All Blog
631201 เมื่อโลกไร้เครื่องแบบ
631201 เมื่อโลกไร้เครื่องแบบ
              อิสรภาพ เสรีภาพเหนือสิ่งอื่นใด เพราะเครื่องแบบทำให้ขาดความเป็นตัวตน
              Ok ลองคิดดูว่า ถ้าโลกไร้ซึ่งเครื่องแบบจะเป็นเช่นไรกัน
              ทหารตำรวจ นักบวช บริษัท ห้างร้าน ทำงานเอกชน ไม่มีสักคน ต้องโดนบังคับ
              ทำผิดกฎจราจร ไม่รู้ตำรวจจริงปลอมมารีดไถ
              สงครามยิงกันมั่ว ไม่รู้ยิงผิดยิงถูก ใครเป็นศัตรูเป็นมิตร
              นักศึกษาไม่โดนยิงแทงเพราะไม่รู้ว่ามาจากสถาบันใด
              ร้านขายเครื่องแบบเจ๊งไปตาม ๆ กัน
              ถ้าเครื่องแบบมี แต่ไม่เคร่งครัดล่ะ
ชุดนักบวชมีหลากสี  ชุดทหารตำรวจวิ่งตามแฟชั่นขาเดฟ มอส เสื้อฟิด เสื้อโคร่ง
              โลกคงมีสีสรรดีนะ (วงเล็บพูดประชดหรือเปล่านี่)
              เมื่อโลกเปลี่ยนไป คงต้องวิ่งตามให้ทัน
              สงสัย ทำไมนักเรียนเมืองนอกไม่ต้องมีเครื่องแบบ ไม่รู้สิ ไม่เคยอยู่เมืองนอก เลยไม่รู้

 



Create Date : 01 ธันวาคม 2563
Last Update : 1 ธันวาคม 2563 11:22:41 น.
Counter : 705 Pageviews.

0 comment
631201 เมื่อกบออกนอกกะลา
631201 เมื่อกบออกนอกกะลา by DrPK
              แต่ก่อนกะตอนนี้ เปรียบกันไม่ได้จริง ๆ ใครยึดมั่นถือมั่นในอดีตมากเท่าใด อาจเจ็บตัวเจ็บใจมากเท่านั้น แต่ใครก้าวกระโดดตามเร็วเท่าใด เสี่ยงมากด้วยเช่นกัน แล้วทำอย่างไรดีล่ะ อยู่นิ่ง ๆ อาจตกรถหรือติดดอย โดนเทหรือโดนแกง แค่ศัพท์สมัยใหม่ยังตามไม่ทันเลย
              เด็ก ๆ บอกครูไม่จำเป็น ห้องเรียนสี่เหลี่ยมน่าเบื่อ เครื่องแบบเชยล้าสมัย ไม่มีอะไรสักอย่างที่ดีเลยหรือในสายตาของเด็ก ๆ มีสักอย่างไหมที่ผู้ใหญ่เคยทำและพยายามสืบทอดต่อลูกหลาน
              สิ่งที่ครูสอนน้อยกว่าใน YouTube โลกใน internet กว้างใหญ่ไพศาล มีให้เลือกตรงตามใจ ไม่จำเป็นต้องโดนตีกรอบ สงสัยนิดว่า แล้วเด็ก ๆ ค้นคว้าหาความรู้มากกว่าติดเกมงอมแงม ใช้เวลาอย่างไร้สาระป่ะ
หัดใช้คำให้ทันสมัยแทนความถูกต้องของภาษา ก้ออะไร ๆ มันเปลี่ยนแบบพลิกฝ่ามือนะเฟ้ย
ขอเปรยหน่อย จะก้าวออกนอกกะลา จะท้าทายกฎเกณฑ์ อยากเป็นตัวของตัวเอง จำต้องเก่งกล้าสามารถ รู้รอบมากพอจะเห็นโลก 360 องศา รู้ในสิ่งที่จะนำพาตัวเองให้รอด มีทักษะชีวิตมากพอ ไม่ใช่แค่กระโดดเหยง ๆ ตามเพื่อน เพราะหัวหน้ากบอาจพาดิ่งเหวแทนขึ้นยอดภูผา
เมื่อกบน้อยแก่ตัว ไม่รู้จะคิดเห็นเช่นกบแก่ หรือทำให้โลกสวยงามได้จริง สงสัยอยู่ โชคดีแล้วกันนะพวก

 



Create Date : 01 ธันวาคม 2563
Last Update : 1 ธันวาคม 2563 4:58:55 น.
Counter : 745 Pageviews.

