All Blog
รักออกอากาศ ตอนที่ 11




ในเวลาต่อมา แฟนคลับที่พากันถือป้ายไฟรอหน้าโรงแรมเริ่มออกอาการหงอย เอาป้ายไฟขึ้นมาบังแดดเป็นแถว แต่ผู้สื่อข่าวคนเดิมยังเกาะติดสถานการณ์อยู่

“คุณผู้ชมคะ ดิฉันยังคงเกาะติดสถานการณ์อยู่ที่หน้าโรงแรมเหมือนเดิมนะคะ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แววว่าพิธีหมั้นระหว่างไฮโซเจ้าคุณกับไฮโซเอมี่จะเริ่มต้นขึ้นเลย แต่ถึงยังไงกองทัพแฟนคลับก็ยังปักหลักประท้วงอยู่ตรงนี้ ไม่ยอมหนีไปไหน ใช่มั้ยคะพวกเรา”
แฟนคลับลุกฮือ
“ใช่ๆ”
ทันใดนั้นรถสมใจแล่นมาอีกด้าน โดยแฟนคลับไม่ทันมองเห็น
“โห คนมามุงดูอะไรกันเยอะแยะเลย นังปุ๋ย ตื่นเร็ว ถึงแล้ว นังแค๊บด้วย”
คำปุยงัยเงียตื่นขึ้นมา
“โอย เบาๆ ก็ได้ ตกใจหมด”
สมใจขับรถผ่านกลุ่มแฟนคลับไปอีกด้านหนึ่ง

เจ้าคุณนั่งด้วยอารมณ์เซ็งอยู่ในโรงแรม โดยมีไมเคิลนั่งเฝ้าข้างๆ
“ไอ้ไมค์”
“ครับพ้ม!”
“ถ้าแกเป็นฉัน แกจะทำไงวะ แกจะยอมแต่งงานเพื่อแม่ หรือจะทำตามใจตัวเอง”
“โห เกิดมายังไม่เคยเจอคำถามอะไรยากเท่านี้มาก่อนเลยครับคุณหนู”
“จริง มันยากมากจริงๆ”
เจ้าคุณพูดด้วยแววตาสุดเศร้า
“แต่คุณหนูก็ตัดสินใจแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“จำใจ ไม่ใช่ตัดสินใจ”
“โฮ่ คุณหนูของไอ้ไมค์”
ทันใดนั้นเอมี่กับคุณหญิงเดินกลับเข้ามาสองคนจึงต้องหยุดคุยไปโดยปริยาย
“คุณคะคุณ!”
เอมี่ปรี่เข้ามา
“ข่าวดีจ๊ะ ท่านประธานมาแล้ว”
รจนาวรรณพูดอย่างดีใจ ในขณะที่เจ้าคุณไม่นับเป็นข่าวดีเมื่อต้องหมั้นกับเอมี่

เวลาและโรงแรมเดียวกัน สมใจ คำปุยและแคบหมู คนยกกล่องใบชากันมาเต็มไม้เต็มมือ กล่องใบชาซ้อนกันจนบังหน้าทั้งสามคนจนมองทางไม่ถนัด แบกลังอย่างทุกลักทุเล
“ไอ้ใจ๋นะไอ้ใจ๋ ช่วยกันยกมาทีละกล่องก็ได้ เดี๋ยวค่อยกลับไปเอาที่รถมาใหม่ โอย มองอะไรก็แทบไม่เห็น”
คำปุยบ่น โดยมีแคบหมูคอยเสริม
“นั่นซิ แค๊บยิ่งเตี้ยๆ อยู่ด้วย”
“เลิกบ่นซะทีเหอะ ขนมารอบเดียวน่ะล่ะดีแล้ว ที่จอดรถอยู่ตั้งไกลจะขนสองรอบทำไมให้เสียเวลา อยากจะไปช็อปปิ้งต่อไม่ใช่เหรอนังแค๊บ”
“เออจริงด้วย! แหม เจ๊ใจ๋นี่ไอเดียเริ่ด ไป รีบเดินเร็ว จะได้ไปช็อปปิ้งต่อ”
แคบหมูรีบวิ่งออกไปทันที
“เฮ๊ย! นังแค๊บเดี๋ยวหกล้ม”
ไม่ทันขาดคำแค๊บหมูล้มหน้าทิ่มเข้ากับกล่องใบชา
“นั่นไง! เฮ้อ!”

อีกมุมหนึ่งประตูลิฟต์เปิดออก เจ้าคุณเดินออกมากับเอมี่ รจนาวรรณและไมเคิล มีทีมงานรอรับหน้าลิฟต์ เอมี่ยิ้มภูมิใจควงแขนเจ้าคุณ สมใจคำปุยและแคบหมูไม่ทันเห็น เพราะทั้งหมดนั่งยองๆ ก้มหน้าก้มตาเก็บกล่องใบชาที่ตกอยู่
“อ้วนแล้วยังซุ่มซ่ามอีกนะนังแค๊บ”
คำปุยบ่น
“รู้งี้ไม่พามาด้วยหรอก”
สมใจเก็บไปบ่นไป ทั้งหมดอุ้มกล่องใบชาซ้อนจนบังหน้ามิดอย่างเดิม
“ไป! นังแค๊บ! อย่าซุ่มซ่ามอีกล่ะ”
ทั้งสามคนออกเดิน ในขณะที่ทีมงานงานหมั้นของเจ้าคุณและเอมี่บอกให้สามคนถอยหลับ จนเบียดกัน แต่ไม่ทันที่ทั้งหมดจะมองเห็นกัน แคบหมูจึงอุทานขึ้น
“เชอะ! พวกไฮโซ แหวะ!”
“ไอ้แค๊บ! เดี๋ยวก็หัวทิ่มอีกอ่ะ จะไปมั้ย ช็อปปิ้ง”
สมใจดูแคบหมูกลัวลังชาตกอีก
“แฮ่ ไปจ๊ะ ไปๆ”
สมใจส่ายหน้าก่อนจะเหลือบไปมองกลุ่มเจ้าคุณ แต่ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด เดินแบกลังชาต่อไป ต่างคนต่างไปคนละทิศคนละทางกับขบวนหมั้นของเจ้าคุณและเอมี่

เวลาต่อมา ฝนห้องจัดงานหมั้น แขกเหรื่อต่างรอคอยเจ้าภาพ รวมทั้งกลุ่มก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เจอาร์ และแมทธิว เจอาร์หาวแล้วเพราะรอประธานในพิธีนานเกินเหตุ
“โห นี่ถ้าไม่ได้คบกันมาตั้งแต่อนุบาลนะ ฉันไม่รอแล้ว กลับบ้านนอนตั้งนานแล้ว อะไรของมันวะ เลทตั้งหลายชั่วโมง โอ้วมายก็อด!”
“เลิกบ่นได้แล้วน่า ก็ประธานงานเขาเพิ่งจะมาถึง ดูซิแขกคนอื่นเขายังไม่ยอมกลับกันเลย ขนาดเขาไม่ได้เป็นเพื่อนกับไอ้คุณมาเกือบ 20 ปี อย่างพวกเรานะ”
ก้องเกียรติบอกเจาร์
“ชัวร์ซิ งานนี้ใครจะอยากกลับ ใครๆ เขาก็อยากอยู่เก็บข่าวไปเม้าท์ต่อกันทั้งนั้นแหละ ไอ้คุณมันออกจะดังซะขนาดนี้ ไหนจะยังมีข่าวเม้าท์เรื่องเอมี่อีกล่ะ”
กิ่งแก้วโพล่งขึ้น จนแมทธิวสะอึก

“เม้าท์ เม้าท์เอมี่เรื่องอะไร”
เจอาร์ถามด้วยความซื่อ
“ไปอยู่ไหนมาไอ้จ้อย”
“เจอาร์!”
“ก็เขาเม้าท์กันให้แซดว่าเอมี่ท้อง”
กิ่งแก้วอธิบายเสียละเอียด
“เอมี่ท้อง!”
แมทธิวยืนสะดุ้ง กิ่งแก้วรีบปิดปากเจอาร์
“ไอ้บ้า! จะดังไปไหน เดี๋ยวคนเขาก็ได้ยินกันหมดหรอก”
เจอาร์รีบแกะมือกิ่งแก้วออก
“จะกลัวเขาได้ยินทำไมล่ะ ก็แกเพิ่งบอกหยกๆ ว่าคนอื่นเขาก็เม้าท์กันให้แซ่ดเหมือนกันนี่กิ๋ง”
“เออ จริงว่ะ!”
“ใครจะเม้าท์ก็ช่างเขา เราอย่าเม้าท์เพื่อนเราเองแบบนี้เลย”
ก้องเกียรติโพล่งขึ้น
“ไอ้คุณน่ะใช่เพื่อนเรา แต่เอมี่ไม่ใช่”
กิ้งแก้วตอบกลับคนรักทันที
“กิ๋ง”
“ไม่รู้ล่ะ สงสารไอ้คุณ ใช่ลูกมันรึเปล่าก็ไม่รู้”
กิ่งแก้วพูดอย่างสงสัย และเห็นใจเพื่อน แมทธิวหันขวับ ก้องเกียรติรีบปิดปากกิ่งแก้ว
“เฮ่ย! กิ๋ง ทำไมพูดอย่างนี้”
“ก็มันน่าสงสัย”
แมทธิวรีบตัดบท
“โน่นๆ ไอ้คุณมาแล้ว”
เจ้าคุณเดินหน้าเศร้าเข้างานมาพร้อมเอมี่และรจนาวรรณ มีเพยีงแม่เจ้าคุณที่ยิ้มแย้มทักทายแขกเหรื่อ ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เจอาร์ และแมทธิว เดินเข้าไปหาเจ้าคุณ
“Congratulations ยินดีด้วยเพื่อนรัก”
เจ้าคุณพยักหน้าให้
ก้องเกียรติและกิ้งแก้ว เห็นใจเพื่อน สบตากับเจ้าคุณอย่างเข้าใจโดยไม่ต้องพูดอะไร ก่อนจะเข้าไปกอดเจ้าคุณ ส่วนแมทธิวรีบเข้าไปแสดงความดีใจกับเจ้าคุณเช่นกัน
“ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งจากขั้วหัวใจเลย ไอ้คุณ และเอมี่ด้วยนะจ๊ะ”
เอมี่ไม่กล้าสู้หน้าแมทธิว รีบตัดบททันที
“รีบไปเถอะค่ะ งานเราช้ามากแล้ว”
“จริงด้วย ไปก่อนเถอะลูกคุณ”
รจนาวรรณเร่งเจ้าคุณ
“สงสารไอ้คุณจังเลย”
กิ่งแก้วเอ่ยขึ้น
“สงสารทำไม มันกำลังจะมีเมีย”
เจอาร์เอ่ย
“เมีย”
แมทธิวยิ้มเยาะเย้ยเจ้าคุณ โดยที่รู้แต่แรกว่าลูกในท้องของเอมี่ไม่ใช่ลูกเจ้าคุณ ทั้งตัวเองยังมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเอมี่มาก่อนหน้านี้แล้ว

เวลาเดียวกัน สมใจ แคบหมูและคำปุย ส่งชาเรียบร้อย แคบหมูกระโดดตัวลอย
“ไชโย้! ได้ออเดอร์เพิ่มอีกเพียบเลย”
“สงสัยดวงแกกำลังจะเฮงแล้วล่ะไอ้ใจ๋ ได้ลูกค้าใหม่เป็นโรงแรมไฮโซซะขนาดนี้ กลับบ้านมีหวังได้เด็ดใบชากันมือหงิกแน่ ฮ่าๆ”
คำปุยเอ่ย
“สาธุ! ขอให้จริงเถอะ พ่อกับแม่คงดีใจตาย”
สามคนเดินคุยกันอย่างมีความสุข เดินผ่านประตูจัดงานหมั้นของเจ้าคุณไป แต่แคบหมูชะโงกหน้าไปดูของกินในงาน
“อู้หู! คนเยอะแยะเลย น่าจะมีของกินเยอะอยู่ เข้าไปมั่วได้ป่ะเนี่ย”
สมใจเขกหัวแคบหมูในความห่วงกิน
“นังแค๊บ! ดูสารรูปพวกเราก่อนไม่เจียมตัวเล๊ย นี่มันงานพวกคนรวยเขา”
สมใจเหลือบตามองที่ป้ายชื่อหน้างานแบบไม่ได้ตั้งใจแต่ต้องชะงัก ตาจ้องเขม็งอ่านป้าย
ตัวหนังสือเล็กหน้างานติดไว้ “พิธีหมั้น ระหว่างเจ้าคุณ-คุณากร มหาศักดิ์ไพศาล กับ เอมิกา อรุณโรจน์รัตน์”

สมใจช็อก ย้อนนึกถึงคำพูดของรจนาวรรณที่ด่าเธอตอนเจ้าคุณถูกยิงที่โรงพยาบาล
“เพราะฉันคือ คุณหญิงรจนาวรรณ มหาศักดิ์ไพศาล แม่แท้ๆ ของเจ้าคุณ-คุณากร มหาศักดิ์ไพศาล ชายหนุ่มรูปหล่อแม่รวย ที่ฉันต้องการให้แต่งงานกับหนูเอมี่คนนี้คนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่แก!”
สมใจแค้นสุดขีด
“เจ้าคุณ!”
“ไอ้ใจ๋ แกเป็นไรวะว๊าย! ไอ้ใจ๋”
สมใจสุดแค้น แววตาอำมหิตเดินเข้าไปในงานอย่างไม่กลัวใคร
“ไอ้ใจ๋ ใจเย็น”
“อ้าว! ตกลงจะเข้าไปมั่วกินของเขาเหรอเนี่ยเจ๊”
แคบหมูยังไม่รู้เรื่อง
“อู๊ย! นังแค๊บ!”
คำปุยผลักหัวแคบหมูกระเด็นในความซื่อ แล้ววิ่งตามสมใจเข้าไปในงานทันที
“อะไรวะเนี่ย ไหนว่าเราไม่เจียมตัว แหม พุ่งตัดหน้ากันงี้เลยนะเจ๊”
แคบหมูยังไม่เข้าใจ ว่าสมใจเข้าไปในงานหมั้นสุดหรูเพราะเหตุใดกันแน่

ในห้องจัดงานหมั้น เจ้าคุณนั่งหน้าเศร้าอยู่กับเอมี่ บนโซฟาด้านหลังมีท่านประธานในพิธีหมั้น รจนาวรรณ และคุณหญิงแม่ของเอมี่นั่งซ้ายขวาข้างกัน
“นี่ก็ถึงเวลาอันเป็นมงคลแล้วนะ”
ประธานในพิธีเอ่ยขึ้น
“สวมแหวนเลยซิจ๊ะลูกคุณ”
รจนาวรรณสั่งเจ้าคุณ
“น่ารักจริงๆลูกเขยแม่”
คุณหญิงแม่ของเอมี่สุดปลื้มไม่ต่างกัน เจ้าคุณค่อยๆ หยิบแหวนหมั้นจากพานตรงหน้าขึ้นมามอง
“สวมเลยซิคะ คุณคะคุณขา”
เจ้าคุณยังมองนิ่งอยู่ นึกถึงข้าวนึ่งร่วมสาบานที่เคยกินกับสมใจ แขกเหรื่อต่างมองลุ้นไปตามๆกัน
“ลูกคุณ จะรออะไร สวมเลยซิลูก”
“โถ ลูกเขยแม่ ขี้อาย น่าร้ากอ่ะ”
สองคุณหญิงแม่พากันหัวเราะอย่างมีความสุข แต่เอมี่เริ่มหน้าเสีย
“ สวมซิคะ คุณ!”
เจ้าคุณถอนใจเฮือก บรรดาเพื่อนๆมองลุ้น เจ้าคุณตัดสินใจเหมือนจะสวมแหวนให้เอมี่ แต่ทันใดนั้นต้องชะงักเพราะสมใจปรี่เข้ามา
“อ้ายขุนทอง!”
เจ้าคุณหันมามองทันที แขกเหรื่อหน้าเวทีหันขวับ แหวกเป็นทาง สมใจยืนจังก้าหน้าเอาเรื่อง เจ้าคุณแทบช็อกเมื่อเห็นสมใจ
“สมใจ!”
“นังบ้านนอก!”
เอมี่กับรจนาวรรณตกใจสุดขีด
“ใช่ ฉันเอง!”
เจ้าคุณยังอึ้งเหมือนฝันไปที่สมใจโผล่มาที่งาน
“ใจ๋”
สมใจค่อยๆ เดินตรงเข้ามาที่หน้าเวที คำปุยกับแคบหมูวิ่งตามมาจับไว้ แต่สมใจสะบัด
“หยุด!”
คำปุยกับแคบหมูกลัวจนหงอ ก้องเกียรตกับกิ่งแก้วพยายามจะห้าม
“ใจ๋”
“อย่ายุ่ง!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว ชะงักกึก ส่วนแมทธิวกำลังสะใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สมใจรีบกระโดดขึ้นเวที เจ้าคุณลุกขึ้นยิ้มดีใจ
“ใจ๋!”
เอมี่ลุกขึ้นกระชากแขนเจ้าคุณไว้
“อย่านะ! แกกล้ามากนะนังบ้านนอก”
เอมี่ชี้หน้า ปรี่เข้าหาสมใจ สมใจผลักเอมี่กระเด็น
“อร้าย!”
“นี่มันมากเกินไปแล้วนะ ทำไมเธอไม่รู้จักหยุดซะที จะตามราวีพวกเราไปถึงไหน ฉันบอกเธอแล้วใช่มั้ย ว่าถึงยังไงเธอก็ไม่มีวันได้เป็นลูกสะใภ้ของมหาศักดิ์ไพศาลเด็ดขาด”
สมใจสวนขึ้นทันที
“ใครบอกว่าฉันอยากเป็น”
รจนาวรรณสะดุ้ง
“แล้วฉันก็ไม่อยากจะตามราวีพวกคุณด้วยรู้ไว้ซะด้วย ฉันไม่ได้อยากจะเข้ามาเหยียบงานนี้ให้เป็นเสนียดฝ่าเท้าฉันซักเท่าไหร่หรอกนะ”
แขกเหรื่อเริ่มฮือฮา
“แต่ที่ต้องเข้ามาเนี่ย..ก็เพราะ...”
สมใจจ้องหน้าเจ้าคุณ ค่อยๆ เดินเข้าไปประจันหน้า สองคนมองหน้ากัน
“ใจ๋”
สมใจตบหน้าเจ้าคุณสุดแรงเกิด แขกเหรื่อวี๊ดว๊ายกันทั้งงาน รจนาวรรณแทบเป็นลม เจ้าคุณค่อยๆ หันหลับมามองหน้าสมใจ ที่โกรธแค้นจนน้ำตาไหล
“นั่นสำหรับพ่อแม่ฉัน”
สมใจตบเจ้าคุณอีกฉาด
“ของพี่น้องม่วนแต๊”
สมใจตบเจ้าคุณอีกครั้ง
“และนี่ ของฉัน!”
สมใจตบเจ้าคุณจนพอใจ เจ้าคุณหน้าหัน และยอมรับสภาพก่อนจะหันกลับมา
“ใจ๋ ฉัน...”
เจ้าคุณจะคว้าตัวใจ๋ไว้ แต่สมใจวิ่งลงจากเวทีแล้ววิ่งออกจากงานไปทันที
“ใจ๋ ใจ๋”
เจ้าคุณจะวิ่งตามแต่เอมี่ดึงตัวเอาไว้
“อย่านะ คุณคะคุณขา อย่าไปๆ”
“ใจ๋ ใจ๋!”
ภาพบรรยากาศในงานโกลาหลวุ่นวายสองคุณหญิงแม่เป็นลมล้มพับ เอมี่ยังรั้งตัวเจ้าคุณที่ตะโกนร้องเรียกสมใจแต่สมใจไม่หันมองกลับมามองเจ้าคุณแม้แต่น้อย

คืนนั้น รจนาวรรณทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างหมดสภาพในคฤหาสน์ ดมยาดมไปด้วย
“หมดกัน! พังหมด เพราะนังบ้านนอกนั่นคนเดียว”
เจ้าคุณนั่งซึมเพราะรู้ว่าสมใจเสียใจมาก
“แม่”
“แม่ไม่อยากเชื่อเลยนะลูกคุณ ว่าเพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียวจะทำให้ชีวิตพวกเราพังได้ถึงขนาดนี้”
“แม่ครับ ผมต่างหากที่ไปทำชีวิตสมใจเขาพัง”
เจ้าคุณโต้แทนสมใจ
“มันทำถึงขนาดนี้แล้วหนูยังจะเถียงแทนมันอีกเหรอลูก”
“ผมพูดเรื่องจริงครับแม่”
“แต่เรื่องจริงของแม่ก็คือ ตอนนี้หนูเอมี่กับคุณหญิงแม่ของเขากำลังเสียใจมาก”
“โอเค ไว้ผมจะไปขอโทษเขา”
“แค่นั้นไม่พอ หนูต้องเอาแหวนหมั้นนี้ไปด้วย ไปสวมให้หนูเอมี่เร็วที่สุด”
รจนาวรรณยื่นแหวนหมั้นให้เจ้าคุณที่มองแหวนนั้นอย่างหมดหนทางปฏิเสธ
“ครับ แม่”
“ดี! แล้วแม่ก็หวังว่า ต่อจากนี้คงจะไม่มีนังบ้านนอกนั่น เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตพวกเราอีกต่อไป”
รจนาวรรณพูดจบแล้วลุกออกไป ทิ้งให้เจ้าคุณเสียใจ มองแหวนในมือ แล้วคิดถึงสมใจขึ้นมา

คืนนั้น สมใจจอดรถอยุ่ริมถนนในเมืองกรุงฯ นั่งกอดเข่าอยู่ท้ายกระบะ คำปุยกับแคบหมูดูลาดเลาอยู่ห่างๆ ไม่กล้าเข้ามายุ่ง ได้แต่แอบกระซิบกัน
“ไงเนี่ยเจ๊ปุ๋ย นั่งนิ่งอยู่ท่านี้ท่าเดียวมาเป็นชั่วโมงแล้วนะ”
“ปล่อยมัน อย่าไปยุ่งกับมัน”
ทันใดนั้นสมใจเอามือประสานท้ายทอย หงายหลังลงนอนหงายท้ายรถ คำปุยกับแคบหมูรีบวิ่งไปดูเพราะคิดว่าสมใจเป็นลม
“อร้าย! ไอ้ใจ๋ เป็นลมตายรึเปล่า”
“บ้า คนอย่างไอ้ใจ๋ไม่ตายง่ายๆ หรอกเว๊ย”
คำปุยโล่งอก
“พุธโธ! ธัมโม! สังโฆ! โล่งอกไปที สบายใจแล้วล่ะซิ”
สมใจนอนนิ่งเฉย มองฟ้า ไม่ได้ตอบคำถามคำปุย
“ไอ้ใจ๋ ฉันเข้าใจความรู้สึกของแกนะ แต่แกทำเกินไปรึเปล่าวะ”
“เกินไปยังไง”
“ก็ฉันว่า คือฉันรู้สึกว่า อ้ายขุนทองเอ๊ย! เจ้าคุณอะไรนั่นน่ะ เขาก็...”
“ก็อะไร”
“..เขาก็..เขาก็..เป็นคนดีนะเว๊ย”
คำปุยเฉไฉไปเรื่องอื่นทั้งที่ทองออกว่าเจ้าคุณก็รักสมใจเช่นกัน สมใจได้ยินรีบโวยวาย
“ดีบ้านแกดิ ไอ้ไฮโซผีนรก ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ใจร้าย จะไปตายที่ไหนก็ไปเลยไป๊ๆ”
คำปุยได้แต่เหลือบมองเพื่อนที่ยังคงทำใจเรื่องเจ้าคุณไม่ได้ แถมยังจงเกลียดจงชังอีกฝ่ายทั้งที่ยังรักอีกต่างหาก

คืนนั้นที่บ้านสมใจ สมหมาย สมศรี ปลัดจืดและหวานเจี๊ยบ ยังนั่งคุยกันอยู่เพระาเพิ่งกินข้าวเย็นร่วมกันเสร็จ สมศรีรินน้ำชาให้ปลัดจืด
“ขอบคุณครับป้าศรี”
“เอ้า! หวานเจี๊ยบ เอาหน่อย”
สมศรีรืนน้ำชาส่งให้หวานเจี๊ยบเช่นกัน
“ขอบใจจ๊ะ”
“หืมม์ คล่องคอกว่าน้ำแดงเยอะเลย”
ปลัดจืดแซวหวานเจี๊ยบ จนอีกฝ่ายสาดน้ำชาใส่ทันที
“นี่แน่ะ!”
“เฮ๊ย! ร้อนนะ จะบ้าเหรอ”
“อยากปากเหม็นทำไมล่ะ”
สมหมายกับสมศรีนั่งหัวเราะสองคนอย่างอารมณ์ดี
“คู่นี้เป็นอะไรกัน เจอกันเป็นต้องทะเลาะกันอยู่เรื่อย”
สมหมายแซว
“เออ ทะเลาะกันอย่างเนี้ย ข้าเห็นมาหลายคู่แล้ว”
สมศรีขำ ปลัดจืดกับหวานเจี๊ยบ ชะงักกึกมองเอาคำตอบ
“เอ่อ เห็นมาหลายคู่แล้ว เดี๋ยวมันก็ดีกัน”
“ว่าแต่พี่ใจ๋จะกลับเมื่อไหร่จ๊ะป้าศรี กลับคืนนี้เลยละป่าว”
หวานเจี๊ยบถามขึ้น
“ไม่รู้มันเหมือนกัน แต่ข้าอยากให้มันค้างนะ ไม่อยากให้ขับรถกลางคืน ขับคนเดียวด้วย เหนื่อยตาย”
“น่าจะบอกผมซักคำ จะได้ขับไปให้”
ปลัดจืดอาสาช่วยอย่างเต็มใจ
“ตกลงเป็นปลัดหรือคนขับรถกะบะ”
ปลัดจืด เอาคืนสาดน้ำชาใส่หวานเจี๊ยบเช่นกัน
“นี่แน่ะ!”
“ว๊าย! ไอ้ปลัดบ้า ซาดิสม์ ลุงหมาย ป้าศรีดูดิ เอาน้ำชาร้อนๆ มาสาดผู้หญิง”
“มั่ว! เว่อร์! ร้อนที่ไหน เย็นแล้ว”
หวานเจี๊ยบชี้หน้าฝากเอาไว้ก่อน สมหมายกับสมศรีมองสองคนอย่างอารมณ์ดี
“ตกลงคืนนี้ไอ้ใจ๋มันจะกลับบ้านมั้ยวะเนี่ย”
สมหมายคิดถึงลูกสาวขึ้นมาทันที

คืนนั้นในผับ สมใจกับคำปุยกำลังสนุกสนานในผับ สมใจเต้นอย่างเมามัน โดยมีคำปุยเต้นหน้าตาไม่มีความสุขนักอยู่ข้างๆ
“ไอ้ใจ๋ ลุงหมายรู้ล่ะเอาฉันตาย”
“จะรู้ได้ไง ฉันไม่พูด แกไม่พูด อ้อนังแค๊บอีกคน วู้ๆ”
สมใจเต้นอย่างเมามัน
“กลับกันเหอะ สงสารนังแค๊บ นอนรออยู่ในรถน่ะ”
“ให้มันนอนไป นังแค๊บหมู วู้ๆ”
“นี่แกเมาเหรอวะนังใจ๋ เหล้าก็ไม่ได้กินนี่หว่า”
“ไม่ได้เมาเหล้า แต่เมามันเว๊ย! วู้ๆ”
“พุธโธ! ธัมโม! สังโฆ! ไปซะแล้วเพื่อนฉัน”
สมใจเต้นอย่างบ้าคลั่ง สักพักดีเจเปลี่ยนเป็นเพลงช้า
“อะไรวะ อารมณ์เสีย”
สมใจหงุดหงิด
“พักกันนิดนึงนะคร้าบ!”
ดีเจประกาศ คำปุยลากสมใจมานั่ง
“พักก่อน กินน้ำก่อน”
ดีเจเปิดเพลง “เธอยัง” ขึ้นมา สมใจสำลักพรวด เพราะโดนใจเหลือเกิน
“อ๊ายๆ”
“ไปเยอะเลยเพื่อนข้าเจ้า”
สมใจตะโกนร้องเพลง ใส่อารมณ์ตามเพลงไปด้วยความอินคล้ายคนอกหัก ไม่ต่างจากเจ้าคุณที่นั่งเหงาอยู่ที่บ้าน คิดถึงสมใจอย่างบอกไม่ถูก
เจ้าคุณเอนตัวลงนอนบนโซฟาเอามือก่ายหน้าผาก นึกถึงความทรงจำกับสมใจที่ม่วนแต๊ ส่วนสมใจยังคงร้องเพลงต่อด้วยความสะเทือนใจ น้ำตาเริ่มไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

สมใจร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ โผเข้ากอดคำปุยแน่น คำปุยได้แต่ลูบหลังปลอบเพื่อนอย่างเข้าใจ
ค่ำคืนนั้น อาเฟยและลูกน้องใส่หมวกไหมพรมปิดบังหน้า มายืนลับๆ ล่อๆ ที่บริเวณโรงเก็บชาม่วนใจ๋ ลูกน้องอาเฟยราดน้ำมันไปรอบๆ โรงเก็บชา และขณะกำลังจะคว้าไฟแช็กมาจุดนั้น ปลัดจืดและหวานเจี๊ยบเดินทะเลาะกันมาพอดี

“หึ้ย! น่ารำคาญ เดินตามยังกะลูกหมา”
หวานเจี๊ยบบ่นปลัดจืดที่กำลังเดินตามมาติดๆ
“‘ปากเธอซิเหมือนมากกว่า”
ปลัดจืดย้อน
“ปากแกซิเหมือน!”
“นี่! ถ้าลุงหมายกะป้าศรีไม่ขอให้ฉันไปส่งเธอก็อย่าหวังเลยนะยัยลิงเจี๊ยกว่าฉันจะยอมเดินตามเธออย่างนี้”
“อี๋! อยากให้ไปส่งตายล่ะ ฉันเดินของฉันคนเดียวได้ย่ะ ม่วนแต๊นี่มันบ้านฉัน ใครมันจะกล้ามาทำอะไร”
“หึ! ไม่ใช่เขาไม่กล้า แต่เขาไม่อยากทำมากกว่า รังเกียจน่ะเข้าใจมั้ย รังเกียจ!”
ปลัดจืดสวนกลับอย่างทันกัน จนหวานเจี๊ยบโมโหผลักปลัดจืดกระเด็น
“ไอ้บ้า!”
“โอ๊ย!”
ในขณะเดียวกันนั้นลูกน้องของอาเฟย รีบส่งสัญญาณพยักหน้าให้กัน โยนไฟแช็กที่จุดลงบนน้ำมันที่ราด ไฟติดพรึ่บ ลุกโชติช่วงขึ้นทันที
ปลัดจืดหันมาเห็นพอดี “เฮ๊ย! ทำอะไรน่ะ”
ลูกน้องอาเฟยยิ้มร้ายสะใจ ก่อนจะวิ่งหนี ปลัดจืดวิ่งตามล็อกตัวไว้ได้หนึ่งคน
“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้!”
หวานเจี๊ยบรีบตะโกนร้องลั่น เมื่อเห็นไฟที่ลุกไหม้โรงเก็บชา
“ไฟไหม้ ปลัด ไฟไหม้!”
ปลัดจืดหันมาเห็นตกใจ มือยังล็อกคอลูกน้องอาเฟยไว้แล้วตะโกนสั่งให้สาวคู่กัดรีบดับไฟก่อน
“ช่วยดับไฟก่อน”
หวานเจี๊ยบตื่นตระหนก
“ดับยังไงล่ะ!”
“ไปตามคนมาช่วย ไปบอกลุงหมาย เร็ว!”
หวานเจี๊ยบเตรียมวิ่งกลับไปบอกสมหมาย แต่ทันใดนั้นโดนสมุนอีกคนของอาเฟยดักหน้าแล้วรวบตัวไว้แน่น
“ช่วยด้วย!”
สมุนอาเฟยตบหน้าหวานเจี๊ยบ ปลัดจืดเห็นเข้ารีบตะโกนห้าม
“เฮ๊ย! อย่าทำผู้หญิง!”
ปลัดจืดจัดการต่อสู้กับสมุนอาเฟยจนหมอบไปได้หนึ่งคน แล้ววิ่งไปช่วยหวานเจี๊ยบได้สำเร็จ แต่ไม่รอด เพราะสมุนอีกคนโผล่มา เอาไม้ฟาดท้ายทอยปลัดจืดเปรี้ยงเดียวสลบ หวานเจี๊ยบกรี๊ดลั่นกอดปลัดจืดไว้แน่น สมุนต่างพากันวิ่งหนีไป
หวานเจี๊ยบร้องไห้กอดปลัดจืดไว้ที่หน้าโรงเก็บชาขณะที่ไฟกำลังโหมลุกท่วมไปทั่วบริเวณ ปากก็ตะโกนร้องเรียกให้คนช่วยแต่ไม่มีใครได้ยิน

รุ่งเช้าชาวม่วนแต๊มายืนมุงดูโรงเก็บชาม่วนใจ๋ที่เหลือแต่ซาก
“ใครวะ ใครมันใจร้ายใจดำ ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้”
สมหมายตัดพ้อหลังเห้นโรงเก็บชาไม่ใจ๋ไม่เหลืออะไรเลย สมศรียืนน้ำตาคลออยู่ด้วย
“เพิ่งจะช่วยกันกู้วิกฤติมาได้ ใบชาก็เพิ่งจะเก็บหมด อีกตั้งเดือนกว่าจะเก็บได้อีก แล้วอย่างนี้พี่น้องเราจะเอาอะไรกินกัน”
ทุกคนเศร้า ส่วนกำโป๊งกับไส้อั่วซุ่มดูอยู่แถวพุ่มไม้
“เวรกรรม!”
กำโป๊งอุทาน
“ลุง! มาแอบอยู่ตรงนี้ทำไม ทำไมไม่ออกไปหาลุงหมายล่ะ”
“ไอ้ง่าว! พ่อหมายเขายังเคืองข้าไม่หายที่ข้าไปร่วมมือกับอ้ายขุนทองหลอกเขาน่ะ ไหนยังจะพวกชาวบ้านอีก ขืนออกไปข้าก็มีหวังโดนเผายังกะโรงเก็บชาน่ะซิวะ”
“ว้า! แล้วจะทำไงดีล่ะ”
ไส้อั่วอยากช่วยแต่หาทางออกไม่ได้ แต่ทันใดนั้นมีคนเดินผ่านมาสองลุงหลานรีบหลบหลังพุ่มไม้
“จะทำไงก็ซุ่มดูอยู่นี่ล่ะ เย้ย ไอ้อั่วหลบ”
สมใจ แคบหมู และคำปุย วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“พ่อ! แม่!”
สมใจเห็นภาพโรงชาแล้วรักงเสียงหลงด้วยความเสียใจ
“ไอ้ใจ๋!”
“อะ..อะไรเนี่ย..นี่มัน...อะไรกันเนี่ย ไม่!”
สมใจทรุดฮวบหมดแรง ร้องไห้จนหมดแรง ทุกคนกอดคอกันร้องไห้ ไม่ต่างจากกำโป๊งและไส้อั่วที่แอบยืนมองอยู่อย่างเศร้าใจ กับความโชคร้าย และชะตากรรมของคนม่วนแต๊ในเวลานี้

ต่างจากอาฟง ที่ระเบิดเสียงหัวเราะดังสนั่นลั่นบ้านตัวเอง ด้วยความสะใจในการเผาโรงชาม่วนใจ๋ได้สำเร็จ
“ฮ่าๆ สะใจยิ่งกว่าสะใจ ฮ่าๆ พวกลื้อทำดีมาก เอาเงินไปกินหนม”
อาฟงยื่นแบงก์ 20 ให้ลูกน้องคนละใบ ก่อนที่ลูกน้องจะมองเงินอย่างงุนงงในจำนวน
“ขอบคุณครับเถ้าแก่ใหญ่”
“ป๊าจะทำยังไงต่อไป”
อาเฟยถามอาฟงผู้เป็นพ่ออย่างอยากรู้
“จะทำอะไร ก็ไม่ต้องทำอะไร นั่งกระดิกเท้าอยู่กะบ้าน รอให้พวกไอ้หมายมันมาคุกเข่าอ้อนวอนขอเงิน ก็แค่นั้นซิเว้ย อาตี๋น้อย ฮ่าๆ”
อาเฟยมองอาฟงอย่างศรัทธาในความฉลาดหลักแหลมที่สามารถปั่นป่วนคนม่วนแต๊ได้อย่างเจ็บแสบ

เวลาถัดมา ที่บ้านสมใจทุกคนยังนั่งเศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้น สมใจโทษตัวเองที่กลับมาช้าเกินไป
“เพราะฉันคนเดียว ถ้าฉันกลับมาเร็วกว่านี้ก็คงไม่เกิดเรื่อง”
“ไอ้ใจ๋...ไม่เกี่ยวกับเอ็งเลย ถึงเอ็งจะกลับมาเร็วแล้วยังไง พ่อ แม่ ปลัดจืด ใครต่อใครก็อยู่ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกัน”
สมศรีปลอบลูกสาว
“เพิ่งจะเอาชาล็อตแรกไปขายแท้ๆ แถมยังได้ออเดอร์เพิ่มมาอีกเพียบเลย”
คำปุยตัดพ้อในโชคชะตาของคนม่วนแต๊ ในขณะที่แคบหมูกลัวอดตายในครานี้
“โห แล้วพวกเราจะอดตายกันมั้ยเนี่ย”
“หุบปากนะนังแค๊บ! ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ พวกเราม่วนแต๊ไม่มีวันอดตายหรอกเว้ย!”
สมหมายสายตามุ่งมั่น
“แล้วยังไงล่ะพ่อ คราวก่อนลุงกำโป๊งให้ยืมเงินมาก็ยังไม่ได้ใช้เขาเลย คราวนี้จะไปเอาเงินที่ไหนล่ะ”
“ไอ้ใจ๋ อย่าเอ่ยชื่อ อ้ายโป๊งให้ข้าได้ยินได้มั้ยวะข้าเคยบอกแล้วไง ข้าไม่มีอ้ายขี้จุ๊ใจดำที่ชื่อกำโป๊ง เอ็งก็เหมือนกัน เจ็บแล้วยังไม่รู้จักจำเรอะ”
สมใจเจ็บลึกเข้าไปถึงหัวใจ
“จำซิพ่อ! ทำไมจะไม่จำ จำจนตาย จำไม่ลืมเลย”
สมใจพูดจบลุกพรวดวิ่งขึ้นบ้านไป สมหมายมองตามด้วยความงง
“ตาหมาย! แกนี่ยังไงห๊า! เอาเรื่องโน้นมาปนเรื่องนี้มั่วไปหมด ไอ้ใจ๋มันก็เพิ่งขับรถเหนื่อยๆ กลับมาเจอไฟไหม้โรงเก็บชา แล้วยังมาโดนพ่อด่าอีก แกนี่มันเป็นพ่อประสาอะไร...หึ้ย!”
สมศรีตีแขนสมหมายทันที
“อะไรวะ พูดแค่นี้เอง”
คำปุยมองหน้าแคบหมูอย่างรู้ว่าสมใจเก็บกดความรู้สึกไว้ข้างในกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในหลายๆเรื่อง

เวลาต่อจากนั้น สมใจวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนยืนร้องไห้พิงประตู แล้วนึกถึงภาพงานหมั้นของเจ้าคุณ นึกถึงตอนที่ตามไปตบหน้าเจ้าคุณในผับ แล้วร้องกอดคำปุย กระทั่งภาพโรงเก็บชาโดนไฟไหม้จนไม่เหลืออะไร สมใจเสียใจร้องไห้ทรุดลงกับพื้นปานใจจะขาด

เช้าวันใหม่ ที่คอร์ทสควอช เจ้าคุณหวดสควอชอย่างเต็มเหนี่ยว ระบายความเครียดสุด ไม่นานนักแมทธิวเดินเข้ามาอย่างหาเรื่อง
“เก็บกดอะไรมานักหนาวะ ไอ้คุณเพื่อนรัก”
เจ้าคุณเดินเลี่ยงไปเอาผ้าเช็ดหน้าไม่โต้ตอบ
“มันก็น่ายัวะอยู่หรอกนะวิวาห์ล่ม ซะขนาดนั้น ฮ่าๆ”
เจ้าคุณมองหน้าแล้วรีบตอบกลับทันที
“แค่หมั้น ยังไม่ได้แต่ง”
“ถึงยังไงก็ต้องแต่ง ใจคอจะรอให้เอมี่ท้องโตก่อนเหรอวะ”
เจ้าคุณตกใจเมื่อรู้ว่าแมทธิวรู้เรื่องเอมี่ท้อง
“แกรู้เรื่องนี้ด้วย”
แมทธิวลืมตัว จึงรีบกลับมาโต้ตอบอย่างเนียนๆ
“โหฉันคนเดียวที่ไหน ใครๆ เขาก็เม้าท์กันทั่ว”
เจ้าคุณถอนหายใจ ด้วยความเซ็ง แมทธิวเข้ามาตบไหล่
“อารายทำไมทำหน้าเซ็งซะขนาดนั้น มันต้องแฮปปี้ถึงจะถูกซิค้าบ คุณพ่อ ป่าปี๊..ป่าปี๊ ฮ่าๆ”
เจ้าคุณตวัดสายตามองแมทธิว แมทธิวยักคิ้วให้ ก่อนจะเดินจากไปด้วยความสะใจที่เห็นเจ้าคุณเครียด
เจ้าคุณขว้างผ้าลงพื้นอย่างโมโหที่โต้ตอบอีกฝ่ายไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว

เวลาเดียวกัน จอยกำลังแอ็คชั่นออกกำลังกายอยู่ หน้าตาเคร่งเครียด เพราะกำลังถ่ายโษณาอยู่บริเวณฟิตเนสเดียวกันกับที่เจ้าคุณตีสควอชอยู่
“คัท! ไอ้จอย ยิ้มแย้มแจ่มใจหน่อยซิวะ หน้าตายังกะอึไม่ออก”
ก้องเกียรติตะโกนใส่จอยทันที
โห บอสคะ เหนื่อยนะคะ จะให้ยิ้มไงไหว”
“เอาๆ งั้นให้พัก 5 นาที”
“โห..ตั้ง 5 นาที”
“อยากจะพักนานๆ เลยมั้ยล่ะ พักซัก 3 เดือน 6เดือน ไรเงี้ย”
กิ่งแก้วยื่นข้อเสนอแบบรวบรัดให้จอย
“ค่ะๆ..ทราบค่ะ ต้องถ่ายให้เสร็จให้ไวจะได้ประหยัดงบค่ะ บอส”
“รู้ก็ดีแล้ว เจ้าคุณ”
เจ้าคุณยืนถือกระเป๋ากีฬาหลังจากอาบน้ำยืนมองกองถ่ายของก้องเกียรติและกิ่งแก้วทำงานเล็กๆหลังจากที่รายการไฮโซบ้านเฮายุบรายการ

เวลาต่อมา เจ้าคุณ ก้องและกิ่งแก้ว นั่งคุยกันที่ฟิตเนส
“ตั้งแต่รายการไฮโซบ้านเฮาล่มไปพวกเราก็แย่เลย ต้องหาอะไรจุ๊กจิ๊กทำไป ดีกว่าไม่มีอะไรทำเลย นี่ยังโชคดีนะเนี่ยที่ไม่โดนเสี่ยแกฟ้องเอา ไม่งั้นล่ะก็...”
กิ่งแก้วเล่าถึงสถานภาพของบริษัทในเวลานี้ เจ้าคุณนั่งฟังนั่ง
“อย่าสนใจเลยไอ้คุณ ฉันไม่โดนแกเตะแล้วเลิกคบก็บุญแล้ว ว่าแต่แกเหอะ..เป็นไงมั่ง”
“...ก็...โอ”
เจ้าคุณตอบไปทั้งที่อารมณ์เซ็ง
“โอน้อยออก อ่ะดิ”
เจ้าคุณขำไม่ออก
“ไม่ขำ”
“รู้ ใครจะไปขำออก”
“ไอ้ก้อง...”
“หึ้ม”
เจ้าคุณตัดสินใจถาม
“แกได้ข่าว...”
“สมใจ”
เจ้าคุณถามถึงสมใจแต่ก้องเกียรติ ไม่รู้ข่าวคราวเช่นกัน
“ใครจะกล้าวะ ขนาดลุงกำโป๊งนี่ฉันยังไม่กล้าติดต่อแกเลย ได้ข่าวว่าลุงแกก็แย่อยู่ ลุงหมายกะชาวม่วนแต๊โกรธแกมากที่ให้ความร่วมมือกับพวกเรา”
“พวกแก!”
“เออ..พวกฉัน”
“ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าเรื่องราวมันจะบานปลายไปได้ถึงขนาดนี้”
กิ่งแก้วพูดอย่างรู้สึกผิด
“นี่ล่ะ..ผลของการทำอะไรไม่คิด”
ก้องเกียรติน้อมรับอย่างเข้าใจ
“ไอ้แมทก็ด้วยแหละ มันนั่นแหละตัวต้นเรื่องเลย”
“เฮ่ย! อย่าเถียงกันเลยน่ะ คิดในทางที่ดี อย่างน้อย..พวกแกก็ทำให้ฉันมีความทรงจำดีๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตกะเขาบ้าง”
เจ้าคุณพูดอย่างเข้าใจชีวิต สองคนอึ้งไป
“ไอ้คุณ...”
“เนี่ย..สาเหตุที่ทำให้ฉันไม่เตะแล้วก็ไม่เลิกคบพวกแก”
เจ้าคุณพูดอย่างจริงใจ
“คุณ...”
กิ่งแก้วซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูก เจ้าคุณนิ่งไป จนก้องเกียรติถามขึ้น
“แล้วนี่..แกจะยังไงต่อวะ..เรื่องเอมี่”
เจ้าคุณนิ่งคล้ายมีบางอย่างครุ่นคิดในใจ

บ่ายวันนั้นที่ คฤหาสน์เจ้าคุณ รจนาวรรณไม่พอใจที่เจ้าคุณไม่ยอมไปมาหาสู่กับเอมี่
“จนป่านนี้ยังไม่ยอมไปหาหนูเอมี่ นี่หนูจะดื้อแม่จริงๆ เหรอเจ้าคุณ”
“แม่ครับ...ผม...”
“ผมอะไร ผมยังลืมนังบ้านนอกนั่นไม่ได้ ผมอยากจะกลับไปหามัน ไปเอามันมาเป็นลูกสะใภ้ให้แม่งั้นเหรอ”
เจ้าคุณนิ่ง พูดไม่ออกเพราะรจนาวรรณพูดจี้ใจดำ
“คุณพระช่วย! จริงเหรอเจ้าคุณ”
“แม่ครับ..ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย”
“ก็พูดซะมั่งซิลูก หัดพูดซะมั่ง ถ้าลูกพูดมากกว่านี้ซักนิด ก็คงจะดีกว่านี้เยอะเลย เฮ้อ!”
เจ้าคุณนิ่งอึ้งไป แอบคิดในใจว่าอาจจริงดั่งคำที่แม่พูดว่าเขาเงียบเกินไป
“ตกลงยังไง เมื่อไหร่ถึงจะไปง้อหนูมี่”
เจ้าคุณมองแม่ตัวเองอย่างมีคำตอบในใจ

วันใหม่ เอมี่กำลังอาเจียนอย่างหนักเพราะอาการแพ้ท้อง โดยมีแม่คอยลูบหลังให้
“ฮือ ทำไมมันทรมานอย่างนี้ มี่ไม่อยากท้องเลย มี่ไม่อยากท้องๆ”
เอมี่หงุดหงิดโวยวายตีท้องตัวเอง จนแม่ต้องคอยปลอบ
“ไม่นะลูก อย่าทำอย่างนี้ ก็เพราะท้องน่ะซิเจ้าคุณถึงยอมแต่งงานกับลูก ลูกต้องขอบใจลูกในท้องถึงจะถูกนะจ๊ะ”
“แต่ง แต่งที่ไหนกันล่ะคะคุณแม่ กะอีแค่งานหมั้นยังบรรลัยเลย”
“แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของเจ้าคุณเขานี่จ๊ะลูก เป็นเพราะนังบ้านนอกนั่นต่างหาก”
“นังสมใจนะนังสมใจ อย่าให้เจอเชียว อ้วก!”
แม่เอมี่กุลีกุจอเอากระโถนจ่อแล้วลูบหลังให้ลูกอย่างห่วงใย ทันใดนั่นเจ้าคุณโผล่มาทันที แม่เอมี่ยิ้มดีใจ
“เจ้าคุณ! ลูกเขยแม่”
เอมี่สะบัดตัวมามองทันที เจ้าคุณยกมือไว้
“สวัสดีครับ”
“ไหว้พระเถอะจ๊ะ มาจ๊ะมาๆ มานั่งนี่ ดูซิ น้องมี่กำลังแพ้ท้องหนักเลย แกล้งแม่น่าดูเลยนะหลานคุณหญิงยาย ฮิฮิ..น่าร้ากอ่ะ!”
เจ้าคุณไม่รื่นรมย์ด้วย ส่วนเอมี่ยังงอนไม่หาย
“ต๊าย! แม่เพิ่งนึกได้ นัดซินแสดูฤกษ์ตกฟากให้หลานไว้ งั้นแม่ฝากดูน้องมี่ด้วยนะจ๊ะ แม่ต้องไปก่อนล่ะ”
“ครับ สวัสดีครับ”
“จ๊ะๆ ไหว้พระอีกทีจ๊ะ”
แม่เอมี่ส่งสัญญาณให้เอมี่อ้อนเจ้าคุณ แล้วรีบเดินออกไป เจ้าคุณรู้สึกอย่างบอกไม่ถูก ส่วนเอมี่ยังงอนตามระเบียบ
“มาทำไมคะ”
เจ้าคุณพูดไม่ออก
“จะไม่พูดอะไรเลยเหรอคะ”
“เอ่อ...”
“จริงๆ มี่ก็ไม่ได้โกรธอะไรคุณคะคุณขาหรอกนะคะ มี่รู้ว่านังนั่นมันไม่เลิกราเองตะหาก มันขี้ตื๊อ หน้าด้าน น่าไม่อาย”
เจ้าคุณไม่อยกาให้เอมี่ต่อว่าสมใจ รีบตอบกลับ
“เดี๋ยว...เอมี่...”
เอมี่คลื่นไส้ขึ้นมากะทันหัน
“อ้วก...”
เจ้าคุณตกใจ เอมี่เดินไปที่กระโถน เจ้าคุณทำอะไรไม่ถูก เอมี่รับประโถนมาอาเจียน เจ้าคุณทำหน้าไม่ถูก เพราะกำลังจะเป็นพ่อคนในขณะที่หัวใยยังอยู่กับสมใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง

บ่ายวันใหม่ สมใจกับสมหมายประคองปลัดจืดให้เอนพิงหลังบนเตียง หลังบาดเจ็บจากสมุนของอาเฟยทำร้ายในวันโรงเก็บชาม่วนใจ๋ถูกเผา
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกปลัด นอนพักซะที่นี่ยังมีคนช่วยดูแล”
สมหมายเอ่ยขึ้น
“นั่นซิ...เจ็บอย่างนี้จะไปนอนอยู่บ้านคนเดียวได้ยังไง”
สมศรีพูดอย่างเป็นห่วง
“แต่ผม...”
“ก็บอกว่าไม่ต้องเกรงใจ”
ปลัดจืดมือไหว้ขอบคุณ
“ขอบคุณครับลุงหมาย ป้าศรี”
“ตามสบายนะ ไอ้ใจ๋คอยดูปลัดเขาหน่อยนะ”
สมหมายตะโกนสั่งสมใจแล้วพาสมศรีออกไปข้างนอก
“โชคดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก”
“ใจ๋เป็นห่วงฉันด้วยเหรอ”
ปลัดจืดยิ้มอย่างดีใจ
“เป็นห่วงซิ..เพื่อนกันทั้งคน”
ปลัดจืดหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“เมื่อไหร่ใจ๋ถึงจะเลิกเป็นเพื่อนกับฉันซะที”
สมใจชะงัก พูดไม่ออกเหมือนเจอหมัดตรงเข้าเต็มเปา
“ข้าวต้มมาแล้ว”
หวานเจี๊ยบถือชามข้าวต้มมาแต่ไกล ปลัดจืดรู้สึกเซ็งขึ้นมาทันที
“เฮ๊ย! ดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“ใครบอก”
ปลัดจืดกับหวานเจี๊ยบตอบออกมาพร้อมกันแบบไมได้นัดหมาย
“ที่ทำให้เนี่ยก็ชดใช้ไอ้ที่ช่วยฉันไว้วันนั้นหรอกนะ”
หวานเจี๊ยบรีบกลบเกลื่อน ปลัดจืดรีบตอบทันควันเช่นกัน
“ไม่ต้องก็ได้ ไม่ได้ตั้งใจจะช่วยอะไรเท่าไหร่หรอก แค่สัญชาตญาณของผู้ชาย แล้วก็ทำตามหน้าที่ปลัดที่ดี”
“หึ้ย! อย่ากงอย่ากินมันเลย”
สมใจรีบคว้าชามข้าวต้มมาก่อน
“มานี่ๆ โห..น่ากินมากเลย ฝีมือหวานเจี๊ยบเหรอ”
“ใช่...อุตส่าห์ทำเองนะเนี่ย”
“แหวะ!”
ปลัดจืดไม่สนใจ
“อ่ะๆ..หวานเจี๊ยบเขาอุตส่าห์ทำให้ ปลัดก็ลองชิมซะหน่อยเถอะนะ กินเยอะๆ จะได้หายไวๆ มา...ฉันป้อนให้เอง”
พอสมใจจะรับอาสาป้อนปลัดจืดตาโตขึ้นมาทันที
“ใจ๋จะป้อนให้”
สมใจตัดข้าวต้มเป่าแล้วป้อนปลัดจืดทันที
“อ่ะ...”
“แหวะ!”
ปลัดจืดกินข้าวต้มของหวานเจี๊ยบที่ป้อนโดยสมใจอย่างมีความสุข
“เออ..ปลัด..ว่าแต่ปลัดพอจะรู้มั้ยว่าใครที่มันทำร้ายปลัดแล้วก็เผาโรงเก็บชาของเรา”

ปลัดจืดมองจ้องสมใจ เหมือนมีคำตอบอยู่แล้วภายในใจ














Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 23:30:40 น.
Counter : 257 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 10(ต่อ)




ปลัดจืดตรงมาที่บ้านที่บ้านสมใจ ถือหนังสือพิมพ์ที่พาดหัวข่าวเรื่องเจ้าคุณกับสมใจเต็มไปหมด “ไฮโซเจ้าคุณโดนยิง” บางเล่มลงเรื่องรจนาวรรณกับสมใจ “คุณหญิงแม่” ตบเปรี้ยง ไม่ปลื้ม “สะใภ้บ้านนอก”

“มีคนเอาหนังสือพิมพ์นี่เข้ามาแจกจ่ายไปทั่วม่วนแต๊”
ปลัดจืดเอ่ยขึ้นพร้อมยกหนังสือพิมพ์ให้ทุกคนดู
“ว่าไงนะ”
สมหมายตกใจ ทุกคนอึ้ง หยิบหนังสือพิมพ์มาดูแล้ววิพากษ์วิจารณ์ สมใจหน้าเสีย
“มิน่าล่ะ ฉันได้ยินชาวบ้านเม้าท์กันให้แซดเลยอ่ะ”
คำปุยเล่า ส่วนสมใจรู้สึกผิดขึ้นมาทันที
“พ่อ ใจ๋ขอโทษ”
“ไม่เป็นไร ไอ้ใจ๋ ใจเย็นๆ”
สมหมายปลอบลูกสาวที่รักดั่งแก้วตาดวงใจ
“ใครนะที่มันทำอย่างนี้”
สมศรีถามอย่างสงสัย
“แล้วที่มันทำอย่างนี้ มันต้องการอะไร”
ปลัดจืดหันมองสมใจอย่างรู้สึกเห็นใจในความเจ็บปวดครั้งนี้

ต่อมาที่บ้านอาฟง กำลังหัวเราะลั่นกับข่าวเรื่องเจ้าคุณและสมใจกับคนม่วนแต๊
“ฮ่าๆ สะใจจริงเว้ย”
อาฟงดีใจที่แฉบ้านสมหมายได้สำเร็จ
“ป๊าทำอย่างนี้ทำไม”
อาเฟยถามด้วยความสงสัย
“ก็เพื่อความสะใจ ให้มันหายแค้นไงล่ะ ลูกชายอั๊วโดนยิงทั้งคน จะให้อั๊วอยู่เฉยๆ ได้ยังไง”
“ไอ้ขุนทองมันยิงอั๊ว ไม่เกี่ยวกับสมใจ”
อาเฟยไม่อยากให้คนที่ตนเองหมายปองแปดเปื้อน
“เกี่ยวซิ ทำไมจะไม่เกี่ยว เรื่องนี้เกี่ยวกับสมใจลูกสาวไอ้สมหมาย และอั๊วจะทำให้มันเกี่ยวยิ่งกว่านี้อีกด้วย”
“ป๊าจะทำอะไร”
“ลื้อคอยดูต่อไปก็แล้วกัน รับรองว่าลื้อไม่เจ็บตัวฟรีแน่ๆ แค้นนี้ อั๊วต้องชำระ!”
อาเฟยมองหน้าอาฟงอย่างไม่เข้าใจว่าพ่อตัวเองจะแก้แค้นอย่างไรกับคนม่วนแต๊อีก

เวลาต่อจากนั้น สมใจนั่งอยู่อีกมุมของบ้านอย่างไม่สบายใจ ทันใดนั้นปลัดจืดเดินเข้ามา
“อย่าคิดมากเลยใจ๋”
“พ่อแม่ต้องมาพลอยเสื่อมเสียเพราะฉันคนเดียวแท้ๆ”
“เพราะไอ้ขุนทองต่างหาก ไอ้ไฮโซนั่นน่ะ”
ปลัดจืดยังรู้สึกโกรธเจ้าคุณไม่หาย
“ฉันนี่มันโง่อย่างที่คนเขาว่าจริงๆ”
สมใจตัดพ้อ แต่ปลัดจืดกลับโกรธแทน
“ใคร ใครว่าใจ๋”
“ช่างมันเถอะ”
สมใจพูดอย่างไม่ใส่ใจ ปลัดจืดมองสมใจแล้วค่อยๆพูด
“ใจ๋ ลืมไอ้ขุนทองซะได้มั้ย”
สมใจอึ้งไป
“ฉันรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ก็อยากให้ใจ๋พยายามเพราะฉันไม่อยากเห็นใจ๋เจ็บปวดแบบนี้”
สมใจหลบตา อย่างเก็บความรู้สึก
“เพราะใจ๋เจ็บ ฉันก็เจ็บด้วย”
“ปลัด!”
ปลัดจืดมองสมใจด้วยความห่วงใยและรักอย่างเคย แต่สมใจน้อมรับความรักของปลัดจืดได้เพียงความเป็นเพื่อน แม้ว่าเจ็บปวดแต่หัวใจของเธอยังไม่ยอมลืมเจ้าคุณ

วันใหม่ ที่บริษัทของก้องเกียรติ ทีมงานกำลังถ่ายทำรายการเล็กๆน้อยๆให้กับบริษัท เพราะตั้งแต่ไม่มีรายการไฮโซบ้านเฮา บริษัทของก้องเกียรติและกิ่งแก้วซบเซาไปมาก
“5-4-3-2-ไป!”
ก้องเกียรติแพนกล้องไปที่เจอาร์ที่ทำหน้าที่พิธีกร
“ถ้าคุณกำลังมีปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกิน เราขอแนะนำ...”
เจอาร์ผายมือไปให้ดูจอยที่ใส่ชุดออกกำลังกายเล่นเครื่องออกกำลังกายอยู่ แต่การแสดงของจอยยังไม่เหมือนจริง
“เทค!”
ก้องเกียรนั่งอยู่ที่มอนิเตอร์กับกิ่งแก้ว เริ่มยัวะลุกเข้ามาที่เซ็ตอีกรอบ
“ไอ้จอย! หน้าตาต้องยิ้มแย้ม แล้วก็เล่นเครื่องให้มันกระฉับกระเฉงมีความสุขหน่อยซิวะ ทำหน้าเมื่อยอย่างนั้นใครเขาจะอยากซื้อ เจ๊งกันพอดี”
ก้องเกียรติบ่นจอย
“ก็จอยอายนี่คะบอส ดูดิ ดูหุ่นดิ๊”
“น่า ก็ต้องให้เห็นอ้วนๆ ก่อน แล้วเดี๋ยวก็จะใช้คอมพ์ทำให้จอยผอมหลังจากใช้แล้ว ตามสคริปต์ไง”
กิ่งแก้วอธิบาย
“แล้วทำไมบอสไม่จ้างนางแบบคนอื่นล่ะคะ”
จอยซักไม่เลิก
“จะเอาเงินทีไหนมาจ้าง รายการก็ไม่มีให้ทำแล้ว ช่วยๆ กันหน่อยน่า ดูไอ้เจอาร์ซิมันยังมาช่วยฟรีเลย”
ก้องเกียรติรีบแจกแจง
“อ้าว ฟรีเหรอวะเนี่ย โอเคๆ มายเฟรนด์ เพื่อนกันๆ”
เจอาร์ตกลงตามนั้นแม้ไม่เต็มใจนัก
“เอ้า! ช่วยกันหน่อยนะ ขออีกเทคละกัน”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว เมื่อหันจะกลับไปนั่งที่มอนิเตอร์ แล้วพบว่าเจ้าคุณยืนอยู่
“ไอ้คุณ/เจ้าคุณ!”

อีกมุมของสตูดิโอเจ้าคุณเข้ามาคุยกับก้องเกียรติและกิ่งแก้ว จอยเข้ามาเสิร์ฟน้ำเปล่า ให้เจ้าคุณ
“น้ำเปล่าค่ะ บอสสั่งประหยัดงบ แหะๆ”
จอยเสิร์ฟน้ำเสร็จแล้วรีบวิ่งออกไป กิ่งแก้วกับก้องเกียรติได้แต่นั่งมองหน้ากันไปมา ไม่กล้าพูด
“ฉันไม่รู้จะขอโทษแกยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
ก้องเกียรติอธิบาย
“มันเป็นความเห็นแก่ตัวของฉันเอง ขอโทษนะเพื่อน”
กิ่งแก้วขอโทษเจ้าคุณอย่างจริงใจ แต่เจ้าคุณจึงถามขึ้นอย่างสงสัย
“เพื่อน หายหัวกันไปหมดเนี่ยนะเพื่อน”
“จะไม่หายไงล่ะ ขืนโผล่ไปหาแก คุณหญิงแม่แกได้เอาพวกเราตาย เดทสะมอเร่!”
เจอาร์รีบเล่า
“แม่เนี่ยนะ”
เจ้าคุณยังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“เออ! แม่แกสั่งห้ามไม่ให้พวกเราไปเยี่ยมแกที่โรงพยาบาลแล้วก็ที่บ้านด้วย”
เจ้าคุณส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ
“ก็สมควรแล้วที่เขาจะโกรธ เรามันผิดจริงๆ ว่าแต่แกเหอะ มาคราวนี้จะด่าอะไรก็ด่า แต่อย่าทำลายข้าวของอีกนะเว้ย ฉันสองคนหมดตัวแล้ว”
“ฉันแค่อยากมาถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นหลังจากฉันโดนยิง”
ก้องเกียรติกับกิ้งแก้วมองหน้ากัน
“หลังจากแกโดนยิง สมใจกับปลัดจืดก็พาแกมาส่งโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ ความก็เลยแตก สมใจเจอทั้งแฟนคลับ แล้วก็คุณหญิงแม่กับเอมี่ สมใจโดนแม่แกด่าเละ คราวนี้ก็จบกัน สมใจอาละวาดออฟฟิศฉันซะเละตุ้มเป๊ะเลย”
เจ้าคุณเศร้า เมื่อรู้ความจริง
“ใจ๋คงจะเสียใจมาก”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วพยักหน้าตอบแทน
“ฉันอยากไปหาใจ๋”
เจ้าคุณโพล่งขึ้น ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วทำหน้าตกใจ
“แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ใจ๋คงไม่อยากเห็นหน้าฉัน ไม่อยากมองหน้าฉัน เขาคงจะโกรธเกลียดฉันมาก”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วสงสารเพื่อนขึ้นมาจับใจ แต่ทันใดนั้นแมทธิวก็โผล่มาเยาะเย้ยเจ้าคุณทันที
“ถูกต้อง!”
ทุกคนหันมองแมทธิวเป็นตาเดียวกัน
“และยิ่งไปกว่านั้น แกก็จะต้องแต่งงานกับเอมี่ตามคำสั่งของคุณหญิงแม่ของแกอีกด้วย”
“ไอ้แมท!”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วเริ่มโมโห
“ขอแสดงความยินดีล่วงหน้า ก่อนใครเลยนะ ไอ้คุณเพื่อนรัก”
“จนถึงวันนี้แล้ว แกจะไม่ยอมเบาลงมั่งเลยเหรอแมท”
กิ่งแก้วย้อนถามด้วยความระอา
“เบา เรื่อง”
“ก็เรื่องที่ชอบหาเรื่องไอ้คุณไง”
“หาเรื่องตรงไหน ฉันก็แค่อยากแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าบ่าวของเอมี่ มันหาเรื่องตรงไหนวะกิ๋ง”
“ก็จริงนะไอ้แมท แกน่ะหาเรื่องไอ้คุณมันตล๊อด! เออ แล้วนี่กราบเท้าไอ้คุณมันรึยัง”
เจอาร์รีบสวนแมทธิวจนโดนอีกฝ่ายตวาดใส่
“ไอ้จ้อย!”
“จริงซิ! ที่เคยพนันกันเอาไว้ไง ถ้าเจ้าคุณไปอยู่บ้านนอกได้ครบหนึ่งเดือน แกจะต้องกราบเท้าเจ้าคุณไอ้แมท”
กิ่งแก้วทวงสัญญาแทนเจ้าคุณ
“เฮ้ย!”
“ลูกผู้ชายเว๊ยไอ้แมท คำไหนคำนั้น”
ก้องเกียรติทวงสัญญาแบบลูกผู้ชาย
“ไอ้บ้า!”
แมทธิวโพล่ง
“ไม่บ้าล่ะ เร็วเลย เดี๋ยวนี้”
“เฮ้ยๆ”
“ไม่ต้องหรอก!”
เจ้าคุณเอ่ยขึ้นทุกคนชะงัก
“เจ้าคุณ! ทำไมล่ะ”
กิ่งแก้วถามขึ้นอย่างสงสัย
“ฉันต้องขอบใจไอ้แมทมันต่างหาก”
“ไงวะ คอนฟิ้วส์ งง มึนตึ้บ!”
เจอาร์สงสัยทำไมเจ้าคุณไม่เอาเรื่องแมทธิว เจ้าคุณมองกลับไปที่แมทธิว
“ก็เพราะแกทำให้ฉันมีโอกาสได้พบกับ ความสุขที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต”
แมทธิวอึ้งไป เมื่อได้ยิน
“ขอบใจแกมาก ไอ้แมท!”
“ไอ้คุณ!”
เจ้าคุณพูดจบแล้วเดินออกไปอย่างช้าๆ ทิ้งให้ทุกคนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน แต่กลับทำให้แมทธิวยิ่งไม่พอใจ

ต่อจากนั้นเจ้าคุณขับรถอออกไปคิดถึงความสุขที่เคยมีกับสมใจขึ้นมาจับใจ ในขณะที่สมใจปั่นจักรยานอยู่ที่ม่วนแต๊ เจ้าคุณขับรถไปทางหนึ่ง สมใจขี่จักรยานไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้บรรจบกันอีกหรือไม่กับรักครั้งนี้ที่ก่อตัวขึ้นจนเต็มหัวใจ

คืนนั้นที่โรงเก็บชา ทุกคนทำงานจนเสร็จเรียบร้อย
“เอาล่ะ! วันนี้พอแค่นี้ ขอบใจทุกคนนะจ๊ะ”
สมใจเอ่ยขึ้น
“หื้มม์ ได้กลิ่นใบชาแล้วมันหอมชื่นใจ ชาล็อตนี้นี่มันงามขนาดนะไอ้ใจ๋”
คำปุยโพล่งขึ้น แคบหมูคอยเสริมอีกแรง
“ใช่! มีหวังออเดอร์เพียบ! เจ๊ใจ๋ ไปกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ขอแค๊บไปด้วยคนนะ อยากจะไปช็อปปิ้ง”
คำปุยผลักแคบหมูหน้าหงาย
“หนอย นังแค๊บ! กระแดะ! อย่ามาไฮโซ!”
สมใจอึ้งไปกับคำว่าไฮโซ คำปุยเริ่มรู้สึกตัวว่าพลั้งปากไป รีบเปลี่ยนเรื่อง
“อุ๊ย! ไปๆ กลับบ้านกันเถอะ หิวข้าวแล้ว”
“จริงด้วยๆ แค๊บก็หิว”
สองคนเดินตัวปลิวล่วงหน้าไปก่อน ทิ้งให้สมใจถอนหายใจแล้วเดินตามมาอย่างหัวใจบอบช้ำ
โดยไม่มีใครสังเกตว่ามีคนซุ่มแอบมองดูลาดเลาโรงเก็บใบชาอยู่

เช้าวันใหม่ รจนาวรรณตื่นมาแต่เช้าพร้อมกับการเลือกชุดแต่งงานให้เจ้าคุณได้เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งยื่นให้เจ้าคุณดูแบบทันที
“ตกลงแม่เลือกแบบนี้นะเจ้าคุณ”
“แล้วแต่แม่ครับ”
เจ้าคุณไร้ความรู้สึก และไม่ตอบโต้
“อู้ว์! ถ้าคุณคะคุณขาใส่ต้องหล่อกว่าอีตานายแบบนี่แน่ๆ เลยอ่ะค่ะ ส่วนชุดของมี่ มี่ยังไม่เฉลยนะคะ จะเก็บไว้เป็นเซอร์ไพร์ส”
เอมี่ยิ้มอย่างมีความสุข
“น่ารักจริงๆ อ้อ! แม่ไปดูฤกษ์มาแล้วนะ”
“ว้าว! จริงเหรอคะ เราจะได้แต่งเมื่อไหร่คะคุณหญิงแม่”
รจนาวรรณถอนหายใจก่อนตอบ
“ฤกษ์แต่ง ยังไม่มีน่ะจ๊ะ”
เอมี่ตกใจ
“ห๊า! ว่าไงนะคะ”
เจ้าคุณรับหันมาฟัง
“ใจเย็นจ๊ะหนูมี่ ซินแสท่านบอกว่าฤกษ์แต่งตอนนี้ยังไม่มี”
“แล้วมันหมายความว่าไงคะ ตอนนี้ไม่มีแล้วจะมีตอนไหน ท้องมี่ป่องขึ้นทุกวันๆ เนี่ยนะคะ จะต้องรอให้ถึงตอนคลอดเลยรึเปล่าคะคุณหญิงแม่”
เอมี่โวยวายเพราะท้องโตขึ้นทุกวัน ในขณะที่เจ้าคุณได้แต่นั่งมอง
“เอางี้ ฤกษ์แต่งยังไม่มี เราก็หมั้นกันไว้ก่อนดีมั้ย”
รจนาวรรณหาทางออก
“หมั้น”
“หมั้นเลย ไม่ต้องรอฤกษ์ แล้วระหว่างนี้แม่จะลองไปหาซินแสคนอื่นให้ช่วยหาฤกษ์แต่งให้ได้เร็วที่สุด”
เอมี่ได้ยินแล้วดีใจ เข้ามากอดรจนาวรรณ
“อูย คุณหญิงแม่น่ารักที่สุดเลยอ่ะค่ะ”
เจ้าคุณถอนใจ
“ว่าไง เจ้าคุณ”
รจนาวรรณถามลูกชายแต่ก็ได้คำตอบอย่างเดิม
“ก็แล้วแต่แม่ครับ”
รจนาวรรณกับเอมี่ ยิ้มอย่างผู้ชนะ
“ดี ถ้างั้นลูก 2 คน ก็เตรียมตัวหมั้นกันได้เลย”

เช้าวันใหม่ สมใจยกกล่องชาขึ้นรถเรียบร้อย สมหมายกับสมศรียืนรอส่งสมใจไปส่งชาเหมือนอย่างเคย
“ขับดีๆ นะใจ๋ ไม่ต้องรีบ ง่วงก็พัก”
สมศรีบอกลูกสาว
“จ๊ะแม่”
“คราวนี้มีออเดอร์ลูกค้าใหม่ด้วย รู้จักทางแน่นะ ไม่หลงทางแน่นะไอ้ใจ๋”
สมหมายถามด้วยความห่วงใย
“รับรองไม่หลงจ๊ะพ่อ โรงแรมนี้ฉันเคยขับรถผ่าน”
สมใจพูดอย่างมั่นใจ
“ใช่ฉันก็จำได้จ้ะน้าหมาย อูย โรงแรมไฮโซหรูจะตาย”
“ไอ้ปุ๋ย! เลิกพูดคำว่าไฮโซได้มั้ยวะ ข้าเกลียด ไม่อยากได้ยิน”
สมศรีรีบปรามสมหมายเพราะคำปุยไม่ได้ตั้งใจ
“ตาหมาย!”
แคบหมูโผล่หน้ามาจากในรถ
“จะไปกันละยัง เดี๋ยวไปถึงก็มืด อดช็อปปิ้ง”
“วุ๊ย! นังไฮโซ แฮ่! ไม่พูดแล้วจ๊ะไม่พูด”
คำปุยรีบเอามือปิดปากตัวเองทันทีรู้ว่าหลุดคำแสลงใจสมหมาย
“เอ้า! รีบไปเถอะใจ๋ โชคดีนะลูก”
สมศรีตัดบท สมใจยกมือไหว้พ่อแม่แล้วรีบออกเดินทาง
“ฉันไปนะจ๊ะ”
“คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองนะลูก”
สมใจขึ้นรถ สตาร์ทเตรียมออกเดินทาง สมหมายตะโกนตามไปด้วย
“ไอ้ปุ๋ย ดูแลไอ้ใจ๋ให้ดี อย่าให้ไอ้หนุ่มที่ไหนมาเจ๊าะแจ๊ะนะเว๊ย!”
“หึ้ย! ตาหมายก็”
สมศรีตีแขนสามีอย่าห่วงเกินเหตุ
“โชคดีนะไอ้ใจ๋ลูกพ่อ!”
สมใจออกเดินทางมาส่งชาที่กรุงเทพฯกับคำปุยและแคบหมู แต่ไม่มีขุนทองเหมือนครั้งที่แล้ว

วันเดียวกัน ในโรงแรมหรู ซึ่งเป็นวันหมั้นของเอมี่กับเจ้าคุณ ที่มีเพียงรจนาวรรณกับเอมี่ที่ดีใจ แต่เจ้าคุณยังคงเศร้าและไม่ยินดียินร้าย ไมเคิลเห็นเจ้านายแล้วสงสารจับใจที่โดนบังคับให้หมั้นกับคนที่ไม่ได้รัก
ส่วนด้านหน้าโรงแรมแฟนคลับที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของเอมี่และเจ้าคุณมายืนประท้วง ผู้สื่อข่าว รปภ. กำลังเตรียมรายงานสด
“คุณผู้ชมคะ ขณะนี้ดิฉันกำลังยืนอยู่ที่หน้าโรงแรมดัง สถานที่จัดงานหมั้นระหว่างไฮไซหนุ่มชื่อดัง เจ้าคุณ-คุณากร มหาศักดิ์ไพศาล กับไฮโซสาว เอมี่ - เอมิกา อรุณโรจน์รัตน์ ท่ามกลางเสียงประท้วงคัดค้านของเหล่าแฟนคลับนะคะ เพราะอะไรถึงได้ออกมาคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้คะน้อง”
ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์แฟนคลับเจ้าคุณอย่างจริงจังในการประท้วงครั้งนี้
“พวกเรายอมไม่ได้ค่ะ รับไม่ได้ที่เจ้าคุณจะแต่งงานกับเอมี่”
เสียงแฟนคลับเซ็งแซ่หน้าโรงแรม
“รับไม่ได้ๆ”
“ทำไมถึงรับไม่ได้คะน้อง”
ผู้สื่อข่าวรีบถามต่อ
“เราสงสารสมใจ เจ้าคุณใจดำ”
“เจ้าคุณใจดำๆ”
แฟนคลับตะโกนลั่น
“คุณหญิงแม่ใจดำ!”
แฟนคลับตะโกนตาม
“คุณหญิงแม่ใจดำๆ”
“เราไม่เอาเอมี่!”
“ใจเย็นนะคะน้อง รายการ ไฮโซบ้านเฮา” ก็ยุติการออกอากาศไปตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่เลิกฮิตกันอีกคะ”
แฟนคลับตอบอย่างจริงใจ
“เพราะเรารักสมใจ”
บรรดาแฟนคลับกลุ่มใหญ่รีบส่งเสียงตาม
“เรารักสมใจๆ”
“นี่ล่ะค่ะ เป็นความคืบหน้าของกลุ่มผู้ประท้วง กรณีนี้นะคะดิฉันจะคอยเกาะติดสถานการณ์อยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้ขอตัดกลับไปที่สถานีก่อนค่ะคุณกิตติคะ”
ข่าวงานหมั้นและแฟนคลับประท้วงของเอมี่และเจ้าคุณอยู่ในความสนใจของคนทั้งประเทศ

เวลาเดียวกัน รจนาวรรณรีบหยิบรีโมททีวีมาปิดหลังโดนแฟนคลับเจ้าคุณและสมใจโจมตีอย่างหนัก แถมนั่งประท้วงอยู่ที่หน้าโรงแรม
“เด็กพวกนี้มันบ้าบอจริงๆ ไร้สาระสิ้นดี มันแยกไม่ออกรึยังไงว่าอันไหนรายการทีวี อันไหนชีวิตจริง”
รจนาวรรณบ่นอย่างหัวเสีย
“มันก็อันเดียวกันนั่นแหละครับ”
เจ้าคุณพึมพำกับตัวเอง
“ว่าไงนะ”
รจนาวรรณยังได้ยินไม่ถนัด
“อ๋อ เปล่าครับ ไม่มีอะไร”
“แล้วเราจะทำไงดีล่ะคะคุณหญิงแม่”
เอมี่ถามอย่างร้อนใจ
“ก็ไม่เห็นจะต้องทำยังไง เราก็หมั้นของเราต่อไป ใครจะประท้วงยังไงก็ช่าง!”
เอมี่ยิ้มกว้างอย่างดีใจ ในขณะที่เจ้าคุณยังเศร้า ไม่นานนักทีมงานวิ่งเข้ามาหารจนาวรรณหน้าตาตื่น
“แย่แล้วค่ะ คุณหญิง”
“อะไรอีกล่ะ!”
รจนาวรรณถามอย่างรำคาญ
“ท่านประธานงานหมั้นยังไม่เสร็จประชุมจากต่างจังหวัด กว่าจะมาถึงก็คงจะเย็น ไม่ทันฤกษ์หมั้นแน่ๆ ทำไงดีคะ”
“อะไรกันเนี่ย ทำไมมันวุ่นวายอย่างนี้ โฮ ทำไงดี มี่จะทำไงดี”
เอมี่โวยวายยกใหญ่ เจ้าคุณได้ทีรีบถามรจนาววรรณทันที
“เลื่อนไปก่อนมั้ยครับแม่”
“ไม่! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้หนู 2 คนก็ต้องหมั้นกันให้ได้ ไม่มีคำว่าเลื่อน!”
เอมี่ดีใจปรับมืออย่างดีใจ รจนาวรรณรีบหันไปสั่งทีมงาน
“ถึงยังไงฉันก็จะรอ ฤกษ์หมั้นนี้ฉันเป็นคนเลือกเอง เพราะฉะนั้นฉันก็เลื่อนเองได้เหมือนกัน ส่วนแขกคนไหนรอไม่ได้ก็เชิญกลับไปเลย ฉันไม่สน!”
“ค่ะๆ ตามนั้นค่ะ”
ทีมงานรีบวิ่งออกไป
“ดีเหมือนกันค่ะ มี่จะได้ไปแต่งหน้าเพิ่มอีกนิดนึง”
พูดจบเอมี่ลุกขึ้นไปเติมหน้าอย่างมีความสุข
“ไม่มีอุปสรรคอะไรจะขัดขวางงานหมั้นวันนี้ได้”
รจนาวรรณย้ำกับลูกชาย ก่อนเดินออกไป ทิ้งให้ เจ้าคุณนั่งด้วยความเซ็งอยู่กับไมเคิลสองคน

