The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
เจตจำนงเสรี

พวกเด็กอักษรพอเรียนถึงประมาณนึง ถ้าลงวิชาที่ถูกต้องจะต้องถูกให้เขียนเรียงความว่า "มนุษย์มีเจตจำนงเสรี หรือ free will หรือเปล่า" จากนั้นพอส่งเรียงความไป ก็มักจะพบโศกนาฎกรรมถูกอาจารย์ตบตายทุกประเด็น ว่ากันจริง ๆ คือมันเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันมานานแสนนานเป็นพันปี อะไรที่เด็ก ป.ตรีคิดมันย่อมไม่มีทางเป็นของใหม่ไปได้ และย่อมมีการคัดง้างถกเถียงกันมานานแล้วทั้งนั้นด้วย

ว่าจริง ๆ คือพอคิดไปจนถึงที่สุด เราก็เป็น "ร่างทรง" ก็ไอ้นั่นไอ้นี่ เช่นสังคม ระบบ ค่านิยม บลา ๆ แต่จขบ.มักคิดว่าน่าอัศจรรย์ที่ระบบความคิดของปัจเจกคนหนึ่งนั้นมักจะมีเอกลักษณ์อย่างยิ่ง (ทั้งที่เราได้รับอิทธิพลมาจากสิ่งแวดล้อม) และจขบ.มีความเชื่อว่าระบบความคิดของเรานั้นไม่มีใครเหมือนกันเลย คล้าย ๆ กับลายนิ้วมือของเรา หรือดีเอนเอของเรา

คนเราชอบเป็นอิสระ จขบ.เชื่อมาก ๆ ว่าแม้จะรู้สึกงุงิที่ถูกตบตายทุกประเด็นเกี่ยวกับเจตจำนงเสรี แต่เราก็ยังอดฝันไม่ได้ว่าแท้จริงเรามีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลง ที่จะเลือก และอื่น ๆ จขบ.คิดว่ามันเป็นสัญชาตญาณที่ฝังแน่นในกมลสันดาน และมันน่าสนใจที่เป็นอย่างนั้น เหมือนกับเรามีสัญชาตญาณบางอย่าง ซึ่งทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ปรกติสัญชาตญาณของเรามักจะมีบางอย่างที่ถูกต้อง แม้จะไม่เสมอไปก็ตาม

เมื่อวานนี้ได้อ่านหนังสือ เรื่องการศึกษาเพื่อความเป็นไท Education for Liberation ของอดัม เคิร์ล (ลุงคนนั้นที่พูดถึงปมปืนเด็กเล่นและปมเสือดาว) ทำให้ได้ไอเดียขึ้นมา คุณเคิร์ลแกบอกว่า คนทั่วไปมักจะมีความรู้ตัวในระดับต่ำ จึงอ่อนไหวไปตามสิ่งที่มากระทบได้ง่าย เรียกว่ามีสติน้อย จึงหวั่นไหวไปตามอะไรต่าง ๆ รวมทั้งไม่มีสาเหตุก็สามารถเป็นไป เช่นตื่นเช้ามาจิตตกไม่มีสาเหตุ พอกินข้าวเข้าไปแล้วอารมณ์ดี ที่จิตตกเมื่อกี้ก็เหมือนโกหก (แต่มันจะมีอะไรที่เรียกว่าอนุสัย คือเสือกจิตตกบ่อย ๆ เลยจิตตกง่าย แบบนี้ด้วย)

คุณเคิร์ลแกว่า ถ้าหากฝึกตัวเองด้วยวิธีต่าง ๆ จนกระทั่งสามารถมีสติต่อสิ่งที่มากระทบมากขึ้น จะเรียกว่า "ควบคุมตัวเอง" ได้ไหม เมื่อควบคุมตัวเองได้แล้ว การตัดสินใจจะมาจากภววิสัย (คือการใคร่ครวญจากสภาพแวดล้อมและความเป็นจริง) มากกว่ามาจากอัตวิสัย (คือกรูรู้สึกเงี้ยก็จะทำเงี้ย จากนั้นพออารมณ์หายก็อ้าว ตูทำไรลงไป อ้าก)

แน่นอนว่าแม้เราจะคิดจากภววิสัย ก็จะต้องมีแว่นของค่านิยม และสังคมอยู่ด้วย แต่ในแง่หนึ่งก็ถือว่าเราควบคุมตัวเองได้ ซึ่งทำให้เรามีพลังในการกระทำและการตัดสินใจ ไม่ใช่ลมเพลมพัดไปตามอารมณ์

แบบนี้เรียกว่าเจตจำนงเสรีหรือเปล่า แล้วถ้าหากฝึกได้มากกว่านั้น ถึงขั้นที่ไม่ได้มองโลกผ่านกระจกสีอีกต่อไป จะเรียกว่ามีเจตจำนงเสรีได้ไหม


Create Date : 26 เมษายน 2553
Last Update : 26 เมษายน 2553 16:04:48 น. 8 comments
Counter : 1523 Pageviews.

 
เจ้า "เจตจำนงเสรี" นี่มันคืออะไรหนอ
เป็นความลี้ลับที่เด็กบริหารธุรกิจไม่รู้เรื่องหรือเปล่าหนอ?


โดย: rachan IP: 202.57.178.76 วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:0:04:16 น.  

 
^
คือ free will อธิบายง่าย ๆ คือคนเราเป็นอิสระจริงหรือเปล่า เพราะไม่ว่าทำอะไร ก็ล้วนเกิดจากแรงกระทบจากสิ่งแวดล้อมหรือการเลี้ยงดูทั้งนั้น ถ้าคิดไปเรื่อย ๆ จะพบว่าไม่มีอันไหนเป็น "ความคิดและการตัดสินใจของเรา" จริง ๆ เลย ทุกอย่างเกิดจากการบงการ และ/หรือ เป็นผลจากสิ่งภายนอก


โดย: เคียว IP: 118.172.31.3 วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:0:15:34 น.  

 
มนุษย์มีเจตจำนงเสรีหรือเปล่า?

ขอโทษนะคะ แต่เป็นคำถามที่สร้อยเกลียดที่สุดเลย TT^TT เรียกว่าเกลียดที่สุดในชีวิตก็ได้ (ตอนถูกถาม ไม่ได้เขียนเรียงความหรอกค่ะ แต่ตอบกันสดๆต่อหน้าอาจารย์)

ความเกลียดนี่อาจมาจากความรู้สึกที่ว่า..เจตจำนงเสรี เป็นสิ่งที่อยากได้มากกกกกก แต่มัน(อาจจะ)ไม่มีจริงๆหรือเปล่า

ตัวตนของสร้อยเกิดขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าถูกสร้างขึ้นมาด้วยอะไรบ้าง เวลาคิดหรือตัดสินใจแต่ละครั้งก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีอะไรอยู่ข้างหลังคอยผลักดันหรือถูกครอบงำโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า

ถึงกระนั้นมันก็เศร้า ถ้าจะตอบว่าไม่ แต่ถ้าจะตอบว่ามี รู้สึกเหมือนหลอกตัวเอง - -



โดย: สร้อยดอกหมาก IP: 202.149.25.234 วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:21:59:18 น.  

 
^
นั่นแหละ แต่เนื่องจากมนุษย์ทุกคนมักจะมีสัญชาตญาณแรงกล้าว่าตูมี ก็เลยสงสัยมาตลอดว่าที่จริงเราถูกหลอกให้สิ้นหวังด้วยเงื่อนไขหลาย ๆ อย่างหรือเปล่า


โดย: เคียว IP: 118.172.99.12 วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:22:15:28 น.  

 
^
^
งืม.. ถ้าอย่างนั้น เราว่า freewill แบบสัมบูรณ์นี่น่าจะไม่มีจริง

ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่รู้สึกว่า การไม่มีอะไรผูกมัดเลยนี่มันเป็นไปไม่ได้แฮะ
บางทีของข้างนอกก็ไม่ได้ผูกเรา แต่พวกเราเอาตัวเข้าไปผูกไว้กับอะไรสักอย่างเอง


โดย: ratichan วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:22:59:22 น.  

 
^
ทีนี้ก็ขึ้นกะแว่นตาที่ใส่ด้วยว่าจะเอากระบวนทัศน์ไหนจับ เช่นถ้ามองแบบปัจเจกจะรู้สึกอึดอัด มีอะไรมารุงรังกะตูนักหนา ทำไมตูถึงกำหนดชะตากรรมของตัวเองไม่ได้ ทำไมต้องขึ้นกับคนอื่นตลอดไป แต่ถ้ามองแบบพวกสวนเงินมีมา (เรียกไรดีหว่า) เขาจะมองว่าเราต่างสัมพันธ์ซึ่งกันและกันเป็นข่ายใย เป็นเพื่อนร่วมโลก เราไม่ได้อยู่คนเดียว มีเธอก็เลยมีฉันขึ้นมา


โดย: เคียว IP: 118.172.99.12 วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:23:19:18 น.  

 
ผมก็อยากจะหวัง และพยายามจะหวังว่าตัวเองจะสามารถ "ทำอะไรบางอย่าง" ได้ครับ

แต่ว่าก็รู้ตัวเหมือนกันว่าจะปฏิเสธอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมก็ไม่ได้ และไม่รู้ว่าทุกเรื่องถ้าขุดลึกลงไป มันก็จะกลายเป็นแค่ลูกโซ่ของเหตุผลไม่มีที่สิ้นสุดหรือเปล่า (แบบที่เมโรวินเจี้ยนบอกกับนีโอใน เดอะ แมกทริกซ์)


โดย: เจรามี วันที่: 28 เมษายน 2553 เวลา:13:30:30 น.  

 
ข้างบนไม่มีที่ให้แปะความเห็น แต่ก็ยังดื้ออยากแปะอยู่ดีนะเรา (- -*)

.....

Together
Let us join hands
Though we are powerless
Though we know nothing

Together
Let us join hands
And pray for a brighter day
And pray for something we can do

Despite the darkness
Despite the hopelessness
Which take over our hearts
There will be light someday
That is what I always childishly chant

Though we can see nothing
I believe,
childishly,
that if we gather
our powerlessness
our joined hearts
will grant us power
though not mighty
or novel-like noble
maybe
maybe, maybe
by any chance,
our faint light
will brighten something
and a frail butterfly
will cause butterfly effect

....

พักนี้ชอบคำว่า together
สงสัยจะชอบความคิดแบบสวนเงินมีมา


โดย: ratichan วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:27:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.