มใจในความสุขของบ้านนี้

คืนนั้น ในผับแมทธิวนัดเอมี่ออกมาพบกัน
“ว่าไงนะ ไอ้คุณหายไป”
“ใช่ ไม่รู้หายไปไหน”
แมทธิวครุ่นคิด
“ถือว่ากล้ามาก กล้าขัดใจคุณหญิงแม่สุดๆ อย่างที่ไม่เคยกล้ามาก่อน”
“แกไปมุดหัวอยู่ที่ไหนวะ ไอ้คุณ”
แมทธิวพึมพำกับตัวเอง ทันใดนั้นอาเฟยเดินเข้ามาหาแมทธิว
“แมทธิว!”
แมทธิวชะงักหันไปมองเหยียด อาเฟยที่มาพร้อมสมุนสองคน
“แกเป็นใคร”
“ฉัน..เฟย..ไง แมทธิว”
“ไอ้เฟย! เฮ๊ย! ไอ้เฟย ฉันนึกว่าแกยังอยู่อังกฤษ”
เอมี่มองอาเฟย
“กลับมานานแล้ว”
“แล้วไง มาโผล่นี่ได้ไง นึกว่าจะกลับมาแล้วก็รีบขึ้นดอยซะอีก ฮ่าๆ”
“ฉันมาเก็บเงินให้ป๊า”
แมทธิวเลิกคิ้วทำหน้าสงสัย เอมี่ยิ่งตั้งใจฟัง
“ผับนี้ป๊าคุม”
แมทธิวอึ้ง เอมี่ตาโต
“เต็มที่นะ มื้อนี้ฉันเลี้ยง”
พูโจบแล้วเดินออกไป อาเฟยดูมั่งมีจนแมทธิวและเอมี่อิจฉา
“ ใครอ่ะแมท มาเฟียมาก”
เอมี่รีบถามอย่างสนใจ
“บ้านนอก! มาเฟียบ้านนอก บ้านมันอยู่บนดอย แต่สะเออะไปเรียนอังกฤษ ถุ้ย! พ่อรวย แค่นี้ทำโชว์ออฟ กลับขึ้นดอยไปเลยไป๊!”
แมทธิวออกอาการฉุน แต่เอมี่กลับออกอาการปลื้มอาเฟยขึ้นมาในความร่ำรวย

หลังจากกินแกงไข่มดแดงเรียบร้อย เจ้าคุณกับสมใจเดินคุยกันมาตามทาง
“เป็นไงแกงผักหวานไข่มดส้มอร่อยมั้ย”
“อร่อยมาก กินซะแน่นเลย”
เจ้าคุณลูบท้อง
“อยากกินอีกก็บอกนะ”
“จะไปบุกรังมดแดงให้อีกเหรอ”
“บ้า!”
สองคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะ
“สมใจ...”
เจ้าคุณเรียกสมใจ
“หื้ม”
“ฉัน...”
ภาพย้อนกลับไปตอนที่สมใจเคยบอกบางอย่างกับเจ้าคุณ
“รู้มั้ยว่าฉันเกลียดคนโกหกที่สุดในโลก ถ้าฉันรู้ว่าใครบังอาจโกหกชั้นล่ะก้อ..ฮึ่ม! ชาติหน้าอย่าหวังว่าจะได้เจอะเจอกันอีกเลย”
เจ้าคุณลำบากใจไม่กล้าสารภาพความจริง
“เอ๊า! ยังไง ใบ้กินซะและ เมื่อกี๊จะพูดอะไร”
“ปะ..เปล่า..ไม่มีอะไร”
เจ้าคุณเริ่มกลบเกลื่อน ยิ้มให้สมใจเพื่อเป็นการยืนยันว่าไม่มีอะไรแล้ว
“หายแน่นท้องแล้ว กลับบ้านเถอะใจ๋ ฉันไปส่ง”

ถัดมา ที่บ้านสมใจคืนนั้นสมหมายกับปลัดจืดแอบคุยกันสองคนตามลำพัง
“แน่ใจเหรอปลัด”
สมหมายหน้าตากังวล
“ครับ..ลุงหมาย ในเมืองต้องใช้งบฟื้นฟูมากจากที่น้ำท่วมหนัก คงไม่เหลือให้เรากู้”
“นั่นซินะ..”
“ลุงหมายใจเย็นๆ นะครับ ผมจะพยายามหาทางอื่นดู”
“ขอบใจปลัด..ขอบใจมาก”
สมหมายฝืนยิ้ม ทั้งสองไม่รู้ว่าเจ้าคุณได้ยินเรื่องราวที่ฟังอยู่ทั้งหมดแล้วอึ้งไป

ไม่นานต่อจากนั้น พอเจ้าคุณถึงบ้านกำโป๊งก้ขอโทรศัพท์ทันที โดยกำโป๊งหิ้วโทรศัพท์รุ่นประติกออกมาให้
“ให้ไว มันแพง ไม่รู้จะบีซี่อะไรนักหนา ธุระเยอะนักนะ จะโทร.ไปไหน”
เจ้าคุณรับมาถือไว้แล้วมองหน้ากำโป๊งเชิงไล่ให้ออกไปก่อน
“เออ รู้แล้ว ไม่อยากจะฟังหรอกเว๊ย เชอะ!”
พูดจบเจ้าคุณมองไปที่โทรศัพท์ครุ่นคิดบางอย่าง

คืนนั้นที่โรงพยาบาล รจนาวรรณตวาดใส่ไมเคิลเรื่องหายหน้าหายตาไปทั้งที่ตัวเองเป็นคนไล่ออก
“แกหายหัวไปไหนมาห๊า! ฉันถามทำไมไม่ตอบห๊าไอ้ไมค์”
ไมเคิลยืนตัวลีบ ทำอะไรไม่ถูก
“ก็...ก็..คุณผู้หญิงไล่ผมนี่ครับ”
“ดี! ทิ้งฉันไปกันหมด ทั้งนายทั้งบ่าว นี่ถ้าฉันไม่โทร.ตาม แกก็ไม่กลับมาใช่มั้ยไอ้ไมค์”
ไมเคิลยืนกลัวตัวสั่น พูดไม่ออก
“ฉันจะกลับบ้านแล้ว! กลับไปอยู่คนเดียวก็ได้ ยังจะยืนเซ่ออยู่อีก ไปเตรียมรถซิ”
“ครับพ้ม!”
ไมเคิลเตรียมจะออกไป ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือรจนาวรรณดังขึ้น
“เจ้าคุณ! หนูอยู่ที่ไหน แล้วทำไมหนูถึง...”
“แม่ครับ...ฟังผมก่อนนะครับ ผมขอโทษที่ทิ้งแม่มาแบบนี้ ผมสัญญาว่าผมจะรีบกลับไปเร็วที่สุด แต่...ผมขออะไรแม่อย่างนึงได้มั้ยครับ”
รจนาวรรณยังงอนลูกชายแต่ก็ยังฟังข้อเสนอ
“อะไร”
“ผม..ผมอยากจะขอเงินแม่ซัก...”
“ขอเงิน หนูทำกับแม่ขนาดนี้แล้วยังจะกล้ามาขอเงินแม่อีกเหรอ”
เอมี่แอบฟังอยู่ที่หน้าประตูตกใจ
“เพราะนังนั่นใช่มั้ย มันพรากหนูไปจากแม่ไม่พอ มันทำให้หนูทิ้งแม่ไม่พอ มันยังจะให้หนูมาสูบเงินจากแม่อีกเหรอ”
“แม่...”
“ฝันไปเถอะเจ้าคุณ ถ้าหนูไม่ตัดขาดจากนังนั่นแล้วกลับมาหาแม่ หนูก็อย่าหวังว่าจะได้อะไรจากแม่ แม้แต่สตางค์แดงเดียว!”
“แม่!”
รจนาวรรณวางสายใส่เจ้าคุณทันที เอมี่ที่แอบฟังอยู่แอบยิ้มร้ายสะใจ
“ไอ้ไมค์ ยังไม่ไปเตรียมรถอีก ไป๊!”
“ครับๆ”
ไมเคิลรีบออกไป เอารถพารจนาวรรณออกจากโรงพยาบาล ในขณะที่รจนาวรรณยังแอบแค้นสมใจไม่หาย
“ถ้ายังเห็นนังบ้านนอกนั่นดีกว่าแม่ก็เอาซิ...เจ้าคุณ!”
ฝ่ายเจ้าคุณยังหาทางออกไม่ได้ทั้งที่เป็นห่วงสมใจและไร่ชาม่วนใจ๋ไม่ต่างจากคนม่วนแต๊เช่นกัน
“สมใจ...ฉันจะช่วยเธอยังไงดี”

คืนนั้นเอมี่ไปหาแมทธิวในผับ เล่าเรื่องเจ้าคุณกับรจนาวรรณให้ฟัง
“ฮ่าๆจริงเหรอ ไอ้คุณมันเจอคุณหญิงแม่เล่นไม้แข็งขนาดนั้นเลยเหรอ ฮ่าๆ สะใจจริงๆ”
“ใช่ สมน้ำหน้าอีนังบ้านนอก เชอะ สะเออะจะจับไฮโซไม่มีวันซะล่ะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ใครมันจะตีนตุ๊กแกเท่าคุณล่ะจ๊ะเอมี่”
“หมายความว่าไง”
เอมี่ชักโกรธแมทธิว ที่ทำท่าเลียนแบบตุ๊กแกใส่
“ก็เกาะแน่นเหนียวหนึบไม่ยอมปล่อยเหมือนตุ๊กแกไงล่ะ ฮ่าๆ”
“ว๊าย! ปากจัดที่สุด!”
“เออ..ว่าแต่ไอ้ลูกแหง่เจ้าคุณมันจะเป็นยังไงบ้างนะ ป่านนี้คงร้องไห้แงๆ แย่เลย ฮ่าๆ
สองคนหัวเราะลในความเดือดร้อนของเจ้าคุณ

คืนวันเดียวกัน เจ้าคุณนั่งเครียดนั่งถึงคำพูดของรจนาวรรณขึ้นใจ
“เพราะนังนั่นใช่มั้ย มันพรากหนูไปจากแม่ไม่พอ มันยังจะให้หนูมาสูบเงินจากแม่อีกเหรอ ฝันไปเถอะเจ้าคุณ ถ้าหนูไม่ตัดขาดจากนังนั่นแล้วกลับมาหาแม่ หนูก็อย่าหวังจะได้อะไรจากแม่แม้แต่สตางค์แดงเดียว”
เจ้าคุณถอนหายใจ แล้วครุ่นคิด

“แกไม่ใช่ตัวตลกนะ ใครๆ เขาก็รักแกทั้งนั้น แต่นั่นก็คงไม่สำคัญเท่าแกรักใครหรอกจริงมั้ย เจ้าคุณ...ในเมื่อแกเองก็อยากอยู่ที่นั่น สมใจเองก็กำลังเดือดร้อนต้องการใช้เงิน แต่ตอนนี้แกไม่มีเงิน ถ้าแกยอมอยู่ทำรายการ “ไฮโซบ้านเฮา” ต่อ ฉันจะไปขอเงินเสี่ยวิบูลย์เจ้าของสถานีมาให้แกเพื่อเอาไปช่วยสมใจ”
เจ้าคุณนึกถึงคำพูดของกิ่งแก้ว ภาพในหัวนึกถึงาภพใบชาหงิกงอของสมใจตลอดเวลา

“ถ้าฉันรู้ว่าใครบังอาจโกหกชั้นล่ะก้อ..ฮึ่ม ชาตินี้ชาติหน้าอย่าหวังว่าจะได้เจอะเจอกันอีกเลย”
เจ้าคุณคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา แล้วพึมพำกับตัวเอง

“ในเมื่ออีกไม่นานเราก็คงไม่มีโอกาสจะได้เจอะเจอกันอีกอยู่แล้ว ถ้าเธอจะโกรธจะเกลียดฉันที่ฉันโกหกเพื่อเธอ ฉันก็ยอม..สมใจ”
เจ้าคุณตัดสินใจคว้าโทรศัพท์ขึ้นกดหากิ่งแก้วทันที
“ฮัลโหล..ฉันเอง..เจ้าคุณ!”

กิ่งแก้วช็อกเมื่อรู้ว่าเจ้าคุณโทรกลับมารับข้อเสนอของตัวเอง
“ห๊า!”
ก้องเกียรติและพนักงานลุ้นฟังไปพร้อมๆกัน
“อือ...อือ...ได้..ห๊า! แก..แกแน่ใจนะ..เจ้าคุณ”
“แน่ใจ...เอาตามนี้...แล้วแกห้ามผิดสัญญากับฉันเด็ดขาดนะไอ้กิ๋ง”
“โอเค.ตกลง ฉันไม่มีทางผิดสัญญากับแก..ไอ้คุณ!”

เจ้าคุณวางหูไปแล้วแอบถอนหายใจ ในขณะที่บริษัทของกิ่งแก้ว ทุกคนรุมตื่นเต้น ถามกันเซ็งแซ่ว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าคุณมีข้อเสนออย่างไรบ้าง มีเพียงก้องเกียรติที่ยังกังวลกับเรื่องดังกล่าว
“หยุด! เงียบ!”
ก้องเกียรติตะโกน ทุกคนเงียบกริบ ก้องลากกิ่งแก้วที่ยังอึ้งอยู่หลีกมาคุยอีกมุมหนึ่ง
“เกิดอะไรขึ้น ไอ้คุณว่าไง”
“เจ้าคุณตกลงจะทำไฮโซบ้านเฮาต่อ”
“ห๊า!”
ก้องเกียรติแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“เจ้าคุณทำเพื่อแลกกับเงินฟื้นฟูไร่ชาม่วนใจ๋ของสมใจ แต่มีข้อแม้...”
“ว่า..”
“จะอยู่เพียงแค่ไร่ชาม่วนใจ๋พ้นวิกฤตเท่านั้นเป็นอันจบ จากนั้นจะกลับมาแต่งงานกับ เอมี่เพื่อเป็นการไถ่โทษคุณหญิงแม่”
“ไอ้คุณ!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว มองหน้ากันแบบแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินจากปากเจ้าคุณ

ค่ำคืนนั้น เจ้าคุณนั่งมองดาวบนฟ้า แล้วคิดถึงพ่อขึ้นมาอีกครั้ง
“จำไว้นะเจ้าคุณถ้าลูกโตขึ้น ไม่ว่าลูกจะเจออุปสรรคหรือปัญหาอะไร ขอให้ลูกมองมาที่ดาวดวงนี้ ลูกจะรู้ว่าพ่ออยู่กับลูกเสมอ”
“พ่อครับ ผมทำถูกแล้วใช่มั้ยครับ ผมพยายามทำดีที่สุดเพื่อคนที่ผมรัก ทั้งแม่ และสมใจ คนไม่เอาไหนอย่างผม...คงมีปัญญาทำได้แค่นี้”

ใบหน้าเจ้าคุณเต็มไปด้วยความเศร้า เอนหลังลงนอนมองฟ้า และคิดหาทางออกเพื่อคนที่เขารัก...ทั้งแม่และสมใจ









Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 9:37:36 น.
Counter : 232 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 8




ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วช็อก! เมื่อเห็นแมทธิวโผล่ในจอมอนิเตอร์ ทั้งคู่แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

“แย่แล้ว!” กิ่งแก้วตกใจสุดขีด
“ไอ้แมท!” ก้องเกียรติก็ตกใจไม่แพ้กัน
“ทำไงดี” กิ่งแก้วเริ่มเป็นห่วงเจ้าคุณ
“ลุงกำโป๊ง ลุงกำโป๊งอยู่ไหน โทร.หาลุงกำโป๊งเร็ว!”
กิ่งแก้วรีบจนมือไม้สั่น ขณะคว้าโทรศัพท์หากำโป๊งทันที แต่ไม่มีคนรับสาย

เวลาต่อมา เจ้าคุณกับแมทธิวยังคงจ้องหน้ากันคล้ายจะเอาเรื่อง
“แกมาที่นี่ทำไม...ไอ้แมท”
เจ้าคุณถามขึ้น
“ทำไมฉันจะมาไม่ได้ ในเมื่อแกยังมาได้เลยนี่. จริงมั้ย ไอ้ขุนทอง”
แมทธิวยวน กวนประสาท
“แกรู้ได้ไงว่าฉัน...ชื่อ...ขุนทอง”
แมทธิวมองเจ้าคุณด้วยสายตาเวทนา และหัวเราะไปด้วย
“รู้ได้ไง ฮ่าๆ แกนี่มันน่าสงสารจริงๆ ไอ้คุณ เป็นคนอยู่ดีๆ ไม่ชอบ ดั๊นมาเป็นควายให้ไอ้ก้องมันหลอก..เฮ้อ!”
เจ้าคุณยังไม่เข้าใจกับคำพูดของแมทธิว
“แกพูดอะไรของแก ใครเป็นควาย แล้วไอ้ก้องมันเกี่ยวอะไรด้วย”
แมทธิวเอามือลูบแก้มเจ้าคุณ แล้วกวนประสาทต่อ
“โถ...ไอ้เพื่อนผู้น่าสงสาร คือว่าถ้าจะให้เล่ามันก็คงจะยาวน่ะนะ เอาเป็นว่า...ดูนี่เลยดีกว่า”
แมทธิวหยิบเครื่องเล่นดีวีดีในกระเป๋าออกมาอย่างใจเย็น หยิบแผ่นดีวีดีใส่เครื่องแล้ว กดปุ่มเพลย์
เจ้าคุณจ้องรอดูที่จออย่างสงสัย ในขณะที่แมทธิวยิ้มอย่างเลือดเย็น หน้าจอดีวีดีค่อยๆ ปรากฎขึ้นเป็นรูป “เจ้าคุณไฮโซ” จากนั้นพลิกเป็นรูป “อ้ายขุนทอง” ตัวหนังสือ “ไฮโซบ้านเฮา” ซ้อนขึ้น
เจ้าคุณมองด้วยความสงสัย
“ไฮโซบ้านเฮา นี่มันอะไร”
แมทธิวทำท่ากวนประสาทต่อ
“ชู่ว์ ใจเย็นเพื่อน นี่แค่ไตเติ้ล”
แมทธิวชี้ให้ดูต่อ เจ้าคุณจ้องดูอย่างใจจดจ่อ เมื่อเห็นภาพพิธีกรรายการเรียลิตีไฮโซบ้านเฮาขึ้นมา

เสียงพิธีกรชายในดีวีดีดังขึ้น
“สวัสดีครับท่านผู้ชม ผมขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการเรียลลิตี้โชว์ไฮโซบ้านเฮากับแขกรับเชิญคนแรกของรายการ เจ้าคุณ-คุณากร มหาศักดิ์ไพศาล ไฮโซหนุ่มหล่อพันล้านคนดัง เจ้าของฉายาไฮโซซิ่งนรก”
เจ้าคุณอึ้งแล้วนิ่งไป พิธีกรหญิงแทรกต่อมา
“เราต้องเอาใจช่วยกันว่าเค้าจะสามารถใช้ชีวิตเป็นชาวชนบทได้สำเร็จลุล่วงภายในหนึ่งเดือนได้หรือไม่ ในรายการใหม่เอี่ยมอ่อง ไฮโซบ้านเฮา”
เจ้าคุณตกใจเพราะเรื่องราวต่อจากนั้นคือทุกฉากทุกตอนที่เจ้าคุณอยู่ที่บ้านม่วนแต๊ถูกบันทกไว้ทั้ง 24 ชั่วโมง จนเจ้าคุณทนไม่ไหว กระชากเครื่องเล่นดีวีดีขว้างทิ้ง แล้วโวยวายด้วยความโกรธ
“เว๊ย! พอได้แล้ว!”
เจ้าคุณหายใจหอบถี่ด้วยความโกรธแค้นสุดขีด แมทธิวแอบสะใจที่เห็นเจ้าคุณยิ่งโกรธ
“เอ๊า! นั่นแค่แผ่นแรก ยังเหลืออีกตั้งหลายแผ่นนะเพื่อน”
แมทธิวควักซีดีออกมาอีกหนึ่งแผ่น เจ้าคุณโกรธสุดขีด จึงกระชากแผ่นในมือแมทธิวมากระทืบ อย่างแค้นสุดชีวิต แล้วกระชากคอเสื้อแมทธิวทันที
“ไอ้แมท! พวกแก พวกแกทำกับฉันอย่างนี้ได้ยังไงห๊า!”
เจ้าคุณเงื้อหมัดเหมือนจะต่อยแมทธิว แมทธิวร้องเสียงหลง
“เฮ้ยๆ ใจเย็นไอ้คุณ ฉันไม่เกี่ยวนะเว๊ย แกก็เห็นแล้วนี่ว่ามันเป็นรายการทีวี รายการทีวีของไอ้ก้องกับไอ้กิ๋งที่หลอกใช้แก ฉันไม่เกี่ยว”
เจ้าคุณยิ่งฟังยิ่งโกรธ น้ำตาแทบไหลเมื่อได้ยินเต็มสองหู ว่าก้องเกียรติและกิ่งแก้วหักหลัง ส่วนแมทธิวยิ่งสะใจกับการกระทำของตัวเอง
“แกต้องขอบใจฉันซะด้วยซ้ำที่ทำให้แกตาสว่าง หายโง่ เลิกเป็นควายซะที!”
เจ้าคุณโมโห โกรธจนแทบไม่มีคำพูด
“เฮ่ย! อย่าทำหน้าอย่างนั้น เดี๋ยวออกทีวีแล้วไม่หล่อ เรตติ้งอ้ายขุนทองตกแย่เลยนะเว้ย”
เจ้าคุณตวัดสายตามองกล้องที่ซ่อนไว้ในมุมสูงมุมหนึ่ง แล้วตะโกนใส่กล้องทันที
“ไอ้ก้อง!”
ด้วยความโกรธ เจ้าคุณวิ่งไปคว้าไม้หน้าสาม วิ่งไปฟาดกล้องแตกกระจายเสียหายยับเยิน
โดยมีแมทธิววิ่งตามมายืนดูสะใจ เจ้าคุณฟาดงวงฟาดงาอาละวาดจนเหนื่อย แล้วอ่อนแรงทรุดลงกับพื้นอย่างเจ็บปวด

เวลาเดียวกัน ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว พร้อมลูกน้อง นั่งนิ่งจ้องจอมอนิเตอร์อย่างไม่อยากเชื่อสายตา ลูกน้องกรูกันเข้ามาด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“บอสคะ/ครับ
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว ยังนั่งนิ่งแต่ดูเหมือนยอมรับชะตากรรมในครั้งนี้
“จบแล้ว..ทุกอย่างจบแล้ว”
ก้องเกียรติพูดด้วยน้ำเสียงสุดเศร้า
กิ่งแก้ว กับเหล่าลูกน้องอึ้งปนเศร้า ทุกอย่างนิ่งราวกับไม่มีคนอยู่ในนั้น

เวลาต่อมา ไส้อั่วเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงวิ่งไปตามกำโป๊ง เพื่อแจ้งข่าวให้ทราบเรื่องแมทธิวกับเจ้าคุณ ไส้อั่วทุบประตูห้องส้วมรัวราวกับเกิดเรื่องใหญ่ แล้วตะโกนเรียกกำโป๊งสุดเสียง
“แย่แล้วลุงกำโป๊ง! แย่แล้ว”
กำโป๊งที่นั่งยองๆ อยู่ สะดุ้งสุดตัว
“ไอ้อั่ว ไอ้ว่อก คนกำลังขี้”
ไส้อั่วทุบประตูถี่ยิ่งขึ้น
“อั้นไว้ก่อน รีบออกมาเร็ว แย่แล้ว!”
กำโป๊งรีบเบ่งแล้วรีบออกมา ช
“อื๊ด เฮ้อ เดี๋ยวเหอะเอ็ง ข้าออกไปล่ะเอ็งโดนเตะแน่ไอ้อั่ว”
ไส้อั่วยังกระวนกระวายใจทุบรัว กำโป๊งรีบเปิดประตูออกมา ไส้อั่วอ้าปากจะพูดแต่ชะงักกึก กลิ่นเหม็นเข้าปากจมูกเต็มเปา
“อุ๊บส์! อื้อหือ..เหม็นชิบเป๋ง”
“ก็ขี้นี่เว๊ยไม่ใช่ดอกมะลิจะได้หอม!”
พูดจบกำโป๊งเขกหัวไส้อั่วทันที
“โอ๊ย! เขกหัวฉันทำไมลุ๊ง”
“เขกซิ เดี๋ยวจะเตะให้ด้วย มีอย่างที่ไหน คนกำลังปลดทุกข์ดั๊นมาร้องเอะอะโวยวาย พ่อเอ็งตายรึไงวะไอ้อั่ว”
“พ่อฉันตายนานแล้ว”
“เออ..ลืมไป”
“ว่าแต่ลุงเหอะ...ระวังจะหัวใจวายตายตามพ่อฉันไป”
“นี่แน่ะ ไอ้เวร...แช่งข้า”
“โอ๊ย ไม่ได้แช่ง แต่ฉันว่าลุงไปดูเองดีกว่า”
“ดู ดูอะไรของเอ็ง”
ไส้อั่วไม่ตอบ ได้แต่ทำหน้ากังวลกับเรื่องที่เพิ่งเห็นมา

เวลาถัดมา กำโป๊งกลับมาที่บ้าน พบสภาพที่เจ้าคุณอาละวาดไว้ กำโป๊งยืนมองอย่างงงเป็นไก่ตาแตก
“คุณพระช่วย! ข้าจะเป็นลม”
“อย่าเพิ่งลุง นี่แค่ซอฟท์ๆ ขอเชิญลุงขึ้นชั้น2”
ไส้อั่วรีบแจง

กำโป๊งเปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็วในห้องนอนของเจ้าคุณ เห็นสภาพแหลกราญยิ่งกว่าข้างล่าง
“เย้ย! ไอ้ขุนทองนะไอ้ขุนทอง แล้วทำไมเอ็งไม่รีบไปตามข้าวะไอ้อั่ว”
กำโป๊งขาทรุดลงกับพื้น เมื่อรู้ว่าความลับแตกแน่แล้ว
“แน้ ยังจะมาว่า ตะกี๊ฉันตะโกนให้รีบออกจากส้วมคอแทบแตก แถมลุงยังจะเตะฉันอีกด้วยไม่ใช่เรอะ”
“เฮ้อ! เวร”
“ลุง..ว่าแต่มันยังไงเนี่ย ตกลงเพื่อนฝรั่งของอ้ายขุนทองเขาเป็นใคร แล้วอ้ายขุนทองโกรธอะไรใครถึงได้...”
“หยู๊ด! ไม่ต้องถาม แล้วก็จำใส่กะโหลกไว้เลยนะไอ้อั่ว ปิดปากให้สนิท ห้ามพูดเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาด เข้าใจมั้ย”
“จ้ะๆ เข้าใจจ้ะ ว่าแต่ อ้ายขุนทองกับเพื่อนฝรั่งหายไปไหนกันแล้วล่ะลุง”
ไส้อั่วถามอย่างอยากรู้ กำโป๊งหันมาทำตาเขียวใส่
“จ้ะๆ.. ไม่ถามแล้วจ้ะ”
กำโป๊งยังคงกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น และคิดไม่ออกว่าเจ้าคุณหายไปไหน

คืนนั้น เจ้าคุณบุกไปที่บริษัทของก้องเกียรติกับกิ่งแก้วทันที จอยอ้าปากค้างเมื่อเห้นเจ้าคุณโผล่มา
“ไอ้ก้องอยู่ไหน” เจ้าคุณถามด้วยอารมณ์โกรธ
“อะ..อะ..เอ่อ...มะ..มะ..ไม่...”
“ถามว่าไอ้ก้องอยู่ไหน”
เจ้าคุณตวาดเสียงลั่น จนจอยตกใจ ปล่อยโฮออกมา พร้อมทั้งยกมือไหว้
“หนูกลัวแล้ว”
จอยทรุดลงกองกับพื้น เจ้าคุณไม่สน เดินหาก้องเกียรติต่อ ในขณะที่แมทธิวก้าวเข้ามายิ้มร้ายอย่างสะใจ

ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว นั่งนิ่งยอมรับชะตากรรม โดยมีเจอาร์พยายามจะปลอบ แต่ทันใดนั้นประตูถูกเปิดเข้ามา เจ้าคุณปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อก้องเกียรติทันที
“ไอ้ก้อง!”
เจ้าคุณต่อยก้องเกียรติ ไป3 หมัดติด ก้องเกียรตอคว่ำกองกับพื้น กิ่งแก้ว เจอาร์และพนักงานช่วยกันห้าม เจ้าคุณตามไปกระชากก้องจะต่อยอีก แต่กิ่งแก้วถลาเข้าไปดึงแขนเจ้าคุณไว้
“เจ้าคุณ...อย่านะ..ฉันขอร้อง”
“ไอ้กิ๋ง นี่ถ้าไม่ติดว่าแกเป็นผู้หญิง ฉันต่อยแกแน่”
เจ้าคุณพูดด้วยอารมณ์โกรธจัด จนกิ่งแก้วร้องไห้
“ต่อยฉันก็ได้ไอ้คุณ ฉันก็ผิดด้วยเหมือนกัน อย่าทำก้องเลย..พอแล้ว”
กิ่งแก้วเข้าไปกอดก้องเกียรติไว้ เจ้าคุณจ้องมองเพื่อนกลับเช่นกัน
“ไอ้คุณ...ใจเย็นๆเว๊ย..ยังไงก็เพื่อนกัน วีอาร์เฟรนด์”
“ปล่อยไอ้คุณมันเถอะ ต่อยฉันเลยไอ้คุณ ต่อยฉันให้ตายเลยก็ได้ ถ้ามันจะทำให้แกหายโกรธฉันกับกิ๋ง” ก้องเกียรติพูดแบบไม่กลัวเจ็บตัว
“แกตายแน่ไอ้ก้อง!”
เจ้าคุณกระชากก้องเกียรติจะเล่นงานอีก แต่กิ่งแก้วถลามากอดก้องเกียรติไว้แน่น ร้องไห้โฮพร้อมทั้งพนมมือขอร้องเจ้าคุณอย่าทำคนรัก
“เจ้าคุณ..อย่าทำก้อง ฉันขอร้อง”
เจ้าคุณชะงัก โกรธจนพูดไม่ออกแต่ก็ทำไม่ลง
“ฉันไม่มีเพื่อนอย่างแก..ไอ้ก้อง..ไอ้กิ๋ง แกด้วยไอ้เจอาร์ พวกแกไม่ใช่เพื่อนฉันอีกต่อไป”
เจ้าคุณชี้หน้าทุกคน เตะข้าวของล้มกระจาย ก่อนจะเดินออกไป พนักงานมองตามนิ่งงัน มีเพียงแมทธิวที่แอบดูอยู่อย่างสะใจ

คืนนั้น ที่บ้านกำโป๊งสมใจมาตามหาเจ้าคุณเช่นเดียวกัน
“ขุนทองยังไม่กลับบ้าน ถ้างั้นขุนทองไปไหนล่ะลุงกำโป๊ง”
สมใจถามอย่างสงสัย บวกกับท่าทีของกำโปีงและไส้อั่วที่ดูมีพิรุธ
“ข้าจะไปรู้เรอะนังใจ๋ ข้าไม่ได้ฝังชิปไว้ที่หูมันนี่ ถึงจะได้รู้ว่าวันๆ มันไปไหนบ้าง”
“แหม..ก็แค่ถาม แต่เมื่อเช้ายังไปช่วยงานที่ไร่อยู่เลยนะ ป่านนี้ไปไหน ทำไมยังไม่กลับ”
สมใจถามด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่กำโป๊งและไส้อั่วก้มหน้าไม่ยอมสบตา

คืนเดียวกัน ที่คฤหาสน์หลังใหญ่บ้านเจ้าคุณ ไมเคิลกำลังพยายามแก้ ปรับทีวีในห้องรับแขก อย่างตั้งใจ โดยมีมะขิ่นลุ้นสุดขีด
“โคตรเซ็งเลยอ่ะ อยู่ๆ ทีวีก็ดับไปเฉยๆ โห่ กำลังมันเลย คุณหนูรู้ความจริงแล้วอ่ะ ตกลงแก้เป็นละป่าวเนี่ยพี่ไมเคิล ถ้าไม่เป็นก็เรียกช่างมาเหอะ”
“สงสัยจะไม่ใช่ทีวีเสียแล้วล่ะมะขิ่น บ้านข้างๆ เขาก็บอกว่าช่องนี้มันดับไปเฉยๆ เหมือนกันไม่ใช่เรอะ”
ไม่เคิลพูดจบก็หันมองมะขิ่นที่นั่งหันหลังให้ประตู แล้วต้องตกใจอ้าปากค้าง พูดไม่ออก เพราะเจ้าคุณพุ่งเข้ามายืนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง
“แหม้ อารมณ์เสีย อยากรู้จริงๆเลยว่า พอความลับแตกแล้ว คุณหนูจะปรี๊ดแตกขนาดไหน พี่ไมเคิลว่าบ้านจะแตกมั้ย”
มะขิ่นใส่อารมณ์และหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขโดยไม่รู้เจ้าคุณอยู่ข้างหลัง ไมเคิลพยายามสะกิด มะขิ่นยังไม่หยุด
“แหม้ ไม่ได้เห็นคุณหนูระเบิดลงมาตั้งนาน คิดถึงเหมือนกันนะเนี่ย ฮิๆ นี่ถ้าเจอนะ จะขอถ่ายรูปพร้อมลายเซ็นต์ไปอวดนังต้อยข้างบ้านซะเลย”
ไมเคิลทำหน้าตาไม่ถูก สะกิดมะขิ่นอีกรอบ ชี้ให้ดูที่ประตู
“อะไร เป็นอะไร ทำหน้าตายังกะเห็นคุณหนู....”
มะขิ่นหันไปที่ประตู เห็นเจ้าคุณแล้ว แต่ยังหันกลับมาพูดต่อ
“เอ๊ะ! รึว่าเห็น”
“เออ..เห็นซิ รึว่าเอ็งไม่เห็น”
มะขิ่นหน้าซีดค่อยๆ หันไปมองเจ้าคุณ
“คุณหนู!”
สองคนลุกขึ้นเตรียมหนี แต่เจอเจ้าคุณเรียกไว้
“จะไปไหน”
สองคนชะงักขาแข็ง ก้าวไม่ออก ค่อยๆ หันกลับมายกมือไหว้ มือไม้สั่น
“คุณหนู ไมค์กับมะขิ่น ไม่รู้ ไม่เห็น
เจ้าคุณพุ่งเข้ามาคว้าคอเสื้อทั้ง 2 คนกระชากมาอย่างแรงทันที แล้วจ้องหน้าอย่างโกรธมาก
“ไอ้ไมค์! มะขิ่น!”
ไมเคิลกับมะขิ่น รู้ตัวว่าผิดไปแล้วแต่หนีไม่รอดแน่ เพราะรู้ดีว่าเจ้าคุณโกรธมาก
“นี่พวกแกก็รู้กันกับพวกไอ้ก้องด้วยเหรอ นี่พวกแกรวมหัวหลอกฉันกันหมดทุกคนเลยเรอะ”
ก้องเกียรติ กิ่งแก้วและ เจอาร์ พุ่งเข้ามาช่วยไมเคิลกับมะขิ่นทันที
“ไอ้คุณ..อย่าไปโกรธไมเคิลกับมะขิ่นเลย โกรธฉันคนเดียวก็พอ”
ก้องเกียรติน้อมรับผิดอย่างลูกผู้ชาย
“ไม่ต้องมาพ่อพระเลยไอ้ก้อง ไอ้เพื่อนชั่ว ไม่ซิ แกมันไม่ใช่เพื่อนฉันอีกต่อไปแล้ว ไป ออกไปให้หมด ออกไป ออกไป!”
เจ้าคุณโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ขว้างข้าวของกระจาย
“นี่มันอะไรกัน”
รจนาววรณ โพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุ เจ้าคุณและทุกคนชะงักหันขวับไปตามเสียง
รจนาวรรณมาพร้อมเอมี่และแมทธิว เจ้าคุณดูตกใจมากกว่าใครเพื่อน
“แม่!”
“เจ้าคุณลูกแม่! คิดถึงเหลือเกินลูกรัก อะฮึ้ม!! ทำไมกลิ่นตุๆ จ๊ะหนู เอ๊ะ แล้วนึกยังไงแต่งตัวแบบนี้ นี่ตกลงไปอยู่อังกฤษรึไปเลี้ยงควายมากันแน่จ๊ะ..ลูกแม่”
รจนาวรรณยิ้มแฉ่งกอดลูกชายยกใหญ่ แต่พอเห็นสภาพลูกชายก็อดขำไม่ได้ เจ้าคุณหน้าเสีย ทุกคนพูดไม่ออก ยกเว้นเอมี่กับแมทธิวที่ดูมีความสุขเหลือเกิน
“นั่นซิครับคุณหญิงแม่ ตกลงเจ้าคุณมันไปอยู่อังกฤษ รึว่าอยู่ที่ไหนกันแน่”
“ไอ้แมท”
เจ้าคุณพุ่งเหมือนจะต่อยแมทธิว แต่ทุกคนดึงห้ามไว้
“อะไรกันจ๊ะ เพื่อนแหย่แค่นี้ทำไมใจร้อนจัง แหม แม่นึกว่าหนูไปปฎิบัติธรรมที่อังกฤษมาแล้วจะใจเย็นขึ้นซะอีกนะจ๊ะลูกแม่”
“โธ่! คุณหญิงแม่ขา น่าสงสารจริงๆ คุณคะคุณขา สารภาพความจริงซะเถอะค่ะ อย่าโกหกคุณหญิงแม่อีกต่อไปเลย มุสาวาทา อัญมณี”
เอมี่เล่นละครกอดรจนาวรรณ
“เวระมณี จ้ะ”
“อ๋อ..ค่ะ เวระมณี โกหกบุพการีไม่ดี ตกนรกนะคะ”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วถลึงตาโต
“เอมี่!”
“อะไรกันจ๊ะหนูมี่ มุสาอะไร ใครมุสา ลูกคุณเนี่ยนะ..มุสาแม่”
เจ้าคุณอึ้ง รู้สึกผิดขึ้นมาในใจ
“เร็วซิ..ไอ้คุณ สารภาพบาปซะตอนนี้ ยังไม่สาย”
ทุกคนกล้าๆกลัวๆ มีเพียงแมทธิวและเอมี่ที่ดูสะใจ ส่วนรจนาวรรณยังคงไม่เข้าใจกับเรื่องดังกล่าว
ส่วนเจ้าคุณเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้นและมีสีหน้ากังวล

เวลาต่อจากนั้น รจนาวรรณทิ้งตัวอย่างแรงลงบนโซฟาเหมือนจะเป็นลม
“ว่าไงนะ ลูกคุณไปอยู่บ้านนอก”
เอมี่ทิ้งตัวตามลงไปข้างๆ แสร้งทำกิริยาตกใจ
“แล้วยังแอบมีกิ๊กด้วย”
เจ้าคุณตวาดเอมี่เสียงดัง
“เอมี่! อย่าเรียกสมใจว่ากิ๊ก!”
เอมี่แกล้งจะร้องไห้
“โฮๆ ถ้าไม่ให้เรียกนังนั่นว่ากิ๊ก แล้วคุณคะคุณขาจะเรียกมี่ว่าอะไรล่ะคะ โฮๆ”
เอมี่แกล้งไปซบรจนาวรรณ ในขณะที่เจ้าคุณกำลังโดนสายตาพิฆาตจากแม่ตัวเอง
“เดี๋ยวนะ..สมใจ ใครคือสมใจ”
รจนาวรรณถาม เจ้าคุณอึ้งไป ทุกคนลุ้น รวมทั้งไมเคิลกับมะขิ่นที่ชะเง้อเกาะติดสถานการณ์ไม่ห่าง
“สมใจ....”
เจ้าคุณติดอ่าง ในขณะที่รจนาวรรณจ้องลูกชายตาไม่กะพริบอย่างลุ้น
“ไอ้คุณ! อย่า!”
ก้องเกียรติตะโกนห้ามไว้ จนแมทธิวต้องขัด
“เฮ้ย! ไอ้ก้อง แกน่ะตัวต้นเหตุนะ ตอนนี้ไอ้คุณมันจะสารภาพผิด มันกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง แล้วแกยังจะมีหน้ามาขัดขวางอีกเหรอวะ”
ก้องเกียรติถลาเข้าจะชกแมทธิว แต่เจอาร์กับกิ่งแก้วช่วยกันดึงไว้
“ไอ้แมท!”
“หยุด! พอกันซะที เจ้าคุณบอกแม่มาเดี๋ยวนี้สมใจเป็นใคร”
“เอ่อ..สม..สมใจ...”
เจ้าคุณยังคงไม่กล้าพูด จนเอมี่ลุกพรวดมาตอบแทน
“สมใจจะเป็นใครล่ะคะ นังนั่นมันก็จะมาเป็นลูกสะใภ้บ้านนอกของคุณหญิงแม่น่ะซิคะ”
ทุกคนตกใจ รจนาวรรณช็อก
“ห๊า! ลูกสะใภ้”
เจ้าคุณจะเฉ่งเอมี่ แต่ไม่ทันแล้วเพราะรจนาวรรณเป็นลมล้มฮวบลง เจ้าคุณรับตัวแม่ไว้ได้ทัน ทุกอย่างชุลมุนโกลาหล
“แม่ แม่! เรียกรถพยาบาล เรียกรถพยาบาล เร็ว แม่!”
เจ้าคุณน้ำตาคลอแทบจะร้องไห้ กอดแม่แน่นเพราะก้นบึ้งในหัวใจเจ้าคุณไม่อยากให้แม่เสียใจ และไม่อยากเสียแม่ไปเหมือนตอนที่พ่อจากไป

