All Blog
กำแพงเบอร์ลิน อัปยศแห่งอำนาจ
601130 กำแพงเบอร์ลิน อัปยศแห่งอำนาจ
Berlin Wall Shame of power by DrPK
เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศที่ชนะสงครามแบ่งสมบัติที่พึงได้ โดยไม่คำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของผู้คนในประเทศผู้แพ้
 ผู้เข้าสู่สงครามคือผู้นำประเทศ ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา แต่เมื่อเข้าสู่สงคราม คนล้มหายตายจากคือชาวบ้าน และเมื่อแพ้สงคราม ใครคือผู้รับกรรม ก็ชาวบ้านอีกนั่นแหละ
 อำนาจเป็นความถูกต้องเฉพาะผู้มีอำนาจเท่านั้น ไม่เคยรับเคราะห์กรรมแม้แต่น้อย ส่วนชาวบ้านรับเคราะห์กรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อแม้แต่น้อย ซวยไปที่ต้องอยู่ใต้อำนาจของคนอื่น
 ที่เบอร์ลินเมืองหลวงเยอรมันมีรัสเซียคุมทางตะวันออก อเมริกาคุมทางตะวันตก
 ชาวบ้านมีชีวิตแบบเดิมในช่วงแรก คนทางตะวันตกไปทำงานทางตะวันออก ผู้คนยังคงมีเสรีภาพในการเดินทาง จนมาวันหนึ่งที่ครุสชอฟเกิดความคิดแบบคอมมิวนิสต์ สร้างแนวลวดหนามโดยปิดกั้นไม่ให้คนเดินทางเข้าออก
 ต่อจากนั้นได้สร้างกำแพงที่หนาขึ้น แข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อปิดกั้น นี่เป็นวิธีคิดเพื่อแก้ปัญหา น่าแปลกที่ฝั่งตะวันตกไม่ได้จัดการแก้ปัญหานี้ ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างยอมกัน แต่ชาวบ้านไม่ยอมที่จะอยู่ภายใต้การปกครองที่ตนไม่ปรารถนา จึงเกิดการหลบหนีจากตะวันออกไปยังตะวันตก
 สงครามเย็นระหว่างรัสเซียกับอเมริกา หรือคอมมิวนิสต์กับทุนนิยม ความแตกต่างโดยสิ้นเชิง ยิ่งสร้างความแตกแยกให้ถ่างขยายมากขึ้น ครุสชอฟและเคนเนดี้คือผู้นำที่ยอมความกันและคิดว่าน่าจะดีแล้วในการสร้างกำแพง
 ผู้คนตายนับร้อย บาดเจ็บนับพัน ผู้คนที่พยายามหนีในสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการเพื่อแสวงหาโลกใหม่ที่ดีกกว่า จนมาถึงยุคที่กอร์บาชอฟและเรแกนเป็นผู้นำ ความคิดที่หยุดยั้งสงครามเย็นและทลายกำแพงเบอร์ลินเริ่มเป็นจริงขึ้น
 ความคิดของคนที่สกัดกั้นเสรีภาพและทำลายล้างคนที่คิดต่างจากตนได้ยุติลง ผู้ที่มีอำนาจและสั่งยิงคนที่คิดหนีได้รับการลงโทษ
 สิทธิและเสรีภาพของชาวบ้านธรรมดาสมควรได้รับการปกป้องอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้มีอำนาจไม่กี่คนมาบงการ แต่บอกแล้วต้องรับความซวยที่ตนไม่ได้ก่อ มันคืออัปยศแห่งอำนาจ ที่คนธรรมดาไม่มีสิทธิ์จะหลีกหนีให้พ้น
 



Create Date : 16 มิถุนายน 2562
Last Update : 16 มิถุนายน 2562 4:29:41 น.
Counter : 859 Pageviews.

0 comment
อิทธิพล อำนาจ ชนชั้นทางสังคม
620615 อิทธิพล อำนาจ ชนชั้นทางสังคม
Powerful, power and Social classes by DrPK
               ความแตกต่างระหว่างชนชั้นมีมานาน นานมากแล้ว บางคนพยายามแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นโมเสส จนถึงกับต้องละทิ้งตำแหน่งเจ้าชายอียิปต์ นำทางชาวยิวหาแผ่นดินใหม่
               คาร์ล มาร์กซ์ เจ้าลัทธิคอมมิวนิสต์ ผู้ทำให้เกิดความคิดว่า ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน วุ่นวายไปทั่วโลก เมื่อกาลเวลาผ่านไป สิ่งที่คิดไม่อาจทำได้จริงครบร้อย
               ชนชั้นทางสังคมที่ต่างกันก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างมวลมนุษยชาติ คนมั่งมีไม่ยอมจนลง คนยากจนตะกายเพื่อให้มีมากขึ้น ช่องว่างนี้คงถ่างขยายกว้างมากขึ้นในยุคทุนนิยม
               น่าแปลกที่คนจนบางคนตะกายจนเป็นคนมั่งมี กลับหลงลืมสภาพเดิมก่อนแปลงร่าง จากกาหลงลืมว่าตนคือหงส์ไปแล้ว มีแต่ทะยานอยากเพื่อให้เป็นหงส์เต็มตัว
คนมีอิทธิพลย่อมมีอำนาจ ชี้ไม้ให้เป็นนก คนยังเห็นเป็นนก บางคนอาจจะอยากค้าน แต่ไม่กล้า หรือกล้าแต่เสียงไม่ดังพอที่จะให้คนทั่วหล้ามองเห็นและประจักษ์ว่า นั่นคือไม้มิใช่นก
ทุกสิ่งคงเป็นไปเช่นนี้ และอาจเป็นไปตลอดกาล สำหรับผู้หวังฟ้าสีทองผ่องอำไพ คงต้องทำใจ หรือปลงให้ได้ว่า ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ทำใจให้สบาย
การให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา ต้องมีชั้นเชิง มีกลยุทธ์ อย่ารุกราน อย่าก้าวร้าว เพราะแรงดันกับแรงต้านย่อมมีเท่ากัน ถ้ารู้จักผ่อนปรนยอมความบ้าง หนทางชนะอาจมองเห็นอยู่เบื้องหน้า
 



Create Date : 15 มิถุนายน 2562
Last Update : 15 มิถุนายน 2562 6:10:05 น.
Counter : 798 Pageviews.

0 comment
ลดราวาศอกได้คงจะดีนะ
ลดราวาศอกได้คงจะดีนะ
Accepting, would be good by DrPK
            จะมีใครสักคนที่ชอบให้คนอื่นมาวิพากษ์วิจารณ์ตัวเราในทางที่ไม่ดี คงไม่มีเป็นแน่
            สำหรับคนที่มีอำนาจ เชื่อมั่นในตนเอง แค่ส่งเสียงคำรามนิด ๆ ก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องแล้ว
บางคนมีอำนาจแต่ไม่อยากแสดงอำนาจ ได้แค่บอกกล่าวว่า ลดราวาศอกกันเถอะ เป็นการแสดงออกอย่างสุภาพแล้ว แต่นัยยะไม่อยากให้ต่อความยาวสาวความยืดให้มากความไปอีก
คำนี้เลยฮิตติดตลาด และถกเถียงว่า ราหรือลากันแน่ เมื่อแปลความ ราคือทำให้น้อยลง ไม่ใช่เชื้อราทางวิทยาศาสตร์ ส่วนลาแปลว่าเลิก หรือทำให้หยุดทันที
คำไทยจึงใช้ ลดราวาศอกเพื่อบอกให้เลิกต่อความให้เรื่องราวใหญ่โต ยอม ๆ กันบ้าง ใช่จะเอาชนะทุกเรื่อง
ถ้าทุกคนยอมลดราวาศอกกันจริง ๆ คงไม่เกิดปัญหาตามมาเป็นแน่ ไม่มีมวลชนของนิสิตนักศึกษาประท้วงสิ่งที่ตนคิดว่าไม่ชอบธรรม ไม่มีหัวข้อให้ถกเถียงในสภากาแฟ ไม่มีการประท้วงลาออกจากผลโพลเรื่องนาฬิกาในแวดวงนักวิชาการ
เมื่อเกิดการจับกุมห้ามปรามเพื่อหยุดไฟเสียแต่ต้นลม ไม่ให้เกิดไฟลามทุ่ง จากเรื่องที่บางคนคิดว่า เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ ทำให้บางคนบอกว่า ขอให้ใช้คำว่า ลดราวาศอก กับกรณีนี้เช่นกัน
ถ้าทุกฝ่ายยอมลดราวาศอกกันจริง ๆ แล้วความปรองดองย่อมเกิดได้แน่ในสังคมไทย
 



Create Date : 14 มิถุนายน 2562
Last Update : 14 มิถุนายน 2562 15:59:14 น.
Counter : 697 Pageviews.

0 comment
จุดเล็ก ๆ ที่ก่อให้เกิดสันติสุขได้
จุดเล็ก ๆ ที่ก่อให้เกิดสันติสุขได้
A small point that creates peace by DrPK
จุดนับเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด ในวิชาเรขาคณิต แต่จุดสามารถทำให้เกิดเป็นเส้น มุม รูปเหลี่ยม
หน่วยที่เล็กที่สุดก่อให้เกิดหน่วยใหญ่ ๆ ได้ จะลบหน่วยใหญ่ได้ถ้าสามารถลบแต่ละหน่วยเล็ก
หนึ่งคนเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม แต่รวมตัวกันทำให้เกิดเป็นบ้าน ชุมชน ประเทศ ซึ่งทำให้สังคมสงบสุขหรือวุ่นวายได้ ถ้าร่วมมือกันหรือคิดว่าตนสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดในสิ่งที่ต้องการ
ทำไมความคิดของผู้คนจึงแตกต่างกัน ยิ่งมีสื่อมากเท่าใด ยิ่งมองเห็นความต่างมากขึ้นเท่านั้น
หลายครั้งสับสนว่าใครผิดใครถูก หรือไม่มีใครผิดใครถูก
สิ่งที่เห็นต่างกันทำให้ความคิดนั้นต่างกัน ความแตกแยกเกิดจากการเลือกมองแต่สิ่งไม่ดีของฝ่ายตรงข้าม
อยากมีชีวิตที่ดีและสงบสุข ให้มองแต่ส่วนดี เลิกสร้างความเกลียดชัง มิเช่นนั้น ตัวเราเอง บ้านเรา และเมืองเราจะร้อนรุ่ม ท่านพุทธทาสสอนว่า จงมองแต่ส่วนดีเขามีอยู่
เราคือส่วนหนึ่งของสังคม ที่มีหน้าที่สร้างสังคมให้น่าอยู่ ในบ้าน เราต้องพูดจากันด้วยดีไม่โกรธกันนานเกินข้ามวัน  ไม่ด่าทอเสียดสีกันทุกวัน นอกบ้านก็เช่นกัน ชาวบ้านตาดำๆ ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องตกเป็นทาสแห่งการล้างแค้นของผู้กระหายในอำนาจที่ต้องการครอบครอง โดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรมในการสั่งการ
เมื่อไหร่หนอโลกจึงจะมีแต่สันติสุข  และปราศจากความขัดแย้งซึ่งกันและกัน จุดเล็กๆแห่งความไม่ชอบอีกฝ่าย ทำให้เกิดความขัดแย้งที่บานปลายได้ ถ้าแต่ละคนไม่คิดจะหยุด
 



Create Date : 14 มิถุนายน 2562
Last Update : 14 มิถุนายน 2562 15:55:23 น.
Counter : 592 Pageviews.

0 comment
ความต่างระหว่างชนชั้น
620323 ความต่างระหว่างชนชั้น
Differences between classes by DrPK
               เรื่องชนชั้นทางสังคมมีมาอย่างยาวนาน คงยกเลิกไม่ได้หรือต้องยอมรับอย่างทำใจยากยิ่ง
               อดีตกาลผ่านมานานนับพัน ๆ ปี ผู้ปกครองได้ชื่อว่าเป็นสมมติเทพหรือเทพมาจุติ ไม่ว่าจีนหรืออียิปต์ มีชนชั้นสูงและขุนนางคอยดูแล และใช้แรงงานชาวบ้านผู้ไร้อำนาจและกำลังในการต่อสู้ ให้ทำงานตามแต่ใจโดยมิอาจขัดขวางต่อสู้แม้แต่น้อย แถมไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอย่างคุ้มค่า ชีวิตเยี่ยงทาสและไพร่ไม่มีวันหลุดพ้นได้
               สิ่งก่อสร้างยิ่งใหญ่ระดับโลก ไม่ว่า ปราสาทราชวัง ปิรามิด สุสาน กำแพงเมืองจีนมาจากแรงงานผู้ยากไร้
ซึ่งไม่อาจจารึกชื่อได้ด้วยดีจำนวนนับล้าน จึงจดจำได้แต่ชื่อผู้นำสูงสุด ฟาโรต์ ฮ่องเต้
               โมเสสและคาร์ล มาร์กซ พยายามต่อสู้เพื่อสิทธิเสมอภาค แต่ผลสุดท้าย ไม่อาจทำได้ มันคือชะตากรรม
               ชนชั้นไพร่ไม่อาจหาญต่อสู้กับชนชั้นสูง ไม่ว่าใครผิด สรุปสุดท้าย เดาคำตอบได้
               เมื่อกาลเวลาผ่านไป เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า ชนชั้นกลางและชนชั้นล่างเริ่มมีสิทธิ์มีเสียง จะมีวันที่ทุกคนมีสิทธิเสมอภาคเท่าเทียมกันได้จริงหรือ ยังสงสัยอยู่ กรณีที่พนักงานโดนคนชั้นสูงตำหนิด้วยการทำให้อับอาย จนน้ำตากลบหน้าคนจน คิดว่าคงไม่มีหนทางการต่อสู้ แล้วมันคงเงียบหายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ถ้าสื่อไม่กระพือโหมให้ดัง
 
 



Create Date : 06 มิถุนายน 2562
Last Update : 6 มิถุนายน 2562 15:23:06 น.
Counter : 707 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments