The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 15
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 15จากตอนที่แล้ว บ้อเช้ง ตุยเมี่ย และแนฮ้วยยอมสละป้ายมือปราบ เพื่อช่วยเหลือทิชิ่วคุ้มครอง Lam Yuek-feiLing Lok-shek หรือจะยอมรามือ ต้องสู้กันซักยกสู้กันยังไม่ทันเสียเหงื่อ ท่านจูกัวะซิงแซก็ตามมาขัดขวางLing Lok-shek อ้างว่าเป็นเรื่องของยุทธภพ ไม่เกี่ยวกับกองปราบสี่หนุ่มก็สละป้ายมือปราบแล้ว กองปราบจะมาช่วยเหลือไม่เป็นการสมควรท่านจูกัวะไม่ได้อนุญาตซักหน่อย ถึงสละป้ายไปก็ไม่มีผลทางกฏหมาย เข้าใจป่ะส่วน Lam Yuek-fei ทำร้ายมือปราบทิ ต้องนำตัวกลับไปสอบสวนอ้อ เผื่อลืม เตือนให้ ก็ตัวเองน่ะไล่ Lam Yuek-fei ออกจากสำนักฟ้าแล้วถึงเป็นจ้าวยุทธก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินโทษนางอีกอย่างจูกัวะซิงแซจับตัวลูกน้องทรยศของ Lam Yuek-fei ได้ระหว่างการหลบหนีถ้ากองปราบสืบสวนรู้ความจริงว่า จ้าวยุทธตั้งใจวางกับดักให้ Lam Yuek-fei มาฆ่าตัวเองล่ะก็คิดดูสิว่าหากฮ่องเต้ทรงทราบ คงเป็นจ้าวยุทธได้อีกไม่นานหรอกตุลาการตัดสินลงโทษโบย Lam Yuek-fei 80 ไม้ ข้อหาทำร้ายเจ้าหน้าที่ทางการทิชิ่วให้ลดหย่อนผ่อนโทษ เห็นแก่นางสับสนเสียใจที่บิดาเพิ่งตายLing Lok-shek รีบคัดค้าน กฎหมายต้องเป็นกฎหมายLam Yuek-fei ไม่อยากให้กองปราบลำบากใจ นางยอมรับการลงโทษแต่โดยดีทิชิ่วเป็นห่วงนาง จึงนำยามาให้Lam Yuek-fei: ท่านจะมาห่วงอะไรข้าทิชิ่ว: ต้องห่วงสิ ข้ารับปากเจ้าสำนัก Lam ว่าจะดูแลเจ้าLam Yuek-fei: ข้าไม่อาจสู้หน้าท่านพ่อได้ ข้าสูญเสียสำนักครั้นจะลอบสังหาร ก็นำความเดือดร้อนมาให้ท่านทิชิ่ว: อย่าทำอย่างนี้เลยLam Yuek-fei: คนของข้าทรยศหักหลัง ข้าเหลือเพียงตัวคนเดียวในโลกทิชิ่ว: เจ้าไม่ได้เหลือตัวคนเดียว เจ้ายังมีข้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะอยู่เคียงข้าง คอยช่วยเหลือเจ้าข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเป็นอะไรไหไปอยู่ดีๆ ก็เที่ยวเอาป้ายมือปราบไปทิ้ง ถึงสถานการณ์จะบังคับก็ต้องลงโทษกันซะบ้าง จูกัวะซิงแซลงโทษให้สี่มือปราบช่วยทำงานบ้านแทนอาหญิงเฮ้ยๆ คนอื่นน่ะเค้าตั้งใจทำงานกัน ตุยเมี่ยอย่ามัวอู้ดิแหม น่ารักเชียว บ้อเช้งเป็นคนหั่นผัก แนฮ้วยเป็นคนผัดโอย ทำงานบ้านนี่เหนื่อยกว่าจับผู้ร้ายอีกบ้อเช้ง: จับผู้ร้าย เจ้าน่ะเอาแต่หนีมากกว่าตุยเมี่ย: อย่าจับผิดข้าได้ปะทิชิ่ว: ข้าขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนบ้อเช้ง: เจ้าขอโทษมากพอแล้ว ไม่เบื่อหรือไงตุยเมี่ย: ที่สำคัญ แม่นาง Lam ปลอดภัย นางน่าจะซาบซึ้งเจ้าไม่น้อยหากเจ้าชอบนางล่ะก็ทิชิ่ว: อย่าเอานางมาล้อเล่นเลยแนฮ้วยหนอแนฮ้วย ใครๆ เขาคุยกัน พี่นั่งปลีกวิเวกอยู่ได้นี่สามหนุ่มเล่นเป่าใบไม้ มันช่าง Y จริงหนอ แต่ใบไม้เนี่ยขอบอกว่ามันเอ็กเฟ็กต์ชัดไปหน่อยตอนแรกทุกคนนึกว่าแนฮ้วยจะไม่เล่นด้วยซะอีกบ้อเช้งทำเป็นผ่านไปหาซ่งจือหยินที่โรงหมอ นางออกไปเยี่ยมคนไข้ที่นอกเมืองมีคนไข้ขาหักรอการรักษา บ้อเช้งเลยรับอาสาช่วยต่อกระดูกให้กว่าซ่งจือหยินจะกลับจากเยี่ยมคนไข้นอกเมืองก็มืดค่ำมีคนเป็นห่วงมาเป่าขลุ่ยรอด้วย ชักจะทำตัวกุ๊กกิ๊กไปหน่อยแล้วนะพี่บ้อเช้งซ่งจือหยิน: ท่านซ่อมขลุ่ยให้ข้าเสร็จแล้วหรือ ขอบคุณท่านมากบ้อเช้ง: ข้าสิต้องขอโทษที่ใช้เวลาตั้งนานกว่าจะซ่อมเสร็จซ่งจือหยิน: ข้ายังไม่ได้ขอบคุณท่านที่อุตส่าห์มาคอยที่นี่ท่านกลัวข้าจะหลงทาง นอกจากจะจุดโคมไฟ ยังเป่าขลุ่ยนำทางอีกด้วยบ้อเช้ง: ข้าแค่มาเดินเล่นชมจันทร์ ซ่งจือหยิน: ที่นี่ไกลจากเมืองตั้งเยอะ ท่านเดินเล่นไกลจังบ้อเช้ง: อยากพูดอะไรก็ตามใจเจ้าซ่งจือหยิน: แย่จัง ข้าลืมไปว่ามีคนไข้คอยอยู่ที่โรงหมอบ้อเช้ง: ข้าต่อกระดูกให้เขาแล้วซ่งจือหยิน: ท่านเนี่ยนะบ้อเช้ง: แค่ต่อกระดูกเองไม่เห็นยากซ่งจือหยิน: ข้าไม่ได้สงสัยในความสามารถของท่าน เพียงแต่มันไม่ใช่นิสัยท่านเลยบ้อเช้ง: ข้าก็ทำไปอย่างนั้นซ่งจือหยิน: ตอนเรือระเบิด ท่านก็ช่วยข้าไปอย่างนั้นตอนข้าถูกลอบทำร้าย ท่านก็ตามหาช้า และช่วยรักษาข้าไปอย่างนั้นวันนี้ ท่านก็มารับข้า และช่วยรักษาคนไข้ให้ข้าไปอย่างนั้นงั้นก็ถือว่าข้าขอบคุณท่านไปอย่างนั้น ก็แล้วกันซ่งจือหยิน: ท่านเป่าขลุ่ยได้ไพเราะมาก ใครสอนท่านบ้อเช้ง: ท่านอาสอนข้า ข้าเป็นเด็กกำพร้า ท่านอาเลี้ยงข้ามา และสอนทุกอย่างแก่ข้าซ่งจือหยิน: ข้าอิจฉาท่านนัก แม้ท่านจะเป็นกำพร้าแต่ท่านยังมีอาจารย์ที่ดีท่านหนึ่งบ้อเช้ง: ข้าจำได้ว่า เจ้าก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกันซ่งจือหยิน: ท่านเป่าขลุ่ยได้ไพเราะมาก เป่าให้ข้าฟังอีกทีได้ไหมนางในดวงใจขอร้อง พี่บ้อเช้งก็ต้องทำสิคะเป็นสหายของตุยเมี่ย ก็เหมือนคนในครอบครัวเดียวกันน้ำใจของแม่บุญธรรมตุยเมี่ย ทำให้คนเลือดเย็นอย่างแนฮ้วย พูดคำว่าขอบคุณได้เย็นย่ำค่ำมืดแล้ว Yau-tong ยังต้องออกไปทำงานอีกก็ตั้งแต่Ling Lok-shek เป็นจ้าวยุทธ ชาวบ้านต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้สหพันธ์หนักกว่าเดิมตุยเมี่ยอาสาไปช่วยถือกล่องอุปกรณ์ให้นางเรื่องอะไรทิชิ่วจะปล่อยให้เสือผู้หญิงมาวอแวน้องสาวหน้าที่พี่ชาย คนนอกไม่ต้องยุ่งเลยแย่งกล่องอุปกรณ์กันไปมาจนกล่องพัง โดนเสี้ยนบาดด้วยกันทั้งคู่มันน่าน้อยใจมั้ยเนี่ย ไม่ห่วงพี่ชายเลย มัวแต่ห่วงตุยเมี่ยอยู่ได้Ling Lok-shek ก็รีดไถเงินมาให้ฉั่วเกียนี่แหละลำพังฝีมือตัวเอง ถ้าไม่ได้ฉั่วเกียช่วยเหลือจะมีปัญญาเอาชนะ Lam Po-tin ได้ไงฉั่วเกียไม่ยอมบอก Ling Lok-shek ว่าคนลงมือเป็นใครทิช่ิวกับบ้อเช้งขอร้องให้ซ่งจือหยินรับต้ว Lam Yuek-fei เอาไว้จะได้คอยช่วยดูแลนาง แถมโรงหมอก็อยู่ไม่ไกลจากกองปราบด้วยซ่งจือหยินตรวจอาการนางแล้ว แค่ร่างกายพักผ่อนน้อย กินยาซักเทียบก็หายLam Yuel-fei ไม่อยากให้ทิชิ่วต้องเป็นกังวลใจนางตัดสินใจถอนตัวจากยุทธภพ และลืมเรื่องบุญคุณความแค้นเสียอา Fook แอบกลับไปสำนักเพื่อเก็บข้าวของให้ Lam Yuek-fei จนถูกทำร้ายกลับมาทิชิ่วสังเกตเห้นเสื้อที่ Lam Po-tin สวมในวันประลองยุทธ์ ก็ให้สงสัยว่าทำไมเลือดจึงเป็นสีม่วงหรือว่าจะถูกวางยาพิษ ซ่งจือหยินยืนยันว่านางตรวจศพแล้วไม่พบร่องรอยการวางยาทิช่ิวไม่วางใจ เอาให้ท่านอาดูดีกว่า บ้อเช้งนำเสื้อ Lam Po-tin กลับกองปราบไปค่ำมืดแล้ว ใครมาทำลับๆ ล่อๆ ในห้องบ้อเช้งซัดอาวุธลับใส่ กลับกลายเป็นซ่งจือหยินจะมาเปลี่ยนถุงสมุนไพร ทำไมไม่บอก ซ่งจือหยิน: ข้ารู้ว่าท่านมีใจให้ข้าข้ามาเพื่อบอกท่านว่า ข้าก็รู้สึกเช่นเดียวกันอึ้งไปเลยค่ะ พี่บ้อเช้ง ก็มัวแต่อึ้งเนี่ยแหละ โดนสาวขโมยจูบเลยง่าบ้อเช้งน่าสงสารจัง ไม่ได้รู้เลยว่าซ่งจือหยิน เป็นหมากที่ฉั่วเกียวางไว้ที่นางเข้าห้องเขากลางดึก เพราะต้องการสับเปลี่ยนเสื้อผ้าของ Lam Po-tinที่ Ling Lok-shek เอาชนะ Lam Po-tin ได้ก็เพราะนางตอนซ่งจือหยินถูก Yim Tung-hoi ลอบทำร้าย นางก็รู้ว่า Ling Lok-shek ส่งเขามาจือหยินรับปากช่วยวางยาในผลไม้ เพื่อเปิดโอกาสให้เขาสังหาร Lam Po-tinเมื่อแผนการล้มเหลว นางก็ฉวยโอกาสในการรักษา ใส่เข็มพิษเข้าไปในบาดแผล และทำให้ลมปราณแตกซ่านจนเสียชีวิตซ่งจือหยินเห็นทิชิ่วเริ่มสงสัย นางจึงแอบไปสับเปลี่ยนเสื้อเกือบถูกบ้อเช้งจับได้ ความรักบังตาก็งี้แหละโดนสับเปลี่ยนของกลางไปต่อหน้าต่อตา ยังไม่รู้เรื่องจูกัวะซิงแซตรวจดูเสื้อแล้ว ไม่พบพิรุธ คงเลอะยามากกว่าก็แหงล่ะแม่นางซ่งแอบสับเปลี่ยนไปแล้วนี่ทิชิ่วยังสงสัยว่าเสื้ออาจถูกสับเปลี่ยนเมื่อรู้จากกระบี่เงินกระบี่ทองว่าซ่งจือหยินมาที่กองปราบเมื่อคืนนี้เขาชักเริ่มระแวงนาง จึงคิดถามบ้อเช้งบังเอิญเห็นภาพสาวงามที่บ้อเช้งวาด ทำไมหน้าตาคุ้นๆ หว่าเห็นหน้าซ่งจือหยิน แล้วก็ถึงบางอ้อว่าบ้อเช้งวาดภาพใครทิช่ิ่วหายสงสัย มิน่าล่ะ บ้อเช้งถึงไม่บอกว่าเมื่อวานอยู่กับซ่งจือหยินบ้อเช้ง: เจ้าเล่นหมากล้อมได้แย่มาก เจ้าไม่ชอบเล่นใช่ไหมซ่งจือหยิน: แต่ท่านชอบนี่บ้อเช้ง: ข้าชอบอยู่กับเจ้าต่างหาก เรื่องอื่นไม่สำคัญทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าเจ้าชอบทำอะไรซ่งจือหยิน: ข้าชอบฝังเข็ม ปรุงยา ใครล่ะจะยอมให้ข้าดูแลบ้อเช้ง: เจ้าเลือกถูกคนแล้ว ข้าเนี่ยแหละหม้อยามนุษย์หากเจ้ารับข้าได้ ข้าจะยอมให้เจ้าดูแลเองทิชิ่วเล่าเรื่องบ้อเช้งกับซ่งจือหยินให้ทุกคนฟังในฐานะเสือผู้หญิง ตุยเมี่ยขอฟันธงว่าบ้อเช้งต้องหายหน้าไปอยู่กับซ่งจือหยินแน่เสือผู้หญิงตรงไหน ป่านนี้แม่บุญธรรมยังไม่เห็นได้ดื่มน้ำชาลูกสะใภ้เลยพ่อบุญธรรมยังว่า เลือกทิชิ่ว บ้อเช้ง แนฮ้วย ก็ยังดีกว่าตุยเมี่ยมีแต่ Yau-tong เนี่ยแหละ ที่เห็นความดีของตุยเมี่ยตุยเมี่ย: Yau-tong ถ้าเจ้าคิดจะมีคู่ล่ะก็ แต่งงานกับข้าสิ ข้าจะดีต่อเจ้าเองทิชิ่ว: เจ้าเนี่ยนะดีตุยเมี่ยกะจะโชว์ความเนื้อหอมของตัวเอง ที่ไหนได้ กิ๊กเก่าคนหนึ่งก็ท้องอยู่ อีกคนก็มีคู่หมั้นแล้วหยามกันเห็นๆ อารมณ์เสียนะเนี่ยYau-tong ห่วงใยตุยเมี่ย จึงตามมาปลอบใจตุยเมี่ย: มีเจ้าคอยห่วงใย ข้าไม่สนใจสองสาวนั่นหรอกเอางี้ ถ้าข้าหาคนแต่งงานด้วยไม่ได้ ข้าจะแต่งกับเจ้าก็แล้วกันข้าพูดเล่นน่ะ ใครจะอยากแต่งงานล่ะ อยู่อย่างนี้ก็อิสระดีออกตุยเมี่ยจับผีเสื้อมาเอาใจ Yau-tingตบหัวแล้วลูบหลังนี่นามือปราบต้องการตรวจค้นรถขนสินค้าของสหพันธ์ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมกันหน่อย ตุยเมี่ยแกล้งปลอมตัวเป็นคนแก่ให้รถชนแนฮ้วยใช้เป็นข้ออ้างในการขอตรวจค้นรถเซี่ยวตอไม่รู้ว่าพี่ชายทำผิดกฎหมาย มือปราบอยากตรวจก็ให้เขาตรวจไปสิแนฮ้วยกับเซี่ยวกุกต่อสู้กัน จนทำให้พลาดไปโดนถุงสินค้าที่แท้สหพันธ์แอบขนเกลือเถื่อน เซี่ยวกุกรีบโทษใส่ลูกน้องแอบทำโดยพลการคนทำผิด สหพันธ์ไม่ปกป้อง เชิญกองปราบจับไปให้หมดได้เล่นงานสหพันธ์แบบนี้ สะใจตุยเมี่ยจริงๆไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ปลอมตัวผลการปราบปรามสามารถสืบสาวไปถึงโกดังเก็บเกลือเถื่อนเสียดายอย่างเดียว จับเซี่ยวกุกไม่ได้ ยังไงเสือก็ไม่ทิ้งลายซักวันต้องจับเซี่ยวกุกได้แน่นอนนี่อยู่ดีๆ ฮ่องเต้ก็เชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงข่านมองโกล ไม่รู้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือเปล่าลูกสาวก็อย่างนี้ โตแล้วก็เข้าข้างคนนอกมาเล่นงานพ่อเพื่อเซี่ยวตอและเพื่อสหพันธ์ ต้องเร่งกำจัดแนฮ้วยเป็นคนแรกในงานเลี้ยงต้อนรับข่านมองโกลองค์ชายถวายแก้วหยก สมบัติประจำชาติให้ฮ่องเต้ฉั่วเกียยุให้ฮ่องเต้มีรับสั่งให้แนฮ้วยแสดงเพลงดาบหน้าพระที่นั่งเพื่อให้ข่านมองโกลสะกิดใจ และนึกออกว่าแนฮ้วยคือคนร้ายลอบสังหารที่บุกเข้าวังมองโกลไปเมื่อปีที่แล้ว แถมยังฆ่ายอดฝีมือมองโกลไปอีกด้วยฉั่วเกียได้ทีขี่แพะไล่ เป็นไปไม่ได้ กองปราบเขาไม่รับมือสังหารเข้าทำงานหรอกฮ่องเต้สั่งจับตัวแนฮ้วย แต่เขาหนีไปได้แนฮ้วยคิดว่าจูกัวะซิงแซต้องการจับตัวเองไปเพื่อเอาความดีความชอบขืนกลับไปก็มีแต่ตายลูกเดียว คนอย่างแนฮ้วยไม่เชื่อใคร เชื่อแต่ตัวเองแนฮ้วยพลั้งมือทำร้ายจูกัวะซิงแซได้รับบาดเจ็บ
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 14
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 14จากตอนที่แล้ว ซ่งจือหยินถูกลอบทำร้ายได้รับบาดเจ็บบ้อเช้งช่วยรักษาแผลให้นาง ดูลักษณะของบาดแผลแล้ว คล้ายกับกรงเล็บสัตว์ เหมือนกับบาดแผลของ Chun Poa นางโดนทำร้ายจากด้านหลัง จึงไม่เห็นว่าเป็นคนหรือสัตว์โชคดีที่นางลื่นตกเขา จึงรอดตายมาได้(ว่าแต่ มีสาวมาเปลือยไหล่ให้ดู พี่บ้อเช้งแกทำหน้าเฉ้ย เฉย ไม่ยักกะว่อกแว่กแฮะ)คราวหน้าคราวหลัง อย่าไปไหนคนเดียวอีกล่ะงั้น ขอไปล้างหน้าหน่อยคงไม่ว่าใช่ไหมกระบี่เงินกระบี่ทองรีบขอตามไปด้วย เดี๋ยวเกิดอะไรขึ้นบ้อเช้งจะโมโหทั้งคู่อีก อยู่ๆ เอาพี่บ้อเช้งมาขายซะแล้ว(ทีเงี้ย พี่บ้อเช้งทำเป็นเขินไปได้)กลับมาที่เวทีประลอง Lam Yeuk-fei เอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้อย่างหวุดหวิดต้องขอบคุณตุยเมี่ยที่ช่วยสอนเคล็ดรับมือกับคู่ต่อสู้ที่แกร่งกว่าให้กับนางมาถึงคู่สำคัญ Ling Lok-shek กับ Hung Fei-fu สำนักเสือบินHung สู้ Ling ไม่ได้ Ling ฉวยโอกาสที่เจ้าสำนัก Hung ไร้อาวุธ ลงมือสังหารเขาทิชิ่วไม่พอใจที่ Ling Lok-shek ลงมือเหี้ยมโหด ยังไง เจ้าสำนัก Hung ก็อาวุธหลุดมือแล้ว น่าจะหยุดการประลองการต่อสู้ย่อมมีความเสี่ยง ถ้าไร้ฝีมือ ก็ไม่ควรเข้าร่วมแข่งขันดิLing Lok-shek ทำเป็นคนดี ขอดูแลครอบครัวเจ้าสำนัก Hung และสำนักเสือบินโธ่เอ๊ย ถ้าจะรับผิดชอบจริง ต้องถอนตัวจากการแข่งขัน และฆ่าตัวตายไถ่โทษถึงจะถูกสำนักต่างๆ พากันประท้วงให้ Ling Lok-shek ถอนตัว ฉั่วเกียเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ อ้างว่าระหว่างการประลอง อาวุธไม่มีตาย่อมเกิดพลาดพลั้งได้ อ๋อง Chai ก็เข้าข้างฉั่วเกีย พระชายาเห็นแล้วไม่พอใจLing Lok-shek ข่มขู่เจ้าสำนักต่างๆ จนถอนตัวกันเป็นแถวแถมยังอ้างว่าทุกสำนักต้องการสนับสนุนเขาขึ้นเป็นจ้าวยุทธจึงยอมถอนตัวแต่โดยดี แม้จะฟังไม่ขึ้น แต่กองปราบก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อเหลือแต่สำนักฟ้าเพียงสำนักเดียว จึงกำหนดรอบตัดสินเป็นพรุ่งนี้เที่ยงทิชิ่วได้แต่เป็นห่วงสวัสดิภาพของ Lam Yeuk-feiหาก Ling Lok-shek ได้เป็นจ้าวยุทธจริงยุทธภพต้องเดือดร้อนแน่ ที่กลุ้มใจคือ เรื่องของชาวยุทธ กองปราบเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ตอนนี้ จูกัวะซิงแซไม่เพียงห่วง Lam Po-tin ยังเป็นห่วงบ้อเช้งกับแนฮ้วยอีกด้วยทิชิ่วกลุ้มใจทำไมถึงไม่ยอมถอนตัว สู้ไปมีแต่ตายลูกเดียวทิชิ่ว: ข้าไม่อยากให้เจ้ามีอันตราย เจ้าไม่เข้าใจอีกหรือเก็บกำลังของเจ้าไว้ต่อสู้ต่อไปเถอะLam Yeuk-fei: อย่าพูดอีกเลย ข้าตัดสินใจแล้ว ใครก็ห้ามข้าไม่ได้วันรุ่งขึ้น เมื่อถึงเวลาประลองยุทธ ปรากฎว่า Lam Yeuk-fei ถูกคนลอบทำร้ายมือขวาได้รับบาดเจ็บฉั่วเกียคิดรวบรัด เมื่อสู้ไม่ได้ ก็ให้ปรับแพ้ไปเลยLam Yeuk-fei ไม่ยอมถอนตัว ถึงมีมือเดียวก็ยอมสู้ตายพระชายาเข้าข้าง Lam Yeuk-fei การประลองยุทธกำหนดไว้ 7 วันนี่แค่วันที่ 4 เอง รอถึงวันสุดท้ายหากสำนักฟ้ายังหาผู้ประลองไม่ได้ค่อยปรับแพ้ก็ยังไม่สาย ท่านอ๋องเห็นชอบตามพระชายาขัดใจฉั่วเกียจริงๆผลไม้ป่าไหงมียาพิษได้ ไปเก็บมาจากไหนกันล่ะเนี่ยที่แท้เป็นฝีมือ Yim Tung-hoi สำนักทราย ที่แสร้งตายกลบเกลื่อนกะกำจัด Lam Po-tin ให้ได้คนถูกวางยาจะไปสู้อะไรได้ Lam Po-tin โดนกรงเล็บได้รับบาดเจ็บ Yim Tung-hoi คิดกำจัดแบบถอนรากถอนโคนกลับเป็นว่าแนฮ้วยกับบ้อเช้งไม่ถูกพิษ ที่ยอมทำทีว่าโดนพิษเพื่อหลอกให้ Yim Tung-hoi เปิดเผยตัว ไม่งั้นจะจับตัวได้หรือLam Po-tin ได้รับบาดเจ็บจากกรงเล็บ ซ่งจือหยินช่วยใส่ยาให้ความจริงบ้อเช้งสงสัยแต่แรกว่า Yim Tung-hoi เปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับศพ เพื่อลวงว่าตัวเองตายไปแล้วจึงให้แนฮ้วยระวังป้องกัน แนฮ้วยได้กลินยาพิษจากผลไม้ แต่เพราะต้องการลวงนักฆ่าให้ลงมือ เขากับบ้อเช้งจึงไม่บอกใครซ่งจือหยินรู้สึกผิดที่ Yim Tung-hoi วางยาพิษสำเร็จก็เพราะนางคนไม่รู้ย่อมไม่ผิด อย่าคิดมากเลยอุตส่าห์จับเป็น Yim Tung-hoi กะจะเค้นถามตัวการซะหน่อยก็ดันชิงฆ่าตัวตายซะนี่ แถมยังมาพูดให้เจ็บใจว่าทำลายแพไปแล้วทีนี้ จะเดินทางไปลานประลองยุทธได้อย่างไรLam Yeuk-fei พาทิชิ่วกับตุยเมี่ยไปดูที่เกิดเหตุเมื่อคืนระหว่างนางฝึกยุทธ์ถูกคนลอบทำร้ายจากข้างหลังฟื้นขึ้นมา มือก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว ทิชิ่วสงสัยจะไม่ใช่ฝีมือ Ling Lok-shekถ้านางสลบไปแล้ว สู้แทงนางให้ตายไปเลย ไม่ง่ายกว่าหรืออยู่ดีๆ ตุยเมี่ยก็มาดมๆ Lam Yeuk-fei คิดจะลวนลามเหรอไงโอ๊ย มาตีหัวกันทำไม ที่ดมเนี่ย เพราะได้กลิ่นสตรีอื่นจากตัวนางต่างหากขอเอาประสบการณ์ 20 ปีเป็นประกัน คนร้ายต้องเป็นผู้หญิงแน่นอนLam Yeuk-fei นึกออกว่าตอนนางพยายามฟาดคนร้ายแม้จะไม่โดน แต่นางได้ยินเสียงอะไรตกที่พื้นเมื่อช่วยกันค้นหา ก็พบแหวนวงหนึ่งนึกว่าใคร ฝีมือพระชายานี่เอง ก็นางไม่อยากให้ Ling Lok-shek ได้เป็นจ้าวยุทธ์นี่อย่างน้อยก็ถ่วงเวลาไปได้อีกหลายวันถือว่านางทดแทนบุญคุณที่จูกัวะซิงแซไม่เปิดโปงความผิดของบิดาก็แล้วกันถ้าจะจับ นางก็ไม่ว่า โถ แล้วท่านจูกัวะจะจับลงได้ยังไงครบกำหนดแล้ว Lam Po-tin ก็ยังไม่กลับมาทิชิ่วเป็นท่า Lam Yeuk-fei จะไม่ยอมถอนตัวแน่เขาจึงขอลาออกจากการเป็นมือปราบ จะได้สามารถเป็นตัวแทนสำนักฟ้าลงแข่งได้จูกัวะซิงแซ: เจ้าคิดว่า เจ้าจะชนะการแข่งงั้นหรือทิชิ่ว: ข้ารู้ว่าข้ามีฝีมือแค่ไหน แต่ข้าก็ยังอยากจะลองดูจูกัวะซิงแซ: เจ้าเป็นมือปราบ อย่าเอาอารมณ์มาใช้กับงานทิชิ่ว: ท่านอาเถียงกันไปเถอะ ฉั่วเกียชิงตัดบท จะรีบประกาศให้ Ling Lok-shek เป็นผู้ชนะแต่อ๊ะ อ๊ะ เสียใจด้วย Lam Po-tin กลับมาทันเวลาได้ท่านนายพลออกเรือตามหา จึงพาทั้งหมดกลับมาได้อย่างฉิวเฉียดบ้อเช้ง: พวกเราก็ปลอดภัย สบายดี ไม่เหมือนพวกเจ้าตอนที่พวกเราไม่อยู่ ได้ข่าวว่าพวกเจ้าไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นี่ตุยเมี่ย: แหม ข้าล่ะคิดถึงจริงจร๊ิง พูดจาเสียดสีแบบนี้เนี่ยไม่ต้องเสียเวลา สู้กันเลยดีกว่าLam Po-tin กำลังได้เปรียบ ชีพจรกลับติดขัด กระอักออกมาเป็นเลือดจึงพลาดท่าให้กับ Ling Lok-shekซ่งจือหยินจับชีพจรแล้วปรากฎว่าชีพจรขาดสะบั้นLam Po-tin รู้ตัวว่าไม่รอดแน่ จึงขอฝากให้ทิชิ่วช่วยดูแล Lam Yeuk-feiเมื่อไม่มีคู่แข่ง Ling Lok-shek ก็ได้รับพระราชทานตำแหน่งจ้าวยุทธสมใจน่าสงสาร Lam Yeuk-feiกำลังได้เปรียบอยู่ดีๆ มาเสียชีวิตได้ยังไงLing Lok-shek ต้องเล่นสกปรกแน่ ขืนรอกองปราบรวบรวมหลักฐาน ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้แก้แค้นทิชิ่วเสนอให้ปรึกษาจูกัวะซิงแซจูกัวะซิงแซก็รู้สึกว่ามีอะไรทะแม่งๆ อยู่ คงต้องรอให้บ้อเช้งกับแม่นางซ่งพิสูจน์ศพก่อนหาก Ling Lok-shek อยู่เบื้องหลังจริง จะนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าต่อฮ่องเด้เองหลังจากตรวจชันสูตรแล้ว ไม่พบว่า Lam Po-tin ถูกวางยาพิษไม่มีบาดแผลน่าสงสัย สาเหตุการตายมาจากเส้นเลือดหัวใจฉีกขาด อวัยวะภายในทำงานล้มเหลวยังไม่ทันไร Ling Lok-shek ก็ใช้อำนาจจ้าวยุทธจับตัวญาติพี่น้องของขุนนางที่ต้องการฟ้องร้องฉั่วเกียมาข่มขู่ทำให้เหล่าขุนนางไม่กล้าฟ้องร้องอีกต่อไปขืนปล่อยให้ฉั่วเกียกับ ling Lok-shek ลำพองต่อไปราชวงศ์ซ่งมีหวังล่มสลายแน่จูกัวะซิงแซเตือนสตินายพล Shu อย่าวู่วาม พูดด้วยอารมณ์เช่นนี้ชืนฉั่วเกียได้ยิน มีหวังแจ้นไปฟ้องฮ่องเต้ ฉั่วเกียคุมอำนาจรัฐ Ling Lok-shek คุมชาวยุทธ ใครจะกล้าต่อต้านโดยเฉพาะกองปราบ คงต้องระวังทุกย่างก้าว ไม่เปิดโอกาสให้ฉั่วเกียกำจัดLam Yeuk-fei นำลูกน้องกราบไหว้ Lam Po-tinเมื่อนางขึ้นเป็นเจ้าสำนักแทนบิดา นางจะนำสำนักต่อต้านสหพันธ์ให้ถึงที่สุดนางไม่รู้ตัวเลยว่า ลูกน้องเอาใจออกห่าง ยอมเข้าร่วมสหพันธ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วศพเจ้าสำนักเก่ายังไม่ทันเย็น ก็ลืมซะแล้วว่าใครเป็นคนฆ่า ไร้จิตสำนึกกันจริงๆสุดท้าย นางก็ถูกเซี่ยวกุกขับไล่ออกจากสำนักLam Yeuk-fei เสียใจที่รักษาสำนักให้บิดาไม่ได้นางคิดฆ่าตัวตายหน้าหลุมศพ ทิชิ่วมาก็ดีแล้ว ช่วยห้าม Lam Yeuk-fei หน่อยทิชิ่ว: ความตายใช่ว่าจะแก้ปัญหาได้ ชีวิตมีค่า เจ้าควรรับผิดชอบชีวิตตัวเองLam Yeuk-fei: ข้าจะทำอะไรได้อีก เจ้าสารเลว Ling Lok-shek ฆ่าพ่อข้าฮุบสำนักฟ้าไป ข้าอยากถลกหนังมันทั้งเป็นด้วยซ้ำ แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยทิชิ่ว: แล้วถ้าเจ้าตายไปแล้ว ใครจะช่วยทวงสำนักคืนให้บิดาเจ้าล่ะพูดไปพูดมา ดันทำให้ Lam Yeuk-fei อยากล้างแค้นขึ้นมาทำอย่างนี้มันฆ่าตัวตายชัดๆ Lam Po-tin อุตส่าห์ฝากฝังนางไว้กับเขา ทิช่ิ่วไม่ยอมให้นางทำเช่นนั้นแน่เพื่อความปลอดภัยของนาง ทิชิ่วตั้งใจพา Lam Yeuk-fei ออกจากเมืองหลวงอา Fook ทำทีเป็นเห็นด้วยกับทิชิ่ว พอทิชิ่วเผลอก็ซัดอาวุธลับใส่แม้ทิชิ่วจะป้องกันได้ แต่เปิดโอกาสให้ Yeuk-fei ทำร้ายเขาจนสลบLam Yeuk-fei ปลอมตัวเป็นบ๋อยไปลอบสังหาร Ling Lok-shekนางกลับถูกอา Yung หักหลัง ล่อนางมาติดกับดักYeuk-fei ให้อา Fook รีบหนีไปตุยเมี่ยช่วยทายาให้ทิชิ่ว ไม่น่าเชื่อว่าจะหลงกลคนซื่อๆ อย่างอา Fook ได้ก็ไม่นึกว่าซื่ออย่างนี้ จะมีเล่ห์เหลี่ยมนี่นาอา Fook ขอให้ทิช่ิวรีบไปช่วย Lam Yeuk-feiอาหญิงห้ามพวกเขาไม่ให้ยุ่ง เรื่องชาวยุทธต้องให้ชาวยุทธจัดการกันเองหากเข้าไปยุ่งเกี่ยว จะพลอยทำให้กองปราบเดือดร้อนไปด้วยทิชิ่วคืนป้ายประจำตัว และลาออกจากกองปราบทิชิ่ว: ข้ารับปาก Lam Po-tin จะดูแลแม่นาง Lamลูกผู้ชายต้องรักษาสัจจะ ต่อให้ต้องตายข้าก็ไม่หวั่นทิชิ่วบุกคุกสหพันธ์ เพื่อช่วยเหลือ Lam Yeuk-feiเซี่ยวกุกคิดใช้โอกาสนี้เป็นข้ออ้างในการกำจัดกองปราบนึกอยู่แล้วเชียว ดีที่ทิชิ่วชิงลาออกไปก่อนออกจากคุกได้ก็ใช่ว่าจะออกจากตึกสหพันธ์ได้หากไม่ยอมสยบ ต้องตายทิชิ่วไม่ยอมทิ้ง Lam Yeuk-fei สามมือปราบก็ไม่ยอมทิ้งทิช่ิ่วเช่นกัน Ling Lok-shek เตือนให้สามมือปราบคิดดูให้ดีหากมายุ่งเกี่ยวล่ะก็ กองปราบจะต้องเดือดร้อนไปด้วยคิดไม่ถึง ทั้งหมดยอมทิ้่งป้ายมือปราบเพื่อทิชิ่ว
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 13
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 13ซ่งจือหยินเห็นเซี่ยวตอยอมโกหกบิดาเพื่อหาทางมาพบแนฮ้วยนางนึกรู้ว่าเซี่ยวตอคงแอบรักแนฮ้วยอยู่ คุ้มแล้วหรือที่ทำอย่างนี้เซี่ยวตอ: ข้าก็ไม่รู้ ข้าแค่อยากเห็นหน้าเขา ข้าไม่รู้ว่านี่คือความรักหรือเปล่าแล้วท่านล่ะ เคยรักใครบ้างไหมซ่งจือหยิน: ข้าอยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็กข้าอยู่กับสมุนไพรและตำรามากกว่าผู้คนคนที่ข้าพบส่วนใหญ่ก็เป็นคนไข้ของข้า การรักใครซักคนนี่มันรู้สึกอย่างไรหรือเซี่ยวตอ: การได้รักใครซักคนเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากท่านจะควบคุมตัวเองไม่ได้ อยากเห็นหน้าเขาตลอดเวลาอยากรู้จักเขา และห่วงใจเขา ยอมทำเพื่อเขาได้ทุกอย่างและอยากให้เขาเห็นค่าส่ิงที่เราทำเพื่อเขาซ่งจือหยิน: แล้วถ้าเขาไม่เห็นค่าล่ะเซี่ยวตอ: ต่อให้เขาไม่เห็นค่า ข้าก็ยังยินดีทำทุกอย่างเพื่อเขาซ่งจือหยินเอายามาส่งให้บ้อเช้ง ซ่งจือหยิน: ท่านรู้เรื่องสหายท่านแนฮ้วยกับเซี่ยวตอหรือยังบ้อเช้ง: ใครจะเป็นสหายกับเขาได้ซ่งจือหยิน: ก็จริง แต่ข้านึกว่าท่านกับเขาจะเข้ากันได้ พวกท่านคล้ายกันออกบ้อเช้ง: ข้ากับเขาเนี่ยนะ อย่าเอาข้าไปเปรียบกับเขาจะดีกว่าเรื่องแนฮ้วยกับเซี่ยวตอ ทิชิ่วบอกข้าแล้ว เซี่ยวตอหลงรักแนฮ้วย คนตาบอดก็ยังมองออกเลยซ่งจือหยิน: แล้วแนฮ้วยรู้สึกอย่างไรกับนางบ้อเช้ง: เรื่องของหัวใจ พวกเราไม่ควรยุ่งเกี่ยวซ่งจือหยิน: คนไร้ใจอย่างท่าน กลับเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีซ่งจือหยินกำลังหาคนซ่อมขลุ่ยของนางบ้อเช้งรับปากจะช่วยซ่อมให้ลูกกระจ๊อกของสหพันธ์มาหาเรื่องที่บ่อนLam Yeuk-fei ไม่ยักลงไม้ลงมือเหมือนก่อนถ้ายังไม่ไปจะแจ้งกองปราบมาจับนะทิชิ่วลาดตระเวนผ่านมาพอดี ดีใจล่ะสิที่ Lam Yeuk-fei ยอมฟังคำเตือนแต่ไม่ได้สู้กับใครเลยมันคันไม้คันมือยังไงไม่รู้ คงต้องให้ทิชิ่วเป็นคู่มือแล้วล่ะเรื่องแค่นี้ ทิชิ่วพร้อมเสมอ ว่างเมื่อไหร่ก็นัดมาหลงรักเค้าแล้วก็บอกมาเหอะเจ้าสำนักเสือบินเริ่มหงุดหงิดที่กองปราบยังสืบคดีบุตรชายไปไม่ถึงไหนกว่าจะรู้ตัวคนร้าย บุตรชายคงเหลือแต่กระดูกแล้วมั้ง ไม่ได้ดังใจเล้ยเจ้าสำนักฟ้าพยายามเกลี้ยกล่อมให้เจ้าสำนักเสือบินใจเย็นลงอย่าเปิดโอกาสให้สหพันธ์มีข้ออ้างในการกำจัดสำนักดีกว่า ปล่อยให้กองปราบจัดการเถอะฉั่วเกียพาฮ่องเต้ไปเที่ยวหอคณิกา กลับมีนักฆ่ามาลอบสังหาร Ling Lok-shekทั้งหมดเป็นแผนของฉั่วเกียเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ฮ่องเต้เห็นว่าชาวยุทธก็ฆ่ากันไปฆ่ากันมาอย่างนี้แหละ ถ้าอยากให้บ้านเมืองสงบสุขก็ต้องหาผู้นำชาวยุทธ ที่ทุกคนเชื่อถือ ทางที่ดีต้องเป็นคนที่มีความจงรักภักดีต่อองค์ฮ่องเต้ด้วยฮ่องเต้หลงคารมฉั่วเกีย อนุญาตให้ดำเนินการคัดเลือกผู้นำชาวยุทธขันที Tung มาแจ้งข่าวประลองยุทธเลือกผู้นำคราวนี้อย่าทำให้ท่านเสนาบดีต้องผิดหวังอีกล่ะต้องระวัง Lam Po-tin ให้ดี อย่าประมาทกติกาการประลองยุทธ ให้แต่ละสำนักส่งตัวแทนขึ้นมา 1 คน ผู้ชนะจะได้เป็นจ้าวยุทธ Lam Yuek-fei ไม่เข้าใจ ฝีมือเจ้าสำนัก Ling ไม่มีทางสู้พ่อตนได้ทำไมฉั่วเกียจึงมั่นใจนักว่า เจ้าสำนัก Ling จะได้เป็นผู้นำชาวยุทธ หรือว่าจะมีเบื้องหลังสำนักเสือบินไม่สนใจ โอกาสล้างแค้นให้ลูกชายมาถึงแล้ว ยังไงต้องลงแข่งแน่นอนฉั่วเกียขอให้ราชองครักษ์ของฮ่องเต้ มาช่วยดูแลการประลองหัวหน้าราชองครักษ์ Shu Mo-Hei ไม่ยินยอม หากเกิดอะไรขึ้นกับฮ่องเต้จะทำอย่างไรขันที Tung เสนอให้ใช้ทหารที่ป้องกันชายแดนอยู่ อ้าว แล้วเกิดศัตรูรู้เข้าฉวยโอกาสรุกรานมิย่ิงแย่ใหญ่หรือหัวหน้าราชองครักษ์ Shu ชิงพลิกสถานการณ์เสนอให้กองปราบเข้ามาดูแลฉั่วเกียไม่กังวล หากมีอะไรเกิดขึ้น กองปราบก็เดือดร้อนเองแหละรายนามผู้เข้าแข่งขัน สำนักอะไรเนี่ย ไม่เห็นดังเลย ตัวประกอบทั้งนั้นLam Po-tin สำนักฟ้าHung Fei-fu สำนักเสือบินChun Pao สำนักเสือดาวLok Tai-wai สำนักสุนัขKam Yat-to สำนักดาบทองYim Tung-hoi สำนักทรายHo Ying สำนักอินทรีดูจากฝีมือแล้ว มีเพียง Lam Po-tin ที่จะเอาชนะ Ling Lok-shek ได้สถานที่จัดงาน คือ หมู่ตึกจันทรา ซึ่งอยู่ไกลจากเมืองต้องนั่งเรือไปจูกัวะซิงแซจึงจัดแบ่งกลุ่มให้ทะยอยกันเดินทางLing Lok-shek ผู้นำสหพันธ์ และ Hung Fei-fu สำนักเสือบินไปถึงเป็นกลุ่มแรก มีปะทะคารมกันเล็กน้อย ก็คนไม่ถูกกันอ่ะทิชิ่วมาส่งแนฮ้วยกับบ้อเช้งขึ้นเรือ ส่วน Lam Yeuk-fei ก็มาส่ง Lam Po-tin ผู้บิดาทั้งหมดไม่ค่อยพอใจที่เห็น Yim Tung-hoi สำนักทราย ซึ่งอยู่ฝ่ายสหพันธ์มาขึ้นเรือลำนี้ด้วยบรรยากาศคล้ายๆ เรื่องไททานิก ชู้รักเรือล่มถึงพี่บ้อเช้งคงไม่ลุกมาตะโกน I'm the King of the world ก็มีแนวโน้มว่าเรือจะล่มอ่ะ 555แม่นางซ่งมอบถุงหอมใบใหม่ให้บ้อเช้งเจ้าสำนักทั้งสี่ประชุมหารือกันอยู่ในห้องใต้ท้องเรือแนฮ้วยฟังจนเซ็ง ออกไปเดินตรวจตราดีกว่าโชคดีเห็น Yim Tung-hoi สำนักทราย มีพิรุธเขาแอบวางระเบิดไว้ในห้องเก็บของแนฮ้วยร้องเตือนให้ทุกคนรีบหนีLam Yeuk-fei เดินทางไปถึงหมู่ตึกจันทรา จึงได้รู้ว่าเรือของ Lam Po-tin เกิดระเบิดจมหายไปต้องเป็นฝีมือของ Ling Lok-shek แน่Lam Yeuk-fei คิดสังหาร Ling Lok-shek แก้แค้นให้บิดาด้วยความบุ่มบ่าม นางเกือบพลาดท่าให้เซี่ยวกุกทิชิ่วมาช่วยนางไว้ทัน (อีกแล้ว)Ling Lok-shek ทำไม่รู้ไม่ชี้ พ่อหายมาโทษคนอื่นได้ไงสงสัยกลัวแพ้เลยหนีไปมากกว่ามั้งจูกัวะซิงแซขอให้นางใจเย็นๆ ที่สำคัญคือค้นหา Lam Po-tin ให้เจอก่อนผ่านไป 1 วันแล้วยังไม่ได้ข่าวคราว ทิชิ่วอดเป็นห่วงบ้อเช้งกับแนฮ้วยไม่ได้อยากจะออกไปช่วยตามหาทั้งคู่ แต่ท่านจูกัวะไม่อนุญาตไปตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ (ใจดำมาก ท่านจูกัวะ )สู้อยู่ดูแลความเรียบร้อยของงานประลอง อย่าให้เกิดเรื่องซ้ำสองอีกโดยเฉพาะ Lam Yeuk-fei จะให้นางก่อเรื่องไม่ได้กรี๊ด กรี๊ด กร๊ีด ตกน้ำยังไงกันยะ มานอนกอดพี่บ้อเช้งได้เนี่ยหล่อนตอนเรือระเบิด ซ่งจือหยินจมน้ำ พี่บ้อเช้งก็ช่างสามารถจริงๆขนาดขาพิการยังช่วยสาวได้เลยอ้าว อ้าว ซึ้งก็ส่วนซึ้ง ไม่ต้องฉวยโอกาสลวนลามบ้อเช้งเลยโล่งอก แนฮ้วยมาทันพอดี ขืนมาช้า ไม่รู้แม่นางซ่งเธอจะทำมิดีมิร้ายอะไรพี่บ้อเช้งอีกพอแนฮ้วยมาล่ะก็ ฟื้นได้ เมื่อกี้แกล้งสลบป่าวเนี่ย ชักสงสัยบ้อเช้งเป็นห่วงกระบี่เงิน กระบี่ทอง ทั้งคู่ก็กำลังตามหาบ้อเช้งอยู่เช่นกันตรวจสอบดูแล้ว มีคนตายทั้งหมด 7 คนได้แก่ Kam Yat-to สำนักดาบทองกับลูกศิษย์ Lok Tai-wai สำนักสุนัขกับลูกศิษย์ และศิษย์สำนักทราย อีก 2 ศพ มีแต่ชิ้นส่วนไม่ครบร่าง ดูจากการแต่งกายน่าจะเป็น Yim Tung-hoi สำนักทราย และคนเรือ ตาย 7 รอด 9 เท่ากับจำนวนคนบนเรือ 16 คนพอดีฝังศพแล้ว ก็หาทางออกจากเกาะกันเถอะการแข่งขันรอบที่ 1 Ling Lok-shek เป็นฝ่ายชนะถึงรอบของ Lam Po-tin เขาก็ยังไม่มา จะมาได้ไงติดเกาะอยู่Lam Yeuk-fei ไม่อยากให้บิดาถูกปรับแพ้ จึงลงแข่งแทนนางเกือบพลาดท่า แต่คู่ต่อสู้ผิดพลั้งจนพ่ายไปเอง ผ่านไปอีกวันก็ยังไม่ได้ข่าว Lam Po-tinเอาน่า ไม่มีข่าวดีกว่ามีข่าวร้าย ไม่เจอศพก็ยังมีความหวังตราบใดที่บิดายังไม่มา Lam Yeuk-fei ก็จะลงแข่งแทนไปก่อนแหม ทำอย่างนี้ ทิชิ่วเขาห่วงไม่ใช่เหรอLam Yeuk-fei ประมือกับ Lok Piu เจ้าสำนักศิลาคู่ต่อสู้วันพรุ่งนี้ฝีมือนางสู้เขาไม่ได้ แล้วพรุ่งนี้จะทำอย่างไรทิชิ่วเห็นนางมีความตั้งใจที่จะลงต่อสู้จึงขอให้ตุยเมี่ยช่วยสอนท่ารับมือ Lok Piu ให้เจอคนกำลังภายในแข็งแกร่งจะปะทะโดยตรงไม่ได้ต้องใช้ท่าลวง เดี๋ยวตุยเมี่ยจัดให้กระบี่เงิน กระบี่ทอง หาปลาก็ไม่เป็น ก่อไฟก็ไม่ได้แล้วจะไปแข่ง Survivor กะเขาได้ยังไง ดูแนฮ้วยซิChun Pao สำนักเสือดาวไม่พอใจที่มีแต่ปลาอย่างเดียว ใครจะไปกินลงซ่งจือหยิน: ข้าต้องขอบคุณท่าน ที่ช่วยชีวิตข้าบ้อเช้ง: ข้ายังต้องการหมอ (โอเค ท่าทางยังไม่หายขาด แม่นางซ่งต้องจัดยาให้อีกหลายเทียบ )ซ่งจือหยิน: ถอนหายใจแบบนี้ ดูไม่เป็นท่านเลยบ้อเช้ง: ตั้งแต่ติดเกาะ ขาดเก้าอี้เมฆาไป ข้ารู้สึกว่าข้าเป็นคนไร้ค่ายิ่งนักซ่งจือหยิน: แม้ท่านจะเดินไม่ได้ แต่ท่านยังมีน้ำใจ ท่านช่วยชีวิตข้าทุกคนได้ยินเสียงกรีดร้องของ Chun Pao ที่ปลีกตัวไปตามลำพังกลับพบว่าเขาถูกฆ่าตายร่องรอยบาดแผลเหมือนกรงเล็บสัตว์แนฮ้วยพบเห็นรอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่ในละแวกใกล้เคียงแนฮ้วยกับ Lam Po-tin ออกติดตามร่องรอยจนไปพบกับรูปปั้นสัตว์ป่าเข้าคนที่น่าจะรู้เรื่องก็มีบ้อเช้งเนี่ยแหละ รูปปั้นนั้นคือ Jok Chiกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว (เอ้า ล้อมวงมาฟังพี่บ้อเช้งเล่านิทานกัน)เมื่อฮ่องเต้ Ku สิ้นพระชนม์ ได้มอบบัลลังก์ให้รัชทายาท Chiตอนนั้น ปรากฎสัตว์ประหลาด ครึ่งคนครึ่งสัตว์ที่ทางใต้สัตว์นั้นมีสองมือเหมือนมนุษย์ มีเขี้ยวยาว 3 ฟุตเหมือนสัตว์ จึงได้ชื่อว่า Jok Chiทุกที่ที่ไป Jok Chi ฆ่าคนไปไม่น้อย ฮ่องเต้ Chi ให้อ๋อง Tong เดินทางไปปราบ จนได้รับความชื่นชมจากประชาชน และได้เป็นฮ่องเต้ในที่สุดตอน Chun Pao ถูกฆ่า ทุกคนก็อยู่พร้อมหน้าใครเป็นคนฆ่ากันแน่ คน หรือ สัตว์ป่าว่าแต่ตอนนี้ หาทางออกจากเกาะกันก่อนเหอะ ต้นไม่ก็เยอะ แนฮ้วยเสนอให้ทำแพแนฮ้วยรอบคอบมาก อุตส่าห์เก็บหินมาให้บ้อเช้งใช้แทนอาวุธลับเช้ารุ่งขึ้น ทุกคนออกไปตัดไม้ทำแพ ซ่งจือหยินแยกไปเก็บผลไม้มาเป็นเสบียง นางกลับถูกทำร้ายแนฮ้วยตรวจสอบเรื่องที่บ้อเช้งขอ คนดูก็ยังไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไรแต่รู้ว่าเป็นไปตามที่บ้อเช้งคาด บ้อเช้งน่าจะรู้แล้วว่าใครเป็นฆาตกรพอบ้อเช้งรู้ว่าแม่นางซ่งหายไป ก็ร้อนใจออกนอกหน้ากระบี่เงิน กระบี่ทองพบแต่รองเท้าเปื้อนเลือดของนางก็เตือนแล้วว่าไม่ให้แยกกัน ทำไมปล่อยให้ซ่งจือหยินหายไปได้แล้วจะยืนอยู่ทำไม ไม่ไปตามหาอีกแนฮ้วยอาสาแบกบ้อเช้งเอง เดินป่าแนฮ้วยถนัดมาถึงจุดที่พบรองเท้า แนฮ้วยตาไวเห็นนางอยู่ตรงไหล่เขายังดีที่ซ่งจือหยินแค่สลบไปยังไม่ตาย เห็นแล้วบ้อเช้งค่อยโล่งอก
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 12
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 12จากตอนที่แล้ว สหพันธ์กับสำนักฟ้าพาคนมากดดันให้กองปราบปล่อยเซี่ยวกุก และ Lam Yeuk-feiก่อนที่เรื่องจะบานปลาย จูกัวะซิงแซก็ยอมปล่อยคนถ้าไม่อยากหาเรื่อง คราวหน้าอย่าจับคนส่งเดชอีกล่ะถ้าทำตามกฎหมายใครเค้าจะจับ สองแก๊งตีกันชาวบ้านเดือดร้อนรู้บ้างไหมทิขิ่ว: ในฐานะที่ข้าเป็นเพื่อนของแม่นาง Lamข้าไม่อยากเห็นพวกท่านต้องเดือดร้อนLam Yeuk-fei: พวกเราเป็นคนสำนักฟ้า มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้านแต่ที่ท่านพูด ข้าจะจดจำไว้ดูซิ ชาวสหพันธ์กับชาวสำนักฟ้าถึงเวลาก็ร่วมมือร่วมใจกันได้น่าจะพิจารณาเข้าร่วมสหพันธ์ซะ จะได้ช่วยไกล่เกลี่ยเรื่องสำนักเสือบินให้ไม่งั้นภายใน 3 วัน ถ้าไม่มอบ Chan Kau ออกมาจะขับไล่ออกจากไคฟงซะเลยกล้าดีก็ลองดู เจ้าสำนัก Lam พร้อมชนทุกเมื่อทำอะไรไม่รู้จักอดทนซะบ้าง เกือบทำให้เสียการใหญ่แล้วมั้ยล่ะสิ่งสำคัญตอนนี้ ต้องรวบรวมทุกสำนักเข้าเป็นส่วนหนึ่งในสหพันธ์ให้ได้สำนักฟ้าเป็นหอกข้างแคร่ที่ต้องกำจัด ยังไงก็ต้องหาตัว Chan Kau ให้เซี่ยวตอได้ยินพ่อกับพี่ชายคุยกันก็ไม่สบายใจแต่ต่อหน้าพวกเขา นางก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องพระชายามาไหว้พระที่วัด พบกับอาหญิงโดยบังเอิญจะชวนกันเข้าไปไหว้พระในโบสถ์ซะหน่อยกลายเป็นว่ามาจ๊ะเอ๋กับอ๋อง Chai ซึ่งแอบมากุ๊กกิ๊กับนางคณิกาไหนว่ามาพบเพื่อนเก่า ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนเก่าประเภทไหนทีพระชายาชวนมาไหว้พระ ดันบอกว่าคนเยอะ ควันธูปเหม็นทีมากับนางคณิกาล่ะก็มาได้นะพระชายา: เป็นถึงท่านอ๋อง พานางคณิกามาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่คิดถึงศักดิ์ฐานะบ้างอ๋อง Chai: หุบปาก เจ้าไม่มีสิทธิ์สั่งสอนข้า ต่อให้ข้าแต่งนางเป็นสนม เจ้าก็ห้ามข้าไม่ได้พระชายา: อะไรนะ ท่านจะแต่งงานกับนางคณิกา ท่านลืมไปแล้วหรือว่าตัวเองเป็นใครอ๋อง Chai: แล้วเจ้าล่ะ ลืมไปแล้วหรือว่าตัวเองเป็นใคร ถือดีอะไรมาเถียงข้าพระชายา: ได้ ท่านอยากแต่งกับนางคณิกาก็เชิญ ข้าไม่สนระหว่างทางลงเขา พระชายาเจอกับ Chan Kau เข้าดูไปดูมาหน้าตาคุ้นๆ นางจึงนึกได้ว่าเขาคือฆาตกร ที่เป็นต้นเหตุทำให้บิดานางฆ่าตัวตายพระชายาตาม Chan Kau ไป นางพบมือสังหารตามล่าเขาจึงลงมือช่วยเหลือ เพราะนางคิดแก้แค้นแทนบิดาการค้าตรอกไก่ซบเซา ใครจะกล้ามาล่ะเล่นมีคนของสหพันธ์มาคอยตามหา Chan Kau อยู่อย่างนี้เพื่อความปลอดภัย ตุยเมี่ยขอให้พ่อแม่บุญธรรมปิดร้านซักสองสามวันYau Tong จ่ายยามาให้ป้าหยางตุยเมี่ยตรวจดูก็รู้ว่าเป็นยาปลอม ต้องไปเอาเรื่องร้านขายยาซะหน่อยเจ้าของร้านปฏิเสธไม่รับรู้ อะไรให้โอกาสขอโทษแล้วนะถ้ายังไม่สำนึก คงต้องเชิญพี่น้องมือปราบมาจัดการแล้วล่ะเจ้าของร้านกลัวโดนข้อหาจ่ายยาปลอมจึงยอมคืนเงินให้ Yau Tongหนนี้ ยอมให้ หากเจออีก จะจับติดคุกให้เข็ดระหว่างที่ตุยเมี่ย มัวแต่ไปช่วย Yau Tong ซื้อยาให้แม่บุญธรรมใหม่เซี่ยวกุกอ้างว่ามีคนเห็น Chan Kau ในตรอกนี้ จึงนำลูกน้องในสหพันธ์มาค้นตรอกไก้มีหรือ Lam Yeuk fie จะยอม ถิ่นใคร ถิ่นใคร ให้มันรู้มั่งรอมานานตั้ง 10 ปี ในที่สุดจะได้ล้างมลทินให้บิดาในสมัยก่อนบิดาพระชายาเป็นชู้กับฮูหยินของ Chan kauพระชายาจึงสงสัยว่าเขาฆ่านางแล้วใส่ร้ายบิดาของนางChan Kau ปฏิเสธ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าฮูหยิน แต่ถ้าบิดานางยังไม่ตายล่ะก็ เขาจะต้องตามล่าแน่นอนจูกัวะซิงแซเข้ามาขัดขวาง ห้ามไม่ให้นางลงมือพระชายา: ข้ารอมานาน 10 ปีถึงมีวันนี้ ต่อให้แลกด้วยชีวิต ข้าต้องล้างมลทินให้ท่านพ่อจูกัวะซิงแซ: เขาไม่ใช่ฆาตกรพระชายา: ท่านพูดอะไรจูกัวะซิงแซ: เจ้าต้องการความจริงใช่มั้ย อาจารย์ทิ้งจดหมายลาตายไว้สารภาพว่าเขาเป็นคนฆ่าฮูหยินของ Chan Kauพระชายา: จดหมายอะไร ข้าไม่เคยเห็น ท่านพ่อฆ่าตัวตายเพราะทนเสียงครหาชองขาวบ้านไม่ได้ต่างหากตอนนี้ ข้าพบตัวฆาตกรแล้ว เหตุใดท่านจะให้ข้าปล่อยมันไปจูกัวะซิงแซ: พ่อเจ้าทำผิดพลาด ข้าไม่อยากให้เจ้าซ้ำรอยจูกัวะซิงแซมอบจดหมายลาตายให้พระชายาเขาพบจดหมายข้างศพอาจารย์ สารภาพว่าเป็นชู้กับฮูหยิน Chan Kauต่อมาตั้งใจจะขอเลิก แต่ฮูหยินไม่ยอม แถมขู่ว่าจะแฉให้ชาวบ้านรู้อาจารย์จึงบันดาลโทสะ ใช้แท่นหมึกทำร้ายนางถึงแก่ความตาย อาจารย์เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป จึงฆ่าตัวตายไถ่โทษจูกัวะซิงแซ เห็นแก่ชื่อเสียงของอาจารย์จึงปกปิดเรื่องนี้ไว้จูกัวะซิงแซ: ข้าไม่เคยคิดจะบอกความจริงให้เจ้ารู้เลยพระชายา: ท่านยอมให้ข้าเกลียดท่าน แต่ไม่ยอมบอกความจริงงั้นหรือจูกัวะซิงแซ: เรื่องมันก็ผ่านไปนานแล้ว ปล่อยวางซะเถอะที่ตรอกไก่ ยังตีกันไม่เลิกสามมือปราบมาช่วยระงับเหตุ แต่ดูท่าจะไม่สำเร็จง่ายๆ แล้วเซี่ยวตอจะมาทำไม เดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอกระหว่างต่อสู้ แนฮ้วยทำสร้อยฟันหมาป่าหล่น เซี่ยวตอจึงเก็บไว้ให้Lam Yeuk-fei กำลังถูกรุม ทิช่ิวเข้ามาช่วยนางถ้าไม่หยุดต่อสู้ จับจริงๆ นะเออจูกัวะซิงแซเข้ามาห้าม Chan Kau ถูกจับแล้วมีอะไรไปเคลียร์กันที่กองปราบเขาตีกันเสร็จแล้ว ตุยเมี่ยเพิ่งจะกลับมาถึงบ้อเช้ง: ตรอกไก่อยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เจ้ากลับไม่รู้ เจ้าไปอยู่ที่ไหนมาจูกัวะซิงแซ: มีอะไรกลับกองปราบแล้วค่อยว่ากันเจ้าสำนักเสือบินขอให้กองปราบส่งตัว Chan Kau ให้จูกัวะซิงแซไม่ยอม เรื่องสืบสวนปล่อยเป็นหน้าที่กองปราบเถอะChan Kau ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ลงมือหนัก Lam Yeuk-fei เองก็เห็นนี่เซี่ยวกุกยังพยายามใส่ไฟ ก็สาเหตุการตายมาจากบาดแผล จะพ้นผิดได้ไงจูกัวะซิงแซเสนอให้ชันสูตรศพ เป็นทางเดียวที่จะรู้สาเหตุการตายซ่งจือหยินรับหน้าที่ชันสูตรศพ นางพบว่าเขาซี่โครงหักแต่ไม่ถึงกับทำร้ายอวัยวะภายในสาเหตุที่แท้จริงคือ สมองถูกกระแทกด้วยกำลังภายใน ที่แกร่งกล้าChan Kau ไม่มีปัญญาทำได้เจ้าสำนักเสือบิน: ถ้าไม่ใช่ Chan Kau แล้วเป็นใครบ้อเช้ง: ใครล่ะ ที่เห็นบุตรชายท่านเป็นคนสุดท้ายเจ้าสำนักเสือบินถึงบางอ้อ ว่าใครเป็นคนฆ่าบุตรชายโจรร้องจับโจรชัดๆ เลย Ling Lok-shek พลาดตรงที่บอกว่าได้เจอ Hung King ก่อนเขาตายเนี่ยแหละLam Yeuk-fei: พวกท่านฉลาดจริงๆ ฆ่า Hung King แล้วทำมาเป็นเรียกร้องความเป็นธรรมให้เซี่ยวกุก: อะไร Hung King บาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว พวกเราช่วยด้วยคุณธรรมเจ้ากลับกล่าวหาว่าพวกเราเป็นคนฆ่างั้นหรือLam Yeuk-fei: ทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจLing Lok-shek ยังใจเย็น ยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ไม่มีหลักฐานอย่ามากล่าวหากันดีกว่าเจ้าสำนักเสือบินลั่นวาจาจะแก้แค้นให้บุตรชายให้ได้แค่ผลชันสูตรอย่างเดียวคงเอาผิด Ling Lok-shek ไม่ได้ไม่เป็นไร จิ้งจอกซักวันต้องโผล่หางออกมาแน่สงสารแต่ชาวบ้านตรอกไก่ต้องพลอยเดือดร้อนแนฮ้วย: ตรอกไก่เป็นเขตดูแลรับผิดชอบของตุยเมี่ยจูกัวะซิงแซ: หากเจ้าไม่ละทิ้งหน้าที่ แจ้งให้พวกเราทราบก่อนเกิดเหตุเรื่องคงไม่เป็นเช่นนี้ เจ้าจะแก้ตัวอย่างไรตุยเมี่ย: ท่านอา ข้าบ้อเช้ง: ไม่มีอะไรจะแก้ตัวหรือไง ดีแต่ทำเป็นเล่นตุยเมี่ย: ถ้าจะลงโทษข้า ก็เชิญจูกัวะซิงแซ: เรื่องผ่านไปแล้ว จะลงโทษเจ้าก็ไม่มีประโยชน์ เก็บไปคิดดูให้ดีเถอะตุยเมี่ยเป็นห่วงพ่อแม่บุญธรรม คราวหลังเขาตีกัน อย่าไปขวางได้ไหมเฮ้อ ถ้าแจ้งกองปราบทันคงไม่เกิดเรื่องป้าหยางและ Yau Tong ต่างปลอบใจตุยเมี่ย ตุยเมี่ยต้องการช่วยเหลือชาวตรอกไก่เก็บกวาดสถานที่ แต่กลับโดนต่อว่าเป็นมือปราบซะเปล่า ปกป้องตรอกไก่ยังไม่ได้เลยYau Tong: ใจเย็นก่อน ข้ารู้ว่าพวกเจ้ารู้สึกอย่างไรตุยเมี่ยเติบโตที่ตรอกนี้ ที่นี่เป็นบ้านของเขาพวกเจ้าคิดว่าเขาจะรู้สีกอย่างไร ที่เห็นที่นี่เป็นแบบนี้ตุยเมี่ย พ่อแม่บุญธรรมเจ้าก็ได้รับบาดเจ็บ เจ้ายังมาช่วยพวกเขาอีกตุยเมี่ย: ไม่ต้องพูดแล้ว ช่วยกันเก็บกวาดเถอะพี่น้องกันนี่นา จะปล่อยให้ตุยเมี่ยเก็บกวาดคนเดียวได้ยังไงทิช่ิ่ว แนฮ้วย แม้กระทั่งบ้อเช้งก็ยังมาตุยเมี่ย: บ้อเช้ง ท่านก็มาด้วยบ้อเช้ง: ข้าไม่ได้มาช่วยเก็บกวาดหรอก ข้ามาช่วยสั่งงานต่างหากตุยเมี่ย: แน่นอนบ้อเช้ง: เลิกเจ๊าะแจ๊ะกัน แล้วลงมือทำงานได้แล้วอาหญิง: เห็นพวกเขาร่วมงานกันได้ ข้าก็หายห่วงจูกัวะซิงแซ: หายห่วงอะไร ข้าไม่เห็นเคยเป็นห่วงพวกเค้าเลยอาหญิง: จริงเร้อจูกัวะซิงแซเป็นห่วงพระชายา ตั้งแต่พบกันครั้งสุดท้าย นางยังไม่ยอมกลับวังยังไงก็ตามวันครบรอบวันตายอาจารย์ พระชายาต้องมาเคาพบสุสานบิดาแน่เขาจึงรอนางอยู่ที่นั่น พระชายาเองก็สองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็รับไม่ได้ ที่บิดาที่ตัวเองเทิดทูน เป็นฆาตกรเพื่อให้พระชายาปล่อยวางให้ได้ จูกัวะจึงเผาจดหมายลาตายนั้นเสียพระชายา: ตลอดหลายปีมานี้ เพื่อปกป้องเกียรติของท่านพ่อท่านต้องยอมอดสูใจ ยอมให้ข้าโทษท่าน ทำร้ายจิตใจท่าน ช้าขอโทษอ๋อง Chai เป็นห่วงพระชายาไม่กลับวังหลายวัน แถมไม่ยอมส่งข่าวจะโกรธยังไงก็ไม่ควรหายตัวไปเฉยๆ พระชายา: วันนี้ เป็นวันครบวันตายพ่อข้าอ๋อง Chai: จริงด้วย ข้างานยุ่งจนลืม พรุ่งนี้เราไปด้วยกันนะข้าจะให้เขาเตรียมขบวน และนักดนตรีพระชายา: ไม่จำเป็น ข้าไปมาแล้ว ที่สำคัญของแบบนี้ ดูที่ความตั้งใจจริงก็พออ๋อง Chai: งั้นปีหน้านะ ปีหน้าเราค่อยไปด้วยกันเซี่ยวตอโกรธบิดาไม่ยอมกินข้าวปลาอาหารหลายวันจนเป็นลมLing Lok-shek จึงให้คนไปเชิญซ่งจือหยินมาตรวจอาการตรวจดูก็รู้ว่าเซี่ยวตอโกหก ถ้าไม่บอกความจริงเดี่ยวฟ้องพ่อเลยนี่ซ่งจือหยินอ้างว่าเซี่ยวตอเป็นโรคหดหู่ เอาแต่อุดอู้อยู่ในห้อง คงไม่มีทางหายนางขอให้เซี่ยวตอไปค้างที่โรงหมอของนางเพื่อสะดวกในการรักษาอาการLing Lok-shek ยอมทำตามแนฮ้วยมารักษาบาดแผลที่โรงหมอของซ่งจือหยินเซี่ยวตอซึ่งแกล้งป่วย พอเห็นแนฮ้วยละก็ดี๊ด๊าขึ้นมาเชียวเซี่ยวตอคืนสร้อยคอฟันสุนัขให้ แต่แนฮ้วยกลับไม่สนใจถ้าพังแล้วจะเก็บกลับมาทำไม ทิ้งไปเลยอหอะซ่งจือหยิน: เลือดเย็นช่างเลือดเย็นสมชื่อเพื่อให้ได้พบท่าน เซี่ยวตอ นางถึงกลับยอมอดอาหาร และโกหกทางบ้านท่านกลับไม่ขอบคุณซักคำโดนว่าขนาดนั้น แนฮ้วยยังทำเป้นหูทวนลมได้อีกทิชื่ว: เซี่ยวตอทำไปตั้งมากมายเพื่อให้ได้พบหน้าเจ้าอย่างน้อยก็น่าจะพูดกับนางหน่อยแนฮ้วย: นางก็เห็นหน้าข้าแล้วนี่ทิชื่ว:นางอุตส่าห์เก็บสร้อยให้เจ้านะแนฮ้วย: มันเรื่องของนาง
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 11
The Four สี่มือปราบพญายม ตอน 11จากตอนที่แล้ว สี่มือปราบวางแผนจับคนร้าย เมื่อคนร้ายเห็นแม่บุญธรรมตุยเมี่ย ออกจากบ่อนมาตามลำพัง จึงลงมือโจรกระจอกจริงๆ แค่โดนอาวุธลับบ้อเช้งหน่อยเดียวก็ถูกจับกุมโดยละม่อมซะแล้วบ้อเช้งส่งพลุสัญญาณแจ้งพรรคพวกคนร้าย Tsun Ming ไม่ยอมรับสารภาพพอแนฮ้วยเอาอาวุธของตัวเองมาขู่ก็รีบยอมรับทันทีบ้อเช้งอยากรู้ว่าอาวุธนี้เกี่ยวข้องกับ Shing Ting-tin หรือไม่ก็แค่คนหาปลาที่บังเอิญพบหีบใส่อาวุธริมแม่นำ้ นึกว่าเป็นหีบสมบัติที่ไหนได้ ข้างในมีอาวุธมากมาย ก็เลยคิดสั้นหวังรวยกับเค้ามั่งบ้อเช้งหวังจะสืบหาต้นตอตัวคนสร้างอาวุธไม่รู้ทำไมรู้สึกประทับใจกับอาวุธชิ้นนี้ หรือว่าจะเคยเห็นในสมัยเด็กโธ่เอ๋ย ตอนนั้นบ้อเช้งอายุแค่ขวบเดียว จะเคยเห็นอาวุธนี้ได้อย่างไรที่สำคัญคนสร้างอาจตายไปนานแล้วก็ได้พักผ่อนเหอะ อย่าคิดมาก เรื่องคดีท่านอาจะสืบต่อเองว่าแล้วก็เก็บอาวุธ เก็บภาพร่างเรียบวุธมืดค่ำขนาดนี้ น่าแปลกที่อาหญิงไม่อยู่กับบ้าน ไม่รู้นางหายไปไหนขณะเดียวกัน สายของฉั่วเกีย รายงานเรื่องพบอาวุธตระกูล Shing ให้ฉั่วเกียทราบหรือว่า อาหญิงจะเป็นไส้ศึกกันเนี่ยเช้ารุ่งขึ้น จูกัวะซิงแซคุมตัว Tsun Ming ไปค้นหีบอาวุธที่บ้านกลับถูกฉัวเกียตัดหน้า วางกับดักเอาไว้ มือปราบกับคนร้ายถูกลูกหลงเสียชีวิตอาวุธที่หายสาบสูญของตระกูล Shing ตกอยู่ในมือฉั่วเกียจนได้น่าเสียดายที่ขาดอาวุธพิสดารที่ทรงอานุภาพที่สุด แต่ก่อนจะตามหาอาวุธ ต้องกำจัดสปายที่มาสอดแนม Ling Lok-shek ซะก่อนทุกคนข้องใจว่าทำไมมีคนรู้ความเคลื่อนไหวของกองปราบอย่างนี้ต้องมีเกลือเป็นหนอนแน่ทิชิ่วไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนในกองปราบเป็นไส้ศึกตุยเมี่ย: ข้าไม่เห็นด้วย ใช่ว่าทุกคนอยากจะเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมเหมือนเจ้านี่ทิชิ่ว: งั้นเจ้าจะบอกหรือว่า เจ้าอยากเป็นไส้ศึกมากว่ามือปราบจูกัวะซิงแซพบศิษย์น้องพระชายา เมื่อนางทราบเรื่องไส้ศึกนางจึงสงสัยอาหญิง เฮ้อ ดูมาตั้งนาน เพิ่งรู้ว่าอาหญิงชื่อ Lau Piu-suet พูดไม่ทันขาดคำ ทั้งคู่ก็เห็นอาหญิงทำลับๆ ล่อๆ จึงสะกดรอยตามไปเป็นถึงหัวหน้ามือปราบ สะกดรอยแค่นี้ ก็ให้อาหญิงรู้ตัวได้ยังไม่ทันจะซักถามได้เรื่องได้ราว ก็พอดีมีเสียงคนถูกทำร้ายก็คนที่พระชายาเห็นอยู่กับอาหญิงนั่นแหละ ถูกแทงด้วยกระบี่เสียชีวิตเราจะได้รู้ประวัติของอาหญิงที่ O-yo สงสัยมานานกันซะทีฟงสามีของอาหญิง ถูก Ling Lok-shek ฆ่าตายจูกัวะซิงแซรับนางไว้เป็นแม่บ้าน นางหวังจะแก้แค้นแทนสามี จะเป็นไส้ศึกได้ไงส่วนอา Chiu ที่ตายเป็นน้องสามีของนาง ตอนสามียังมีชีวิต ไม่ค่อยลงรอยกับน้องชาย อา Chiu ออกจากบ้านไปหลายปี จนนางมาเจอเขาเป็นสมุนของ Ling Lok-shekเมื่อรู้ว่าพี่ชายต้องตายเพราะ Ling Lok-shek จึงร่วมมือกับนางเพื่อแก้แค้นนึกไม่ถึงว่านางกลับทำให้เขาต้องตายอ้าว แล้วใครกันล่ะ ที่เป็นไส้ศึกจูกัวะซิงแซกลับถึงกองปราบก็ได้รู้ว่า บ้อเช้งนำกระบี่เงินเดินทางไปพบเจ้าอาวาสที่วัดเมือง Tai-yinซึ่งเป็นผู้รู้อดีตของบ้อเช้ง ทั้งยังเป็นคนตั้งชื่อให้อีกด้วยเฮ้อ ความวัวยังไม่ทันจะหาย ความควายก็เข้ามาแทรกจูกัวะชักปวดหัวแล้วนะเมื่อบ้อเช้งได้พบกับเจ้าอาวาส ก็สอบถามเรื่องทายาทตระกูล Shingเจ้าอาวาสปฏิเสธไม่รู้เรื่อง เรื่องนอกวัดไม่ใช่กิจของสงฆ์ทางที่ดีก็ปล่อยวางได้ ก็จงปล่อยวางเถอะขนาดกระบี่เงินยังสงสัยเลยว่า เจ้าอาวาสจะปกปิดความจริงเอาไว้บ้อเช้งเดินทางมาถึงบริเวณสะพานที่บัณฑิตรอบรู้สืบมาว่าเป็นสถานที่ที่ Fok To-yeun ซุ่มโจมตี Shing Ting-tinแต่สุดท้าย Shing Ting-tin ก็หนีรอดไปได้ และกลับไปแก้แค้นฆ่าล้างตระกูล Fokดูจากร่องรอยการต่อสู้ที่เห็นบนสะพาน บ้อเช้งชักจะเชื่อว่าคำเล่าลือน่าจะเป็นจริงว่าจะถามความเป็นมาจากคนแถวนี้ซะหน่อยลุงก็กลับกลัวจนไม่กล้าพูด แต่บ้อเช้งเห็นลุงกราบไหว้ป้ายหินที่ตีนสะพาน ก็ยิ่งชัดปรากฎการณ์แปลกเกิดขึ้นแล้ว บ้อเช้งยอมปรึกษาคดีทิชิ่วโอ้ว ความสัมพันธ์คืบหน้าจริงๆ ตกลงจะเปลี่ยนเรื่องเป็นโรมิโอ จูเลียตใช่ปะทิชิ่วเชื่อว่า Shing Ting-tin น่าจะขายอาวุธให้ศัตรูจริงไม่เช่นนั้นคงไม่วางแผนซ่อนอาวุธเอาไว้ จน Tsun Ming ไปพบเข้าบ้อเช้งเองยอมรับว่าถ้า Shing Ting-tin ขายชาติ ก็สมควรถูกประหารทั้งตระกูลอยู่แล้วจูกัวะซิงแซไม่พอใจที่บ้อเช้งดื้อสืบเรื่องตระกูล Shing ต่อโดยไม่รายงานมีคดีสำคัญให้ไขอีกหลายคดี ไม่ไปทำ มาทำเรื่องไร้สาระตระกูล Shing ก็ไม่มีทายาทสืบทอดแล้ว แทนที่จะสืบเรื่องตระกูล Shing สู้สืบว่าใครขโมยอาวุธไปจะดีกว่าจ๋อยเลย โดนท่านอาดุฉั่วเกียนำอาวุธตระกูล Shing มาให้ Ling Lok shek กับบุตรชายทดสอบอานุภาพขนาดกระบองร้อยโซ่ที่ดูธรรมด๊า ธรรมดา ยังสามารถหลอกซ้าย ฆ่าขวาได้ฉั่วเกียสังหารลูกน้อง เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู คนทำงานพลาดก็สมควรตายอย่างนี้แหละว่าแต่เมื่อไหร่จะรวบรวมพรรคต่างๆ มาอยู่ในสหพันธ์ได้หมดสองพ่อลูกเริ่มเครียด Lam Yeuk-fei เห็น Chan Kau ที่เพิ่งเข้าสังกัดมาหมาดๆชกต่อยแย่งผู้หญิงกับ Hung King นายน้อยสำนักเสือบินกลางตลาด ทำอย่างนี้ เสียชื่อพรรคหมด ว่าแล้วยังหือ ต้องตบสั่งสอนซะให้เข็ดChan Kau กลัวถูกจับกลับพรรคไปลงโทษ จึงหลบหนีไปLing Lok-shek กำลังคิดหาทางรวมสำนักพรรคต่างๆ เข้าร่วมสหพันธ์ก็พอดีพบ Hung King ที่ได้รับบาดเจ็บ เซี่ยวกุกเห็นโอกาสจะช่วยเหลือเขาเพื่อให้สำนักเสือบินเข้าร่วมสหพันธ์ แต่ Ling Lok-shek คิดการณ์ไกลกว่านั้นLing Lok-shek ลงมือสังหาร Hung King เพื่อใส่ร้ายสำนักฟ้าตุยเมี่ยชวนสามหนุ่มมาร่วมสังสรรค์ เหล้าตุยเมี่ยเลี้ยงเอง แต่ขอเก็บค่าอาหารคนละสองตำลึงละกันแนฮ้วย: งั้นข้าดื่มอย่างเดียว ไม่กินอาหาร (โอ้ว แนฮ้วย นายแน่มาก)ตุยเมี่ย: หา ข้าก็ชาดทุนน่ะสิ ข้าลดให้เหลือตำลึงครึ่งก็ได้ทิชิ่ว: ถ้าเจ้าเลี้ยงสิ พวกเราถึงจะโอเคตุยเมี่ย: ก็ได้ คราวนี้ข้าเลี้ยง คราวหน้าตาพวกเจ้าบ้างนะLing Lok-shek นัดหมายสำนักฟ้าและสำนักเสือบินมาเจรจาเจ้าสำนักเสือบินขอทวงความเป็นธรรมให้บุตรชายLam Yeuk-fei ยืนยันว่าตอนเลิกทะเลาะกัน Hung King ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรเท่าไหร่และยังมีชีวิตอยู่เจ้าสำนักเสือบินไม่สน ยื่นคำขาดให้ Lam Po-tin ส่งตัว Chan Kau มาให้จะส่งตัวได้ยังไง ตอนนี้ Chan Kau หายตัวไปไหนก็ไม่มีใครรู้เซี่ยวกุกฉวยโอกาสซ้ำเติม หาว่าสำนักฟ้าต้องการปกป้องคนผิดถ้าสำนักฟ้าไม่ส่งมอบคนออกมา สหพันธ์จะสนับสนุนสำนักเสือบินเรียกร้องความเป็นธรรมเองเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง ก็ตีกันไปเลย สมใจ Ling Lok-shek จริงๆกำลังตีกันมันส์ๆ พอได้ยินว่ากองปราบมาเท่านั้นแหละ สงบเสงี่ยมขึ้นมาทันทีอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา อย่าบอกว่ามาจิบน้ำชาคุยกันนะเรื่องของชาวยุทธ กองปราบมาเกี่ยวอะไรด้วยทิขิ่ว: พวกเจ้าทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน พวกเราต้องเกี่ยวแน่ตุยเมี่ย: ทำข้าวของร้านเสียหาย เจ้าของร้านมีสิทธิ์ฟ้องพวกเจ้าได้บ้อเช้ง: พวกท่านสู้กันด้วยเรื่องใดLam Po-tin: พวกเราซ้อมยุทธ์กันต่างหากบ้อเช้ง: เจ้าสำนัก Hung แล้วท่านจะว่ายังไงเจ้าสำนัก Hung: เจ้าสำนัก Lam ว่าไง ข้าก็ว่ายังงั้นแต่เรายังไม่รู้ผลแพ้ชนะ วันหลังข้าจะไปเยี่ยมเยียนท่านที่สำนักเซี่ยวกุกใช้ข้ออ้างตามหา Chan Kau ในการแย่งชิงพื้นที่สำนักฟ้าทั้งสองฝ่ายต่างมารักษาตัวที่ร้านของซ่งจือหยินบ้อเช้งและแนฮ้วยจึงตามมาสืบคดีที่ร้านแนฮ้วยสอบถามคู่กรณี บังเอิญพลั้งมือทำรูปปั้นหมอฮัวโต๋ของซ่งจือหยินตกแตกลูกพรรคไม่กล้าสู้แนฮ้วย ยอมทำร้ายตัวเองสลบ จะได้ไม่ต้องตอบคำถามซ่งจือหยิน: พวกท่านทำเกินไปแล้วนะ พวกเขาเป็นคนไข้ของข้าท่านทำเช่นนี้ รังแต่จะทำให้พวกเขาเจ็บหนักขึ้นบ้อเช้ง: ข้าเสียใจที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่เพื่อความสงบสุขของเมืองไคฟงข้าต้องสืบให้รู้ต้นเหตุให้ได้แนฮ้วย: พวกเขายอมเจ็บตัว แต่ไม่ยอมพูดความจริง เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ซ่งจือหยิน: นี่เป็นร้านของข้า พวกท่านไปซะใช้วิธีการสอบถามไม่ได้ผล ตุยเมี่ยก็เลยติดสินบนจนได้รู้เรื่องทั้งหมดตรอกไก่ที่พ่อแม่บุญธรรมตุยเมี่ยอาศัยอยู่ก็อยู่ในเขตสำนักฟ้าซะด้วยหากจะยุติศึกระหว่างสำนักได้ ต้องตามหา Chan Kau ให้เจอโดยไวและระหว่างนั้นต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของแต่ละสำนักอย่างใกล้ชิดทำให้สาวโกรธก็ต้องรีบไปขอโทษ บ้อเช้งรู้งานจริงๆซื้อรูปปั้นหมอฮัวโต๋มาคืน แต่แม่นางกำลังงอนค่ะซ่งจือหยิน: ถึงท่านซื้อมาใหม่ ก็ไม่ใช่อันเดิมบ้อเช้ง: ข้ารู้ว่ารูปปั่นนั้นเป็นของดูต่างหน้าท่านหมอ Lung อาจารย์ของเจ้าจึงมีคุณค่าทางจิตใจต่อเจ้ามาก ข้าให้คนไปซื้อรูปปั้นนี้มาจาก JiangXiโรงงานเดียวกับรูปปั้นเดิม ข้าหวังว่าเจ้ารับไว้ซ่งจือหยิน: เสร็จธุระแล้ว ท่านก็ควรกลับซะทีบ้อเช้ง: ข้าอยากจะเตือนเจ้าซักหน่อย ระยะนี้เกิดศึกระหว่างสำนักขึ้นจะออกไปไหนมาไหน ก็ระวังตัวด้วยซ่งจือหยิน: รู้สึกว่ายาของข้าจะมีประสิทธิภาพดีมาก ท่านดีขึ้นเยอะบ้อเช้ง: โรคหอบหืดข้าดีขึ้นมากซ่งจือหยิน: ข้าไม่ได้หมายถึงโรคของท่าน ข้าหมายถึงจิตใจของท่านต่างหากบ้อเช้ง: จิตใจของข้าซ่งจือหยิน: คนไร้น้ำใจอย่างท่าน รู้จักใส่ใจคนอื่น ไม่เรียกว่าดีขึ้นหรอกหรือ เซี่ยวกุกกับ Lam Yeuk-fei เจอกันในตลาดคู่แค้นทางคับแคบจริงๆ Lam Yeuk-fei ไม่พอใจที่เซี่ยวกุกทำร้ายอา Fook ป่านนี้ยังไม่ฟื้นอย่างนี้ต้องราวีกันให้ตายไปข้างทิชิ่วมาขัดขวางทันเวลา แต่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อหากยังพูดไม่รู้เรื่องก็ต้องจับทั้งคู่Lam Yeuk-fei: ได้ให้ข้าฆ่ามันก่อน แล้วท่านค่อยจับข้าสุดท้ายก็โดนจับทั้งคู่จนได้ขนาดถูกขังยังไม่วายมาทะเลาะกันต่อสำนักฟ้า และสหพันธ์ยกพวกมาประท้วงที่กองปราบเพื่อทวงคนจูกัวะซิงแซพยายามต่อรองให้สำนักฟ้าและสหพันธ์มอบหน้าที่สืบสวนหาคนร้ายทีเงี้ย Ling Lok-shek กับ Lam Po-tin เห็นพ้องต้องกันขค้นมาทีเดียวเรื่องของชาวยุทธ์ ให้ชาวยุทธ์จัดการกันเองเถอะ กองปราบไม่ต้องยุ่งแต่ถ้าไม่ปล่อยตัวเซี่ยวกุก กับ Lam Yeuk-fei ออกมาล่ะก็ เป็นเรื่องแน่