|
คิดคิด
เวลาที่มีอะไรที่กระทบใจเข้ามา จะชอบคิดคิด คิดไปจนกว่าจะรู้สึกโอเคกับมันได้ ซึ่งหมายความว่าเกิดความเข้าใจ ความหมายของมัน และเรื่องอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะ make peace กับทุกสิ่งทุกอย่างไปได้หมด แต่ก็ยังอมเอาไว้ อมไปนาน ๆ อาจจะเข้าทีกลายเป็นไข่มุกก็ได้ เอาน้ำลายตูเคลือบ ๆ เข้าไป
ช่วงนี้มีหลายเรื่องที่คิดคิดไปก็ไม่เข้าใจมากเกินไป บางเรื่องถึงเข้าใจก็ไปเปลี่ยนอะไรไม่ได้
มีนิยาย ของคุณญาณิน เรื่องที่ออกตอนวาเลนไทน์ มีประโยคนึงฝังใจ เขาบอกว่าการแต่งงานไม่โรแมนติก มันคือความกลัวการอยู่คนเดียว (หรืออะไรทำนองนั้น)
การแต่งงานเกิดจากความกลัว
พอได้ยินอะไรแบบนี้ จขบ.จะมีสัญชาตญาณพิลึกพิลั่นว่า "ตูต้องทำให้ถูก" ทันที สัญชาตญาณพิลึกพิลั่นแบบนี้เกิดจากอัตตาโดยแท้ไม่มีอะไรเจือปน เช่น ถ้าการแต่งงานเกิดจากความกลัว หากชาตินี้ตูจะต้องแต่งงาน ตูจะต้องไม่กลัว ไม่งั้นก็ไม่แต่งงานเลย เพราะมันเป็นแค่การกระทำอันอ่อนแอที่เกิดจากความกลัว
ว่าอีกทีคือข้าเป็นเพอร์เฟคชันนิสม์
วันก่อนคิดขึ้นมาว่า กลัวก็ไม่เป็นไรนี่หว่า
ว่าไงดี ความกลัวก็คือความเปราะบาง อ่อนแอ บางที คนอ่อนแอสองคนก็พยายามแสวงหากัน เพราะหวังว่าจะได้พึ่งพาอาศัย แบบนั้นมันผิดหรือ ที่จริงอดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นความสงบทางใจ เราก็ไม่ได้สมบูรณ์ เราเลยต้องอยู่ด้วยกัน
ตูว่ามันเป็นบางอย่างที่งดงาม อะไรแบบว่า เพราะมันไม่งาม (ในแง่เพอร์เฟค) มันจึงงาม พูดเหมือนเรื่องคิโนะ
เพราะว่าอ่อนแอ ถึงต้องอยู่ด้วยกัน ถึงต้องค้ำจุนกันและกัน ถึงต้องเรียนรู้ เข้าใจ กระทบกระแทกเสียดสีไปจนกว่าจะทนไม่ได้ หรือต่างคนจะเป็นคนดีขึ้น ความสัมพันธ์ที่ไปพ้นจากแรงบงการของฮอร์โมนและความกลัวอย่างเดียว แต่คือกระบวนการที่จะเข้าใจตัวเอง และกระบวนการที่จะเรียนรู้เพื่อจะได้สามารถ appreciate ความเป็นมนุษย์ของอีกฝ่าย
จขบ.รู้ว่าเราไปหาชิ้นส่วนที่หายไปของเราเอากะคนอื่นไม่ได้ เหมือนเรื่องสามเหลี่ยมผจญภัย เพราะว่าการไปหาที่คนอื่นมันหาไม่เจอ คนอื่นก็เป็นจักรวาลในตัวเขาเอง ชิ้นส่วนที่หายไปของแต่ละคน จริง ๆ ก็ซ่อนอยู่ในตัวเอง
แต่จักรวาลสองจักรวาลหรือหลาย ๆ จักรวาลอยู่ด้วยกัน มันก็อบอุ่นดี และที่จริงคนเราส่วนใหญ่ก็ใฝ่ฝันถึงการสานสายใย ไม่กับคนนั้นก็กับคนนี้อยู่ดี
Create Date : 23 เมษายน 2553 |
Last Update : 23 เมษายน 2553 11:29:31 น. |
|
2 comments
|
Counter : 410 Pageviews. |
|
|
|
โดย: rachan IP: 202.57.178.76 วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:7:25:14 น. |
|
|
|
โดย: นักรบ IP: 74.193.252.136 วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:21:41:47 น. |
|
|
|
| |
|
|
เห็นด้วยกะ ศัลลาปังคพิสัย (ที่ไม่่มีที่ให้แปะความเห็น) ด้วย
คิดเหมือนกันว่าคนทุกคนมี "ความหวัง" มี "แสงสว่าง" อยู่ข้างใน แต่บ่อยเหลือเกินที่เรามองไม่เห็น เห็นแต่ตัวเอง รู้สึกเหมือนว่าแค่เรื่องของตัวเองก็ใหญ่โตพอแล้ว ไม่เหลือที่ให้ไปสนคนอื่น ยิ่งโดยเฉพาะอะไรที่ต้องใช้ทั้งใจและความพยายามในการมอง ทั้งที่จริงๆแล้วตัวเราเล็กนิดเดียว
ตอนนี้ก็มีบางทีที่รู้สึกกลัวการอยู่คนเดียวหรืออะไรแบบนั้นเหมือนกัน ทั้งๆที่รู้ว่าสิ่งที่ตามหามันอยู่ข้างในตัวเอง แต่ก็กลัวลำบาก เอาแต่จะพึ่งคนอื่น พยายามจะหาเอาจากทางสบาย dumpอะไรก็ได้เข้าไปเหมือนจะให้ข้างในมันเต็ม แต่จริงๆแล้วที่สุดมันก็ว่างเปล่าอยู่ดี
หลังๆพยายามจะคิดให้น้อยลง เพราะรู้สึกว่า คิดไปมากๆที่สุดก็ว่างเปล่า ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา แล้วก็ บางทีเราอาจจะเหนื่อยละมั้ง อยากอยู่เงียบๆ สบายๆ
ว่าแต่.. วันนี้เราบ่นอะไรเนี่ย