1 comment
631104 เด็กรุ่น Generation Me
631104 เด็กรุ่น Generation Me
           
Gen Me คือคนที่เกิดในช่วงปี ค.ศ.1980-2000 นิสัยของคนในยุคนี้จะแตกต่างจาก Gen x, y
อันที่จริง คำว่า Gen Me อาจหมายถึงคนได้ทุกรุ่นที่มีลักษณะเฉพาะดังต่อไปนี้ ทว่าในยุคนี้ Gen Me มีมากเกิน ลองมาดูสิว่า ใครบ้างที่สมควรโดนเรียกว่าเป็นพวก Gen Me
            อย่างแรก มีนิสัยหลงตัวเอง มองตัวเองเป็นศูนย์กลาง เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ เพราะ
โดนเลี้ยงดูมาแบบเป็นศูนย์กลางของบ้าน มีพ่อแม่เอาอกเอาใจทุกเรื่อง ไม่ว่าลูกอยากได้อะไร จะกิน จะเล่น จะเที่ยว หรือทำอะไร พ่อแม่ก็ให้ลูกเป็นคนกำหนดเอง เพราะรักลูกอยากตามใจลูก
สิ่งเหล่านี้ทำให้วัยเด็กเอาแต่ใจตัวเอง มองตัวเองสำคัญที่สุด และสามารถตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง
พ่อแม่กลัวลูกจะเสียใจ แต่ไม่เคยสอนให้รู้จักจัดการกับอารมณ์ เมื่อต้องพบความพ่ายในชีวิตจริงขึ้นมานอกจากจะรับไม่ได้แล้ว ยังต่อต้านอย่างรุนแรงอีกด้วย
สนใจเรื่องจริยธรรมและศาสนาน้อย จนดูเหมือนกับจะไม่นับถือศาสนา
Gen Me จะมีภาษาที่เข้าใจเฉพาะในกลุ่มเดียวกัน คนอื่นไม่เข้าใจความหมายของมัน
โลกที่อยู่ด้วยอินเตอร์เนต ทำให้แยกแยะโลกเสมือนจริง กับโลกความจริงไม่ได้ มักเพ้อฝันที่จะทำให้ได้ดังใจ ทั้งที่ทำไม่ได้
ใครที่เป็นพวก Gen Me และรู้ตัวอาจเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ส่วนคนที่ต้องอยู่ด้วย คงต้องเตรียมการรับมือให้ได้

 



Create Date : 04 พฤศจิกายน 2563
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2563 16:31:04 น.
Counter : 1065 Pageviews.

0 comment
ผู้หลงตนเองจนมากมายเกิน
ผู้หลงตนเองจนมากมายเกิน
The narcissists and many more
 
ความภาคภูมิใจในตนเองเป็นสิ่งดีงามที่ควรปลูกฝัง แต่ถ้ามากเกินไปล่ะ จะดีไหม
นาร์ซิสซัส ผู้หลงในรูปโฉมงดงามของตนเอง
ในเทพปกรณัมกรีก เนเมซิสเป็นนายพรานจากดินแดนเธสพิเอในโบเทีย เขารูปหล่อมาก เมื่อเขาก้มดูเงาตนเองในบ่อน้ำแล้วเห็นภาพนั้น
เขารู้สึกรักและหลงใหล โดยไม่ยอมรับความจริงว่า นั่นเป็นเพียงแค่เงาในน้ำ เขาเฝ้าแต่มองภาพเงาตนเอง จนตัดสินใจฆ่าตัวตายเมื่อไม่อาจได้เงานั้นมาครอบครอง
ทางการแพทย์เรียกอาการหลงตัวเองอย่างรุนแรงว่า นาซิซีติส
จิตวิทยาสมัยใหม่ บอกว่าความรักและภาคภูมิในตนเองเป็นสิ่งดีงามที่ควรปลูกฝัง
จุดต่างอยู่ที่ ต้องมีความพอดีในการฝึกให้เกิดขึ้นในตนเอง
ถ้ามีน้อยเกินจะรู้สึกว่า ตนต่ำต้อย เกิดปมด้อย ไม่อาจพัฒนาเต็มตามศักยภาพที่มีอยู่แห่งตน
ถ้ามีพอดี จะมีความทะเยอทยาน อยากได้ใคร่ดี จะทำเต็มที่และได้ในสิ่งที่หวังที่เหมาะกับตน
ถ้ามีมากเกินไป อันตราย หลงตนเองจนไม่รู้ว่าความจริงนั้นมีแค่ไหน บางครั้งเกิดการดูแคลนผู้อื่น และคิดว่ามีแต่ตนเท่านั้นที่สามารถทำได้แต่เพียงผู้เดียว
 
บ้านเราทุกวันนี้ มีคนทั้ง 3 ประเภท
พวกที่งอมืองอเท้าไม่คิดไม่ทำ รอแต่คนอุปถัมภ์ค้ำจุน ขอพึ่งแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะบันดาลดลให้ได้ในสิ่งที่หวัง แล้วรัฐคอยแจกเงินให้ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ต้องไปกังวล ให้กลุ้มใจ
พวกที่คิดว่าตนมีฝีมือมากพอที่จะทำทุกสิ่งและได้ในสิ่งที่ต้องการด้วยตัวของตนเอง ไม่ต้องหวังพึ่งใครอื่น ทำและทำอย่างตั้งอกตั้งใจ  คิดว่า ทำเท่าไร ได้เท่านั้น
พวกที่คิดว่า ข้านี่แหละเก่งที่สุดในสามโลก ไม่มีใครเก่งเกินข้า อาสาทำทุกเรื่องทั้งที่ไม่มีฝีมือมากพอ ใครพูดว่า ออกเถอะ ตอบแต่เพียง ที่ผ่านมาทำตั้งเยอะ มองไม่เห็นหรือไร จนคนค่อนขอดว่า เก่งทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องที่ควรรู้ กลับไม่รู้ ทำทุกงานแต่งานที่ควรทำกลับทำไม่เป็น
เราล่ะเป็นเช่นไร

 



Create Date : 31 ตุลาคม 2563
Last Update : 31 ตุลาคม 2563 5:47:15 น.
Counter : 667 Pageviews.

0 comment
620216 เพราะเราไม่มีวันเหมือนกันทุกเรื่อง
620216 เพราะเราไม่มีวันเหมือนกันทุกเรื่อง
Because we are not all alike by DrPK
              ทุกสิ่งในโลกแตกต่างกัน อาจมีบางสิ่งที่เหมือนกันบ้าง แต่ไม่มีทางเหมือนกันทุกเรื่องหรอกน่า
วิชาจิตวิทยาบอกว่าทุกคนมีความแตกต่างกัน อย่าไปยุ่งยากใจ รำคาญหรือวิตกกังวลว่า ทำไมเขาคิดและไม่ทำเหมือนเรา ถ้าเหมือนทุกเรื่องสิ จะน่าประหลาดใจมากกว่า
ยิ่งเรื่องของการเมืองด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เกิดการขุ่นข้องหมองใจต่อกัน คิดต่าง พาให้มิตรภาพที่มีมานานล้มลงอย่างไม่เป็นท่า ทั้งที่คนที่พูดถึงไม่ได้เกี่ยวข้องทางใดทางหนึ่งกับเราสองแม้แต่นิด
นิสัยแต่ละคนที่สั่งสมมาแล้วจำต้องมารวมตัวกัน ยิ่งอึดอัดคับข้องใจมากยิ่งขึ้น บางคนส่งอะไรต่อมิอะไรมากมายเข้ามาในสังคมออนไลน์ บางคนได้แค่เปิดดูไม่เคยส่งแม้แต่น้อย บางคนรับแล้วเฉย ๆ บางคนฉุน ๆ พลางบ่นพึมพำ บางคนตอบโต้ทันควันทั้งอาจเห็นด้วยหรือคัดค้าน
              การปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคิดจะสานสัมพันธ์กันต่อ จงทำตัวเหมือนมุมประชิด พยายามเข้าใจและยอมรับความแตกต่างนี้ วางตัวแบบเฉย ๆ ไม่ยี่หระ ช่างหัวมันเถอะ อยากทำอะไรก็ทำไป หรือ ignore เมื่อเล่นคอม
              ถ้าคิดว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาล มีผู้คนนับล้าน ๆ ตัดออกไปเพียงหนึ่ง บ่เป็นหยังดอก แต่คงไม่มีโอกาสโผล่มาเจอกันอีก แก้วที่มีรอยร้าวมิมีวันประสานกันดังเดิม ยิ่งแก่ตัว อัตตายิ่งสูงขึ้น
เพราะมีมุมตรงข้ามที่ต่างคนต่างมองคนละมุม ยิ่งมุมขยายกว้างออกไปเท่าไร ยิ่งมองต่างกันมากขึ้นเท่านั้น ถ้ายอมรับว่าทำให้โลกมีสีสรรเมื่อมีดอกไม้หลากสีหลายกลิ่น ใจคงสบายขึ้น แต่ถ้าเพิ่มความอึดอัดทุกครั้ง มีทางให้เลือกหลายทาง
หลบลี้หนีหน้าจากสังคม ไปอยู่อย่างสันโดษ ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับใคร เพราะทำใจรับไม่ได้
ตัดชนกลุ่มน้อยที่แตกต่างจากเรามากมายออกไปเสีย จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสีย
ถ้าคิดต่างเพียงนิดแต่พยายามชิดใกล้ เข้าใจซึ่งกันและกัน จะเข้าใจกันได้ในที่สุด ปรับตัวเข้าหากันให้ได้ ไม่ทำในสิ่งที่ขัดใจผู้อื่น หรือทำใจยอมรับมากขึ้น
ไม่ว่าอย่างไรความแตกต่างระหว่างบุคคลคงมีอยู่และจะมีอยู่ตลอดไป ขึ้นอยู่กับเลือกใช้วิธีปรับตัวเช่นไร เพื่อให้ใจเราสงบและมีความสุขมากขึ้น

 

 



Create Date : 31 ตุลาคม 2563
Last Update : 31 ตุลาคม 2563 5:21:30 น.
Counter : 583 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments