The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
ความเห็นทั้งสามพันล้าน

ปรกติ จขบ.มิได้เสพข่าวสารแต่ประการใด สามารถพูดได้หน้าไม่อายว่าเป็นอย่างนั้น

ทั้งนี้เพราะจขบ.ถูกหลอกหลอนด้วยข้อความจากเรื่องชุมชนจินตกรรม ว่าความรู้สึกว่าเป็นประเทศ (หรือเป็นชุมชน) นั้นเกิดจากการเสพข่าวร่วมกัน ซึ่งหมายความว่ามีใครบางคนคัดสรรแล้วว่าเรื่องอะไรสำคัญหรือไม่สำคัญ เพื่อจะมาเสนอให้มหาชนรับรู้ร่วมกัน เมื่อทุกคนรู้เรื่องเดียวกัน ทุกคนก็คุยเรื่องเดียวกัน และเกิดความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยสามารถข้ามพ้นความแตกต่างอื่น ๆ ที่เหลือ ไม่ว่าเพศ ชาติพันธุ์ ภูมิลำเนา ชนชั้น บลาและบลา

จขบ.ก็เลยเลิกเสพข่าวแต่บัดนั้น แม้จะประสบปัญหาดูโง่และเอ๋อในสายตามหาชนบ้างก็ตาม

แต่ช่วงสองสามวันนี้ จขบ.ทนไม่ได้ที่จะไม่รู้อะไรเลย เพราะมันมากเกินกว่าที่จะไม่รับรู้ ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ข่าวส่วนใหญ่เป็นเรื่อง "เหตุการณ์" จึงทำให้ตามมอนิเตอร์อยู่ พอมาถึงวันนี้ "เหตุการณ์" มันซาลงพอสมควรแล้ว (และอย่าได้กลับแรงอีกเลย ขอร้องละ) สิ่งที่ตามมาคือ "ความเห็น"

จขบ.ที่เผลอไผลไปเสพข่าวสารทางเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์ (ทวิตเตอร์เป็นสื่อที่ข่าวเร็วที่สุด แม่นยำประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์ พิสูจน์แล้ว) ก็ได้เห็นความเห็นอันแตกต่างจากมหาชน ซึ่งพูดแบบไม่ซับซ้อนที่สุดคือ เรื่องเดียวแต่เล่ากันไปหลายพันอย่าง แล้วแต่ว่าในใจจะมี "แนวคิดไหนอยู่" คนแต่ละกลุ่มก็ใส่เลนส์สีของตัวเอง และมองเหตุการณ์ไปต่าง ๆ กัน คนสุดโต่งก็มี คนไม่สุดโต่งก็มี

ว่ากันจริง ๆ จขบ.ก็มีเลนส์สีอยู่เหมือนกัน ยังถอดไม่ได้ และเชื่อว่าคงไม่มีใครถอดได้จนกว่าจะได้เป็นพระอนาคามี (โสดาบันยังต้องรออีกตั้งเจ็ดชาติ เพราะงั้นต้องยังมีเลนส์สีชัวร์) ดังนั้นเวลาที่อ่านความเห็นที่ตัวเองไม่เห็นด้วย แบบ...เฮ้ย ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นนะเฟ้ย จขบ.ก็จะรู้สึกเจ็บ ๆ ปวด ๆ ทั้งที่ไม่มีใครทำอะไรตัวเอง

ดีอยู่หน่อยที่ทุกคนค่อนข้างเห็นตรงกันว่า กรุณาฟื้นฟูเถิด และช่วยกันเถิด พอแล้ว (แม้ต่างคนจะต่างกำหนดตัว "คนผิด" ในใจลึก ๆ อยู่แล้วก็เถอะ)

แน่นอนว่ายังมีตัวติงต๊องที่ตามแนะแหนอยู่ด้วย พี่คะว่ากันตรง ๆ พี่โทษว่าใครผิดไปจนตาย อะไรมันก็ไม่ดีขึ้นหรอก

จขบ.ก็ไม่ได้คาดหวังหรอกว่าทุกคนจะคิดเหมือนกันหรอก แต่จขบ.คาดหวังว่าแม้คิดไม่เหมือนกัน อย่างน้อยยังพอทำอะไรได้บ้าง อย่างน้อยจะอยู่ด้วยกันได้

ช่วงนี้เวลาใครพูดถึง "ชนชั้น" จขบ.กลับไพล่นึกถึง "คน" อยู่เหมือนเดิม ว่ากันจริง ๆ คือจขบ.ไม่มีความสามารถจะเห็นชนชั้นทั้งชนชั้นได้เลย เว้นแต่ปรับสายตาตัวเองให้มองสังคมอย่างหยาบที่สุด มองอย่างสุดโต่งและแบ่งแยกที่สุด ซึ่ง จขบ.เกลียดที่จะทำอย่างนั้น

จขบ.เป็นชนชั้นกลาง แต่ตอนที่อยู่โรงเรียนประถม เกือบจะเป็นชนชั้นล่าง เพราะไม่มีเงินมีทองมากมายเหมือนเพื่อน ซึ่งล้วนซื้อของน่ารักมาอวดและเคยไปเที่ยวเมืองนอก

จขบ.ไม่ได้เป็นเอลีท ไม่ได้ทำงานในต่างประเทศ ภาษาอังกฤษที่พอมีอยู่บ้างก็กระนั้น ๆ

จขบ.ไม่เคยใช้ของแบรนด์ ไม่ปรารถนาจะตกเป็นทาสแบรนด์อะไรทั้งนั้น ยกเว้นโอโตยะ (ร้านอาหารญี่ปุ่นถือว่าเป็นแบรนด์ไหมนะ เหม่อ) ไม่เคยเป็นหนี้บัตรเครดิต ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยที่สุดคือค่ากินและค่าหนังสือ

แต่ในขณะเดียว จขบ.ก็เป็นคุณหนูผู้ทำอะไรไม่เป็นประมาณล้านอย่าง แม้กระทั่งปอกมะม่วง (ปอกได้หนา แต่หางามไม่)

บิดามารดา จขบ.ก็มีเงินส่งจขบ.เรียนสูงพอสมควร และเขาบอกว่าถ้าอยากเรียนสูงกว่านี้ก็ยินดีส่ง แต่จขบ.คิดว่าพอแล้ว

จขบ.มีเงินมากกว่าคนอื่นไม่น้อย สบายกว่าคนอื่นไม่น้อย ไม่เคยต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตให้รอด ปัญหาทั้งหลายที่มาถึงตัว จขบ.นั้น ส่วนใหญ่เป็นปัญหาทางจิตใจ หรือไม่ก็ปัญหาที่จขบ.ทำตัวเอง

ไม่เคยมีใครกดขี่ จขบ. หรือบีบคั้นให้จขบ.ยอมจำนนเพราะเขามีเงินมากกว่า (เคยแต่ถูกเพื่อนสมัยประถมกันออกไปเพราะมันเป็นเด็กดักแด้พูดจาไม่รู้เรื่อง)

จขบ.และมนุษย์ทั้งปวงในโลกก็มีความซับซ้อนในตัวเอง จขบ.อาจจะเป็นคนธรรมดาเกือบยากจนในสายตาคนบางคน และอาจจะเป็นคุณหนูที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดในสายตาคนบางคน คนอื่น ๆ ก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน คนทุกคนควรพิจารณาตัวเองก่อนจะพิจารณาสิ่งอื่น เพราะถึงจะด่าคนอื่นขนาดไหน แม้ไอ้เวรนั่นมันจะเลวขนาดไหน บางทีมันก็ไม่ได้อะไร นอกจากช่วยประโลมใจให้หายแค้นได้บ้าง

ดังนั้น จขบ.ก็เลยบอกไม่ถูกว่ายังไง แต่จขบ.คิดว่าถ้าสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ตอนนี้มันสร้างปัญหาให้ใคร มันทำให้ใครลำบากตรงไหน จขบ.ก็อยากจะเปลี่ยน อยากจะให้ดีขึ้นเหมือนกัน


Create Date : 21 พฤษภาคม 2553
Last Update : 21 พฤษภาคม 2553 9:44:08 น. 4 comments
Counter : 423 Pageviews.

 
ทุกคนเกิดมาต่างกันค่ะ
แต่ให้มั่นใจว่าเราเป็นคนดี
เราทำทุกอย่างดีที่สุดแล้วดีกว่าค่ะ
สู้ สู้ จ้า


โดย: homepech วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:43:47 น.  

 
สิ่งที่ผมเขียนต่อไปนี้ก็เป็น "ความเห็น" เหมือนกันครับ

ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่จัดใครให้อยู่ในชนชั้นไหนหรือว่าเป็นหมู่เป็นพวกไหนครับ (แม้ว่าจะมีหลายครั้งที่ห้ามตัวเองไม่ทัน)

สมัยที่เรียนอยู่มัธยมต้นผมเองก็มีประสบการณ์จากการถูกมองว่าเป็น "ไฮโซ" เป็น "คุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น" และอะไรอื่นๆ ทำนองนี้ เพราะเราหุงข้าวเตาถ่านไม่เป็น ฯลฯ

แม้ว่าหลังจากนั้นผมจะได้เรียนรู้ว่าจริงๆ แล้วก็มีคนที่ทำอะไรไม่เป็นมากกว่าตัวเอง แต่ประสบการณ์ในสมัยนั้นก็ทำให้ผม sensitive กับคำพูดทำนอง "คุณครู" อยู่จนถึงบัดนี้ และก็กลับกลายเป็นคนที่จะดีใจด้วยซ้ำที่เห็นคนอื่นสบายกว่า หรือใช้ของแพงกว่า


โดย: เจรามี วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:29:21 น.  

 
คนเราเกิดมาต่างกัน เติบโตมาต่างกัน แต่ถึงจะเกิดมาด้วยกัน โตมาด้วยกัน ก็ยังเป็นคนละคนที่แตกต่างกัน

เราคงเปลี่ยนสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ได้ ถึงจะปรับจะเปลี่ยนหลายๆ อย่างที่ประกอบขึ้นมาเป็นตัวเราได้ แต่มันก็มีส่วนที่เปลี่ยนไม่ได้ด้วย แล้วเราก็คงไปเปลี่ยนวิธีคิดวิธีมองของคนอื่นที่มีต่อเราไม่ได้อีก

แม้แต่การพยายามทำดี การทำดีของเรามันก็อาจจะไปไม่ดีในสายตาคนอื่นก็ได้อีกแหละ

เราก็คงเป็นได้แค่ตัวเราเท่านั้นเอง


โดย: LIL IP: 124.120.134.231 วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:34:08 น.  

 
เห็นด้วยว่าเราเป็นได้แค่ตัวเราครับ

ที่จริง เคยฟังคำเปิดหนังเรื่องนึง ถึงจะไม่ได้ดูเต็มเรื่อง จำชื่อเรื่อง แต่ก็โดนมาก

"Be yourself, coz life's too short to be someone else."

และอีกเรื่องที่ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่ได้ฟังมา คิดว่าพี่ปันคงเคยฟังมาเหมือนกัน ก็คือรุ่นพี่ของเรา พระองค์หนึ่ง สมัยที่ท่านยังเรียนอยู่ในตึกเรา ท่านได้มีห้องน้ำและลิฟต์ส่วนพระองค์

มีคนไม่พอใจ เข้าไปเอาลิปสติกเขียนกระจกห้องน้ำท่าน ว่า "ชนชั้นศักดินา"

ท่านก็เขียนตอบไปว่า "ใช่ว่าเลือกเกิดได้"

ไม่ทราบว่าจริงเท็จแค่ไหน แต่ผมก็ว่ามันสะท้อนอะไรบางอย่าง เราเลือกเกิดไม่ได้ เราเลือกที่จะเป็นได้ไม่ทั้งหมด แต่เราก็ยังเลือกที่จะเป็นบางอย่างได้บ้างไม่ใช่เหรอ

การถูกเกลียด ถูกแบ่งแยกแค่เพราะสิ่งที่ตัวเอง "เกิดมาเป็น" หรือ "ถูกมองว่าเป็น" มันก็น่าเจ็บปวดอยู่ในใจเหมือนกัน แต่มันคงไม่ใช่สิ่งที่เราจำเป็นต้องแบกเอาไว้หรอกละมั้ง

อยากเป็นตัวเรา ตราบใดที่ไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อนอย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ เห็นใครลำบาก ช่วยได้ก็จะช่วย ขณะเดียวกัน เวลาเราลำบาก ก็อยากให้มีคนมาช่วยเราเหมือนกัน

แต่ความกระทบในใจเขาที่เกิดจากการมองเข้ามาเห็นเรา มันก็อาจเป็นสิ่งที่ตัวเราแก้ไม่ได้ แก้ได้ก็แค่เขาแก้มุมมองตัวเอง เราช่วยเขาแก้มุมมอง (ถ้าทำได้...) ไม่ก็ แก้ให้ใจเราไม่ถูกกระทบด้วยมุมมองของเขาละมั้ง

ฟังดูซับซ้อนจัง


โดย: Anithin IP: 124.121.28.237 วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:38:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.