A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
Nodame The Movie Part2 ฝันสุดใจไปกับดนตรี(กันต่อ)


ปรากฎการณ์ของ Nodame Cantabile ในส่วนภาคของฉบับการ์ตูน
ซึ่งถือเป็นต้นฉบับก่อนคลอด มาเป็น Nodame Cantabile ในหลายสกุล
จนล่าสุดได้กลายมาเป็น Nodame the Movie เข้าฉายกินตังค์แฟนคลับถึงสองคำรบ
เริ่มต้นจากฉบับการ์ตูนมังงะ ของปลายปากกา "โทโมโกะ นิโนะมิยะ"
ที่วาดให้กับนิตยสาร Kiss รายปักษ์ อันเป็นสื่อหนึ่ง
ในเครืออาณาจักรสือสิ่งพิมพ์โคดันฉะ ในปี ๒๐๐๑
(เป็นนิตยสารที่เน้นกลุ่มเป้าหมาย พวกjosai (กลุ่มสตรีวัยวุฒิภาวะแรกรุ่น))
จนไปจบอวสานสมบูรณ์ในอีกเก้าปีต่อมา
(ระยะหนึ่งต้องปรับเป็นรายเดือน เพราะคนวาดถูกเสกเด็กเข้าทอ้ง)
ความยืนยาวจากการตอบรับของคนอ่าน ไม่ได้เป็นเพียงแค่ได้ใจมหาชนนิยมเท่านั้น
เพราะในปี ๒๐๐๔ แม้เจ๊นิโนะมิยะจะวาดไปได้แค่ครึ่งชีวิตเรือ่งราวของฉบับโนดาเมะซีรีย์
ทางโคดันฉะอวอร์ด ก็ต้องจัดรางวัลซูฮกเชิงคุณภาพในสาขา
"สุดยอดการ์ตูนตาใสแห่งปี" (best shojo manga) เรียกได้ว่า เป็นเครือ่งประกันราคาคุย
ซึ่งทิ้งห่างความนิยมจากเรือ่ง London Doubt Boy ที่เป็นผลงานชิ้นแรกของเจ๊อย่างลิบตา





การแพร่ขยายของ Nodame Cantabile ฉบับมังงะขจรขจายสู่โลกกว้าง
ลิขสิทธิ์ได้ถูกซื้อในอีกหลายภาษา ของแต่ละสำนักพิมพ์ อาทิ
ในอเมริกา โดย สนพ.Del Rey Manga ,ในฝรั่งเศส โดย สนพ.France
ในเกาหลีใต้ โดย สนพ. Daiwon C.I. ในอินโดนีเซีย โดย สนพ.
Elex Media Komputindo ในไต้หวัน โดย สนพ Tong Li Comics
และแน่นอนในประเทศไทย โดย สนพ.NED Comics โดยเบ็ดเสร็จกระบวนตอน
ทั้งสิ้น ๑๓๖ ตอน แค่ในเฉพาะญี่ปุ่นก็รวมไปได้ทั้งหมด ๒๔ เล่มบริบูรณ์
เป็นอรรถรสสากลที่ เดริ์ก เด็ปเปย์ แห่ง Comic Journal ยกย่องความเป็นนักเล่าเรือ่ง
ของผู้วาดนิโนะมิยะ ว่าสามารถใช้ระดับอักษรที่บ่งบอกภาวะอารมณ์ของตัวละคร
ได้อย่างเป็นเลิศ เหมือนสั่งการได้แบบกดปุ่มผู้อ่านได้อย่างฉับพลัน




