All Blog
660617 เมื่อครูเจอเด็กมีปัญหา
660617 เมื่อครูเจอเด็กมีปัญหา
            เมื่อครูเจอเด็กมีปัญหา อย่าผลักไสไล่ส่งให้เขาออกไปให้ไกลหูไกลตา เพราะจะยิ่งเพิ่มพูนหมักหมมสิ่งเลวร้ายให้เกิดขึ้น แต่จงรีบสวมกอดปลอบประโลม ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบว่า เกิดอะไรขึ้นแก่เจ้าบ้างในลำดับเหตุการณ์ชีวิตในอดีตที่ผ่านมา สิ่งใดเป็นชนวนจุดระเบิดความคั่งแค้นให้ปะทุลุกโพลงโชติช่วงอย่างรุนแรงเช่นนี้
            เพราะเด็กขาดรัก หามีใครสนใจรักใคร่ใยดี ไต่ถามทุกข์สุขที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อยไม่ อาการขาดรักนี้รุนแรงมากนัก ยิ่งมีคนคอยแต่ตัดตรา ด่าประณามหยามเหยียดว่า แกมันไอ้เด็กเลว ขยะสังคม ยิ่งตัดลดทอนความมีค่าศักดิ์ศรีในตนเองให้ลดลง แล้วมันจะเหลือความภาคภูมิใจในตนเองแม้สักน้อยนิดหนึ่งไหม
            เมื่อประสบพบเจอคนหนึ่งที่หาทางออกให้อย่างเลวร้าย กลายเป็นคนดังได้ในพริบตาเดียว แม้หนทางนั้นอาจเลวร้ายในสายตาคนหมู่มาก แต่สำหรับคนสิ้นหวังไร้รัก เพื่อหาจุดสนใจให้ผู้คนมาใส่ใจว่า อย่างน้อยเขายังพอมีตัวตน มีที่ยืนในสังคมบ้าง แม้จะเป็นขอบหุบเหวก็ตามที เชื่อไหม ด้วยขาดวิสัยทัศน์ทำให้เขาพร้อมจะก้าวเดินบนเส้นทางที่ขรุขระอันตราย
            คงต้องมีใครสักคนที่เหนี่ยวรั้ง หยุดดึงให้จิตใจเขาได้ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ได้กระทำลงไป และผลที่จะเกิดตามมาในอนาคตอันใกล้และไกลโพ้น ด้วยวิถีแห่งรักและอบอุ่น ไม่ใช่การตะโกนด่าทอเสียดสี เด็กคือเด็กที่สามารถขัดเกลาบ่มเพาะให้เขาเป็นคนดีได้ตามที่ต้องการเสมอ ถ้าเพียงแต่มีวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสม
            การปรับพฤติกรรม การส่งเสริมค่านิยมอันดีงาม กิจกรรมแนะแนวในชั้นเรียนที่ส่งเสริมความรักความภาคภูมิใจในตน การให้คำปรึกษา เทคนิคทางจิตวิทยาอีกหลากหลาย รวมทั้งกิจกรรมโฮมรูมที่ครูและเพื่อนคอยไต่ถามและช่วยเหลือเกื้อกูลอย่างมีมิตรจิตมิตรใจฉันท์เพื่อนรักที่พร้อมจะโอบอุ้มให้ก้าวเดินไปข้างหน้า
            ครอบครัวที่แตกแยก ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ตามแฟชั่นที่ฮิตติดเทรนด์ว่า พ่อเลี้ยงเดี่ยว แม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะอยู่แบบคู่ผัวตัวเมียไม่ได้ สามารถเลี้ยงลูกได้ดีแบบพ่อแม่อยู่ร่วมกันได้นั้น อยากจะบอกว่ายากมากนะ การอบรมบ่มเพาะด้วยความรักอย่างจริงใจจากครอบครัวที่อบอุ่น ทำให้เด็กทุกคนเติบโตอย่างสง่างาม
            เมื่อพ่อแม่ไม่อาจเลี้ยงดูได้ดี ผู้ปกครองต้องเป็นคนดี ไม่ใช่คนที่คอยยุยงส่งเสริมให้ทำผิดคิดมิชอบ ป้อนแต่สิ่งเลวร้ายใส่สมองอันน้อยนิดที่ยังมิอาจตัดสินดีชั่วได้ถี่ถ้วนรอบคอบ มันกลายเป็นภาระของใครล่ะ ที่จะดึงเด็กให้หลุดพ้นจากวงโคจรที่บิดเบี้ยว ใครจะตอบคำถามนี้ได้
            เมื่อปัญหาเกิดขึ้นในโรงเรียน ไม่ว่าครูหรือเพื่อนสามารถร่วมแก้ปัญหาได้อย่างชาญฉลาดและใช้หลักการที่เคยเรียนรู้ทุกศาสตร์สาขา ประคับประคองให้เด็กได้อยู่ในร่องรอยที่ควรเป็น
ถ้ามันเหลืออดเหลือทนจริง ๆ แก้ไขไม่ได้ ยากเกินเยียวยา ที่จะให้อยู่ในระบบ ในกฎกติกาของโรงเรียน บางคนอาจบอก ไปอยู่นอกระบบโรงเรียนก็ได้นี่ ถ้าปัญหานั้นไม่กลายเป็นปัญหาของสังคมต่อไป
บางคนบอกโรงเรียนที่เปิดเสรี ใคร่ทำสิ่งใด แล้วได้ทำก็มี ไม่จำเป็นต้องไปทำลายล้างหรือก่อกวนกฎกติกาของเขา บางคนบอกเรียนที่บ้านก็ได้ Homeschool เห็นไหม มีอีกหลายเส้นทางมากเลย ที่จะเลือกได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปรื้อบ้านของคนอื่นที่พวกเขาอยู่กันอย่างสงบสุขและทนกันได้
บางคนเกลียดการปฏิวัติที่เปลี่ยนทุกสิ่งอย่างเฉียบพลันและให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการเท่านั้น แต่กลับนิยมที่จะทำเช่นนั้น แม้ในรูปแบบที่แตกต่างจากที่ต่อว่าคนอื่น บางคนบอกปฏิรูปดีไหม ค่อย ๆ แก้กันไป รอมชอมกัน อะไรดีให้คงอยู่ อะไรแย่สุด ๆ เอาออกไป ไม่ว่าอย่างไรอย่าให้คนพูดว่า ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง
สุดท้ายและท้ายสุด ครูที่มีจิตวิญญาณการเป็นครูทุกคนคงต้องอดทนและทำฝันที่หวังให้เด็กได้เติบโตเต็มตามศักยภาพแห่งตนนั้นเป็นจริง
 
#พรรณีเกษกมล
 



Create Date : 17 มิถุนายน 2566
Last Update : 17 มิถุนายน 2566 5:38:04 น.
Counter : 313 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments