All Blog
รักออกอากาศ ตอนที่ 2




ก้องเกียรติและกิ่งแก้วมาส่งเจ้าคุณขึ้นรถโดยสาร ที่ท่ารถทัวร์ เจ้าคุณอยู่ในอาการงงๆ

“แกพาฉันมาที่นี่ทำไมวะไอ้ก้อง”
“แกต้องเริ่มตั้งแต่ออกเดินทางนะเพื่อน” ก้องเกียรติบอก
“ตั๋วรถทัวร์นะ” กิ่งแก้วยื่นตั๋วโดยสารให้
“บ้าแล้ว นี่พวกแกจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว รถทัวร์เป็นยังไงวะ ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยนั่งรถทัวร์มาก่อนเลยนะเว้ย” เจ้าคุณโวยใส่ทั้งคู่
“ก็เคยซะซิวะ ไอ้คุณหนู” เสียงคุ้นหูของแมทธิวดังขึ้น
ทั้งหมดหันขวับ แมทธิวเดินเก๊กมากับเจอาร์ โดยมีเอมี่ตามมาด้วย เจ้าคุณเมินหน้า เอมี่รีบวิ่งโผเข้ามาหาเจ้าคุณ
“คุณคะคุณ มี่โทร.ไปหา คุณหญิงแม่บอกว่าคุณออกมาแล้ว โห โชคดีนะเนี่ยที่มี่มาทัน ไม่งั้นล่ะ มี่คงเสียใจแย่ที่ไม่ได้มาส่งคุณคะคุณของมี่”
“ใช่ คงน่าเสียใจมาก ถ้าพลาดเห็นการนั่งรถทัวร์ครั้งแรกในชีวิตของเจ้าคุณเพื่อนรักของเรา ฮ่าๆ” แมทธิวเยาะ
“ไอ้แมท!” เจ้าคุณโมโห
“รึอยากจะเห็นมันกราบเท้าผมดีล่ะ เอมี่” แมทธิวว่า
เจ้าคุณชะงักกึก มองแมทธิวอย่างอดกลั้น ก่อนจะกระชากตั๋วรถทัวร์ในมือกิ่งแก้วมาถือไว้
“ไอ้ก้อง ไปเอากระเป๋าท้ายรถกัน” เจ้าคุณนึกถึงกระเป๋าที่มะขิ่น กับไมเคิลยัดเต็มท้าย
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วมองหน้ากัน อย่างไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนบอกก่อน เจ้าคุณมองก้องเกียรติและกิ่งแก้ว
“เฮ้ แม้น ฉันเอามาให้แล้ว” เจอาร์ยื่นเป้เน่าๆ ให้ใบหนึ่ง
เจ้าคุณมองเป้ในมือเจอาร์ แล้วหันมองหน้าก้องเกียรติอย่างมีคำถาม

“ไปอยู่บ้านนอกนะครับ ไม่ใช่ไปท่องเรือสำราญรอบโลก ถ้าไม่เอาตามนี้ก็กราบ”
แมทธิวกระชากเป้จากเจอาร์ขว้างพลั่กเข้าไปที่อกเจ้าคุณ พร้อมกับชี้ลงไปที่เท้าตัวเอง
“ไอ้แมท ให้แม่แกสอนกราบสวยๆ ไว้ตั้งแต่วันนี้เลย อีกเดือนนึง ฉันจะกลับมาให้แกกราบเท้าฉัน”
ว่าแล้วเจ้าคุณก้มลงคว้าเป้แล้วก้าวฉับๆ ออกไปทันที แต่เอมี่ยังเรียกเจ้าคุณเสียงหลง จนเจ้าคุณชะงัก
“ผิดทางค่ะ รถจอดทางนี้ค่ะ”
แมทธิว กับเจอาร์ขำก๊าก เจ้าคุณหน้าเจื่อน จ้องมาอย่างเคืองๆ ส่วนก้องเกียรติ และกิ่งแก้วมองหน้ากันจ๋อยๆ สงสารเจ้าคุณแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง

เจ้าคุณขึ้นรถทัวร์มาอย่างเงอะงะ เพราะไม่เคยขึ้น ไม่รู้ต้องทำอย่างไร โดนผู้โดยสารคนอื่นๆ ชนเบียดไปมา เจ้าคุณหน้าเบ้ เพราะเหม็นอับกับกลิ่นสารพัด กระเป่ารถที่หน้าตากวนโอ๊ย ดูจะไม่เข้าขากันเท่าไหร่นักเดินมา
“ไหนตั๋ว มั่วป่าวเนี่ย”
เจ้าคุณยื่นตั๋วให้ กระเป๋าชี้ไปที่นั่งหน้าส้วม
“ห๊า! พี่ๆ ผมขอเปลี่ยนที่ได้มั้ย ขอนั่งเฟิร์สคลาส เอ๊ย นั่งข้างหน้า เท่าไหร่ผมก็จ่าย”

เจ้าคุณต้อง ชะงักเมื่อตบกระเป๋าหลัง ซ้าย-ขวา หายังไงก็ไม่เจอกระเป๋าพอหันไปนอกรถจึงพบว่า แมทธิวที่ยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนชูกระเป๋าสตางค์ของเจ้าคุณยิ้มแฉ่งอยู่ เจ้าคุณยั๊ว กระเป๋ารถจึงไล่ไปนั่งหน้าส้วมตามเดิม เจ้าคุณพุ่งไปที่เก้าอี้หน้าส้วม
เจ้าคุณมองอย่างพินิจก่อนจะจำใจนั่งลงตรงนั้น ไม่นานก็มีผู้โดยสารชายอ้วนดำใส่เสื้อกล้าม หน้าอย่างโจร มานั่งข้างๆ เจ้าคุณหันไปมองเพื่อนๆ อีกที รถเริ่มเคลื่อนตัว หน้าเจ้าคุณแอบหวั่นเหมือนนกน้อยกำลังถูกปล่อยให้ออกจากรัง โดยที่ไม่อยากจะออก เจ้าคุณรีบหันขวับไปมองเพื่อน เหมือนจะเปลี่ยนใจอยากลงจากรถ แต่ แมทธิวยืนชี้เท้าตัวเองเหยงๆ อยู่ เจ้าคุณจึงต้องหันขวับกลับมา ทำใจฮึดสู้อีกที จนรถเคลื่อตัวออกไป
“แล้วเจอกัน..ไอ้แมท” เจ้าคุณคำรามในลำคอ
“สะใจจริงว้อย!” แมทธิวเอ่ยขึ้น
“เกินไปรึเปล่า ไอ้แมท” ก้องเกียรติต่อว่าทันที
“เกินตรงไหน นี่ไอ้ก้อง ถ้าไม่ได้ฉัน บริษัทแกก็ไม่มีวันได้เวลาจากสถานีนะเว้ย”
“ทวงบุญคุณกันเลยเหรอเนี่ย” กิ่งแก้วฉุน
“ไม่ได้ทวง แค่ทบทวนความจำให้แฟนเธอ แล้วก็เธอด้วย กิ๋ง”
“ขอบใจ สมองฉันไม่ได้เสื่อมเหมือนจิตใจแก แมท” ก้องเกียรติหลอกด่า
“อ้าว เฮ๊ยๆ”
“เออ ว่าแต่ เมื่อไหร่คุณคะคุณจะได้ออกทีวีล่ะคะ มี่ตื่นเต้นจัง มี่อยากดูแล้วน่ะ”
ก้องเกียรติได้ยินคำพูดเอมี่ จึงโทร.หากำโป๊ง เพื่อนสนิทพ่อที่บ้านม๊วนแต๊ทันที

สมใจอยู่ที่บ้าน กำลังคุยกันเรื่องออเดอร์ลูกค้าสั่งชาอยู่กับคำปุย
“เย้! ออเดอร์เพียบ ล็อตใหญ่ พรุ่งนี้เช้าเฮาจะมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯนะ ไอ้ปุ๋ย”
“ได้เลย”
สมใจชะงักเห็นแคบหมูเดินหน้าหักหน้างอเข้ามา
“เป็นอะไร ไอ้แคบ หน้างอเชียว”
“งอที่ไหนล่ะ หน้ามันหัก ฮ่าๆ” คำปุยเย้า
สมใจ กับคำปุย ขำกันกลิ้ง
“ลูกค้าขอลดออเดอร์ลงครึ่งนึง” คำปุยพูดเป็นงานเป็นการ
“ครึ่งนึง เอาน่ะ ครึ่งนึงก็ยังดี ดีกว่าไม่เอาเลย พรุ่งนี้เช้า เจอกันพรุ่งนี้ คอนเฟิร์ม” สมใจว่า
“เออ เฟิร์มก็เฟิร์ม แต่ฉันว่าหมู่นี้แกดวงกุดยังไงชอบกลนะนังใจ๋ อะไรๆ ดูมันจะสะดุดไปซะหมด
“เพ้อเจ้อ! สะดุดอะไรของแกนังปุ๋ย”
คำปุยพูดไม่ทันขาดคำ สมใจก็เดินสะดุดหน้าทิ่มโขกประตูดังโป๊ก!!
“โอ๊ย!”
“ต๋ายล่ะ คุณพระคุณเจ้า พุทโธ ธัมโม สังโฆ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่จริงๆ นะนังใจ๋”
สมใจอึ้ง หน้ามุ่ย เอามือคลำหน้าผากป้อยๆ หน้าผากแดงแป๊ด

บนรถทัวร์เวลานั้น ตะวันเริ่มตกดิน แดดทิ่มตาเจ้าคุณเต็มๆ เจ้าคุณเอื้อมมือจะจับผ้าม่านรูดปิด แต่ต้องผงะ เพราะสภาพผ้าม่านทั้งดูเหี่ยวดำ และสกปรก เจ้าคุณตัดใจไม่รูดม่าน แต่ม่านดันหลุดติดมือเจ้าคุณออกมาซะงั้น
เจ้าคุณเซ็ง เบือนหน้าไปจ๊ะเอ๋กับผู้โดยสารอ้วนดำที่นั่งข้างๆ ชายอ้วนดำมองยิ้มหวานส่งให้ เจ้าคุณไม่ยิ้มตอบ อ้วนดำขยับตัวลีบ อ้วนดำยิ้มให้อีกทีก่อนจะปรับเอนเก้าอี้นอน ยกแขนขึ้นพาดเหนือหัว เห็นขนเต่าเพียบ มาพร้อมกลิ่นเต่าโชยหึ่ง
เจ้าคุณชะงักกึกแทบสำลัก รีบเอาผ้าม่านอุดจมูก แต่ก็ฮัดเช้ยออกมาเพราะฝุ่นของผ้าม่าน อ้วนดำมองยิ้มๆ ขำๆ

รถทัวร์แล่นไปท่ามกลางแสงแดดยามเย็นย่ำ เจ้าคุณเคลิ้มๆ ตาจะปิดลงเพราะง่วงมาก ทันใดนั้นมีเสียงชักโครกดังสนั่น เจ้าคุณสะดุ้งเฮือกตกใจตื่นขึ้นทันที เจ้าคุณอยู่ในอาการงง มองไปรอบข้าง ด้วยสีหน้าท้อแท้
ผู้โดยสารคนหนึ่งเปิดประตูห้องน้ำเดินออกมา เอามือป้ายๆ เบาะที่นั่ง กลิ่นห้องน้ำโชยชวนชะงัก เจ้าคุณทำหน้าตาแบบอดกลั้นอย่างน่าสงสาร
“ไม่ไหวแล้วเว้ย ห๊า! อะไรวะเนี่ย มือถือก็ไม่มี เฮ๊ย! จะบ้าเหรอวะ ไม่ไหวแล้วนะเว้ย!” เจ้าคุณตะโกนขึ้นมาอย่างสุดจะทนไหว
ไฟบนรถทัวร์เปิดพรึ่บ ผู้โดยสารด้านหน้าต่างหันมาด่าเป็นเสียงเดียว
“ไม่ไหวก็ลงไปสิเว้ย ไอ้เบื๊อก”
เจ้าคุณอึ้ง เงียบกริบ

เช้าวันรุ่งขึ้น ภายในออฟฟิศกึ่งสตูดิโอที่กรุงเทพฯ ก้องเกียรติ และกิ่งแก้ว นั่งข้างกันอยู่ภายในห้องถ่ายทอดสด ก้องเกียรติหันไปสั่งทางทีมงาน
“เตรียมตัวออกอากาศ อีก 10 วินาที เริ่มนับถอยหลัง”
ระหว่างการนับถอยหลังนั้น ทีวีหลายเครื่องฉายภาพตามมุมต่างๆ ของหมู่บ้านม่วนแต๊ อุปกรณ์การถ่ายทอดสดเพียบ
ภาพไตเติ้ลรายการไฮโซบ้านเฮา สีสันฉูดฉาด ปรากฎขึ้นบนจอทีวี พิธีกรชาย หญิง ในชุดชาวเขายืนอยู่ในห้องส่ง สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

“สวัสดีครับท่านผู้ชม ผมขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการเรียลิตี้โชว์ ไฮโซบ้านเฮา กับแขกรับเชิญคนแรกของรายการ เจ้าคุณ คุณากร มหาศักดิ์ไพศาล ไฮโซหนุ่มหล่อพันล้านคนดัง เจ้าของฉายา ไฮโซซิ่งนรก”
พิธีกรหญิงรีบพูดเสริมต่อทันที
“วันนี้เขามากับบทบาทใหม่ ซึ่งเราต้องเอาใจช่วยกันว่าเขาจะสามารถใช้ชีวิตเป็นชาวชนบทได้สำเร็จลุล่วงภายในหนึ่งเดือน หรือไม่ในรายการใหม่เอี่ยมอ่องพร้อมกัน ไฮโซบ้านเฮา”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วยืนดูพิธีกรที่กำลังรายการสด ด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“ท่านผู้ชมสามารถเอสเอ็มเอสแสดงความคิดเห็นหรืออยากเห็นเจ้าคุณทำอะไรในรายการ ส่งมาได้ตามเบอร์ที่ปรากฏด้านล่างจอนี้นะคะ”
“และตอนนี้ขอเชิญท่านผู้ชมไปพบกับความสนุกสนานได้ในรายการไฮโซบ้านเฮากันเลยครับ”
ภาพในจอทีวี ตัดเข้ารถทัวร์ที่แล่นมาจอดที่ท่ารถ

เช้าวันเดียวกัน เจ้าคุณนอนพิงหน้าต่างหลับสนิทภายในรถทัวร์ ผู้โดยสารต่างลุกเดินออกไปจนหมด กระเป๋ารถเดินมาปลุกเจ้าคุณ เจ้าคุณหันไปมองด้านนอก แล้วก็ชะงักกับทัศนียภาพที่เห็น มีทั้งภูเขา ต้นไม้สีเขียว เจ้าคุณขยี้ตาให้ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไปที่ท่ารถทัวร์ เห็นบรรยากาศที่พ่อค้าแม่ค้าขายของ ผู้คนมากมาย แต่งตัวกันแบบชาวบ้านๆ เจ้าคุณเบ้หน้า
“นี่มันอะไรกันวะเนี่ย แล้วไหนคนที่ไอ้ก้องบอกว่าจะมารับ” เจ้าคุณยืนบ่นอยู่
“พี่ครับ” ใครคนหนึ่งเข้ามาทัก
“คนของคุณก้องใช่มั้ย”
“ใช่ครับ” ชายคนนั้นว่า
ทุกอิริยาบถของเจ้าคุณอยู่ในรายการทีวีของก้องเกียรติและกิ่งแก้ว คนดูทางบ้านจะได้เห็นเจ้าคุณในทุกขณะ ตัดสลับกับห้องคอนโทรล
ก้องเกียรติและกิ่งแก้วต้องตกใจเมื่อคนที่มารับเจ้าคุณ ไม่ใช่คนที่นัดหมายไว้
“เฮ้ย! ใครน่ะ”
“อ้าว! ไม่ใช่คนของตัวเองเหรอก้อง”
“ไม่ใช่”
“ห๊า”
“แย่แล้ว ไอ้คุณ!”

ที่ท่ารถทัวร์แห่งนั้น ชายที่อ้างตัวว่าเป็นคนของก้องเกียรติมารับเจ้าคุณที่รถ ซึ่งแท้จริงเป็นคนที่แมทธิวส่งมา
“รถอยู่ไหน” เจ้าคุณถาม
“นู่นครับ”
ชายคนนั้นชี้ไปที่รถเก่าปุโรทั่ง เจ้าคุณเห็นสภาพรถก็ตกใจ
“นั่นนะรถ”

“ขอแอร์หน่อยซิ” เจ้าคุณขอแอร์ทันทีที่ขึ้นรถ
“แรงสุดแล้วครับ”
ชายคนขับรถส่งผ้าเย็นยื่นให้ 2 ผืน เจ้าคุณไม่ทันตั้งตัว เลยโดนเอาผ้าปิดปาก เจ้าคุณตกใจตาเหลือก แต่ยาออกฤทธิ์เร็วมาก ทำให้เจ้าคุณหมดสติ

ที่ห้องคอนโทรลในสตูดิโอ ทีมทุกคนตกใจกับภาพที่เห็น คิดว่าก้องเกียรติมีเซอร์ไพร์สแต่ความจริงแล้วไม่ใช่แผนของก้องเกียรติ
“ไอ้คุณ!”
“นี่มันอะไรน่ะก้อง ทำไมเล่นแรงอย่างนี้” กิ่งแก้วต่อว่า
“ไม่ใช่เขา นี่ตัวเองคิดว่าเขาจะกล้าทำอย่างนี้กับไอ้คุณงั้นเหรอ”
“ถ้างั้น ฝีมือใคร” กิ่งแก้วถามคาดคั้น
“ว๊าย!”
ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว หันขวับ แทบช็อกเพราะเสียงเอมี่ ที่ชี้ไปที่มอนิเตอร์ในภาพเจ้าคุณโดนโปะยาสลบ
“ตายแล้ว! คุณคะคุณของมี่”

เจ้าคุณถูกจับแก้ผ้าโยนลงมาจากรถคนนั้นที่ริมถนน สองหน้าม้ายืนมองเจ้าคุณแล้วขำสะใจ เจ้าคุณยังนอนนิ่งไม่รู้สึกตัว แต่ไม่นานพวกมันก็ถอยรถกลับมาใหม่ เปิดประตู แล้วก็โยนกล่องกระดาษใส่ตัวเจ้าคุณ ก่อนจะขับรถออกไปอีกครั้ง
เจ้าคุณนอนนิ่งโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าโดนลอกคราบไปหมดแล้ว

ที่ห้องคอนโทรล แมทธิวขำกลิ้งอย่างสะใจ ก้องเกียรติรู้ทันที จึงปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อแล้วชกเปรี้ยง แมทธิวล้มคว่ำไปกองกับพื้น ทุกอย่างโกลาหล ทีมงานเข้ามาห้ามกันใหญ่ กิ่งแก้วเข้ามาต่อว่าแมทธิวด้วย
“ฝีมือแกแน่ๆ ไอ้แมท”
“ก็เออซิวะ”
“แกนี่มันทุเรศจริงๆ ไอ้แมท”
“พวกแกซิทุเรศ แทนที่แกสองคนจะขอบใจฉัน ที่อุตส่าห์ช่วยคิดให้รายการของแกมีรสชาติมากขึ้น แกดันมาชกหน้าฉันเนี่ยนะไอ้ก้อง!!” แมทธิวโวยวาย
“น้อยไป ฉันควรจะกระทืบแกซะด้วยซ้ำ ไอ้เพื่อนเฮงซวย แกทำอย่างนี้กับไอ้คุณได้ไงวะ”
“ทำไมจะทำไม่ได้ ฉันจะทำให้มากกว่านี้อีกเว๊ย แกอย่าลืมซิ ว่าไอ้คุณมันยอมไปอยู่ที่หมู่บ้านอะไรนั่นก็เพราะฝีมือฉัน นี่แกลืมผู้มีพระคุณของแกได้ไงไอ้ก้อง”
“แกนี่มันเลวจริงๆ” ก้องเกียรติด่าอย่างเหลืออด
“ยกเลิกเหอะก้อง เลิกรายการนี้ไปเลย” กิ่งแก้วบอก
“เอาซี้ ยกเลิกเลย ฉันไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว แต่ไอ้ที่เดือดร้อนก็คือแกสองคนต่างหาก นอกจากจะเสียหน้าและบริษัทพังแล้ว ยังต้องโดนสถานีฟ้องร้องเอาด้วย แหม ซวยจริงๆ” แมทธิวเยาะแกมหยัน

ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว อึ้งมองหน้ากัน แมทธิวยิ้มอย่างผู้ชนะ
“เฮ๊ย!!” เจอาร์โพล่งขึ้น พลางชี้ไปที่จอ ทุกคนหันขวับไปมอง กล้องแพนฟรึ่บไปที่จอเห็นเจ้าคุณในสภาพนอนหมดสติกับกล่องกระดาษ 1 ใบ

เจ้าคุณยังนอนหมดสติอยู่ที่เดิมริมถนน มีกล่องกระดาษปิดน้องชายเอาไว้ แสงแดดสาดเปรี้ยงเข้าหน้าเต็มๆ เจ้าคุณค่อยๆ ลืมตา หน้าเจ้าคุณแดงเถือกไปด้วยฝุ่นดินลูกรังสีแดงจากถนนจนจำแทบไม่ได้ เจ้าคุณค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งมองรอบๆ ตัวด้วยความงง กลืนน้ำลายด้วยความกระหายน้ำ ก่อนจะก้มลงมองตัวเองแล้วก็ตกใจ
เจ้าคุณค่อยๆ เปิดกล่องกระดาษ จ๊ะเอ๋กับน้องชายแล้วก็ตกใจกับสภาพตัวเอง มองไปที่ปลายเท้า รองเท้าก็ถูกถอดไปด้วย ความอดทนของเจ้าคุณถึงขีดสุดแล้ว
“ไม่ไหวแล้วเว๊ย!”

เวลาเดียวกัน รถของสมใจที่มีคำปุยนุ่งมาด้วยข้างๆ เกิดกระตุก
“ต๋ายละ นังใจ๋ จะไหวมั้ยเนี่ย”
“ต้องไหวซิ”
ขาดคำ รถกระตุกแรง แล้วเครื่องดับทันที
“นั่น! ปากไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์เลยนะแก”
“อะไรวะ เมื่อเช้าก็เช็คมาอย่างดี”
ทั้งสองปิดประตูลงมาเปิดกระโปรงรถ ควันตลบอบอวลใส่หน้า
“ซื้อใหม่เลยจะดีกว่ามั้ยยะ ว๊าย!”
ใบหน้าสมใจ โดนควันสีดำจนหน้าตาดำปิ๊ดปี๋แทบจำไม่ได้
“ไอ้ใจ๋ อีผีบ้า!”
“อะไรวะ”
สมใจยังไม่รู้ว่าตัวเองหน้ำดำปี๋เพราะเขม่าควันรถ

ผ่านเวลาไปสักพัก แสงแดดร้อนแรงมากขึ้นจนแทบเผาตัวเจ้าคุณ เจ้าคุณร้อนทั้งตัว ร้อนทั้งเท้า เหงื่อโทรมกาย หน้าตาเลอะฝุ่นแดงเถือก หนุ่มไฮโซกระโดดเหยงๆ
“โอ๊ย อุ๊ย บ้าเอ๊ย มันอะไรกันวะเนี่ย ทำไมซวยแบบนี้”

เจ้าคุณนึกถึงคำเตือนที่พราหมณ์บอกว่าปีนี้ตนอายุเบญจเพส จะเกิดเคราะห์กรรมหลายอย่างขึ้น
“ปีนี้...เบญเพส ดาวประจำตัวตกเลขมรณะ ต้องรีบไปทำบุญใหญ่ มิฉะนั้นชะตาจะขาด ดวงจะถึงฆาต!”
เจ้าคุณกลืนน้ำลายเอื๊อก ก่อนจะฮึดขึ้นมา แม้ว่าไม่อยากจะเชื่อในคำทำนายของพราหมณ์ก็ตาม แต่แล้วเจ้าคุณต้องหยุดกึกเมื่อ เห็นรถสมใจจอดอยู่ เจ้าคุณดีใจมาก ใช้แรงทั้งหมดที่มีรีบวิ่งขึ้นเขาไปหา สมใจกำลังซ่อมเครื่อง ยกมือปาดเหงื่อ หน้าทั้งดำทั้งมัน
“ถ้าแกยังไม่หาย ฉันจะเอาแกไปขายร้านเหล็ก” สมใจด่ารถคู่ชีพ
“ให้ฟรีเขาจะเอารึเปล่ายังไม่รู้เล้ย”
คำปุยยังคุยอยู่กับสมใจ ในขณะที่เจ้าคุณกำลังวิ่งมาหาอย่างกระชั้นชิด
“ช่วยด้วย คุณ คุณ”
สมใจได้ยินเสียง หันไปเห็นเจ้าคุณไกลๆ สมใจหรี่ตามองด้วยความสงสัย เห็นเจ้าคุณวิ่งตรงมา
“ตัวอะไรวะ”
เจ้าคุณวิ่งเข้ามาใกล้ สมใจอึ้งกับสภาพของเจ้าคุณ และด้วยความลืมตัว เจ้าคุณยกสองมือโบกให้สมใจ ทำให้กล่องร่วงลงพื้น สมใจแทบช็อก ส่วนคำปุยตกใจปิดตาแต่แหวกนิ้วดู
“เฮ้ย ปุ๋ย ขึ้นรถ!”
“ว๊าย! พุทโธ ธัมโม สังโฆ”
เจ้าคุณเห็นสมใจขึ้นรถก็ตกใจ ยังไม่รู้ตัวว่าโป๊ รีบยกกล่องขึ้นมาแล้ววิ่งไปหาอีก สมใจเห็นเจ้าคุณวิ่งมาก็รีบสตาร์ทรถ แต่เครื่องไม่ติด ใช้มุกทุบพวงมาลัยแต่ก็ยังไม่ได้ผล
“ติดซิ ติดซิเว๊ย โธ่”
สมใจหันไปคว้าปะแจยาวๆ แล้วเปิดประตูลงมา เจ้าคุณดีใจ รีบเข้าไปหา เจ้าคุณกับสมใจจำหน้ากันไม่ได้ เพราะสภาพไม่น่าดูทั้งคู่
“ช่วย ด้วย”
“ตายซะ! ไอ้โรคจิต!”
“ผมไม่ใช่ไอ้บ้ากาม” เจ้าคุณพยายามอธิบาย
“อ๊าย!...”
สมใจคิดว่าเจ้าคุณเป็นพวกโรคจิตชอบโชว์ออฟ จึงคว้าประแจเตรียมเล่นงาน เจ้าคุณนึกได้ ก้มมองตัวเอง ตกใจ รีบยกกล่องขึ้นบัง เงยหน้าจะอธิบาย
แต่ไม่ทันจะอ้าปากพูด ก็เจอสมใจต่อยเปรี้ยง! เจ้าคุณหน้าหงายเงิบ เลือดกำเดาไหล มึน ตาเหล่ เห็นดาววิบวับ แล้วก็สลบเหมือดลงไปกองกับพื้นตรงนั้น
“ไอ้ใจ๋!ขึ้นรถ ปิ๊กบ้านก่อนเร็ว”

คำปุย และสมใจไม่รอช้ารีบขึ้นรถ ที่ดันสตาร์ทติด ทั้งคู่ดีใจรีบออกรถไป ทิ้งให้เจ้าคุณนอนสลบอยู่ตรงนั้น

จบตอนที่ 2
บนถนนเส้นทางที่มุ่งหน้าไปหมู่บ้านม่วนแต๊ ในขณะนั้นสมใจขับรถไป ขยี้ตาไป และโวยไป โดยที่ใบหน้าของสมใจยังดำปี๋อยู่

“ซวย ซวยจริงๆ ซวยแต่เช้า แล้วไงเนี่ย ข้าวของไม่ได้เอาไปส่งลูกค้าเลย โอ๊ย อะไรมันจะซวยอย่างนี้
เพราะไอ้ผีเปรตนั่นแท้ๆ เลย”
“นอกจากไอ้ผีเปรตที่แกว่าแล้วอีแก่ของแกก็ด้วยแหละ ติดๆ ดับๆ อยู่อย่างนี้อีกกี่ปีจะถึงกรุงเทพฯ
ยะ กลับบ้านก่อน!เดี๋ยวดับอีก”
คำปุยบ่นไม่ทันขาดคำ รถกระตุกดับพรึ่บทันที
“นั่น”
“เฮ๊ย!”
“ฉันบอกแล้ว หมู่นี้ดวงแกมันสะดุดจริงๆ นังใจ๋ เฮ้อ จะเจออะไรซวยอีกวะเนี่ย”
คำปุยและสมใจกำลังปวดหัวกับความซวยและเรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ แม้ว่าจะดูไม่ค่อย
เชื่อนักสำหรับสมใจแต่ก็อดอ่อนใจไม่ได้

เวลาเดียวกัน กำโป๊งกับไส้อั่วกำลังก้มจ้องมองกล้องอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน และขณะนั้นกล้องกำลังจับภาพของเจ้าคุณที่สลบ ใบหน้ายังแดงแป๊ดด้วยฝุ่นถนนลูกรังอยู่
เจ้าคุณค่อยๆ ลืมตาตื่น เห็นหน้ากำโป๊งจากเบลอๆ จนชัดขึ้น ต่างคนต่างตกใจ เจ้าคุณชกเข้าที่ใบหน้ากำโป๊งอย่างจัง
“โอ๊ย ไอ้วอก ไอ้ผีบ้า” มาต่อยข้าทำไมวะ”
กำโป๊งด่าเจ้าคุณเป็นภาษาเหนือรัวยิก ส่วนเจ้าคุณก็คิดว่ากำโป๊งเป็นโจรเช่นกัน
“ไอ้โจร แกนี่เองที่ปล้นฉัน ฉันจะแจ้งตำรวจจับแก” เจ้าคุณสวนกลับ
“จับแกน่ะซิ ไอ้ผีเปรต ไอ้ชีเปลือย ไอ้อนาจาร”
เจ้าคุณโดนกำโป๊ง เบิ๊ดกะโหลกหนึ่งที เจ้าคุณชะงักนึกขึ้นมาได้ ก้มมองสารรูปตัวเองที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า กำโป๊งเขวี้ยงผ้าขาวม้าใส่หน้า เจ้าคุณรับไว้แล้วรีบเอามาปิดจุดอันตรายทันที
“ลุงเป็นใคร” เจ้าคุณตั้งสติถาม
“ข้าก็ชื่อ...” กำโป๊งชะงัก “บ๊ะ! ไอ้เบื๊อกนี่ ข้าอุตส่าห์ส่งไปรักษาตัวมาหลายปีแต่ก็ยังติงต๊องเหมือนเดิม”
กำโป๊งชะงักอีก หันมองไส้อั่วที่จ้องมองอยู่อย่างสาระแน กำโป๊งเลยเล่นละครใส่เจ้าคุณทันที
“ติงต๊อง” เจ้าคุณพึมพำ
ไส้อั่วหูกางอย่างอยากรู้เต็มทน
“ฮั่นแน่ะเห็นมั้ย ติงต๊องถึงขนาดว่าจำไม่ได้ว่าตัวเองติงต๊อง นี่หมอก้องเขารักษาเอ็งยังไงวะไม่ได้เรื่อง!”
กำโป๊งขยิบตาปริ๊บๆ ใส่เจ้าคุณเป็นการส่งซิก แต่เจ้าคุณก็ยังไม่รู้เรื่อง
“หมอก้อง” เจ้าคุณ
“โอ๊ย! กูล่ะเวียนหัว ไอ้อั่ว เอ็งจะไปไหนก็ไป ลุงหลานเขาจะคุยกัน ดั๊นมาเสนอหน้าอยู่ได้” กำโป๊งออกปากไล่
“นอกจากฉันแล้ว ลุงยังมีหลานอีกด้วยเหรอลุงกำโป๊ง นี่ไอ้อั่วมีพี่ชายตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
ไส้อั่วเกาหัวแกรกๆ
“จะบ้าเหรอ ชั้นไม่ใช่พี่แกแล้วชั้นก็...” เจ้าคุณปฏิเสธพัลวัน
“จ๊าก! ข้าบอกให้ออกไป ก็ออกไปซิวะไอ้ไส้อั่ว”
กำโป๊งคว้าอะไรแถวนั้นจะเขวี้ยงใส่ไส้อั่ว แต่ไส้อั่วรู้แกวพุ่งปรู๊ดออกไปได้ก่อน ทิ้งความสงสัยไว้ให้เจ้าคุณต่อไป

ทันทีที่สมหมายกับสมศรีรู้เรื่องที่สมใจเจอโรคจิตไม่ใส่เสื้อผ้าวิ่งเข้ามาจะให้ช่วยเหลือก็โวยวายเสียงดังลั่น
“ ไหน มันอยู่ไหน ไอ้โรคจิตที่ไหนมันบังอาจมาแหยมลูกสาวข้า ข้าจะเฉาะหน้ามันให้เละเลย เฮ๊ย! หน้าตามันเป็นยังไงวะ ไอ้ใจ๋”
ว่าแล้วสมหมายคว้าอาวุธจะออกไปจัดการไอ้โรคจิต ในขณะที่สมใจกำลังเอาทิชชู่เช็ดหน้าดำปิ๊ดปี๋ของตัวเองอยู่ แอบเซ็งพ่อ
“จำหน้าไม่ได้ แต่ฉันจำอย่างอื่นมันได้นะไอ้ใจ๋ อื้อหือ เห็นเต็มๆ 2 ลูกกะตา ปะล้ำป่ะเหลือบึ้กๆ” คำปุยว่า
“นังปุ๋ย!” สมใจหันไปดุ
“อะไรของเอ็งวะนังปุ๋ย ปะล้ำปะเหลือบึ้กๆ” สมศรีถามงงๆ
“อูย ก็ อุ๊บส์!”
“ทะลึ่ง!” สมใจตะปบปิดปากคำปุยไว้แน่น
ปลัดจืดที่ร่วมวงสนทนาอยู่ มองอาการสองคู่ซี้
“อย่างนี้มันไม่ได้นะปลัด แต่ไหนแต่ไรม่วนแต๊ของเราไม่เคยมีคนแปลกหน้าโผล่มาวุ่นวาย ปลัดจะปล่อยไว้ไม่ได้นะ ต้องจัดการ” สมหมายโวยวายต่อ
“ลุงหมายไม่ต้องห่วงนะครับผมไม่ปล่อยไว้แน่ ปลัดจืดอยู่ที่ไหน อุ่นใจที่นั่น”
ปลัดจืดพูดพลางหันไปทางสมใจ จนแคบหมูกระแอมแซว
“แค่กๆ”
“เป็นไรนังแค๊บ” สมใจหงุดหงิด
“แคบหมูติดคอเจ้า”
สมใจเขกหัวแคบหมูโป๊ก ปลัดจืดมองสมใจอย่างเอ็นดู

ส่วนที่แคร่ใต้ถุนบ้านกำโป๊ง เจ้าคุณและกำโป๊งกำลังคุยกันอย่างหาข้อสรุปไม่ได้”
“ผมเป็นหลานลุงกำโป๊ง” เจ้าคุณร้องลั่น
“ก็เออซิวะ บ๊ะ! จะแหกปากไปไหน เดี๋ยวใครมันมาได้ยิน”
“ทำไมล่ะครับ ทำไมผมต้องเป็นหลานลุงด้วย”
“ถ้าเอ็งไม่เป็นหลานข้า เอ็งก็จะอยู่ในม่วนแต๊ไม่ได้” กำโป๊งอธิบายเสียงจริงจัง
เจ้าคุณมองอย่างยังไม่เข้าใจ
ในขณะเดียวกันนั้น ไส้อั่วที่อยู่อีกมุมหนึ่งในพุ่มไม้ไกลๆ พยายามแหวกพุ่มไม้ตั้งใจฟังแต่ก็ไม่ได้ยิน
“ม่วนแต๊ ของเราเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ทุกคนอยู่กันอย่างสันโดษ พอเพียง ที่สำคัญ พวกเราอยู่กันไม่กี่
คน เพราะฉนั้น ถ้าจู่ๆ มีเอ็ง ซึ่งเป็นคนแปลกหน้าโผล่เข้ามา แล้วโดนชาวบ้านไล่ออกไปล่ะก้อ รายการไอ้ก้อง
บรรลัยแน่” กำโป๊งเผลอหลุดปากจนได้
“อะไรนะครับ รายการอะไร” เจ้าคุณสงสัย
“เฮ๊ย! รายการอะไร รายการที่ไหน ใครพูด ไอ้นี่หูฝาด ข้าบอกว่ามีหวังไอ้ก้องมันบรรลัยแน่ มัน
อุตส่าห์ฝากฝังให้เอ็งมาอยู่ที่นี่ ข้าก็ต้องดูแลเอ็งให้อยู่ให้ครบเดือนนึงใช่มั้ย”
กำโป๊งอธิบาย และเริ่มภารกิจโน้มน้าวเจ้าคุณเป็นฉากๆ
“นั่น ที่นี่ถ้าคนในม่วนแต๊เขาไม่ยอมรับเอ็ง เอ็งก็ไม่มีทางอยู่ได้ครบเดือนใช่มั้ย”
และปิดจ๊อบด้วยเหตุผลที่เจ้าคุณต้องปลอมเป็นหลานชายของตัวเอง
“นั่น! เพราะฉะนั้น เอ็งจึงต้องเป็นหลานข้า ที่พลัดพรากจากกันไปยี่สิบปี เพราะว่าเอ็งติงต๊อง เลยถูก
จับส่งไปรักษาตัวที่อื่น”
“เฮ๊ย! ไม่เอานะลุง” เจ้าคุณรับไม่ได้
“จะอยู่รึไม่อยู่”
“อ่ะๆ ก็ได้”
ไส้อั่วพยายามเงี่ยหูฟังแต่ไม่ได้ยิน
“เรื่องมากจริงไอ้นี่ เออ ว่าแต่เอ็งชื่ออะไรวะ ไอ้หนุ่ม”
“เจ้าคุณ!”
“เว๊ย เจ้าคุณ ไฮไซเกินเหตุ!! ไม่ได้ๆ มันต้อง ชื่ออะไรดีวะ ไอ้ขุน เอ็งต้องชื่อไอ้ขุน”
“ไอ้ขุน!” เจ้าคุณทวนชื่อใหม่ตัวเอง
“ใช่ ไอ้ขุนทองหลานข้า” กำโป๊งเสริม
“ไอ้ขุนทอง”
เจ้าคุณทวนชื่อใหม่ด้วยน้ำเสียงที่ดูจะไม่ชอบชื่อนี้นัก แต่ต้องจำยอมในที่สุด

เวลาเดียวกัน แมทธิวกับเอมี่กำลังฮาก๊าก ชี้ไปทีวี ทั้งคู่นั่งดูรายการเรียลลิตีที่เจ้าคุณกำลังออกอากาศ อยู่ด้วยกันในคอนโดแมทธิวที่กรุงเทพฯ
“ฮ่าๆ ไอ้ขุนทอง ไอ้ขุนทอง..ฮ่าๆ”
“อี๊ ขุนทอง หมดกัน คุณคะคุณของมี่”
“ไหนล่ะเอมี่ ไหนคุณเคยบอกว่าไอ้คุณมันเหนือผมทุกอย่าง แล้วตอนนี้เป็นไง แมทธิว กับ ไอ้
ขุนทอง ฮ่าๆ มันช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ฮ่าๆ”
“อืมม์”
เอมี่หน้าตาเหมือนชักจะเห็นด้วย ก่อนที่เหลือบตาดูทีวี เห็นภาพโคลสอัพใบหน้าเจ้าคุณแดงในสภาพเถือกแล้วเอมี่ทำหน้าตาแหยๆ ก่อนจะหันมาจ้องแมทธิว
“จริงด้วย ตอนนี้แมทดูหล่อกว่าคุณคะคุณขาเยอะเลยน่ะ”
“ตอนนี้ นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นนะจ๊ะ ต่อไป ไอ้คุณ เอ๊ย! ไอ้ขุนทองมันจะต้องทุเรศนรกขนาดไหน ขอให้ติดตามตอนต่อไป”

สองคนหันกลับไปดูทีวีต่อ เห็นเป็นหน้าเจ้าคุณในจอ แมทธิวหน้าเหี้ยมคิดแผนร้ายในใจ

ทางด้านเจ้าคุณยังอยู่ที่ใต้ถุนบ้านกับกำโป๊ง และกำลังมองสำรวจไปรอบๆ ตัว เพราะง่วงนอนจากความเหนื่อยล้า

“แล้วไหนห้องนอนผมล่ะลุง?
“ห้องนอน ตามมา”
เจ้าคุณลุกฟรึ่บ ผ้าขาวม้าหล่นลงมากองแทบเท้าทันที กำโป๊งเห็นแล้ว ตาลุกตกใจ ไส้อั่วที่แอบดูอยู่ตาลุกวาวร้องอู้หู กำโป๊งรีบคว้าผ้าขาวม้าขึ้นมาโอบตัวเจ้าคุณ แล้วสอนวิธีผูกผ้าขาวม้าให้
“เวรกรรมอะไรของข้าวะเนี่ย เฮ้อ เสื้อผ้าก็ไม่มีมาซักตัวเลยเหรอะวะ” กำโป๊งบ่นพึมพำ
“ไอ้ก้อง ให้ฉันมาตกนรกชัดๆ ไอ้เพื่อนเฮงซวย”
เจ้าคุณบ่นอย่างเคืองๆ ก้องเกียรติเพื่อนสนิทที่ทำให้ต้องมาตกระกำลำบากกว่าที่คิดไว้มาก
ซึ่งทั้งก้องเกียรติและกิ่งแก้ว เห็นอาการทั้งหมดของเจ้าคุณผ่านห้องคอนโทรล แต่ก็ทำได้แค่มองหน้ากันไปมาอย่างสุดวิสัย

กำโป๊งเปิดประตูห้องหนึ่งออก ห้องที่กำลังจะกลายเป็นห้องนอนเจ้าคุณที่บ้านม่วนแต๊ กำโป๊งเดินนำเจ้าคุณเข้ามาในห้อง เจ้าคุณตกตะลึงร้องลั่น
“ลุง!”
“อะไร ตกใจหมด”
“ไหนครับ ห้องนอน”
“จะไหน ก็เนี่ยล่ะเว้ย ห้องนอน”
“เนี่ยนะ ห้องนอน”
เจ้าคุณกวาดตามองไปรอบๆ เห็นสภาพห้องที่ทั้งคับแคบ และทรุดโทรม ทั้งห้องมีเฟอร์นิเจอร์เป็นตู้เสื้อผ้าเก่าๆ อยู่ใบเดียว
“ก็เออซิวะ”
“จะนอนยังไงเนี่ยลุง”
“บ๊ะ!! ทำไมมันง่าวงี้วะ นี่ไง นอนอย่างนี้ไง นอนเป็นมั้ย คร่อกๆ”
กำโป๊งเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบหมอนเก่าๆ ออกมาใบหนึ่ง โยนแหมะลงกลางห้อง แล้วล้มตัวลงนอนให้ดู ทำเสียงกรนให้ดูด้วย
“ไม่ใช่อย่างนั้นลุง คือ เตียงนอน แอร์ ทีวี ดีวีดี บลูเรย์ คอมพ์ฯ ตู้เย็น”
เจ้าคุณพูดไม่ทันจบ กำโป๊งเอาหมอนขว้างใส่เต็มหน้าทันที
“ถุ้ย! ไอ้หนุ่มเมืองกรุง ไอ้ไฮโซโอเว่อร์ มันชักจะมากไปแล้วเว๊ย ที่เอ็งพร่ำมาทั้งหมดน่ะ ไม่มี ถ้า
อยากจะมีก็เชิญกลับไปมีที่กรุงเทพฯ บ้านเอ็งโน่น ไม่ต้องมาอยู่กับข้า กระแดะ!”
เจ้าคุณโดนด่าเป็นชุดจนอึ้งไป

คู่รักเพื่อนเลิฟของเจ้าคุณอยู่ที่หน้าห้องคอนโทรล ก้องเกียรติทรุดตัวลงกับเก้าอี้ กิ่งแก้วทรุดตามลงไป ด้วยความสงสารเจ้าคุณ
ระหว่างนั้นทีมงานโผล่เข้ามา ก้องเกียรติถามเรื่องเรตติ้งของรายการเรียลิตีไฮโซบ้านเฮา
“ไง ยอดเอสเอ็มเอสเป็นไง?”
“เพียบเลยพี่”
“จริงเหรอ”กิ่งแก้วถามย้ำอย่างดีใจ
“ครับ พวกเราโทร.กันเองทั้งนั้น” ทีมงานว่า
“อ้าว”
“เอ่อ น้องๆ มันฝากถามว่าค่าโทรศัพท์เบิกกับใครน่ะพี่”
“เบิกที่บัญชี”
พูดจบก้องเกียรติกุมขมับ ทันใดนั้นมือถือดัง ก้องเกียรติหยิบมาดู ลุงกำโป๊งโทรมาจากในห้องลับเป็นห้องแคบๆ มีอุปกรณ์เทคนิคเพียบ โทรศัพท์ที่ใช้อยู่เป็นแบบรุ่นปิ่นโต
“เออ ข้าเองไอ้ก้อง ข้าชักจะไม่ไหวแล้วนะเว้ย ไอ้โฮโซของเอ็งน่ะ กระแดะชิปเป๋ง เอ็งมาเอาของเอ็งคืนไปเหอะ ข้ารำคาญ!” กำโป๊งพูดขึ้นอย่างเหลืออด
“โธ่ ลุง ใจเย็นๆ นะครับ ก็คนมันไม่เคยน่ะ ให้โอกาสมันหน่อย ถือว่าให้โอกาสผมด้วยนะ ผมลูก
เพื่อนรักลุงเชียวนะ ถ้าลุงไม่ช่วยผม รายการผมพังแน่เลย”
กำโป๊งค้อนขวับๆ ก่อนจะกดน้ำชาร้อนๆ จากกาน้ำร้อนประดิษฐ์เองแล้วซดโฮกแก้เครียด กิ่งแก้วคว้าโทรศัพท์มาคุยเองเพื่อช่วยก้องเกียรติ
“ลุงคะ ตะกี๊ลุงอยู่ในทีวี ล้อ หล่อ”
“จริงอ่ะ!” กำโป๊งหน้าบาน
“จริงค่ะ แหม หล่อยังกะโดมปกรณ์ ลัม แน่ะ”
“ห๊า! จริงเหรอวะอีหนู”
“จริงซิคะ ลุงรีบกลับไปเข้ากล้องนะคะ เดี๋ยวคนดูคิดถึงแย่”
“เอาล่ะๆ จะรีบไป แค่นี้นะ”
ได้ผลชะงัดนัก กำโป๊งวางหูทันที ก้องเกียรติ กับกิ่งแก้ว ยิ้มให้กัน ส่วนกำโป๊งกำลังจะเดินออกจากห้องลับปิดประตู หันมาจ๊ะเอ๋กับเจ้าคุณเต็มๆ
“เย้ย! มายืนหน้าแดงเถือกตรงนี้ทำไมวะไอ้ขุน”
“ห้องอะไรน่ะลุง”
“อย่ายุ่ง แล้วข้าขอเตือนว่าอย่ามายุ่งกับห้องนี้เด็ดขาด ไม่งั้นข้าจะไล่เอ็งกลับกรุงเทพฯ ตกลงว่ามาทำ
อะไรตรงนี้”
“ห้องน้ำรึเปล่า ผมอยากอาบน้ำ”
“อาบน้ำ”
กำโป๊งยิ้มทันทีที่ได้ยินเจ้าคุณบอกอยากอาบน้ำ
สักพักใหญ่เจ้าคุณถือไฟฉายมาตามทางมืดๆ ทางเดินเต็มไปด้วยดินแฉะๆ เจ้าคุณเดินโหย่งๆ เพราะเท้าโดนดินเปียก เหนียวหนืด เจ้าคุณเหยียบโคลนติดเท้าเป็นก้อน เลยพยายามจะเช็ดดินออกจากเท้า แต่ทำไปทำมาอย่างทุลักทุเล แล้วจังหวะหนึ่งก็ล้มหน้าทิ่มลงไปในโคลนเต็มๆ เจ้าคุณเงยหน้ามาหน้าดำปี๋ เต็มไปด้วยโคลนแถมมีไส้เดือนเต้นดุ๊บๆ เจ้าคุณจับออกดู ร้องจ๊ากลั่น
จะบ้าเหรอวะอาบน้ำทั้งทีต้องเดินเป็นกิโล ไอ้ก้องนะไอ้ก้อง แกจะหาที่ดีๆ ให้ชั้นไปอยู่หน่อยไม่ได้รึไง เว้ย ไอ้แมท แกจะต้องกราบเท้าฉันไอ้แมท”

อีกฟากหนึ่งที่บ้านสมใจ เวลานั้นสมใจใส่ผ้าถุงกระโจมอก มีผ้าขนหนูคล้องไหล่ เปิดฝาตุ่มน้ำแล้วปรากฏว่าน้ำไม่มี นึกโมดหหันไปท้าวสะเอวอ้าปากจะด่าแคบหมู แต่ดูเหมือนคู่กรณีจะรู้ตัวเสียก่อน
“อภัยให้แค๊บด้วยเต๊อะ แค๊บลืมตักน้ำ แฮ่ๆ”
“ลืมทั้งปีนังแค๊บ! นี่ฉันต้องไปอาบที่บึงอีกแล้วซิเนี่ย?
“จ้ะ”.
สมใจเหล่มองแคบหมู ถอนใจเฮือกใหญ่อย่างระอา

ที่บริเวณบึงของหมู่บ้าน เจ้าคุณค่อยๆเอาเท้าแหย่ลงในน้ำแล้วชะงักดึงเท้ากลับ แต่ก็ตัดสินใจลงน้ำ เพราะคันไปทั้งตัว
“โอย ยังกะน้ำแข็ง เอาวะ”
เจ้าคุณค่อยๆ จุ่มตัวลงในน้ำ สักพักต้องชะงักเพราะได้ยินเสียงเหมือนคนเล่นน้ำอยู่อีกด้านหนึ่ง เจ้าคุณสงสัยค่อยๆ เดินแหวกน้ำไปตามเสียง ทันใดนั้นสมใจโผล่พรวดขึ้นจากน้ำโดยมีผมยาวลู่ปิดหน้าตายังกะผีจูออนในหนังเกาหลี เจ้าคุณตกใจสุดขีด
“ผีหลอก!”
สมใจก็ตกใจ ลืมตามองเห็นเจ้าคุณหน้าดำปิ๊ดปี๋เพราะเปื้อนโคลน
“ว๊าย!”
เจ้าคุณกับสมใจรีบจ้ำพรวดๆ ขึ้นจากบึง แต่พอขึ้นมาได้ก็ดันวิ่งหนีมาชนกันโครม สมใจล้มหงายลงไปโดยมีเจ้าคุณคร่อมเต็มตัว
“ว๊าย! ไอ้ผีเปรต”
พูดจบสมใจก็ชกเปรี้ยง เข้าไปที่หน้าเจ้าคุณหงายเงิบ สมใจถีบอีกเปรี้ยงจนเจ้าคุณก้นจ้ำเบ้าหงายหลังลงไปกับพื้น สมใจรีบวิ่งหนีไป ปากก็ร้องเรียกให้คนช่วยไปด้วย เจ้าคุณนั่งมึนกุมปาก กุมจมูกอยู่ตรงนั้น
“อะไรวะเนี่ย อูย! นังผีบ้า”

ชาวบ้านและคนดูต่างชอบอกชอบใจ ในขณะที่นั่งดูเรียลิตีของเจ้าคุณ เด็กผู้ชายผู้เด็กหญิงนั่งดูชี้เจ้าคุณในทีวีขำกันกลิ้ง แม่ถือจานกับข้าวมาเต็ม 2 มือ ปากก็บ่น
“เอ้า ขำอะไรกันนักหนาไอ้ 2 คนนี่ มัวแต่ดูทีวี ข้าวปลาไม่กิน”
เด็กๆ ยังขำกันกลิ้ง ไม่สนใจแม่ แม่ยิ่งเคือง แม่มองทีวี เห็นเจ้าคุณตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากการที่ก้นจ้ำเบ้าดูน่าขำ แม่ชักจะขำมั่ง วางจานข้าวแล้วปรี่ไปนั่งดูกับลูกเฉยเลย
“นั่นมันใครน่ะ”
“ไอ้ขุนทอง”
ทั้งหมดก็ตั้งหน้าตั้งตาดูทีวีต่อไป ขุนทองในเรียลิตี้กลายเป็นดาวตลกของคนดูทางทีวีไปแล้ว

เจ้าคุณอยู่ในสภาพหน้าดำ มีรอยเลือดกำเดาไหล โผล่มาที่บ้านจนกำโป๊งตกใจ ส่วนที่บ้านสมใจ กำลังถูกพ่อกับแม่ซักไซร้เรื่องผีเปรตที่เพิ่งไปเจอมา
“ไอ้ผีเปรต” สมศรีอุทาน
“ใช่จ้ะ ไอ้ผีเปรต” สมใจย้ำชัด
“ไป ไอ้ใจ๋ มันอยู่ไหนไอ้ผีเปรต พาข้าไปที หลอกใครไม่หลอก บังอาจมาหลอกลูกสาวไอ้สมหมาย
ข้าจะยิงมันให้ไส้แตกเลย”
“เดี๋ยวก่อนพี่หมาย จะไปยิงผีเนี่ยนะ นี่ไอ้ใจ๋ ตกลงมันยังไงหะ เมื่อกลางวันเพิ่งเจอไอ้โรคจิต ตกกลาง
คืนมาเจอไอ้ผีเปรตอีกแล้ว
“เออ จริงด้วย” สมหมายเห็นด้วย
“ฉันบอกแล้วเห็นมั้ย หมู่นี้ดวงแกมันซวยๆ ยังไงพิกล ไอ้ใจ๋” คำปุยย้ำอีกรอบ
“ไปหาอุ๊ยคำให้ช่วยสะเดาะเคราะห์ซะหน่อยมั้ยลูก” สมศรีแนะนำลูกสาว
“ จะไปหาอุ๊ยคำทำไม อย่างนี้มันต้องปรึกษาพ่อปลัดจืด” สมหมายบอก
“ปลัดจืดจับผีเป็นด้วยเหรอห๊า” สมศรีตวาด
“แต่ เดี๋ยวนะแม่ ใจ๋ว่า ไอ้โรคจิตกับไอ้ผีเปรตเนี่ยมันดูมีอะไรคล้ายๆ กันนะ เพียงแต่ไอ้โรคจิตมันหน้าแด๊งแดง แต่ไอ้ผีเปรตมันหน้าดำปิ๊ดปี๋เลย” สมใจตั้งข้อสังเกต
“ผีดำผีแดง!” แคบหมูโพล่งออกมา จนสมศรีต้องปาของใส่
“จะบ้าเหรอนังแค๊บ มีที่ไหนผีดำผีแดง เขามีแต่กบดำกบแดงเว้ย” คำปุยว่า
“ฮั่นแน่” แคบหมูยิ้มแซวคำปุย
“อ่ะ ไงนะ ไอ้ใจ๋ ไงต่อ”
“ใจ๋ว่า หมู่บ้านเราชักจะไม่ปลอดภัยซะแล้ว”

กำโป๊งจุดตะเกียง ห้องนอนเจ้าคุณสว่างจ้า
“อะไรนะลุง ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า” เจ้าคุณตะโกนขึ้นอย่างงงๆ อีก
“เออซิวะ เอ็งจะตะโกนหาพระแสงเงี้ยวอะไรของเอ็งวะ?
“ไม่มีไฟฟ้า ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ไม่จริงอ่ะลุง ไม่มีไฟฟ้าแล้วจะอยู่กันได้ยังไง ผมไม่เชื่อ” เจ้าคุณโวยวาย
“ก็เชื่อซะ คนที่นี่เขาอยู่ได้ อยู่กันมาหลายชั่วคนแล้ว และที่สำคัญ เอ็งก็ต้องอยู่ให้ได้ด้วย ไอ้ขุนทอง”
“ไม่เอาแล้ว! ผมไม่อยู่แล้ว”
“ก็ตามใจ อยากกลับไปกราบตีนเพื่อนเอ็งก็ตามใจ” กำโป๊งพูดแทงใจดำ
เจ้าคุณอึ้ง กำโป๊งจะเดินออกไป
“เดี๋ยวลุง”
กำโป๊งชะงัก หันมามองแทนคำถาม
“ผมหิว”
“จัดให้”
ไม่นานหลังจากนั้นกำโป๊งเดินอมยิ้มเข้ามา ส่งกระติ๊บข้าวเหนียวเก่าๆ น้ำพริกหนุ่มในถ้วยเล็กๆ เก่าๆ แห้งกรัง มีไข่ต้มครึ่งลูกวางอยู่ในถ้วยนั้นด้วย ยื่นให้เจ้าคุณที่แคร่หน้าบ้าน
“กินซะ”
“เนี่ยนะ แค่เนี้ยนะลุง”
“ก็เออซิวะ แล้วแค่นี้ที่ไหน ไอ้แค่นี้ของเอ็งข้าเก็บไว้กินได้ 2 วันเชียวนะเว้ย จะกินไม่กิน”
ไส้อั่วมองๆ ในขณะที่เจ้าคุณกลืนน้ำลายเอื๊อกๆ
“เอ่อ..มีอย่างอื่นอีกมั้ย?”
“มี”
กำโป๊งลุกไปเด็ดยอดผักแถวนั้น 2-3 ยอดมาวางแหมะตรงหน้า
“ผักสดๆ วิตามินเพียบ”
“ผมไม่กินผัก”
“ไม่กินผัก”
“ใช่ ผมกินผักไม่เป็น”
“เวร แม่เอ็งเลี้ยงเอ็งมายังไงวะไม่ให้กินผัก มิน่า ลูกถึงติงต๊อง เฮ้อ”
จู่ๆ เจ้าคุณก็นึกถึงแม่ขึ้นมาตาละห้อยทีเดียว

ไม่ต่างไปจากคุณหญิงรจนาวรรณ ที่กำลังนั่งสะอื้นคิดถึงเจ้าคุณ โดยมีมะขิ่นคอยดูแลอย่างห่วงใย
และคอยยื่นทิชชู่ให้
“ฮือๆ เจ้าคุณลูกแม่ ป่านนี้จะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้”
“อย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ คิดซะว่าคุณหนูไปดีแล้ว”
“นังบ้า! ลูกชายฉันยังไม่ตายนะยะ”
“แฮ่ๆ มะขิ่นหมายความว่า คุณหนูไปปฏิบัติธรรม ก็แบบว่าไปทำดี ได้บุญนะเจ้าคะ”
“ไม่ไหวแล้ว ฉันทนคิดถึงลูกคุณไม่ไหวแล้ว มะขิ่น มือถือฉันอยู่ไหน”
“นี่เจ้าค่ะ” มะขิ่นยื่นให้อย่างรู้ใจ รจนาวรรณกดโทร.ออกทันที
“ฮัลโหล หนูก้อง นี่คุณหญิงแม่นะจ๊ะ”
ก้องเกียรติอยู่ในห้องคอนโทรลสะดุ้งโหยง มองหน้ากิ่งแก้วเลิ่กลั่ก
“คุณหญิงแม่ ครับ สวัสดีครับคุณหญิงแม่”
“หนูก้อง แม่คิดถึงลูกคุณใจจะขาดแล้ว แม่ขอที่อยู่ลูกคุณหน่อยเถอะ แม่จะบินไปหาลูกคุณที่อังกฤษ”
“คุณหญิงแม่จะไปหาเจ้าคุณที่อังกฤษ!”
ก้องเกียรติและกิ่งแก้ว มองหน้ากันช็อกๆ

เวลาเดียวกันนั้นเจ้าคุณควักข้าวเหนียวในกระติ๊บเต็มกำมือ ลุงกำโป๊งตีมือเพี๊ยะ เจ้าคุณร้องลั่น
“โอ๊ย”
“จะบ้าเหรอ ใครเขากินอย่างนั้น”
“ก็ลุงบอกไม่มีช้อนส้อม”
“มีเว้ย แต่ไม่จำเป็น ใช้แล้วก็ต้องล้างเปลืองน้ำเปลืองท่าเปล่าๆ ทรัพยากรธรรมชาติเราต้องรู้จักใช้
อย่างประหยัด คุ้มค่า มา กินอย่างนี้”
กำโป๊งสาธิตการปั้นข้าวเหนียว จิ้มน้ำพริกหนุ่มใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ
“ลำแต๊ๆ เอาซิ เอ๊า กินซิวะ”
กำโป๊งดุๆ ให้เจ้าคุณทำตาม เจ้าคุณปั้นข้าวเหนียวตามอย่างเงอะงะ ข้าวเหนียวติดมือ ไส้อั่วขำๆ
เจ้าคุณส่งข้าวเหนียวเข้าปาก หน้าแหยๆ เคี้ยวไปเคี้ยวมา แล้วก็ตาโต ร้องลั่น เพราะน้ำพริกเผ็ดจี๋
“จ๊าก! เผ็ดๆ”
เจ้าคุณพ่นข้าวเหนียวออกมา ไส้อั่วขำก๊าก
“เอ้า! ไอ้เวร น้ำพริก ไม่เผ็ดแล้วจะให้หวานรึไงวะ”
“น้ำๆ”
“อ่ะ น้ำ”
ไส้อั่วส่งขันน้ำเก่าให้ เจ้าคุณมองแล้วรับมาทำหน้าอี๋อย่างรังเกียจ ก่อนจะเอามือวักน้ำล้างๆถูๆปาก กำโป๊งตบหัวเจ้าคุณดังป้าบจนหัวทิ่ม
“บ๊ะ ไอ้นี่ น้ำฝนมีไว้กินเว๊ย ไม่ใช่เอามาล้างหน้า”
“กิน กินน้ำฝน ในนี้อ่ะนะ” เจ้าคุณอึ้งอีก
“กินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน”
กำโป๊งกระชากขันกลับมากินเอง เจ้าคุณตาละห้อย อ้าปากเป่าๆ ปากเพราะยังเผ็ดอยู่
“กินนี่มั้ยพี่ แก้เผ็ด”
เจ้าคุณมองๆ ถ้วยใส่อั่วส่งให้
“อร่อย..มันๆ ลองดิ”
“ขอบใจ อืมม์ อะไรอ่ะ อร่อยดี” เจ้าคุณหยิบใส่ปากเคี้ยวหมับๆ
“แมงกุ๊ดจี่” ไส้อั่วบอก
“แมงกุ๊ดจี่” เจ้าคุณไม่เคยได้ยิน
“แมงกุ๊ดจี่ ที่มันอยู่ในกองขี้วัวขี้ควายน่ะ” กำโป๊งอธิบายจนเห็นภาพ
เจ้าคุณพ่นพรวด ร้องโวยวายแล้ววิ่งไปอ้วก ลุงกำโป๊ง ไส้อั่วขำกลิ้ง เจ้าคุณก้มๆ เงยๆ อาเจียน น้ำตา
เอ่อๆ หน้าตาสุดทน และคิดถึงแม่ขึ้นมาทันที

เวลาเดียวกัน ก๊วนเพื่อนทั้ง ก้องเกียรติ กิ่งแก้ว เอมี่ แมทธิว และเจอาร์ มารวมกันพร้อมหน้าที่คฤหาสน์รจนาวรรณ เพื่อหาวิธีไม่ให้รจนาวรรณไปเยี่ยมเจ้าคุณ

“ว่าไงนะ แม่ต้องไปปฎิบัติธรรม”
“ใช่ค่ะ คือ มันเป็นหนึ่งขั้นตอนของคอร์สปลีกวิเวกที่เจ้าคุณไปปฎิบัติน่ะค่ะ บุญกุศลของคุณแม่กับ
คุณลูกจะช่วยเกื้อหนุนกันน่ะค่ะ” กิ่งแก้วอธิบาย
“ได้ พรุ่งนี้แม่จะบินไปอังกฤษเลย”
“เอ๊ย! ไปไม่ได้ เอ๊ย! ไม่ใช่ครับ คือ คุณหญิงแม่ต้องปฎิบัติธรรมที่เมืองไทยครับ” ก้องเกียรติหว่านล้อม
“ใช่ค่ะ ยิ่งวัดต่างจังหวัดก็ยิ่งดี”
“มันจะดียังไงหนูกิ๋ง แล้วทำไมแม่ถึงจะไปปฎิบัติธรรมกับเจ้าคุณไม่ได้”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างเครียดๆ
“คืองี้ครับคุณหญิงแม่ ขืนคุณหญิงแม่ไปปฎิบัติธรรมร่วมกับเจ้าคุณ เจ้าคุณมันอาจจะสมาธิว่อกแว่ก แล้วคอร์สปลีกวิเวกของมันก็จะไม่สำเร็จ
“จริงค่ะๆ แล้วทั้งคุณหญิงแม่กับคุณคะคุณขาก็จะบาปกรรมตกนรกหมกไหม้นะคะ” เอมี่สรุปสั้นๆ ให้ฟังแต่แรงส์
รจนาวรรณสะดุ้ง ทุกคนมองหน้ากันอึ้งๆ แต่ดูท่ารจนาวรรณจะเชื่อเอมี่เสียด้วย
“ตายจริง ไม่เอาค่ะไม่เอา แม่ไม่อยากตกนรกหมกไหม้ งั้นไปจ้ะ แม่จะไปปฎิบัติธรรม”
ทุกคนลืมตัวดีใจ กระโดดตีมือกันลั่น
“ว่าแต่ ใครจะไปเป็นเพื่อนแม่จ๊ะ ลูกมี่ใช่มั้ย”
“ไม่นะ!” เอมี่เหวอทันที

อีกมุมของคฤหาสน์ แมทธิว เอมี่ กิ่งแก้ว ก้องเกียรติ ยังคงตกลงเรื่องไปปฏิบัติธรรมกับรจนาวรรณไม่ลงตัว
“ไม่ได้ เอมี่ต้องไป” แมทธิวสั่ง
“ทำไม ทำไมจะต้องเป็นมี่”
“ก็ว่าที่ลูกสะใภ้ ไงจ๊ะเธอไม่ไปแล้วใครจะไป หรือจะให้ไอ้เจอาร์”
“ว๊าย! เขาไม่อยากเป็นลูกสะใภ้คุณหญิงนะยะ” เจอาร์สาวแตกใส่ทันที
“คุณต้องไปนะเอมี่ ถ้าไม่รีบกันคุณหญิงแม่ออกไปไกลๆ ล่ะก้อ แผนผมแตกแน่” แมทธิวว่า
“แผน แผนอะไรของแก ไอ้แมท” ก้องเกียรติคาดคั้นทันที
“เอ่อ... แผนของเรา คือ ฉันหมายถึงแผนของแกที่หลอกให้ไอ้คุณไปอยู่บ้านนอกเพื่อทำรายการทีวีไง”
“ฉันไม่ได้หลอก แกต่างหากที่พนันกับไอ้คุณ” ก้องเกียรติแย้ง
“แต่แกก็ได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ ไม่ใช่เหรอไอ้ก้อง แกได้ทำรายการนี้ ก็เพราะฉันนะเว้ย”
“ทวงบุญคุณอยู่นั่นแหละ” กิ่งแก้วโวยแมทธิว
ในระหว่างนั้นรจนาวรรณโผล่มาพร้อมมะขิ่นพอดี ทุกคนสะดุ้ง สงบปากและเก็บอาการกันสุดฤทธิ์
“ทำไมหลบมาอยู่ตรงนี้กันหมดล่ะลูก”
“เอ่อ มาสูดอากาศธรรมชาติน่ะครับ คฤหาสน์คุณหญิงแม่อากาศเฟรช มากครับ” เจอาร์เจ๋อตอบก่อนใครๆ
“อ๋อ จ้ะๆ ตกลงว่าไงจ๊ะ จะไปปฎิบัติธรรมกับแม่มั้ยจ๊ะลูกมี่”
เอมี่อ้าปาก แต่ไม่ทันแมทธิว
“ไปครับ เอมี่ยินดีไปปฏิบัติธรรมกับคุณหญิงแม่ครับ”
เอมี่อ้าปากค้าง รจนาวรรณโผเข้ากอดเอมี่อย่างซาบซึ้งใจ
“ลูกมี่ น่ารักสมกับจะเป็นลูกสะใภ้แม่จริงๆ จ้ะ”
เอมี่เคืองจัดแต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร ทุกคนโล่งอก แมทธิวยิ้มอย่างพอใจ

เหตุการณ์ที่บ้านม๊วนแต๊ เวลานั้นเจ้าคุณเปิดประตูห้องนอนเข้ามา ในมือถือตะเกียงมาด้วย เจ้าคุณยืนมองไปรอบๆ ห้องอย่างอนาถใจ บ่นพึมพำอยู่คนเดียว
“หนึ่งเดือน นี่ยังไม่หมดหนึ่งวันฉันก็จะแทบตายแล้วเว้ยไอ้แมท”
พูดจบก็ลืมตัว เขวี้ยงตะเกียงลงพื้นทันที ไฟจากตะเกียงลุกพรึ่บอย่างรวดเร็ว เจ้าคุณตกใจมากร้องลั่น
“เฮ้ย! ช่วยด้วยๆ”
กำโป๊งเปิดประตูผลัวะออกมา หน้าตาประแป้งเย็นพร้อมนอนเต็มที่แล้ว
“ดึกดื่นแล้วจะแหกปากทำบ้าอะไรอีกวะ”
“ไฟไหม้!” เจ้าคุณร้องลั่น
“ กูรู้แล้ว ไฟไหม้ ไอ้อั่วไฟไหม้!” กำโป๊งปรี่เข้ามาเอาผ้าห่มตบๆ ดับไฟ เจ้าคุณกระโดดหนีลูกเดียว
“จะยืนอยู่ทำเงี้ยวอะไรวะ ช่วยกัน”
เจ้าคุณส่ายหน้าลูกเดียว กำโป๊งด่า แล้วก็ดับไฟต่อ แป๊บหนึ่งไส้อั่วก็แบกน้ำมาหนึ่งถัง
“เร็ว! ไอ้อั่ว”
ไส้อั่วสาดโครมเข้าไปเต็มๆ หน้า กำโป๊งเปียกซ่กพร้อมกับไฟดับลง
กำโป๊งหันมาตีหน้ายักษ์ใส่ไส้อั่วทันที ส่วนเจ้าคุณได้แต่มองจ๋อยๆไป

กำโป๊งโมโหเขวี้ยงหมอนให้เจ้าคุณไล่ให้ไปนอนที่แคร่หน้าบ้าน โวยวายใส่ที่จะทำบ้านโดนไฟไหม้
“นอนตรงนี้แหละไอ้เบื๊อก ชิชะ มาอยู่ไม่ทันข้ามคืนก็จะเผาบ้านข้าซะแล้วมั้ยล่ะ”
“ผมไม่ได้ตั้งใจ” เจ้าคุณเสียงอ่อย
“หุบปากไปเลย นอน อย่าหาเรื่องให้ข้าเดือดร้อนอีก” พูดจบกำโป๊งก็เดินฉุนออกไป
“ ใจเย็น พี่ชาย” ไส้อั่วเห็นใจเจ้าคุณ
กำโป๊ง ไส้อั่ว ทิ้งให้เจ้าคุณนั่งกอดหมอนอึ้งอยู่ดูแล้วน่าสงสาร สักพักก็มีเสียงหึ่งๆ ของยุงดังข้างหู เจ้าคุณสะดุ้ง ตบหน้าตัวเองผัวะ หงายมือออกดูเห็นยุงถูกตบบี้แบนเลือดเปรอะ
“ลุงกำโป่ง!” เจ้าคุณตะโกนอย่างสุดจะทนไหว แต่ดันโมโหจนเรียกชื่อผิด
กำโป๊งรู้ทันยืนตีหน้ายักษ์ขว้างมุ้ง ที่ม้วนเป็นก้อน ใส่หน้าเจ้าคุณ
“เอาไป อ้อ ข้าชื่อ กำโป๊งไม่ใช่กำโป่ง!”
“เดี๋ยวลุง!” เจ้าคุณเรียกไว้
กำโป๊งชะงัก หันกลับมาหน้าตาสุดหน่าย
“จะอารายอีก”
“นี่มันอะไร” เจ้าคุณคาใจเรื่องมุ้ง
“มุ้ง นี่เอ็งไม่รู้จักมุ้งเหรอไอ้เบื๊อก ไอ้โง่ ไอ้ง่าว ไอ้ติงต๊อง กูไม่อยากยุ่งกับมึงแล้ว”
“มุ้ง”
เจ้าคุณงง ทำท่าจะถามไส้อั่ว แต่ไม่ทันแล้วเพราะทั้งกำโป๊งและไส้อั่วพากันเดินออกไป ปล่อยให้เจ้าคุณมองไอ้ก้อนกลมๆ ในมืออย่างสงสัย
สักพักจึงจับคลี่ ออก แต่ก็ไม่ไรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร สุดท้ายเอาห่อๆ ตัวเอง แล้วล้มลงนอน พอนอนไปสักพักเดียวยุงกัดหน้าอีก เจ้าคุณตบแผละ ในที่สุดก็ดึงมุ้งมาห่อคลุมหน้า ม้วนมุ้งเข้ากับตัวจนเห็นแต่ลูกตาดูราวกับมัมมี่ เจ้าคุณนอนเอามือก่ายหน้าผาก พึมพำกับตัวเอง
“อยู่ไม่ได้ เราอยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆ เราต้องหนี”
เจ้าคุณพูดด้วยสีหน้าแววตาเอาจริง

ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าคุณกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาตามทาง หันไปมองด้านหลังเป็นระยะๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามมา เจ้าคุณหันกลับไป แล้วเริ่มออกวิ่ง ก่อนจะมาถึงถนนใหญ่ เจ้าคุณหอบแฮ่กๆ อย่างเหนื่อยล้า จังหวะนั้นก็มองเห็นแสงไฟจากรถแล่นมา เจ้าคุณดีใจมาก รีบโบกมือ ไม่นานรถจอด เจ้าคุณเปิดประตูขึ้นไปนั่ง
“รีบไปเลย!”
รถแล่นออกไป เจ้าคุณโล่งใจ หันไปก็ตกใจสุดขีดที่เห็นแมทธิว
“ไอ้แมท”
“แกแพ้ฉันแล้ว”
แมทธิวเบรกเอี๊ยด หันมามองเจ้าคุณหน้าตาโหดเหี้ยม
“แกทำตามที่พูดไว้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น”
แมทธิวยกเท้าขึ้นมาวางบนตักเจ้าคุณ
“กราบเท้าฉันซะ”
เจ้าคุณดันขาแมทธิวออกไป แล้วรีบเปิดประตูรถ เจ้าคุณวิ่งหนีแต่กลับเจอแมทธิวดักหน้ารออยู่ เจ้าคุณหลอนมาก หันไปอีกทางก็เจอแมทธิวอีกคน หันไปมองรอบๆ แมทธิวยืนล้อมตัวเองไว้ แล้วพูดขึ้นพร้อมๆ กัน
“กราบเท้าฉันไอ้ฉี่เหม็น กราบเท้าฉัน ไอ้ฉี่เหม็น กราบเท้าฉัน ไอ้ฉี่เหม็น”
เจ้าคุณก้มมองเห็นตัวเองฉี่ราด ก็ตกใจ แมทธิวทั้งหลายล้อมวงเข้ามา เจ้าคุณอุดหูเหมือนตอนเด็กๆ แล้วย่อตัวลงที่พื้น

ที่แท้เจ้าคุณในห่อมัมมี่บนแคร่หน้าบ้านกำโป๊ง กำลังนอนกระสับกระส่ายเพราะฝันว่าตัวเองต้องกราบเท้าแมทธิว
“ไม่ ไม่ ไม่”
เจ้าคุณร้องสุดเสียง แล้วผุดลุกขึ้นทั้งตัวที่ห่อห่มแบบมัมมี่ เจ้าคุณสะดุ้งลืมตาตื่น กวาดตามองไปรอบๆ ในอาการเหนื่อยหอบ
“ไอ้แมท! ฉันไม่มีวันกราบเท้าแก แกต่างหากที่ต้องกราบเท้าฉัน”

พูดจบเจ้าคุณก็ล้มตัวลงนอนต่อ โดยตลบเอามุ้งคลุมหน้านอนเหมือนมัมมี่ตามเดิม








Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2555 14:15:48 น.
Counter : 202 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]