Nodame Cantabile ถือเป็นการ์ตูนมังงะไม่กี่เรือ่ง
ที่ถูกนำมาผลิตซ้ำในรูปแบบผลิตภัณฑ์ตามช่องทางต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย
ในฉบับการ์ตูนอนิเมชั่น ทางค่ายฟูจิทีวีรับลิขสิทธิ์ โดยโยนให้ทาง J.C.Staff Studio
เป็นผู้ผลิต (ทีมนี้เคยผลิตงานที่พอรู้จักมาแล้วบ้าง ใน Toradora!,Honey and Clover
และGhost Hunt) ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษโดยทีมงาน Animax Asia
นอกจากการรับชมแล้ว การรับไปเล่นที่บ้าน
อย่างในรูปของซอฟเเวร์เกมส์ ก็ถูกผลิตไปในส่วนของเครือ่ง
Nintendo DS และเครือ่งเล่นสบัดพัดโบก Wii ในลิขสิทธิ์ของบรัษัท Namco Bandai Games
และในส่วนคอนโทรลเลอร์ PlayStation 2 ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ Banpresto
ซึ่งในรูปแบบของเกมส์ ล้วนผลิตขึ้นในปี ๒๐๐๗ ที่เป็นช่วงปีหลังจากโนดาเมะซีรีย์
เพิ่งฉายจบลง และต่อเนือ่งไปด้วยฉบับอนิเมชั่นที่ฉายทางช่องฟูจิทีวี
จึงมองข้ามไปไม่ได้ที่จะมองว่า เป็นการสืบเนือ่งต่อยอดตลาดของแฟนๆ
ไม่ให้น้องโนะต้องหายตายไปจากใจ เพราะจากนั้นก็มีภาคสเปเชียลซีรีย์ในต้นปี ๒๐๐๘
แล้วตามติดมาด้วยอนิเมชั่น ที่จะตามหลังเนื้อเรือ่งฉบับสเปเชียลเพราะดันมีโอกาสได้
ฉายในตอนปลายปี ที่ชื่อตอน Nodame Cantabile: Paris Chapter แต่สุดท้ายการ์ตูน
อนิเมชั่นก็ได้เปรียบกว่า ด้วยชิงออกตัวจบไปก่อนในชื่อตอน Nodame Cantabile: Finale
ขณะที่ภาพยนตร์ ยังใช้สูตรแบ่งตอนรับทรัพย์ไปสองภาค ซึ่งจะว่าไปก็ไล่เลี่ยกับ
ฉบับมังงะการ์ตูนอยู่ไม่ห่างกันมากนัก ที่มีชื่อภาคว่า Nodame Cantabile - Opera Hen
ที่เพิ่งออกจำหน่ายกลางปี ๒๐๑๐ เป็นอวสานบทของโนดาเมะเปเปอร์โดยสมบูรณ์สักที





ส่วนในรูปของเพลงดิจิตอล ก็ต้องบอกว่าล้นเหลือหลากหลายอัลบั้มนักแล
ซึ่งแบ่งออกได้สองหลักใหญ่ๆ คือ ในส่วนของ promotional tie-ins (เพลงตามเล่มหนังสือ)
และส่วนของ soundtrack albums (ก็ยังมีแบ่งเป็นหนังกับอนิเมชั่นอีก) เรียกได้ว่าฟังกันให้
หูแฉะกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว งานนี้ไม่ต้องพึ่งซับ เพราะแม้แต่เนือ้ร้องก็ยังหาไม่เจอสักแอะ
สิ่งที่ทำได้อย่างมีส่วนรวมที่สุด ก็คือ การโยกนิ้วไปกับจังหวะดนตรี




แต่สิ่งที่จะบอกร่ายในครั้งนี้
เป็นการต่อเนื่องจาก Nodame The Movie ภาคแรก สัปดาห์ที่แล้ว
เพราะผู้เขียนได้แผ่นโนดาเมะเดอะมูวี่สอง เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนโนดาเมะ
ซึ่งอยากจะบอกว่า สิ่งที่เคยเดาสุ่มและนั่งทางในของครั้งก่อน
มีทั้งที่ถูกต้องและเดาผิดทาง เคลาะเคล้ากันไป ซึ่งแน่นอนว่า
"ผิด" อันนี้ต้องเหยียบไว้ ส่วนไอ้ที่ "ถูก" ควรจะเอาเน้นย้ำและต่อขยายให้ได้ทราบกัน
ถูกที่ว่า ก็คือ โนดาเมะเดอะมูวีภาคสอง ที่ถือเป็นฉบับจบของคนเล่นตัวเป็นๆ
ที่จะได้สลัดถอดรื้อตัวละคร กอ่นที่จะถูกทักทายในชื่อตัวละครนั้นๆ
แทนที่จะจดจำในชื่อจริงของเขาเหล่านั้น ถ้าโนดาเมะเดอะมูวีภาคแรก
เกิดขึ้นภายใต้การนำที่ชายเป็นใหญ่ อย่างท่านจิอากิ พระเอกของเรือ่งอย่างไร
ในภาคสุดท้าย น้ำหนักของตัวละครจึงตกเป็นของโนดาเมะเซ็นเตอร์ฉันนั้นนั่นเอง




เป็นความต่อเนือ่งของภาคที่หนึ่ง เมื่อท่านจิมีทีท่าว่าจะรุ่ง
และกลายเป็นที่ยอมรับของสมาชิกในวงออเคสต้า "มาร์เล็ต" ทุกคน
ผู้เขียนได้วางแปลนสำหรับการคาดเดาอนาคตของตอนที่สอง
ว่าด้วยคุณสมบัติของคู่มิขนานแถมวางคนละบรรทัด
ระหว่างท่านจิผู้ใฝ่สูงกับน้องโนะผู้ฝันใฝ่ ว่าคงจัไปด้วยกันไม่รอด
ทั้งด้วยในเรือ่งของมุมมองอนาคต การคาดหวัง และพื้นฐานรสนิยมส่วนต๊วส่วนตัว
หากใครที่ได้ชมความเป็นเดอะมูวีในภาคแรก คงจะได้เห็นปมอะไรบางอย่าง
ที่เป็นรอยปริบางๆ ของปัญหาความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ที่ได้เปิดตัวกลายๆ
(จนท่านจิแทบจะกลายร่างอยู่บ่อยครั้ง)
ระหว่างคู่พระเอกกับนางเอก และน่าจะมีไม่น้อย
ที่ผู้เขียนคาดเดาเอาว่า ใกล้จะระเบิดออกมาตูมต้ามกลางกรุงปารีสในภาคที่สอง
แต่ผิดคาดแหะ !
หนังยังคงดำเนินไปด้วยวิธีการเล่าสไตล์โนดาเมะจัง
ยังคงปล่อยให้สนุกสนาน ระคนไปด้วยการหยิกแก้มหยอกตลอดที่เปิดเรือ่ง
ยอมรับเลยว่า แทบจะลืมในส่วนของการ "คาดหมาย" และ "ปมปัญหา"
ที่วางไว้ของภาคแรก เกือบอย่างสิ้นเชิง
ในส่วนของเนือ้เรือ่งของภาคที่สอง ดูไปเผลอๆ แทบจะมีประเด็นดำเนินเรือ่งได้นอ้ยมาก
ไม่ต่างอะไรไปจาก ชาย-หญิงสองคน ที่ยังไม่มั่นใจตนเอง และตอบโจทย์ของตัวเองไม่อออก






เหตุที่ทำให้ลืมได้ขนาดนั้น เพราะผู้กำกับ" ฮิโรกิ ทาเคอุชิ"
ที่มองโนดาเมะเป็นสิ่งปลูกสร้างแรกเริ่มเดิมที ตั้งแต่สมัยทำให้กับทีวีตังแต่ภาคแรก
เลือกที่จะอาศัยทรัพยากรของตัวละครในภาคปกติทางทีวี
ที่ถือว่าเป็นมนต์เสน่ห์จัดๆอีกด้าน ที่ไม่ใช่เพื่อนแฟน-ทำแทนไม่ได้
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นตัวป่วนคนสำคัญด้วยกันทั้งสิ้น อาทิ "มิเนะ" (สิงห์ไวโอลินร็อค)
"โอคุยามะ" (ตุ๊ดซี่ตีทิมปานี) และ "มิกิ" (สาวไวโอลินมือหนึ่งของทีมเอ)
มาสร้างความหฤหรรษ์ตั้งแต่ไก่โห่ ซึ่งก็สนุกเอาเรือ่งตามประสาวงเพื่อน
ที่อาจสร้างความขุ่นเคืองให้กับท่านจิ ที่แม้จะไม่กินเส้น
แต่ก็คงพอที่จะทานน้ำร่วมได้ในบางส่วน ตามประสาคนที่เคยทำทีมร่วมกันมา
โดยในบท ได้สร้างสถานการณ์ให้มิเนะดั้งดลเดินทางมาไกล
ส่วนหนึ่ง เพื่อจะได้เป็นการเยี่ยมโนดาเมะและถือโอกาสพาเที่ยว แถมมีที่พักฟรี
อีกด้าน เพื่อจะได้แอบมาดูการสอบคัดเลือกในตำนาน The Cantona Concours
เป็นการแข่งขันทุกๆสามปีของเหล่านักไวโอลินและเปียโนหน้าใหม่ชั้นเลิศ
ที่จัดมาตั้งแต่ปี ๑๙๔๐ โดยมิกิผู้เข้าแข่งขันเลือกใช้ในเพลงเอก
"Brahm's Violin Concerto in D major" ซึ่งเป็นเพลงดังที่น่าจะคุ้นหูกันดีอยู่
หลังจากยอมที่จะห่างหายจากการติดต่อมานานสองปีกับแฟนหนุ่มมิเนะ
เพื่อให้เธอได้มีสมาธิต่อการซ้อมและผลักดันในการทำความฝันให้เป็นจริง





ถ้าจะให้มองโดยภาพรวม (ซึ่งถ้าแยกออกเป็นชิ้นๆ ก็สุดจะอลหม่านใจ)
โนดาเมะเดอะมูวี่สอง ลดทอนในแง่ของความเป็นสัดส่วนในเรือ่งของเพลงที่เคยเป็นที่ตั้ง
โดยให้ส่วนใหญ่ที่เหลือ เป็นเรือ่งของความสัมพันธ์ในขีวิตคู่ในฉบับเต็มๆ
ประมาณว่า อรอ่ยหูกันข้างต้นจากภาคแรกมามากแล้ว ที่เหลือต่อจากนี้
ก็เป็นในภาคชีวิตของการตัดสินใจของโนดาเมะเป็นหลัก (เพราะชีอั้นมานานในเดอะมูวี่ภาคแรก)
โดยที่ท่านจิ ต้องมาคอยมาเที่ยวยื้อเที่ยวไล่
ไม่ใช่มาเป็นศูนยืกลางเอาแต่ใจเป็นหลักเหมือนเช่นทุกคราว
แต่กระนั้น ก็หาใช่ว่าจะไม่มีเพลงเด็ด เพื่อนำมาใช้เป็นจุดขายท้ายสกุลcantabile เอาสักเลย
อย่างน้อยๆ สองสามเพลงที่โชว์อลังการงานสะกดคีย์เปียโนเฉพาะหนูโนะ ก็มี
"Beethoven's Piano Sonata No31" (เพลงเปียโนบรรเลงสุดท้ายก่อนปีโธเฟนจะลาโลก)
และ "Chopin's Piano Concerto No2" (เป็น๑ใน๓เพลงเปียโนที่ว่าดีที่สุดตลอดกาลของโชปิน)
โดยสองเพลงนี้ ถือเป็นกระบวนท่ายาก ที่กะจะเอามาไว้โชว์ออฟ-ออกงาน
(ขณะที่เดอะมูวีภาคหนึ่ง เน้นในแง่นัยยะความหมายที่แฝงเร้นอยู่)
ซึ่งสแตนแมนด์ได้วางแผนจะปลุกปั้นให้โนดาเมะ ให้กลายเป็นดาวรุ่งค้างฟ้าทางดนตรี
แซงหน้าเจ้าจิอากิ ทั้งเในเรือ่งชือ่เสียงและพรสวรรค์อย่างไม่เห็นฝั่ง
ที่เป็นเรือ่งเซนซิทีฟอ่อนไหวต่อความเป็น"โนะ" อย่างยิ่ง ด้วยความฝันเล็กๆของโนะ เขาอยากจะ .........(เนื่องจากสนธิสัญญาสปอยด์ไทยแลนด์ จึงไม่อาจเผยแพร่สาธารณกุศลได้)
แต่กระนั้น ก็ไม่กล้าดูถูกกระบวนการความซับซ้อนที่แฝงนัยยะ
ที่ถอดสลักเก็บซ่อนเสียมิดตา ด้วยฤทธิ์ของชายแมนๆเมื่อได้ยล จนกระทั่งได้รับทราบ
ทัศนะสตรีชนคนคอมเมนต์ที่กรุณาสละสัมภาษณ์ความเห็น
ถึงได้รู้ว่า โนดาเมะสตอรีเนี่ย แม้ดูภายนอกผ่านพฤติกรรมตัวละครที่ตื้นเขิน
แต่เอาเข้าจริง มันเต็มไปด้วยความซับซ้อน ภาวอารมณ์และความเห็นอกเห็นใจอย่างเปี่ยมล้น
ในขณะที่ผู้เขียนกลับขำในพฤติกรรมความเชื่อมั่นขาดวงประกันของยัยโนดาเมะ
ทั้งวิธีคิด จิตสำนึกและการแสดงออกผ่านสัญลักษณ์ ที่ถ้าบังเกิดถอดสัญญะเหล่านี้ไม่ออก
ก็อาจส่งผลให้คุณแม่รู้สึกขัดอกขัดใจ ซึ่งเกรงว่าถ้าทิ่มผิดจุด
คงส่งผลต่อบ้านแตกคาบล็อก เพราะแฟนคลับของหนูโนะแกเหลือล้นคงด้วยสะสมทุนทางสังคม
และทุนพาณิชยนิยม ด้วยช่องเจ็ดปรารถนาดีฉายฟรีแต่ติดที่เสียงพากย์ทำให้หนูโนะกลายเป็นเด็กต๊อง
มากกว่าเด็กเนิร์ด อีกทั้งจะมังงะหรือการ์ตูนเช่าก็มีวางขายให้เกลื่อน






คงไม่มีอะไรจะร่ายให้มาก เพราะได้ขายแบ่งกันกินไว้ตั้งแต่ภาคหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว(ฮา-หมดมุข)
เรียกได้ว่า ทำให้นึกถึงแบบแผนการตลาดเฉกเช่นเดียวกับ Rookies The Moive
กล่าวคือ ในซีรีย์เองก็จบได้สวย แต่บทในมังงะการ์ตูนที่เหลือก็เกื้อกูลซะ
ชนิดที่ซีรีย์เองก็ได้่โลห์ เรตติ้งคนดูก็อวยซะ งัดงบมาลงทุนต่อก็ไม่น่าจะขาดทุน
เป็นการต่อลมหายใจผ่านช่องขายตั๋ว อีกทัั้งโอกาสทำดีวีดีรับทรัพย์เมืองนอกเมืองนาจากแฟนต่างชาติ
ดีไม่ดี ฮอลีวู้ดเห็นแล้วจะไปพลิกแพลงรีเมก ก็ยิ่งโกยดอลลาร์เข้าประเทศได้อีก
ถ้าจะให้มอง ก็ต้องบอกว่าทั้งผู้กำกับ "ทาเคอุชิ" และ คนดัดแปลงบท "ฮิโต ริน"
ได้ทำให้โนดาเมะเดอะมูวี ภาคสอง กลายเป็น "โนดาเมะเอื้ออาทรณ์"
ตอบสนองในจุดดี จุดแข็งและจุดประทับใจ ในภาคทีวี
มาแบ่งสรรปันส่วน ในจุดต้องโน้นนิด ตรงนี้หน่อย ทั้งลูกแง่ลูกงอน
ลูกกระล่อน ลูกโหด ลูกฮา ลูกเวอร์ ลูกบ้า ลูกคิขุ และแถมมีลูกซีเรียสจริงจังของหนูโนะ
แบบที่ไม่เคยมีให้เห็นในโทรทัศน์ ภาคนี้ก็งัดออกให้ทิ้งท้ายกระบวนการ
และแน่นอนที่สุด ถ้า "Piano Concerto No.2 ของ ราฟมารินอฟ"
เป็นฉากที่ประทับใจใครต่อใครหลายคน ในตอนเปิดตัวด้วยเปียโนคู่
งานนี้ทีมงานเขาก็ไม่ลืมที่จะปิดท้ายในสไตล์เปียโนคู่ในเพลง
"Two Pianos Sonata ของ โมสาร์ต" ชนิดส่งท้ายให้หลับฝันดีแด่สาวกโนดาเมะ
ห้านาทีเต็ม แบบไม่ต้องมาสรุปปิดท้ายสร้างบทไดอะล็อคสนทนาน้ำลายยืด
ในรูปแบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์นิสัย แบบที่ท่านวรินทร์รตา ว่าไว้

"จิอากิเป็นเครื่องดนตรีที่ขึ้นสายจนตึงเปรี๊ยะ
โนดาเมะก็คือ เครื่องดนตรีที่สายหย่อนยาน ที่เล่นแทบไม่เป็นเพลง"
แต่ทั้งคู่ก็เติมเต็มกันและกัน จนกลายเป็นลำนำเพลงรักที่แสนจะสุโค้ยย์คลาสสิกไปในบัดดล........







อวยข้อมูล

wikimediadrama.co , wikipedia and warinrata@bloggang









Create Date : 26 ธันวาคม 2553
Last Update : 27 ตุลาคม 2555 13:03:32 น. 7 comments
Counter : 5924 Pageviews.

 



แวะมาทักทายค่ะ


โดย: deeplove วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:19:35:26 น.  

 
ชอบมากเลยครับเรื่องนี้ ฮากระจาย


โดย: endless man วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:20:24:47 น.  

 
จบ The Movie ก็คงจะหมดมุกเล่นต่อแล้วมั้ง เว้นแต่จะนำกลับมา re make ใหม่ในอีกสิบปีข้างหน้า

เฮียพัดโบก ไม่ได้หมายถึงโจค่ะ หมายถึง อาจารย์ของโนดาเมะ เรื่องนั้นเขาถือพัด โบกไปมา และมีฉายาว่า ตาพัดโบก



โดย: prysang วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:21:17:08 น.  

 
ภาคสองนี้เค้าเล่นกับหนูโนะเต็มตัว อย่างที่อาจารย์โอแคล์ว่าแหละค่ะ กำลังจะได้ที่อยู่แล้วเชียว แต่มันมีเหตุการณ์ของจิอากิกับซงรุยมาคั่นซะก่อน

เราเข้าใจความเจ็บของโนดาเมะนะ เหมือนกับว่าความฝันที่มีมานานตลอดสามสี่ปีหลังโดนพรากไป และเอาคืนไม่ได้ซะด้วย ยิ่งดูเค้าแสดงคู่กันแล้วเคมีมันได้ ก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่ใช่เรา

ตรงนี้คือมันคิดไปต่าง ๆ นานาวุ่นวายใจ ก็ผู้ชายคนนั้นมันแฟนเราน่ะ ที่เค้าทำด้วยกันมันก็ฝันของเราน่ะ แต่จะตีโพยตีพายเป็นเด็กได้หรือ หนูโนะเองเธอก็โตขึ้นมาก เธอก็มีศักดิ์ศรี แต่เห็นแบบนี้เธอก็ไม่มั่นใจ ว่าในสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้จะรักษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอง และ จิอากิ ได้ตลอดรอดฝั่งรึเปล่า

