Group Blog All Blog
|
631201 เมื่อโลกไร้เครื่องแบบ
631201 เมื่อโลกไร้เครื่องแบบ
อิสรภาพ เสรีภาพเหนือสิ่งอื่นใด เพราะเครื่องแบบทำให้ขาดความเป็นตัวตน Ok ลองคิดดูว่า ถ้าโลกไร้ซึ่งเครื่องแบบจะเป็นเช่นไรกัน ทหารตำรวจ นักบวช บริษัท ห้างร้าน ทำงานเอกชน ไม่มีสักคน ต้องโดนบังคับ ทำผิดกฎจราจร ไม่รู้ตำรวจจริงปลอมมารีดไถ สงครามยิงกันมั่ว ไม่รู้ยิงผิดยิงถูก ใครเป็นศัตรูเป็นมิตร นักศึกษาไม่โดนยิงแทงเพราะไม่รู้ว่ามาจากสถาบันใด ร้านขายเครื่องแบบเจ๊งไปตาม ๆ กัน ถ้าเครื่องแบบมี แต่ไม่เคร่งครัดล่ะ ชุดนักบวชมีหลากสี ชุดทหารตำรวจวิ่งตามแฟชั่นขาเดฟ มอส เสื้อฟิด เสื้อโคร่ง โลกคงมีสีสรรดีนะ (วงเล็บพูดประชดหรือเปล่านี่) เมื่อโลกเปลี่ยนไป คงต้องวิ่งตามให้ทัน สงสัย ทำไมนักเรียนเมืองนอกไม่ต้องมีเครื่องแบบ ไม่รู้สิ ไม่เคยอยู่เมืองนอก เลยไม่รู้ 631201 เมื่อกบออกนอกกะลา
631201 เมื่อกบออกนอกกะลา by DrPK
แต่ก่อนกะตอนนี้ เปรียบกันไม่ได้จริง ๆ ใครยึดมั่นถือมั่นในอดีตมากเท่าใด อาจเจ็บตัวเจ็บใจมากเท่านั้น แต่ใครก้าวกระโดดตามเร็วเท่าใด เสี่ยงมากด้วยเช่นกัน แล้วทำอย่างไรดีล่ะ อยู่นิ่ง ๆ อาจตกรถหรือติดดอย โดนเทหรือโดนแกง แค่ศัพท์สมัยใหม่ยังตามไม่ทันเลย เด็ก ๆ บอกครูไม่จำเป็น ห้องเรียนสี่เหลี่ยมน่าเบื่อ เครื่องแบบเชยล้าสมัย ไม่มีอะไรสักอย่างที่ดีเลยหรือในสายตาของเด็ก ๆ มีสักอย่างไหมที่ผู้ใหญ่เคยทำและพยายามสืบทอดต่อลูกหลาน สิ่งที่ครูสอนน้อยกว่าใน YouTube โลกใน internet กว้างใหญ่ไพศาล มีให้เลือกตรงตามใจ ไม่จำเป็นต้องโดนตีกรอบ สงสัยนิดว่า แล้วเด็ก ๆ ค้นคว้าหาความรู้มากกว่าติดเกมงอมแงม ใช้เวลาอย่างไร้สาระป่ะ หัดใช้คำให้ทันสมัยแทนความถูกต้องของภาษา ก้ออะไร ๆ มันเปลี่ยนแบบพลิกฝ่ามือนะเฟ้ย ขอเปรยหน่อย จะก้าวออกนอกกะลา จะท้าทายกฎเกณฑ์ อยากเป็นตัวของตัวเอง จำต้องเก่งกล้าสามารถ รู้รอบมากพอจะเห็นโลก 360 องศา รู้ในสิ่งที่จะนำพาตัวเองให้รอด มีทักษะชีวิตมากพอ ไม่ใช่แค่กระโดดเหยง ๆ ตามเพื่อน เพราะหัวหน้ากบอาจพาดิ่งเหวแทนขึ้นยอดภูผา เมื่อกบน้อยแก่ตัว ไม่รู้จะคิดเห็นเช่นกบแก่ หรือทำให้โลกสวยงามได้จริง สงสัยอยู่ โชคดีแล้วกันนะพวก 631104 เด็กรุ่น Generation Me
631104 เด็กรุ่น Generation Me
Gen Me คือคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ.1980-2000 นิสัยของคนในยุคนี้จะแตกต่างจาก Gen x, y อันที่จริง คำว่า Gen Me อาจหมายถึงคนได้ทุกรุ่นที่มีลักษณะเฉพาะดังต่อไปนี้ ทว่าในยุคนี้ Gen Me มีมากเกิน ลองมาดูสิว่า ใครบ้างที่สมควรโดนเรียกว่าเป็นพวก Gen Me อย่างแรก มีนิสัยหลงตัวเอง มองตัวเองเป็นศูนย์กลาง เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ เพราะ โดนเลี้ยงดูมาแบบเป็นศูนย์กลางของบ้าน มีพ่อแม่เอาอกเอาใจทุกเรื่อง ไม่ว่าลูกอยากได้อะไร จะกิน จะเล่น จะเที่ยว หรือทำอะไร พ่อแม่ก็ให้ลูกเป็นคนกำหนดเอง เพราะรักลูกอยากตามใจลูก สิ่งเหล่านี้ทำให้วัยเด็กเอาแต่ใจตัวเอง มองตัวเองสำคัญที่สุด และสามารถตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง พ่อแม่กลัวลูกจะเสียใจ แต่ไม่เคยสอนให้รู้จักจัดการกับอารมณ์ เมื่อต้องพบความพ่ายในชีวิตจริงขึ้นมานอกจากจะรับไม่ได้แล้ว ยังต่อต้านอย่างรุนแรงอีกด้วย สนใจเรื่องจริยธรรมและศาสนาน้อย จนดูเหมือนกับจะไม่นับถือศาสนา Gen Me จะมีภาษาที่เข้าใจเฉพาะในกลุ่มเดียวกัน คนอื่นไม่เข้าใจความหมายของมัน โลกที่อยู่ด้วยอินเตอร์เนต ทำให้แยกแยะโลกเสมือนจริง กับโลกความจริงไม่ได้ มักเพ้อฝันที่จะทำให้ได้ดังใจ ทั้งที่ทำไม่ได้ ใครที่เป็นพวก Gen Me และรู้ตัวอาจเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ส่วนคนที่ต้องอยู่ด้วย คงต้องเตรียมการรับมือให้ได้ ผู้หลงตนเองจนมากมายเกิน
ผู้หลงตนเองจนมากมายเกิน
The narcissists and many more ความภาคภูมิใจในตนเองเป็นสิ่งดีงามที่ควรปลูกฝัง แต่ถ้ามากเกินไปล่ะ จะดีไหม นาร์ซิสซัส ผู้หลงในรูปโฉมงดงามของตนเอง ในเทพปกรณัมกรีก เนเมซิสเป็นนายพรานจากดินแดนเธสพิเอในโบเทีย เขารูปหล่อมาก เมื่อเขาก้มดูเงาตนเองในบ่อน้ำแล้วเห็นภาพนั้น เขารู้สึกรักและหลงใหล โดยไม่ยอมรับความจริงว่า นั่นเป็นเพียงแค่เงาในน้ำ เขาเฝ้าแต่มองภาพเงาตนเอง จนตัดสินใจฆ่าตัวตายเมื่อไม่อาจได้เงานั้นมาครอบครอง ทางการแพทย์เรียกอาการหลงตัวเองอย่างรุนแรงว่า นาซิซีติส จิตวิทยาสมัยใหม่ บอกว่าความรักและภาคภูมิในตนเองเป็นสิ่งดีงามที่ควรปลูกฝัง จุดต่างอยู่ที่ ต้องมีความพอดีในการฝึกให้เกิดขึ้นในตนเอง ถ้ามีน้อยเกินจะรู้สึกว่า ตนต่ำต้อย เกิดปมด้อย ไม่อาจพัฒนาเต็มตามศักยภาพที่มีอยู่แห่งตน ถ้ามีพอดี จะมีความทะเยอทยาน อยากได้ใคร่ดี จะทำเต็มที่และได้ในสิ่งที่หวังที่เหมาะกับตน ถ้ามีมากเกินไป อันตราย หลงตนเองจนไม่รู้ว่าความจริงนั้นมีแค่ไหน บางครั้งเกิดการดูแคลนผู้อื่น และคิดว่ามีแต่ตนเท่านั้นที่สามารถทำได้แต่เพียงผู้เดียว บ้านเราทุกวันนี้ มีคนทั้ง 3 ประเภท พวกที่งอมืองอเท้าไม่คิดไม่ทำ รอแต่คนอุปถัมภ์ค้ำจุน ขอพึ่งแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะบันดาลดลให้ได้ในสิ่งที่หวัง แล้วรัฐคอยแจกเงินให้ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ต้องไปกังวล ให้กลุ้มใจ พวกที่คิดว่าตนมีฝีมือมากพอที่จะทำทุกสิ่งและได้ในสิ่งที่ต้องการด้วยตัวของตนเอง ไม่ต้องหวังพึ่งใครอื่น ทำและทำอย่างตั้งอกตั้งใจ คิดว่า ทำเท่าไร ได้เท่านั้น พวกที่คิดว่า ข้านี่แหละเก่งที่สุดในสามโลก ไม่มีใครเก่งเกินข้า อาสาทำทุกเรื่องทั้งที่ไม่มีฝีมือมากพอ ใครพูดว่า ออกเถอะ ตอบแต่เพียง ที่ผ่านมาทำตั้งเยอะ มองไม่เห็นหรือไร จนคนค่อนขอดว่า เก่งทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องที่ควรรู้ กลับไม่รู้ ทำทุกงานแต่งานที่ควรทำกลับทำไม่เป็น เราล่ะเป็นเช่นไร 620216 เพราะเราไม่มีวันเหมือนกันทุกเรื่อง
620216 เพราะเราไม่มีวันเหมือนกันทุกเรื่อง
Because we are not all alike by DrPK ทุกสิ่งในโลกแตกต่างกัน อาจมีบางสิ่งที่เหมือนกันบ้าง แต่ไม่มีทางเหมือนกันทุกเรื่องหรอกน่า วิชาจิตวิทยาบอกว่าทุกคนมีความแตกต่างกัน อย่าไปยุ่งยากใจ รำคาญหรือวิตกกังวลว่า ทำไมเขาคิดและไม่ทำเหมือนเรา ถ้าเหมือนทุกเรื่องสิ จะน่าประหลาดใจมากกว่า ยิ่งเรื่องของการเมืองด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เกิดการขุ่นข้องหมองใจต่อกัน คิดต่าง พาให้มิตรภาพที่มีมานานล้มลงอย่างไม่เป็นท่า ทั้งที่คนที่พูดถึงไม่ได้เกี่ยวข้องทางใดทางหนึ่งกับเราสองแม้แต่นิด นิสัยแต่ละคนที่สั่งสมมาแล้วจำต้องมารวมตัวกัน ยิ่งอึดอัดคับข้องใจมากยิ่งขึ้น บางคนส่งอะไรต่อมิอะไรมากมายเข้ามาในสังคมออนไลน์ บางคนได้แค่เปิดดูไม่เคยส่งแม้แต่น้อย บางคนรับแล้วเฉย ๆ บางคนฉุน ๆ พลางบ่นพึมพำ บางคนตอบโต้ทันควันทั้งอาจเห็นด้วยหรือคัดค้าน การปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคิดจะสานสัมพันธ์กันต่อ จงทำตัวเหมือนมุมประชิด พยายามเข้าใจและยอมรับความแตกต่างนี้ วางตัวแบบเฉย ๆ ไม่ยี่หระ ช่างหัวมันเถอะ อยากทำอะไรก็ทำไป หรือ ignore เมื่อเล่นคอม ถ้าคิดว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาล มีผู้คนนับล้าน ๆ ตัดออกไปเพียงหนึ่ง บ่เป็นหยังดอก แต่คงไม่มีโอกาสโผล่มาเจอกันอีก แก้วที่มีรอยร้าวมิมีวันประสานกันดังเดิม ยิ่งแก่ตัว อัตตายิ่งสูงขึ้น เพราะมีมุมตรงข้ามที่ต่างคนต่างมองคนละมุม ยิ่งมุมขยายกว้างออกไปเท่าไร ยิ่งมองต่างกันมากขึ้นเท่านั้น ถ้ายอมรับว่าทำให้โลกมีสีสรรเมื่อมีดอกไม้หลากสีหลายกลิ่น ใจคงสบายขึ้น แต่ถ้าเพิ่มความอึดอัดทุกครั้ง มีทางให้เลือกหลายทาง หลบลี้หนีหน้าจากสังคม ไปอยู่อย่างสันโดษ ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับใคร เพราะทำใจรับไม่ได้ ตัดชนกลุ่มน้อยที่แตกต่างจากเรามากมายออกไปเสีย จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสีย ถ้าคิดต่างเพียงนิดแต่พยายามชิดใกล้ เข้าใจซึ่งกันและกัน จะเข้าใจกันได้ในที่สุด ปรับตัวเข้าหากันให้ได้ ไม่ทำในสิ่งที่ขัดใจผู้อื่น หรือทำใจยอมรับมากขึ้น ไม่ว่าอย่างไรความแตกต่างระหว่างบุคคลคงมีอยู่และจะมีอยู่ตลอดไป ขึ้นอยู่กับเลือกใช้วิธีปรับตัวเช่นไร เพื่อให้ใจเราสงบและมีความสุขมากขึ้น |
สมาชิกหมายเลข 4665919
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |