Group Blog
 
All Blogs
 
Heart of Greed 10







จากตอนที่แล้ว ป๋าพูดยังไง Tong Chi-on ก็ยังไม่ยอมปริปาก
ว่าให้ใครยืมเงินไป ป๋าเห็นว่าพูดไปไม่มีประโยชน์ งั้นขอเขียนให้อ่านมั่งแล้วกัน เพื่อจะซึมซึ้งกว่า





Tong Yan-kai: เป๋าเล็ก แม่เคยสอนป๋าว่า ครอบครัวจะมีความสุขได้ ต้องอาศัยคำคำหนึ่ง
นั่นคือคำว่า ซื่อสัตย์ ป๋าเลี้ยงลูกมากับมือ ใครๆ ก็รู้ว่าลูกเป็นเด็กดี และซื่อสัตย์ขนาดไหน
หลังจากป๋ารู้ว่าลูกยักยอกเงินบริษัท ป๋ากังวลจนนอนไม่หลับมาสองคืนแล้ว
ป๋ารู้ว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ บอกป๋ามาเถอะว่าเกิดอะไรขึ้น ป๋าจะอยู่เคียงข้างลูกเสมอ




กิลเบิร์ตเองก็ไม่สบายใจ เขาอยากให้ Tong Chi-on บอกความจริงไปซะเลย
ไม่อย่างนั้น อา Po ก็จะกัดไม่เลิก แม่รองก็สะใจ ส่วนป๋าก็ไม่สบายใจ
แม้แม่ใหญ่จะไม่พูดอะไร แต่ในใจก็คงกังวลเช่นกัน กิลเบิร์ตไม่อยากให้พี่ชายต้องกลายเป็นแพะรับบาป

Tong Chi-on: พี่รู้ แต่เราจะทำยังไงได้ล่ะ หรือจะให้บอกว่าแฟนนายเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้ว
นายเป็นชู้กับเธอ มีคนพบภาพลับของพวกนาย แล้วเอามาแบล็คเมล์ อย่างนั้นหรือ
เชื่อพี่เหอะ เราควรเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ หากรู้ออกไป เป๋าใหญ่จะมองเธออย่างไร
แม่รองกับอา Po ล่ะ พวกเขาอาจขัดขวางการแต่งงานของนายนะ
กิลเบิร์ต: แต่เป็นอย่างนี้ ผมก็ไม่สบายใจ
Tong Chi-on: ถ้างั้น นายก็รีบหาทางหาเงินมาใช้คืนซะ เรื่องก็จะจบไปเอง






อา Po เห็น Foon กำลังดูนิตยสารรถ อา Po ได้โอกาสแขวะอีกแระ
โห รถราคาเจ็ดแสน กิลซื้อซักคัน อ้อ แม่บ้านก็ควรจะให้ลูกซื้อซักคันด้วย
เงินเดือนไม่พอก็ไม่เป็นไร มาทำงานที่ Tong Ki ดิ
ใครๆ ก็รู้ว่าที่เนี่ยโกงง่าย เด๋วก็ได้เงินไปซื้อรถ





ป๋าพยายามเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอาหาร ยังค่ะ ยังไม่สะใจ อา Po กัดต่อ

อา Po: เป๋าเล็ก นายอย่ากินให้มันมากนักนะ คนอย่างนาย กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ
เหลือให้ไว้พวกเรากินมั่ง





กิลเบิร์ตฟังแล้วชักฉุน ลุกขึ้นตบโต๊ะ Tong Chi-on ต้องรีบห้ามน้องชาย
ส่วนอา Po ยังไม่รู้เรื่อง นึกว่ากิลตบแมลงวันไปโน่น




ป๋าเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องสอบของ Yan Yan ประวัติศาสตร์ตั้งสามพันปีใครจะไปอ่านได้หมด
ยุคไหนสมัยไหน ล่มจมเพราะอะไรบ้างก็ไม่รู้ เข้าทางอา Po อีกจนได้

อา Po: ยุคไหนสมัยไหน ก็ไม่สำคัญหรอกหลานเอ๊ย
ที่ราชวงศ์ต้องล่มจมก็มีเหตุผลเดียวนั่นแหละ คือ โกงกิน
เจ้าหน้าที่ยักยอกเงินหลวง ท้องพระคลังว่างเปล่า ราชวงศ็ก็ล่มสลาย
ตอบแบบนี้แหละ รับรองถูกแน่ ว่าแต่หลานเรียนประวัติศาสตร์ตะวันตกหรือยังล่ะ
ต่างชาติก็เหมือนกันนะ ล่มสลายเพราะการโกงกิน
แม่ใหญ่: หยุดกินไปพูดไปซะทีเถอะ น้ำลายกระเด็นลงอาหารหมดแล้ว
อา Po: ใช่สิ น้ำลายผม มันน้ำลายคนจน ฟังแล้วมันแสลง
เฮ้อ ทำงานมาตั้งสิบปี ไม่รู้จักยักยอกโกงกินกับเค้า ถึงได้ยากจนอยู่หยั่งงี้

มีอา Po คอยเสียดสี กระแนะกระแหนตลอดเวลา ใครจะไปกินอาหารได้ลง
มีแต่แม่รองคนเดียวแหละ ที่ฟังแล้วมีความสุข






แม่รองยังคิดว่าที่อา Po พูดไปเสียเปล่า เพราะ Tong Chi-on ไม่ได้รู้สึกสะดุ้งสะเทือนอะไรเลย
อา Po ยังยืนยันที่จะกัดจิกต่อไป จนกว่า Tong Chi-on จะทนไม่ได้ โห นิสัย

แม่รอง: พี่ใหญ่ก็เหลือเกิน ไม่พูดอะไรเลย ยังจะให้เธอหยุดพูดซะอีก
อา Po: ทั้งบ้านตอนนี้ ก็มีแต่พี่แหละที่เป็นมิตรกับผม (เพราะอะไรล่ะยะ คิดซะมั่งดิ)
พูดถึงเรื่องฟาร์มเป๋าฮื้อที่เมืองจีน ตอนนี้เราเริ่มมีกำไรแล้วนะ
พรุ่งนี้ ผมจะเซ็นเช็คส่วนแบ่งให้พี่ ก็คงได้ซักสองสามหมื่น
แม่รอง: อะไร้ พี่ยังไม่ได้ร่วมลงเงินเลย
อา Po: เอาน่า ก็ผมรับปากแล้วว่า ผมจะให้พี่หุ้นด้วย สินค้าทั้งหมดผมจะขายให้กับ Tong Ki
พี่ก็น่าจะคำนวณได้ว่า เราจะมีกำไรเท่าไหร่
แม่รอง: ไม่เท่ากับว่าเราเอาเปรียบบริษัทหรือ
อา Po: ทีไอ้เจ้านั่นมันยังยักยอกเงินบริษัทไปตั้งเจ็ดแสน ยังตีหน้าระรื่นอยู่ได้ พี่ลองคิดดูให้ดีๆ ละกัน





กิลเบิร์ตมารับแจ๊คกี้ ซึ่งเข้าบริษัทไปคุยกับโรนัลด์ สามีของเธอเรื่องหย่า
รอตั้งหลายชั่วโมง ทำไมคุยนานจัง





แจ๊คกี้บอกว่าในที่สุด โรนัลด์ก็ยอมที่จะหย่าให้ แต่เนื่องจากพ่อของเขา ต้องเข้าผ่าตัดหัวใจ
เขาขอให้การผ่าตัดเรียบร้อย พ่อยอมอนุญาตเรื่องการหย่า เขาก็จะเซ็นใบหย่าให้
อย่างมากก็ไม่เกินสองเดือน

กิลเบิร์ต: เรื่องหย่าเป็นเรื่องของคุณสองคน ทำไมต้องให้พ่อสามีคุณอนุญาตด้วย
แจ๊คกี้: ก็โรนัลด์เขาเคารพพ่อมาก
กิลเบิร์ต: แต่ผมเป็นห่วงพี่เป๋าเล็ก ผมไม่อยากให้เขาต้องทนไปอีกตั้งสองเดือน
แจ๊คกี้: ชั้นเข้าใจ แต่ชั้นไม่อยากทะเลาะกับโรนัลด์ อยากให้เราจากกันด้วยดี
ถ้าเขาโกรธขึ้นมา เขาอาจจะทวงแฟลตคืนก็ได้
กิลเบิร์ต: คุณก็จะหย่ากับเขาแล้ว ยังจะเอาแฟลตเขาไว้ทำไม
แจ๊คกี้: แฟลตเนียของแม่ชั้นหรอก อีกอย่างก็อีกแค่สองเดือนเอง อีกไม่นานก็จบแล้ว
ชั้นสัญญาว่าชั้นจะหย่ากับเขาแน่นอน





Tong Chi-on โทรหากิลเบิร์ต เขาก็ไม่กล้าบอกว่าตัวเองอยู่กับแจ๊คกี้
Tong Chi-on กำชับว่าก่อนแจ๊คกี้จะหย่าเสร็จ กิลเบิร์ตไม่ควรไปพบเธอ หรือว่ามีอะไรกับเธออีก




พอดี ป๋ามาแอบฟังโทรศัพท์ Tong Chi-on เลยต้องรีบวาง

Tong Chi-on: ป๋าเข้าห้องคนอื่นไม่เคาะประตู ไม่มีมารยาทซะเลย
Tong Yan-kai: แกสิไม่มีมารยาท ป๋าส่งจดหมายให้แก ทำไมแกไม่เขียนตอบ
ถ้ายังมีความละอายอยู่บ้าง รีบบอกป๋ามา ว่าแกเอาเงินเจ็ดแสนไปให้ใคร
ถ้าลำบากใจที่จะพูด ก็เขียนจดหมายตอบป๋ามาก็ได้
Tong Chi-on: ป๋าอย่าบังคับผมน่า
Tong Yan-kai: ชั้นบังคับแกงั้นหรือ แกนอนกับแม่ Seung Joi-sum จริงๆ ใช่มั้ย
Tong Chi-on: เหลวไหลน่าป๋า
Tong Yan-kai: เมื่อคืนชั้นฝัน ว่าแกกับแม่นั่นอยู่บนเตียงด้วยกัน แล้วก็มีคนบุกเข้ามาถ่ายรูปพวกแก
Tong Chi-on: พอแล้ว ป๋าจะดูถูกผม ผมก็ไม่ว่า แต่อย่าดูถูก Seung Joi-sum
เธอเป็นคนดีมีการศึกษา กำลังจะเป็นทนายความแล้วด้วย ถ้าป๋ายังพูดถึงเธอเสียๆ หายๆ ผมจะโกรธแล้วนะ
Tong Yan-kai: อย่างนี้ยังบอกไม่มีอะไรกันอีก

โอ๊ย Tong Chi-on อยากจะบ้า ป๋านะป๋า พูดเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง
โชคดี (รึเปล่า) ที่อา Lei เข้ามาขัดจังหวะ ให้ไปช่วยกันดู Yan Yan





Yan Yan จะต้องสอบพรุ่งนี้ แต่เธอนอนไม่หลับ
เป๋าใหญ่เป๋าเล็กจึงชวนเธอเล่นตีปิงปอง เหนื่อยแล้วจะได้หลับสบาย
โธ่เอ๋ย หนที่แล้วเล่นด้วยกันเป๋าเล็กยังได้แค่ศูนย์คะแนนเล้ย
ต่อให้แท็คทีมกันมา Yan Yan ก็ไม่กลัว

เป็นลูกสาวคนเล็กเนี่ย ดีเนอะ มีแต่คนเอาใจ





สามพ่อลูก ตีปิงปองกันอย่างดุเดือด ทั้งมันส์ ทั้งฮา
เป๋าใหญ่เป๋าเล็กได้แต้มเมื่อไหร่ เป็นต้องโชว์ลีลา
สุดท้าย Yan Yan ก็เป็นฝ่ายแพ้ คนแพ้ แต่กองเชียร์ไม่ยอมแพ้

ช่วยกันเขวี้ยงลูกปิงปองใส่ซะเลย
เอ ว่าแต่แม่รองหายไปไหนหว่า ไม่มาร่วมเฮฮากับเค้าด้วย






Tong Yan-kai ฉวยโอกาสที่ Tong Chi-on คุยกับ Yan Yan ทำเป็นยืมมือถือ
Tong Chi-on มัวแต่ห่วง yan yan เลยไม่ระแวง




ป๋าโทรหา Seung Joi-sum เธอนึกว่าป๋าโทรมาทวงเงินสามหมื่น
จึงรีบบอกว่ากำลังหาเงินใช้หนี้ให้ ตอนนี้กำลังทำงานพาร์ทไทม์ที่สนามม้า

Tong Yan-kai: เงินสามหมื่นนั่น ชั้นแทงเป็นหนี้สูญไปแล้ว
ชั้นพูดถึงเงินเจ็ดแสนเหรียญต่างหาก
Seung Joi-sum: เจ็ดแสนเหรียญ ?@#%$?
Tong Yan-kai: เจ้าโอเคมันเป็นคนซื่อสัตย์ มันไม่มีทางเอาเงินเจ็ดแสนไปโดยไม่มีเหตุผล
Seung Joi-sum: คุณลุงพูดเรื่องอะไรคะ
Tong Yan-kai: เธอไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่อง ชั้นรู้จักผู้หญิงแบบเธอดี
หนังสือพิมพ์เค้าก็ลงข่าวกันบ่อยๆ อย่างยัยคนนั้นที่นอนกับอาจารย์แล้วถ่ายรูปแบล็คเมล์เงินห้าแสนเหรียญ
Seung Joi-sum: คุณลุงคะ อย่าใส่ร้ายกันสิคะ ชั้นเปล่าทำซะหน่อย
Tong Yan-kai: เธอก็ต้องปากแข็งว่าไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว แต่ชั้นรู้จักลูกชายชั้นดี
ชั้นรู้จักเพื่อนเค้าทุกคน ประวัติเธอมันแย่ที่สุด ไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร
ชั้นจะให้โอกาสเธอ คืนเงินเจ็ดแสนมาซะ แล้วชั้นจะไม่เอาเรื่อง
Seung Joi-sum: คุณลุงคะ ถ้ายังพูดไร้สาระอีก ชั้นจะวางหูแล้วนะ
Tong Yan-kai: วางหูแล้วนึกว่าจะจบเรื่องงั้นหรือ ชั้นน่ะซี้กับตำรวจหลายคนนะ
คิดจะแบล็คเมล์ลูกชายชั้นงั้นหรือ ชั้นจะเอาเธอเข้าคุกให้ได้





Tong Chi-on เข้ามาได้ยินตอนท้ายๆ ทำให้เขาโกรธมาก

Tong Chi-on: ทำไมป๋าทำแบบนี้ ป๋าคิดบ้างมั้ยว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร
Tong Yan-kai: แล้วแกล่ะ คิดบ้างมั้ยว่าป๋าจะรู้สึกยังไง
ป๋าถามอะไร แกก็ไม่ยอมตอบ ป๋าเขียนจดหมายหาแก แกก็ไม่เขียนตอบ
ป๋าไม่มีทางเลือก ก็ต้องโทรหาเธอสิ
Tong Chi-on: ผมจะบ้าตายก็เพราะป๋าเนี่ยแหละ
Tong Yan-kai: ชั้นยังไม่บ้าตายเพราะแกเลย ยังมีหน้ามาบอกว่าแกจะบ้าตายเพราะชั้นอีก




Tong Chi-on เป็นห่วง Seung J oi-sum โทรหาก็ไม่ยอมรับสาย
ตามหาตัวก็ไม่เจอ จึงมาดักคอยที่หน้าบ้าน เขาพยายามขอโทษเธอหลายครั้ง
Seung Joi-sum ให้เขาดูกำแพงที่เธอเขียนสิ่งที่เธอลืมไม่ลงเมื่อสิบปีก่อน

Seung Joi-sum: ตอนนั้น ชั้นอายุสิบสี่ปี ชั้นจำได้ว่าคืนนั้นฝนตก
อยู่ดีๆ พ่อก็ตื่นขึ้นมากลางดึกบอกว่าอยากกินบ๊ะจ่าง
ตอนนั้นเราถังแตก ไม่มีเงินเลย ชั้นจึงไปขโมยของที่ร้าน โชคไม่ดีชั้นโดนจับได้
ผู้หญิงอ้วนคนนั้นตบชั้น แล้วพูดสิ่งที่ชั้นจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต






Tong Chi-on: อะไรเหรอ
Seung Joi-sum: เธอบอกว่าถ้าอยากกินบ๊ะจ่างมากนัก ทำไมไม่ไปขายตัวซะล่ะ
ชั้นโกรธผู้หญิงใจร้ายคนนี้มาก ชั้นคิดสารพัดวิธีที่จะแก้แค้นเธอ ชั้นอยากจะตีเธอให้สลบ
วางยาพิษเธอให้ตาย แต่เสียดายชั้นไม่มีเงินที่จะทำอย่างนั้น
วันหนึ่ง ชั้นเห็นเธอกำลังรอรถไฟฟ้าอยู่ ชั้นจึงแอบเข้าไปข้างหลังเธอ
ผลักเธออย่างแรง ชั้นได้ยินเสียงรถบดขยี้ร่างเธอ กระดูกเธอ มันสะใจชั้นจริงๆ
เสร็จแล้ว ชั้นก็ไปโรงเรียน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ชั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมชั้นถึงมีความสุขขนาดนั้น





แหม เกือบอำสำเร็จแล้วเชียว Tong Chi-on ดันเห็นหลักฐานซะก่อน
อำกลับซะเลย

Tong Chi-on: แต่ผมเข้าใจความรู้สึกคุณนะ เพราะผมก็เคยฆ่าคนตายมาก่อน
Seung Joi-sum: ไม่จริงอ่ะ คุณฆ่าใคร
Tong Chi-on: พ่อคุณเอง ผมขอโทษ
Seung Joi-sum: นายฆ่าพ่อชั้นทำไม
Tong Chi-on: ผมก็ไม่อยากทำ ผมบอกพ่อคุณตั้งหลายหนแล้วว่าผมแซ่ Tong
เค้าก็เรียกผมนายโอเค นายโอเค อยู่นั่นแหละ ผมฟังจนประสาทเสีย
เลยหยิบขวดขึ้นมาฟาดเข้าให้





Seung Joi-sum: หนอยแน่ กล้าอำชั้นเหรอ นายน่ะเหรอฆ่าพ่อชั้น เชอะ
Tong Chi-on: ทำไมต้องใช้กำลังด้วยล่ะ
Seung Joi-sum: พ่อชั้นแก่แล้ว นายจะอยากฆ่าพ่อชั้นไปทำไม
Tong Chi-on: ก็ทีคุณยังอำผมก่อนเลย
เนี่ย เห็นป่ะ การป้องกันอาชญากรรมเป็นหน้าที่ของทุกคน
คณะกรรมการป้องกันอาชญากรรมประจำชุมชน Sai Wan

เมื่อเห็น Seung Joi-sum ไม่โกรธที่ป๋าโทรมาต่อว่า
Tong Chi-on ก็สบายใจขึ้น





กิลเบิร์ตพาแจ็คกี้มาพบพ่อสามี เพราะอยากให้เธอเคลียร์กับเขาให้เข้าใจ
แต่สุดท้ายแจ๊คกี้ก็ไม่ได้พูดออกไป เธอเห็นแก่พ่อสามีอายุมากกว่า 80 ปี
แถมสุขภาพก็ไม่ค่อยจะแข็งแรง อยากจะรอให้อาการดีขึ้นก่อน กิลเบิร์ตเซ็งน่าดู






Tong Chi-on ไม่อยากจะร่วมโต๊ะกับอา Po ขี้เกียจจะฟังคำแดกดัน
แต่ป๋าบอกว่าอา Po ไม่สบาย ต้องสวมผ้าปิดปาก คงไม่พูดอะไรมาก
ที่ไหนได้ แค่น้ำแกงเค็ม อา Po ก็ลากมาเข้าเรื่องได้อีก จนกิลเบิร์ตชักจะหมดความอดทน
ป๋ารีบตักขาไก่หมักกาแฟให้อา Po กินซะจะได้ปิดปาก

อา Po: เป๋าเล็ก แกก็อย่ากินไก่หมักกาแฟให้มากล่ะ เดี๋ยวจะติด
เรื่องโกงบริษัทก็เหมือนกัน อย่าทำบ่อย เด๋วจะติดเป็นนิสัย บริษัทจะไม่มีอะไรเหลือ






ก่อนที่กิลเบิร์ตจะหมดความอดทน แม่ใหญ่ก็ทนไม่ได้ซะก่อน
แม่ใหญ่ให้แม่บ้านจัดสำรับให้อา Po ต่างหาก
อา Po ไม่นึกว่าแม่ใหญ่จะเอาจริงขึ้นมา รีบปิดปากแทบไม่ทัน

อา Lei: พี่ใหญ่คะ ครอบครัวเดียวกัน อย่าทำอย่างนี้เลย
แม่ใหญ่: ครอบครัวเดียวกันงั้นหรือ ทุกครั้งที่กินข้าว ต้องหาเรื่องมาเสียดสีไม่ได้หยุดหย่อน
ทำให้แต่ละคนกินข้าวไม่ลง ถ้าไม่เห็นพวกเราเป็นคนในครอบครัว ต่อไปก็ไม่ต้องมากินข้าวร่วมโต๊ะกันอีก
แม่รอง: พี่ใหญ่คะ พี่จะไม่ชอบที่อา Po พูด ก็โอเคค่ะ
แต่ถ้าพี่จะบอกว่าอา Po ไม่เห็นพี่เป็นครอบครัว เลยไม่ให้เขามากินข้าวร่วมโต๊ะ
ชั้นว่ามันเกินไป ชั้นยังจำได้ ตอนปี 1985 พี่ป่วยเป็นมะเร็ง
อา Po ร้องไห้อยู่ที่โรงพยาบาลสองวันสองคืน จนตางี้บวมเชียว
เขายังอุตส่าห์ไปเรียน Qi Kong เพื่อมาสอนพี่ให้ต่อสู้กับโรคร้าย
อย่างนี้พี่ยังว่าเขาไม่เห็นพี่เป็นคนในครอบครัวอีกหรือ





อา Po ได้ที ร้องห่มร้องไห้เรียกคะแนนสงสาร

แม่ใหญ่: Kam พี่ก็จำได้ พี่จำได้ว่าอา Po ทำอะไรเพื่อพี่บ้าง
แค่ค่าเรียน Qi Kong ก็ปาเข้าไปคอร์สละ 98,000 เหรียญ
Tong Yan-kai: เรื่องมันแล้วไปแล้ว ก็ลืมมันเถอะ
อา Po กินไก่กาแฟซะก่อนที่มันจะกลายเป็นไก่กาแฟเย็น
แม่รอง: ชั้นยังพูดไม่จบเลย พี่ใหญ่คะ
พูดตามตรง ชั้นก็ไม่ได้ชอบอา Po หรอกนะ แล้วก็ไม่ได้ชอบร่วมโต๊ะกับกับเขาด้วย
เขาไม่เคยพูดอะไรที่ฟังแล้วรื่นหู แต่ที่เขาพูดก็เป็นความจริง
และที่เขาพูดก็เพราะเป็นห่วงพี่และครอบครัว ใช่มั้ยอา Po
ใครจะเหมือนโอเคล่ะ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา
ใครจะไม่อยากร่วมโต๊ะด้วยล่ะ แต่โอเคยักยอกเงินร้านเป็นเรื่องจริง
พี่ใหญ่มักจะบอกให้คนในครอบครัวซื่อสัตย์ แต่เขาไม่ยอมบอกว่าเอาเงินไปทำอะไร





ทั้งป๋า และลูกๆ ช่วยกันห้ามปรามไม่ให้แม่รองพูดต่อ แต่แม่รองยังดึงดัน

แม่รอง: ขอชั้นพูดให้จบก่อน พี่ใหญ่ พี่บอกว่าคุณนาย Wong สอนลูกไม่เป็น
ทำให้อา Wing เป็นเด็กโมโหร้าย แล้วพี่ล่ะ พี่สอนลูกยังไง
Tong Yan-kai: ป๋าขอล่ะ หยุดพูดได้แล้ว
แม่รอง: เอ๊ ป๋าก็ ชั้นหวังดีนะ ไม่อยากให้พี่ใหญ่ถูกชาวบ้านเขาหัวเราะเยาะว่าเลี้ยงลูกให้เป็นโจร
Tong Chi-on: พอเถอะครับ ผมเป็นคนเอาเงินไป ผมเป็นคนผิด ไม่เกี่ยวอะไรกับแม่ใหญ่
อย่าว่าแม่ใหญ่เลยครับ จะว่าก็ว่าผมเถอะ
แม่ใหญ่: เป๋าเล็ก ไม่ต้องพูดแล้ว ขึ้นไปข้างบนกับแม่




แม้สิ่งที่แม่รองพูดจะบาดใจ แต่แม่ใหญ่ก็เถียงไม่ออก เพราะเป๋าเล็กผิดจริง
แถมนี่ก็ผ่านไปตั้งอาทิตย์แล้ว เป๋าเล็กยังไม่ยอมบอกว่าเอาเงินไปทำอะไร

แม่ใหญ่: คิดดูซิว่าคนทั้งครอบครัวเป็นห่วงแค่ไหน Yan Yan ไม่เป็นอันสอบ ป๋าก็นอนไม่หลับ
อา Lei, Yat และ Foon โดน อา Po กระแนะกระแหนไม่เลิก
บางครั้งแม่ก็สุดจะทน แม่อยากจะพูดอะไรออกมา แต่ก็ต้องห้ามตัวเองไว้
เพราะอะไร เพราะแม่อยากให้ลูกเรียนรู้คำว่าซื่อสัตย์ แต่ลูกก็เอาแต่ยิ้มทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
Tong Chi-on: ผมขอโทษ ผมทำให้ทุกคนผิดหวัง ผมสัญญาว่าจะใช้เงินคืนแน่ๆ
แม่ใหญ่: ถึงตอนนี้ ลูกยังพูดอย่างนี้อยู่อีกหรือ ถึงลูกจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของแม่
แม่ก็เลี้ยงลูกสี่คนอย่างเท่าเทียมกัน แม่เป็นแม่ของลูกนะ ลูกจะบอกแม่ได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น





แม่ชักมีน้ำโห ทุกคนต้องรีบเข้าขวาง

Tong Yan-kai: แกให้ใครยืมเงินไปกันแน่
Tong Chi-on: ผมรับปากไว้ว่าจะไม่บอกใคร
Tong Yan-kai: เพื่อนแกคนนี้เป็นใคร แกเงินเดือนแค่สามหมื่น เค้ายังกล้ายืมเงินแกเจ็ดแสน
Tong Chi-on: อย่าถามผมอีกเลย ลูกผู้ชายต้องรักษาสัญญา
แม่ใหญ่: เป๋าเล็ก บอกแม่มาว่าลูกไม่ได้โกหกแม่ใช่มั้ย
Tong Chi-on: ใช่ครับ
แม่ใหญ่: งั้นก็ได้ ต่อไปเราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก





คืนนั้น Seung Joi-sum โทรหา Yan Yan เพื่อนัดกินเลี้ยงวันเกิดเพื่อนหลังเธอสอบเสร็จ
ถึงได้รู้เรื่อง Tong Chi-on




ด้วยความเป็นห่วง เธอจึงโทรหาเขา
Tong Chi-on กำลังหลบฝนอยู่ในตู้โทรศัพท์แถวบ้าน Seung Joi-sum
เขาไม่อยากให้เธอต้องกังวล จึงโกหกว่าปัญหาทุกเรื่องได้รับการแก้ไขแล้ว






Seung Joi-sum เห็นเขาอยู่ในตู้โทรศัพท์จึงรู้ความจริง
เมื่อ Tong Chi-on ถามเรื่องงานของเธอ เธอจึงโกหกว่าได้งานใหม่ในบริษัทส่งออกแล้ว
Tong Chi-on เห็นฝนหยุดตก เขาออกจากตู้โทรศัพท์จึงเห็น Seung Joi-sum เขารีบหลบไม่ให้เธอเห็น





Seung Joi-sum ยังคงเป็นห่วง Tong Chi-on เธอจึงส่งเมล์มาให้เขา
ในเมล์เป็นกล่องของขวัญซึ่งใส่ลูกกวาดเอาไว้

Seung Joi-sum : ชีวิตอาจจะขมขื่นไปบ้าง ชั้นขอมอบสิ่งที่หวานให้คุณ จากใจ
Tong Chi-on: ได้รับความหวานจากคุณ ใครจะไปสนความขมขื่นในชีวิต





อ๊ะ อ๊ะ อย่าเพิ่งคิดเลยเถิดกันไปนะ บนโต๊ะ Seung Joi-sum ยังมีรูปหนุ่มคนนี้อยู่จ้า
เฮ้อ ออกมานิดเดียวในตอน 7 นี่ปาเข้าไปตอน 10 แล้วน้า
ใจคอจะไม่ให้แม่ยกเห็นให้ชื่นใจมั่งเหรอ เด๋วเลิกดูเลยนี่




อา Po ยังงอนไม่เลิก ไปทำงานก็ไม่ยอมคุยกับลูกค้า ทำตัวเป็นเด็กไปได้
เค้าอ้างว่า พี่ใหญ่ไม่ให้พูด ไม่งั้นจะไม่ให้กินข้าวร่วมโต๊ะ
ขนาด Tong Chi-on ยอมขอโทษแทนแม่ใหญ่ เค้าก็ไม่ยอมแพ้
เล่นเอาอา Lei พลอยโมโหไปด้วย ถ้าจะมานั่งทำหูหนวกเป็นใบ้อยู่ที่นี่ ก็ออกไปเลยดีกว่า





ถึงเวลากินข้าว ใครพูดด้วย อา Po ก็ไม่ยอมพูด
ขนาดแม่ใหญ่ยอมอ่อนข้อ พูดด้วยก่อน อา Po ยังคงงอนต่อไป
แม่ใหญ่ชักรำคาญ งั้นก็ให้แม่บ้านตั้งโต๊ะให้กินต่างหากไปเลย
แม่รองได้ทีใส่ไฟใหญ่ ครอบครัวร้าวฉาน เป็นงานของชี





แม่รอง: อา Po อย่ามากเรื่องเลยน่า ถ้าคนเขาจะหัวเราะเยาะ
เค้าก็หัวเราะเยาะพี่ใหญ่สอนลูกไม่เป็น ไม่ใช่หัวเราะเยาะเธอ
แม่ใหญ่: Bing ไม่ได้ยินหรือ ชั้นสั่งให้จัดสำรับใหม่ ไม่ใช่แค่มื้อนี้นะ
ต่อไป ทุกมื้อเขาจะกินแยกสำรับกับพวกเรา
อา Po: พี่ใหญ่ พี่จะเอายังไงกับผม ผมพูด พี่ก็ไล่ให้ผมไปกินที่อื่น
พอผมไม่พูดพี่ก็ไล่ผมอีก พี่จะเอายังไงกับผมแน่
ผมเชื่อฟังพี่มาตลอด พี่เป็นหัวหน้าครอบครัวนี่ พี่ว่ายังไงผมก็ว่ายังงั้น
ทีหมอนั่นขโมยเงินร้าน พี่ไม่ด่ามันซักคำ
ต่อให้พี่ด่าผมร้อยหนพันหน ถ้าพี่ด่ามันซักครั้ง ผมก็จะไม่ว่า
พี่ใหญ่ พี่สอนลูกยังไง





อ้าว อ้าว ลามปามถึงแม่ใหญ่ กิลเบิร์ตก็ทนไม่ไหวอ่ะดิ

กิลเบิร์ต: หุบปากไปเลย เรื่องนี้ไม่มีใครผิด เป๋าเล็กก็ไม่ผิด แม่ใหญ่ก็ไม่ผิด ผมผิดเอง












Create Date : 20 มกราคม 2551
Last Update : 26 มกราคม 2551 22:28:54 น. 3 comments
Counter : 2055 Pageviews.

 
อะเอิ๊ก เห็นรูปถ่ายมาติ๊ดนึง น่ารักดีค่ะ ชุดนักเรียนน้องลิน คล้าย ๆ เด็กอาบ้านเรา

สู้ ๆ ค่ะ เดี๋ยวจะออกยัง ALfred จะลืมชื่อแล้วเนี่ย


โดย: ข้าน้อยคาราวะ (ข้าน้อยคาราวะ ) วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:10:00:55 น.  

 
555 เกือบลืมว่ามีชายที่ชื่ออัลเฟรดอยู่ในเรื่องเหมือนกัน โผล่มาให้เห็นในรูปถ่ายใบนั้น ทำราวกับเป็นอดีตรักมิอาจลืม รึว่าจะลืมบ้างเป็นโอกาสก็ไม่รู้


โดย: midori (momoka ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:48:02 น.  

 
ครอบครัวชักร้าวฉานซะแล้ว จากที่รักกันดีๆมาตั้งแต่ตอนที่ 1 ทำให้ปริศนาที่เราคาใจมาตลอดว่าทำไมเรื่องนี้ถึงได้เป็นเรื่องการแย่งมรดกกันไปได้ นี่ไงล่ะแววกำลังออก - -"

ขอโทษนะคะที่เราเพิ่งเม้นต์เป็นครั้งแรก ทั้งๆที่อ่านมาแล้วตั้งหลายๆๆๆๆๆตอน ขอโทษที่เสียมารยาทค่ะ T_T คือเรา...ไม่รู้ว่าจะเม้นต์ยังไงดีกับหนังจีน ที่ผ่านมาเคยแต่ดูเอง ไม่เคยมาอ่านเรื่องย่อเป็นตอนๆแบบนี้ แต่ต่อไปจะพยายามนะคะ >_<

เราเคยโหลดตอนจบเรื่องนี้มาดูแล้ว แต่ภาษาจีนบานขนาดนั้น ฟังไม่รู้เรื่องเลย ToT~ แค่อยากรู้ตอนจบก่อนว่าเป็นไง แฮ่ๆๆ

ตอนที่ 10 นี่สงสารพระเอกเลยค่ะ ตอนที่คุยโทรศัพท์กับนางเอกแล้วร้องไห้นะ ทั้งๆที่เป็นคนร่าเริงออกแท้ๆ สุดท้ายกิลก็ทนไม่ได้ จะได้รู้ความจริงกันเร็วๆนี้แหละนะ


โดย: hnee IP: 125.24.128.116 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:4:16:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

magarita30
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add magarita30's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.