สำหรับคนที่ไม่เคยคิดอะไรเป็นเรื่องเป็นราวเป็นรูปเป็นรอยมาก่อน เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่นะคะ ความฝันอย่างเดียว ความฝันเล็ก ๆ ที่เคยไขว่ขว้ามาตลอด ที่ทุ่มเทมาทั้งหมด จุดหมายนี้ถือเป็นหลักชัย โอเคอาจจะไม่ใช่เพราะจิอากิทั้งหมด แต่ก็ต้องถือว่าคอนแชร์โต้กับจิอากินี้มี impact กับโนดาเมะมาก พอจุดหมายนี้มันหลุดลอย เธอก็เคว้ง ที่ทนลำบากมาเกือบสามสี่ปี ชั้นต้องมาเจออะไรแบบนี้เหรอ

เป็นจุดที่มิลฮีก้าวเข้ามาพอดี จริง ๆ ฝีมือของโนดาเมะได้แล้วแหละ แต่ใจยังไม่พร้อม มันยังก้ำกึ่งอยู่ เพราะ เสียงดนตรีของโนดาเมะนั้นไร้กรอบ improvise ไปราวกับลำนำขับขาน เหมือนที่คุโรกิว่า โนดาเมะเกิดผิดยุค ถ้าไปเกิดในศตวรรษที่ 18 ที่คนนิยมฟังดนตรีสดตามอารมณ์คนเล่นอะไร ๆ คงไม่เป็นแบบนี้ ขนบมันก็เปลี่ยนไปตามเวลา

อย่างที่บอกว่าฝีมือคนเราน่ะได้แต่ใจยังไม่มั่นคงพอ เล่นเสร็จแล้วด้วยความที่มันดีมาก ๆ มากจนไม่คิดว่าจะเล่นได้ดีอย่างนี้อีก ความสับสนก็มาอีกล่ะ จนต้องห่างจากดนตรีซักครู่ เหมือนเราเจอโลกที่น่าตกใจมา โลกที่เราสงสัยว่ามันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวเรารึเปล่านะ ดนตรีของฉันที่เล่นด้วยความสนุกสนาน ดนตรีของฉันที่เหมือนเสียงร้องเพลง ที่ใคร ๆ ว่าไม่ถูกต้องตามขนบ มันจะเข้ากันกับโลกที่ว่าไหม นี่คือความไม่พร้อม ถ้าคำถามนี้อยู่ต่อไปก็คือโนดาเมะคงกลับสู่โลกของดนตรีไม่ได้

ในขณะที่โนดาเมะกำลังอยู่ในช่วงทบทวน จิอากิก็อยู่ในช่วงมืดมน จิตตก(ฮา) ถ้าชีวิตชั้นขาดผู้หญิงคนนี้ไปจะเป็นยังไง ตอนนั้นอะไรก็ได้ยังไงก็ได้ พร้อมรับทุกอย่างขอให้กลับมาก็แล้วกัน เราว่าตอนนี้แหละเป็นช่วงที่เห็นใจจริงของจิอากิ ที่โนดาเมะสำคัญเทียบเท่ากับดนตรี หรือ อาจจะมากกว่าดนตรีด้วยซ้ำ เงื่อนไขที่เคยตั้ง ความคาดหวังที่เคยมี ตอนนี้หมดไปแล้ว เรียนรู้ที่จะยอมรับในตัวจริงของโนดาเมะ อยากจะเป็นอะไรก็เป็น ขอแค่ให้อยู่ข้าง ๆ กัน อยากได้ยินเสียงเปียโนแบบนั้นทุกวัน ไม่ถูกขนบก็ช่างมัน เพราะ ที่ถูกใจนั้น คือ ถูกใจในเนื้อแท้ ในตัวตนที่ไม่ต้องปรุงแต่งของโนดาเมะ จุดนี้อะไรก็ยอมวะ ขอแค่กลับมาก็พอ

จุดสุดท้ายที่ย้อนกลับไปเล่นเปียโนสี่มือเพลงแรกที่เล่นคู่กัน เสียงในใจของจิอากิบอกว่าถึงอย่างไรก็อยากพาโนดาเมะสู่โลกแห่งดนตรีด้วยกัน ตรงนี้เรามองว่าความรู้สึกแตกต่างจากทีแรกที่อยากจะให้มาเรียนเมืองนอกด้วย เพราะ ตอนนี้อย่างที่บอกผู้ชายคนนี้ไม่คาดหวังคนข้างตัวให้ทำอะไรอีกแล้ว ฉันอยากให้เธอเป็น แต่ฉันจะไม่บังคับให้เธอทำ ฉันยอมรับ และ ฉันจะเรียนรู้ทุกอย่างที่เป็นเธอ เหมือนคู่รักอื่น ๆ เขาทำกัน นี่เป็นสิ่งที่เราชอบที่สุดในซีรีย์ชุดนี้ค่ะ ในที่สุดมันก็เป็นรักที่แท้จริงได้ซักที


โดย: วรินทร์รตา วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:22:20:32 น.  

 
ได้ข้อมูลของเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ จขบ.ขยันหาข้อมูลจังค่ะ
เพิ่งรู้ว่าเรื่องนี้คนวาดใช้เวลาตั้งเก้าปี ในการวาดการ์ตูน24เล่ม นานจัง
สงสัยคนวาดคงพิถีพิถันกับรายละเอียดในเรื่องนี้น่าดู
ไม่อย่างนั้นการ์ตูนเรื่องนี้คงไม่ครองใจคนในหลายๆประเทศหรอกใช่ไหมคะ
เคยไปยืมการ์ตูนเรื่องนี้มาอ่านเหมือนกันค่ะ
แต่ยืมได้กระปริดกระปรอยมาก เล่มไม่ต่อกัน
เลยหมดรมณ์ หยุดอ่าน ดูซีรีส์ดีกว่า สนุกด้วยเพราะตัวละครโลดเล่นออกมาได้
Nodame Cantabile The Movie Part 2 นี้
สงสัยเรื่องราวส่วนใหญ่คงอยู่ที่ต่างประเทศใช่ไหมคะ
มีบอกว่ามิเนะตามไปเชียร์คิโยระสอบแข่งขันเปียโนด้วยเหรอคะ
แต่ที่เห็นในภาพที่แปะให้ดูมีภาพสามทหารเสือยู่ด้วยกันด้วยนิคะ
เพราะเห็นนอกจากมีมิเนะ น้องโนะ แล้วก็เห็นมาสึมิจังด้วยอยู่ด้วยกัน
แสดงว่ามาสึมิจังเดินทางไปเยี่ยมโนดาเมะด้วยใช่ไหมคะ
อยากดูเพื่อนซี้สามคนนี้อยู่ด้วยกันจัง คงสนุกพิลึก
ตอนสองนี้ ท่านจิ๊บทน้อยลงแล้วสินะคะ
คงต้องหลีกทางให้น้องโนะเธอได้แสดงเต็มที่
ฝีมือระดับจูรินี้ ไม่ทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว
ยิ่งถ้าเข้าคู่กับโคอิเดะนี้ คงบ้ากันหลุดโลกไปเลย อยากดูจัง
ยิ่งอ่านยิ่งอยากดู คงได้แต่ถอนใจ ถ้ายังไม่มีแม้แต่เวลานอน
คงได้แต่ถอนใจ เก็บความอยากดูไว้ในใจ เศร้า




โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.11.62 วันที่: 29 ธันวาคม 2553 เวลา:23:13:45 น.  

 

แวะไปที่บล็อกSmile ด้วยนะคะ


โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.63.43 วันที่: 30 ธันวาคม 2553 เวลา:23:36:25 น.  

 
อ่านเพลินเลย ขอบคุณค่ะ


โดย: Meanangtatalim วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:1:01:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.