All Blog
รักออกอากาศ ตอนที่ 10(ต่อ)




ช่วงหัวค่ำวันนั้น ค่ำกิ่งแก้วรู้สึกเป็นกังวลเรื่องที่แฟนคลับโทร.เข้ามาด่ารายการไฮโซบ้านเฮาจนสายแทบไหม้

“แย่แล้วก้อง คนดูโทร.มาด่าแหลกเลยที่เราตัดสัญญาณภาพทิ้งน่ะ”
ก้องเกียรติหันมาทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก
“ตัดทิ้งที่ไหนล่ะ ไม่มีภาพจะออกอากาศตะหากล่ะ ก็สมใจออกนอกเส้นทางไปไหนก็ไม่รู้ คงจะเลยเขตที่เราตั้งกล้องดักไว้ แถมไอ้คุณก็หายไปอีกคน...เฮ้อ!”
“แล้วไงเนี่ย จะทำไงดี ป่านนี้ 2 คนนั่นไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้”

เวลาเดียวกัน รถพยาบาลเปิดไซเรนแล่นมาบนถนนโล่งๆ ในรถมีร่างเจ้าคุณซึ่งนอนไม่ได้สติอยู่ในนั้น โดยมีปลัดจืดนั่งมาด้วย และสมใจที่เอาแต่ร้องร้องไห้อยู่ข้างๆ
พยาบาลดูแลอาการเจ้าคุณอย่างใกล้ชิด แต่ดูเหมือนสมใจจะโวยวายเพราะอาการของเจ้าคุณเริ่มน่าเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น
“ไปเร็วกว่านี้ได้มั้ยคะคุณพยาบาล ทำไมขับช้าอย่างนี้”
สมใจร้องไห้แล้วโวยวายเสียงดัง ปลัดจืดรีบปลอบไม่ให้วู่วาม
“ใจ๋..นี่ก็เร็วมากแล้ว”
“ทำไมต้องเข้ากรุงเทพฯ ด้วย กว่าจะถึงขุนทองไม่ตายก่อนเรอะปลัด”
“หมอเขาก็บอกแล้วว่าที่อนามัยไม่มีเครื่องมือที่ดีพอ ถ้าขืนไม่เอาเข้ากรุงเทพฯ ซิ ขุนทองตายแน่”
“อย่าพูดอย่างนี้ซิ! ปลัดใจร้าย แช่งขุนทองได้ยังไง”
ปลัดจืดโดนพาลแบบไม่รู้ตัว สมใจโผเข้ากอดเจ้าคุณไว้แน่น
“ขุนทองต้องไม่เป็นอะไรนะ..ขุนทองต้องไม่เป็นอะไร”
ปลัดจืดหน้าเสียไป แอบใจหายเมื่อเห็น

เช้าวันต่อมา เจ้าคุณนอนอยู่บนเตียงคนไข้ และเตียงถูกเข็นพรวดออกมาตามทางเดินในโรงพยาบาล โดยมีสมใจเกาะเตียงร้องไห้เรียกชื่อเจ้าคุณตลอดเวลา ปลัดจืดวิ่งตามมาด้วยอย่างกังวลใจไม่ต่างกัน
เจ้าคุณถูกเข็นผ่านผู้คน ซึ่งต่างก็มองตามอย่างเอะใจ บางคนที่กำลังพูดโทรศัพท์อยู่ก็ชะเง้อๆ มองตามไป เจ้าคุณถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน สมใจร่ำไห้จะโผเข้าตามไปด้วยแต่พยาบาลห้ามไว้
“รอด้านนอกนะคะ”
“ใจ๋...”
“ปลัด...”
สมใจโผกอดปลัดจืดสะอื้นสุดตัว ปลัดจืดกอดรับไว้แม้ว่ากอดนี้จะเป็นกอดเพราะห่วงคนอื่น
“ใจเย็นๆ”
ปลัดจืดปลอบ
“ขุนทองจะเป็นไรมั้ย หมอจะช่วยได้มั้ย”
สมใจถามอย่างเป็นห่วง
“ช่วยได้ซิ ขุนทองต้องไม่เป็นไร”
สมใจใจชื้น สีหน้ามีความหวัง ฝืนยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะโผกอดปลัดจืดอีกครั้งอย่างหาที่พึ่งทางใจ

วันเดียวกันที่บ้านสมใจ สมหมายยังดวยวายที่ยังหาตัวสมใจไม่เจอ
“อะไรกัน ป่านนี้ยังหาไอ้ใจ๋กันไม่เจอ แย่แล้ว โธ่..ไอ้ใจ๋..มันไปอยู่ที่ไหนนะ ใครทำอะไรมันรึเปล่าเอ๊า แม่ศรี นั่งเฉยทำไม ช่วยกันคิดซิ..คิดๆ..ลูกสาวข้าทั้งคน”
สมหมายลืมตัวใส่อารมณ์กับสมศรี จนอีกฝ่ายโวยวายขึ้นมาบ้าง
“ก็ลูกสาวข้าด้วยล่ะเว๊ยตาหมาย หนอย ยังกะข้าไม่กลุ้ม ยิ่งเห็นแกเดินพล่านเป็นผีบ้าอย่างนี้ ข้ายิ่งกลุ้มคิดไม่ออกเว๊ย”
สมหมายสะดุ้ง ได้สติ สมศรีเริ่มสะอื้นด้วยความอัดอั้นเป็นห่วงสมใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ใจเย็น..ใจเย็น..ค่อยๆ คิด”
สมศรีโผเข้ากอดสามีทั้งน้ำตา
“ไอ้ใจ๋ลูกแม่..ไอ้ใจ๋หายไปไหน...ป่านนี้จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้..ไอ้ใจ๋”
สมหมายใจเสียกลั้นน้ำตาเอาไว้ ทันใดนั้นคำปุยกับแคบหมู วิ่งหน้าตั้งเข้ามา
“แย่แล้ว! แย่แล้ว!”
สมหมายกับสมศรีผละออกจากกัน
“ว่าไง เจอไอ้ใจ๋มั้ย”
สมหมายถามหาอย่างมีความหวัง
“ไอ้ใจ๋อยู่ไหน แล้วเมื่อกี๊พวกเอ็งบอกอะไร แย่แล้ว”
สมศรีรีบถามกลับ
“ เจ๊ใจ๋...”
แคบหมูหอบอยู่จึงพูดไม่จบ สมหมาบกับสมศรีรีบเร่งเอาคำตอบ
“ทำไม ไอ้ใจ๋ทำไม”
แคบหมูมองคำปุยก่อนจะพูดต่อ
“..เจ๊ใจ๋..”
“เอ็งจะพูดมั้ยไอ้แค๊บ ถ้าไม่พูด ข้าจะบีบคอเอ็งเดี๋ยวนี้”
สมหมายขู่ แคบหมูร้องโวยวายไปแอบหลังสมศรี
“น้าศรีช่วยด้วย”
“ว่าไง...นังปุ๋ย...ว่าไง”
คำปุยรีบอธิบาย
“มีคนเจอจักรยานไอ้ใจ๋ในป่า...”
“ห๊า!”
สมศรีตกใจ เป็นลมล้มพับลงไป คำปุยกับแคบหมูกรี๊ดลั่น แล้วพากนัช่วยปฐมพยาบาลสมศรี
“ไอ้ใจ๋...”
สมหมายน้ำตาคลอกห่วงลูกสาวราวใจจะขาด

เวลาเดียวกัน หน้าห้องฉุกเฉินสมใจนั่งตาลอยหมดแรงอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ปลัดจืดได้แต่ยืนมองแอบถอนหายใจ ยื่นถุงซาละเปา เครื่องดื่มให้สมใจด้วยความห่วงใย
“กินซะหน่อยเถอะใจ๋ ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
สมใจมองปลัดจืด แล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงกังวล แววตายังเศร้า
“ทำไมนานจังปลัด..ทำไมนานจัง”
สมใจน้ำตารื้น ห่วงเจ้าคุณอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่ร้องแล้วน่า...หมอเขาต้องช่วยเต็มที่ ขุนทองต้องไม่เป็นอะไร และใจ๋เองก็ต้องไม่เป็นอะไรด้วย”
สมใจเริ่มสะอื้น
“ถ้าขืนใจ๋ยังเป็นแบบนี้..ขุนทองต้องเสียใจแน่”
สมใจมองหน้าปลัดจืดอย่างเข้าใจ พยายามกลั้นสะอื้น ปลัดจืดยื่นเครื่องดื่มให้สมใจจำใจรับไว้
“ดีมาก..กินซาละเปาหน่อยนะ”
ปลัดจืดหยิบซาละเปามาแกะกระดาษออก บิเป็นคำเล็ก ค่อยๆเป่าแล้วจะป้อนสมใจ ทันใดนั้นหมอออกมา สมใจวางเครื่องดื่มแล้วพุ่งพรวดไปหาหมอทันที
“ขุนทองเป็นยังไงคะ หมอคะ..ขุนทองไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ”
สมใจรัวคำถามใส่คุณหมอไม่ยั้ง
“โชคดีที่กระสุนเฉียดอวัยวะและเส้นประสาทสำคัญไปนิดเดียว”
หมอรีบบอกอาการอย่าง สมใจยิ้มดีใจที่สุดที่ขุนทองปลอดภัย
“แต่คนไข้เสียเลือดมากนะครับ ร่างกายอ่อนเพลียเพราะเดินทางมาไกลด้วย คงยังต้องรอดูอาการในไอซียูซักระยะก่อน”
“ค่ะ..ไม่เป็นไรค่ะ..ไม่เป็นไร..ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ”
“ยินดีครับ”
หมอบอกอาการเสร็จ เดินกลับเข้าห้องไอซียู สมใจยืนอึ้งดีใจ ก่อนจะหันมามองปลัดจืดที่ยังนั่งอยู่
“ปลัด...”
สมใจโผเข้ากอดปลัดจืดอย่างดีใจ
“ขุนทองไม่เป็นไร..ขุนทองไม่เป็นไรแล้ว...”
ปลัดจืดยิ้มอย่างสบายใจ ดีใจที่เห็นสมใจไม่ร้องไห้และมีความสุข

เวลาต่อมา ก้องเกียรติทราบเรื่องแล้วว่าเจ้าคุณถูกยิงอยู่โรงพยาบาล
“แย่แล้วกิ๋ง!”
กิ่งแก้วหันมาด้วยใบหน้าเศร้า
“จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกเหรอก้อง”
“มีซิ มีคนโทร.มาบอกว่าเจอไอ้คุณกับสมใจ”
กิ่งแก้วลุกพรวด
“ห๊า! ก็ดีน่ะซิ!”
“เจอที่โรงพยาบาล”
กิ่วแก้วหน้าเสีย หุบยิ้มแทบไม่ทัน
“ในกรุงเทพฯ”
“ห๊า!”

เวลาต่อมาที่บ้านสมใจ สมศรีฟื้นขึ้นมาจากเป็นลมถีบคำปุยเข้าอย่างจัง
“นี่แน่ะ! นังปุ๋ย นังว่อก”
สมศรีด่าคำปุยพร้อมทั้งดมยาดมไปด้วย
“โธ่! น้าศรี ทำไมต้องรุนแรงกันถึงขนาดนี้”
“นี่ยังน้อยไปเว้ย! โทษฐานชักช้า พูดจาไม่รู้เรื่อง”
คำปุยโดนเคาะหัวไปอีกหนึ่งที
“โอ๊ย! ชักช้าที่ไหน ก็ฉันยังพูดไม่ทันจะจบ น้าศรีก็ใจร้อนชิงเป็นลมไปก่อนนี่นา แล้วจะมาว่าฉันได้ยังไง”
“ได้ซิเว้ย ข้าจะแถมมะเหงกให้เอ็งอีกด้วย”
สมหมายเงื้อมะเหงกเตรียมจะเขกหัวคำปุย แต่อีกฝ่ายหลบได้ทัน
“บ๊ะแล้ว! แทนที่จะรีบบอกว่ามีคนเห็นไอ้ใจ๋กับพ่อปลัดพาไอ้ขุนทองไปที่อนามัยก็ทำเป็นชักช้าโอ้เอ้”
“เออ..ว่าแต่ไอ้ขุนทองมันไปอนามัยทำไมวะ มันไม่สบายเป็นอะไร”
คำปุยและแคบหมูมองหน้ากัน คำปุยรีบกระทุ้งศอกให้แคบหมูพูด
“แกมั่งซินังแค๊บ”
“เรอะ จะดีเรอะ”
สมหมายเงื้อมะเหงก สมศรีถกผ้าถุงจะเตรียมถีบ
“นังแค๊บ!”
“พูดแล้วจ้ะ..พูดแล้ว”
“ว่าไง ไอ้ขุนทองมันไม่สบาย..เป็นอะไร”
“อ้ายขุนทอง..ไม่สบาย..เป็น โดนยิงจ๊ะ”
สมหมายกับสมศรีช็อกตาตั้ง
“โดนยิง!”

เวลาถัดมา ที่คฤหาสถ์เจ้าคุณ มะขิ่นแบกกระเป๋าเดินทางหนักอึ้งลงบันได รจนาวรรณเดินกรีดกรายแต่งตัวเต็มยศ ไปกับเอมี่
“ระวังจ้ะลูกมี่..เดินช้าๆ...ประเดี๋ยวหลานแม่จะกระเทือน”
รจนาวรรณห่วงใยเอมี่อย่างเห็นได้ชัด
“ค่ะ..คุณหญิงแม่”
มะขิ่นเอากระเป๋ามากองรวมกับที่วางอยู่แล้ว 4-5 ใบ แล้วยืนมองไมเคิลที่ยืนอึ้งอยู่หน้าทีวี
“เอ๊า! พี่ไมเคิล ยังเหลืออีก 2 ใบ ไม่ไปช่วยกันเลย กินแรงนี่หว่า”
“อ้าว! ไอ้ไมค์ ยังไม่ไปเตรียมรถอีก เดี๋ยวฉันก็ตกเครื่องบิน อดไปตามตัวลูกคุณกลับจากบ้านนอกกันพอดี”
ไมเคิลจ้องไปที่ทีวี
“ผมว่า..คุณผู้หญิงกับคุณเอมี่คงไม่ต้องไปแล้วล่ะครับ”
เอมี่สงสัย
“ เอ๊า! ยังไงยะ แกจะมาห้ามไม่ให้ฉัน..ไอ้ไมค์”
“ดูเองดีกว่าครับ”
ไมเคิลชี้ไปที่ทีวี รจนาวรรณกับเอมี่ตั้งใจดูตาไม่กะพริบ

ภาพในทีวีปรากฏข่าวด่วนช่อง 3 นักข่าวสาวยืนถือไมค์รายงานหน้าอยู่หน้าโรงพยาบาล
“คุณผู้ชมคะ..ขณะนี้ดิฉันกำลังยืนอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราได้รับแจ้งว่าไฮโซคนดัง เจ้าคุณ คุณากร มหาศักดิ์ไพศาล ถูกนำส่งมารักษาตัวที่นี่ เนื่องจากโดนยิงบาดเจ็บสาหัสค่ะ”
รจนาวรรณ เอมี่ ไม่เคิล และมะขิ่นต่างยืนช็อกกับข่าวที่เพิ่งได้ยิน รจนาวรรณกรี๊ดลั่น
“ลูกคุณ!”
รจนาวรรณเป็นลมล้มตึง ทุกคนอลหม่านโกลาหล

เวลาเดียวกันนั้น สมใจกับปลัดจืดยังนั่งรอเฝ้าเจ้าคุณอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน สมใจสัปหงก เพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืน
“ง่วงแย่แล้วใจ๋ หาที่นอนพักก่อนมั๊ย”
สมใจส่ายหน้าไม่ยอมท่าเดียว
“ไม่อ่ะ..จะรออ้ายขุนทอง”
ปลัดจืดพยักหน้า ก้มมองนาฬิกาข้อมือ แล้วจู่ สมใจซบไหล่ปลัดจืดดว้ยความง่วง ปลัดจืดทำตัวไม่ถูกจึงเรียกสมใจเบาๆ
“ใจ๋...”
สมใจนิ่งปลัดจืดนั่งเกร็งตัวอยู่อย่างนั้น
เวลาผ่านไป...ปลัดจืดกับสมใจหลับคอพับหัวชนกันอยู่ตรงที่เดิม ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก เตียงเจ้าคุณถูกเข็นออกมา ปลัดจืดสะดุ้งตื่นก่อนจึงรีบปลึกสมใจ
“ใจ๋...”
ๆสมใจงัวเงียลุกขึ้นมา
“ว้อย!”
“ขุนทองออกมาแล้ว”
สมใจรีบลุกไปเกาะเตียงทันที
“ขุนทอง! ขุนทอง! จะเอาขุนทองไปไหนคะ”
สมใจถามพยาบาล
“ย้ายไปไอซียูค่ะ ขอทางด้วยนะคะ”
พยาบาลพูดจบรีบเข็นเตียงออกไป
“เฮ้ย! เดี๋ยวซิ..เดี๋ยว”
สมใจยังพยายามยื้อไว้ แต่ปลัดจืดดึงตัวเอาไว้
“ใจ๋...ใจเย็นน่า..ขุนทองปลอดภัยแล้ว ฉันว่าเราไปหาที่พักกันก่อน ถึงยังไงตอนนี้เขาก็ยังไม่ให้เยี่ยมอยู่ดี”
“ไม่!ฉันจะนอนเฝ้าขุนทองอยู่แถวนี้ก็ได้”
“อย่าดื้อซิ..เนื้อตัวสกปรกอย่างนี้เขาไม่ให้เข้าห้องไอซียูหรอกนะ”
“..ก็ได้”
ปลัดจืดกล่อมจนสำเร็จ ถอนหายใจกับความดื้อของสมใจ

ต่อจากนั้น ที่หน้าโรงพยาบาล สมใจเดินมากับปลัดจืด แล้วทั้งคู่ต้องชะงัก เมื่อบรรดากองทัพนักข่าวทีวี หนังสือพิมพ์ แฟนคลับเนืองแน่น รปภ.ของ โรงพยาบาล ทำงานคอยกันไว้อย่างหนักหน่วง
“อะไรเนี่ย”
สมใจยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น พอนักข่าวเห็นสมใจยิ่งรีบชี้หน้าเพราะทุกคนรู้จักสมใจมาจากเรียลิตี้ไฮโซบ้านเฮา ในทางกลับกันสมใจกลับไม่รู้เรื่องเรียลิตีแม้แต่น้อย
“นั่นไง! สมใจออกมาแล้ว!”
ทุกคนร้องเรียกสมใจ บ้างตะโกนเรียก “ไอ้ใจ๋” กันเซ็งแซ่ พยายามกรูจะเข้าไปหาสมใจกันโกลาหลอลหม่าน รปภ.ตะโกนห้าม เป่านกหวีดวุ่นวายทั่วโรงพยาบาล สมใจกับปลัดจืดต่างเต็มไปด้วยความงุนงงสงสัย
“นี่มันอะไรกันปลัด”
“ไม่รู้...”
กองทัพนักข่าวพยายามยื่นไมค์เข้ามาถาม
“สมใจคะ ตกลงเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมจู่ๆ คุณก็หายไป”
นักข่าวคนหนึ่งถามขึ้น
“แล้วขุนทองโดนยิงจริงรึเปล่าคะ ใครยิงขุนทองคะ”
นักข่าวคนที่สองรีบถามต่อ จราสมใจและปลัดจืดงงเป็นไก่ตาแตกเข้าไปอีก แฟนคลับของขุนทองรายหนึ่งร้องไห้อย่างคลั่งไคล้ ไม่อยกาให้ขุนทองตาย
“ไม่จริ้ง! ขุนทองต้องไม่ตาย ขุนทองต้องไม่ตาย”
แฟนคลับพูดจบเป็นลมล้มพับลงไป นักข่าวรุมถ่ายภาพแฟนคลับ ฝ่ายรปภ.เป่านกหวีดวุ่นวาย แต่สมใจกับปลัดจืดยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“แล้วพาไอ้ปลัดจืดมาด้วยทำไม ไม่เอา เราไม่เอาปลัดจืด!”
แฟนคลับอีกคนตะโกนขึ้น แฟนคลับของเจ้าคุณและสมใจไม่พอใจตะโกนไล่ปลัดจืดทันที
“ไม่เอาปลัดจืด! ไม่เอาปลัดจืด!”
ปลัดจืดได้ยินยิ่งไม่เข้าใจ
“เฮ๊ย! อะไรวะ”
แฟนคลับปลัดจืดพอได้ยินคนโปรดของตัวเองโดนด่าก็ตะโกนกลับบ้างดว้ยความโกรธ
“เฮ้ย! พูดงี้ได้ไง ว่าปลัดจืดได้ไง ไอ้ใจ๋ ปลัดจืด ไอ้ใจ๋ ปลัดจืด”
“ไอ้ใจ๋ปลัดจืด! ไอ้ใจ๋ปลัดจืด”
สมใจกับปลัดจืดยังเต็มไปด้วยความงงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“เฮ๊ย!”
สองฝั่งทำท่าจะตีกัน รปภ.เป่านกหวีด กล้องนักข่าวรุมถ่ายจ้าละหวั่น
“ปลัด! ฉันงงไปหมดแล้ว นี่มันเรื่องอะไรกัน”
สมใจถามปลัดจืดด้วยความสงสัย ปลัดจืดหยุดคิดเริ่มรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ
“สมใจคะ ตกลงจะเลือกใครกันแน่คะ ระหว่างเจ้าคุณกับปลัดจืด”
นักข่าวยื่นไมค์รอฟังคำสัมภาษณ์จากสมใจ
“ใครนะ เจ้าคุณ”
อีกมุมหนึ่ง ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วหันมาพบสมใจกับปลัดจืด แล้ววิ่งไปหาทันที
“แย่แล้ว!”
“เร็ว!”
ก้องเกียรติกระชากมือกิ่งแก้ววิ่งเข้าไปหาสมใจและปลัดจืด
“ใจ๋! ปลัด! ไปกับเราก่อนเร็ว”
สมใจมองหน้าก้องเกียรติอย่างจำได้ว่าคือหมอที่รักษาโรคทางจิตใหักับเจ้าคุณ
“เฮ๊ย!นี่มัน...”
“ไว้ก่อนเถอะค่ะ! รีบไปก่อนเร็ว!”
กิ่งแก้วเร่งให้ทั้งสมใจและเจ้าคุณรีบออกมาจากตรงนั้น แต่สมใจกับปลัดจืด สะบัดมือทันที
“เดี๋ยว! ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น นี่มันเรื่องอะไรกัน”
ปลัดจืดถามขึ้น
“ไปก่อน! แล้วจะเล่าให้ฟัง”
ก้องเกียรติรีบกระชากสองคนออกอย่างแรง จะวิ่งกลับหันหลังแต่ก็ต้องชะงักเมื่อรจนาวรรณยืนอยู่ตรงหน้า
“คุณหญิงแม่!”
รจนาวรรณ ตีหน้ายักษ์ใส่ ในขณะที่เอมี่จิกสายตาไปที่สมใจอย่างไม่เป็นมิตร ส่วนสมใจยังไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รจนาวรรณเดินมาจ้องหน้าสมใจอย่างเย้ยหยัน มองสมใจตั้งแต่หัวจรดเท้า
“แกเองน่ะเหรอ..อีนังบ้านนอก!”
สมใจตกใจ เอที่รีบเข้ามาเสริมทัพ
“ใช่แล้วค่ะคุณหญิงแม่ นี่แหละค่ะ..อีนังบ้านนอก!”
สมใจอึ้ง ตกใจแต่ยังไม่ตอบโต้ใดๆ ใส่รจนาวรรณและเอมี่ เพราะในใจเวลานี้เป็นห่วงอาการเจ้าคุณมากกว่าสิ่งอื่นใด

ค่ำคืนเดียวกันนั้น ภายในห้องพักคนไข้ เจ้าคุณกำลังสำลักน้ำเปล่าที่เอมี่ป้อนแล้วไอออกมาจนรู้สึกเจ็บแผล

“ว๊าย!”
เอมี่เห็นอาการก็ร้องอย่างตกใจ จนรจนาวรรณกับไมเคิลต้องเข้ามาดูแลเจ้าคุณแทน
“ระวังหน่อยซิหนูมี่!”
รจนาวรรณดุเอมี่ จนอีกฝ่ายต้องระงับอารมณ์ไม่พอใจเอาไว้
“แหม เป็นเพราะนังบ้านนอกนั่นแท้ๆ คุณคะคุณขาของมี่เลยต้องมานอนเจ็บอยู่อย่างนี้”
รจนาวรรณบ้าจี้เชื่อตามเอมี่ไปด้วย
“จริงของหนูมี่ เฮ้อ! นี่มันเวรกรรมอะไรของลูกแม่ก็ไม่รู้ เอาเถอะลูก จากนี้ไปคงจะหมดเคราะห์หมดโศกกันซะที หายดีเมื่อไหร่แต่งงานกับหนูมี่ทันทีเลยนะจ๊ะลูก”
“แม่!”
เจ้าคุณร้องทักแม่ในขณะที่เอมี่ดีใจสุดขีด
“เย้!”
เอมี่กอดคุณหญิงแม่แล้วหันไปกอดเจ้าคุณ เจ้าคุณกระเทือนแผลขึ้นมาอีก
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ มี่ดีใจอ่ะค่ะ ลูกในท้องของเราก็คงจะดีใจมากๆ จริงมั้ยจ๊ะลูกจ๋า”
“อะไรนะ”
เจ้าคุณตกใจเมื่อรู้ว่าเอมี่ท้อง
“ลูกของเราไงคะ คุณคะคุณ”
เจ้าคุณรู้สึกงงกับสิ่งที่เอมี่บอก
“ลูก”
“ใช่ หลานย่าของแม่”
เจ้าคุณยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“แม่ครับ...ผม”
“ลูกผู้ชาย กล้าทำ ต้องกล้ารับ”
รจนาวรรณพูดหน้าตาเฉย
“แต่...”
เจ้าคุณพูดไม่ออก เอมี่เริ่มร้องไห้
“ทำไมคะ คุณคะคุณขาจะบอกว่าไม่ใช่พ่อของลูกเราเหรอคะ ถ้าไม่ใช่ แล้วจะใครล่ะคะ ทั้งชีวิตมี่ก็มีแต่คุณคะคุณขาคนเดียวเท่านั้น ฮือๆ อ้วก!”
เอมี่อาเจียน รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป รจนาวรรณวิ่งตามด้วยความเป็นห่วง
“หนูมี่! ระวังลื่น เดี๋ยวหลานแม่จะอันตราย”
เจ้าคุณอึ้ง ไมเคิลมองเจ้านายอย่างเห็นใจ เจ้าคุณเศร้าไปทันที ภายในใจยังคงคิดถึงสมใจอยู่ตลอดเวลา

สมใจกลับจากโรงพยาบาล มาถึงบ้านก็นั่งเศร้าน้ำตาไหลอยู่บนเตียงมองภาพคู่กับโก้ในมือด้วยความเศร้า คิดถึงโก้ในวันที่คบหากันและวันที่โดนแม่ของโก้ตำหนิเพราะความรังเกียจในความบ้านนอกของเธอ
ไม่นานนักสมใจหยิบภาพคู่กับเจ้าคุณมามองบ้างแล้วพบเรื่องราวคล้ายกัน และจบลงด้วยการถูกด่าทอและดูถูก สมใจตัดสินใจจับรูปทั้ง 2 ใบ ร่ำไห้หมดอาลัย ล้มตัวนอนลงบนเตียงอย่างทรมานที่สุดในหัวใจ

ลำยองกับลำใยมาที่บ้านสมใจแต่เช้าตรู่
“งามหน้าขนาดๆ นักล่ะทีนี้ เกียรติยศศักดิ์ศรีกุลสตรีม่วนแต๊ของพวกเรา รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่น วันนึงก็หายไปกับอ้ายขุนทอง อีกวันนึงก็หายไปกับปลัด!”
ลำยองตำหนิสมใจทันที โดยมีลำใยลูกสาวคอยเสริม
“ใช่จ๊ะแม่ ขนาดแทใยผู้บริสุทธิ์แค่ได้ยินได้ฟังก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหนดี”
“ก็มุดไว้ในขี้วัวขี้ควายไงล่ะ นังหน้าหนอน!”
หวานเจจี๊ยบด่าลำใยเต็มปากเต็มคำ จนลำใยกรี๊ดลั่น
“อร้าย! คุณแม่ ลำใยเจ็บปวด”
“หนอย นังหวานเจี๊ยบ บังอาจพูดจาทำร้ายจิตใจลูกสาวข้า เดี๋ยวแม่ตบให้นังเครือฟ้าน้าแกจำหน้าแกไม่ได้ซะเลยน่ะ”
ลำยองสวนกลับหวานเจี๊ยบช่วยลูกสาว
“เอาซิ! กลัวตายล่ะ เอ้า ชาวบ้านเขาจะตีกันตายก็ยังนั่งเฉยอยู่ได้ จะเป็นทำไมห๊า! ปลัดเนี่ย”
หวานเจี๊ยบพาลปลัดจืดที่นั่งอยู่ข้างกัน
“ตีกันให้ตายๆ ไปซะก็ดี รำคาญ!”
หวานเจี๊ยบ ลำยองและใย ตกใจที่ปลัดจืดดูไม่สบอารมณ์ในวันนี้
“อ้าว เฮ๊ย!”
“พูดจาทุเรศจริงๆ”
คำปุยกับแคบหมูเดินลงบันไดมา ปลัดจืดไม่สนใจใคร รีบเดินไปหาทันที
“ใจ๋เป็นไงมั่ง”
ปลัดจืดถามด้วยความห่วงใย
“เจ๊ใจ๋ยังไม่ยอมเปิดประตูเลยจ๊ะปลัด”
แคบหมูเอ่ยขึ้น
“น่าปลัด ไอ้ใจ๋มันหญิงเหล็ก คงไม่เป็นไรหรอก”
คำปุยปลอบปลัดจืดเพื่อลดความกังวลใจ
“ชิ! เหล็กขึ้นสนิมเน่าผุไร้ค่าสิ้นดี”
ลำยองแอบด่าสมใจ จนหวานเจี๊ยบสวนแทน
“เน่าเท่าปากน้ามั้ย น้าลำยอง หยุดพูดได้แล้ว เหม็น”
“นังนี่!”
หวานเจี๊ยบไม่ได้สนใจคำพูดของคำปุย อยากขึ้นไปดูสมใจด้วยตัวเองด้วยความห่วงใย
“ขอฉันขึ้นไปดูพี่ใจ๋หน่อยได้มั้ย”
“ฉันว่า อย่าเพิ่งไปกวนมันเลยนะ ปล่อยมันซักพัก เดี๋ยวมันก็โอเค เชื่อเหอะ”

ปลัดจืดกับหวานเจี๊ยบต่างต้องยอมฟังและทำตามที่คำปุยบอก แม้ว่าในใจจะห่วงสมใจก็ตาม
ไม่นานหลังจากนั้น หวานเจี๊ยบกลับจากเยี่ยมสมใจขี่จักรยานมาตามทาง จู่ๆ โซ่เกิดหลุด เจ้าตัวบ่นโวยวาย

“อะไรวะเนี่ย ว้า เฮงซวยชะมัดเลย”
หวานเจี๊ยบหยิบอุปกรณ์เตรียมซ่อม แต่โดนเหล็กบาดมือเลือดออกซิบๆ
“โอ๊ย! หึ้ย!”
หวานเจี๊ยบทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างแรง ด้วยความโมโห
“วันนี้มันจะเป็นวันซวยอะไรกันนักกันหนาวะ พี่ใจ๋กับอ้ายขุนทอง ทำไมเจ็บใจแล้วยังต้องมาเจ็บตัวอีกห๊า นังหวานเจี๊ยบ!”
สักพักปลัดจืดเดินเข้ามา
“บ้าละป่าว นั่งพูดคนเดียว”
หวานเจี๊ยบสะบัดหน้าหนีไม่อยากมีเรื่องอีกแล้วในวันนี้

ต่อจากนั้นไม่นานปลัดจืดซ่อมจักรยาน ให้หวานเจี๊ยบเสร็จจนใช้งานได้
“อ่ะ! เสร็จ!”
หวานเจี๊ยบแอบเหล่มองหางตา
“ก็พอจะมีประโยชน์อยู่”
“‘ขอบใจหรือจะให้ดีมากๆ ก็ขอบคุณค่ะ”
“ฝันไปเถอะย่ะ เอ่อ นี่ ตกลงเรื่องพี่ใจ๋กับอ้ายขุนทองมันเป็นยังไงกันแน่”
ปลัดจืดออกเดินทันทีที่หวานเจี๊ยบถามเรื่องนี้ แต่หวานเจี๊ยบรีบจูงจักรยานวิ่งตาม
“คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นในป่า พี่ใจ๋กับอ้ายขุนทองเข้าไปทำอะไรกัน แล้วใครยิงอ้ายขุนทอง ตอนนี้อ้ายขุนทองหายไปไหน”
หวานเจี๊ยบถามชุดใหญ่ จนปลัดจืดโบกมือให้หยุดถามได้แล้ว
“หยุด! หยุดถามได้แล้ว แล้วก็เลิกเอ่ยชื่ออ้ายขุนทองอีก ต่อไปนี้ม่วนแต๊ไม่มีคนชื่ออ้ายขุนทองอีกต่อไป”
ปลัดจืดเดินออกไปด้วยความโกรธ หวานเจี๊ยบได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง
“ทำไมอ่ะ ไม่มีอ้ายขุนทอง”

เวลาผ่านไป ช่วงบ่ายนั้นที่ห้องพักคนไข้ เจ้าคุณแต่งตัวปกตินั่งอยู่บนเตียงเตรียมออกจากโรงพยาบาล เพราะอาการเริ่มดีขึ้น
“ใช้เวลาอีกซักระยะ บาดแผลก็จะหายสนิท อย่าลืมทานยาที่ให้ไปนะครับ”
หมอกำชับเจ้าคุณ พยาบาลยื่นถุงยาให้ เอมี่รีบฉกจากมือ
“ไม่ต้องห่วง มี่จะดูแลคุณคะคุณขาเองค่ะ”
“ไม่มีอะไรแล้วครับ กลับบ้านได้”
“ขอบคุณค่ะ/ขอบคุณครับ คุณหมอ”
หมอพูดจบเดินออกไป รจนาวรรณกับเอมี่ ตามไปส่งที่หน้าประตู
“ไอ้ไมค์ ตกลงเรื่องมันเป็นยังไง หลังจากฉันโดนยิงแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
เจ้าคุณตะโกนเรียกไมเคิลเบาๆกลัวรจนาวรรณกับเอมี่ได้ยิน แต่ก็ไม่พ้น
“ไอ้ไมค์!”
รจนาวรรณหันกลับมาพอดี ไมเคิลสะดุ้งสุดตัว
“ครับผม!”
รจนาวรรณกับเอมี่ยืนจ้องตาเขียว รีบเดินเข้ามา
“แกอยากโดนไล่ออกใช่มั้ย ไอ้ไมค์”
เจ้าคุณอ่อนใจ เหมือนโดนปิดบังไปทุกอย่าง
“แม่ครับ ทำไมล่ะครับ ผมก็แค่อยากรู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง”
รจนาวรรณสวนขึ้นทันที
“ไม่ต้องรู้อะไรทั้งนั้น มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“แล้วทำไมตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่นี่ แม่ไม่ยอมให้ผมใช้โทรศัพท์ อ่านนสพ. ดูทีวี แล้วก็ไม่ให้ใครมาเยี่ยมผมเลยล่ะครับ”
“แม่บอกแล้วใช่มั้ย ที่ผ่านมาแม่จะคิดซะว่าไม่เคยเกิดอะไรขึ้น แม่จะไม่เอาเรื่องหนู แต่นับจากนี้ไปหนูต้องทำตามคำสั่งแม่ทุกอย่าง โดยไม่ต้องถามว่าทำไม”
เจ้าคุณอึ้งไป ไม่อาจขัดใจแม่ได้ เอมี่ยิ้มร้ายสะใจ
“จากนี้ไปจะมีแต่ปัจจุบันและอนาคตเท่านั้นนะคะคุณ เบ่บี๊จ๋า หม่ามี๊จะพาป่าปี๊ กลับบ้านแล้วนะจ๊ะ”
”เอมี่ แม่ครับ เรื่องเอมี่”
“กลับบ้านกันได้แล้ว”
รจนาวรรณตัดบท เจ้าคุณรู้สึกเบื่อหน่าย ไมเคิลหน้าตาตื่น
“แน่ใจเหรอครับว่าจะกลับตอนนี้”
“ทำไม ทำไมจะกลับตอนนี้ไม่ได้”
เอมี่ตวาดไมเคิล จนอีกฝ่ายติดอ่าง
“ก็ เอ่อ...”
เจ้าคุณมองไมเคิลอย่างสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เวลาต่อมา ที่ด้านหน้าโรงพยาบาล บุรุษพยาบาลเข็นเจ้าคุณที่นั่งเก้าอี้วีลแชร์มา ทุกคนเดินมาด้วยกัน แล้วทั้งหมดก็หยุดต้องหยุดชะงัก
“อะไรกันเนี่ย”
เจ้าคุณตกใจเมื่อเห็นแฟนคลับกับกองทัพนักข่าว ที่เรียกชื่อขุนทอง บ้างตะโกนด่าว่าขุนทองใจร้ายทิ้งใจ๋ทำไม บางคนถือป้าย “รักใจ๋ เกลียดเอมี่” รปภ. ต้องกั้นไว้อย่างหนัก
“ก็นี่ไงครับ คุณหนู”
“ไอ้ไมค์ !” ไมเคิลโดนรจนาวรรณตลาดใส่ จนต้องหยุดพูด
เจ้าคุณมองไปที่กลุ่มแฟนคลับแล้วพึมพำกับตัวเอง
“เกิดอะไรขึ้น”

บรรดานักข่าวจากสำนักต่างๆ พอเห็นเจ้าคุณก็รีบตะโกนถามกันทันที
“เจ้าคุณคะ จะกลับไปหาสมใจมั้ยคะ รายการไฮโซบ้านเฮาจะยังไงต่อคะ จะปล่อยให้หยุดออกอากาศ ไปเฉยๆแบบนี้เลยเหรอคะ”
เจ้าคุณยังอึ้ง ไม่รู้จะตอบอย่างไรดีเพราะเพิ่งรู้เรื่องนี้เช่นกัน แฟนคลับไม่พอใจตะโกนว่าเจ้าคุณบ้างร้องห่มร้องไห้
“ใจร้ายๆ”
แฟนคลับเริ่มขว้างปาสิ่งของใส่ ความชุลมุนเริ่มบังเกิด รจนาวรรณยกกระเป๋าหลบไม่ทัน แต่จะฝ่าออกไป
“บ้า! เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว อย่าไปสนใจนะคะคุณ มี่ว่าเรารีบกลับบ้านกันดีกว่า”
“จะไหวเหรอครับ”
ไมเคิลถามเพราะแฟนคลับกำลังรุมปาข้าวของไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด
“แกนั่นแหละ รีบไปเอารถมารับอีกด้านนึงเร็ว ไอ้ไมค์!”
“ครับพ้ม! เย้ย! ไม่ไหวมั้งครับ”
“ต้องไหว! ไปเอารถเดี๋ยวนี้ พาเจ้าคุณหลบไปรอทางโน้นก่อน”
รจนาวรรณสั่งเด็ดขาด ไม่ยอมจะรีบออกจากโรงพยาบาลทันที แฟนคลับยิ่งคลั่ง ออกอาการโมโห ไมเคิลโดนปาของใส่เละเต็มหน้า
“โธ่! ไอ้ไมค์!”

ภายในใจเจ้าคุณเวลานั้น เต็มไปด้วยสับสน งุนงงกับเรื่องราวตรงหน้า และคิดไปถึงสมใจ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างเมื่อความจริงเริ่มปรากฏ

บ่ายวันนั้น สมศรีเคาะประตูเรียกลูกสาวที่อยู่ในห้องนอน ที่ทุกคนลุ้นอยู่หน้าประตูอย่างใจจดใจจ่อ ด้วยความห่วงสมใจ
“ใจ๋! แม่เอาข้าวมาให้ กินข้าวซะหน่อยเถอะลูก”
คำปุยใจไม่ดีรีบโพล่งขึ้น
“ไอ้ใจ๋ ไม่ยอมกินอะไรตั้งหลายวันป่านนี้จะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้”
“นั่นซิ ฉันไม่ได้กินแค่มื้อเดียวยังจะเป็นลมเลยอ่ะเจ๊ปุ๋ย”
แคบหมูรีบเสริม สมหมายใจคอไม่ดีรีบเรียกลูกสาวพร้อมทั้งทุบประตูแรงขึ้น
“ไอ้ใจ๋! ใจ๋ ใจ๋ลูกพ่อ เปิดประตูหน่อยใจ๋”
สมใจนั่งกอดเข่าซุกอยู่มุมห้อง หน้านิ่งไร้ความรู้สึก
“ใจ๋! กะอีแค่ผู้ชายคนเดียว ผู้ชายเลวๆ คนเดียว มันทำให้เอ็งเสียใจถึงขนาดนี้เชียวเหรอ ออกมาหน่อย ออกมาบอกพ่อหน่อย ว่าเอ็งเสียใจได้ครึ่งนึงของพ่อกับแม่รึเปล่า”
สมศรีสะอื้นซุกหน้าร้องไห้กับอกสมหมาย
“พ่อกับแม่กินไม่ได้นอนไม่หลับ เป็นห่วงเอ็งใจจะขาดแล้วไอ้ใจ๋ลูกพ่อเอ๋ย”
“แม่วางข้าวไว้หน้าห้องนะใจ๋ ยังไงก็กินข้าวซะหน่อยนะลูกนะ อย่าไปกวนใจลูกมันเลย”
สมศรีพูดอย่างเข้าใจลูก แต่สมหมายทำท่าไม่ยอม
“เฮ้ย! แต่ว่ามัน...”
“น่า ตาหมาย เห็นใจลูกมันเถอะ เจ็บปวดเพราะไอ้ผู้ชายเมืองกรุงถึง 2 ครั้ง 2 หน ป่านนี้หัวใจมันคงป่นปี้ไม่มีชิ้นดีแล้วไอ้ใจ๋ลูกแม่”
สมหมายอึ้ง สงสารลูกขึ้นมาจับใจ
“ไอ้ใจ๋ เกิดเป็นลูกพ่อหมายกะแม่ศรีอย่ายอมให้ใครมาทำลายศักดิ์ศรีต่อให้ใครมันจะย่ำยีหัวใจเรายังไงก็ไม่มีทางทำร้ายหัวใจเราได้เท่ากับตัวเราเอง อย่าแพ้ใจตัวเองนะลูก เอ็งต้องชนะใจตัวเองนะไอ้ใจ๋ ชนะใจตัวเองให้ได้!”
สมหมายปลอบใจลูก แต่ยังไม่มีเสียงตอบจากสมใจ สมศรีพยักหน้าให้ทุกคนหันหลังกลับจะเดินออก แต่ชะงักเพราะได้ยินเสียงประตูเปิดออก ทุกคนรีบหันไปดูสมใจที่เปิดประตูมาพบทุกคนด้วยความเศร้า
“ไอ้ใจ๋!/เจ๊ใจ๋”
ทุกคนดีใจโผเข้ากอดสมใจไว้แน่นด้วยความห่วงใย

เวลาต่อมา สมใจกราบขอโทษสมศรีและสมหมายที่ทำให้เป็นห่วง
“ฉันขอโทษนะพ่อ”
สมหมายกอดลูกแน่น
“เฮ่ย เอ็งไม่ได้ทำอะไรผิดซักนิดนี่นา”
“ผิดซิพ่อ ผิดที่ฉันไป เอ่อ...ไปเชื่อไอ้ผู้ชายไฮโซชั่วๆ คนนั้น”
“ก็มันนั่นล่ะผิด ไอ้ผู้ชายไฮโซชั่วๆ นั่นละมันผิด มันเลว มันหลอกลูกพ่อ หลอกพวกเรา หลอกชาวม่วนแต๊ทุกคน คิดแล้วก็อยากจะบุกไปกรุงเทพฯ ไปฆ่ามันให้ตายคามือนัก”
สมหมายโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่สมศรีห้ามไว้
“ตาหมาย แค่นี้ใจ๋มันก็เสียใจจะแย่แล้ว ขืนพูดมากๆ เดี๋ยวมันก็ขังตัวเองไม่ออกมาอีกหรอก”
สมหมายรีบเอามือปิดปากตัวเอง
“ไม่พูดแล้ว พ่อไม่พูดแล้วไอ้ใจ๋”
“พ่อ พ่อจ๋า แม่จ๋า ฉันขอโทษนะที่ขังตัวเองอยู่อย่างนั้นให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วง”
“แม่เข้าใจ คนเราเสียใจมันก็ต้องใช้เวลา”
“เสียใจน่ะมันไม่เท่าไหร่หรอกแม่ แต่ฉัน ฉันไม่กล้าสู้หน้าพ่อกับแม่ตะหาก”
สมหมายกับสมศรีอึ้งไป
“ฉัน ฉันทั้งกลัว ทั้งอาย ที่ทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ ต้องผิดหวังในตัวฉัน”
“ไอ้ใจ๋”
สามคนพ่อแม่ลูกโผเข้ากอดกันแน่นด้วยความเข้าใจ
“ไม่เลยใจ๋ ตั้งแต่เกิดมาเอ็งไม่เคยทำอะไรให้แม่ผิดหวังหรือเสียใจเลยซักนิดเดียว”
สมศรีโพล่งขึ้น สมหมายรีบเสริม
“ใช่ เอ็งเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อที่พ่อรักแล้วก็ภูมิใจที่สุด และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้เอ็งรู้ไว้ว่า พ่อกับแม่รักเอ็ง และจะอยู่เคียงข้างเอ็งเสมอไอ้ใจ๋”
สามคนพ่อแม่ลูกโผเข้ากอดกันอีกครั้ง
คำปุยกับแคบหมูน้ำตาซึม โผกอดกันด้วยความซาบซึ้งใจ

เวลาผ่านไป ที่คฤหาสน์เจ้าคุณปัดแคตตาล็อกภาพชุดวิวาห์กับตัวอย่างผ้า ตัดชุดแต่งงาน ตกลงพื้นกระจาย เอมี่ดวยวายด้วยความไม่พอใจ
“ว๊าย! คุณคะคุณขา ทำไมทำอย่างนี้ล่ะคะ มี่อุตส่าห์เอาแบบชุดแต่งงานของเรามาให้เลือก แล้วทำไมถึงทำอย่างนี้”
เจ้าคุณพูดด้วยอารมณ์เซ็ง
“ผมยังไม่พร้อม”
“แต่มี่พร้อม! พร้อมมากด้วย พร้อมขึ้นทุกวันๆ”
เอมี่ชี้ไปที่ท้องตัวเอง
“เอมี่ อย่าว่าผมเลยนะ แต่ ผมงงจริงๆ ผมยังไม่เข้าใจเลยว่า มัน มันเกิดขึ้นตอนไหน”
เอมี่นึกขึ้นได้รีบร้องไห้
“ฮือ หมายความว่ายังไงคะ พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง คุณคะคุณขากำลังจะบอกว่า เบ่บี๋ในท้องของมี่ไม่ใช่ลูกของคุณเหรอคะ โฮ!”
“คือ เดี๋ยว”
“คุณคะคุณขากำลังคิดว่ามี่สำส่อน มี่มั่วผู้ชาย มี่ท้องกับคนอื่น แต่ว่าจะให้คุณคะคุณขารับเป็นพ่อแทน โฮ ใจร้าย ทำไมคุณคะคุณขาถึงคิดได้อย่างนี้”
“ไปใหญ่แล้ว”
เจ้าคุณเริ่มเซ็งหนักขึ้นทุกที เพราะเอมี่ไม่ยอมฟัง
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าคุณคะคุณขารังเกียจมี่ รังเกียจเบ่บี๋ในท้องมี่ มี่ก็จะขอเลี้ยงลูกของเราเองตามลำพัง โดยไม่ต้องมีพ่อ!”
“แต่แม่ไม่ยอม!”
รจนาวรรณตาเดินลงบันไดมา เอมี่แอบยิ้มร้ายที่รจนาวรรณเข้าข้าง รจนาวรรณเดินมาก้มหยิบแคตตาล็อกส่งให้เจ้าคุณ
“เลือกซะ! แม่จะไปตลาดซื้อของมาต้มซุปบำรุงหนูมี่กับหลานในท้อง”
เจ้าคุณหน้าเสียรับแคตตาล็อกมาดูแบบเสียมิได้ เอมี่ยิ้มร้ายสะใจ
“กลับมาเมื่อไหร่ต้องได้เห็นชุดเจ้าบ่าวของหนู เข้าใจมั้ย”
“แม่ครับ ผมเข้าใจแม่นะครับ แต่ผมก็อยากให้แม่เข้าใจผมบ้าง”
รจนาวรรณรีบสวนทันที
“คนเราพูดอะไรไว้ก็ต้องรักษาคำพูด แม่หวังว่าครั้งนี้หนูคงไม่ทำให้แม่ผิดหวังอีกนะ เจ้าคุณ”
เจ้าคุณอึ้งไป รจนาวรรณพาเอมี่ออกไปด้วย
“ไป หนูมี่ไปตลาดด้วยกัน”
มะขิ่นปรี่เข้ามาทันทีอย่างตกใจ
“คุณผู้หญิงจะไปตลาดเหรอคะ”
“ก็ใช่น่ะซิ ฉันจะไปกับคุณเอมี่”
“ไปกะคุณเอมี่ด้วย”
มะขิ่นตกใจ คาดไม่ถึงว่าเอมี่จะไปเดินตลาดด้วยตัวเอง
“ก็เออซิทำไมยะ ฉันจะไปตลาดกับคุณหญิงแม่ไม่ได้รึยังไงมะขิ่น”
“เอ่อ ปะ ไปได้ค่ะ”
“เอ๊! นังนี่ท่าจะเพี้ยน! ไปเร็ว บอกไอ้ไมค์เอารถออก แล้วแกก็ไปช่วยถือของด้วย เร็ว!”
รจนาวรรณเดินออกไปพร้อมเอมี่ มะขิ่นมองตามแล้วบ่นตามหลัง
“ไปได้ แต่ไม่ควรไป”
“มะขิ่น!”
รจนาวรรณหันมาเรียก มะขิ่นสะดุ้ง
“ค่า ไปแล้วค่า”
เจ้าคุณอยู่บเนเพียงลำพัง หันมองแคตาล็อกชุดแต่งงานด้วยความเซ็งและไม่อยากแต่งงานกับเอมี่

เวลาต่อจากนั้น เมื่ออยู่บ้านตามลำพัง เจ้าคุณทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาด้วยความเซ็ง ครุ่นคิดถึงคำพูดของแม่ให้รีบเลือกชุดแต่งงาน แต่ไม่วายคิดถึงสมใจขึ้นมา นึกถึงคำพูดของสมใจที่เคยเอ่ยว่าสมใจจะอยู่ข้างขุนทองตลอดไป ไม่ทิ้งกัน คิดถึงข้าวนึ่งร่วมสาบานที่เคยกินด้วยกัน หรือแม้กระทั่งวันที่ไปน้ำตกแม่อุ๊ยนางรอ เจ้าคุณหน้าเศร้า หยิบแคตตาล็อคมามองอย่างไม่อยากเลือก เพราะในหัวใจมีเพียงสมใจเท่านั้น

เวลาเดียวกันที่บ้านสมใจ คำปุยเอาข้าวเหนียวจิ้มน้ำพริกหนุ่มแล้วส่งให้สมใจ
“เอ้า! อีกซักคำ อดข้าวมาตั้งหลายวันแล้ว”
“อิ่มแล้ว”
สมใจรีบตอบ
“อิ่มแล้วหรือ กินไม่ลงกันแน่”
คำปุยย้อนถามกลับ คำปุยเหล่สมใจ
“ไอ้ใจ๋ ฉันกับแกน่ะแก้ผ้าวิ่งเล่นกันมาตั้งแต่เด็กนะยะ ไม่ต้องมองตาหรอก ต่อให้หลับตา ฉันก็รู้ว่าแกคิดอะไรอยู่”
สมใจเฉไฉกลับเกลื่อน
“จริงเหรอ ที่พูดกับป้าศรีน่ะ”
“พูดอะไร”
สมใจแกล้งไม่รู้
“ก็พูดว่าเสียใจน่ะไม่เท่าไหร่หรอกไงล่ะ”
สมใจอึ้ง คำปุยลุยต่อ
“จะบอกอะไรให้นะ เผื่อว่าแกจะไม่รู้ตัว”
สมใจมองคำปุย
ฉันว่าครั้งนี้แกเสียใจมาก มากกว่าครั้งพี่โก้หลายเท่าเลยแหละ แม่คนปากแข็ง”
พูดจบก็ยกสำรับกับข้าวเดินออกไป สมใจนิ่งเศร้ากับสิ่งที่คำปุยพูด

เวลาเดียวกัน รจนาวรรณ เอมี่ มะขิ่นและไมเคิล เดินเข้ามาในตลอดพร้อมกัน มะขิ่นกับไมเคิลสีหน้ากังวลอย่างบอกไม่ถูก
“คุณผู้หญิงคะ มะขิ่นว่าเรากลับกันเถอะค่ะ”
“นี่แกเป็นอะไรของแกเนี่ย นังมะขิ่น”
“ผมเห็นด้วยกับมะขิ่นนะครับ ผมว่าคุณหญิงกับคุณเอมี่กลับบ้านดีกว่า ถ้าคุณผู้หญิงอยากได้อะไร เดี๋ยวผมไปซื้อให้เองดีมั้ยครับ”
ไมเคิลรีบเสริม เอมี่รีบเห็นด้วย
“อู๊ย! ดีค่ะดีที่สุดเลยค่ะคุณหญิงแม่ เอมี่เหม็นมากอ่ะค่ะ ทำไมคุณหญิงแม่ต้องมาตลาดด้วยล่ะคะ ทำไมไม่ไปซูเปอร์มาร์เก็ต”
“เฮ้อ! เด็กสมัยนี้ล่ะไม่รู้อะไร ของในตลาดเนี่ยทั้งสดทั้งถูกกว่าตามห้าง แล้วก็มีให้เลือกมากกว่าตั้งเยอะนะจ๊ะหนูมี่”
“แต่มี่เหม็น”
“นั่นซิครับ ผมว่าเราพาคุณเอมี่กลับดีกว่าครับคุณผู้หญิง”
ไมเคิลรีบเสนอทางออก
“ไอ้ไมค์!”
แต่ดูเหมือนรจนาวรรณจะไม่ยอมฟัง
“โธ่!”
“ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้วนะจ๊ะ อยากทานอะไร หนูมี่จะได้เลือกได้ถูกใจด้วยไงจ๊ะ ไป เหม็นแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ชินจ๊ะ”
พูดจบรจนาวรรณจูงมือเอมี่ เข้าไปในตลาดทันที ไมเคิลร้องทักแต่ไม่เป็นผล
“คุณหญิงครับ!”
“แย่แล้ว พี่ไมค์”
มะขิ่นตะโกนขึ้น สองคนหวั่นใจว่ารจนาวรรณกับเอมี่จะเจอแฟนคลับเจ้าคุณและสมใจเล่นงาน เหมือนกับที่โรงพยาบาล

ต่อจากนั้นรจนาวรรณอารมณ์ดีชวนเอมี่เดินในตลาด ในขณะที่ว่าที่ลูกสะใภ้ไม่ได้ปลื้มไปด้วย
คนเดินในตลาดเริ่มมอง และสะกิดกันให้ดู บางคนกระซิบกระซาบกัน แม่ค้าเริ่มมองอย่างไม่เป็นมิตร
“อูย ปลามั้ยจ๊ะหนูมี่ ทานปลาเยอะๆ จะได้มีโปรตีนบำรุงหลานย่า ปลาซด สด”
รจนาวรรณรีบปรีเข้าไปจะเลือกซื้อปลา แต่เจอแม่ค้าฟาดน้ำในกระชังปลากระจาย
“ไม่ขาย!”
รจนาวรรณกับเอมี่ตกใจแม่ค้าไม่ยอมขายปลาให้
“ทำไม ทำไมถึงไม่ขาย ฉันมีตังค์ซื้อนะจ๊ะ ไม่ได้ขอฟรี”
แม่ค้าลุกมาท้าวสะเอวยืนจังก้าหวังเอาเรื่อง
“หนอย! รวยแล้วไง รวยแค่ไหนก็ไม่ขายเว๊ย!”
แม่ค้าของขึ้นตะโกนด่ากลับ
“ว๊าย! หยาบคาย! ต่ำ!”
เอมี่ด่ากลับแม่ค้า แม่ค้าผักได้ยินจึงรีบโต้กลับทันที
“อู๊ย อีนังไฮโซ สูงนักก็ไปซื้อที่อื่นซิเว้ย ไป ไป๊ๆ”
แม่ค้าคนอื่นเริ่มขว้างของใส่บ้าง รจนาวรรณกับเอมี่ ร้องดวยวายหลบเป็นระวิง ไมเคิลกับมะขิ่นเข้าปกป้องแต่ก็โดนด้วย แม่ค้าผู้คนสะใจ รีบถ่ายคลิปไว้ทันที
“ว๊าย! นี่มันอะไรกันเนี่ย”
รจนาวรรณทนไม่ไหวตะโกนขึ้น
“มะขิ่นบอกแล้ว”
“ใจร้าย! ใจดำ! ทำกับนังใจ๋ได้ลงคอ มันต้องโดน”
แม่ค้าขว้างผักลอยละลิ่วไปที่รจนาวรรณ แต่ก้มหลบทัน ผักลอยไปแปะเข้าหน้าเอมี่เต็มเปา
“ว๊าย! โฮ!”
เอมี่ร้องโวยวายโดนแม่ค้ารุมเกลียดกับรจนาวรรณอย่างคาดไม่ถึงมาก่อน

เวลาต่อมา เอมี่กับรจนาวรรณกลับมาที่บ้าน ด้วยสภาพเนื้อตัวเลอะเทอะ
“บ้า!นี่มันท่าจะบ้ากันไปใหญ่แล้วนะ”
เอมี่ลงนั่งข้างๆ มือยังกุมหน้าผากเพราะโดนปาทั้งผักทั้งอาหารเลอะเทอะไปหมด
“เพราะนังบ้านนอกสมใจนั่นคนเดียว มี่ถึงต้องเป็นแบบนี้ มี่ไม่ยอม คุณคะคุณขาต้องจัดการให้มี่นะคะ”
เอมี่ดวยวายเพราะหน้าผากฟกช้ำเป็นรอยจ้ำ เจ้าคุณไม่พอใจที่เอมี่เรียกสมใจว่าบ้านนอก จึงรีบปราม
“อย่าเรียกสมใจว่านังบ้านนอก”
“อะไรคะเนี่ย จนอย่างนี้แล้วยังจะห่วงมัน ห่วงมันมากกว่าห่วงมี่กับเบ่บี๋ในท้อง ดูซิคะ คุณหญิงแม่ขา”
เอมี่หันไปฟ้องรจนาวรรณ
“เจ้าคุณ!”
เจ้าคุณหน้าบอกบุญไม่รับ
“เพราะหนูกับนังบ้านนอกนั่น”
เจ้าคุณหันขวับไม่พอใจที่แม่ตัวเองเรียกสมใจอย่างนั้น
“เพราะหนูกับนังบ้านนอกนั่นที่ทำให้พวกเราต้องวุ่นวายต้องอับอายขายหน้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน วงศ์ตระกูลของเราต้องเป็นข่าวฉาวโฉ่เป็นที่เกลียดชัง”
“ไม่ใช่แล้วครับ ไม่ใช่เพราะสมใจ สมใจไม่เกี่ยว ทุกอย่างเป็นเพราะผมคนเดียว”
เจ้าคุณออกรับแทนสมใจด้วยความจริงใจ จนเอมี่อิจฉาร้องไห้ออกมา
“โฮ!”
“หลงอะไรมันนักหนา ถึงต้องออกรับแทนมันแบบนี้”
รจนาวรรณบ่นลูกชาย เจ้าคุรสวนทันที
“ผมไม่ได้หลงนะครับคุณแม่ แต่...”
“เดี๋ยวนี้กล้าเถียงแม่ขนาดนี้ ยังจะว่าไม่หลงมันอีกเรอะเจ้าคุณ”
“โธ่!”
“เลือกได้รึยัง”
เจ้าคุณมองแทนคำถาม ไม่เข้าใจว่ารจนาวรรณหมายถึงเลือกอะไร
“ชุดแต่งงานของหนู ตกลงเลือก ชุดไหน”
“ผมยังไม่ได้เลือกครับ”
เจ้าคุณตอบเต็มปาก
“ดี งั้นแม่จะเป็นคนเลือกให้เอง”
เจ้าคุณกับรจนาวรรณจ้องตากัน รจนาวรรณรีบคว้าแคตตาล็อกเดินออกไป เอมี่ยิ้มร้ายสะใจก่อนจะตามออกไป ทิ้งให้เจ้าคุณนั่งด้ยอารมณ์เซ็งอยู่ตรงนั้น

เวลาต่อจากนั้น หลังบ้านเจ้าคุณ ไมเคิลกับมะขิ่น กำลังเช็ดตัวให้ไมเคิลที่โดนแฟนคลับสมใจกับเจ้าคุณที่เป็นแม่ค้า รุมขว้างจนโดนลูกหลงไปด้วย
“เฮ้อ! เตือนแล้วก็ไม่เชื่อ เละโหมะเลย”
มะขิ่นเช็ดไปใส่อารมณ์กับหัวไมเคิลไปด้วย
“โอ๊ย! เป็นไรเยอะมะขิ่น ฉันเช็ดเอง!”
“ก็มันเจ็บใจ เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็เกลียดเรา เพื่อนพม่าข้างบ้านมันยังไม่พูดกับมะขิ่นเลย มันบอกเกลียดเจ้านายก็ต้องเกลียดลูกน้องด้วย”
“เฮ้อ! เอาน่า เจ้านายเขาเจ็บหนักกว่าเราเยอะ”
“เจ็บกว่าที่ไหน ดูซิ เราเจ็บกว่าตั้งแยะ”
“ฉันหมายถึงคุณหนูน่ะ เจ็บหนักน่าสงสาร แล้วยังคุณสมใจอีกคน”
มะขิ่นอึ้งไป ส่วนไมเคิลรู้สึกเห็นใจเจ้าคุณและสมใจที่ต้องโดดพลัดพรากจากกันด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งไม่รู้ความเคลื่อนไหวของกันและกันอีกต่างหาก

เวลาผ่านไป ที่บ้านม่วนแต๊ สมใจเดินเจอกับสองแม่ลูกลำยองและลำใย จู่ๆลำยองก็ด่าขึ้น
“นังจ้าดง่าว!”
สมใจรีบถามกลับ
“ว่าใคร”
“หนอย ง่าวแล้วง่าวอีก ง่าวสุดๆ ไม่มีใครง่าวเท่า”
สมใจเสียงเริ่มดึงขึ้น
“แกว่าใคร”
“จะว่าใคร ก็ว่าแกน่ะซินังใจ๋ ฮ่าๆ”
สองแม่ลูกหัวเราะเยาะร่วน ลำยองรีบสวนทันที
“แล้วน้ากับลูกสาวน่ะ ฉลาดนักเหรอ”
สองแม่ลูกชะงักกึก
“ก็ฉลาดกว่าแกละกัน”
ลำใยลอยหน้าลอยตาตอบ
“ใช่ เพราะถึงยังไงลูกสาวข้าก็ไม่เคยโง่ให้ไอ้ผู้ชายหน้าไหน ไม่ว่าจะไฮโลว์”
“ไฮโซจ๊ะแม่”
“เออ ลูกสาวข้าไม่เคยโง่ให้ผู้ชายไฮโซ รึ โลโซ มาหลอกกินไข่แดงได้ฟรีๆ อย่างแกหรอกเว๊ยนังใจ๋ฎ
สมใจชักเริ่มทนไม่ไหว ด่ากลับลำยองเช่นกัน
“พูดอะไรน่ะน้าลำยอง แก่แล้วจะพูดจาก็หัดคิดให้เยอะๆ เท่าอายุซะมั่งซิ”
“อร้าย! มันด่าว่าแม่แก่”
ลำใยเริ่มเสี้ยม
“รู้แล้ว บ๊ะๆ นังนี่ ง่าวคนเดียวไม่พอยังพาพี่น้องม่วนแต๊ให้พลอยง่าวโดนไอ้ไฮโซเมืองกรุงมันหลอกไปด้วย นังจ้าดง่าว!”
สมใจอึ้งที่รู้ว่าลำยองก็รู้เรื่องนี้ด้วย
“น้า น้ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง”

ลำยองกับลำใย ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิ สะใจนักที่หักหน้าสมใจได้












Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 23:27:53 น.
Counter : 186 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]