บ่ายแก่วันนั้น หวานเจี๊ยบหิ้วถุงน้ำแดงแล้วเดินมาเพื่อจะเอามาให้สมใจ โดยไม่รู้ว่าสมใจเดินทางไปส่งชาที่กรุงเทพฯ
“พี่ใจ๋! พี่ใจ๋ เจ๊ปุ๋ยๆ เอ้ ไปไหนกันหมดนะ”
หวานเจี๊ยบเดินหาแต่ไม่เจอ
“ลุงหมาย ป้าศรี นังแค๊บ มีใครอยู่มั้ยจ๊ะ”
ไม่มีเสียงตอบ แต่หวานเจี๊ยบตกใจสุดขีดเพราะปลัดจืดยืนอยู่ด้านหลังจนตัวแทบจะชนกัน
“ว๊าย! ผีเปรต!”
“ปลัด! ไม่ใช่เปรต”
“ยิ่งกว่าเปรตอีก ตกใจหมดเลย”
“จะมาขโมยอะไรบ้านลุงหมายไ
ปลัดจืดกวนก่อน
“ไอ้บ้า! แกซิจะมาจับไก่ลุงหมายกินเหรอไอ้ผีกระหัง”
“โห! ปากเธอนี่สุดๆ จริงๆ เลยนะหวานเจี๊ยบ”
“ใช่ซิ พูดกับใครล่ะ ถ้าพูดกับพี่ใจ๋ก็ต้องหวานสุดๆ แต่ถ้าพูดกับแกก็ต้องเลวสุดๆ ให้มันสมกับหน้าแก”
“เอ้า! เอาเข้าไป สวยตายนี่เธอน่ะ”
ปลัดไม่ยอมลดลาวาศอกเช่นกัน
“อร้าย!”
หวานเจี๊ยบกรี๊ดลั่น พอดีกับสมหมายกับสมศรีเดินกลับมาจากไร่ชาพอดี
“เฮ๊ย! ผีเข้ารึไงนังหวานเจี๊ยบ ร้องซะลั่นบ้านข้าไงปลัด ไอ้ใจ๋มันไม่อยู่หรอก ไปส่งชาที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้า”
“ว้า! ฉันอุตส่าห์เอาน้ำแดงมาฝาก”
“ผมก็ซื้อกับข้าวมาฝากครับ”
“ไงดีล่ะ งั้นก็กินข้าวเย็นด้วยกันเลยดีมั้ย ทั้งสองคนน่ะ ฉันกับตาหมายก็เหงาๆอยู่ด้วยนะ”
ปลัดจืดกับหวานเจี๊ยบ ครุ่นคิดๆก่อนจะหันหน้ามาทำหน้าย่นใส่กันเหมือนเคยเพราะไม่คยลงรอยกันซักที

เวลาเดียวกันสมใจขับรถมาถึงกรุงเทพฯ รถราขวักไขว่ สมใจรีบมองหาโรงแรมเป้าหมายที่ต้องไปส่งชา
“เอ โรงแรมมันก็อยู่แถวๆ นี้นี่หว่า เอ๊ะ รึว่าเลยมาแล้ว นังปุ๋ยๆ แกจำได้มั้ยวะ นั่น เฮ้อ! พึ่งไม่ได้ซักคน เฮ้ย! เจอแล้วๆ”

สมใจเลี้ยวรถเข้าไปในโรงแรมหรูนั้นทันที













Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 23:29:04 น.
Counter : 417 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 10(ต่อ)




ช่วงหัวค่ำวันนั้น ค่ำกิ่งแก้วรู้สึกเป็นกังวลเรื่องที่แฟนคลับโทร.เข้ามาด่ารายการไฮโซบ้านเฮาจนสายแทบไหม้

“แย่แล้วก้อง คนดูโทร.มาด่าแหลกเลยที่เราตัดสัญญาณภาพทิ้งน่ะ”
ก้องเกียรติหันมาทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก
“ตัดทิ้งที่ไหนล่ะ ไม่มีภาพจะออกอากาศตะหากล่ะ ก็สมใจออกนอกเส้นทางไปไหนก็ไม่รู้ คงจะเลยเขตที่เราตั้งกล้องดักไว้ แถมไอ้คุณก็หายไปอีกคน...เฮ้อ!”
“แล้วไงเนี่ย จะทำไงดี ป่านนี้ 2 คนนั่นไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้”

เวลาเดียวกัน รถพยาบาลเปิดไซเรนแล่นมาบนถนนโล่งๆ ในรถมีร่างเจ้าคุณซึ่งนอนไม่ได้สติอยู่ในนั้น โดยมีปลัดจืดนั่งมาด้วย และสมใจที่เอาแต่ร้องร้องไห้อยู่ข้างๆ
พยาบาลดูแลอาการเจ้าคุณอย่างใกล้ชิด แต่ดูเหมือนสมใจจะโวยวายเพราะอาการของเจ้าคุณเริ่มน่าเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น
“ไปเร็วกว่านี้ได้มั้ยคะคุณพยาบาล ทำไมขับช้าอย่างนี้”
สมใจร้องไห้แล้วโวยวายเสียงดัง ปลัดจืดรีบปลอบไม่ให้วู่วาม
“ใจ๋..นี่ก็เร็วมากแล้ว”
“ทำไมต้องเข้ากรุงเทพฯ ด้วย กว่าจะถึงขุนทองไม่ตายก่อนเรอะปลัด”
“หมอเขาก็บอกแล้วว่าที่อนามัยไม่มีเครื่องมือที่ดีพอ ถ้าขืนไม่เอาเข้ากรุงเทพฯ ซิ ขุนทองตายแน่”
“อย่าพูดอย่างนี้ซิ! ปลัดใจร้าย แช่งขุนทองได้ยังไง”
ปลัดจืดโดนพาลแบบไม่รู้ตัว สมใจโผเข้ากอดเจ้าคุณไว้แน่น
“ขุนทองต้องไม่เป็นอะไรนะ..ขุนทองต้องไม่เป็นอะไร”
ปลัดจืดหน้าเสียไป แอบใจหายเมื่อเห็น

เช้าวันต่อมา เจ้าคุณนอนอยู่บนเตียงคนไข้ และเตียงถูกเข็นพรวดออกมาตามทางเดินในโรงพยาบาล โดยมีสมใจเกาะเตียงร้องไห้เรียกชื่อเจ้าคุณตลอดเวลา ปลัดจืดวิ่งตามมาด้วยอย่างกังวลใจไม่ต่างกัน
เจ้าคุณถูกเข็นผ่านผู้คน ซึ่งต่างก็มองตามอย่างเอะใจ บางคนที่กำลังพูดโทรศัพท์อยู่ก็ชะเง้อๆ มองตามไป เจ้าคุณถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน สมใจร่ำไห้จะโผเข้าตามไปด้วยแต่พยาบาลห้ามไว้
“รอด้านนอกนะคะ”
“ใจ๋...”
“ปลัด...”
สมใจโผกอดปลัดจืดสะอื้นสุดตัว ปลัดจืดกอดรับไว้แม้ว่ากอดนี้จะเป็นกอดเพราะห่วงคนอื่น
“ใจเย็นๆ”
ปลัดจืดปลอบ
“ขุนทองจะเป็นไรมั้ย หมอจะช่วยได้มั้ย”
สมใจถามอย่างเป็นห่วง
“ช่วยได้ซิ ขุนทองต้องไม่เป็นไร”
สมใจใจชื้น สีหน้ามีความหวัง ฝืนยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะโผกอดปลัดจืดอีกครั้งอย่างหาที่พึ่งทางใจ

วันเดียวกันที่บ้านสมใจ สมหมายยังดวยวายที่ยังหาตัวสมใจไม่เจอ
“อะไรกัน ป่านนี้ยังหาไอ้ใจ๋กันไม่เจอ แย่แล้ว โธ่..ไอ้ใจ๋..มันไปอยู่ที่ไหนนะ ใครทำอะไรมันรึเปล่าเอ๊า แม่ศรี นั่งเฉยทำไม ช่วยกันคิดซิ..คิดๆ..ลูกสาวข้าทั้งคน”
สมหมายลืมตัวใส่อารมณ์กับสมศรี จนอีกฝ่ายโวยวายขึ้นมาบ้าง
“ก็ลูกสาวข้าด้วยล่ะเว๊ยตาหมาย หนอย ยังกะข้าไม่กลุ้ม ยิ่งเห็นแกเดินพล่านเป็นผีบ้าอย่างนี้ ข้ายิ่งกลุ้มคิดไม่ออกเว๊ย”
สมหมายสะดุ้ง ได้สติ สมศรีเริ่มสะอื้นด้วยความอัดอั้นเป็นห่วงสมใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ใจเย็น..ใจเย็น..ค่อยๆ คิด”
สมศรีโผเข้ากอดสามีทั้งน้ำตา
“ไอ้ใจ๋ลูกแม่..ไอ้ใจ๋หายไปไหน...ป่านนี้จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้..ไอ้ใจ๋”
สมหมายใจเสียกลั้นน้ำตาเอาไว้ ทันใดนั้นคำปุยกับแคบหมู วิ่งหน้าตั้งเข้ามา
“แย่แล้ว! แย่แล้ว!”
สมหมายกับสมศรีผละออกจากกัน
“ว่าไง เจอไอ้ใจ๋มั้ย”
สมหมายถามหาอย่างมีความหวัง
“ไอ้ใจ๋อยู่ไหน แล้วเมื่อกี๊พวกเอ็งบอกอะไร แย่แล้ว”
สมศรีรีบถามกลับ
“ เจ๊ใจ๋...”
แคบหมูหอบอยู่จึงพูดไม่จบ สมหมาบกับสมศรีรีบเร่งเอาคำตอบ
“ทำไม ไอ้ใจ๋ทำไม”
แคบหมูมองคำปุยก่อนจะพูดต่อ
“..เจ๊ใจ๋..”
“เอ็งจะพูดมั้ยไอ้แค๊บ ถ้าไม่พูด ข้าจะบีบคอเอ็งเดี๋ยวนี้”
สมหมายขู่ แคบหมูร้องโวยวายไปแอบหลังสมศรี
“น้าศรีช่วยด้วย”
“ว่าไง...นังปุ๋ย...ว่าไง”
คำปุยรีบอธิบาย
“มีคนเจอจักรยานไอ้ใจ๋ในป่า...”
“ห๊า!”
สมศรีตกใจ เป็นลมล้มพับลงไป คำปุยกับแคบหมูกรี๊ดลั่น แล้วพากนัช่วยปฐมพยาบาลสมศรี
“ไอ้ใจ๋...”
สมหมายน้ำตาคลอกห่วงลูกสาวราวใจจะขาด

เวลาเดียวกัน หน้าห้องฉุกเฉินสมใจนั่งตาลอยหมดแรงอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ปลัดจืดได้แต่ยืนมองแอบถอนหายใจ ยื่นถุงซาละเปา เครื่องดื่มให้สมใจด้วยความห่วงใย
“กินซะหน่อยเถอะใจ๋ ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
สมใจมองปลัดจืด แล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงกังวล แววตายังเศร้า
“ทำไมนานจังปลัด..ทำไมนานจัง”
สมใจน้ำตารื้น ห่วงเจ้าคุณอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่ร้องแล้วน่า...หมอเขาต้องช่วยเต็มที่ ขุนทองต้องไม่เป็นอะไร และใจ๋เองก็ต้องไม่เป็นอะไรด้วย”
สมใจเริ่มสะอื้น
“ถ้าขืนใจ๋ยังเป็นแบบนี้..ขุนทองต้องเสียใจแน่”
สมใจมองหน้าปลัดจืดอย่างเข้าใจ พยายามกลั้นสะอื้น ปลัดจืดยื่นเครื่องดื่มให้สมใจจำใจรับไว้
“ดีมาก..กินซาละเปาหน่อยนะ”
ปลัดจืดหยิบซาละเปามาแกะกระดาษออก บิเป็นคำเล็ก ค่อยๆเป่าแล้วจะป้อนสมใจ ทันใดนั้นหมอออกมา สมใจวางเครื่องดื่มแล้วพุ่งพรวดไปหาหมอทันที
“ขุนทองเป็นยังไงคะ หมอคะ..ขุนทองไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ”
สมใจรัวคำถามใส่คุณหมอไม่ยั้ง
“โชคดีที่กระสุนเฉียดอวัยวะและเส้นประสาทสำคัญไปนิดเดียว”
หมอรีบบอกอาการอย่าง สมใจยิ้มดีใจที่สุดที่ขุนทองปลอดภัย
“แต่คนไข้เสียเลือดมากนะครับ ร่างกายอ่อนเพลียเพราะเดินทางมาไกลด้วย คงยังต้องรอดูอาการในไอซียูซักระยะก่อน”
“ค่ะ..ไม่เป็นไรค่ะ..ไม่เป็นไร..ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ”
“ยินดีครับ”
หมอบอกอาการเสร็จ เดินกลับเข้าห้องไอซียู สมใจยืนอึ้งดีใจ ก่อนจะหันมามองปลัดจืดที่ยังนั่งอยู่
“ปลัด...”
สมใจโผเข้ากอดปลัดจืดอย่างดีใจ
“ขุนทองไม่เป็นไร..ขุนทองไม่เป็นไรแล้ว...”
ปลัดจืดยิ้มอย่างสบายใจ ดีใจที่เห็นสมใจไม่ร้องไห้และมีความสุข

เวลาต่อมา ก้องเกียรติทราบเรื่องแล้วว่าเจ้าคุณถูกยิงอยู่โรงพยาบาล
“แย่แล้วกิ๋ง!”
กิ่งแก้วหันมาด้วยใบหน้าเศร้า
“จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกเหรอก้อง”
“มีซิ มีคนโทร.มาบอกว่าเจอไอ้คุณกับสมใจ”
กิ่งแก้วลุกพรวด
“ห๊า! ก็ดีน่ะซิ!”
“เจอที่โรงพยาบาล”
กิ่วแก้วหน้าเสีย หุบยิ้มแทบไม่ทัน
“ในกรุงเทพฯ”
“ห๊า!”

เวลาต่อมาที่บ้านสมใจ สมศรีฟื้นขึ้นมาจากเป็นลมถีบคำปุยเข้าอย่างจัง
“นี่แน่ะ! นังปุ๋ย นังว่อก”
สมศรีด่าคำปุยพร้อมทั้งดมยาดมไปด้วย
“โธ่! น้าศรี ทำไมต้องรุนแรงกันถึงขนาดนี้”
“นี่ยังน้อยไปเว้ย! โทษฐานชักช้า พูดจาไม่รู้เรื่อง”
คำปุยโดนเคาะหัวไปอีกหนึ่งที
“โอ๊ย! ชักช้าที่ไหน ก็ฉันยังพูดไม่ทันจะจบ น้าศรีก็ใจร้อนชิงเป็นลมไปก่อนนี่นา แล้วจะมาว่าฉันได้ยังไง”
“ได้ซิเว้ย ข้าจะแถมมะเหงกให้เอ็งอีกด้วย”
สมหมายเงื้อมะเหงกเตรียมจะเขกหัวคำปุย แต่อีกฝ่ายหลบได้ทัน
“บ๊ะแล้ว! แทนที่จะรีบบอกว่ามีคนเห็นไอ้ใจ๋กับพ่อปลัดพาไอ้ขุนทองไปที่อนามัยก็ทำเป็นชักช้าโอ้เอ้”
“เออ..ว่าแต่ไอ้ขุนทองมันไปอนามัยทำไมวะ มันไม่สบายเป็นอะไร”
คำปุยและแคบหมูมองหน้ากัน คำปุยรีบกระทุ้งศอกให้แคบหมูพูด
“แกมั่งซินังแค๊บ”
“เรอะ จะดีเรอะ”
สมหมายเงื้อมะเหงก สมศรีถกผ้าถุงจะเตรียมถีบ
“นังแค๊บ!”
“พูดแล้วจ้ะ..พูดแล้ว”
“ว่าไง ไอ้ขุนทองมันไม่สบาย..เป็นอะไร”
“อ้ายขุนทอง..ไม่สบาย..เป็น โดนยิงจ๊ะ”
สมหมายกับสมศรีช็อกตาตั้ง
“โดนยิง!”

เวลาถัดมา ที่คฤหาสถ์เจ้าคุณ มะขิ่นแบกกระเป๋าเดินทางหนักอึ้งลงบันได รจนาวรรณเดินกรีดกรายแต่งตัวเต็มยศ ไปกับเอมี่
“ระวังจ้ะลูกมี่..เดินช้าๆ...ประเดี๋ยวหลานแม่จะกระเทือน”
รจนาวรรณห่วงใยเอมี่อย่างเห็นได้ชัด
“ค่ะ..คุณหญิงแม่”
มะขิ่นเอากระเป๋ามากองรวมกับที่วางอยู่แล้ว 4-5 ใบ แล้วยืนมองไมเคิลที่ยืนอึ้งอยู่หน้าทีวี
“เอ๊า! พี่ไมเคิล ยังเหลืออีก 2 ใบ ไม่ไปช่วยกันเลย กินแรงนี่หว่า”
“อ้าว! ไอ้ไมค์ ยังไม่ไปเตรียมรถอีก เดี๋ยวฉันก็ตกเครื่องบิน อดไปตามตัวลูกคุณกลับจากบ้านนอกกันพอดี”
ไมเคิลจ้องไปที่ทีวี
“ผมว่า..คุณผู้หญิงกับคุณเอมี่คงไม่ต้องไปแล้วล่ะครับ”
เอมี่สงสัย
“ เอ๊า! ยังไงยะ แกจะมาห้ามไม่ให้ฉัน..ไอ้ไมค์”
“ดูเองดีกว่าครับ”
ไมเคิลชี้ไปที่ทีวี รจนาวรรณกับเอมี่ตั้งใจดูตาไม่กะพริบ

ภาพในทีวีปรากฏข่าวด่วนช่อง 3 นักข่าวสาวยืนถือไมค์รายงานหน้าอยู่หน้าโรงพยาบาล
“คุณผู้ชมคะ..ขณะนี้ดิฉันกำลังยืนอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราได้รับแจ้งว่าไฮโซคนดัง เจ้าคุณ คุณากร มหาศักดิ์ไพศาล ถูกนำส่งมารักษาตัวที่นี่ เนื่องจากโดนยิงบาดเจ็บสาหัสค่ะ”
รจนาวรรณ เอมี่ ไม่เคิล และมะขิ่นต่างยืนช็อกกับข่าวที่เพิ่งได้ยิน รจนาวรรณกรี๊ดลั่น
“ลูกคุณ!”
รจนาวรรณเป็นลมล้มตึง ทุกคนอลหม่านโกลาหล

เวลาเดียวกันนั้น สมใจกับปลัดจืดยังนั่งรอเฝ้าเจ้าคุณอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน สมใจสัปหงก เพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืน
“ง่วงแย่แล้วใจ๋ หาที่นอนพักก่อนมั๊ย”
สมใจส่ายหน้าไม่ยอมท่าเดียว
“ไม่อ่ะ..จะรออ้ายขุนทอง”
ปลัดจืดพยักหน้า ก้มมองนาฬิกาข้อมือ แล้วจู่ สมใจซบไหล่ปลัดจืดดว้ยความง่วง ปลัดจืดทำตัวไม่ถูกจึงเรียกสมใจเบาๆ
“ใจ๋...”
สมใจนิ่งปลัดจืดนั่งเกร็งตัวอยู่อย่างนั้น
เวลาผ่านไป...ปลัดจืดกับสมใจหลับคอพับหัวชนกันอยู่ตรงที่เดิม ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก เตียงเจ้าคุณถูกเข็นออกมา ปลัดจืดสะดุ้งตื่นก่อนจึงรีบปลึกสมใจ
“ใจ๋...”
ๆสมใจงัวเงียลุกขึ้นมา
“ว้อย!”
“ขุนทองออกมาแล้ว”
สมใจรีบลุกไปเกาะเตียงทันที
“ขุนทอง! ขุนทอง! จะเอาขุนทองไปไหนคะ”
สมใจถามพยาบาล
“ย้ายไปไอซียูค่ะ ขอทางด้วยนะคะ”
พยาบาลพูดจบรีบเข็นเตียงออกไป
“เฮ้ย! เดี๋ยวซิ..เดี๋ยว”
สมใจยังพยายามยื้อไว้ แต่ปลัดจืดดึงตัวเอาไว้
“ใจ๋...ใจเย็นน่า..ขุนทองปลอดภัยแล้ว ฉันว่าเราไปหาที่พักกันก่อน ถึงยังไงตอนนี้เขาก็ยังไม่ให้เยี่ยมอยู่ดี”
“ไม่!ฉันจะนอนเฝ้าขุนทองอยู่แถวนี้ก็ได้”
“อย่าดื้อซิ..เนื้อตัวสกปรกอย่างนี้เขาไม่ให้เข้าห้องไอซียูหรอกนะ”
“..ก็ได้”
ปลัดจืดกล่อมจนสำเร็จ ถอนหายใจกับความดื้อของสมใจ

ต่อจากนั้น ที่หน้าโรงพยาบาล สมใจเดินมากับปลัดจืด แล้วทั้งคู่ต้องชะงัก เมื่อบรรดากองทัพนักข่าวทีวี หนังสือพิมพ์ แฟนคลับเนืองแน่น รปภ.ของ โรงพยาบาล ทำงานคอยกันไว้อย่างหนักหน่วง
“อะไรเนี่ย”
สมใจยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น พอนักข่าวเห็นสมใจยิ่งรีบชี้หน้าเพราะทุกคนรู้จักสมใจมาจากเรียลิตี้ไฮโซบ้านเฮา ในทางกลับกันสมใจกลับไม่รู้เรื่องเรียลิตีแม้แต่น้อย
“นั่นไง! สมใจออกมาแล้ว!”
ทุกคนร้องเรียกสมใจ บ้างตะโกนเรียก “ไอ้ใจ๋” กันเซ็งแซ่ พยายามกรูจะเข้าไปหาสมใจกันโกลาหลอลหม่าน รปภ.ตะโกนห้าม เป่านกหวีดวุ่นวายทั่วโรงพยาบาล สมใจกับปลัดจืดต่างเต็มไปด้วยความงุนงงสงสัย
“นี่มันอะไรกันปลัด”
“ไม่รู้...”
กองทัพนักข่าวพยายามยื่นไมค์เข้ามาถาม
“สมใจคะ ตกลงเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมจู่ๆ คุณก็หายไป”
นักข่าวคนหนึ่งถามขึ้น
“แล้วขุนทองโดนยิงจริงรึเปล่าคะ ใครยิงขุนทองคะ”
นักข่าวคนที่สองรีบถามต่อ จราสมใจและปลัดจืดงงเป็นไก่ตาแตกเข้าไปอีก แฟนคลับของขุนทองรายหนึ่งร้องไห้อย่างคลั่งไคล้ ไม่อยกาให้ขุนทองตาย
“ไม่จริ้ง! ขุนทองต้องไม่ตาย ขุนทองต้องไม่ตาย”
แฟนคลับพูดจบเป็นลมล้มพับลงไป นักข่าวรุมถ่ายภาพแฟนคลับ ฝ่ายรปภ.เป่านกหวีดวุ่นวาย แต่สมใจกับปลัดจืดยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“แล้วพาไอ้ปลัดจืดมาด้วยทำไม ไม่เอา เราไม่เอาปลัดจืด!”
แฟนคลับอีกคนตะโกนขึ้น แฟนคลับของเจ้าคุณและสมใจไม่พอใจตะโกนไล่ปลัดจืดทันที
“ไม่เอาปลัดจืด! ไม่เอาปลัดจืด!”
ปลัดจืดได้ยินยิ่งไม่เข้าใจ
“เฮ๊ย! อะไรวะ”
แฟนคลับปลัดจืดพอได้ยินคนโปรดของตัวเองโดนด่าก็ตะโกนกลับบ้างดว้ยความโกรธ
“เฮ้ย! พูดงี้ได้ไง ว่าปลัดจืดได้ไง ไอ้ใจ๋ ปลัดจืด ไอ้ใจ๋ ปลัดจืด”
“ไอ้ใจ๋ปลัดจืด! ไอ้ใจ๋ปลัดจืด”
สมใจกับปลัดจืดยังเต็มไปด้วยความงงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“เฮ๊ย!”
สองฝั่งทำท่าจะตีกัน รปภ.เป่านกหวีด กล้องนักข่าวรุมถ่ายจ้าละหวั่น
“ปลัด! ฉันงงไปหมดแล้ว นี่มันเรื่องอะไรกัน”
สมใจถามปลัดจืดด้วยความสงสัย ปลัดจืดหยุดคิดเริ่มรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ
“สมใจคะ ตกลงจะเลือกใครกันแน่คะ ระหว่างเจ้าคุณกับปลัดจืด”
นักข่าวยื่นไมค์รอฟังคำสัมภาษณ์จากสมใจ
“ใครนะ เจ้าคุณ”
อีกมุมหนึ่ง ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วหันมาพบสมใจกับปลัดจืด แล้ววิ่งไปหาทันที
“แย่แล้ว!”
“เร็ว!”
ก้องเกียรติกระชากมือกิ่งแก้ววิ่งเข้าไปหาสมใจและปลัดจืด
“ใจ๋! ปลัด! ไปกับเราก่อนเร็ว”
สมใจมองหน้าก้องเกียรติอย่างจำได้ว่าคือหมอที่รักษาโรคทางจิตใหักับเจ้าคุณ
“เฮ๊ย!นี่มัน...”
“ไว้ก่อนเถอะค่ะ! รีบไปก่อนเร็ว!”
กิ่งแก้วเร่งให้ทั้งสมใจและเจ้าคุณรีบออกมาจากตรงนั้น แต่สมใจกับปลัดจืด สะบัดมือทันที
“เดี๋ยว! ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น นี่มันเรื่องอะไรกัน”
ปลัดจืดถามขึ้น
“ไปก่อน! แล้วจะเล่าให้ฟัง”
ก้องเกียรติรีบกระชากสองคนออกอย่างแรง จะวิ่งกลับหันหลังแต่ก็ต้องชะงักเมื่อรจนาวรรณยืนอยู่ตรงหน้า
“คุณหญิงแม่!”
รจนาวรรณ ตีหน้ายักษ์ใส่ ในขณะที่เอมี่จิกสายตาไปที่สมใจอย่างไม่เป็นมิตร ส่วนสมใจยังไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รจนาวรรณเดินมาจ้องหน้าสมใจอย่างเย้ยหยัน มองสมใจตั้งแต่หัวจรดเท้า
“แกเองน่ะเหรอ..อีนังบ้านนอก!”
สมใจตกใจ เอที่รีบเข้ามาเสริมทัพ
“ใช่แล้วค่ะคุณหญิงแม่ นี่แหละค่ะ..อีนังบ้านนอก!”
สมใจอึ้ง ตกใจแต่ยังไม่ตอบโต้ใดๆ ใส่รจนาวรรณและเอมี่ เพราะในใจเวลานี้เป็นห่วงอาการเจ้าคุณมากกว่าสิ่งอื่นใด

ค่ำคืนเดียวกันนั้น ภายในห้องพักคนไข้ เจ้าคุณกำลังสำลักน้ำเปล่าที่เอมี่ป้อนแล้วไอออกมาจนรู้สึกเจ็บแผล

“ว๊าย!”
เอมี่เห็นอาการก็ร้องอย่างตกใจ จนรจนาวรรณกับไมเคิลต้องเข้ามาดูแลเจ้าคุณแทน
“ระวังหน่อยซิหนูมี่!”
รจนาวรรณดุเอมี่ จนอีกฝ่ายต้องระงับอารมณ์ไม่พอใจเอาไว้
“แหม เป็นเพราะนังบ้านนอกนั่นแท้ๆ คุณคะคุณขาของมี่เลยต้องมานอนเจ็บอยู่อย่างนี้”
รจนาวรรณบ้าจี้เชื่อตามเอมี่ไปด้วย
“จริงของหนูมี่ เฮ้อ! นี่มันเวรกรรมอะไรของลูกแม่ก็ไม่รู้ เอาเถอะลูก จากนี้ไปคงจะหมดเคราะห์หมดโศกกันซะที หายดีเมื่อไหร่แต่งงานกับหนูมี่ทันทีเลยนะจ๊ะลูก”
“แม่!”
เจ้าคุณร้องทักแม่ในขณะที่เอมี่ดีใจสุดขีด
“เย้!”
เอมี่กอดคุณหญิงแม่แล้วหันไปกอดเจ้าคุณ เจ้าคุณกระเทือนแผลขึ้นมาอีก
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ มี่ดีใจอ่ะค่ะ ลูกในท้องของเราก็คงจะดีใจมากๆ จริงมั้ยจ๊ะลูกจ๋า”
“อะไรนะ”
เจ้าคุณตกใจเมื่อรู้ว่าเอมี่ท้อง
“ลูกของเราไงคะ คุณคะคุณ”
เจ้าคุณรู้สึกงงกับสิ่งที่เอมี่บอก
“ลูก”
“ใช่ หลานย่าของแม่”
เจ้าคุณยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“แม่ครับ...ผม”
“ลูกผู้ชาย กล้าทำ ต้องกล้ารับ”
รจนาวรรณพูดหน้าตาเฉย
“แต่...”
เจ้าคุณพูดไม่ออก เอมี่เริ่มร้องไห้
“ทำไมคะ คุณคะคุณขาจะบอกว่าไม่ใช่พ่อของลูกเราเหรอคะ ถ้าไม่ใช่ แล้วจะใครล่ะคะ ทั้งชีวิตมี่ก็มีแต่คุณคะคุณขาคนเดียวเท่านั้น ฮือๆ อ้วก!”
เอมี่อาเจียน รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป รจนาวรรณวิ่งตามด้วยความเป็นห่วง
“หนูมี่! ระวังลื่น เดี๋ยวหลานแม่จะอันตราย”
เจ้าคุณอึ้ง ไมเคิลมองเจ้านายอย่างเห็นใจ เจ้าคุณเศร้าไปทันที ภายในใจยังคงคิดถึงสมใจอยู่ตลอดเวลา

สมใจกลับจากโรงพยาบาล มาถึงบ้านก็นั่งเศร้าน้ำตาไหลอยู่บนเตียงมองภาพคู่กับโก้ในมือด้วยความเศร้า คิดถึงโก้ในวันที่คบหากันและวันที่โดนแม่ของโก้ตำหนิเพราะความรังเกียจในความบ้านนอกของเธอ
ไม่นานนักสมใจหยิบภาพคู่กับเจ้าคุณมามองบ้างแล้วพบเรื่องราวคล้ายกัน และจบลงด้วยการถูกด่าทอและดูถูก สมใจตัดสินใจจับรูปทั้ง 2 ใบ ร่ำไห้หมดอาลัย ล้มตัวนอนลงบนเตียงอย่างทรมานที่สุดในหัวใจ

ลำยองกับลำใยมาที่บ้านสมใจแต่เช้าตรู่
“งามหน้าขนาดๆ นักล่ะทีนี้ เกียรติยศศักดิ์ศรีกุลสตรีม่วนแต๊ของพวกเรา รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่น วันนึงก็หายไปกับอ้ายขุนทอง อีกวันนึงก็หายไปกับปลัด!”
ลำยองตำหนิสมใจทันที โดยมีลำใยลูกสาวคอยเสริม
“ใช่จ๊ะแม่ ขนาดแทใยผู้บริสุทธิ์แค่ได้ยินได้ฟังก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหนดี”
“ก็มุดไว้ในขี้วัวขี้ควายไงล่ะ นังหน้าหนอน!”
หวานเจจี๊ยบด่าลำใยเต็มปากเต็มคำ จนลำใยกรี๊ดลั่น
“อร้าย! คุณแม่ ลำใยเจ็บปวด”
“หนอย นังหวานเจี๊ยบ บังอาจพูดจาทำร้ายจิตใจลูกสาวข้า เดี๋ยวแม่ตบให้นังเครือฟ้าน้าแกจำหน้าแกไม่ได้ซะเลยน่ะ”
ลำยองสวนกลับหวานเจี๊ยบช่วยลูกสาว
“เอาซิ! กลัวตายล่ะ เอ้า ชาวบ้านเขาจะตีกันตายก็ยังนั่งเฉยอยู่ได้ จะเป็นทำไมห๊า! ปลัดเนี่ย”
หวานเจี๊ยบพาลปลัดจืดที่นั่งอยู่ข้างกัน
“ตีกันให้ตายๆ ไปซะก็ดี รำคาญ!”
หวานเจี๊ยบ ลำยองและใย ตกใจที่ปลัดจืดดูไม่สบอารมณ์ในวันนี้
“อ้าว เฮ๊ย!”
“พูดจาทุเรศจริงๆ”
คำปุยกับแคบหมูเดินลงบันไดมา ปลัดจืดไม่สนใจใคร รีบเดินไปหาทันที
“ใจ๋เป็นไงมั่ง”
ปลัดจืดถามด้วยความห่วงใย
“เจ๊ใจ๋ยังไม่ยอมเปิดประตูเลยจ๊ะปลัด”
แคบหมูเอ่ยขึ้น
“น่าปลัด ไอ้ใจ๋มันหญิงเหล็ก คงไม่เป็นไรหรอก”
คำปุยปลอบปลัดจืดเพื่อลดความกังวลใจ
“ชิ! เหล็กขึ้นสนิมเน่าผุไร้ค่าสิ้นดี”
ลำยองแอบด่าสมใจ จนหวานเจี๊ยบสวนแทน
“เน่าเท่าปากน้ามั้ย น้าลำยอง หยุดพูดได้แล้ว เหม็น”
“นังนี่!”
หวานเจี๊ยบไม่ได้สนใจคำพูดของคำปุย อยากขึ้นไปดูสมใจด้วยตัวเองด้วยความห่วงใย
“ขอฉันขึ้นไปดูพี่ใจ๋หน่อยได้มั้ย”
“ฉันว่า อย่าเพิ่งไปกวนมันเลยนะ ปล่อยมันซักพัก เดี๋ยวมันก็โอเค เชื่อเหอะ”

ปลัดจืดกับหวานเจี๊ยบต่างต้องยอมฟังและทำตามที่คำปุยบอก แม้ว่าในใจจะห่วงสมใจก็ตาม
ไม่นานหลังจากนั้น หวานเจี๊ยบกลับจากเยี่ยมสมใจขี่จักรยานมาตามทาง จู่ๆ โซ่เกิดหลุด เจ้าตัวบ่นโวยวาย

“อะไรวะเนี่ย ว้า เฮงซวยชะมัดเลย”
หวานเจี๊ยบหยิบอุปกรณ์เตรียมซ่อม แต่โดนเหล็กบาดมือเลือดออกซิบๆ
“โอ๊ย! หึ้ย!”
หวานเจี๊ยบทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างแรง ด้วยความโมโห
“วันนี้มันจะเป็นวันซวยอะไรกันนักกันหนาวะ พี่ใจ๋กับอ้ายขุนทอง ทำไมเจ็บใจแล้วยังต้องมาเจ็บตัวอีกห๊า นังหวานเจี๊ยบ!”
สักพักปลัดจืดเดินเข้ามา
“บ้าละป่าว นั่งพูดคนเดียว”
หวานเจี๊ยบสะบัดหน้าหนีไม่อยากมีเรื่องอีกแล้วในวันนี้

ต่อจากนั้นไม่นานปลัดจืดซ่อมจักรยาน ให้หวานเจี๊ยบเสร็จจนใช้งานได้
“อ่ะ! เสร็จ!”
หวานเจี๊ยบแอบเหล่มองหางตา
“ก็พอจะมีประโยชน์อยู่”
“‘ขอบใจหรือจะให้ดีมากๆ ก็ขอบคุณค่ะ”
“ฝันไปเถอะย่ะ เอ่อ นี่ ตกลงเรื่องพี่ใจ๋กับอ้ายขุนทองมันเป็นยังไงกันแน่”
ปลัดจืดออกเดินทันทีที่หวานเจี๊ยบถามเรื่องนี้ แต่หวานเจี๊ยบรีบจูงจักรยานวิ่งตาม
“คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นในป่า พี่ใจ๋กับอ้ายขุนทองเข้าไปทำอะไรกัน แล้วใครยิงอ้ายขุนทอง ตอนนี้อ้ายขุนทองหายไปไหน”
หวานเจี๊ยบถามชุดใหญ่ จนปลัดจืดโบกมือให้หยุดถามได้แล้ว
“หยุด! หยุดถามได้แล้ว แล้วก็เลิกเอ่ยชื่ออ้ายขุนทองอีก ต่อไปนี้ม่วนแต๊ไม่มีคนชื่ออ้ายขุนทองอีกต่อไป”
ปลัดจืดเดินออกไปด้วยความโกรธ หวานเจี๊ยบได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง
“ทำไมอ่ะ ไม่มีอ้ายขุนทอง”

เวลาผ่านไป ช่วงบ่ายนั้นที่ห้องพักคนไข้ เจ้าคุณแต่งตัวปกตินั่งอยู่บนเตียงเตรียมออกจากโรงพยาบาล เพราะอาการเริ่มดีขึ้น
“ใช้เวลาอีกซักระยะ บาดแผลก็จะหายสนิท อย่าลืมทานยาที่ให้ไปนะครับ”
หมอกำชับเจ้าคุณ พยาบาลยื่นถุงยาให้ เอมี่รีบฉกจากมือ
“ไม่ต้องห่วง มี่จะดูแลคุณคะคุณขาเองค่ะ”
“ไม่มีอะไรแล้วครับ กลับบ้านได้”
“ขอบคุณค่ะ/ขอบคุณครับ คุณหมอ”
หมอพูดจบเดินออกไป รจนาวรรณกับเอมี่ ตามไปส่งที่หน้าประตู
“ไอ้ไมค์ ตกลงเรื่องมันเป็นยังไง หลังจากฉันโดนยิงแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
เจ้าคุณตะโกนเรียกไมเคิลเบาๆกลัวรจนาวรรณกับเอมี่ได้ยิน แต่ก็ไม่พ้น
“ไอ้ไมค์!”
รจนาวรรณหันกลับมาพอดี ไมเคิลสะดุ้งสุดตัว
“ครับผม!”
รจนาวรรณกับเอมี่ยืนจ้องตาเขียว รีบเดินเข้ามา
“แกอยากโดนไล่ออกใช่มั้ย ไอ้ไมค์”
เจ้าคุณอ่อนใจ เหมือนโดนปิดบังไปทุกอย่าง
“แม่ครับ ทำไมล่ะครับ ผมก็แค่อยากรู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง”
รจนาวรรณสวนขึ้นทันที
“ไม่ต้องรู้อะไรทั้งนั้น มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“แล้วทำไมตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่นี่ แม่ไม่ยอมให้ผมใช้โทรศัพท์ อ่านนสพ. ดูทีวี แล้วก็ไม่ให้ใครมาเยี่ยมผมเลยล่ะครับ”
“แม่บอกแล้วใช่มั้ย ที่ผ่านมาแม่จะคิดซะว่าไม่เคยเกิดอะไรขึ้น แม่จะไม่เอาเรื่องหนู แต่นับจากนี้ไปหนูต้องทำตามคำสั่งแม่ทุกอย่าง โดยไม่ต้องถามว่าทำไม”
เจ้าคุณอึ้งไป ไม่อาจขัดใจแม่ได้ เอมี่ยิ้มร้ายสะใจ
“จากนี้ไปจะมีแต่ปัจจุบันและอนาคตเท่านั้นนะคะคุณ เบ่บี๊จ๋า หม่ามี๊จะพาป่าปี๊ กลับบ้านแล้วนะจ๊ะ”
”เอมี่ แม่ครับ เรื่องเอมี่”
“กลับบ้านกันได้แล้ว”
รจนาวรรณตัดบท เจ้าคุณรู้สึกเบื่อหน่าย ไมเคิลหน้าตาตื่น
“แน่ใจเหรอครับว่าจะกลับตอนนี้”
“ทำไม ทำไมจะกลับตอนนี้ไม่ได้”
เอมี่ตวาดไมเคิล จนอีกฝ่ายติดอ่าง
“ก็ เอ่อ...”
เจ้าคุณมองไมเคิลอย่างสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เวลาต่อมา ที่ด้านหน้าโรงพยาบาล บุรุษพยาบาลเข็นเจ้าคุณที่นั่งเก้าอี้วีลแชร์มา ทุกคนเดินมาด้วยกัน แล้วทั้งหมดก็หยุดต้องหยุดชะงัก
“อะไรกันเนี่ย”
เจ้าคุณตกใจเมื่อเห็นแฟนคลับกับกองทัพนักข่าว ที่เรียกชื่อขุนทอง บ้างตะโกนด่าว่าขุนทองใจร้ายทิ้งใจ๋ทำไม บางคนถือป้าย “รักใจ๋ เกลียดเอมี่” รปภ. ต้องกั้นไว้อย่างหนัก
“ก็นี่ไงครับ คุณหนู”
“ไอ้ไมค์ !” ไมเคิลโดนรจนาวรรณตลาดใส่ จนต้องหยุดพูด
เจ้าคุณมองไปที่กลุ่มแฟนคลับแล้วพึมพำกับตัวเอง
“เกิดอะไรขึ้น”

บรรดานักข่าวจากสำนักต่างๆ พอเห็นเจ้าคุณก็รีบตะโกนถามกันทันที
“เจ้าคุณคะ จะกลับไปหาสมใจมั้ยคะ รายการไฮโซบ้านเฮาจะยังไงต่อคะ จะปล่อยให้หยุดออกอากาศ ไปเฉยๆแบบนี้เลยเหรอคะ”
เจ้าคุณยังอึ้ง ไม่รู้จะตอบอย่างไรดีเพราะเพิ่งรู้เรื่องนี้เช่นกัน แฟนคลับไม่พอใจตะโกนว่าเจ้าคุณบ้างร้องห่มร้องไห้
“ใจร้ายๆ”
แฟนคลับเริ่มขว้างปาสิ่งของใส่ ความชุลมุนเริ่มบังเกิด รจนาวรรณยกกระเป๋าหลบไม่ทัน แต่จะฝ่าออกไป
“บ้า! เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว อย่าไปสนใจนะคะคุณ มี่ว่าเรารีบกลับบ้านกันดีกว่า”
“จะไหวเหรอครับ”
ไมเคิลถามเพราะแฟนคลับกำลังรุมปาข้าวของไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด
“แกนั่นแหละ รีบไปเอารถมารับอีกด้านนึงเร็ว ไอ้ไมค์!”
“ครับพ้ม! เย้ย! ไม่ไหวมั้งครับ”
“ต้องไหว! ไปเอารถเดี๋ยวนี้ พาเจ้าคุณหลบไปรอทางโน้นก่อน”
รจนาวรรณสั่งเด็ดขาด ไม่ยอมจะรีบออกจากโรงพยาบาลทันที แฟนคลับยิ่งคลั่ง ออกอาการโมโห ไมเคิลโดนปาของใส่เละเต็มหน้า
“โธ่! ไอ้ไมค์!”

ภายในใจเจ้าคุณเวลานั้น เต็มไปด้วยสับสน งุนงงกับเรื่องราวตรงหน้า และคิดไปถึงสมใจ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างเมื่อความจริงเริ่มปรากฏ

บ่ายวันนั้น สมศรีเคาะประตูเรียกลูกสาวที่อยู่ในห้องนอน ที่ทุกคนลุ้นอยู่หน้าประตูอย่างใจจดใจจ่อ ด้วยความห่วงสมใจ
“ใจ๋! แม่เอาข้าวมาให้ กินข้าวซะหน่อยเถอะลูก”
คำปุยใจไม่ดีรีบโพล่งขึ้น
“ไอ้ใจ๋ ไม่ยอมกินอะไรตั้งหลายวันป่านนี้จะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้”
“นั่นซิ ฉันไม่ได้กินแค่มื้อเดียวยังจะเป็นลมเลยอ่ะเจ๊ปุ๋ย”
แคบหมูรีบเสริม สมหมายใจคอไม่ดีรีบเรียกลูกสาวพร้อมทั้งทุบประตูแรงขึ้น
“ไอ้ใจ๋! ใจ๋ ใจ๋ลูกพ่อ เปิดประตูหน่อยใจ๋”
สมใจนั่งกอดเข่าซุกอยู่มุมห้อง หน้านิ่งไร้ความรู้สึก
“ใจ๋! กะอีแค่ผู้ชายคนเดียว ผู้ชายเลวๆ คนเดียว มันทำให้เอ็งเสียใจถึงขนาดนี้เชียวเหรอ ออกมาหน่อย ออกมาบอกพ่อหน่อย ว่าเอ็งเสียใจได้ครึ่งนึงของพ่อกับแม่รึเปล่า”
สมศรีสะอื้นซุกหน้าร้องไห้กับอกสมหมาย
“พ่อกับแม่กินไม่ได้นอนไม่หลับ เป็นห่วงเอ็งใจจะขาดแล้วไอ้ใจ๋ลูกพ่อเอ๋ย”
“แม่วางข้าวไว้หน้าห้องนะใจ๋ ยังไงก็กินข้าวซะหน่อยนะลูกนะ อย่าไปกวนใจลูกมันเลย”
สมศรีพูดอย่างเข้าใจลูก แต่สมหมายทำท่าไม่ยอม
“เฮ้ย! แต่ว่ามัน...”
“น่า ตาหมาย เห็นใจลูกมันเถอะ เจ็บปวดเพราะไอ้ผู้ชายเมืองกรุงถึง 2 ครั้ง 2 หน ป่านนี้หัวใจมันคงป่นปี้ไม่มีชิ้นดีแล้วไอ้ใจ๋ลูกแม่”
สมหมายอึ้ง สงสารลูกขึ้นมาจับใจ
“ไอ้ใจ๋ เกิดเป็นลูกพ่อหมายกะแม่ศรีอย่ายอมให้ใครมาทำลายศักดิ์ศรีต่อให้ใครมันจะย่ำยีหัวใจเรายังไงก็ไม่มีทางทำร้ายหัวใจเราได้เท่ากับตัวเราเอง อย่าแพ้ใจตัวเองนะลูก เอ็งต้องชนะใจตัวเองนะไอ้ใจ๋ ชนะใจตัวเองให้ได้!”
สมหมายปลอบใจลูก แต่ยังไม่มีเสียงตอบจากสมใจ สมศรีพยักหน้าให้ทุกคนหันหลังกลับจะเดินออก แต่ชะงักเพราะได้ยินเสียงประตูเปิดออก ทุกคนรีบหันไปดูสมใจที่เปิดประตูมาพบทุกคนด้วยความเศร้า
“ไอ้ใจ๋!/เจ๊ใจ๋”
ทุกคนดีใจโผเข้ากอดสมใจไว้แน่นด้วยความห่วงใย

เวลาต่อมา สมใจกราบขอโทษสมศรีและสมหมายที่ทำให้เป็นห่วง
“ฉันขอโทษนะพ่อ”
สมหมายกอดลูกแน่น
“เฮ่ย เอ็งไม่ได้ทำอะไรผิดซักนิดนี่นา”
“ผิดซิพ่อ ผิดที่ฉันไป เอ่อ...ไปเชื่อไอ้ผู้ชายไฮโซชั่วๆ คนนั้น”
“ก็มันนั่นล่ะผิด ไอ้ผู้ชายไฮโซชั่วๆ นั่นละมันผิด มันเลว มันหลอกลูกพ่อ หลอกพวกเรา หลอกชาวม่วนแต๊ทุกคน คิดแล้วก็อยากจะบุกไปกรุงเทพฯ ไปฆ่ามันให้ตายคามือนัก”
สมหมายโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่สมศรีห้ามไว้
“ตาหมาย แค่นี้ใจ๋มันก็เสียใจจะแย่แล้ว ขืนพูดมากๆ เดี๋ยวมันก็ขังตัวเองไม่ออกมาอีกหรอก”
สมหมายรีบเอามือปิดปากตัวเอง
“ไม่พูดแล้ว พ่อไม่พูดแล้วไอ้ใจ๋”
“พ่อ พ่อจ๋า แม่จ๋า ฉันขอโทษนะที่ขังตัวเองอยู่อย่างนั้นให้พ่อแม่ต้องเป็นห่วง”
“แม่เข้าใจ คนเราเสียใจมันก็ต้องใช้เวลา”
“เสียใจน่ะมันไม่เท่าไหร่หรอกแม่ แต่ฉัน ฉันไม่กล้าสู้หน้าพ่อกับแม่ตะหาก”
สมหมายกับสมศรีอึ้งไป
“ฉัน ฉันทั้งกลัว ทั้งอาย ที่ทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ ต้องผิดหวังในตัวฉัน”
“ไอ้ใจ๋”
สามคนพ่อแม่ลูกโผเข้ากอดกันแน่นด้วยความเข้าใจ
“ไม่เลยใจ๋ ตั้งแต่เกิดมาเอ็งไม่เคยทำอะไรให้แม่ผิดหวังหรือเสียใจเลยซักนิดเดียว”
สมศรีโพล่งขึ้น สมหมายรีบเสริม
“ใช่ เอ็งเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อที่พ่อรักแล้วก็ภูมิใจที่สุด และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้เอ็งรู้ไว้ว่า พ่อกับแม่รักเอ็ง และจะอยู่เคียงข้างเอ็งเสมอไอ้ใจ๋”
สามคนพ่อแม่ลูกโผเข้ากอดกันอีกครั้ง
คำปุยกับแคบหมูน้ำตาซึม โผกอดกันด้วยความซาบซึ้งใจ

เวลาผ่านไป ที่คฤหาสน์เจ้าคุณปัดแคตตาล็อกภาพชุดวิวาห์กับตัวอย่างผ้า ตัดชุดแต่งงาน ตกลงพื้นกระจาย เอมี่ดวยวายด้วยความไม่พอใจ
“ว๊าย! คุณคะคุณขา ทำไมทำอย่างนี้ล่ะคะ มี่อุตส่าห์เอาแบบชุดแต่งงานของเรามาให้เลือก แล้วทำไมถึงทำอย่างนี้”
เจ้าคุณพูดด้วยอารมณ์เซ็ง
“ผมยังไม่พร้อม”
“แต่มี่พร้อม! พร้อมมากด้วย พร้อมขึ้นทุกวันๆ”
เอมี่ชี้ไปที่ท้องตัวเอง
“เอมี่ อย่าว่าผมเลยนะ แต่ ผมงงจริงๆ ผมยังไม่เข้าใจเลยว่า มัน มันเกิดขึ้นตอนไหน”
เอมี่นึกขึ้นได้รีบร้องไห้
“ฮือ หมายความว่ายังไงคะ พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง คุณคะคุณขากำลังจะบอกว่า เบ่บี๋ในท้องของมี่ไม่ใช่ลูกของคุณเหรอคะ โฮ!”
“คือ เดี๋ยว”
“คุณคะคุณขากำลังคิดว่ามี่สำส่อน มี่มั่วผู้ชาย มี่ท้องกับคนอื่น แต่ว่าจะให้คุณคะคุณขารับเป็นพ่อแทน โฮ ใจร้าย ทำไมคุณคะคุณขาถึงคิดได้อย่างนี้”
“ไปใหญ่แล้ว”
เจ้าคุณเริ่มเซ็งหนักขึ้นทุกที เพราะเอมี่ไม่ยอมฟัง
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าคุณคะคุณขารังเกียจมี่ รังเกียจเบ่บี๋ในท้องมี่ มี่ก็จะขอเลี้ยงลูกของเราเองตามลำพัง โดยไม่ต้องมีพ่อ!”
“แต่แม่ไม่ยอม!”
รจนาวรรณตาเดินลงบันไดมา เอมี่แอบยิ้มร้ายที่รจนาวรรณเข้าข้าง รจนาวรรณเดินมาก้มหยิบแคตตาล็อกส่งให้เจ้าคุณ
“เลือกซะ! แม่จะไปตลาดซื้อของมาต้มซุปบำรุงหนูมี่กับหลานในท้อง”
เจ้าคุณหน้าเสียรับแคตตาล็อกมาดูแบบเสียมิได้ เอมี่ยิ้มร้ายสะใจ
“กลับมาเมื่อไหร่ต้องได้เห็นชุดเจ้าบ่าวของหนู เข้าใจมั้ย”
“แม่ครับ ผมเข้าใจแม่นะครับ แต่ผมก็อยากให้แม่เข้าใจผมบ้าง”
รจนาวรรณรีบสวนทันที
“คนเราพูดอะไรไว้ก็ต้องรักษาคำพูด แม่หวังว่าครั้งนี้หนูคงไม่ทำให้แม่ผิดหวังอีกนะ เจ้าคุณ”
เจ้าคุณอึ้งไป รจนาวรรณพาเอมี่ออกไปด้วย
“ไป หนูมี่ไปตลาดด้วยกัน”
มะขิ่นปรี่เข้ามาทันทีอย่างตกใจ
“คุณผู้หญิงจะไปตลาดเหรอคะ”
“ก็ใช่น่ะซิ ฉันจะไปกับคุณเอมี่”
“ไปกะคุณเอมี่ด้วย”
มะขิ่นตกใจ คาดไม่ถึงว่าเอมี่จะไปเดินตลาดด้วยตัวเอง
“ก็เออซิทำไมยะ ฉันจะไปตลาดกับคุณหญิงแม่ไม่ได้รึยังไงมะขิ่น”
“เอ่อ ปะ ไปได้ค่ะ”
“เอ๊! นังนี่ท่าจะเพี้ยน! ไปเร็ว บอกไอ้ไมค์เอารถออก แล้วแกก็ไปช่วยถือของด้วย เร็ว!”
รจนาวรรณเดินออกไปพร้อมเอมี่ มะขิ่นมองตามแล้วบ่นตามหลัง
“ไปได้ แต่ไม่ควรไป”
“มะขิ่น!”
รจนาวรรณหันมาเรียก มะขิ่นสะดุ้ง
“ค่า ไปแล้วค่า”
เจ้าคุณอยู่บเนเพียงลำพัง หันมองแคตาล็อกชุดแต่งงานด้วยความเซ็งและไม่อยากแต่งงานกับเอมี่

เวลาต่อจากนั้น เมื่ออยู่บ้านตามลำพัง เจ้าคุณทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาด้วยความเซ็ง ครุ่นคิดถึงคำพูดของแม่ให้รีบเลือกชุดแต่งงาน แต่ไม่วายคิดถึงสมใจขึ้นมา นึกถึงคำพูดของสมใจที่เคยเอ่ยว่าสมใจจะอยู่ข้างขุนทองตลอดไป ไม่ทิ้งกัน คิดถึงข้าวนึ่งร่วมสาบานที่เคยกินด้วยกัน หรือแม้กระทั่งวันที่ไปน้ำตกแม่อุ๊ยนางรอ เจ้าคุณหน้าเศร้า หยิบแคตตาล็อคมามองอย่างไม่อยากเลือก เพราะในหัวใจมีเพียงสมใจเท่านั้น

เวลาเดียวกันที่บ้านสมใจ คำปุยเอาข้าวเหนียวจิ้มน้ำพริกหนุ่มแล้วส่งให้สมใจ
“เอ้า! อีกซักคำ อดข้าวมาตั้งหลายวันแล้ว”
“อิ่มแล้ว”
สมใจรีบตอบ
“อิ่มแล้วหรือ กินไม่ลงกันแน่”
คำปุยย้อนถามกลับ คำปุยเหล่สมใจ
“ไอ้ใจ๋ ฉันกับแกน่ะแก้ผ้าวิ่งเล่นกันมาตั้งแต่เด็กนะยะ ไม่ต้องมองตาหรอก ต่อให้หลับตา ฉันก็รู้ว่าแกคิดอะไรอยู่”
สมใจเฉไฉกลับเกลื่อน
“จริงเหรอ ที่พูดกับป้าศรีน่ะ”
“พูดอะไร”
สมใจแกล้งไม่รู้
“ก็พูดว่าเสียใจน่ะไม่เท่าไหร่หรอกไงล่ะ”
สมใจอึ้ง คำปุยลุยต่อ
“จะบอกอะไรให้นะ เผื่อว่าแกจะไม่รู้ตัว”
สมใจมองคำปุย
ฉันว่าครั้งนี้แกเสียใจมาก มากกว่าครั้งพี่โก้หลายเท่าเลยแหละ แม่คนปากแข็ง”
พูดจบก็ยกสำรับกับข้าวเดินออกไป สมใจนิ่งเศร้ากับสิ่งที่คำปุยพูด

เวลาเดียวกัน รจนาวรรณ เอมี่ มะขิ่นและไมเคิล เดินเข้ามาในตลอดพร้อมกัน มะขิ่นกับไมเคิลสีหน้ากังวลอย่างบอกไม่ถูก
“คุณผู้หญิงคะ มะขิ่นว่าเรากลับกันเถอะค่ะ”
“นี่แกเป็นอะไรของแกเนี่ย นังมะขิ่น”
“ผมเห็นด้วยกับมะขิ่นนะครับ ผมว่าคุณหญิงกับคุณเอมี่กลับบ้านดีกว่า ถ้าคุณผู้หญิงอยากได้อะไร เดี๋ยวผมไปซื้อให้เองดีมั้ยครับ”
ไมเคิลรีบเสริม เอมี่รีบเห็นด้วย
“อู๊ย! ดีค่ะดีที่สุดเลยค่ะคุณหญิงแม่ เอมี่เหม็นมากอ่ะค่ะ ทำไมคุณหญิงแม่ต้องมาตลาดด้วยล่ะคะ ทำไมไม่ไปซูเปอร์มาร์เก็ต”
“เฮ้อ! เด็กสมัยนี้ล่ะไม่รู้อะไร ของในตลาดเนี่ยทั้งสดทั้งถูกกว่าตามห้าง แล้วก็มีให้เลือกมากกว่าตั้งเยอะนะจ๊ะหนูมี่”
“แต่มี่เหม็น”
“นั่นซิครับ ผมว่าเราพาคุณเอมี่กลับดีกว่าครับคุณผู้หญิง”
ไมเคิลรีบเสนอทางออก
“ไอ้ไมค์!”
แต่ดูเหมือนรจนาวรรณจะไม่ยอมฟัง
“โธ่!”
“ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้วนะจ๊ะ อยากทานอะไร หนูมี่จะได้เลือกได้ถูกใจด้วยไงจ๊ะ ไป เหม็นแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ชินจ๊ะ”
พูดจบรจนาวรรณจูงมือเอมี่ เข้าไปในตลาดทันที ไมเคิลร้องทักแต่ไม่เป็นผล
“คุณหญิงครับ!”
“แย่แล้ว พี่ไมค์”
มะขิ่นตะโกนขึ้น สองคนหวั่นใจว่ารจนาวรรณกับเอมี่จะเจอแฟนคลับเจ้าคุณและสมใจเล่นงาน เหมือนกับที่โรงพยาบาล

ต่อจากนั้นรจนาวรรณอารมณ์ดีชวนเอมี่เดินในตลาด ในขณะที่ว่าที่ลูกสะใภ้ไม่ได้ปลื้มไปด้วย
คนเดินในตลาดเริ่มมอง และสะกิดกันให้ดู บางคนกระซิบกระซาบกัน แม่ค้าเริ่มมองอย่างไม่เป็นมิตร
“อูย ปลามั้ยจ๊ะหนูมี่ ทานปลาเยอะๆ จะได้มีโปรตีนบำรุงหลานย่า ปลาซด สด”
รจนาวรรณรีบปรีเข้าไปจะเลือกซื้อปลา แต่เจอแม่ค้าฟาดน้ำในกระชังปลากระจาย
“ไม่ขาย!”
รจนาวรรณกับเอมี่ตกใจแม่ค้าไม่ยอมขายปลาให้
“ทำไม ทำไมถึงไม่ขาย ฉันมีตังค์ซื้อนะจ๊ะ ไม่ได้ขอฟรี”
แม่ค้าลุกมาท้าวสะเอวยืนจังก้าหวังเอาเรื่อง
“หนอย! รวยแล้วไง รวยแค่ไหนก็ไม่ขายเว๊ย!”
แม่ค้าของขึ้นตะโกนด่ากลับ
“ว๊าย! หยาบคาย! ต่ำ!”
เอมี่ด่ากลับแม่ค้า แม่ค้าผักได้ยินจึงรีบโต้กลับทันที
“อู๊ย อีนังไฮโซ สูงนักก็ไปซื้อที่อื่นซิเว้ย ไป ไป๊ๆ”
แม่ค้าคนอื่นเริ่มขว้างของใส่บ้าง รจนาวรรณกับเอมี่ ร้องดวยวายหลบเป็นระวิง ไมเคิลกับมะขิ่นเข้าปกป้องแต่ก็โดนด้วย แม่ค้าผู้คนสะใจ รีบถ่ายคลิปไว้ทันที
“ว๊าย! นี่มันอะไรกันเนี่ย”
รจนาวรรณทนไม่ไหวตะโกนขึ้น
“มะขิ่นบอกแล้ว”
“ใจร้าย! ใจดำ! ทำกับนังใจ๋ได้ลงคอ มันต้องโดน”
แม่ค้าขว้างผักลอยละลิ่วไปที่รจนาวรรณ แต่ก้มหลบทัน ผักลอยไปแปะเข้าหน้าเอมี่เต็มเปา
“ว๊าย! โฮ!”
เอมี่ร้องโวยวายโดนแม่ค้ารุมเกลียดกับรจนาวรรณอย่างคาดไม่ถึงมาก่อน

เวลาต่อมา เอมี่กับรจนาวรรณกลับมาที่บ้าน ด้วยสภาพเนื้อตัวเลอะเทอะ
“บ้า!นี่มันท่าจะบ้ากันไปใหญ่แล้วนะ”
เอมี่ลงนั่งข้างๆ มือยังกุมหน้าผากเพราะโดนปาทั้งผักทั้งอาหารเลอะเทอะไปหมด
“เพราะนังบ้านนอกสมใจนั่นคนเดียว มี่ถึงต้องเป็นแบบนี้ มี่ไม่ยอม คุณคะคุณขาต้องจัดการให้มี่นะคะ”
เอมี่ดวยวายเพราะหน้าผากฟกช้ำเป็นรอยจ้ำ เจ้าคุณไม่พอใจที่เอมี่เรียกสมใจว่าบ้านนอก จึงรีบปราม
“อย่าเรียกสมใจว่านังบ้านนอก”
“อะไรคะเนี่ย จนอย่างนี้แล้วยังจะห่วงมัน ห่วงมันมากกว่าห่วงมี่กับเบ่บี๋ในท้อง ดูซิคะ คุณหญิงแม่ขา”
เอมี่หันไปฟ้องรจนาวรรณ
“เจ้าคุณ!”
เจ้าคุณหน้าบอกบุญไม่รับ
“เพราะหนูกับนังบ้านนอกนั่น”
เจ้าคุณหันขวับไม่พอใจที่แม่ตัวเองเรียกสมใจอย่างนั้น
“เพราะหนูกับนังบ้านนอกนั่นที่ทำให้พวกเราต้องวุ่นวายต้องอับอายขายหน้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน วงศ์ตระกูลของเราต้องเป็นข่าวฉาวโฉ่เป็นที่เกลียดชัง”
“ไม่ใช่แล้วครับ ไม่ใช่เพราะสมใจ สมใจไม่เกี่ยว ทุกอย่างเป็นเพราะผมคนเดียว”
เจ้าคุณออกรับแทนสมใจด้วยความจริงใจ จนเอมี่อิจฉาร้องไห้ออกมา
“โฮ!”
“หลงอะไรมันนักหนา ถึงต้องออกรับแทนมันแบบนี้”
รจนาวรรณบ่นลูกชาย เจ้าคุรสวนทันที
“ผมไม่ได้หลงนะครับคุณแม่ แต่...”
“เดี๋ยวนี้กล้าเถียงแม่ขนาดนี้ ยังจะว่าไม่หลงมันอีกเรอะเจ้าคุณ”
“โธ่!”
“เลือกได้รึยัง”
เจ้าคุณมองแทนคำถาม ไม่เข้าใจว่ารจนาวรรณหมายถึงเลือกอะไร
“ชุดแต่งงานของหนู ตกลงเลือก ชุดไหน”
“ผมยังไม่ได้เลือกครับ”
เจ้าคุณตอบเต็มปาก
“ดี งั้นแม่จะเป็นคนเลือกให้เอง”
เจ้าคุณกับรจนาวรรณจ้องตากัน รจนาวรรณรีบคว้าแคตตาล็อกเดินออกไป เอมี่ยิ้มร้ายสะใจก่อนจะตามออกไป ทิ้งให้เจ้าคุณนั่งด้ยอารมณ์เซ็งอยู่ตรงนั้น

เวลาต่อจากนั้น หลังบ้านเจ้าคุณ ไมเคิลกับมะขิ่น กำลังเช็ดตัวให้ไมเคิลที่โดนแฟนคลับสมใจกับเจ้าคุณที่เป็นแม่ค้า รุมขว้างจนโดนลูกหลงไปด้วย
“เฮ้อ! เตือนแล้วก็ไม่เชื่อ เละโหมะเลย”
มะขิ่นเช็ดไปใส่อารมณ์กับหัวไมเคิลไปด้วย
“โอ๊ย! เป็นไรเยอะมะขิ่น ฉันเช็ดเอง!”
“ก็มันเจ็บใจ เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็เกลียดเรา เพื่อนพม่าข้างบ้านมันยังไม่พูดกับมะขิ่นเลย มันบอกเกลียดเจ้านายก็ต้องเกลียดลูกน้องด้วย”
“เฮ้อ! เอาน่า เจ้านายเขาเจ็บหนักกว่าเราเยอะ”
“เจ็บกว่าที่ไหน ดูซิ เราเจ็บกว่าตั้งแยะ”
“ฉันหมายถึงคุณหนูน่ะ เจ็บหนักน่าสงสาร แล้วยังคุณสมใจอีกคน”
มะขิ่นอึ้งไป ส่วนไมเคิลรู้สึกเห็นใจเจ้าคุณและสมใจที่ต้องโดดพลัดพรากจากกันด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งไม่รู้ความเคลื่อนไหวของกันและกันอีกต่างหาก

เวลาผ่านไป ที่บ้านม่วนแต๊ สมใจเดินเจอกับสองแม่ลูกลำยองและลำใย จู่ๆลำยองก็ด่าขึ้น
“นังจ้าดง่าว!”
สมใจรีบถามกลับ
“ว่าใคร”
“หนอย ง่าวแล้วง่าวอีก ง่าวสุดๆ ไม่มีใครง่าวเท่า”
สมใจเสียงเริ่มดึงขึ้น
“แกว่าใคร”
“จะว่าใคร ก็ว่าแกน่ะซินังใจ๋ ฮ่าๆ”
สองแม่ลูกหัวเราะเยาะร่วน ลำยองรีบสวนทันที
“แล้วน้ากับลูกสาวน่ะ ฉลาดนักเหรอ”
สองแม่ลูกชะงักกึก
“ก็ฉลาดกว่าแกละกัน”
ลำใยลอยหน้าลอยตาตอบ
“ใช่ เพราะถึงยังไงลูกสาวข้าก็ไม่เคยโง่ให้ไอ้ผู้ชายหน้าไหน ไม่ว่าจะไฮโลว์”
“ไฮโซจ๊ะแม่”
“เออ ลูกสาวข้าไม่เคยโง่ให้ผู้ชายไฮโซ รึ โลโซ มาหลอกกินไข่แดงได้ฟรีๆ อย่างแกหรอกเว๊ยนังใจ๋ฎ
สมใจชักเริ่มทนไม่ไหว ด่ากลับลำยองเช่นกัน
“พูดอะไรน่ะน้าลำยอง แก่แล้วจะพูดจาก็หัดคิดให้เยอะๆ เท่าอายุซะมั่งซิ”
“อร้าย! มันด่าว่าแม่แก่”
ลำใยเริ่มเสี้ยม
“รู้แล้ว บ๊ะๆ นังนี่ ง่าวคนเดียวไม่พอยังพาพี่น้องม่วนแต๊ให้พลอยง่าวโดนไอ้ไฮโซเมืองกรุงมันหลอกไปด้วย นังจ้าดง่าว!”
สมใจอึ้งที่รู้ว่าลำยองก็รู้เรื่องนี้ด้วย
“น้า น้ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง”

ลำยองกับลำใย ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิ สะใจนักที่หักหน้าสมใจได้












Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 23:27:53 น.
Counter : 186 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 10




ค่ำคืนนั้น แมทธิวกับน้องนกกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนเตียง แต่จู่ๆ น้องนกเริ่มเล่นตัว เพราะยังโกรธแมทธิวอยู่

“ไม่เอาน่า...อย่าเล่นตัวน่า...มาสนุกแก้เซ็งกันดีกว่า” แมทธิวชักรำคาญ เมื่ออีกฝ่ายเล่นตัว
“สนุกสะเหนิกอะไรกัน ใช่ซิ...พอเซ็งจากนังมัมมี่นั่นก็มาชวนน้องนกสนุกแก้เซ็ง แต่พอหายเซ็งก็ไล่น้องนกยังกะหมูกะหมา”
“งี่เง่าน่า...หมูหมาที่ไหน..อย่าเสียเวลาเลย มามะ...มาสนุกกันดีกว่า”
แมทธิวกำลังจะจู่โจม ทันใดนั้นเสียงทุบประตูห้องดังลั่น
“ว๊าย! ใครอ่ะคะ”
นกสงสัยรีบถามแมทธิว แต่อีกฝ่ายทำท่าไม่สนใจ จ้องจู่โจมนกท่าเดี่ยว
“ช่างหัวมันเหอะ”
เสียงทุบประตูหนักกว่าเดิม
“ว๊าย!” นกตกใจ
แมทธิวเริ่มยัวะ เพราะคิดว่าพนักงานมาส่งของกิน
“อะไรเนี่ย โทร. สั่งอะไรมากินอีกล่ะ”
“น้องนกเปล่านะ เอ๊ะ! รึว่านังมัมมี่”
“บ้า! ไม่มีทาง ป่านนี้ไปนอนเน่าอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้”
เสียงทุบประตูดังขึ้นอีก
น้องนก ว๊าย!!!
แมทธิวรำคาญตะโกนตอบทันที
“จะเคาะหาอะไรวะ เออๆ เปิดแล้วเว๊ย!”
แมทธิวนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกไปเปิดประตูอย่างเร็ว เห็นเอมี่ยืนหน้ายักษ์ แมทธิวแทบช็อก
“มัมมี่!”
“แมท!”
แมทธิวปิดประตูปังใส่หน้าเอมี่ทันทีแล้วรีบวิ่งไปหานกในห้อง
“นังมัมมี่ เอ๊ย! เอมี่จริงๆ ด้วย”
นกตาโต แต่ไม่กลัวเตรียมพร้อมชน
“นังมัมมี่! ดีซิคะ...วันนี้น้องนกจะได้จับมันโยนลงหลุมไปซักที”
เอมี่ยืนทุบประตูอีกครั้ง
“แมท เปิดประตู เปิดประตู หึ้ย!”
แมทธิวกระชานกขึ้นมา
“จะบ้าหรอฉันเคยบอกแล้วว่าจะไปตายที่ไหนก็ไปแต่อย่ามาตายในห้องฉัน”
แมทธิวลากนกจับโยนไปซ่อน นกร้องลั่น แมทธิววิ่งมาเห็น กระเป๋าสะพายของนกวางอยู่หัวเตียง ก็รีบคว้าโยนตามนกทันที
“ไง..เอมี่ มาซะดึกมีอะไร”
เอมี่ผลักแมทธิวกระเด็นแล้วปรี่ไปกวาดตามองทั่วห้อง
“เอาใครมากก”
“กกเกิกอะไร ผมเป็นคนนะ ไม่ใช่แม่ไก่”
“ไม่ตลก”
เอมี่ปรี่จะเดินไปแถวที่ซ่อนนก แมทธิวรีบคว้าตัวเอมี่ไว้
“ไม่เอาน่า...บอกมาซิว่ามีอะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วน คุณคงไม่ โผล่มาแบบนี้หรอกใช่มั้ย”
เอมี่นึกได้รีบร้องไห้ทันที
“แมท ช่วยมี่ด้วย”
เอมี่โผเข้ากอดแมทธิวจนฝ่ายชายงง
“ช่วยอะไร ผมไม่รู้เรื่องด้วยนะ ผมไม่เกี่ยว”
แมทธิวรีบพูดเอาตัวรอด
“เกี่ยวซิ ทำไมจะไม่เกี่ยว มี่ท้อง!”
“ห๊า! ท้อง”
แมทธิวตกใจนกได้ยินตกใจไม่แพ้กัน
“ใช่! มี่ท้อง!”
“ท้องกับใครล่ะ”
เอมี่ทุกเข้าที่ตัวแมทธิวทันที
“ไอ้บ้า! จะท้องกับใครล่ะ ถ้าไม่ใช่ท้องกับแมทอ่ะ..ฮือๆ”
“ เฮ่ย!! บ้า คุณซิบ้า จะมาท้องกับผมได้ไง”
แมทธิวยังไม่ยอมรับ เอมี่ปรี่เข้ามาตีแมทธิวอีกหลายที
“จะไม่ท้องกับแมทได้ไง ก็มี่นอนกับแมทคนเดียว”
“คิดให้ดีๆก่อนดีมั้ย อย่าพูดจามั่วๆ”
“มี่ไม่ได้มั่ว..มี่ท้องกับแมท!”
แมทธิวอึ้งไป
“จะทำไงดี มี่จะทำไงดี”
แมทธิวมองหน้าเอมี่อย่างเลือดเย็น
“ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรนี่”
“หมายความว่ายังไง”
แมทธิวเชยคางเอมี่
“ฟังไว้นะเอมี่…มันจะมีประโยชน์อะไรที่คุณจะมาท้องกับผม”
เอมี่ฟังแล้วช็อก
“แมท! ไอ้ชาติชั่ว”
เอมี่เงื้อมือจะตบหน้าแต่แมทธิวคว้ามือไว้ได้
“จุ๊ๆ..ใจเย็นๆ..ฟังให้จบก่อน”
เอมี่มองตาวาว
“แทนที่คุณจะท้องกับผม..คุณไปท้องกับไอ้เจ้าคุณซะ มันจะไม่คุ้มกว่าเหรอ”
เอมี่อึ้ง
“อะไรนะ”
แมทธิวยิ้มร้าย นกที่ซ่อนตัวอยู่ ถือมือถือถ่ายคลิปไว้เรียบร้อย ยิ้มร้ายสะใจหวังเอาคืนเอมี่และแมทธิว
“ไอ้แมท! นังมัมมี่!”

เช้าวันใหม่ เสียงแคบหมูกับไส้อั่ว ลั่นมาแต่เช้า สองคนวิ่งหน้าตั้งเข้ามา
“เจ๊ใจ๋ๆ”
สมใจเดินลงบันไดบ้านมา
“อะไร นังแค๊บ ไอ้อั่ว เรียกซะหูจะแตก มีอะไร”
“คือ...แฮ่กๆ”
แคบหมูยังไม่ได้เล่าเพราะมัวแต่ยืนหอบ
“เอ๊า! ใจเย็นๆ นังหมูหอบไงไอ้อั่ว มีอะไรว่ามา”
“คือ..คือ...ไร่ชา..แฮ่กๆ”
“ไร่ชา! ไร่ชาทำไม ห๊า!”
ไส้อั่ววิ่งมาหยุดหอบเช่นเดียวกัน สมใจเริ่มตกใจพอพูดถึงไร่ชา

เวลาถัดมา สมใจจ้องใบชาอย่างตะลึง
“สวย..สวยเหลือเกิน แม่! ใบชากลับมาเหมือนเดิมแล้ว พ่อ! ม่วนใจ๋กลับมาเหมือนเดิมแล้ว”
สมใจกระโดดกอดพ่อแม่ ชาวบ้านพากันดีใจ ซึ่งเจ้าคุณแอบดูอยู่อีกมุมหนึ่ง

“ฉันต้องขอบใจอ้ายกำโป๊งมาก มากที่สุดนะอ้ายนะ”
สมหมายเข้าไปจับมือกำโป๊งไว้ จนอีกฝ่ายทำหน้าไม่ถูก
“เออ..แหะๆ..เออ..ยินดี..ยินดี..แหะๆ”
เจ้าคุณแอบมองดีใจ
“ม่วนใจ๋กลับมาแล้ว ม่วนแต๊สู้-ไม่สู้”
สมใจตะโกนหาแนวร่วม
“สู้!”
ชาวบ้านทุกคนยิ้มแย้มอย่างมีความสุข
“ม่วนแต๊ลุย-ไม่ลุย”
“ลุย!”
เจ้าคุณแอบมองยิ้มชื่นใจ
“ถ้างั้นจะรออะไร ลุยไปเก็บใบชากันเล๊ย!”
สมใจวิ่งนำ ทุกคนวิ่งกรูกันไปเก็บใบชาส่งเสียงเซ็งแซ่ สมหมาย สมศรี กับกำโป๊ง มองตามอย่างดีใจ
“ยิ้มซะขนาดนี้ ดีใจเรื่องไร่ชารึว่าเรื่องไอ้ใจ๋มันยิ้มได้”
สมศรีถามสมหมาย
“ก็ทั้ง 2 อย่างแหละ”
สมหมายหันไปมองกำโป๊งอีกครั้ง
“บุญคุณครั้งนี้ของอ้ายโป๊งฉันจะไม่มีวันลืมเลย๐
“แฮ่! ไม่เป็นไร ลืมๆ ซะมั่งก็ได้”
“อ้ายว่าไงนะ”
“เปล๊า! ฉันว่า...ฉันยินดีให้พ่อหมายยืมเงินน่ะ”
“แล้วฉันจะรีบหาเงินมาคืนอ้ายให้เร็วที่สุดนะ”
สมหมายสวมกอดกำโป๊ง ที่ทำหน้าไม่ถูกว่าควรดีใจหรือเสียใจกับเรื่องนี้ดี เจ้าคุณยืนมองอยู่มุมหนึ่งอย่างปลื้มใจ ก่อนจะเศร้าอีกครั้งเมื่อคิดว่าต้องจากม่วนแต๊ไปในเร็ววันนี้

บ่ายวันเดียวกัน ปลัดจืดเดินอยู่ แม่ค้าเด็กน้อยชาวเขาวิ่งมาชนล้ม ตะกร้าบนหลังหล่นกระจาย
“เจ็บมั้ยหนู เดินดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องวิ่ง”
“สายแล้ว...จะรีบไปขายของที่ตลาด”
เด็กน้ยอรีบตอบปลัดจืดแต่สายตาปลัดจืดเหลือบมองของในตะกร้าที่หล่นกระจายเต็มพื้น ก็ช่วยเก็บมีของที่ระลึก แล้วเห็นรองเท้าแตะแบบสาน ก็นึกถึงรองเท้าที่ทำของหวานเจี๊ยบที่มีส่วนทำขาดขึ้นมาได้ แถมเป็นร้องเท่าของแม่ที่หวานเจี๊ยบรักมาก ปลัดจืดอึ้งไปก่อนจะตัดสินใจถาม
“คู่ละเท่าไหร่”
“ยี่สิบ”
“ฉันเอาคู่นึง”
แม่ค้ายิ้มแฉ่งรีบใส่ถุงยื่นให้ ปลัดจืดยื่นแบงค์ 50 ให้ แม่ค้าหน้าจ๋อยไป
“ไม่มีตังค์ทอน”
“งั้น.. คู่นี้ใหญ่จัง ฉันคงใส่ได้ เอา 2 คู่ ไม่ต้องทอน”
แม่ค้าเด็กน้อยดีใจ ส่วนปลัดจืดแอบยิ้มที่หารองเท้ามาคืนหวานเจี๊ยบได้
เวลาต่อมา ปลัดจืดเดินหิ้วถุงใส่รองเท้าของหวานเจี๊ยบเข้ามาที่บ้านเครือฟ้า
“มีใครอยู่มั้ยครับ”
ปลัดจืดตะโกนถามแต่ยังคงเงียบ
“น้าเครือฟ้า...น้าเครือฟ้าอยู่มั้ยครับ”
“จะเห่าดังไปถึงไหนห๊า!”
หวานเจี๊ยบตะโกนกลับ ปลัดจืดรู้ทันทีว่าเสียงหวานเจี๊ยบ
“พูดให้ดีๆ หน่อย ฉันไม่ใช่หมา”
“มาทำไม”
“น้าเครือไม่อยู่เหรอ”
ปลัดจืดเฉไฉถามหาเครือฟ้า
“ถ้าอยู่ก็เห็นแล้วซิ โง่ชิบเป๋ง!”
“นี่! ถามจริง เป็นบ้ารึเปล่า เจอหน้าฉันเป็นต้องกัดตลอดW
“ว๊าย! ฉันไม่ใช่หมานะยะ”
“ทีเธอยังชอบว่าฉันเห่า”
“อ่ะๆ! เลิกเห่าได้แล้ว แล้วก็รีบๆ กลับไปเลยไป น้าเครือไม่อยู่ มีงานจ้างไปฟ้อน”
หวานเจี๊ยบหันหลังจะเดินออก แต่ปลัดจืดตัดสินใจเรียกไว้
“เดี๋ยว!”
“อะไรอีกวะ”
หวานเจี๊ยบหันมา พอดีกับมือปลัดจืดยื่นถุงรองเท้าแทบจะทิ่มหน้า
“ว๊าย!ไอ้บ้า! แกจะต่อยหน้าฉันเรอะ ช่วยด้วย ปลัดรังแกชาวบ้าน ปลัดรังแกผู้หญิง”
ปลัดจืดกระโดดเข้าเอามือปิดปากหวานเจี๊ยบทันที
“เฮ่ย! บ้าแล้ว”
หวานเจี๊ยบดิ้นหนี แล้วกัดมือปลัดจืดแต็มแรง
“โอ๊ย!”
หวานเจี๊ยบคว้าไม้จะตีปลัดจืด
“เฮ๊ย!อย่า! ฉันซื้อของมาให้เธอ”
หวานเจี๊ยบชะงัก
“ว่าไงนะ”
ปลัดจืดยื่นถุงให้
“เอาไป!”
หวานเจี๊ยบยังไม่รับ แอบมองของอย่างระวังจนปลัดรำคาญ
“หึ้ย! เรื่องมากจริง”
ปลัดจืดโยนถุงร้องเท้าไว้บนแครก่อนจะเดินออกไป หวานเจี๊ยบมองด้วยความงง ก่อนจะเอาไม้เขี่ย ว่าข้างในเป็นอะไรกันแน่ พอเห็นเป็นรองเท้าหวานเจี๊ยบแอบอึ้งไม่น้อยเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าปลัดจืดจะซื้อมาให้เพราะไม่เคยญาติดีกันแม้แต่ครั้งเดียว

บ่ายนั้นในป่าลึกที่ม่วนแต๊ บริเวณนั้นสมใจสลบอยู่ ค่อยๆ ฟื้นขึ้น โดยมีอาเฟยนั่งมองอยู่ สมใจลุกทันที แต่ยังมึนจึงล้มทรุดลงอย่างเดิม
“เจ็บมากสินะ”
อาเฟยถามขึ้น แต่สมใจไม่ตอบ ทันใดนั้นอาเฟยลุกไปตบหน้าลูกน้องทันที
“อย่าทำอะไรที่อั๊วไม่ได้สั่ง!”
“แต่ตอนนี้ทางการจับตาเราอยู่นะครับ ขืนปล่อยนังนี่ไว้เราอาจจะเดือดร้อน”
อาเฟยเงื้อมือจะตบ จนลูกน้องผวา
“ครับๆ เถ้าแก่น้อย”
สมใจลุกขึ้นมาโวยวายทั้งน้ำตา
“พวกแก..พวกแกจริงๆ ด้วย แกฆ่าช้างชั้นใช่มั้ย แกทำได้ยังไง ทำไมจิตใจพวกแกถึงได้โหดเหี้ยม” อย่างนี้ พวกแกยังเป็นคนอยู่รึเปล่า”
อาเฟยโดนด่ายังโดนด่าหน้าตาเฉย
“เป็น! แล้วไอ้ที่ฉันทำน่ะมันโหดเหี้ยมตรงไหน วันนึงไอ้ช้างพวกนั้นมันก็ต้องแก่ตายอยู่ดี”
“ก็ปล่อยให้มันแก่ตายซิ ให้มันได้ใช้ชีวิตของมันไปตามธรรมชาติ นี่ถ้าพ่อแม่พี่น้องรึว่าลูกเมียแกไม่ได้แก่ตายแต่โดนฆ่าตายแบบนี้บ้าง แกจะรู้สึกยังไง”
สมุนปรี่เข้ามาจะทำร้ายสมใจ แต่เจออาเฟยห้ามไว้ก่อน
“เฮ๊ย! บอกแล้วไง ไม่ได้สั่ง อย่าทำ! ฉันไม่มีวันปล่อยให้พ่อแม่พี่น้องฉันโดนฆ่าตายหรอก โดยเฉพาะเมีย”
อาเฟยเชยคางสมใจ ยิ้มอย่างมีเลศนัย สมใจปัดมืออาเฟยแล้วตบจนหน้าหัน อาเฟยสีหน้าเปลี่ยนไปเลือดขึ้นหน้าราวปีศาจร้ายเข้าสิง หันมาจ้องสมใจตาลุกวาว
“เอาละเว๊ย!”
ลูกน้องอาเฟยโพล่งขึ้น อาเฟยโกรธจนตัวสั่น
“ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมีใครกล้าทำกับฉันอย่างนี้”
สมใจเริ่มกลัว เมื่ออาเฟยปรี่เข้ามาถึงตัว
“พูดดีๆ ไม่ชอบ ชอบความเจ็บปวดใช่มั้ย”
อาเฟยปลุกปล้ำสมใจทันที สมใจร้องลั่น ทันใดนั้นลูกน้งอของอาเฟยเจอเจ้าคุณกระโดดถีบจากด้านหลัง เจ้าคุณกระชากอาเฟยแล้วต่อยจนกระเด็นออกไป สมใจโผเข้ากอดเจ้าคุณทันที
“ขุนทอง!”
“ไม่เป็นไรนะ รีบหนีเร็ว!”
-เจ้าคุณดึงสมใจลุกขึ้น แต่โดนสมุนรุมตุ้บตั้บ อาเฟยกระชากสมใจไว้ สมใจร้องลั่น เป็นห่วงเจ้าคุณ เจ้าคุณสู้แหลก แต่สุดท้ายเพลี่ยงพล้ำ อาเฟยเตรียมเงื้อไม้จะฟาด ทันใดนั้นปลัดจืด เข้ามาช่วย ทั้งหมดต่อสู้กัน สุดท้ายอาเฟยควักปืนออกมาจะยิงปลัดจืด ส่วนเจ้าคุณโดดล็อกไว้ แต่เจ้าคุณตะโกนให้ปลัดจืดพาสมใจหนีไปก่อน
“พาสมใจหนีไป เร็ว พาสมใจหนีไป”
“ไม่ ชั้นไม่ไป!”
สมใจไม่ยอมทิ้งเจ้าคุณ อาเฟยกับเจ้าคุณแย่งปืนกันไปมา เสียงปืนดังเปรี้ยง สองคนสะดุ้งเฮือก สมใจตกใจ อาเฟยค่อยๆ ทรุดลง จนลูกน้องร้องเสียงหลง
“เถ้าแก่น้อย!”
เจ้าคุณมองอาเฟยด้วยความตกใจ สมใจยิ้มขึ้นมาแล้วรีบวิ่งไปหาเจ้าคุณ
“ขุนทอง!”
เจ้าคุณหันมองสมใจรีบโผวิ่งไปหาพอใกล้จะถึงตัวสมใจ เสียงปืนดังขึ้น ลูกน้องของอาเฟยลั่นไกยิงเจ้าคุณ สมใจตกใจ เจ้าคุณหน้าคว่ำล้มเข้ากับอ้อมกอดของสมใจ
“ขุนทอง! ขุนทอง!”
สมใจกอดเจ้าคุณไว้แน่น ส่วนลูกน้องรีบพาอาเฟยหนีทันที
“เผ่นก่อนเถอะ เถ้าแก่น้อย”
อาเฟยกับลูกน้องเผ่นแน่บ ปลัดจืดรีบวิ่งตาม
“ช่วยด้วย! ช่วยขุนทองด้วย ปลัด ช่วยด้วย”
ไม่ทันจะวิ่งตามไป ปลัดจืดหันมาช่วยสมใจกับเจ้าคุณก่อน
“อย่าตายนะขุนทอง! ขุนทองต้องไม่ตายนะ!”

สมใจร่ำไห้ปานใจจะขาด เมื่อเห็นคนที่รักโดนยิงต่อหน้าต่อตา











Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 9:41:03 น.
Counter : 525 Pageviews.

0 comment
รักออกอากาศ ตอนที่ 9 (ต่อ)




บ่ายวันนั้น กำโป๊งตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นแมทธิวบุกมาหาถึงที่บ้าน

“สวัสดีครับ..ลุงกำโป๊ง!”
แมทธิวยกมือสวัสดีกำโป๊ง
“ใครอ่ะ..ลุง”
กำโป๊งยังไม่ทันพูดอะไร เอมี่ก็วิ่งกรี๊ดมาเกาะแขนแมทธิว
“อี๊! แมท เนี่ยเหรอที่คุณคะคุณขาต้องมาอยู่ นี่มันบ้านหรือว่าเล้าหมูกันแน่เนี่ย”
กำโป๊งกับไส้อั่วแอบไม่พอใจ
“อ้าว! แล้วนี่ใคร..หน้าตาน่าเกลี๊ยดน่าเกลียด”
กำโป๊งกับไส้อั่วยิ่งเคือง
“สวยตายนี่ อีว่อก!”
เอมี่กรี๊ดหลังโดนไส้อั่วด่า
“เด็กอะไรหน้าตาน่าเกลียดแล้วยังพูดจาหยาบคายนะ..แก บอกมานะ..ตาแก่ คุณคะคุณขาของฉันอยู่ไหน”
“ขาใครไม่ทราบจ๊ะอีว่อก เอ๊ย! อีหนู”
กำโป๊งเอาคืน
“ว๊าย! นี่ก็ตาแก่ หน้าตาน่าเกลียดแล้วยังหูตึง ฉันถามว่าคุณคะคุณขาของฉันอยู่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้!”
แมทธิวหัวเราะ
“เจ้าคุณน่ะลุง เราหมายถึงเจ้าคุณ”
“ เจ้าคุณ”
กำโป๊งสะดุ้ง ตกใจเพราะกลัวไส้อั่วจับได้
“ใช่! ไอ้ขุนทองหลานรักของลุงไง”
“อะไรอ่ะลุง ไอ้พวกนี้มันเป็นใคร”
ไส้อั่วยิ่งสงสัย
“ฉันจะเป็นใคร จำหน้าฉันไว้เลยนะ..ฉันนี่แหละเมียในอนาคตของอ้ายขุนทองของแก”
“ห๊า! ไม่จริ้ง!”

กำโป๊งรีบลากไส้อั่วออกมาห่างๆ แล้วกระซิบใส่หู
“ไอ้อั่ว! อย่าไปฟังมัน ไอ้พวกนี้มันบ้า มันต้องเป็นเพื่อนไอ้ขุนทองจาก โรงพยาบาลบ้าแน่ๆ”
“ว่าแล้วเชียว”
ไส้อั่วเริ่มเชื่อ
“นี่ถ้าปล่อยให้พวกมันได้เจอกัน มีหวังไอ้ขุนทองต้องกลับไปบ้าอย่างเก่าแน่”
“ห๊า!”
“เอ็งต้องช่วยไอ้ขุนทองมันนะไอ้อั่ว”
“ช่วยยังไงล่ะลุง”
ไส้อั่วถามอย่างไม่เข้าใจ กำโป๊งกระซิบอีกครั้ง ไส้อั่วตาวาว พยักหน้ารับ
“ตกลงยังไงยะ คุณคะคุณขาของฉันอยู่ไหน”
เอมี่เร่งถามเอาเรื่อง
“อ๋อ..ตอนนี้มันไม่อยู่ที่นี่หรอกอีหนู”
“ถ้างั้นมันอยู่ที่ไหน รีบพาฉันไปหามันเดี๋ยวนี้”
แมทธิวเร่งหาตัวเจ้าคุณ
“ได้ซิ..ข้าจะให้ไอ้อั่วมันพาไปเดี๋ยวนี้เลย”
กำโป๊งมีแผนในใจ ไส้อั่วอมยิ้มทำตามแผน

ต่อจากนั้นไส้อั่วพา แมทธิวกับเอมี่ไปที่เลี้ยงช้าวงในป่า
“อร้าย! อะไรนะ ต้องขี่ช้างไป”
เอมี่เริ่มโวยวาย ไส้อั่วเริ่มกรี๊ดเลียนแบบบ้าง
“อร้าย! ใช่แล้ว”
“ไม่นะแมท ไม่เด็ดขาด มี่กลัว มี่ไม่ขี่”
“นี่..แกอย่ามาล้อเล่นกับฉันนะไอ้เด็กบ้า”
แมทธิวเริ่มขู่
“งั้นก็ตามใจ อ้ายขุนทองเข้าไปในป่าลึกนู่น ไม่รู้จะกลับวันไหน ถ้าไม่ขี่ช้างเข้าไปหาก็กลับไปนอนรอที่บ้านลุงกำโป๊งซักคืนสองคืนละกัน ไป!”
ไส้อั่วแกล้งทำท่าจะเดินกลับ
“เฮ๊ย เดี๋ยวดิ!”
แมทธิวรีบเรียกไว้ ในขณะที่เอมี่จะไม่ยอมนอนค้างที่บ้านกำโป๊ง
“ไม่นะแมท! มี่ไม่มีทางนอนค้างที่เล้าหมูนั่นเด็ดขาดนะ”
“งั้นจะเอาไงเจ๊ ไม่เข้าไปหาในป่า แล้วก็ไม่นอนค้าง แล้วเจ๊จะเจออ้ายขุนทองได้ไง”
“ใครเจ๊แก ทะลึ่ง”
“ตามใจ! กลับดีกว่า”
“เดี๋ยว! เอมี่....ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว ไปลากตัวไอ้คุณมันออกมาดีกว่า”
“แมท!”
แมทธิวสบตาอย่างร้าย จนเอมี่ต้องยอมไป ไส้อั่วแอบยิ้มกับแผนที่ร่วมวางกันไว้กับกำโป๊ง

ไม่นานต่อจากนั้น เอมี่กับแมทธิวขึ้นหลังช้างอย่างทุลักทุเล โดยมีไส้อั่วยืนดูอยู่
“อ้าว! แล้วแกล่ะ”
เอมี่ถาม
“ถ้าฉันนั่งไปด้วยเดี๋ยวอ้ายขุนทองก็ไม่มีที่นั่งกลับมาน่ะซิ พวกเจ๊ไปกันแค่นั้นแหละ”
“อ้าว! เฮ๊ย!”
“ไม่ต้องห่วง อ้ายควาญช้าง เขารู้ว่าอ้ายขุนทองอยู่ที่ไหน ใช่มั้ยอ้าย”
“อือ...”
ควาญช้างตอบสั้นๆ แล้วรีบทำตามแผนไส้อั่วทันที
“แน่นะ..ไอ้เด็กบ้า!...ถ้าฉันไม่เจอคุณคะคุณขาล่ะ ฉันเอาแกตายแน่”
“แน่ซะยิ่งกว่าแน่ ไปเลย”
ช้างออกเดิน เอมี่ไม่ทันตั้งตัวหน้าหงาย
“ว๊าย!”
“ไอ้ฉันน่ะ ไม่ตายหรอก กลัวเจ๊จะตายซะก่อนน่ะเซ่..ก๊ากๆ”
เอมี่เริ่มกลัว ในขณะที่ไส้อั่วกำลังสนุก

ต่อจากนั้นเอมี่กับแมทธิวนั่งอยู่บนหลังช้างกลางแม่น้ำ เอมี่ร้องโวยวายบนหลังช้างไม่ยอมหยุด
“เอมี่! เดี๋ยวก็ร่วงลงไปหรอก”
แมทธิวเริ่มรำคาญ
“แมท! มี่กลัว”
“กลัวแล้วไง จะกลับเหรอ ก็โดดลงไปซิ”
แมทธิวพูดโดยไม่แยแส
“บ้าเหรอ! พูดออกมาได้ ใครจะโดดลงไป”
“เบาๆ หน่อย เจ้าตัวนี้มันขี้ตกใจ”
ควาญช้างรีบเตือน
“อร้าย! อะไรยะ ตัวยังกะตึกทำมาขวัญอ่อน เชอะ! นี่แน่ะๆ หมั่นไส้”
เอมี่รีบเอากระเป๋าตีหลังช้าง ด้วยความหมั่นไส้ จนควาญช้างรีบตะโกนห้าม
“เฮ๊ย! อย่า!”
ทันใดนั้นช้างชูงวงร้องเสียงดัง เอมี่กับแมทธิว หงายเงิบ ร่วงลงน้ำแล้วร้องลั่น
“เฮ้อ! ก็บอกแล้ว ว่ามันขี้ตกใจ”
เอมี่กับแมทธิวตกอยู่ในน้ำสภาพเลอะเทอะดูไม่จืด

ใขณะที่ไส้อั่วกลับไปที่บ้านนั่งขำตัวงออยู่กับกำโป๊ง
“พอปีนขึ้นฝั่งมาได้ มันก็เผ่นแน่บกลับไปเลยลุง”
ไส้อั่วรายงานแผนการ
“ดีมาก ไอ้อั่ว สมกับเป็นหลานข้าจริงๆ ว่าแต่เรื่องของไอ้สองคนนั่น เอ็งห้ามไปบอกใครเด็ดขาดนะ”
อั่วแอบสงสัยทำไมถึงพูดไม่ได้
“ทำไมล่ะลุง”
“เอ๊ะ! ไอ้นี่! สั่งว่าห้ามบอกก็ห้ามบอกซิวะ ไม่ต้องถาม เข้าใจมั้ย”
ไส้อั่วได้แต่มอง
“เข้าใจจ๊ะ ไม่บอกใครเด็ดขาด!”
กำโป๊งแอบถอนใจหวั่นว่าเรื่องเจ้าคุณอาจจะไม่เป็นความลับแน่ในวันข้างหน้า

ต่อจากนั้น ไส้อั่วพาหาแคบหมูที่มุมหนึ่งของบ้านสมใจ
“ว่าไงนะไอ้อั่ว เพื่อนอ้ายขุนทองมาตามหาอ้ายขุนทอง”
แคบหมูถามอย่างตกใจ
“เออ! เพื่อนเป็นบ้าด้วย”
“เพื่อนเป็นบ้า”
“เออ! ว่าแต่เอ็งห้ามไปบอกใครนะเว๊ยนังแค๊บ เดี๋ยวลุงกำโป๊งเอาข้าตาย”
แคบหมูเริ่มสงสัย
“มันยังไงวะเนี่ย ข้าว่ามันมีกลิ่นนะ”
ไส้อั่วรีบดมรักแร้ตัวเอง
“ก็นิดนึง”
“ไอ้ง่าว! ข้าหมายถึงเรื่องอ้ายขุนทอง”
“อ้าว! มีกลิ่นไงวะ”
แคบหมูครุ่นคิดเรื่องเจ้าคุณอย่างสงสัย

ไม่นานต่อจากนั้น เจ้าคุณกลับไปที่บ้าน กำโป๊งจึงรีบรายงานว่าแมทธิวและเอมี่มาหาเจ้าคุณถึงที่บ้าน
“แมทธิวกับเอมี่มาที่นี่”
เจ้าคุณตกใจ ในขณะที่กำโป๊งเริ่มเต็มไปด้วยอารมณ์เซ็ง
“ข้าว่าความบรรลัยมันใกล้จะมาเยือนบ้านข้าเข้าไปทุกทีแล้ว ทางที่ดีเอ็งรีบกลับกรุงเทพฯไปเหอะ ไปซะตอนนี้เดี๋ยวนี้เลยก็ได้ หายสาบสูญไปดื้อๆ งี้ล่ะ ไม่ต้องอะไรเยอะ”
“ไม่ได้หรอกลุง”
“ได้ซี่ ทำไมจะไม่ได้ ไอ้ที่เอ็งตั้งใจจะเอาเงินมาช่วยนังใจ๋มัน เอ็งก็ช่วยไปแล้วนี่นา”
“แต่ฉันยังไม่ได้บอกลาสมใจเลยซักคำ”
กำโป๊งแอบกังวลกลัวความลับแตกในไม่ช้า ในขณะที่เจ้าคุณยังเศร้าเมื่อยังไม่ได้บอกลาสมใจ

เวลาต่อมา ที่บ้านสมใจกำลังคุยเรื่องกาแข่งขันกีฬาที่เพิ่งผ่านพ้นมา
“แข่งกีฬาอย่างนี้ก็สนุกดีนะจ๊ะแม่”
สมใจยิ้มอย่างมีความสุข
“นั่นซิ..พ่อเรานี่ก็เข้าใจคิดนะไอ้ใจ๋”
สมศรีชมสมหมายอย่างจริงใจ ในขณะที่สมหมายนั่งภูมิใจเช่นกัน
“แน่นอนอยู่แล้ว คนอย่างพ่อหมายธรรมดาซะที่ไหน ไอคิวเป็นเลิศ”
“นั่นไง...ชมนิดชมหน่อยเป็นไม่ได้”
สมศรีหัวเราะ สมหมายเข้ามากอดเมียอย่างมีความสุข
“โถ..ก็นานๆ เมียจะชมซักกะทีนี่นา”
สมใจมองพ่อแม่อย่างมีความสุข
“หึ้ย! ตาหมาย อายลูกมัน”
“อายทำไม ก็คนเขารักกัน เนาะๆ”
สมหมายยิ่งกอดสมศรีแน่นเข้าไปอีก สมใจอมยิ้ม ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้
“ใช่จ๊ะ ฉันชอบออก เห็นพ่อแม่รักกันแบบนี้ เอ่อ เดี๋ยวฉันจะไปอาบน้ำก่อนนะ ตัวเหม็นน่าดู”
สมใจเดินขึ้นบ้านไป
“ข้าว่าไอ้ใจ๋มันแปลกๆ นะตาหมาย”
สมศรีแอบเปรยกับสามี
“แปลกยังไง”
“มันดูเศร้าๆ”
“เศร้ายังไง คิดมาก”
“ไม่ล่ะ..มันดูเศร้าๆ..เหงาๆ”
สมหมายอึ้ง มองหน้าเมียแล้วหันมองลูกสาวที่กำลังเดินไปอย่างครุ่นคิด

สมหมาย เดินตามสมใจที่กำลังเดินด้วยความเซ็ง ไปหยิบขัน สบู่ ผ้าเช็ดตัว เตรียมจะไปอาบน้ำที่คลอง
“ใจ๋”
สมหมายเรียกลูกสาว
“จ๊ะพ่อ”
สมหมายเดินเข้ามาหาลูกสาวแล้วมองหน้า
“เหนื่อยมากมั้ยลูก”
“อะไรนะพ่อ”
“พ่อถามว่าเอ็งเหนื่อยมากมั้ย ต้องช่วยพ่อทำไร่ชามาแต่ไหนแต่ไร”
“โธ่พ่อ..จู่ๆ นึกยังไง..มาถาม ไม่เหนื่อยหรอก”
สมใจยิ้มให้พ่อ ที่มองมาด้วยสายตาอ่อนโยน
“ถ้างั้นเหงามั่งมั้ย”
“ว่าไงนะ”
สมหมายลูบหัวลูกสาว
“เอ็งเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อกับแม่ ไม่มีพี่มีน้อง...”
“พ่อ...”
สมหมายกอดสมใจอย่างรักสุดดวงใจ
“พ่อน่ะทั้งรักทั้งหวงเอ็งมากนะใจ๋ แต่ถ้าวันนึงพ่อกับแม่เป็นอะไรไป...”
สมใจรีบผละกออกเมื่อได้ยินพ่อพูดแบบนั้น
“พ่อ! อย่าพูดอย่างนี้ซิ!”
“ปลัดจืดเขาเป็นคนดี”
สมหมายเข้าเรื่อง
“..นั่นไง...ว่าแล้ว...”
“...ไอ้ขุนทองก็ด้วย”
สมใจช็อก
“พ่อ!”
“ใครก็ตามที่จะทำให้ลูกสาวพ่อมีความสุข พ่อไม่เคยรังเกียจ”
สมใจน้ำตารื้น แทบไม่อยากจะเชื่อหู
“แต่ถ้าใครมันบังอาจทำให้ลูกสาวพ่อมีความทุกข์ มันตาย!”
สมใจหัวเราะทั้งน้ำตา แล้วเข้าไปกอดพ่อ
“พ่อ!”
“แต่คนเราจะดีจริงหรือไม่ มันต้องดูกันนานๆ เพราะถึงแม้วันนี้จะดี แต่ก็ไม่ได้แปลว่าพรุ่งนี้มันจะดีเหมือนวันนี้ จำไว้นะลูก”
“จ๊ะพ่อ..ฉันจะจำคำพ่อไว้”
“ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมเด็ดขาดว่า เอ็งเป็นลูกผู้หญิง แล้วก็เป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อด้วย”
สองคนพ่อลูกกอดกันแน่น สมศรีแอบมองอยู่ยิ้มอย่างภูมิใจ สมใจดูมีความสุขขึ้นมาทันตา

วันเดียวกัน สมใจปั่นจักรยานอย่างเร็วมาตามทางอย่างมีความสุข มุ่งตรงไปหาเจ้าคุณที่บ้านกำโป๊ง
“ขุนทอง! อ้ายขุนทอง!”
สมใจตะโกนเรียกขุนทองเสียงดังลั่น
“อร้าย! แสบหูนะเจ๊ใจ๋ ทำไมต้องตะโกนซะดังแก้วหูแทบแตก”
“ขุนทองล่ะไส้อั่ว ขุนทองไปไหน”
“อ้ายขุนทอง... ไปแล้ว”
ไส้อั่วแกล้งทำเสียงเศร้า จนสมใจแอบใจหาย
“ไปแล้ว ไปไหน อ้ายขุนทองไปไหน ไส้อั่วอ้ายขุนทองไปไหน”
“ไปอาบน้ำ ก๊ากๆ”
“นี่แน่ะ! ไอ้อั่วบ้า!”
สมใจผลักไส้อั่วหน้าหงายแล้วรีบปั่นจักรยานออกไปทันที
“อูย...ยังไงวะเนี่ย.. เป็นไรเยอะยะเจ๊ เอ๊ะ...มีกลิ่นนะเนี่ย”
ไส้อั่วทำจมูกฟุดฟิด แล้วแอบสงสัยว่าสมใจมาตามหาเจ้าคุณเพราะอะไรกันแน่

เย็นนั้น สมใจปั่นจักรยานมาที่คลองอาบน้ำแล้วมองไปที่เจ้าคุณที่นั่งถอดเสื้ออยู่ที่ทางเดินริมคลอง สมใจแอบยิ้มแล้วค่อยๆ จอดจักรยานย่องไปหาด้านหลัง แล้วผลักเจ้าคุณอย่างแรง
“เฮ๊ย!”
เจ้าคุณตกใจร่วงลงน้ำ สมใจยืนขำกลิ้ง
“ฮ่าๆ”
เจ้าคุณส่ายหน้าพอรู้ว่าเป็นสมใจ
“อ่ะ! ขำ...ขำ...ขำมากมั้ย”
“มาก! ฮ่าๆ”
เจ้าคุณมองสมใจที่หัวเราะด้วยความเป็นธรรมชาติ
สมใจรู้สึกตัวว่าโดนเจ้าคุณจ้อง เลยชะงักหัวเราะค้างเติ่ง
“ฮ่าๆ...เฮ๊ย! มองอะไร”

สมใจเขิน ส่วนเจ้าคุณยังมองแล้วยิ้ม แต่ไม่ยอมตอบ
“แน้! นี่แน่ะ!”
สมใจเขินมากเข้าจึงหยิบสบู่ขว้างใส่เจ้าคุณ เจ้าคุณหลบทัน สมใจจึงคว้าขันขว้างตามไปติดๆ
“นี่แน่ะ!”
คราวนี้โดนหัวเจ้าคุณอย่างจัง เจ้าคุณกุมหัวแกล้งเจ็บแล้วจมหายไปในน้ำ
“ขุนทอง! ขุนทอง!” สมใจเริ่มใจคอไม่ดี
น้ำนิ่งไม่มีรอบกระเพื่อม
สมใจยิ่งตกใจมากขึ้น ร้องเรียกขุนทองดังลั่น
“ขุนทอง! ขุนทอง!”

เห็นเจ้าคุณยังไม่โผล่ขึ้นมา สมใจจึงตัดสินใจกระโดดลงไปหาเจ้าคุณในน้ำทันที สมใจพุ่งลงมาหาเจ้าคุณ แต่ ยังหาไม่เจอ
แต่พอจังหวะที่หันกลับมาอีกครั้ง หน้าแทบชนกับเจ้าคุณที่ยิ้มอยู่ใกล้ๆ สมใจผลักหน้าเจ้าคุณหงายเงิบ แล้วจะพุ่งขึ้นเหนือน้ำ เจ้าคุณคว้าข้อมือสมใจไว้ สมใจสะบัดหลุด จะพุ่งหนี แต่ช้ากว่าเจ้าคุณ ที่กระโดดรวบตัวสมใจไว้ได้ แล้วดึงรั้งเข้ามาใกล้

สมใจแกล้งชี้มือชี้ไม้เหมือนจะบอกว่าตัวเองจะหมดอากาศหายใจ แต่เจ้าคุณไม่ฟัง คว้าสมใจมาบรรจงจูบอย่างดูดดื่ม
เจ้าคุณยังคงเอาปากประกบปากสมใจแนบแน่นอยู่อย่างนั้น สมใจตกใจตาเหลือก ก่อนจะนึกได้พยายามเอามือผลักออก แต่โดนเจ้าคุณรวบมือสมใจไว้แล้วยังจูบต่อไปอีก สมใจเริ่มนิ่งหลับตาพริ้ม

ไม่นานนักเจ้าคุณจึงค่อยๆ ผละออก จ้องมองหน้าสมใจอย่างรักสุดดวงใจ สมใจลืมตาขึ้นมองเจ้าคุณพอดี สองหนุ่มสาวสบตากัน แต่พอสมใจจะได้สติ รีบผลักร่างเจ้าคุณแล้วทะลึ่งพรวดขึ้นเหนือน้ำทันที จากนั้นเจ้าคุณจึงโผล่ตามขึ้นมา
“ใจ๋...เป็นไงบ้าง”
เจ้าคุณถามดว้ยความห่วงใย สมใจจ้องหน้าก่อนจะตบเจ้าคุณจนหน้าหันด้วยความโกรธ
“ยังจะมีหน้ามาถาม!”
เจ้าคุณมองด้วยความสงสัย “ใจ๋...”
“ฉันเกลียดคนฉวยโอกาสที่สุด!”
“ฉวยโอกาส ฉันฉวยโอกาสตอนไหน...ใจ๋”
“ก็ตอน...ตอน..ตอนเมื่อกี๊..ในน้ำไง”
เจ้าคุณเต็มไปด้วยความงง
“ในน้ำ เข้าใจผิดแล้วใจ๋ ฉันตั้งใจจะช่วยเธอนะ”
“ช่วยฉัน ช่วยจูบฉันเนี่ยนะ”
“จูบ”
“ก็เออซิ”
“ใจ๋..ฉันเห็นเธอทำท่าเหมือนจะขาดอากาศก็เลยช่วย..เอ่อ..ช่วย..แบ่งออกซิเจนให้”
“แบ่งออกซิเจน”
เจ้าคุณมองจ้องตาอย่างจริงใจแทนคำตอบ สมใจเห็นสายตาแล้วเริ่มเสียงอ่อนลง
“จริงเหรอ”
เจ้าคุณพยักหน้า สมใจเฉไฉไปมองทางอื่น เจ้าคุณจ้องสมใจอย่างรักเหลือเกินก่อนจะค่อยๆ เอามือปัดผมที่ปรกหน้าใจ๋ เจ้าคุณมองสมใจก่อนตัดสินใจจะบอกลา
“ใจ๋...”
“หื้ม”
“ถ้าเรา...”
เจ้าคุณพูไม่ออกแล้วนิ่งไป
“ถ้าเรา..ทำไม”
“ถ้าเรา..จะไม่ได้เจอกันอีก...”
สมใจรีบสวน
“ทำไมล่ะ ทำไมเราจะไม่ได้เจอกันอีก”
เจ้าคุณเห็นสมใจตกใจเลยพูดไม่ออก
“คือ...ถ้าสมมตินะ..สมมติว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก...”
สมใจจ้องตาเจ้าคุณนิ่ง
“....เธอจะ..คิดถึงฉันบ้างมั้ย”
สมใจฟังแล้วหลบตา
“จะสมมติทำไม..ยังไงเราก็ต้องเจอกันทุกวัน อยู่บ้านใกล้กันแค่นี้ ทำไม นายจะหนีฉันไปไหน อ๋อ..คิดจะอู้ไม่ไปช่วยงานที่ไร่เรอะ เดี๋ยวจะโดน”
สมใจเฉไฉไปเรื่องอื่น จนเจ้าคุณอึ้งไป
“เปล่า...ไม่ใช่อย่างนั้น”
“แล้วอย่างไหน”
สมใจคาดคั้น
“ถ้าฉัน...เอ่อ...สมมติถ้าฉัน..หนีไปจริงๆ...เธอจะโกรธฉันมั้ย”
“แน่นอน! นายตายแน่!”
เจ้าคุณยิ่งทำตัวไม่ถูก ไม่กล้าสู้หน้า ตัดสินใจรวบตัวสมใจมากอดแน่น สมใจอึ้งไป ก่อนแหงนมองหน้าเจ้าคุณอย่างไม่เข้าใจ
“อะไรของนายเนี่ย”
เจ้าคุณจ้องตา ยังไม่คลายอ้อมกอด
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...อย่าโกรธฉันนะ..ใจ๋”
สมใจมองอย่างไม่เข้าใจ เจ้าคุณยังพูดต่อ
“....คิดถึงฉันบ้าง...”
สองคนมองตากัน เจ้าคุณค่อยๆ ก้มหน้าไปใกล้ใจ๋เกือบจะจูบ ทันใดนั้นหวานเจี๊ยบมาเห็นเข้าถึงกับตกใจ
“ว๊าย!”
เจ้าคุณกับสมใจสะดุ้งหันขวับเห็นหวานเจี๊ยบยืนอึ้งตะลึงปากคอสั่น
“พี่ใจ๋..อ้ายขุนทอง...สองคน..ทำอะไรกันน่ะ”
หวานเจี๊ยบเสียงสั่น สมใจกับเจ้าคุณตกใจพูดไม่ออก สมใจรีบผลักเจ้าคุณออก แล้วตะโกนเรียกหวานเจี๊ยบ
“เดี๋ยว...หวานเจี๊ยบ...”
“พี่ใจ๋กับอ้ายขุนทอง...นี่พี่ใจ๋....ไม่จริ้ง!”
หวานเจี๊ยบวิ่งออกไปทันที สมใจตะโกนเรียกไว้แต่ไม่ยอมฟัง
“หวานเจี๊ยบ..ฟังก่อน...หวานเจี๊ยบ! แย่แล้ว”
สมใจมองหน้าเจ้าคุณด้วยความเครียด โดยไม่รู้ว่าสองแม่ลูกลำยองกับลำใยแอบดูอยู่ที่พุ่มไม้แล้วเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง

ไม่นานต่อจากนั้น สมใจตามมาทันหวานเจี๊ยบที่นั่งร้องไห้ เพราะสะดุดล้ม หวานเจี๊ยบนั่งกุมขาไว้ สมใจวิ่งตามมาเจอ ในสภาพตัวเปียกเพราะเพิ่งขึ้นมาจากน้ำกับเจ้าคุณ
“หวานเจี๊ยบ เป็นไงมั่ง”
สมใจถามหวานเจี๊ยบอย่างเป็นห่วง
“พี่ใจ๋...หวานเจี๊ยบไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่ใจ๋กับอ้ายขุนทอง...”
หวานเจี๊ยบสะอื้น
“ไม่นะ..หวานเจี๊ยบ...ฟังก่อนนะ..มันไม่ใช่อย่างที่หวานเจี๊ยบคิดนะ”
“จริงเหรอ พี่ใจ๋อย่าโกหกหวานเจี๊ยบนะ พี่ใจ๋ไม่ชอบคนโกหก หวานเจี๊ยบก็ไม่ชอบคนโกหกเหมือนกัน”
สมใจอึ้งไป เจ้าคุณตามมายืนมองห่างๆ ไม่ให้สองสาวเห็น
“เมื่อกี๊...ขุนทองเค้า..เขาแค่ช่วย...ไม่ให้ฉันจมน้ำ”
“จริงเหรอ แล้วทำไมต้องทำท่าเหมือนจูบกันด้วย ฮือๆ”
สมใจตกใจรีบตอบ
“ไม่นะ! ไม่ได้จูบ”
หวานเจี๊ยบรีบปาดน้ำตา
“ก็ได้..หวานเจี๊ยบเชื่อพี่ใจ๋..แต่พี่ใจ๋แน่ใจนะ ว่าพี่ใจ๋กับอ้ายขุนทอง...”
“หวานเจี๊ยบ รีบกลับบ้านไปล้างแผลเถอะเดี๋ยวจะอักเสบเป็นหนองนะ”
“ก็ได้...หวานเจี๊ยบเชื่อพี่ใจ๋”
สมใจถอนหายใจ ในขณะที่เจ้าคุณแอบได้ยินสุดเศร้ากับสิ่งที่ได้ยิน

เย็นนั้น สมใจกับเจ้าคุณเดินคุยกันมาถึงหน้าบ้าน ด้วยสภาพเนื้อตัวเปียกทั้งคู่
“ฉันขอโทษที่ทำให้หวานเจี๊ยบเข้าใจผิด”
สมใจอึ้งไปเพราะความจริงแล้วหวานเจี๊ยบไม่ได้เข้าใจผิดแต่อย่างใด
“....ช่างมันเถอะ”
“เธอ..ไม่โกรธฉันใช่มั้ย”
“ไม่โกรธหรอก เรื่องแค่นี้ โชคดีนะที่เป็นหวานเจี๊ยบ นี่ถ้าเป็นคนอื่นมาเห็นละก็ได้รู้กันทั้งหมู่บ้านแน่”
สมใจพูดจบก็ชะงักกึก อึ้ง เจ้าคุณมองตามสายตาสมใจ เห็นทุกคนในบ้านกำลังจ้องมาที่ทั้งคู่ตาเขม็ง
“แย่แล้ว!”
“ไอ้ใจ๋!”
สมหมายเรียกสมใจเสียงดังขึ้นมา สมใจหน้าเสีย
“อ้ายขุนทอง”
ปลัดจืดพุ่งเข้าชกหน้าเจ้าคุณคว่ำไปกองกับพื้น ทุกคนส่งเสียงวี๊ดว๊ายลั่น
“ขุนทอง!”
สมใจจะวิ่งไปหาขุนทอง แต่สมหมายเรียกไว้ก่อน
“ไอ้ใจ๋!”
สมใจชะงัก สมหมายจ้องเขม็ง

“นี่มันอะไรกัน ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย”
สมใจหันไปที่ปลัดจืด
“ ถามไอ้ขุนทองดีกว่ามั้ยว่าทำไมถึงกล้าทำขนาดนั้น”
“กล้าทำ ขุนทองกล้าทำอะไร”
สมใจยังไม่เข้าใจ จนลำใยแทรกขึ้นมา
“อร้าย! ยังจะกล้าถาม กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ทำอะไรไม่อายผีสางเทวดาเจ้าป่าเจ้าเขา”
ลำยองรีบเสริมลูกสาวทันที
“ใช่! ไม่เคยคิดเลยว่าลูกสาวพ่อหมายกะแม่ศรีจะกล้าทำให้พ่อแม่อับอายขายขี้หน้าได้ถึงขนาดนี้”
สมใจตวาดเสียงใส่สองแม่ลูกทันที
“พูดอะไรน่ะ ปากตำแยทั้งแม่ทั้งลูกเลยนะ”
“ไอ้ใจ๋! หยุดได้แล้ว”
สมหมายเสียงดังขึ้น จนสมใจชะงัก แล้วสมหมายเดินไปมองหน้าเจ้าคุณ
“ไอ้ขุนทอง! แม่ลำยองกับลำไยมาเล่าให้ข้าฟังว่าเอ็งทำมิดีมิร้ายไอ้ใจ๋ที่บึงอาบน้ำ จริงรึเปล่าวะ”
เจ้าคุณกับสมใจหันขวับมองลำยองกับลำใย สองแม่ลูกรีบหลบสายตา สมใจโกรธโพล่งขึ้น
“อ๋อ...ที่แท้ก็ 2 แม่ลูกนี่เอง”
สมใจปรี่จะเข้าลุยสองแม่ลูก คำปุยกับแคบหมูรีบดึงตัวสมใจไว้
“จริงรึเปล่า ตอบมา!”
ปลัดจืดถามใส่หน้าเจ้าคุณ
“เปล่า”
“โกหก!”
ปลัดจืดไม่เชื่อ
“หยุดนะปลัด! อย่าทำอะไรขุนทองนะ”
สมใจเอาตัวขวางปลัดจืดไว้ จนอีกฝ่ายชะงัก ทุกคนมองอึ้งเช่นกัน
“ถ้าทุกคนจะเรียกการช่วยเหลือคนขาดอากาศในน้ำว่าทำมิดีมิร้ายล่ะก็ เชิญปลัดต่อยขุนทองให้ตายไปเลย เชิญ!”
ทุกคนอึ้ง สมหมายยังไม่เข้าใจที่สมใจพูด
“ช่วยเหลือคนขาดอากาศในน้ำ”
“ใช่! ขุนทองช่วยฉัน ไม่งั้นฉันอาจจะตายไปแล้วก็ได้”
ลำใยแทรกขึ้นอีกครั้ง
“ช่วยยังไง ช่วยกันอีท่าไหน ถึงต้องกอดรัดฟัดกันนัวเนียด้วยห๊า!”
“กอดรัดฟัดกันนัว”
ทุกคนฮือฮา
“ใจ๋...ยังไงอ่ะลูก”
สมศรีถามลูกสาวด้วยความห่วงใย
“ขุนทองต้องดึงฉันขึ้นจากน้ำ ถ้าไม่ให้เอามือรัดฉันขึ้นมาแล้วจะให้เอาตีนรัดรึไงไม่ทราบนังลำไย”
ลำใยสะดุ้งเฮือก
“นั่นซิ! ไว้ให้เป็นศพแกลอยอืดขึ้นมาก่อนเถอะ แล้วค่อยใช้ตีนเขี่ย..ฮ่าๆ”
คำปุยกับแคบหมู และชาวบ้านบางคนพากันหัวเราะ แต่สองแม่ลูกเริ่มไม่พอใจ
“นี่พ่อหมาย! แต่ม่วนแต๊ของเราน่ะมีธรรมเนียมชายใดแตะเนื้อต้องตัวแม่หญิงเยี่ยงนี้ แม่หญิงก็จะต้องเสียผีมีมลทิน เป็นที่ดูหมิ่นดูแคลนของชาวบ้าน เป็นกาลกิณีของผีสางเทวดาเจ้าป่าเจ้าเขา จริงมั้ยพวกเรา”
ลำยองทักท้วง ชาบ้านเริ่มสงเสียงฮือฮา สมใจกับเจ้าคุณมองหน้ากัน
“โบราณ! นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้วน้าลำยอง”
“ จริงด้วย! พูดยังกะลูกน้ารักนวลสงวนตัวนักนี่”
คำปุยย้อนลำยอง
“แน้ๆ เด็กพวกนี้ทำผิดแล้วยังจะมาย้อน พ่อหมายกับแม่ศรีจะว่ายังไง”
สมหมายกับสมศรี มองหน้ากัน สมหมายจ้องหน้าเจ้าคุณอย่างห้โอกาส ไม่ได้รู้สึกโกรธเพราะสมหมายมองออกว่าสมใจและเจ้าคุณแอบมีใจให้กันอยู่บ้าง
“ขุนทอง...ม่วนแต๊ของเรามีขนมประเพณี...ตอบมาตรงๆ...เอ็งคิดยังไงกับลูกสาวข้า”
เจ้าคุณอึ้ง สมใจตกใจสมหมายเร่งเอาคำตอบ
“ว่าไง”
เจ้าคุณอึ้ง สมใจแอบลุ้น ส่วนปลัดจืดปวดใจเป็นที่สุด เจ้าคุณเริ่มติดอ่าง
“ชะ..ชะ..ฉัน..ฉันตั้งใจจะช่วยสมใจจริงๆ...ไม่ได้คิดอะไรเลย”
สมใจได้ฟังแล้วอึ้งไป เสียใจอย่างบอกไม่ถูก ปลักจืด สมหมาย คำปุย และแคบหมูทุกคนงงไปตามๆกัน
ส่วนลำยองกับลำไยเริ่มไม่พอใจ ชาวบ้านเริ่มแตกฮือ
“ว่าไงนะ”
สมหมายถามย้ำ
เจ้าคุณนิ่งไป เหลือบมองสมใจที่เริ่มเบือนหน้าหนี กลั้นน้ำตา แล้วยิ้มกลบเกลื่อน
“ได้ยินรึยัง ฉันกับขุนทองไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่เคยคิดอะไรแม้แต่นิดเดียว!”
สมใจพูดจบก็วิ่งขึ้นบ้านไปทันที เจ้าคุณใจหายวูบ
“เห็นมั้ย เพราะน้าลำยองกับนังลำใยแท้ๆ เอาอะไรมาพูด พูดจาอะไรไม่รู้จักคิด!”
คำปุยกับแคบหมูวิ่งตามสมใจออกไป สมหมายกับสมศรี มองตามลูกอย่างเป็นห่วง ปลัดจืดมองเจ้าคุณอย่างไม่เชื่อ แต่เจ้าคุณแอบใจหายและเศร้าเมื่อรู้ว่าลึกๆอาจทำให้สมใจเสียใจ

ต่อจากนั้น สมใจนั่งริ้งไห้บนเตียง นึกย้อนรอยบจูบของเจ้าคุณ และสิ่งที่เจ้าคุณสารภาพ
“สมมติว่าเราไม่ได้เจอกันอีก เธอจะ..คิดถึงชั้นบ้างมั้ย คิดถึงฉันบ้าง..”
ทันใดนั้นเสียงคำปุยกับแคบหมู เคาะประตูรัวไม่ยั้ง
“ใจ๋! เปิดประตูหน่อย”
“เจ๊! เปิดประตู!”
“ฉันไม่เป็นไร ง่วงนอน”
ที่หน้าประตู คำปุยกับแคบหมูหน้าตาไม่เชื่อว่าสมใจจะง่วงนอนตามที่พูด ภายในห้องสมใจล้มตัวลงนอนสะอื้น นึกถึงความหลังของเจ้าคุณกับเธอ
“นายไม่เคยคิดอะไรกับฉัน ฉันมันคิดไปเอง ฉันมันผิดเอง”
สมใจนอนสะอื้นร้องไห้เสียใจที่คิดว่าหลงรักเจ้าคุณข้างเดียว

เย็นวันเดียวกันที่ คฤหาสน์บ้านเจ้าคุณ รจนาวรรณกรี๊ดลั่นใส่หน้าจอทีวีในรายการไฮโซบ้านเฮา
“เห็นมั้ย หนูมี่ เจ้าคุณลูกแม่น่ะไม่มีทางลดตัวไปเกลือกกลั้วกับนังบ้านนอกนั่นเด็ดขาด”
“อร้าย! จริงด้วยค่ะคุณหญิงแม่ขา”
สองคนกอดกันแน่น ไมเคิลแอบสงสารเจ้าคุณ
“อีกไม่นาน เจ้าคุณก็จะต้องกลับมาหาแม่ กลับมาหาหนูมี่ เชื่อแม่!”
รจนาวรรณมั่นใจ
“แน่นอนที่สุดค่ะ..คุณหญิงแม่ขา อย่างนี้เราต้องฉลองกันหน่อยนะคะ มะขิ่น!”
มะขิ่นวิ่งออกมาพร้อมน้ำส้มสองแก้ว
“เจ้าขา...มะขิ่นมาแล้วค่า”
รจนาวรรณกับเอมี่ชูแก้วน้ำส้มฉลองล่วงหน้า หลังเห็นเจ้าคุณปฏิเสธรักสมใจผ่านทีวี
“สำหรับการกลับมาของคุณคะคุณขาค่ะ”
“เชียรส์จ๊ะ!”
สองคนจิบน้ำส้ม เอมี่ชะงักกึก คล้ายจะอาเจียนเพราะเหม็นกลิ่นน้ำส้ม
“เป็นอะไรจ๊ะหนูมี่”
“มะขิ่น! แกเอาน้ำอะไรมาให้ฉัน”
“น้ำอะไรคะ นางเอกอย่างคุณเอมี่ก็ต้องน้ำส้มซิคะ”
“นั่นซิ! น้ำส้มคั้นสดๆ เลยนะจ้ะหนูมี่”
รจนาวรรณยิ่งยื่นน้ำส้มเข้าใกล้เอมี่มากขึ้น จนเอมี่แทบอาเจียน
“ว๊าย! อ้วก!”
“ว๊าย!”
รจนาวรรณตกใจที่เห็นเอมี่อาเจียน
“ตายแล้ว! หนูมี่เป็นอะไร นังมะขิ่น แกใส่อะไรลงไปในน้ำส้มหนูมี่ เอาส้มเน่ามาคั้นรึเปล่าตายแล้ว..หนูมี่ของแม่”
เอมี่วิ่งออกไปอาเจียนโดยมีรจนาวรรณจับตามองด้วยความเป็นห่วง ส่วนมะขิ่นยังก้มมองดูน้ำส้มที่เพิ่งคั้นมาสดๆอย่างสังเกต แล้วกระดกแก้วดื่มพิสูจน์
“อะไรวะ ส้มเน่าที่ไหน อร่อยจะตาย พี่ไมค์ลองซิ”
“บ้า! ไม่เอา เฮ้อ! ป่านนี้คุณหนูจะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้”
ไมเคิลแอบห่วงเจ้าคุณเพราะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเต้านายตัวเองรักสมใจเต็มหัวใจแต่ต้องปฏิเสธเพราะอีกไม่นานต้องกลับมาแต่งงานกับเอมี่ตามคำสั่งของรจนาวรรณ

คืนนั้นที่บ้านกำโป๊ง เจ้าคุณนั่งถอนหายใจหลายครั้ง จนกำโป๊งเข้ามาทัก
“ทำไมเอ็งถึงตอบพ่อหมายไปอย่างนั้นวะ...ไอ้ขุนทอง ทำไมไม่บอกไปซะเลยว่าเอ็งคิดยังไงกับไอ้ใจ๋ เอ็งโกหกทำไม”
“ฉันจำเป็นต้องโกหก เพื่อใจ๋”
กำโป๊งยังไม่เข้าใจ
“ถ้าฉันพูดความจริงก็จะยิ่งทำร้ายจิตใจใจ๋ มันคงโหดร้ายมากนะลุง ถ้าฉันบอกรักเขาแล้วอีกไม่นานฉันก็ต้องทิ้งเขาไป”
กำโป๊งอึ้งในความคิดเจ้าคุณ
“แถมฉันยังทำลายอนาคตใจ๋ ทำลายศักดิ์ศรีแม่หญิงม่วนแต๊ของใจ๋ที่ต้องมาแปดเปื้อนเพราะฉันอีก ถ้าฉันยอมรับ...ถ้าฉันพูดความจริง แล้วก็เดินจากไป ใจ๋จะอยู่ที่นี่ต่อไปได้ยังไง ฉันคงเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวที่สุด”
“ไอ้ขุนทอง ตั้งแต่เห็นกันมา ข้าก็เพิ่งจะรู้จักเอ็งจริงๆ ก็วันนี้ล่ะวะ”
กำโป๊งตบไหล่ให้กำลังใจเจ้าคุณ
“ใจ๋...ยกโทษให้ฉันด้วยนะ”
เจ้าคุณหน้านิ่งอยู่ในอารมณ์เศร้า

กิ่งแก้วกับก้องเกียรติที่หน้าจอมอนิเตอร์ จ้องภาพในจอมองเจ้าคุณ กิ่งแก้วน้ำตารื้น
“ฉันด้วย....ยกโทษให้ฉันด้วย...เจ้าคุณ”
ก้องเกียรติยื่นมือไปบีบมือกิ่งแก้ว แล้วคนกอดปลอบใจกัน

คืนนั้นที่บ้านสมใจ ทุกคนนั่งกินข้าวไม่ลงมีเพียงแคบหมูที่ก้มกินข้าวหน้าตาเฉย
“แหะๆ...อิ่มกันแล้วเหรอจ๊ะ”
แคบหมูถามแก้เขิน
“ไม่มีใครเขากินลงกันหรอกเว๊ย มีแกแหละกินได้อยู่คนเดียว”
คำปุยแขวะ
“อย่าไปว่ามันเลยคำปุย ยกไปกินต่อหลังบ้านก็ได้นังแค๊บ”
สมศรีรีบบอก แคบหมูรีบเก็บจานรีบไปกินต่อหลังบ้าน
“จ้ะป้าศรี”
“เดี๋ยวครับ!”
ทุกคนมองมาที่ปลัดจืด
“ใจ๋ยังไม่ได้กินเลย”
พูดจบก็ตักข้าว ตักกับข้าวราดหัวจาน
“ทำอะไรน่ะปลัด”
“ผมขออนุญาตเอาไปให้ใจ๋ได้มั้ยครับ”
ปลัดจืดอยากเอาข้าวไปให้สมใจด้วยความเป็นห่วง สมหมายกับสมศรีพยักหน้าเชิงอนุญาต คำปุยกับ แคบหมู ช่วยกันเก็บกับข้าวออกไป
“ตาหมาย...”
สมศรีเรียกสามี
“สงสารไอ้ใจ๋มัน คนดีๆ อย่างปลัดก็ดันไม่ชอบ ดันไปชอบคนบ้าๆ บอๆ อย่างไอ้ขุนทอง เฮ้อ! นี่มันเวรกรรมอะไรก็ไม่รู้”
สมหมายสงสารลูกสาวสุดหัวใจ สมศรีพูดไม่ออก ได้แต่ลูบหลังปลอบใจสมหมาย

เวลาต่อมา ปลัดจืดเดินถือจานข้าวมาหน้าห้องนอนสมใจ เคาะประตูเรียก
“ใจ๋..เปิดประตูหน่อย...”
ไม่มีเสียงตอบรับ
“ใจ๋..ฉันเอาข้าวมาให้”
ยังคงไม่มีเสียงตอบรับ ปลัดจืดเคาะประตูเสียงถี่ขึ้น
“ใจ๋..เปิดประตู ใจ๋!”
ปลัดจืดใจหาย รีบเอาตัวกระแทกประตู แต่ไม่ได้ผล ตัดสินใจยกเท้าขึ้นจะถีบประตูเต็มแรง แต่ประตูเปิดออกพอดี ปลัดจืดหน้าทิ่มพร้อมจานข้าว
“เฮ๊ย!”
สมใจตกใจ ปลัดจืดหน้าหงาย
“ปลัด!”

สมใจรีบเอาน้ำแข็งประคบจมูกช้ำ ให้ปลัดจืด
“โอ๊ย!”
ปลัดจืดร้องโอดโอย
“โทษๆ...เลือดหยุดแล้ว”
“ฉันไม่เป็นไร”
“ช้ำไปหมดอย่างนี้ยังจะว่าไม่เป็นไรอีก”
“คงจะช้ำไม่เท่าใจ๋หรอก”
สมใจชะงัก อึ้งไป
“ถ้าฆ่าคนตายแล้วไม่ผิดกฎหมาย ฉันคงฆ่าไอ้ขุนทอง ตายคามือไปแล้ว”
สมใจจะเดินออก ปลัดจืดคว้ามือสมใจไว้
“ใจ๋...”
สมใจนิ่งฟัง
“ยังไม่ต้องรัก ไม่ต้องชอบหรอก แค่ลองคบฉันดูบ้างได้มั้ย ฉันสัญญาว่าจะไม่มีวันทำให้ใจ๋เสียใจเหมือนไอ้ขุนทองเลยแม้แต่นิดเดียว”
“ขอบใจนะปลัด แต่ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้คิดแล้วก็ไม่เคยคิดอะไร แล้วทำไมฉันจะต้องเสียใจเพราะอ้ายขุนทองด้วย”

สมใจพูดจบก็รีบเดินหนีไป ทิ้งให้ปลัดจืดนั่งอยู่ด้วยความเซ็งต่อไป










Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 9:39:52 น.
Counter : 312 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]