The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
Silkworm Experience4: ถ้าหากว่า...

ตามโครงการของสำนักพิมพ์ที่จขบ. ทำงานอยู่ ปีนี้ช่วงมีนา - เมษา จะมีคนจากเขมรและเวียดนามมาฝึกงาน

สำนักพิมพ์ของจขบ. มีมูลนิธิชื่อ มูลนิธิสำนักพิมพ์แม่โขง ซึ่งแยกต่างหากจากตัวสำนักพิมพ์หลัก มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนสิ่งพิมพ์ในภูมิภาค จะจัดพิมพ์หนังสือของนักเขียนในภูมิภาคเป็นภาษาอังกฤษ และส่งขายทั่วโลก (แน่นอนว่าเป็นหนังสือวิชาการ และคงเห็นในร้านแบบเฉพาะ ไม่ใช่ร้านทั่วไป)

นอกจากพิมพ์หนังสือแล้ว ก็จะจัดเวิร์คชอปเกี่ยวกับการทำงานหนังสือให้กับคนในภูมิภาค มีมูลนิธิมาสามปี ก็จัดเวิร์คชอปไปแล้วประมาณเจ็ดแปดครั้ง ให้คนลาว เวียดนาม กัมพูชา ฯลฯ เคยเล่าเรื่องเวิร์คชอปเวียดนามไปแล้วเมื่อต้นปีก่อน สนุกและน่าสนใจดี

เคยเล่าเรื่องนี้ให้เด็กคนหนึ่งฟัง เด็กคนนั้นหัวเราะและเบ้หน้า คงคิดว่าอะไรกันห่วยสิ้นดี อยู่แต่ในภูมิภาคเท่านั้นเอง จขบ.เห็นเด็กทำอย่างนั้นแล้วก็โมโหในใจ แต่ตอนนั้นไม่รู้จะบอกอย่างไรได้นอกจากว่า นายของจขบ.ก็ไปงานหนังสือแฟรงค์เฟิร์ตเกือบทุกปี และเวลามีเรื่องอะไร สมาคมก็มักจะขอให้นายของจขบ.เป็นคนรับหน้าสื่อต่างประเทศเสมอ

มันก็ไม่ผิดใช่ไหมที่ภูมิใจในตัวนาย ภูมิใจในตัวคนอื่น ๆ ที่ทำงานด้วยกัน เราเป็นออฟฟิศเล็ก ๆ แต่ก็ผลิตอะไรที่ดี หนังสือของเราไม่ได้เอามาจากที่อื่น (เว้นแต่เล่มที่ imprint ซึ่งเป็นส่วนน้อย) หนังสือที่ผลิตในไทย แต่ขายทั่วโลก แม้จะเป็นหนังสือวิชาการเฉพาะทาง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยละมัง

จขบ.คิดว่าตัวเองคงเป็นตัวแทนที่ไม่ดีของ สนพ. แต่ถึงอย่างนั้น จขบ.ก็อยากให้เด็กคนนั้นหายโลกแคบในเร็ววัน โลกของเรามีอะไรที่ลึกยิ่งกว่าที่คิด มีอะไรที่มากยิ่งกว่าที่เข้าใจ มีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่า stereotype ซึ่งคนหลายคนนึกเอาเองว่ามีแค่นั้น เป็นแค่นั้น

ความรู้สึกมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งดี แต่บางที คนบางคนก็มั่นใจเพียงเพราะว่า "รู้น้อย" แต่นึกว่า "รู้มาก" เท่านั้นเอง

อืมม

จะเล่าเรื่องอินเทิร์นนี่นะ

ที่จริงปีนี้ควรจะมีอินเทิร์นเขมรสองคน และเวียดนามสองคน แต่คนเวียดนามอีเมล์มาบอกว่าติดขัด เนื่องจากเป็นการให้ทุนมาฝึกและดูงาน จึงพยายามเลือกคนที่ดีที่สุดเท่าที่สมัครมา นายเลยบอกว่าสำหรับเวียดนาม เลื่อนไปปีหน้าก็แล้วกัน เพราะสองคนนี้เป็นคนมีความสามารถ ควรได้โอกาสพัฒนาจริง ๆ

คนเวียดนามคนหนึ่งติดขัดมาไม่ได้ เพราะเพิ่งซื้อที่ดิน กำลังปลูกบ้าน ต้องคอยดูแลเรื่องวุ่นวายต่าง ๆ

ส่วนคนเวียดนามอีกคน แม่เขาชัก (stroke ควรจะแปลว่ายังไงนะ) คือสิ้นสติล้มฟาดไปเนื่องจากสมองมีปัญหา ตอนนี้อาการเริ่มฟื้นฟูแล้ว แต่คำศัพท์หายไปเกือบหมด พวกลูก ๆ ต้องดูแลและพยายามให้แม่ค่อย ๆ กลับจำได้

พอเขาเล่ามาอย่างนี้ ก็นึกว่า ถ้าตัวจขบ.นี้เกิดศัพท์หายไปหมดจะทำยังไง

จขบ. identify กับการเป็นคนเขียนหนังสือค่อนข้างมาก และมีความสุขกับหนังสือและคำศัพท์ค่อนข้างมาก

ถ้าหากมันหายไป จขบ.ก็คงไม่เป็นตัวเองอย่างที่เป็นตอนนี้ แต่ว่าสิ่งที่เหลืออยู่ในตัว สิ่งที่เป็นตัวเอง สิ่งนั้นมันคืออะไรนะ บางสิ่งที่ไม่ได้ปรุงแต่งด้วยคุณสมบัติต่าง ๆ ซึ่งคิดว่านี่ละคือตัวเอง มันคืออะไรกัน

มีคนหลายคนที่พอ "ลืม" หรือ "สูญเสีย" ไปแล้ว ก็จะเปลี่ยนไป กลายเป็นคนอีกแบบโดยสิ้นเชิง ถ้าอย่างนั้น อะไรนะที่ทำให้เราเป็นเรา และอะไรคือเราที่แท้จริงกันแน่ หรือว่ามันไม่มีมาแต่แรก พอเราตายไป มันก็หายไป

ก็เพียงแค่คิดเท่านั้นเอง เพียงแค่รู้สึกว่า อืมม...เราก่อกองทรายอยู่ละมัง ในชีวิตนี้ที่เกิดขึ้นมา พอถึงวันหนึ่งทรายมันก็ถูกคลื่นซัดไป

แต่ไม่ได้คิดว่าทุกสิ่งที่สร้างจะไม่มีความหมายนะ คิดว่ามันมีความหมายไปแล้ว ในชั่วขณะที่มันกระทบใจ ในชั่วขณะที่มันส่งผลอะไรต่อสิ่งอื่น ๆ

บางทีเราอาจจะเป็นเครื่องมือของโลกนี้ เพื่อจะนำบางสิ่งมา เพราะว่าเราก็มีแค่คนเดียวในโลก

ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่อีกสักพักอาจจะเข้าใจละมัง


Create Date : 13 มกราคม 2553
Last Update : 13 มกราคม 2553 16:17:18 น. 2 comments
Counter : 475 Pageviews.

 
อ่านช่วงหลังๆ แล้วคิดถึงซีรี่ส์เรื่อง Criminal Minds ตอนหนึ่ง ตัวเอกประจำตอนนั้นเป็น (ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็น) ฆาตกรต่อเนื่องที่หนีการจับกุมจนเอาหัวโหม่งโลกจากชั้น 7 แต่ตะแกก็ไม่ยักตาย แต่โคม่าเข้าโรงบาลไปสองปี พอฟื้นขึ้นมาก็ปรากฎว่าความทรงจำครั้งเก่าหายหมด แต่อัยการเขาก็เดินเรื่องฟ้องศาลข้อหาคดีฆาตกรรมตามที่ควรจะเ็ป็น

ในหมู่ FBI ที่เป็นนักสืบก็เกิดการคุยกันว่า ตกลงนี่ดีแล้วหรือ ถ้าความทรงจำของเขาหายไป จะถือว่าเป็นคนใหม่ไหม เขาควรจะจะกลับมารับโทษที่ตัวเองทำไหม ถ้าไม่แล้วอะไรเป็นเกณฑ์ตัดสินว่าเขาเ็ป็นเขา บลาๆๆ (อีตานักสืบคนที่เปิดฉากคุยเรื่องนี้กำลังทำป.เอกด้านปรัชญา -_-")

คือมันก็คุยกันนิดเดียวโดยที่ยังไม่ได้บทสรุป แล้วก็วิ่งไปสืบสวนกันต่อ (เพราะนี่เป็นซีรี่ส์แบบนั้น) แต่ก็เป็นตอนที่สะกิดใจแปลกๆ ดีเหมือนกัน...


โดย: Job IP: 192.168.0.10, 61.90.147.114 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:15:34:20 น.  

 
อืมม ควรพูดตรงนี้ไหมเนี่ย ตอนอ่านครั้งแรกเรานึกว่าเด็กนั่นเบ้หน้าเพราะทำงานกับคนอินโดจีน เจอคนไทยเป็นอย่างนี้เยอะมาก อยากตบเกรียนจริงๆ

stroke ถ้าจำไม่ผิด คืออาการเส้นเลือดในสมองแตกค่ะ โชคดีมากแล้วที่ไม่เป็นอัมพาตไป น่ากลัวมาก

เรื่องคำศัพท์ที่หายไป ชวนจขบ. ดูหนังเรื่อง Iris ดีไหมหว่า มีประเด็นทำนองนี้เหมือนกัน เป็นเรื่องของไอริส เมอร์ด็อคน่ะค่ะ ตอนแก่เธอเป็นอัลไซเมอร์ มีฉากที่คนอย่างเราๆ อยากร้องไห้หลายฉากเลย งือ

ส่วนเม้นท์ข้างบนอ่านแล้วนึกถึงนิยายญี่ปุ่น บันไดสิบสามขั้น ปริศนาจากแดนประหาร มีนักโทษที่หัวน็อคจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เหมือนกัน แต่ศาลบอกว่าไม่เห็นเป็นเหตุควรลดโทษให้ เพราะเมื่อจำไม่ได้ ก็ไม่สามารถรู้สึกสำนึกผิดได้ โอ้วววว


โดย: LMJ IP: 58.9.23.242 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:15:36:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.