คืนนั้นเจ้าคุณพารจนาวรรณส่งโรงพยาบาล แล้วนั่งดูแลแม่อย่างใกล้ชิด ด้วยสีหน้ากังวล พอแม่รู้สึกตัวเจ้าคุณเข้าไปใกล้แม่
“แม่...”
รจนาวรรณเห็นเจ้าคุณแล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เจ้าคุณรู้ตัวว่าแม่ไม่พอใจ
“แม่...”
รจนาวรรณน้ำตาไหล เจ้าคุณเองก็เสียใจที่เห็นแม่ร้องไห้
“แม่..อย่าร้องไห้”
“จะไม่ให้แม่ร้องได้ยังไง ลูกชายคนเดียวของแม่ ลูกชายสุดที่รักของแม่ โกหกแม่”
รจนาวรรณร่ำไห้ เจ้าคุณยังทำตัวไม่ถูก
“แม่ครับ...ฟังผมก่อน...”
“เจ้าคุณ...ตั้งแต่พ่อตายไป เราก็มีกันอยู่แค่ 2 คนแม่ลูก แต่ตอนนี้ เจ้าคุณหลอกแม่ โกหกแม่ หนีไปอยู่บ้านนอก แถมยังจะเอาสะใภ้บ้านนอกมาฝากแม่”
“แม่ครับ..มันไม่ใช่อย่างนั้น”
“ใช่ซิ...ทำไมจะไม่ใช่ แล้วก็ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้นเพราะหนูมี่เขาอธิบายให้แม่ฟังหมดแล้ว”
เจ้าคุณเริ่มมีอารมณ์เซ็ง
“อย่างเดียวที่แม่อยากฟังจากปากหนูก็คือ..หนูต้องรับปากแม่ว่าจะแต่งงานกับหนูมี่อย่างเร็วที่สุด!”
“แม่!”
เจ้าคุณช็อกเมื่อได้ยินรจนาวรรณขอร้องแบบนั้น

เวลาต่อมา เจ้าคุณนั่งมองพระจันทร์อยู่ที่ดาดฟ้าของโรงพยาบาล ไม่ต่างกับสมใจที่นั่งดูพระจันทร์อยู่ที่ม่วนแต๊ ต่างคนต่างคิดถึงกัน คำปุยกับแคบหมู โผล่มามองอย่างเป็นห่วง
“ไอ้ใจ๋...เข้าบ้านเหอะ โดนน้ำค้างเดี๋ยวไม่สบาย”
คำปุยตะโกนบอกเพื่อนด้วยความห่วงใย
“นังปุ๋ย...แกว่าขุนทองหายไปไหน”
คำปุยมองหน้าแคบหมู แล้วค่อยๆตอบสมใจ
“ดึกแล้ว..ไปนอนดีกว่า..เดี๋ยวพรุ่งนี้อ้ายขุนทองก็กลับมา”
สมใจมองคำปุยด้วยสายตาเหมือนอยากให้สิ่งที่คำปุยพูดเป็นจริง
สองคนมองหน้ากันแล้วคำปุยจูงสมใจเข้าบ้าน
ไม่ต่างกับเจ้าคุณที่ล้มตัวนอนลงบนดาดฟ้า แล้วพึมพำกับตัวเอง
“สมใจ..ฉันคิดถึงเธอ”

เวลาเดียวกันที่คอนโด แมทธิวกับเอมี่กำลังฉลองในความสำเร็จอย่างเพลิดเพลิน
“ฉลองให้กับความสำเร็จของเรา”
แมทธิวกับเอมี่มีความสุข กระดกเครื่องดื่มหมดแก้ว เอมี่รวบคอแมทธิวมาใกล้
“ฉลองแค่นี้ เอมี่ว่ามันน้อยไปมั้ยคะแมท”
เอมี่ทำตาหวานใส่ แมทธิวรู้ทันเช่นกัน
“นั่นซิ..เอมี่จะได้เป็นสะใภ้คุณหญิงแม่และเป็น เมียเจ้าคุณ คุณากร มหาศักดิ์ไพศาลทั้งที อย่างนี้ผมต้องจัดปาร์ตี้สละโสดส่งท้ายให้หนำใจเลย
“แมทอ่ะ...”
แมทธิวเชยคาง เอมี่เขิน
“โดยเฉพาะกับการที่ไอ้เจ้าคุณมันต้องมาเซ้งคุณต่อจากผม ฮ่าๆ”
เอมี่ตีปากแมทธิวเบาๆ
“บ้า! พูดจาหน้าเกลียด ว่าแต่...แน่ใจนะว่าพอเจ้าคุณได้มี่ไปแล้วแมทจะไม่ร้องฟูมฟายเสียดายมี่”
แมทธิวทำหน้าหมั่นไส้ ก่อนจะยิ้มหวานออกมา
“ถึงคุณจะเป็นเมียไอ้คุณ แต่เราก็ยังเป็นกิ๊กกันได้ไม่ใช่เหรอจ๊ะ”
เอมี่ตาโตคิดว่าแมทธิวรักตัวเองอยู่
“งั้นเรามาเริ่มทดลองการเป็นกิ๊กก่อนวิวาห์กันซะเลยดีมั้ย”
“ได้เลย”
แมทธิวกับเอมี่กำลังโน้มเข้าหากัน ทันใดนั้นประตูถูกเปิดเข้ามาโดยนกสาวคนเดิมของแมทธิวนั่นเอง แมทธิวกับเอมี่ตะลึงไปทั้งคู่
“กรี๊ด! พี่แมท!”
“นก!”
“นก”
เอมี่ตกใจ นกก็ปรี่เข้ามากระชากแมทธิว ผลักอกเอมี่กระเด็น พร้อมชี้หน้า
“ใคร นังนี่ใคร”
“เดี๋ยว...”
แมทธิวจะห้าม แต่เอมี่ตอบทันที
“ฉันชื่อเอมี่เป็นเมียแมทธิว”
“เฮ่ย!”
“เมีย”
นกอารมณ์ขึ้น
“ใช่! เมีย แล้วแกล่ะใคร”
เอมี่จิ้มชี้ที่หน้าผากนกทันที
“ฉันน้องนกเป็นเมียพี่แมทธิวเหมือนกัน”
แมทธิวได้แต่อึ้ง
“หน้าด้าน!”
เอมี่ด่าสวนนก
“แกซิหน้าด้าน!”
เอมี่ตบหน้านก
“แกตบฉัน!”
“เออซิวะ”
“งั้นคราวนี้...ฉันตบแก”
นกหันไปตบเอมี่หน้าหันเช่นกัน เอมี่โกรธจัด พุ่งเข้าตบนกอีกทันที
“กรี๊ด อย่าอยู่เลยแก๊!”
แมทธิวยืนยิ้มสะใจ
“นึกว่ามีแต่ผู้หญิงรุมแย่งแกคนเดียวเรอะ...ไอ้คุณ?!!
ในที่สุดน้องนกจัดการเอมี่จนน่วม
“แมท...ยืนทำอะไรอยู่ ช่วยมี่ด้วยซิ”
เอมี่ขอความช่วยเหลือ
“ไม่ต้องช่วย น้องนกจะตบอีนังนี่ให้มันตายคาคอนโดฯพี่แมทเลย”
“เฮ่ย ไม่ได้ๆ อย่ามาตายที่นี่”
แมทธิวปรี่เข้าพยายามแยกทั้งคู่ แต่ดันโดนลูกหลงนกตบให้เต็มกกหู
“โอ๊ย นังบ้า!!
แมทธิวตบนกกระเด็นด้วยความลืมตัว จนนกอึ้ง
“พี่แมท!”
“ไป ออกไปให้พ้น”
“พี่แมท!”
เอมี่สะใจลุกมาเยาะเย้ยนกทันที
“สมน้ำหน้า อีนังนกหัวเน่า ชิ้วๆ”
นกปรี่จะตบเอมี่ แต่แมทธิวชี้หน้าไว้ก่อน
“จะไปดีๆ รึจะให้ฉันจับโยนออกไป”
“พี่แมท! จำไว้ แกด้วย! จำไว้ พวกแกรู้จักน้องนกน้อยไป คอยดูนะ ฉันจะมาเอาคืน”
“มาให้เร็วละกันนะยะ..น้องนก!”
“ไม่ช้าหรอก อีนังมัมมี่”
นกพูดจบเดินออกไปทันที ปล่อยให้เอมี่กรี๊ดสนั่นลั่นห้อง
“กรี๊ดๆ แมท...แมทต้องเคลียร์ให้มี่นะ มันเรียกมี่ว่า อีนังมัมมี่!”
แมทธิวทำหน้าไม่อยากรับรู้ด้วยอารมณ์เซ็ง

บ่ายนั้นที่บ้านกำโป๊ง ปลัดจืดยังสงสัยกับการหายตัวไปของเจ้าคุณ
“ตกลงมันยังไงกันแน่ลุงกำโป๊ง เกิดอะไรขึ้นกับอ้ายขุนทอง”
“ปัทโธ่! พ่อปลัด นี่จะมาคาดคั้นเอาอะไรกับฉันนักหนา อ้ายขุนทองมันโตเป็นควายแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ อีกอย่างมันก็เป็นผู้ชาย มันจะไปไหนมาไหนหรือจะหายหัวไปซัก 3-4 วัน มันก็เรื่องธรรมดา ไม่เห็นจะต้องตื่นเต้น”
สมใจร้อนใจหนักกว่าใครเพื่อน จึงรีบถามต่อ
“แต่ขุนทองไม่เคยหายไปแบบนี้นะลุง ปลัด...ปลัดต้องช่วยนะ”
ปลัดจืดแม้ว่าเจ็บในใจแต่เพราะสมใจขอร้องจึงต้องยอมโดยดี
“ลุงกำโป๊งครับ เห็นไส้อั่วบอกว่าเมื่อวานนี้มีเพื่อน เป็นฝรั่งมาหาขุนทอง”
กำโป๊งหันขวับไปจ้องไส้อั่วที่กลัวหัวหดอยู่
“เขาเป็นใครเหรอครับลุง”
กำโป๊งอยากจะเล่นงานไส้อั่วแต่ปรับอารมณ์ไว้ก่อน
“พ่อปลัด..ฉันไม่รู้อะไรจริงๆ”
“แต่หลานชายของลุงหายไปทั้งคนนะครับ”
กำโป๊งเฉไฉไปได้อีก
“แต่มันก็ยังหายไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ต่อให้ไปแจ้งความ ตำรวจเขาก็ยังไม่รับแจ้งไม่ใช่เรอะ..พ่อปลัด”
ปลัดจืดอึ้งไปในมุกเอาตัวรอดของกำโป๊ง แต่สมใจยังคงเป็นห่วงเจ้าคุณในขณะที่ปลัดจืดทั้งหวงทั้งห่วงและเจ็บปวดใจเมื่อรู้ว่าสมใจห่วงเจ้าคุณมาก แต่ต้องเก็บไว้ในใจ

เวลาต่อมา ปลัดจืดเดินมากับสมใจแล้วยื่นน้ำแดงให้ แต่ดูเหมือนสมใจ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะเป็ห่วงเจ้าคุณ
“ ขอบใจ..ปลัดกินเถอะ..ฉันไม่หิว”
ปลัดจืดถอนใจ นั่งลงข้างสมใจ แล้วอดถามอย่างหึงหวงไม่ได้
“ดูใจ๋เป็นห่วงขุนทองมากเลยนะ”
“ก็..แหม...คนงานหายไปทั้งคน”
สมใจยังฟอร์มเหมือนไม่ได้สนใจเจ้าคุณพิเศษกว่าคนอื่น
“อืมม์..ลาออกจากปลัดมาเป็นคนงานให้ใจ๋ดีกว่า”
ปลัดจืดแกล้งพูดหยอด จนสมใจสะอึก
“ปลัดก็...”
“ล้อเล่น”
“ฉันไปเก็บชาก่อนนะ ป่านนี้พ่อบ่นตายละ” สมใจขอตัว
ปลัดจืดนั่งมองตาม ถอนหายใจแล้วลุกขึ้นมองถุงน้ำแดง 2 ถุง เมื่อสมใจไม่ได้สนใจ ปลัดจืดจึงก้มดูดน้ำแดงพร้อมกันทั้งสองถุง เพื่อดับความกลุ้มและปลอบใจตัวเอง

สมใจมาถึงไร่ชาช่วงบ่ายๆ ก็โวยวายยกใหญ่ เพราะใบชาโดนแมลงกัดกินเต็มไปหมด

“อะไรเนี่ยพ่อ เมื่อวานมันยังดีๆ อยู่เลย”
ชาวบ้านมะรุมมะตุ้มดูต้นชาที่หงิกหงอยเพราะโดนแมลงกัดกิน
“ก็นั่นมันเมื่อวาน แต่วันนี้ก็อย่างที่เห็นนี่แหละ มันลงพรึ่บเดียว หมดกัน”
สมหมายตอบลูกสาวอย่างปลงๆ
“เฮ้อ! เพิ่งจะโดนน้ำท่วม นี่ก็มาโดนแมลงลงซะอีกแล้ว”
สมศรีน้ำเสียงปลง
“แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนมาฟื้นฟูกันอีกล่ะแม่”
สมใจบ่นด้วยน้ำเสียงเศร้า สมศรีมองลูกอย่างไม่มีคำตอบ สมหมายมองเมียและลูกด้วยความอ่อนใจเช่นกัน ส่วนปลัดจืดมองทุกคนอย่างเห็นใจ แต่ทันใดนั้นเสียงของอาฟงก็ดังขึ้น
“ใจเย็นๆ..ใจเย็นๆ”
ทุกคนหันขวับเห็นอาฟงกับลูกชายพร้อมสมุนที่รายล้อมเช่นเคย
“ไอ้อาฟง!”
สมหมายเรียก
“ไอ้อาเฟย!”
ปลัดจืดเรียกขึ้นเช่นกัน สมหมายกับปลัดจืดจะพุ่งจะชกสองพ่อลูกทันที แต่สมุนเข้าขวาง และสมศรีกับ สมใจดึงสมหมายกับปลัดจืดไว้ทัน
“พวกแกยังจะมีหน้ามาเหยียบไร่ข้าอีกเรอะ วันก่อนลูกเอ็งรังแกลูกสาวข้า ข้าก็อุตส่าห์อดทน แต่วันนี้..ดีล่ะ..มาถึงที่ มา มาให้ข้าต่อยหน้าซะให้หายแค้น”
สมหมายกับปลัดจืด จะเอาเรื่องแต่ สมุนอาฟงควักปืนขู่ ทุกคนชะงัก
“อาหมาย..อั๊วบอกแล้วไงว่าให้ใจเย็นๆ วันก่อนลูกสาวลื้ออีดื้อเอง มารบกวนการทำงานของลูกชายอั๊ว”
อาฟงพูดกวน
“ทำงาน งานค้าไม้เถื่อนเนี่ยนะ”
อาเฟยมองสมใจ
“แต่ลูกชายอั๊วอีก็เมตตา ไม่ได้รังแกอะไรลูกสาวลื้อซะหน่อย ใช่มั้ยอาหมวย”
“ฉันชื่อสมใจ ไม่ใช่อาหมวย”
“ฮ่าๆ อาหมวย เอ่อ อาสมใจลูกสาวอาศรีนี่อีสวยดุดื้อเหมือนลื้อเป๊ะๆ มิน่า อาเฟยลูกชายอั๊วถึงได้เมตตาอี”
อาเฟยอมยิ้ม ส่วนปลัดจืดตาวาวดว้ยความโกรธ
“เฮ่ยๆ หุบปากแล้วก็กลับไปได้แล้ว ไร่ชาม่วนใจ๋ไม่ต้อนรับมาเฟียอย่างพวกแก”
สมหมายตะโกนไล่
“ไม่ต้อนรับอั๊วแต่สนใจจะต้อนรับเงินของอั๊วมั่งมั้ยล่ะ...อาหมาย”
อาฟงให้ข้อเสนอ
“พูดงี้หมายความว่ายังไง”
“แหม..ทำเป็นแกล้งโง่ เอ๊ะรึว่าโง่จริง พวกลื้อถึงได้คิดจะเก็บไอ้ไร่ชาโหลยโท่ยนี่ไว้ ทั้งที่เดี๋ยวก็น้ำท่วม เดี๋ยวก็แมลงกิน ที่สำคัญ เก็บใบชาขายจนพวกลื้อตายกันทั้งหมู่บ้าน ก็ยังหาเงินไม่ได้เท่ากับขายไร่นี้ให้อั๊วเลย”
“ขาย”
“ฮ่าๆ ใช่เซ่ ขาย เซ็นแกร็กเดียว เอาไปเลย 5 ล้าน!”
“5 ล้าน”
สมหมายทวนคำพูดอาฟง
“ใช่เซ่! 5 ล้าน! ฮ่าๆๆ อุ๊บส์!”
สมหมายไม่ฟังจนจบต่อยเปรี้ยงเต็มปากอาฟง ลูกน้องตกใจล็อกสมหมาย ปลัดจืดเข้าช่วย แต่อาเฟยสั่งห้าม
“หยุด! เก็บไปคิดดูใหม่นะครับกลับก่อนเถอะป๊า”
อาเฟยบอกพ่อ
“ครั้งนี้อั๊วยกให้ แต่ครั้งหน้า..อย่าหาว่าอั๊วใจร้ายนะอาศรี! กลับ”
พวกอาเฟยกลับออกไป สมหมายตะโกนด่าไล่ท้าย
“ไปเลย! แล้วอย่ากลับมาอีก ไป๊!” ชาวบ้านช่วยกันโห่ไล่
สมหมาย สมศรีและสมใจสามคนพ่อแม่ลูกกอดกันไว้ ปลัดจืดมองพลางครุ่นคิดหาทางช่วย

บ่ายวันเดียวกัน เจ้าคุณกำลังป้อนข้าวต้มให้รจนาวรรณ ซึ่งนั่งหน้านิ่งไม่ยอมกิน

“แม่...” เจ้าคุณเรียก แต่รจนาวรรณยังนิ่ง เจ้าคุณจึงง้อต่อ “ทานซะหน่อยเถอะครับ เดี๋ยวไม่สวยนะ”
รจนาวรรณเฉย ยังคงงอนลูกชายอยู่
“ช่างมันซิ..หน้าสวยแต่หัวใจสลาย ก็ไม่รู้จะสวยไปทำไม”
“แม่...คุณหมอบอกว่าแม่กลับบ้านได้แล้ว เรากลับ....”
เจ้าคุณเปลี่ยนเรื่องแต่กลับโดนแม่ตวาดใส่
“ไม่กลับ! ไม่กลับแล้วก็ไม่กิน ไม่อะไรทั้งนั้น จนกว่าหนูจะยอมตกลงแต่งงานกับหนูมี่”
“แม่ครับ...แต่ผม...” เจ้าคุณเหนื่อยใจ
“ทำไม หนูทำไม อย่าพูดเด็ดขาดนะ ว่าหนูจะไม่ยอมแต่งงานกับหนูมี่เพราะหนูมีคนรักแล้วเป็นนังเด็กบ้านนอกคนนั้น”
เจ้าคุณไม่พอใจ ไม่อยากให้รจนาวรรณเรียกสมใจแบบนั้น
“แม่..อย่าเรียกสมใจอย่างนั้นซิครับ”
“สมใจ นังสมใจ นี่ฉันจะต้องมีลูกสะใภ้ชื่อสมใจ เหรอเนี่ย โฮๆ”
“แม่..อย่าร้อง...”
เจ้าคุณเสียใจที่เห็นแม่ร้องไห้ จะเข้าไปปลอบแต่โดนผลักออกมา
“ไม่ต้อง! อย่ามายุ่ง แล้วก็จำไว้ด้วย ชาตินี้แม่ไม่มีทางรับนังเด็กบ้านนอกชื่อสมใจมาเป็นลูกสะใภ้อย่างเด็ดขาด และถ้าขืนหนูยังขัดใจแม่ ต่อไปนี้ไม่ต้องมาเรียกแม่ว่าแม่เราขาดกัน!”
“แม่!” เจ้าคุณอึ้ง
รจนาวรรณไม่สนใจ ฟุบหน้ากับหมอนร้องไห้อย่างหนัก จนเจ้าคุณคิดไม่ตก

เวลาต่อมา เจ้าคุณยืนมองเหม่ออยู่คนเดียว ซักพักไมเคิลเดินถือแก้วเครื่องดื่มจะเอามาให้เจ้าคุณ เห็นเจ้าคุณเดินไปริมดาดฟ้านึกว่าจะโดดตึกเลยรีบวิ่งไปโดดรวบตัวเจ้าคุณทันที
“อย่าครับคุณหนู อย่าครับ!”
เจ้าคุณดิ้น
“อะไรไอ้ไมค์! ปล่อย”
เจ้าคุณยันไมเคิลกระเด็น เพราะเข้าใจคนละแบบกัน
“เป็นบ้าอะไรวะ ไอ้ไมค์”
“คุณหนูน่ะซิครับ บ้าไปแล้ว เรื่องแค่นี้ก็ต้องคิดสั้น”
ไมค์รีบด่าเจ้านายเพราะเข้าใจผิด
“คิดสั้น”
“ครับ จะโดดตึก”
“ไอ้บ้า! แกซิโดด”
“อ้าว”
“แล้วนี่โผล่หัวมาทำไม”
เจ้าคุณถามอย่างสงสัย ไมค์รีบยื่นแก้วเครื่องดื่มให้
“โกโก้ร้อนๆ ครับ รองท้องซะหน่อย คุณหนูไม่ได้ทานอะไรเลย เดี๋ยวจะไม่สบาย”
เจ้าคุณอึ้งไป แต่แอบซึ้งในน้ำใจของไมเคิล
“ขอบใจ..ฉันไม่หิว”
ไมเคิลถอนใจเฮือก จะเดินออก
“ไอ้ไมค์...”
ไมเคิลชะงัก หันหลังกลับมา
“ครับพ้ม”
“ถ้าเป็นแก แกจะทำยังไง”
ไมค์ยังคงไม่เข้าใจว่าเจ้าคุณหมายถึงเรื่องใดกันแน่
“เรื่องอะไรครับ”
“ก็เรื่อง...จะไปไหนก็ไปเหอะ”
เจ้าคุณชะงักไม่ได้พูดต่อ แม้ว่าจะอยากบอกไมเคิลก็ตาม
“ครับ..คุณหนู”
ไมเคิลเดินออก เจ้าคุณหันกลับไปยืนมองเหม่ออย่างเดิม ส่วนไมเคิลหันมามองเจ้าคุณอย่างเห็นใจนาย

บ่ายนั้น ที่ไร่ชาม่วนใจ๋ สมหมายคุยอยู่กับปลัดจืดเรื่องการแก้ไขปัญหาของไร่ชาอยู่
“ครับนำที่ไปจำนองกับธนาคาร ถ้าลุงหมายสนใจ ผมจะลองคุยให้”
ปลัดจืดแนะนำ แต่ดูสมหมายไม่ค่อยสนใจ
“เกิดมาฉันยังไม่เคยกู้เงินใคร แล้วนี่ยังต้องเอาไร่ชาม่วนใจ๋ไปจำนอง...”
สมหมายพูดต่อไม่ออก และครุ่นคิดหนัก ส่วนปลัดจืดมองอย่างเข้าใจ

อีกฟากเวลาเดียวกัน เอมี่มาเยี่ยมรจนาวรรณที่โรงพยาบาล
“ว่าไงนะ คุณคะคุณขายังไม่ยอมแต่งงานกับมี่”
รจนาวรรณนอนบนเตียงตกใจที่เห็นเอมี่ลืมตัวโกรธใส่ตัวเอง แต่พอรู้สึกตัวเอมี่กลับเข้าสู่ภาวะปกติทันที แล้วแกล้งร้องไห้เสียใจ เข้ากอดรจนาวรรณ
“โฮๆ ฮือๆ มี่เสียใจที่สุดเลยค่ะคุณหญิงแม่ขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเดี๋ยวนี้คุณคะคุณขาจะกล้าดื้อกับคุณหญิงแม่ ต้องเป็นเพราะนังบ้านนอกสมใจนั่นแน่ๆ..โฮๆฮือๆ”
“สมใจ! โอ๋ๆๆ..นิ่งซะนะจ๊ะหนูมี่ไม่ร้องจ้ะไม่ร้อง ยังไงแม่ก็ไม่มีวันรับนังเด็กบ้านนอกนั่นมาเป็นลูกสะใภ้แม่เด็ดขาด ลูกสะใภ้ของแม่ต้องเป็นหนูมี่คนเดียวเท่านั้น!”
รจนาวรรณแอบโอ๋เอมี่
“ไม่นะคะ..เรื่องนั้นมันไม่สำคัญสำหรับมี่เท่ากับการที่คุณคะคุณขากล้าทำให้คุณหญิงแม่ผู้ประเสริฐต้องเสียใจหรอกค่ะ มันทำให้มี่...มี่...ทนไม่ด้าย โฮๆฮือๆ”
รจนาวรรณซึ้งในคำพูดเอมี่
“โถ..หนูมี่ของแม่”
สองคนคนโผกอดเข้ากันแน่น เอมี่แอบยิ้มร้าย ทันใดนั้นเจ้าคุณเปิดประตูเข้ามา เห็นเอมี่แล้วชะงักอยากจะเดินออกทันทีแต่โดนรจนาวรรณเรียกไว้
“เจ้าคุณ!”
เจ้าคุณชะงัก
“จะไปไหน”
“เอ่อ..ไป..ทานข้าวครับ”
“ดีเลย หนูมี่เพิ่งจะบ่นหิว พาหนูมี่ไปทานข้าวด้วย”
เอมี่ยิ้มแฉ่ง เมื่อรจนาวรรณให้ท้าย เจ้าคุณปฏิเสธไม่ลง
“แต่ผมไม่...”
“เดี๋ยวนี้!”
เจ้าคุณเงียบไม่ตอบใดๆ เอมี่ยิ้มถามด้วยน้ำเสียงหวาน แต่แอบเย้นหยันอย่างผู้ชนะ
“เราจะไปทานอะไรกันดีคะ..คุณคะคุณขา”
เจ้าคุณยอมด้วยอารมณ์เซ็งเพราะถูกรจนาวรรณบังคับ

คืนนั้นในเวลาต่อมา เจ้าคุณพาเอมี่ไปกินหมูกะทะแบบที่เคยกินกับสมใจ
“อึ๋ยย์! หมูกะทะ”
เอมี่แสดงอาการรังเกียจ และไม่อยากเชื่อว่าเจ้าคุณจะพามาร้านข้างถนน
“นี่คุณคะคุณขาป่วยรึเปล่า ถึงได้พามี่มา..มา..มากินหมูกะทะ”
“ผมอยากกิน”
เจ้าคุณตอบแบบไม่สนใจ
“แต่มี่ไม่อยากกิน แล้วมี่ก็จะไม่กิน เพราะมี่กินไม่เป็น และก็ไม่เคยกิน
“งั้นก็ไปกินที่อื่น”
เอมี่คิดว่าเจ้าคุณจะชวนลุกหนีรีบยิ้มดีใจ
“ดีค่ะ...ไปกันเถอะ”
“ผมหมายถึงคุณ ไปคนเดียว!”
เจ้าคุณน้ำเสียงเรียบ แต่เอมี่กลับกรีดใส่อย่างไม่พอใจ
“อร้าย!”
คนในร้านเริ่มหันมอง และบางคนเริ่มสังเกตเห็นอ้ายขุนทองมากินหมูกะทะเสียแล้ว
“มี่ไม่อยากจะเชื่อ รู้ตัวมั่งมั้ยว่าตั้งแต่กลับมาจากบ้านนอก คุณคะคุณขาเพี้ยนไปแล้ว เพี้ยนไปเยอะด้วย จากที่เคยพามี่ไปกินข้าวตามโรงแรมหรูๆ ดูซิ เดี๋ยวนี้กลับพามากินหมูกะทะบ้าบออะไรก็ไม่รู้”
เอมี่วีนแตกทันที แต่เจ้าคุณก็สวนกลับทันที
“หยุด! อย่ามาเรียกว่าหมูกะทะบ้าบอ แล้วก็เลิกใช้คำว่าบ้านนอกได้แล้ว”
“ทำไมจะพูดไม่ได้ อ๋อ รู้แล้ว สะเทือนใจแทนนังบ้านนอกสมใจ นั่นใช่มั้ยล่ะมี่จะพูด บ้านนอกๆ”
“หยุด! บอกให้หยุด!”
เจ้าคุณเริ่มไม่พอใจเอมี่มากขึ้น
“ไม่หยุด บ้านนอกๆ”
“ไมค์! ไอ้ไมค์!”
ไมเคิลรีบวิ่งเข้ามา
“ครับ..คุณหนู”
“ลากคุณเอมี่ออกไป”
เอมี่งงเป็นไอ่ตาแตก
“คุณคะ”
“ไปไหนครับ”
ไมเคิลถามอย่างซื่อ
“ไปโยนทิ้งที่ไหนก็ได้”
“ห๊า!”
เอมี่แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“คุณคะ”
“ไปเซ่!”
เจ้าคุณตะคอกเร่งไมเคิลทันที
“เอ่อ..ครับคุณหนู”
ไมเคิลทำท่าจะจับตัวเอมี่ แต่เอมี่สะบัด
“อย่ามาแตะตัวฉัน จำไว้เลยคุณคะ มี่จะไปฟ้องคุณหญิงแม่ โฮๆ มี่จะไปฟ้องคุณหญิงแม่!”
เอมี่เสียใจวิ่งออกไป เจ้าคุณทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ด้วยความเซ็ง ทันใดนั้นเด็กเสิร์ฟคนหนึ่ง เอาหมูเข้ามาเสิร์ฟแล้วมอง เจ้าคุณ
“พี่ๆ..ใช่อ้ายขุนทองรึเปล่า”
เจ้าคุณไม่ตอบ ได้แต่มองหน้าเด็ก ที่เรียกเพื่อนมาดูอย่างดีใจ
“เฮ้ย! อ้ายขุนทอง อ้ายขุนทองจริงๆ ด้วย อ้ายขุนทองมาเว้ย!”
พนักงานในร้านรวมทั้งลูกค้ากรูออกมารุมขอถ่ายรูปขอลายเซ็นต์กันเนืองแน่น รุมถามสารทุกข์สุกดิบเจ้าคุณอย่างคลั่งไคล้
“อ้ายขุนทองทำไมไม่กลับไปม่วนแต๊”
“จริงด้วย..จะมีรายการต่อรึเปล่า ตอนนี้อดดูเลย จู่ๆ รายการก็จบไปเฉยเลย”
เจ้าคุณทำตัวไม่ถูก จู่ๆมีลูกค้าโวยวายใส่หน้าเจ้าคุณ
“จบไปก็ดีแล้ว ไม่อยากดูต่อแล้ว อ้ายขุนทองใจดำ ทิ้งไอ้ใจ๋มาได้ยังไง ไม่รักอ้ายขุนทองแล้ว”
เจ้าคุณตะลึงอึ้งกับสิ่งที่ป้าแฟนคลับต่อว่าจนหน้าชา

เช้าวันใหม่ สมใจกำลังฉีดยาฆ่าแมลงที่ทำขึ้นเองให้ชาวไร่ดูเป็นตัวอย่าง
“เราจะลองใช้น้ำยาชีวภาพสูตรใหม่นี้ฉีดไล่แมลง ไม่กี่วันก็คงจะรู้ผล เอ้า! ช่วยกันนะ”
สมใจกับปลัดจืดช่วยกันแจกจ่ายน้ำยาให้ชาวไร่ สมหมายกับสมศรี มองลูกสาวตั้งใจอย่างที่ทั้งคู่ทราบดีว่าไม่น่าจะได้ผล
“ฉันก็ยังแม่แน่ใจนะใจ๋ว่ามันจะได้ผลรึเปล่า”
ปลัดจืดกระซิบบอกสมใจ
“เอาน่า..ลองดู ยังไงก็ขอบใจปลัดมากนะ”
ปลัดจืดมองตอบอย่างดีใจ แต่หวานเจียบแอบได้ยิน ปลัดจืดจึงโดนกัดอีกเช่นเคย
“เฮ้อ! ปล่อยให้แมลงกินซะใบชายังน่าจะตายช้ากว่าใช้น้ำยาของอีตาปลัดนะพี่ใจ๋”
“ปากเหรอน่ะ...จับกรอกน้ำยาซะเลยดีมั้ยเนี่ย”
ปลัดจืดคว้าหวานเจี๊ยบไว้จะจับกรอกปาก แต่อีกฝ่ายดิ้นโวยวาย
“ช่วยด้วย! ปลัดรังแกประชาชน ช่วยด้วย”
“ไม่เอาน่า..ปลัด ทะเลาะกันอยู่ได้นะคู่นี้”
สมใจห้ามขึ้น หวานเจี๊ยบกระโดดเกาะแขนสมใจทันที
“ใครเขาอยากทะเลาะด้วยล่ะ มีปลัดโหดอย่างนี้ แบร้! สู้อ้ายขุนทองก็ไม่ได้”
หวานเจี๊ยบแลบลิ้นใส่ปลัด ในขณะที่สมใจได้ยินชื่อขุนทองแล้วเศร้า ปลัดจืดชะงักมองสมใจ
“ว่าแต่อ้ายขุนทองนี่ก็เฮ้อ จู่ๆ ก็แอบหนีไปเที่ยวที่ไหนก็ไม่รุ๊ ป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย พูดแล้วก็คิดถึ๊งคิดถึง”
สมใจยิ่งเศร้า แล้วเดินออกไป
“หยุดพูดมั่งก็ได้ ไม่มีใครว่า”
ปลัดจืดพูดส่หน้าหวานเจี๊ยบแล้วเดินตามสมใจมาทันที
“ห๊า! ไอ้..ไอ้..อึ้ย ไอ้บ้า!”
ลำใยที่ยืนอยู่แถวนั้นยื่นหน้าเข้ามาอย่างสะใจ
“สมน้ำหน้า! นังลิงเจี๊ยก ฮ่าๆ ฮุ๊บ!”
หวานเจี๊ยบไม่รอช้า เอาใบชาเน่าขยำใส่ปากลำใยเต็มปาก
“สมน้ำหน้า! ฮ่าๆ”
หวานเจี๊ยบวิ่งหนีออกไป ปล่อยให้ลำใยพยายามเอาใบชาเน่าออกจากปากตัวเอง
“แค่กๆ.นังลิงเจี๊ยก แค่กๆ นังโรคจิต”
ลำใยโมโหหยิบใบชาออกจากปากไป แล้วชะงักกึกเพราะสิ่งที่หยิบออกมาจากปากคือแมลงที่ลงใบชา
“ว๊าย! แค่กๆ”
ลำใยยิ่งตกใจและโวยวายหนักเมื่อเห็นหนอนอยู่ในปากตัวเอง

เวลาต่อมา สมใจเดินด้วยอารมณ์เซ็ง สักครู่ปลัดจืดดินตามมาคุยด้วย
“ใจ๋...”
“ฉันโอเคปลัด น้ำยาชีวภาพของปลัดมันก็น่าจะเวิร์คนะ”
สมใจเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง ปลัดจืดรู้ แต่จำต้องเลยตามเลย
“ฉันก็หวังว่า...”
สมใจฝืนยิ้มแอบถอนใจ ปลัดจืดลอบมอง สมใจตัดสินใจครู่หนึ่งทนไม่ไหว จึงตัดสินใจถาม
“ปลัด....”
“หื้ม”
“เอ่อ..ปลัดได้ข่าว..อ้ายขุนทองมั่งรึยัง”
ปลัดจืดจ๋อยเล็กน้อยและคิดไว้แล้วว่าสมใจเป็นห่วงและรู้สึกดีกับเจ้าคุณแน่นอน

บ่ายวันเดียวกัน รจนาวรรณอ่านหน้าหนึ่งของเจ้าคุณที่โดนลูกค้าร้านหมูกะทะรุมขอลายเซ็น

“อะไรกันเนี่ย และแล้วไฮโซคนดัง เจ้าคุณ-คุณากร มหาศักดิ์ไพศาล หรืออ้ายขุนทอง แห่งรายการทีวียอดฮิต “ไฮโซบ้านเฮา” จู่ๆ ก็โผล่มาเรียกเสียงฮือฮาของแฟนคลับในร้านหมูกะทะ” หมูกะทะ อ้ายขุนทองแห่ง “ไฮโซบ้านเฮา” โอย! ฉันจะเป็นลม”
พูดจบรจนาวรรณหงายตึงลงบนเตียง เอมี่ที่นั่งอยู่ด้วยรีบเข้าประคอง
“คุณหญิงแม่! คุณหญิงแม่!”
เจ้าคุณเห็นดังนั้นรีบเข้าประคองแม่เช่นกัน แต่รจนาวรรณสะบัดหนี
“แม่!”
“ยัง! ไม่ต้อง ฉันยังไม่ตาย!”
“แม่...”
เอมี่สะใจ รจนาวรรณตวาดใส่เจ้าคุณทันที
“เจ้าคุณ! แม่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้วนะ”
“แม่...ผม..”
“ไม่ต้อง! แม่ไม่ฟัง แม่บอกแล้ว อย่างเดียวที่แม่อยากจะฟังจากปากหนูก็คือ ตอบตกลงจะแต่งงานกับหนูมี่!”
“แม่!”
เจ้าคุณหนักใจ แต่เอมี่ยิ้มร้ายสะใจที่เจ้าคุณต้องยอมแต่โดยดี
“ว่าไง จะตอบแม่ได้รึยัง”
เจ้าคุณอึ้ง เอมี่รอลุ้น
“ตกลงใช่มั้ย..เจ้าคุณ”
เอมี่ยิ้มรออย่างมีความหวัง แต่เจ้าคุณเงียบยังไม่ตอบคำถามของรจนาวรรณเพราะรู้เต็มใจว่าความรักทั้งหมดอยู่ที่สมใจ

เวลาต่อมา สมใจยังคงคาดคั้นหาข่าวเจ้าคุณจากปลัดจืดเช่นเดิม
“ว่าไงนะ”
ปลัดจืดสะดุ้ง เมื่อเห็นสมใจแอบโวยวายเป็นห่วงเจ้าคุณ แต่สมใจรู้ตัวจึงรีบเปลี่ยนอารมณ์ทันที
“ เอ่อ..โทษที..ตะกี๊ปลัดบอกว่ายังไม่ได้ข่าวอะไรเลยเหรอ”
“ใจ๋..ฉันว่าใจ๋ใจเย็นหน่อยดีกว่านะ อย่างที่ลุงกำโป๊งพูดก็ถูก อ้ายขุนทองเป็นผู้ชาย ไอ้การที่จะหายไปซักวัน สองวันมันก็คงจะไม่...”
สมใจลืมตัวรีบสวนทันที
“ปลัดพูดอย่างนี้ได้ยังไง จะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง ก็เป็นประชาชนที่ปลัดจะต้องดูแลทั้งนั้น ที่สำคัญ ขุนทองเขาก็ไม่ปกติเหมือนอย่างเราๆ ปลัดก็รู้ไม่ใช่เหรอ”
ปลัดจืดถึงกับจ๋อยไป
“ไม่เป็นไร ถ้าปลัดไม่อยากช่วย ฉันจะตามหาขุนทองเอง”
พูดจบสมใจเดินจากไป ทิ้งให้ปลัดจืดยืนนิ่งแอบน้อยใจสมใจอยู่ไม่น้อย

เวลาเดียวกันที่โรงพยาบาล เจ้าคุณยังโดนคาดคั้นจากรจนาวรรณเรื่องแต่งงานกับเอมี่เช่นเคย
“ตกลงว่ายังไง...เจ้าคุณ”
เจ้าคุณคิดหนัก เอมี่ลุ้น ยิ้มปลื้ม
“เจ้าคุณ!”
รจนาวรรณเร่งจนเจ้าคุณโพล่งขึ้น
“แม่ครับ...ให้เวลาผมอีกซักนิดได้มั้ยครับ”
“ไม่ได้!”
“แม่...”
“หนูจะต้องแต่งงานกับหนูมี่ให้เร็วที่สุด แม่ถึงจะลืมเรื่องแย่ๆ ที่หนูทำไว้กับแม่ได้”
เจ้าคุณหนักใจที่รจนาวรรณไม่ยอมลดความพยายาม
“แม่...”
“ค่ะ..แล้วมี่ก็จะไม่โกรธคุณคะคุณขาที่พามี่ไปร้าน...(แหยะๆ) หมูกะทะเมื่อคืนนี้”
เอมี่แจ๋ขึ้นมา ในขณะที่เจ้าคุณมองด้วยสายตารำคาญ
“ตกลงว่า...”
รจนาวรรณยังเร่งรัดลูกชายต่อ เอมี่จิกตาลุ้นคำตอบ จ้าคุณถอนใจเฮือกใหญ่เหมือนตัดสินใจ แต่ทันใดนั้นไมเคิลเปิดประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“แย่แล้วครับ!”
“แกซิแย่! พรวดพราดเข้ามาไม่เคาะประตู ไม่มีมารยาท!”
เอมี่ด่า ในขณะที่เจ้าคุณค่อยๆถามไมเคิล
“มีอะไรไมค์”
“แย่แล้วครับคุณหนู ผมว่า..คุณหนูไปดูเองดีกว่าครับ”

เจ้าคุณเต็มไปด้วยความสงสัย แต่เมื่อเดินออกมาดูพบว่ามีแฟนคลับของอ้ายขุนทองมายืนรออยู่เต็มโรงพยาบาล ทั้งป้ายไฟ สาวน้อยสาวใหญ่ สาวประเภทสองแห่กันมามากมาย รวมทั้งนักข่าวจากหลายสำนัก จนรปภ.ต้องช่วยกันไว้
“เข้าไม่ได้นะครับ อย่าก่อความวุ่นวายนะครับ”
รปภ.เข้ามาห้าม
“เราไม่ได้วุ่นวาย เราจะไปหาอ้ายขุนทอง”
แฟนคลับรีบตอบแล้วพากันกรี๊ดจนรปภ.หูแทบแตก
“ขุนทอง! ขุนทอง! ขุนทอง!”
“ทำไงดีเนี่ย”
รปภ.เริ่มกลุ้ม ส่วนไมเคิลวิ่งนำหน้าเจ้าคุณมาดูสถานการณ์
“นั่นไงครับคุณหนู แฟนคลับคุณหนูอื้อเลย”
เจ้าคุณยังสับสนว่าตนมีแฟนคลับตั้งแต่เมื่อไหร่
“แฟนคลับ”
“ครับ แฟนคลับอ้ายขุนทองไงครับ อ้าว..งง ดังไม่รู้เนื้อรู้ตัวนะเจ้านายเรา”
ยิ่งแฟนคลับเห็นเจ้าคุณ ยิ่งกรี๊ดสนั่นโรงพยาบาล
“นั่นไง! อ้ายขุนทองมาแล้ว!”
“กรี๊ด!”
แฟนคลับทุกคนบุกจะเข้ามารุมเจ้าคุณ พนักงาน และรปภ. กั้นไว้ไม่อยู่ ทั้งแฟนคลับ ทั้งนักข่าวมะรุมมะตุ้มรุม กอดรัดฟัดเหวี่ยงดูโกลาหล
“ขอถ่ายรูปหน่อยค่ะ”
แฟนคลับตะโกนใสเจ้าคุณ ในขณะที่นักข่าวจากหลายสำนักจิ้มไมค์มาที่เจ้าคุณทันที แย่งกันถามข้อสงสัยเกี่ยวกับรายการไฮโซบ้านเฮา
“ขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะ ทำไมไฮโซบ้านเฮาจบไปดื้อๆ ล่ะคะ/ จะมีภาค2มั้ยคะ/ เรื่องจริงหรือมีสคริปต์คะ/ ตกลงอ้ายขุนทองปิ๊งสมใจจริงรึเปล่า”
คำถามเรื่องสมใจทำเอาเจ้าคุณชะงักไปในทันที
“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
รจนาวรรณนั่งมาพร้อมรถเข็น ออกมาตะโกนทุกคนเงียบกริบ

เวลาต่อมา เจ้าคุณโดนรจนาวรรณเล่นงานอย่างหนักเรื่องเป็นดาราจำเป็น
“แม่ยอมไม่ได้อีกต่อไปแล้วนะ..เจ้าคุณ! ผู้ดีเก่าอย่างเราต้องมากลายเป็นบุคคลสาธารณะ ลูกชายของแม่ต้องมากลายเป็นดารา โธ่! แล้วนี่แม่จะเอาหน้าไปไว้ไหน ใครๆ เขาไม่หาว่าแม่ตกยากถึงกับจะต้องให้ลูกชายไปเต้นกินรำกินแล้วเหรอเนี่ย”
“แม่ครับ...ไปกันใหญ่แล้ว”
“หนูนั่นแหละที่ไปกันใหญ่ เลยเถิดไปถึงไหนต่อไหน”
เจ้าคุณเริ่มอ่อนใจ เมื่อรจนาวรรณยิ่งไม่เข้าใจ
“หนูต้องกู้หน้าให้แม่ด้วยการแต่งงานกับหนูมี่!”
เอมี่ฟังอยู่ยิ้มดีใจ
“เยส!”
“โธ่! มันคนละเรื่องเลยครับแม่”
“เรื่องเดียวกัน หนูมี่เป็นถึงลูกสาวคุณหญิงทิพย์ธิดา เกริกเกรียงไกร เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ...”
เอมี่ฝืดคอ เพราะแท้ที่จริงแล้วไม่ได้รวยจริงอย่างที่รจนาวรรณเข้าใจ
“เหมาะสมจะมาเป็นลูกสะใภ้ของแม่ ไม่ใช่นังบ้านนอกนั่น!”
“แม่ครับ เลิกเรียกสมใจว่า..”
“ทำไมจะเรียกไม่ได้!”
เจ้าคุณเริ่มอารมณ์ไม่พอใจ
“ลำพังลูกหนีแม่ไปเป็นดาราแม่ก็ขายหน้าจะแย่แล้ว”
“ผมไม่ได้เป็นดารา”
“แฟนคลับแห่มากันซะขนาดนั้นน่ะนะคะ หึมม์...ยิ่งกว่า AF, เดอะสตาร์ อีกค่ะคุณหญิงแม่ขา”
เจ้าคุณหันมาค้อนใส่ เอมี่หาตัวช่วยรีบเกาะแขนรจนาวรรณหาที่พึ่งหลบภัย
“หนีไปเป็นดาราไม่พอยังจะเอานังบ้านนอกมาเป็นลูกสะใภ้แม่ ใจคอหนูจะทำให้แม่ย่ำแย่ไปถึงไหนห๊า!เจ้าคุณ เพราะฉะนั้น หนูต้องกู้หน้าให้แม่ด้วยการแต่งงานกับหนูมี่โดยเร็วที่สุด!”
เจ้าคุณไม่ตอบใดๆแต่เต็มไปด้วยอารมณ์เซ็ง

คืนนั้นที่ดาดฟ้าโรงพยาบาล เจ้าคุณอยู่ในอารมณ์เซ็ง ไมเคิลเดินถือแก้วนมสดมายื่นให้
“นมซักแก้วนะครับคุณหนู ร่างกายจะได้แข็งแรง”
“แล้วหัวใจล่ะ..ไอ้ไมค์”
ไมเคิลถอนหายใจ อย่างเข้าใจนายตัวเอง
“สิ่งที่ฉันทำมันผิดมากนักเหรอไอ้ไมค์”
เจ้าคุณถามลอยๆขึ้นมา ไมเคิลรีบนั่งลงข้างเจ้าคุณทันที
“แล้วอย่าไปบอกคุณผู้หญิงว่าผมพูดนะครับคุณหนู! เป็นดาราน่ะดีออก จะตาย เดี๋ยวนี้ใครๆ เขาก็อยากจะเป็นกันทั้งนั้น ทั้งรวยทั้งดัง ดีกว่าเป็นไฮโซเฉยๆอีก ผมว่า...”
“ฉันไม่ได้หมายถึงเป็นดารา”
“อ้าว!”
“ฉันหมายถึง...”
เจ้าคุณสองจิตสองใจจะบอกไมเคิลดีหรือไม่ แต่คู่สนทนารู้ใจเลยสวนขึ้นก่อน
“...สมใจ น่ะเหรอครับ”
“...แก..รู้ได้ไง”
เจ้าคุณถามอย่างสงสัย
“โห...ไม่รู้เลยนะครับคุณหนู ติดฝนกันซะขนาดนั้น ซ้อนมอเตอร์ไซค์กันซะขนาดนั้น จกข้าวเหนียวกันซะขนาด...”
เจ้าคุณเขกหัวไมเคิล เพราะเข้าใจคนละเรื่อง
“พอๆ...ทะลึ่ง!”
“ว่ากันตรงๆ นะครับ ตั้งแต่ผมอยู่กับคุณหนูมา ผมไม่เคยเห็นคุณหนูมองผู้หญิงคนไหนด้วยแววตาอย่างที่มองสมใจเลยนะครับคุณหนู”
ไมเคิลพูดอย่างเข้าใจ
“ไอ้ไมค์! แกคิดว่าฉันควรจะ...”
“ควรจะหัดมองคุณเอมี่อย่างงั้นมั่งดีกว่าครับ”
ไมเคิลรีบตัดบทให้ จนเกือบโดนเจ้าคุณเขกหัวอีกรอบ
“ ไอ้ไมค์!”
“ก็มันจริงนี่ครับคุณหนู เพราะตั้งแต่คุณผู้ชาย..คุณพ่อของคุณหนูจากไป ผมก็ไม่เคยเห็นคุณหนูขัดใจแล้วก็ไม่เคยทำให้คุณหญิงแม่ร้องไห้เลยซักกะครั้งเดียวเหมือนกัน”

เจ้าคุณอึ้งไปในคำพูดของไมเคิล นั่งตาลอย และรู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูกกับสิ่งที่ต้องตัดสินใจครั้งนี้









Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 9:36:32 น.
Counter : 337 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 7 (ต่อ)




ไม่นานสมใจก็ขับรถเข้ามาถึงถนนลูกรังที่จะเข้าสู่หมู่บ้านม่วนแต๊ แต่จู่ๆ ก็มีชายฉกรรจ์สองคน ยืนขวางถนนอยู่ สมใจมองเพ่งมองอย่างสงสัย เจ้าคุณรู้สึกผิดปกติ ส่วนคำปุยกับแคบหมูยังหลับอยู่

“ใจ๋...ระวัง”
เจ้าคุณโพล่งออกมาเตือนสติ สมใจขับรถเข้าไปใกล้ ชายฉกรรจ์ทั้งสองคนโบกไม้โบกมือไล่ออกไป ไม่ให้ผ่านทางนี้
“อะไรวะ ถนนของมันคนเดียวรึไง ไอ้บ้า!”
“ใจ๋...มีทางอื่นมั้ย” เจ้าคุณถาม
“มี! แต่ไม่ไป ฉันเคยใช้ทางนี้มาตลอด ทำไมต้องเชื่อพวกมันด้วย เชื่อก็กลัวดิ”
พูดจบสมใจพุ่งรถเข้าไปเบรกเอี๊ยดตรงหน้าชายฉกรรจ์สองคน แล้วเปิดประตูรีบลงไปทันที
“เฮ่ย! ใจ๋! เดี๋ยว ใจ๋!”
เจ้าคุณรีบเปิดประตูตามลงไปทันที ในขณะที่สมใจพร้อมลุยแหลก
“มีสิทธิ์อะไรมาปิดถนน”
เจ้าคุณคว้ามือสมใจไว้
“ใจ๋...”
“ถนนของต้นตระกูลพวกแกรึไง”
ชายฉกรรจ์ สองคนแสยะยิ้ม หน้าตาเอาเรื่อง
“ฮั่นแน่ น้องสาว หน้าตาสวยๆ ปากจัดๆ หยั่งงี้ พี่ช้อบ ชอบ ฮ่าๆ”
ชายฉกรรจ์สองคนหัวเราะประสานเสียงดังลั่น
“ไอ้บ้า!”
สมใจด่า เจ้าคุณดึงสมใจไปไว้หลังตัวเอง ด้วยความห่วงใย
“เปิดทางให้เรา เราจะกลับบ้าน”
“เฮ่ย ไม่ใช่พ่อ อย่ามาสั่ง”
“พ่อสั่งยังไม่กลัวเลยเว๊ย ฮ่าๆ”
สองโจรดูท่าจะไม่ยอมง่าย หัวเราะใส่อีกต่างหาก
“ขำตรงไหนวะ หลีกไปให้พ้น ไม่งั้นฉันจะขับรถชนพวกแกจริงๆ ด้วย”
“ใจ๋...”
เจ้าคุณร้องปรามสมใจ
“หึ้ย! แม่หญิงปากจัดมันต้องจับมากัดซะให้เจ็บ จะได้จำ”
สองโจรพูดจบปรี่เข้ามาจะคว้าตัวสมใจ แต่เจ้าคุณไวกว่าซัดหมัดสกัดชายฉกรรจ์คนแรกจนคว่ำแล้วกระชากสมใจมากอดไว้ สมใจอึ้งแต่แอบอบอุ่นในหัวใจ
“เจ็บมั้ยพี่” โจรอีกคนเข้ามาถามพรรคพวก
“ไอ้เวร! จะถามทำพ่อเอ็งเรอะ ไปซิ ไปจัดการมัน เร็ว อูย...”
ชายฉกรรจ์สองคน รีบพุ่งเข้าใส่เจ้าคุณ เจ้าคุณดูจะได้เปรียบแต่ซักพักชายฉกรรจ์1 ตามมารุม เจ้าคุณเริ่มเสียเปรียบแล้ว
“ขุนทอง ระวัง!”
สมใจตะโกนบอกอย่างเป็นห่วง แต่เจ้าคุณกลับห่วงสมใจตะโกนให้ไปนั่งรอในรถ
“ใจ๋ ขึ้นรถ! ล็อกรถด้วย ไป!”
“ไม่!”
สมใจไม่ทิ้งเจ้าคุณ เจ้าคุณซัดชายฉกรรจ์สองคน จนหมอบโดยมีสมใจช่วย แต่พอหันมาจะเล่นงานชายฉกรรจ์อีกคน ปรากฎว่าสมใจโดนล็อกคอแล้วเอาปืนจี้ไว้
“อยากให้นังนี่ตายโหงก็เข้ามา”
โจรเล่นสกปรกใส่เจ้าคุณ
“ใจ๋! อย่านะ อย่าทำอะไรผู้หญิง”
“ไอ้โง่ ผู้หญิงเขาอุตส่าห์มาหาถึงที่ ถ้าไม่ทำอะไรก็ควายแล้วเว๊ย ฮ่าๆ”
เจ้าคุณกับสมใจอึ้ง
“ไอ้หม่อง ล็อกมัน!”
โจรอีกคนรีบลุกขึ้นล็อกเจ้าคุณ
“ซ่าดีนักนะ มีเมียก็ไม่รู้จักสั่งสอน เดี๋ยวข้าจะสอนวิธีปราบเมียให้ดูสดๆ เลย ฮ่าๆ”
สมใจดิ้น เจ้าคุณขยับตัวอยากช่วยสมใจ
“อย่า!”
โจรขยับปืนใส่สมใจ เจ้าคุณเลยไม่กล้า ชายฉกรรจ์ลากสมใจผลักลงกับพื้น
“อย่า! ใจ๋!”
สมใจแอบกลัว เมื่อโจรคนหนึ่งพุ่งหมายจะปล้ำ
“หยุด!”
โจรชะงักกึก เห็นอาเฟยลูกชายอาฟงยืนอยู่กับลูกน้องสามคน
“เถ้าแก่น้อย!”
โจรอุทานพร้อมกัน
“ปล่อยผู้หญิง!”
อาเฟยสั่ง
โจรรีบปล่อยสมใจ เจ้าคุณวิ่งไปกอดสมใจไว้อย่างเป็นห่วง
“ทำอะไรของแก”
อาเฟยมองหน้าลูกน้อง
“เอ่อ...”
โจรติดอ่าง แต่ไม่ทันได้ตอบ อาเฟยตบหน้าชายฉกรรจ์ โดยมีเจ้าคุณกับสมใจมองการกระทำนั้นอยู่
“ขอโทษด้วย..สมใจ”
สมใจมองอาเฟยด้วยความงง เพราะก่อนหน้านี้ปาเฟยเคยมากับอาฟงผู้เป็นพ่อค้ามาเฟียค้าไม้ และต้องการมาต่อรองซื้อไร่ชาม่วนใจ๋จากสมหมายนั่นเอง
“นาย...”
อาเฟยยิ้มแล้วก้มหัวเล้ฏน้อยแนะนำตัว
“..เฟย..ฉันชื่อ เฟย”
สมใจตาลุกวาว
“นี่พวกนายกำลังทำอะไร แอบตัดไม้ใช่มั้ย”
สมใจพูดด้วยความโกรธ อาเฟยยิ้มแต่ไม่ตอบ
“พวกนายนี่มันเลวจริงๆ”
สมใจด่า
“รีบกลับไปดีกว่า ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”
“ไอ้...”
“ใจ๋!”
เจ้าคุณดึงสมใจจะเดินไปที่รถ แต่สมใจชะงักหันกลับมา
“ขอให้เวรกรรมตามสนองพวกแก ขอให้เจ้าป่าเจ้าเขาลงโทษพวกแก”
เจ้าคุณรีบดึงสมใจขึ้นนั่งในรถ โดยเจ้าคุณเป็นคนขับ อาเฟยมองตามด้วยแววตาครุ่นคิดในใจ

ต่อจากนั้น ที่บ้านสมใจ สมหมายยัวะด้วยอารมณ์โกรธ
“ไอ้เฟย ลูกไอ้ฟง มัน ตาย!”
สมหมายพุ่งจะออกไปเอาเรื่องอาเฟย แต่สมศรีคว้าไว้
“จะไปไหนตาหมาย”
“ถามได้ ก็จะไปฆ่ามันทั้งพ่อทั้งลูกน่ะซิแม่ศรี หนอย ลูกไอ้ฟงมันรังแกลูกเราได้ขนาดนี้ แม่ศรีอย่าห้ามฉัน ฉันจะไปฆ่ามัน!”
สมศรีเตือน
“ก็ไม่ได้อยากจะห้าม แต่อยากจะบอกว่า ถ้าขืนไปมือเปล่าอย่างนี้มีหวังโดนพวกไอ้ฟงมันฆ่าตายก่อนจะได้ฆ่ามันซะละม้าง ตาหมาย”
“เออ..จริง งั้นฉันไปเอาลูกซองก่อน”
สมหมายจะไปเอาปืนในบ้าน แต่โดนสมศรีดึงไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยว!”
“อะไรอีกล่ะ..แม่ศรี นี่อย่าบอกนะว่าเป็นห่วงกลัวไอ้ฟงมันจะโดนผัวเธอยิงตาย”
“ตาบ้า! ตาหมายบ้า โกรธจนไม่ลืมหูลืมตา ฉันห่วงแกนั่นแหละ ปืนลูกซองกระบอกเดียวเนี่ยนะจะบุกไปสู้กับไอ้พวกมาเฟียเป็นโขยง นึกว่าตัวเองเป็นพระเอกหนังบู๊รึไงห๊า พระเอกคนเดียวแต่ยิงผู้ร้ายตายเรียบ เชอะ”
สมหมายหน้าจ๋อยไป
“จริงของป้าศรีนะลุงหมาย ไอ้พวกนั้นตะละคน มันโหดร้าย”
คำปุยรีบพูด แคบหมูทำท่าสยอง เหมือนอยู่ในเหตุการณ์
“จริงจ๊ะ..อำมหิต มาเฟีย นรกส่งมาเกิด”
“เงียบไปเลยทั้งคู่ แหม นอนหลับเป็นตายอยู่ในรถ ยังจะกล้าพูด นี่ถ้าไม่ได้ขุนทองช่วยไว้ ป่านนี้ฉันคงกลายเป็นผีเฝ้าป่าไปแล้ว”
คำปุยกับแคบหมูจ๋อยไป สมหมายกับสมศรีหันไปมองเจ้าคุณที่นั่งอยู่ ใบหน้ามีรอยฟกช้ำเพราะเป็นคนเข้าไปช่วยสมใจ
“โถ...ไอ้ขุนทองเอ๊ย”
สมหมายมองอย่างเริ่มเห็นความดีของเจ้าคุณ สมใจแอบส่งสายตาในความมภูมิใจในตัวเจ้าคุณที่กล้าเข้าช่วยตัวเองจากโจรไว้ได้

เวลาถักมา สมใจถือลูกประคบ นำมาโปะไว้บนรอยช้ำที่หน้าเจ้าคุณ
“โอ๊ย! เบาๆ”
เจ้าคุณร้องโอดโอย
“อะไร แค่นี้เจ็บ ทีตะกี๊โดนอัดผลัวะๆ ไม่เห็นร้อง”
สมใจค้อนใส่ เจ้าคุณเผลอตอบอย่างลืมตัว
“อ้าว! ก็ตอนนั้นมันมัวแต่ห่วงนี่”
สมใจชะงัก เจ้าคุณก็ชะงักตาม สองคนมองหน้ากัน แล้วสมใจก็จิ้มลูกประคบพรวดเข้าไปอีกเต็มหน้าเจ้าคุณด้วยความเขิน
“โอ๊ย!”
“อุ๊ย! โทษๆ เจ็บมั้ย”
คราวนี้หน้าสมใจใกล้เข้ามาอีก เจ้าคุณยังไม่ตอบ
“ขอบใจมากนะ”
สมใจเอ่ยขึ้น เจ้าคุณมอง
“ขอบใจที่ช่วยฉัน..อยู่ข้างๆ ฉัน..ไม่ทิ้งฉัน”
เจ้าคุณฟังแล้วใจหายวูบ เพราะวันหนึ่งอาจต้องทิ้งสมใจไปด้วยความจำเป็น
“นายจะไม่ทิ้งฉันใช่มั้ย...ขุนทอง”
เจ้าคุณอึ้ง พูดไม่ออก ได้แต่มองหน้าสมใจ
“ฉันก็จะไม่ทิ้งนาย...เอ่อ...คือ...ถ้าต่อไปนายมีเรื่องเดือดร้อน ฉันก็จะไม่ทิ้งนาย ฉันจะช่วยนาย เหมือนที่นายเคยช่วยฉันไว้ไง”
สมใจยิ้มให้เจ้าคุณ ส่วนเจ้าคุณพยายามยิ้มตอบเช่นกัน
“มา..คราวนี้จะเบาที่สุดเลย...รับรอง!”
สมใจชูลูกประคำดูแลแผลเจ้าคุณต่อ เจ้าคุณยื่นหน้าให้แต่โดยดี สมใจรู้สึกดีในขณะที่เจ้าคุณมองสมใจอย่างรัก แต่แอบครุ่นคิดภายในใจด้วยความกังวล

เช้าวันต่อมา ที่ไร่ชาม่วนใจ๋
“อะไรกัน ฉันไม่อยู่แค่ไม่กี่วันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ใจ๋ไม่เป็นอะไรแน่นะ”
สมใจเก็บใบชาอยู่ มีแคบหมูคอยเงี่ยหูฟังอยู่แถวนั้นด้วย
“แน่ซิ...ปลัดก็เห็นอยู่ว่าฉันยังไม่ตาย”
“ใจ๋! ทำไมพูดอย่างนี้”
“ล้อเล่น”
สมใจพูดไปขำไป แต่ดูเหมือนปลัดจืดจะไม่ขำด้วย
“แถมยังเสียใจมากด้วยที่ช่วยเหลืออะไรใจ๋ไม่ได้เลย”
สมใจแกล้งเฉไฉเด็ดใบชาต่อ แคบหมูเหล่ตามองเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนปลัดจืดยังยืนหน้าเศร้าอยู่
“ไม่เอาน่าปลัด อย่าคิดมาก ปลัดไม่ใช่ซูเปอร์แมนนะ ที่จะโผล่ไปช่วยคนโน้นคนนี้ได้ตลอดเวลา”
“พี่ใจ๋พูดถูก”
ปลัดจืดหันขวับ หวานเจี๊ยบตาลุกวาวขึ้นมาทันที
“ปลัดจืดไม่ใช่ซูเปอร์แมน แต่เป็นไอ้กระจอก ไม่มีน้ำยา สู้อ้ายขุนทองก็ไม่ได้ซักนิด”
“หวานเจี๊ยบ!”
สมใจดุหวานเจี๊ยบ
“ช่างเถอะใจ๋...”
หวานเจี๊ยบตกใจที่วันนี้ปลัดจืดไม่โต้ตอบเช่นทุกครั้ง
“ฉันมันไอ้กระจอกอย่างที่หวานเจี๊ยบพูดก็ถูกแล้ว แต่ที่เธอพูดผิดก็คือเรื่องที่ฉันสู้ขุนทองไม่ได้”
“ฉันพูดผิดตรงไหนยะ ก็นายมันสู้อ้ายขุนทองไม่ได้ซักกะเรื่อง”
หวานเจี๊ยบลอยหน้าลอยตา ปลัดจืดรีบสวน
“เรื่องอื่นฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าถ้าเป็นเรื่อง รักและเป็นห่วงใจ๋ ฉันไม่เคยแพ้ใครทั้งนั้น จำไว้นะใจ๋”
พูดจบปลัดจืดเดินออกไปทันที ทิ้งให้สมใจ หวานเจี๊ยบ และแคบหมู อ้าปากค้าง
“พระเอก..พระเอกชัดๆ”
แคบหมูพึมพำ หวานเจี๊ยบหายอึ้งแล้วว่าปลัดจืดต่อ
“อ้วก! พระเอกลิเกอ่ะซิ อ้วกแตก เลี่ยนเว๊ย พี่ใจ๋อย่าไปฟังมันนะ..จะอ้วก”
หวานเจี๊ยบกันมาเกะแขนสมใจ ที่แอบสงสารปลัดจืดอยู่ไม่น้อยเจ้าคุณซึ่งยืนเด็ดใบชาอยู่แถวนั้น โดยที่ไม่มีใครทันเห็น เจ้าคุณได้ยินหมดแล้วทุกอย่าง

เวลาต่อมา เจ้าคุณเดินด้วยอารมณ์เซ็ง เข้ามายืนทอดสายตามองไปไกลๆ หลับตาแล้วสูดลมหายใจลึกๆ แล้วกวาดตามองความสวยงามของม่วนแต๊
“ฉันจะได้อยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน”
เจ้าคุณบ่นกับตัวเอง
“บ่นอะไรขุนทอง”
เจ้าคุณสะดุ้ง เมื่อเห็นสมใจเดินเข้ามาหามีปิ่นโตเล็กๆ ในมือมาด้วย
“ปะ....เปล่า”
เจ้าคุณรีบปฏิเสธ
“โกหก! ตะกี๊ชั้นได้ยินอ่ะ นี่ อย่าโกหกฉันนะ รู้มั้ยว่าฉันเกลียดคนโกหกที่สุดในโลก”
เจ้าคุณอึ้ง
“ถ้าฉันรู้ว่าใครบังอาจโกหกชั้นล่ะก็ ฮึ่ม ชาตินี้ชาติหน้าอย่าหวังว่าจะได้เจอะเจอกันอีกเลย”
เจ้าคุณหน้าจ๋อยขึ้นมาทันที
“เฮ๊ย! เป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่า ทำไมหน้าซีดเชียว ตัวร้อนรึเปล่า”
สมใจเอื้อมมือไปแตะหน้าผากเจ้าคุณ แต่เข้าคุณเบี่ยงหลบ จนไปจับมือสมใจไว้
“เปล่า”
สมใจมองมือตัวเองที่เจ้าคุณจับไว้ เจ้าคุณรู้ตัวก่อนจึงรีบปล่อย
“..ขอโทษ”
สมใจยิ้มเขิน
“ตัวก็ไม่ร้อน หิวข้าวล่ะซิ นี่ ข้าวนึ่ง หมูจิ้น น้ำพริกหนุ่ม เดอลิเวรี่ แม่ฉันฝากมาให้นายแทนคำขอบใจที่เมื่อคืนนายช่วยฉัน”
เจ้าคุณซึ้ง
“เอ๊า จะยืนอีกนานมั้ย นั่งลง!”
เจ้าคุณรีบนั่งลงอย่างว่าง่าย สมใจจัดแจงกับข้าว เห็นแล้วถึงกับหิวเช่นกัน
“หูย...เห็นแล้วน้ำลายจะหก ขอแจมด้วยได้ป่ะ?
“ได้ซิ..ก็ของแม่เธอ จะต้องมาขอทำไม”
“ของแม่ฉันที่ไหน แม่ฉันเขาฝากมาให้นาย ก็ต้องเป็นของนายซิ นี่! ถึงฉันจะเป็นแม่นางบ้านนอก แต่พ่อแม่ฉันก็สอนมาดีมีมารยาทนะยะ จะกินอะไรของใคร เขาก็ต้องขอก่อน กินได้ยังล่ะ หิวแล้ว”
เจ้าคุณยิ้มอย่างเอ็นดูสมใจ
“กินเลย”
สมใจจ้วงข้าวเหนียวทันที เจ้าคุณยิ้ม มองสมใจด้วยความรัก
“เอ๊า! กินซิ”
สมใจปั้นข้าวเหนียว เจ้าคุณทำตาม จะใส่ปากแต่สมใจร้องทัก
“เดี๋ยวๆ”
เจ้าคุณมองอย่างสงสัย สมใจยื่นข้าวเหนียวในมือออกมา
“ชนกันหน่อย”
“ห๊า!”
“ข้าวนึ่งร่วมสาบานไง เราจะไม่ทิ้งกันไม่ใช่เหรอ”
เจ้าคุณอึ้งไป
“เร็วดิ”
เจ้าคุณค่อยๆ ยื่นข้าวเหนียวออกมาชนกับสมใจ
“เอ้า! ชน”
สมใจยิ้มอย่างมีความสุข แต่เจ้าคุณแอบฝืนยิ้มในใจ สมใจควักข้าวเหนียวแบ่งกับเจ้าคุณ เจ้าคุณหยิบข้าวเหนียวที่ติดปากสมใจออก ทั้งคู่ดูมีความสุขมากในข้าวร่วมสาบานมื้อนี้

หลังจากนั้น เจ้าคุณกำลังเดินกำลังเนกลับจากไร่ชาม่วนใจ๋ ไส้อั่ววิ่งกระหืดกระหอบเลยเจ้าคุณไปแล้วชะงักเบรกเอี๊ยด วิ่งกลับมาตะโกนเรียก
“อ้ายขุนทอง! เดี๋ยว!”
“อะไรวะไอ้อั่ว”
ไส้อั่ววิ่งมาหยุดหอบ เจ้าคุณยิ้มพลางหัวเราะ
“ใจเย็น....”
“...เฮ้อ! ค่อยยังชั่ว”
“มีอะไร ว่ามา”
“มีคนมาหาอ้าย”
“ใคร”
“แน้ จะไปรู้เรอะว่าใคร ก็เขามาหาอ้าย ไม่ได้มาหาฉันนี่ เออ..ว่าแต่อ้ายไปแอบมีเพื่อนเป็นฝรั่งตั้งแต่เมื่อไหร่ห๊า!”
ไส้อั่วรีบพูด เจ้าคุณยังงงว่ามีใครมาหาตนอีก
“เพื่อน...ฝรั่ง”
เจ้าคุณครุ่นคิดว่าใครกันที่มาหาตนที่บ้านม่วนแต๊

ต่อจากนั้น พอมาถึงบ้าน เจ้าคุณต้องอึ้งเมื่อรู้ว่าคนที่มาหานั้นคือแมทธิว
“ฮัล....โหล!”
“ไอ้แมท”
“ใช่แล้วไอ้คุณ เอ๊ย! อ้ายขุนทองเพื่อนรัก”

แมทธิวตาวาว มีแผนร้ายในใจ เจ้าคุณอึ้ง รู้แน่ว่าแมทธิวไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน








Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 9:35:13 น.
Counter : 255 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 7 (ต่อ)



รถกระบะสมใจวิ่งมาตามทางถนนนอกเมือง แคบหมูหลับมีขนมคามือกรนคร่อกๆ คำปุยเหล่มองเห็นแคบหมูหลับแล้ว เลยทำฟอร์มหลับซบไหล่เจ้าคุณบ้าง สมใจมองกระจกหลังอมยิ้ม ทันใดนั้นรถมีอาการผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น

“เฮ่ยๆ”
เจ้าคุณผลักหัวคำปุยกระเด็นไปโขกกระจกแล้วชะโงกถามสมใจ
“รถเป็นอะไรเหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
สมใจพยายามหักหลบจอดข้างทาง แล้วทั้งหมดก็ลงมาดู เจ้าคุณเป็นคนเห็นล้อรถข้างนึงโดนตะปู เจ้าคุณหยิบตะปูขึ้นมา สมใจวิ่มาดูด้วย
“อะไรอ่ะ โธ่เว๊ย โอ๊ย!”
สมใจโมโหเตะล้อจนเท้าเจ็บ เจ้าคุณรีบคว้าเท้าสมใจมาดู
“เจ็บมากมั้ย”
เจ้าคุณรีบถาม สมใจอึ้ง คำปุยกับแคบหมูตาโต แต่ไม่วายคว้าขนมยัดเข้าปากแบบลืมตัว จนติดคอ ฝ่ายสามใจรีบชักเท้ากลับ
“ฉันไม่เป็นไร”
เจ้าคุณก็เก้อ แล้วอึ้งไป
“อ่ะๆ สรุปว่าเท้าแกไม่เป็นอะไร แต่ตกลงว่ารถอีแก่ของแกมันเป็นอะไรห๊าไอ้ใจ๋”
สมใจคว้าตะปูในมือเจ้าคุณมาขึ้นมา
“นี่ไง!”
“ว้า!”
คำปุยกับแคบหมูอุทานพร้อมกัน แล้วเจ้าคุณมองกวาดสายตาไปทั่วบริเวณล้อรถ
“แปลก ตะปูมาจากไหนเยอะแยะ”
สมใจฟัง
“ยังกะมีคนมาโรยไว้”
สมใจเอะใจว่าทำไมเจ้าคุณรู้จักคิดสงสัย ในเมื่อติงต๊อง
“พุธโธ ธัมโม สังโฆ! ใครอ่ะ ใครโรยตะปู แล้วมันจะโรยทำไม”
“จะโรยทำไม ก็ไว้ดักปล้นเราน่ะซิเจ๊”
แคบหมูพูดจบก็ชะงักตกใจเอง
“ดักปล้น! อร้ายยยย!”
คำปุยกับแคบหมู สองคนโดดกอดกันกลม สมใจกับเจ้าคุณมองหน้ากัน ทันใดนั้นมีเสียงรถหวอแว่วมา สมใจ เจ้าคุณหันขวับ ซึ่งเป็นรถพยาบาลเข้ามาจอดเทียบ ประตูเลื่อนเปิดออก สมใจ เจ้าคุณจ้องเขม็ง แล้วตาโต
“ไอ้!...”
“หมอก้อง!”
สมใจเรียกขึ้นมาเมื่อเห็นก้องเกียรติโผล่หน้ามายิ้ม
“ไง...สมใจ”
กิ่งแก้วโผล่หน้ามา
“ไง...อ้ายขุนทอง”

เวลาต่อมา ทั้งหมดนั่งกันมาในรถกันเรียงราย ก้องเกียรติแววตามีเลศนัยเจ้าเล่ห์ทักเจ้าคุณทันที
“แย่จัง รถดันมาโดนตะปู”
เจ้าคุณรู้ทันรีบสวนกลับเพื่อนทันที
“นั่นซิ ไอ้เวรที่ไหนไม่รู้มันเอามาโรยไว้”
ก้องเกียรติสะดุ้ง
“ไอ้เวรที่ไหนอ้ายขุนทอง ไอ้โจรมากกว่าไอ้โจรห้าร้อย!”
แคบหมูรีบเสริม ก้องเกียรติกับกิ้งแก้วแอบสะดุ้ง ส่วนเจ้าคุณแอบอมยิ้มที่ได้ด่าเพื่อนแต่อีกฝ่ายโต้ตอบไม่ได้
“นั่นซิ! คุณพระคุณเจ้ายังคุ้มครองนะเนี่ย จู่ๆ คุณหมอก้องก็โผล่มาพอดี๊พอดีเลย”
คำปุยยกมือไหว้ท่วมหัว ในขณะที่ก้องเกียรติยิ้มแบบไม่เต็มใจนักในคำชม
“นั่นซิคะ พอดีจริงๆ เลย ว่าแต่หมอก้องมาทำอะไรแถวนี้เหรอคะ”
สมใจถามขึ้น จนก้องเกียรติอึกอัก
“อ๋อ..เอ่อ..”
“ก็พอดีได้รับคำสั่งให้แวะดูคนไข้แถวนี้น่ะค่ะ เพิ่งเสร็จพอดี นี่ก็กำลังจะกลับกรุงเทพฯ พอดี”
กิ่งแก้วช่วยก้องเกียรติไว้ได้ทัน คำปุยตบเข่าฉาด
“เห็นมั้ย อะไร้มันจะพอดีไปซะหมดขนาดนี้”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว เริ่มกลัวหลุดเลยรีบตัดบท
“เออ..ว่าแต่คุณสมใจจะต้องไปส่งชาที่ไหนบ้าง ขอที่อยู่เลยนะครับ เดี๋ยวผมให้คนไปส่งให้”
“อุ๊ย! ไม่ได้หรอกค่ะ คือฉัน...”
“เถอะค่ะ..ไม่ต้องเกรงใจ รถราก็ไม่มี ให้คนของเราไปส่งให้ดีกว่า”
กิ่งแก้วรีบเสริม สมใจยังคงเกรงใจ
“แต่...”
“ดีออกเจ๊ใจ๋ ไม่ต้องไปส่งชา เราก็มีเวลาไปเที่ยวอื้อเลย”
แคบหมูแทรกทันที ในขณะที่ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วตกใจเมือ่ไดยินแคบหมูพูดอย่างนั้น
“ไปเที่ยว”
“ใช่จ๊ะ สวนสนุกไงเจ๊ใจ๋”
“สวนสนุก”
แคบหมูเข้ามากอดอ้อนสมใจหวังจะได้ไปเที่ยว
“นะเจ๊นะ ฉันอยากนั่งรถไฟเหาะตีลังกา ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเสียวกะเขาซักกะที นะๆ”
“แต่ว่า...”
สมใจอึกอัก คำปุยแทรกเสริมแคบหมูทันที
“ดีเหมือนกันนะไอ้ใจ๋ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ดีมั้ยอ้ายขุนทอง เกิดมาก็คงไม่เคยตีลังกากะเขาเหมือนกันใช่มั้ย”
“อ๋อ..เอ่อ..ไม่เคย”
เจ้าคุณตอบไม่เต็มปาก
“โอเค งั้นถึงกรุงเทพฯ ปั๊บ เราจะไปเที่ยวสวนสนุกกันเล๊ย เย้!”
แคบหมูดีใจจับมือเจ้าคุณชูอย่างมีความสุข
“เย้! เย้!”
“เฮ้ย ไอ้พวกนี้นี่...”
คำปุยกับแคบหมู ทำหน้าอ้อนวอนสมใจ ส่วนเจ้าคุณยิ้มแบบนึกสนุกขึ้นมา ส่วนก้องเกียรติกบกิ่งแก้วไม่สบายใจนัก เพราะหวั่นใจจะมีคนเจ้าคุณและสมใจได้

เวลาต่อมา จอยลูกน้องของก้องเกียรติและกิ่งแก้ว ที่กำลังคีบมาม่าคำโตเข้าปาก เพราะเสียงมือถือดังทำเอาสะดุ้ง รีบรับโทรศัพท์แล้วทำตาโต
“ฮาโหล อะไรนะคะบอส ว่าไงนะคะบอส”
จอยสำลักหมี่พุ่งกระเด็น จอยอึ้งเมื่อฟังเสียงคำสั่งจากปลายสาย

