ถึงอย่างไรก็ตาม สถานะของผู้กำกับ ชุนจิ อิวาอิ ถือว่าเติบโตในแวดวง อุตสาหกรรมความบันเทิงประเภทภาพยนตร์อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับบรรดา ผู้กำกับท่านอื่นๆ ที่บางท่านอาจจะมีชือ่เสียงจนผู้คนไตร่ถาม ก็หลังพิธีศพไปสองถึงสามปี ผกก.อิวาอิกว่าจะเข้าสู่วงการเบื้องหลังของคนทำทีวี ก็ในปีปลายปี ๙๐ จากนั้นสะสมบารมีขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาบรรลุโสตทัศนวิสัยของผู้ชมชาวไทยอย่างผู้เขียน ก็จากเรื่อง Love Letter (และตามสูตร หากจะตีตลาดคนดูมะกันก็จำต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อฟาดเคล็ด ไปเป็นอีกชื่อที่แปลกไป คือ When I Close My Eye) หลังจากได้ซาบซึ้งกับฉากตะโกนแหกปากกลางหิมะจนน้ำตาเล็ดได้ไม่นาน ซีดีตกร่องกับผู้เขียนผู้กู่ร้องว่าไม่เข้าใจคอนเซ็ปต์ของเรื่อง ใน All About Lily Chou Chou ก็ทำให้ผู้เขียนต้องตั้งสติไปพักใหญ่ ว่าแก่นสาสน์ของเรื่องมันคืออะไร ในขณะที่ยังคิดไม่ออก ก็มีงานลิขสิทธิ์เก่าของผู้กำกับท่านนี้คลานตามมาอีกชุด ใน April Story เป็นนาทีชีวิตนิสิตใหม่ ที่ปล่อยให้เอื่อยไหลไปโดยมี ทาคาโกะ มัตซู ทำตัวเป็นเฟรชชี่แอ้บเเบ้ว ไปจนจบเรื่อง ซึ่งดูจะขัดแย้งกับการแสดงที่เห็นในบรรดาซีรีย์เเก่นๆ ที่เจ๊เล่น แต่ไม่กี่เดือนต่อมา เจ๊ก็ตกกระป๋องในใจผู้เขียน เพราะผกก. อิวาอิ ได้เข็นนักแสดงสาวใสหน้าใหม่ ให้แจ้งเกิดในวงการ คือ หนู อาโออิ ยู กับ แอนเน่ ซูซูกิ จากเรื่อง Hana and Alice เป็นสัพเพเหระของอีหนูสาวสองนาง ที่ดูจะไม่มีสาระใดใด แต่ทำไมสะกดผู้เขียนให้ดูได้จนจบ แม้บอกได้ไม่เต็มปากว่าที่ดูเพราะนักแสดงหญิง ด้วยมันมีเสน่ห์แบบนามธรรม ที่อธิบายเป็นรูปธรรมไม่ได้ด้วยสิ และดันดูซ้ำอีกตั้งหลายรอบ ล่าสุด (แต่ก็หลายเดือนที่แล้ว) กับ Rainbow Song อดีตรักขัดใจผู้ชมในสมัยนักศึกษา ที่กว่าจะรู้ตัวก็แทบสลาย รักเธอแทบตาย สุดท้ายเธอไป......................... ทุกเรื่องจึงเป็นการดู ที่สบายใจทั้งคนดูและสบายใจในส่วนทั้งคนทำ เพราะงานทุกชิ้นนั้น ผู้เขียนซื้อมาถูกต้องตามลิขสิทธิ์ แม้จะมีความขุ่นเคืองใจบ้าง เมื่อไปชำเหลือบมองตามแผงในเวลาปัจจุบัน มูลค่าของการกำหนดในราคา ที่มีเส้นใกล้เคียงกับการแจกฟรีเข้าไปทุกที ต่างกับเมื่อตอนลั้นลาอย่างกระดี๊กระดาก เมื่อเห็นของตอนที่เพิ่งลงแผงอุ่นๆ จะขอส่วนลดสักบาท ผู้ขายกับเชิดหน้าเข้าใส่อย่างไม่ใยดี
เมื่องานใหม่ๆ ยังไม่มา ใช่ว่างานดีๆ จะไม่เกิด ผู้เขียนจึงได้มีโอกาสย้อนเวลา ค้นหาตัวตนที่แท้จริงก่อนหน้า ของเจ้าผกก. ในสมัยที่ยังคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงทีวี เเต่เป็นทีวีบ้านเขาที่ไม่ใช่บ้านเรา สิ่งที่จะทำให้เราย้อนความทรงจำนั้นคืนกลับมาได้ ก็ต้องโลกแห่งอินเตอร์เน็ต ที่จะทำให้ผู้เขียนสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์ร่วมสมัย ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยรับรู้ แต่พวกเรา (ผู้เขียน) เพิ่งจะมารับทราบ การบ้านของท่านมะนาวเพคะที่ให้ไว้ในช่องคอมเมนต์ จึงเป็นงานอาสามาด้วยใจ ซึ่งผิดในหลักการทั่วไป ที่จะทำอะไรสักอย่างจำต้องมีค่าตอบแทน แต่การตอบแทนที่ได้หาได้เกิดจากผู้สร้างในโจทย์ของการบ้าน แต่เกิดจากคำตอบของผลลัพธ์ในโจทย์ ที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกหลงรักและชิงชัง ในตัวผกก. ชุนอิ อิวาอิ มากขึ้นกว่าเเต่กอ่น เหมือนกับในซีรีย์สั่งลาทางทีวีชิ้นสุดท้าย ที่มีชื่อย๊าวยาว ว่า Fireworks, Should We See It from the Side or the Bottom?
Fireworks, Should We See It from the Side or the Bottom? หรือชื่อทางเมืองแม่เขา เรียกว่า Uchiage hanabi เป็นซีรีย์ตอนเดียวจบ ที่ทำให้ผู้เขียนต้องย้อนเวลากลับไปไกลถึง ๑๗ ปี กล่าวคือ ในปี ค.ศ. ๑๙๙๓ ซึ่งความจริงแทบไม่ต้องแนะนำอะไรกันมาก แค่รู้เพียงว่าเป็นงานกำกับและเขียนบท โดยผู้กำกับ ชุนจิ อิวาอิ เพียงเท่านี้ ก็สามารถเรียกเเขกในกลุ่มที่เป็นแฟนนานุแฟนของ ผกก. ท่านนี้ได้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่ถึงกระนั้นผู้เขียนก็ไม่กล้ารับปาก เนื่องด้วย ผู้คนส่วนใหญ่ที่รู้จักงานของผกก. อิวาอิ มักเกิดจากการนับจากหลังแล้วมาหน้า ขณะที่คนอีกจำนวนหนึ่ง ที่ศึกษาพัฒนาการของผกก. ท่านนี้ โดยวัดจากหน้าแล้วมาหลัง จะยอมรับความเป็น Fireworks, Should We See It from the Side or the Bottom? ได้รึไม่? เพราะซีรีย์เป็นพิษกอ่นหน้า อย่าง GhostSoup กับ Fried Dragon Fish ก็ทำให้ผู้ชมส่วนหนึ่ง บาดเจ็บล้มตายด้วยผลการกระทบกระเทือนทางสมองไปไม่น้อยเช่นกัน
เเม้ครั้งหนึ่ง ที่อาจารย์ในเรื่องบอกกับลูกศิษย์ไว้ว่า "those who bully may just be playing but the ones who are bullied may be very hurt by it. Please do not ignore it and pretend not to see" (ถ้าใครคนหนึ่งกระทำตัวเยี่ยงอันตพาล แต่ใครคนหนึ่งเจ็บปวดกับมัน โปรดอย่าละเลยและแสร้งทำเป็นไม่รู้ บางทีความเลวร้ายที่เกิดขึ้น อาจมิใช่จากการลงมือของผู้กระทำเพียงฝ่ายเดียว ผู้ที่รับรู้เรื่องราว แล้วทำตัวนิ่งเฉยไม่ยอมยื่นมือเข้าแก้ปัญหา ก็เท่ากับเป็นการกดทับ ตัวปัญหาเดิมที่นับวันจะเลวร้ายขึ้น เพราะผู้กระทำจะรับรู้แต่ความสุข ผู้ถูกกระทำจนวนเวียนซ้ำกับความทุกข์ ส่วนผู้ที่รับกับนิ่งเฉย เพราะไม่ได้ผลรับจากการกระทำ ทั้งในตัวสุขและตัวทุกข์ หรืออาจจะได้สุขจากการไม่ขอรับรู้ และอาจจะทุกข์เพราะแกล้งเป็นไม่รู้ก็เป็นได้ เหมือนกับที่นางเอกพี่เชียร์ ที่แม้จะหลุดกรอบจากความเป็นเหยื่อมาได้ ก็หาได้นิ่งนอนใจ ต่อวัฎจักรแห่งเหยื่อกรรมที่เวียนว่ายแต่อย่างใด ความเป็นอันธพาล จึงไม่ได้มีความหมายว่าเป็นผู้เเข็งแกร่ง เพราะความแข็งแกร่ง ถ้าเป็นจริงเช่นนั้น ฉันก็ไม่อยากเป็น Hurting People is not what makes you stong . If one calls people like you strong then I do not ever want to became strong.
1% of your hard word is only used to get that treasure. After 99 % of useless work. There is a treasure to be found. All that useless work was not useless. ดังนั้น การยลซีรีย์เรือ่งนี้ อาจจะเสียเวลาเปล่าแต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีประโยชน์ ในวันข้างหน้า เป็นคำสอนของอาจารย์ซากุราอิ ที่เหมือนด่าผู้เขียนขณะที่ชมไปในตัว เป็นซีรีย์ที่ไม่อยากเชื่อว่า เรตติ้งกลางๆ ทั้งๆไปฉายในช่วงเวลาดีตอนวันจันทร์ ทั้งๆชื่อชั้น เรียกคนดูกลุ่มวัยรุ่นได้ไม่ยาก โดยอยู่ที่ระดับสิบกว่า และมีเรือ่งตลกเรือ่ง เรตติ้งนิดนึง ในข้อถกเถียงของตอนที่เจ็ด เพราะมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง คือ มีการคั่นเวลาเพื่อประกาศลาออกจากความเป็นนายก ของยุกุดะ ยาสุโอะ เลยมีผลพ่วงการกวัดแกว่งของเรตติ้ง ซึ่งจริงๆแล้ว ก็มิใช่สาระสำคัญอะไร เหตุแต่อยู่ที่ความพึงพอใจ ของท่านผู้ดูเป็นหลัก ซีรีย์นี้ยังชื่นฉ่ำ ด้วยการระดมสรรพกำลังทางน้ำ ในหลายกรณีซึ่งผู้เป็นโรคกลัวน้ำควรหลีกเลี่ยง เพียงแต่ขออิงไว้นิดหน่อย เพื่อแสดงว่าคนประเทศก็คงมีปัญหาไม่ต่างจากผู้เขียน ว่าทำได้ไม่สุด อย่างที่คาดหวังไว้ นอกนั้นยังไม่พอ HOB ยังมีแขกไปใครมาอีกเพียบ ในฐานะแขกรับเชิญ ซึ่งผู้เขียนก็จำไม่หวั่นไม่ไหว ได้แต่เพียง เอ๊! คนนั้น คุ้นคนนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ ก็เป็นผู้ชาย ไม่ก็หญิงชราเล่นเป็นพ่อแม่ ซึ่งไม่น่าจดจำสำหรับตัวผู้เขียน เป็นซีรีย์ที่เพียงชี้แนะ ให้เห็นคุณค่าของสถานะในวัยนักเรียนมัธยมปลาย ที่เมื่อผ่านพ้นไปแล้ว เราไม่สามารถที่จะเรียกกลับมาได้อีกครั้ง มีเพียงแต่ปัจจุบัน ที่ความฝันร่วมของเยาวชนผู้ก้าวผ่าน สู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ แม้จะต้องเรียนรู้บางสิ่งที่ สาหัสสากรรจ์นักก็ตาม และความสาหัสสากรรจ์นั้นก็คือ ความจริงที่ต้องรับรู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนครั้งหนึ่งที่อซากุราอิ รู้ถึงคุณค่าสูงสุดของความเป็นมนุษย์ แม้ความสำเร็จทางการศึกษา จะเป็นเพียงเศษเสี่ยวหนึ่งของชีวิตเท่านั้นเอง
When children become adults. They can use their knowledge to find out the truth.
ข้อมูลจาก wikipedia and wiki.d-addicts.com........