|
อย่างนี้สินะ
เพื่อนบอกว่าจะมีงานเลี้ยงรุ่นโรงเรียน (จขบ.อยู่ที่เดียวมันตลอดตั้งแต่อนุบาลยัน ม.หก) บอกมาสักพักหนึ่งแล้ว ป่านนี้น่าจะจัดกันไปแล้ว
น่าแปลกที่พอนึกถึงโรงเรียน ทั้งที่มีเรื่องน่าสนุกสนานไม่ใช่น้อย แต่พอคิดถึงขึ้นมา เถ้าตะกอนในใจก็จะฟุ้งขึ้นเป็นอย่างแรก ยังแก้ไขไม่ได้ เถ้าตะกอนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า น้อยเนื้อต่ำใจ ความรู้สึกว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกลุ่ม ความรู้สึกพวกนี้ฝังอยู่ในกมลสันดานแบบแปลก ๆ ยังหาทางแก้ไขไม่ได้
ที่จริง ในระดับเข้าใจ ก็เข้าใจเป็นอย่างดี จำแนกแยกแยะได้อย่างชัดเจนว่าความรู้สึกน้อยใจเหล่านั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันแสนสั้น (อาจจะแค่ประมาณช่วงอนุบาลถึงประถม) มีความสุข ความดี ความงาม อีกมากมายที่ปรากฏอยู่ อีกอย่างหนึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะทำ จขบ.ฝ่ายเดียวเสียที่ไหน แน่นอนว่าในฐานะคนธรรมดาปรกติ จขบ.ก็ต้องเคยทำร้ายคนอื่นบ้างเหมือนกัน
แต่ถ้าไม่ระวังตัวให้ดี จังหวะที่ถูกตีแสกหน้ามาแรง ๆ ความรู้สึกมันจะย้อนกลับไป ถึงจังหวะที่ยืนอยู่คนเดียวตรงมุม ความรู้สึกว่าตัวเองประหลาด เป็นเอเลี่ยน ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ป่านนี้ยังนึกไม่ออก เพราะเป็นภูมิแพ้ ผิวหนังมีผื่น เพราะมีการเรียนรู้ที่ต่างจากคนอื่น ๆ เป็นพวกยึดติดกับว่าตัวเองชอบรามเกียรติ์ มีความภาคภูมิใจที่รู้เรื่องรามเกียรติ์มาก (ความยึดติดแปลกพิกลที่อยู่กับตัวจนเกือบถึงป.สามละมัง) เป็นเพราะเป็นลูกชนชั้นกลางท่ามกลางลูกคนร่ำรวยมีสตางค์ หรือที่สุดแล้ว ก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกของเด็กที่เคยเป็นศูนย์กลางจักรวาลอยู่ที่บ้าน แล้วกลับถูกส่งให้มาที่ที่ตัวเองเป็นนอตติ้ง ไม่มีอะไร
แน่นอน ความรู้สึกผ่านมาแสนนานแล้ว เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่ผ่านเข้ามาก็เปลี่ยนจขบ.ไป เท่า ๆ กับที่เปลี่ยนตัวตนของเด็ก ๆ ที่เติบโตขึ้นมาด้วยกัน ถึงอย่างนั้น ที่ไหนสักแห่งในความทรงจำก็ยังจำได้ว่า คนนั้นเคยเป็นอย่างนั้น คนนี้เคยเป็นอย่างนี้ และที่ไหนสักแห่งในความทรงจำ ก็สลัดความรู้สึกว่าตัวเองเคยเป็นเด็กที่ไม่มีเพื่อนไม่ได้ ความทรงจำอันนี้เวลาที่ไม่ได้ตั้งตัว แล้วเผลอให้มันกลับมา มันจะเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตมากพอสมควร เพราะทุก ๆ เหตุการณ์จะ reverse กลับไปสู่สถานการณ์เดิม และจขบ.จะตั้งกำแพงหนาใส่หน้าชาวบ้านในบัดดล
จขบ.ก็อยากให้มันไปเหมือนกัน ความทรงจำอันนี้ ความรู้สึกอันนี้ เพื่อที่สักวันหนึ่ง จขบ.จะได้เอนจอยกับการได้เจอเพื่อน จะได้ make peace กับโรงเรียนเก่า (ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรกับจขบ. แต่จขบ.มีปัญหากับมันเอง) เพื่อที่สักวันจะได้สนุกกับการรำลึกอดีตที่ร่าเริงมีความสุข โดยที่ไม่ตายน้ำตื้นอยู่ที่อารมณ์ขุ่นข้องหมองใจของตัวเอง
ก็ค่อย ๆ เดินไป
Create Date : 20 มกราคม 2553 |
Last Update : 20 มกราคม 2553 15:12:37 น. |
|
5 comments
|
Counter : 395 Pageviews. |
|
|
|
โดย: LMJ IP: 58.9.17.225 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:19:20:09 น. |
|
|
|
โดย: ratichan วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:17:42:57 น. |
|
|
|
| |
|
|
ย้ายโรงเรียนทุกๆ สามสี่ปี
เป็นไปตามเทรนด์
จบอนุบาลย้าย
จบปอหกย้าย
จบมอสามย้าย
ช่วงที่สร้างรอยในใจคือ ตอนมอต้น
เพื่อนผู้ชายทั้งห้องประจานแอนตี้
เพื่อนในกลุ่มของเราคนนึงที่ไปชอบกับรุ่นพี่
เหมือนหวงเพื่อน
เขียนด่าบนกระดานดำในวันก่อนปิดภาคเรียน
ไร้สาระสุดๆ
ตั้งแต่นั้นมาเราไม่เอ็นจอยกับการกับไปเจอเพื่อนๆ
มอต้นอีกเลย
มีที่คบกันอยู่ถึงปัจจุบันก็เพื่อนในกลุ่มสี่ห้าคน
และเพื่อนผู้หญิงอีกสองสามคน
เพื่อนผู้ชายทั้งรุ่น ตัดขาดกันไปได้เลย
เวลาเจอกันก็ทัก แต่ไม่ได้ยินดีอะไร
คือรู้ว่าป่านนี้บางคนคงลืมไปแล้วกับเหตุการณ์บ้าๆ บอๆ ในวันนั้น
แต่เราจำไ้ด้เลย
ขนาดไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
ไม่ใช่ปัญหาของเรา
เร็วๆ นี้เพื่อนนคนนึงจะบวชก็บอกงานต่อๆ กันมา
เรายังไม่คิดจะไปเลย
ไม่รู้สึกว่า เพื่อนพวกนี้สำคัญอะไรกับชีวิต
แล้วก็ไม่คิดว่าตัวเองต้องไปปรับแก้ความรู้สึกอะไรด้วย
ขอบคุณที่แชร์ค่ะ
ชอบอ่านที่จขบ.เขียน
^^