ต่อจากนั้น เจ้าคุร สมใจ แคบหมู คำปุย ก้องเกียรติ และกิ่งแก้ว ทุกคนมาที่สวนสนุกที่แสนจะครื้นเครง เจ้าคุณกำลังโดนมือใครคนหนึ่งละเลงสีที่หน้า ไม่ใช่ใครแต่คือจอย แต่งตัวเป็นตัวการ์ตูน กำลังตั้งหน้าตั้งตาวาดหน้าเจ้าคุณอยู่โดยมีก้องเกียรติยืนคุม
“อยู่นิ่งๆ ค่ะ อยู่นิ่งๆ ค่ะอ้ายขา จะเสร็จแล้ว อ่ะ โอเคมั้ยคะ บอส เอ๊ย! คุณหมอ”
ก้องเกียรติมองแล้วยิ้ม
“ไอ้ก้อง ขำให้เยอะ ขำให้พอ เพราะเดี๋ยวฉันจะเตะแกให้ขำไม่ออกเลย”
“ใจเย็น..เพื่อน”
“แล้วมันเรื่องอะไร? ทำไมถึงต้องจับชั้นมาทำทุเรศๆ อย่างนี้วะ”
“อ้าว..แหม เดี๋ยวแฟนๆ จำอ้ายขุนทองได้ พวกเราก็ซวยอ่ะซิคะ”
จอยรีบตอบ
“ว่าไงนะ”
ก้องเกียรติตาเขียวใส่จอย จอยรีบปิดปากแน่น
“เปล่า..ไม่มีอะไร..คืองี้..คือ..ถ้าเกิดบังเอิญเจอเพื่อนฝูงคนรู้จักแล้วทักแกขึ้นมาต่อหน้าสมใจ แกก็ซวยซิ..จริงมั้ยเจ้าคุณ”
ก้องเกียรติรีบเฉไฉ
“เออ..ว่ะ แต่ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอวะ เฮ้ย ไอ้ก้อง ไม่เอาอ่ะ ชั้นอายเขาเว๊ย”
เจ้าคุณหยิบกระจกมาส่องหน้ารับตัวเองแทบไม่ได้
“อายใคร อายสมใจน่ะเหรอ”
ก้องเกียรติถาม เจ้าคุณหลบตา
“ไม่ต้องอาย”
เจ้าคุณมองก้องเกียรติ อีกฝ่ายหันมองไปอีกทางหนึ่ง
“เฮ๊ย!”
กิ่งแก้วดึงสมใจเข้ามา สมใจหน้าเปื้อนสีไม่แพ้เจ้าคุณ แต่พอเห้นเจ้าคุณสมใจก็แอบตกใจไม่ต่างกัน
“เฮ้ย!”
คำปุยกับแคบหมู กระโดดเข้าร่วมแจมด้วย
“จ๊ะเอ๋!”
“เฮ๊ย!”
ทั้งหมดขำกันกลิ้ง
“คนเมืองนี่ใจดีจัง มาเที่ยวสวนสนุกมีแต่งหน้าให้ฟรีด้วย นี่ขนาดยังไม่ทันจะเริ่มเล่นก็ม่วนนักๆแล้ว นี่ถ้าเข้าไปเล่นรถไฟเหาะตีลังกามันจะม่วนขนาดไหนเนี่ยเจ๊ใจ๋”
แคบหมูสนุกชอบใจ สมใจก็ร่าเริงไปดว้ยในเวลานี้
“เออ..งั้นรีบเข้าไปเล่นกันเหอะเร็ว! หมอก้อง คุณพยาบาลไปเล่นด้วยกันมั้ยคะ”
“เชิญพวกคุณเถอะครับ เดี๋ยวผมรอแถวนี้ดีกว่า เผื่อมีใครเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมา”
“งั้นไปกันเหอะ (ชูมือขึ้นนำขบวน พร้อมสมใจ แคบหมู) ลุย!”
คำปุยดูท่าทางมีความสุข สามสาวก็วิ่งกรูกันออกไปราวกับเด็ก เหลือเจ้าคุณที่มองตามด้วยรอยยิ้ม ก้องเกียรติบอกให้เจ้าคุณไปสนุกตามบรรดาสาวๆ
“ไปซิ..สนุกให้เต็มที่ เพื่อน!”
แคบหมูกับคำปุยวิ่งกลับมาลากเจ้าคุณไปด้วย
“ไปเร็ว อ้ายขุนทอง”
“น่ารักเนอะ”
กิ่งแก้วเห็นความน่ารักของเจ้าคุณและสาวม่วนแต๊ในความเป็นธรรมชาติ ไม่นานนักทีมงานหนึ่งคน วิ่งเข้ามา
“ไง...เรียบร้อยมั้ย”
ก้องเกียรติถาม
“ซ่อนกล้องไว้ 8 ตัว เรียบร้อยครับบอส”
ทีมงานตอบอย่างมั่นใจ ส่วนจอยพนมมือขอให้ทุกอย่างราบรื่น
“เจ้าประคู้น ขอให้ทุกอย่างราบรื่นฉลุยๆ ไม่มีอุปสรรคใดๆ ไม่มีมารตัวไหนมาผจญด้วยเถิ๊ด”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วหันมามองหน้ากัน แล้วเคาะกะโหลกจอยไปหนึ่งที
“นี่แน่ะ อย่าพูดจาเป็นลางงั้นซิ”
“เอ๊า หนูเปล่านะคะบอสกิ๋ง หนูแค่พูดกันเหนียวไว้ก่อนเฉยๆ”
“ไม่มีหรอกน่า มารที่ไหนมันจะมาผจญ จริงมั้ย”
ก้องเกียรติยิ้มให้กิ่งแก้ว ก่อนที่รอยยิ้มจะจางลงแล้วครุ่นคิด

ต่อจากนั้น คำปุยลากทุกคนเข้ามาที่เครื่องเล่นเบบี๋
“ว๊าย! ไม่เอาอ่ะเจ๊ปุ๋ย เครื่องเล่นเด็กน้อยหยั่งงี้ชั้นจะไปนู่น รถไฟเหาะตีลังกา”
แคบหมูไม่ร่วมด้วย
“อร้าย! ฉันกลัว ฉันเสียว เชิญแกไปตีลังกากะไอ้ใจ๋ละกัน ส่วนชั้นขอเล่นไอ้นี่กับอ้ายขุนทองกันสองคนก็ได้”
“โหย ดัดจริต นี่นังปุ๋ย ถึกหยั่งแกอย่าว่าแต่ตีลังกาเลย ต่อให้โดนรถไฟทับทั้งขบวนแกก็ไม่สะเทือน ไปๆ เวลามีน้อย ไปรถไฟเหาะตีลังกากันเลยดีกว่า เร็ว!”
สมใจรีบลากคำปุยไปด้วย คำปุยบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ยอมตามสมใจออกไป เจ้าคุณมองตามส่ายหน้าขำกับกิริยาของสมใจและคำปุย แล้วเดินตามไป แต่ไม่นานนักก็ตัดภาพมาที่แมทธิวที่ตามมาด้วยแต่ไม่ได้ ซึ่งมีเอมี่ตามมด้วย
“จะบ้าเหรอแมท แทนที่จะพาเอมี่ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ซักชุด แล้วก็ไปสปง สปาให้สบายตัว กลับพามาเที่ยวสวนสนุกเนี่ยนะ โห ร้อนจะตาย น่าเบื่อ”
เอมี่บ่นตามเคย
“เธอนั่นแหละเอมี่ อย่าทำตัวน่าเบื่อนักเลย มิน่า ไอ้คุณมันถึงได้ทิ้ง”
“อะไรนะ เมื่อกี๊แมทว่าไงนะ ใครโดนใครทิ้ง”
“ก็เธอน่ะซิเอมี่ เธอนั่นแหละโดนไอ้เจ้าคุณมันเคี๊ยะทิ้งตั้งนานแล้ว ยังไม่รู้ตัวอีกเรอะ”
แมทธิวด่าเอมี่ซ้ำอีก เอมี่ตะลึง กรี๊ดสนั่น
“ไม่จริง พูดจาอะไรระวังปากหน่อยนะแมท คนอย่างเอมี่ไม่มีวันจะโดนเจ้าคุณเขี่ยทิ้งเด็ดขาด
“งั้นไม่พูดก็ได้ ให้ดูเลยดีกว่า”
แมทธิวควักมือถือขึ้นมากดรูปเจ้าคุณกอดสมใจให้เอมี่ดูให้เต็มตา เอมี่แทบช็อก
“กรี๊ด เจ้าคุณ กะอีนังบ้านนอก”
“ใช่! ไอ้คุณกับแฟนใหม่ของมัน”
เอมี่กรี๊ดสนั่น โกรธที่กำลังจะถูกแย่งเจ้าคุณไป

บนรถไฟเหาะตีลังกา สมใจนั่งกับแคบหมูด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นคำปุยนั่งคู่เจ้าคุณ 3สาวกรี๊ดกันกระจายรวมทั้งเจ้าคุณด้วยที่รู้สึกปลดปล่อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ไหน พวกมันอยู่ไหน แมท จะยืนบื้ออยู่ทำไม ช่วยเอมี่หามันหน่อยซิ”
เอมี่ถามอย่างโกรธ
“ใจเย็นๆ พวกมันอยู่ที่นี่ชัวร์”
แมทธิวพูดด้วยน้ำเสียงไม่ปรารถนาดี
“อยู่ที่นี่ แล้วมันอยู่ตรงไหนล่ะ โธ่เว๊ย!”
เอมี่ฟึดฟัดพุ่งออกตามหาต่อไป แมทธิวยิ้มสะใจ
“ไอ้คุณ แกเละแน่คราวนี้ ฮ่าๆ”

เวลาต่อมา เจ้าคุณแหกปากร้องเต็มที่บนเครื่องเล่น สมใจนั่งเรียงถัดไป โดยมีแคบหมูกับคำปุยทมี่กรี๊ดสนั่นอย่างสนุกสนาน ต่อด้วยเครื่องเล่นอีกเครื่อง เจ้าคุณนั่งคู่สมใจและแอบมองตากันเป็นระยะ แคบหมูนั่งกับคำปุย โดยแคบหมูอาเจียนใส่ถุงจนเจ้าคุณและสมใจแอบขำ
“ขำอะไร คนอ้วกแตกมันขำตรงไหนห๊า อ้วก!”
ทุกคนขำกันตัวงอ
“ไงล่ะนังแค๊บ หนอย อยากจะเสียว เกิดมาไม่เคยเสียว เสียวสะใจมั้ยละแก”
คำปุยแซวแคบหมู
“ไม่สงสารแล้วยังเสียดสี เดี๋ยวอีแค๊บอ้วกใส่ซะเลยนี่”
แคบหมูทำท่ายื่นหน้าจะอ้วกใส่ คำปุยโดดหลบหลังเจ้าคุณ
“นังบ้า อย่านะ อ้ายขุนทองช่วยด้วย”
สองคนวิ่งไล่แอบหลังเจ้าคุณกะสมใจไปมา สุดท้ายเอาเจ้าคุณกับสมใจเป็นเกราะกำบัง ทำให้เจ้าคุณกับสมใจประจันหน้ากันจนแทบจะชนกัน สองคนมองตากันนิ่ง ในขณะที่ เอมี่กับแมทธิว เดินใกล้เข้ามา ซักพักก็สะดุ้งโหยงเพราะเสียงแคบหมูแว๊ดขึ้น
“เอ๊า! เลิกมองตากันได้แล้ว ฉันกับเจ๊ปุ๋ยเลิกตีกันตั้งนานแล้ว”
สองคนรีบผละออกจากกันเขินๆ
“เอ่อ อยากเล่นอะไรต่อล่ะนังแค๊บ รีบไปกันเถอะ”
“ไม่ไหวล่ะ ฉันจะอ้วก พวกเจ๊ไปเล่นกันเหอะ”
แคบหมูยอมแพ้ แต่สมใจยังท้าอยู่
“เฮ่ย ได้ไง มาด้วยกันก็ไปด้วยกันซิ ที่สำคัญแกเป็นคนร้องจะมาเที่ยวที่นี่เองนะนังแค๊บ ไป!”
แคบหมูดีดดิ้น ไม่ยอมไป
“ไม่ไหว..แค๊บไม่ไหว”
เอมี่กับแมทธิวยิ่งเดินเข้ามาใกล้อีก
“นี่ นังแค๊บ หยุดแอ๊บเลย เดี๋ยวแม่ตบดิ้น”
คำปุยเงื้อมือ แต่แคบหมูหันมาค้อนใส่
“หยุดแล้ว เจ๊โหด”
“ขุนทอง..อยากเล่นอะไรต่อ”
สมใจหันมาถาม
“ล่องแก่งมั้ย หรือบ้านผี”
เจ้าคุณตอบเชิงเสนอตัวเลือกให้ด้วย
“เออ..ดี เอ๊ะ นายรู้จักได้ยังไง นายไม่เคยมาไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ...”
เจ้าคุณอึ้ง เกือบหลุดแต่เหลือบเห็นป้ายบอกทางพอดีเลยหาทางออกได้
“นี่ไง....”
“อ๋อ...”
สมใจเห็นป้ายบอกทาง จึงไม่ได้สงสัยอะไร
“เอ้า! จะไปกันรึยังล่ะ”
แคบหมูรีบเร่ง
“ไปๆ”
ทังหมดพากันออกไป ซักพัก เอมี่กับแมทธิวเดินเข้ามาหยุดยืน
“แมท! แน่ใจนะว่านังนั่นมันมาที่นี่กับคุณคะคุณขา”
“แน่ยิ่งกว่าแน่”
“แล้วมันไปอยู่ที่ไหน ทำไมไม่เจอมันซักที หึ้ยๆ”
เอมี่หงุดหงิดที่ยังหาเจ้าคุณกับสมใจไม่เจอ แต่แมทธิวยิ่งแอบสะใจ

เวลาเดียวกัน ก้องเกียรติแทบชะงักเมื่อเห็นเอมี่และแมทธิวอยู่ในมอนิเตอร์ด้วย
“เฮ๊ย!”
“อะไรเหรอ”
กิ่งแก้วถาม ก้องเกียรติชี้ไปที่มอนิเตอร์
“ดูนี่ซิ!”
“เอมี่ แมทธิว!”
กิ่งแก้วอุทาน ทั้งสองมองหน้ากันอย่างรู้ว่าแมทธิวและเอมี่ไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน

สมใจ เจ้าคุณ คำปุยและแคบหมู สี่คนเดินมาถึงบริเวณเกมโซนยิงปืน แคบหมูดูตื่นเต้นกว่าใครเพื่อน
“เจ๊ใจ๋ ฉันอยากได้ตุ๊กตา น่ารักอ่ะ”
“ไปซื้อเอาจะง่ายกว่ามั้ยนังแค๊บ ยิงเท่าไหร่ถึงจะได้ตุ๊กตาห๊า”
“ลองดูเหอะน่า”
เจ้าคุณแนะ
“เย้!”
แคบหมูดีใจยกใหญ่
“เอ๊ะ ขุนทองนี่ นังแค๊บมันจะไปยิงโดนได้ยังไง”
“ใครบอกว่าแค๊บ ฉันจะยิงให้เอง”
พูดจบเจ้าคุณแบมือขอเงินสมใจ
“นายเนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะ เสียดายตังค์”
“น่า ลองดู ขอแค่ครั้งเดียว”
สมใจไม่มั่นใจในฝีมือเจ้าคุณ
“ครั้งเดียว 3 นัดเนี่ยนะ”
“อืมม์ 3 นัด”
สมใจจ้องเจ้าคุณอย่างลังเล
“น่า..เจ๊ แค่ครั้งเดียวจะขี้เหนียวไปไหน”
แคบหมูอยากได้ตุ๊กตาตัวสั่น เลยโดนสมใจเคาะหัวเข้าให้
“นี่แน่ะ นังแค๊บ กำลังจะใจอ่อนอยู่เลย เดี๋ยวก็อดหรอก”
“ใจ๋..เหอะน่า..หนุกๆ”
คำปุยเชียร์เจ้าคุณให้ยิง สมใจไม่เต้มใจให้แต่ก็ยอมโดยดี
“โอเค”
สมใจควักตังค์ส่งให้พนักงานอย่างอดเสียดายไม่ได้
“ถ้าไม่ได้นะ”
สมใจทำท่าเชือดคอเจ้าคุณ สามคนยืนลุ้นให้เจ้าคุณยิงได้ นัดแรกไม่โดนอะไรเลย นัดที่สองก็ยังไม่โดนอีก สามคนเริ่มเซ็ง
“ไปเหอะๆ เสียเวลา ไม่ต้องยงไม่ต้องยิงแล้ว”
“เดี๋ยวซิเจ๊”
เจ้าคุณรั้งสมใจไว้ก่อน
“เอ๊ะ บอกให้ไปก็ไปซิ”
เจ้าคุณหันมาด้วยอารมณ์เซ็ง หันหลังแล้วยิงนัดสุดท้ายสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ตั้งใจยิ่ง แต่ปรากฎโดนเป้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ คำปุยแค้บหมูกันมาเฮดีใจ ส่วนสมใจกับเจ้าคุณยังงงไม่หาย
“เอาตัวไหนพี่ เลือกเลย”
พนักงานบอก แคบหมูดีใจสุดขีด
“ไชโย้! เอาตัวนั้นจ้ะ”
สมใจเหวอ มองหน้าเจ้าคุณ เจ้าคุณยักไหล่บ่งบอกถึงความเจ๋งในการยิงของตัวเอง แคบหมูหันมากอดคำปุย สมใจและเจ้าคุณ
“เย้ ดีใจจัง ขอบใจนะเจ๊ ขอบใจนะอ้ายขุนทอง คนเก่งของนังแค๊บ ทั้งหล่อทั้งเก่งขนาดๆ”
เจ้าคุณยิ้มแฉ่ง สมใจแอบค้อนใส่ ทันใดนั้นเจ้าคุณชะงัก หุบยิ้มทันทีเมื่อเห็นแมทธิวกับเอมี่โผล่มาไกลๆ จากมุมหนึ่ง เจ้าคุณรีบหันหลังให้พร้อมกับจับสมใจหันหลังใส่แมทธิวกับเอมี่ด้วย
“รีบไปกันเถอะ”
“แหม...ฉันก็อยากได้เหมือนกันนะ ยิงให้ฉันมั่งซิอ้ายขุนทอง”
คำปุยอยากได้เหมือนกัน
“ชู่ว์ว! อย่าเสียงดัง”
เจ้าคุณกลัวเอมี่กับแมทธิวจะได้ยินชื่ออ้ายขุนทอง สมใจเกิดสงสัยขึ้นมา
“ทำไม ทำไมจะเสียงดังไม่ได้”
“เอาน่า รีบไปเล่นต่อกันดีกว่า”
เจ้าคุณชวนไปตรงจุดอื่น ทุกคนเดินออกไปอีกทาง พอดีกับที่แมทธิวหันมาเห็นหลังไวๆ ของเจ้าคุณ
“ไอ้เจ้าคุณ!”
แมทธิวออกวิ่งทันที
“แมท รอมี่ด้วย รอด้วย”

เอมี่วิ่งตามแมทธิวออกไป
ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าคุณ สมใจ คำปุย และแคบหมู ก็พากันมาอยู่ที่หน้าบ้านผีสิง

“เอ๊ะ! จะรีบไปไหนของนายห๊ะ ขุนทอง”
พูดไปพลางมองด้านหลังไป เร่งโดยที่สามสาวไม่รู้ตัว
“ก็มัวแต่ช้า เดี๋ยวสวนสนุกเขาปิดก็อดเล่นกันพอดี”
“เฮ๊ย! บ้านผีสิง”
แคบหมูตกใจ คำปุยก็เช่นกัน
“อร้าย! ไม่เอา ฉันไม่เข้านะ ฉันกลัว”
แต่ไม่ทัน เพราะเจ้าคุณกระชากทุกคน เข้าบ้านผีสิงไป เจ้าคุณหันหลังมองๆดูแมทธิวอีกครั้งไม่นานนัก แมทธิววิ่งตามมาหยุดยืน แต่ยังไม่ทันเห็นเจ้าคุณ
“ไปไหนแล้ววะ หึ้ย!”
เอมี่วิ่งตามมาอย่างหอบ
“แมท! รอมี่ด้วยซิ”
“ก็มัวแต่ช้าอย่างนี้ไง ยัยสมใจถึงได้ฉกไอ้คุณไปได้”
“หยุดนะ! อย่ามาพูดจาไม่เข้าหู ถึงนังบ้านนอกนั่นมันจะฉกเจ้าคุณไป แต่ก็ฉกได้แค่ชั่วคราว คอยดูนะ มี่จะฉกกลับมาให้แมทดู”
“ดี! อยากดูเต็มแก่แล้ว อย่ามัวแต่โม้เลย ไป”
แมทธิวคว้ามือเอมี่วิ่งตามหาเจ้าคุณและสมใจต่อ
“ว๊าย! จะไปไหน”
“จะไปไหน ก็นี่ไง”
เอมี่มองเห็นเป็นป้ายบ้านผีสิง อุทานตาโต
“บ้านผีสิง ว๊าย! ม่าย!”
แมทธิวกระชากเอมี่ตัวปลิวเข้าบ้านผีสิงในสวนสนุกไปอย่างรวดเร็ว

เวลาต่อมา บรรยากาศในบ้านผีสิงบ้านผีสิงดูน่ากลัว สมใจเดินนำเข้ามาอย่างไม่กลัว คำปุยกับแคบหมูเดินกอดกันกลมตามมา เจ้าคุณเดินรั้งท้ายยังคงเหลียวหลังมองระวังแมทธิว สักครู่มีผีทำให้คำปุยกับแคบหมูตกใจสุดขีดโดดกอดเจ้าคุณแน่น
“โธ่เอ๊ย ไอ้พวกนี้ขี้ป๊อด ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน”
ทันใดนั้นผีโผล่มาเต็มหน้า สมใจกรี๊ดลั่นโดดกอดเจ้าคุณแน่นเช่นกัน
“ว๊าย!”
สมใจยังกอดเจ้าคุณแน่นอยู่ คำปุยกับแคบหมูยืนท้าวสะเอวเหล่สุดฤทธิ์
“ไม่เห็นจะน่ากลัว น่ากลัวตรงไหน”
คำปุยกับแคบหมูแดกดัน สมใจรู้สึกตัว มองเจ้าคุณอย่างเสียฟอร์ม
“แหม ก็นิดหน่อย พอให้ได้ฟิล”
“ได้ฟิลอะไรของแกยะ ได้ฟิลกลัวผีหรือว่าได้ฟิลกอดอ้ายขุนทอง ฮ่าๆ”
คำปุยกับแคบหมูหัวเราะประสานเสียงกันลั่น เจ้าคุณอมยิ้มมองสมใจ
“ไอ้บ้า กลัวผีซิยะ ใครจะอยากกอด”
“ว๊าย! ใครจะอยากกอดจ๊ะ”
คำปุยกับแคบหมูล้อสมใจกันใหญ่
“เดี๋ยวเหอะไอ้พวกนี้ เดี๋ยวฉันจะเป็นผีหักคอพวกแกเองซะเลย เอามั้ย”
“อูย...กลัวผีจังเลย”
“กลั๊วกลัวอ่ะ”
คำปุยกับแคบหมูล้อไม่เลิก เจ้าคุณจึงรีบตัดบท
“เดินต่อเหอะ จะได้เล่นอย่างอื่นต่อได้เยอะๆ”
ทั้งหมดเริ่มเดินต่อ แมทธิวเดินพรวดๆ มา แล้วเอมี่ตามเข้ามากอดแขนแน่น
“ช้าๆ หน่อยซิแมท รอมี่ด้วย”
“ปัทธ่อ! มัวแต่ช้าเดี๋ยวก็ตามไอ้คุณมันไม่ทันพอดี”
“ก็มี่กลัวนี่”
“ไปๆ รีบไป”
แมทธิวเดินออกไปโดยมีเอมี่เกาะแน่น อีกมุมเป็นผีโผล่เข้ากล้อง แคบหมูกับคำปุย กรี๊ดกันสนุกสนาน โดยทั้งหมดกระโดดเกาะเจ้าคุณแน่น เจ้าคุณไม่ค่อยสนใจคอยระแวงหลังไว้ แมทธิวได้ยินเสียงกรี๊ดแว่วๆ ก็ทำตาวาวจะรีบวิ่งตามเสียง แต่เอมี่ดึงไว้
“แมท ช้าๆ ซิ มันมืดตึ๊ดตื๋อ มี่มองไม่ค่อยเห็น มี่กลัว”
“งั้นรออยู่ตรงนี้แหละ ผมจะไปดักไอ้พวกนั้นไว้ก่อน”
พูดจบแมทธิววิ่งออกไปทันที
“ไม่นะ แมท ไม่นะ ม่าย!”
แมทธิวออกไปแล้ว เอมี่ยืนสยองขวัญตัวแข็งอยู่อย่างนั้น กรอกตาไปมาอย่างหวาดกลัว
“เอมี่...”
เสียงเรียกชื่อเอมี่ดังขึ้นเย็นยะเยือก
“ใครอ่ะ เสียงอะไรอ่ะ”
“เอมี่...”
เสียงเรียกชื่อเอมี่ดังขึ้นอีก ยะเยือกกว่าเดิม จนเจ้าของชื่อจะร้องไห้
“เฮ๊ย! เรียกชื่อฉันทำไม”
“ไปอยู่ด้วยกันมั๊ย!”
เอมี่ขนหัวลุก
“ม่าย!”
เอมี่หันหลังกลับจะออกทางเก่าแต่ต้องสะดุ้งเฮือก เพราะจอยแกล้งแต่งหน้าผีตาห้อยโผล่พรวดมาเกือบหน้าชนเอมี่
“แฮ่!”
“กรี๊ด!
แมทธิวกำลังเดินอยู่กลับชะงักเมื่อได้ยินเสียงเอมี่กรี๊ดสนั่น
“เอมี่”
“กรี๊ด! ช่วยด้วย!”
“เฮ๊ย!”
แมทธิวลังเล ก่อนจะตัดสินใจกลับไปหาเอมี่
“เกิดอะไรขึ้นเอมี่ เป็นอะไร”
เอมี่ยังยืนแข็งอยู่ที่เดิม หลับตาปี๋ ขนหัวลุก แมทธิวเห็นยสภาพเอมี่แล้วถึงกับตกใจ
“เฮ๊ย! ทำไมเป็นอย่างนี้”
“ผะ..ผะ..ผะ..ผี ผีหลอกมี่”
เอมี่โผเข้ากอดแมทธิวแน่น ปากก็พร่ำว่าโดนผีหลอกอยู่อย่างนั้น แมทธิวถอนหายใจ
“เฮ้อ! เวร”

ต่อจากนั้น สมใจ แคบหมู และคำปุย วิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน หัวเราะกันกลิ้ง เจ้าคุณรีบเดินตามมา
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว ปรี่เข้ามาทันที
“อ้าว! คุณหมอ มารอเลยเหรอคะ ยังไม่มีใครเป็นลมหรอกค่ะ”
ก้องเกียรติมองตากับเจ้าคุณแบบรู้สถานการณ์กันดี
“อ๋อ..ครับ..ผมแค่จะมาบอกคุณสมใจว่ารถคุณซ่อมเสร็จแล้ว และเขาก็เอามาส่งที่หน้าสวนสนุกแล้วด้วย”
“อ๋อ..ค่ะ”
“คือ...คุณจะขับกลับม่วนแต๊เลยรึเปล่าคะ”
กิ่งแก้วถาม
“เอิ่ม...”
“โห่! ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว อย่ารีบกลับเลย นอนค้างซักคืนไม่ดีเหรอไอ้ใจ๋”
คำปุยเสนอ แต่ดูก้องเกียรติกับกิ่งแก้วจะรีบไม่เห็นด้วย
“ไม่ดีหรอกครับ/ค่ะ”
สมใจ คำปุย และแคบหมู มองหน้าก้องเกียรติกับกิ่งแก้วด้วยความงง
“เอ่อ..คือ..ลุงหมายกับป้าศรีจะเป็นห่วงทุกคนแย่เลยนะครับ”
ก้องเกียรติย้ำ
“นั่นซิ! ไม่ได้หรอกแค๊บ เดี๋ยวพ่อด่าตาย”
สมใจเห็นด้วย
“ใช่ค่ะ ใช่..ด่าเละแน่เลย”
กิ่งแก้วรีบเสริมทันที
“ถ้าจะกลับ ผมคิดว่าควรจะกลับซะตอนนี้เลยนะครับ”
ก้องเกียรติรีบบอก
“ห๊า! ทำไมอ่ะ”
สมใจสงสัย
“ก็..สวนสนุกก็ใกล้จะปิดแล้วน่ะครับ อีกอย่างถ้าออกจากที่นี่ช้า ก็จะถึงม่วนแต๊ช้าเข้าไปใหญ่”
“จริงด้วย เรารีบไปกันเถอะนะ ไป”
เจ้าคุณจับมือสมใจแล้วชวนจะกลับม่วนแต๊
“เฮ๊ย! เดี๋ยวๆ”
เจ้าคุณลากสมใจออกไป โดยไม่ฟังเสียงใดๆ ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว ลากคำปุยกับแคบหมูตามไปติดๆ ครู่หนึ่งแมทธิววิ่งตามออกมา มองซ้ายขวา ไม่เห็นใครยิ่งอารมณ์เสีย ในขณะที่เอมี่วิ่งตามออกมาในสภาพหัวฟูเพราะโดนผีหลอก
“แมท...รอมี่ด้วย...”
แมทธิวกำลังยัวะสุดขีด
“โธ่เว๊ย!”

เวลาต่อมา ก้องเกียรติรีบปิดประตูรถให้สมใจด้านคนขับ
“ขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพนะครับ”
ก้องเกียรติรับพูด
“ที่จริงไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้นะคะคุณหมอ”
สมใจโพล่งขึ้น โดยมีแคบหมูเป็นกองหนุน
“นั่นซิ จะรีบไปไหน”
“เอาน่า...วันหลังมาเที่ยวใหม่นะจ๊ะ..แคบหมูคนสวย”
กิ่งแก้วพูดเชิงปลอบ แต่แคบหมูยังคงมีอาการงอน
“โชคดีนะ..ขุนทอง”
ก้องเกียรติหันไปพูดกับเพื่อนรัก เจ้าคุณแอบส่ายหน้าอย่างอารมณ์เซ็ง
ก้องเกียรติและกิ่งแก้ว หวังว่าคงได้เจอกันอีกนะครับ สมใจออกรถไป ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วยืนมองจนรถลับสายตา สองคนหันมองหน้ากันอย่างโล่งอก ยิ้มแฉ่งให้กันแล้วหันหลังกลับมา สะดุ้งสุดขีดเจอจอยหน้าผีปะทะหน้าเต็มๆ
“เฮ๊ย!”
“ว๊าย!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วตกใจสองคนกอดกันกลม หลับตาปี๋
“บอสคะ..จอยเอง...”
สองคนลืมตาจะเอาเรื่อง
“ไอ้จอย!”
สองคนเล่นงานจอย เพราะตกใจกับหน้าผีที่แต่งไว้

เย็นวันเดียวกัน ปลัดจืดนั่งเหม่อคิดถึงสมใจอยู่ หวานเจี๊ยบขี่จักรยานเลยไปแล้วเบรกเอี๊ยด หันกลับมามอง ทำหน้าหมั่นไส้ ก่อนจะเอาเท้ายันพื้นถอยๆ กลับมาตะโกนเรียก
“นี่ เป็นปลัดกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนแล้วก็มานั่งสบายใจเฉิบเฉยๆ เงี้ยนะ ไม่ต้องทำงานทำการรับใช้ชาวบ้านเลยนะ”
ปลัดจืดอารมณ์เซ็ง ถอนหายใจอย่างรำคาญ พูดโดยไม่หันมามอง
“ก็กะว่าจะอุดปากเธอให้เงียบๆ อยู่เนี่ยแหละ เห่าอยู่นั่น ชาวบ้านเขาหนวกหูแย่”
“ว๊าย! ไอ้จืด ไอ้หน้าจืด ไอ้หน้าเต้าหู้ยี้”
หวานเจี๊ยบโกรธตัวสั่น รีบจอดจักรยานแล้วปรี่มาลุยปลัดจืดเลย
“ตะกี๊แกว่าใคร แกว่าใครเห่า”
ปลัดจืดมองแบบไม่สนใจ
“จะว่าใคร ก็อยู่ตรงนี้กัน สองคน”
“อร้าย! ไอ้ปาก ไอ้จืดปากจัด นี่แน่ะๆ”
หวานเจี๊ยบทุบปลัดรัว แต่โดนรวบมือไว้
“นี่ นอกจากจะหยาบคายแล้วยังทำร้ายปลัดอีกด้วย สองกระทงเลยนะ”
“จะให้มากกว่าสอง อีก แกด่าฉันเป็นหมาเหรอ แกซิปากจัดกัดเก่งยิ่งกว่าหมา ดูซิ ทำไมหมอถึงได้เอาเหล็กรัดแต่ฟันแก ทำไมไม่รัดปากแกไปด้วยเลยห๊าจะได้เลิกกัดซะที”
ผลักมือหวานเจี๊ยบที่รวบไว้ออกไปจนหวานเจี๊ยบเซ
“ รีบไปๆ เลยไป จะไปไหนก็ไป ฉันไม่มีอารมณ์จะทะเลาะด้วยหรอก”
“อ๋อ..อารมณ์เสีย ฮ่าๆ โดนพี่ใจ๋ทิ้งอ่ะเซ่ ไงล่ะ เขาหนีไปเที่ยวกรุงเทพฯ ทิ้งปลัดจืดให้จ๋อยอยู่คนดียว ฮ่าๆ”
โดนแซวจี๊ดใจดำ ปลัดจืดถึงกับออกอาการโกรธ
“หุบปากไปเลย ใจ๋เขาไม่ได้หนีไปเที่ยว เขาไปส่งชา”
“รู้ได้ไง ส่งชาเสร็จเขาก็อาจจะเที่ยวต่อก็ได้ อู๊ย! ป่านนี้ม่วนขนาดๆแล้ว ฮ่าๆ หมาหัวเน่า โดนทิ้งๆ”
ปลัดจืดยิ่งฟังยิ่งไม่สบอารมณ์ แถมกังวลใจหนักขึ้นกว่าเดิมอีก

เวลาต่อมา สมใจขับรถไป ส่องกระจกมองหลังเอามือเช็ดหน้าไป
“เฮ๊ย! ทำไมเช็ดไม่ออกล่ะ”
ทุกคนเอะใจ เช็ดของตัวเองบ้าง แต่ก็เช็ดไม่ออกเหมือนกันหมด
“คุณพระช่วย! หน้าสวยๆ ของปุ๋ยเละหมดเลย”
คำปุยโวยวาย เช่นเดียวกับแคบหมู
“ของฉันด้วยเจ๊”
“ไอ้ก้องนะไอ้ก้อง!”
เจ้าคุณพึมพำคนเดียว
“เออ..เจริญล่ะ ได้นั่งหน้าเป็นการ์ตูนกันไปจนถึงม่วนแต๊ล่ะ”
“หน้าเป็นการ์ตูนยังพอไหวนะเจ๊ แต่ไอ้ท้องร้องโกร้กๆ อย่างนี้อีแค๊บไม่ไหว ใจคอจะไม่แวะกินอะไรซะหน่อยเหรอเจ๊ใจ๋”
แคบหมูทักท้วง
“เออ..จริงว่ะ ลืมไปเลย”
สมใจเพิ่งนึกขึ้นได้
“หมูกะทะไงไอ้ใจ๋”
คำปุยเสนอ
“เย้! หมูกะทะ”
แคบหมูดีใจแต่เจ้าคุณสะดุ้งสุดตัว
“หมูกะทะเจ้าที่เราเคยกินกันไง จำได้มั้ย”
“โหย..จำได้ซิ ทำไมจะจำไม่ได้ นั่งกินอยู่ดีๆ ก็เกือบตายคากะทะซะขนาดนั้น ฉันไม่มีวันลืมหรอกนังปุ๋ย”
เจ้าคุณกลืนน้ำลายลำบาก
“ไอ้ไฮโซตีนผีนั่นนะ หื้ม อย่าให้เจอ อย่าให้เจอ แม่จะจับแล่เนื้อราดพริกน้ำจิ้มแล้วจุ่มกะทะโยนให้หมากินซะให้หายแค้นเลยคอยดู๊”
เจ้าคุณอาการไม่เป็นสุขทีเดียว
“เป็นอะไรอ้ายขุนทอง ไม่อยากกินเหรอหมูกะทะ อร่อยนะ เคยกินรึเปล่า”
“เอ่อ...”
“ต้องลอง ของโปรดฉันเลยนะขุนทอง เดี๋ยวกินให้เยอะๆเลยนะ แล้วจะติดใจ เชื่อซิ!”
สมใจเอ่ยขึ้น เจ้าคุณยิ้มตอบกลับหน้าแหย

ไม่นานนักต่อจากนั้น เจ้าคุณ คำปุยและแคบหมู นั่งกินหมูกะทะทั้งที่หน้ายังเลอะสีอยู่ ทุคกนกินหมูกะทะอย่างสนุกสนาน แคบหมูคีบเข้าปาก ร้อนจี๋ แต่เสียดายของประคองเคี้ยวไว้ในปาก สมใจกับคำปุยหัวเราะชอบใจ
“ใจเย็นนังแค๊บ อย่าตะกละ ทำไมไม่กินล่ะ”
สมใจถามเจ้าคุณ
“รีบๆ กินเข้า เดี๋ยวพี่ไฮโซตีนผีของไอ้ใจ๋มันซิ่งมาเสยเอาก็จะตายซะก่อนจะได้กิน ฮ่าๆ”
คำปุยโพล่งขึ้น เจ้าคุณกลืนน้ำลายลำบากเหมือนกำลังถูกด่า สมใจคีบหมูที่ปิ้งแล้วใส่จานให้เจ้าคุณ
“อ่ะ ลองชิม”
“อืมม์..อร่อย”
“อร่อยใช่มั้ยล่ะ บอกแล้ว”
สมใจดูมีความสุข
“น่าสงสารอ้ายขุนทองนะ คงไม่เคยกินมาก่อน ใช่ป่ะ”
แคบหมูถาม เจ้าคุณรีบพยักหน้า
“ไม่เคย”
“พุทโธ ธัมโม สังโฆ คนมันเกิดมาจนนี่มันก็จนจริงๆ นะ”
คำปุยเสริม เจ้าคุณสำลัก สมใจยื่นน้ำให้
“เอ้าๆ ใจเย็น ค่อยๆกินก็ได้ ไม่เคยกินก็ค่อยๆ กิน”
เจ้าคุณดื่มน้ำ แววตาสมใจมองมานึกสงสาร
“ตอนเด็กๆ นายคงลำบากมากเลยซินะ”
เจ้าคุณพูดไม่ออก หลบตาแล้วพยักหน้าตอบแทน
“ไม่เป็นไรนะ จากนี้ไป ฉันจะ....”
สมใจพูดไว้แค่นั้น เจ้าคุณ คำปุยและแคบหมูต่างรอฟัง
“เอ่อ..ชั้นจะ...ปิ้งหมูกะทะให้นายเอง...”
สามคนผิดหวัง สมใจเฉไฉไปปิ้งหมูกะทะแทน
“มันร้อน นายไม่เคยกินก็ไม่ต้อง อยู่เฉยๆ เดี๋ยวฉันปิ้งให้”
สมใจคีบหมูให้ เจ้าคุณลอบมองสมใจในความน่ารัก ทั้งหมดนั่งกินหมูกะทะกันอย่างเอร็ดอร่อยและมีความสุข

คืนนั้นหลังกินหมูกะทะเสร็จ สมใจขับรถวิ่งบนถนนนอกเมือง โดยเบาะหลังแคบหมู กับคำปุย หลับไม่รู้เรื่อง จนเจ้าคุณอดหัวเราะไม่ได้
“ทุเรศจริงๆ กินแล้วก็นอนเฉยเลย”
สมใจบ่น ส่วนเจ้าคุณแอบมองสมใจ
“ไม่ง่วงเหรอ”
เจ้าคุณถาม
“โอย...สบาย ขับอย่างนี้มาทั้งชีวิต”
“เยอะไปมั้ย ทั้งชีวิต”
“ก็...แหม ครึ่งชีวิตก็ได้อ่ะ”
เจ้าคุณมองสมใจด้วยความทึ่ง
“เธอนี่เก่งจริงๆ นะ”
สมใจรู้สึกเขินปนภูมิใจ
“แน่นอนอยู่แล้ว”
“ฉันมันไม่เอาไหน”
เจ้าคุณพึมพำกับตัวเอง แต่สมใจได้ยินไม่ถนัด
“ว่าไงนะ”
“อ๋อ...เปล่าๆ...ฉันถามว่า..ฉันขับให้เอามั้ย”
“ขับให้ นายเนี่ยนะจะขับให้ ขับรถเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ยะ มอเตอร์ไซค์ฉันยังต้องสอนให้แทบตาย”
เจ้าคุณลืมตัวเกือบหลุดแต่ก็นึกขึ้นมาได้
“มอเตอร์ไซค์น่ะขับไม่เป็น แต่ตะก่อนเคยขับรถอีแต๋นนะ”
สมใจตาโต
“จริงอ่ะ”
เจ้าคุณพยักหน้า สมใจยิ้ม
“ไม่เอาล่ะ..ไม่อยากเสี่ยง นั่งเป็นเพื่อนฉันไปงี้ล่ะดีแล้ว อย่าหลับละกัน แค่นี้ก็หนวกหูเสียงกรนจะแย่แล้ว”

สองคนขับรถไปพลางยิ้มให้กันไปพลาง จังหวะหนึ่ง เจ้าคุณส่งน้ำ แกะลูกอมให้สมใจกินแก้ง่วง คุยกันตลอดๆ อย่างมีความสุข







Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 9:34:24 น.
Counter : 219 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]