A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
๑๐ฉากสุโค้ยย์ในปีฉลูศกแห่งซีรีย์แดนอาทิตย์อุทัย





มาอาทิตย์นี้ ยังไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไรดี!
เลยต้องหาของเก่าๆ เอามาหากิน ตามประสาหมกเหม็ดเก็บแต่เรื่องซีรีย์ญี่ปุ่น
ให้พอระบายท้องเรื่องไปได้ในแต่ละสัปดาห์ หลังจากที่เคยได้จัดอันดับซีรีย์สุโค้ยย์แห่งฉลูศก
อย่างไม่ได้มีหลักวิชาการใดใด นอกจาก "ความได้ใจ" "เอาแต่ใจ" และ "สาแก่ใจ"
เป็นการส่วนตัว วันนี้จึงอยากเสนอของเก่าเก็บกินอีกด้าน ในฐานะความเป็นซีรีย์ญี่ปุ่น
ที่อุดมไปด้วย "ฉาก" หรือ "ซีน" สุโค้ยย์ได้ใจ ที่นึกถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ทีไร
ภาพเก่าๆอันแสนประทับใจ มันก็ลอยมาขึ้นสมองแบบไม่ทันสั่งการ................เฉยเลย!


แต่ความเป็นซีรีย์ มันยิ่งกว่าภาพยนตร์
เพราะด้วยของระยะเวลาของการนำเสนอ ที่กินเวลาอยู่นานสองนาน
จึงทำให้การดูซีรีย์แบบมาราธอนหนึ่งเรื่อง อาจกินเวลาเท่ากับการดูหนังมาราธอน ๘-๙ เรื่อง
ดังนั้น......ในแง่จำนวนมวลรวมของความประทับใจในฉาก จึงมีโอกาสอย่างสูง
ที่จะมีมากกว่าหนึ่งฉาก ประกอบกับผู้เขียนประกาศจุดยืนแต่ต้น ที่จะเน้นในการคัดสรร
แต่ละซีรีย์ ด้วยการยึดโยง "นางเอก" หรือ "เพื่อนนางเอก" เป็นจุดหลัก
และบอกอยู่เสมอว่า ไม่มีจรรยาบรรณทางวิชาชีพ เพราะไม่ได้ประกอบสัมมาอาชีพ
เป็นคนเขียนบล็อกประทังยาไส้ไปวันวัน ว่าแล้ว.............
ก็ขอเข้าเนื้อหาของการย้อนรำลึก ฉากเด็ดสะเด็ดต่อมจี๊ดแบบสุโค้ยย์ๆ
ในฐานะเป็นวันหยุดสบายๆ ของผู้เขียน เพราะพรุ่งนี้จะมีการสรรเสริญอันเนื่องมาจาก
วันคล้ายวันเกิดของ "สหาย" ท่านหนึ่ง ว่าจะขอพื้นที่ว่างๆสักหนึ่งหน้าบล็อก
เชิดชูนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ตามประสาผู้เคยสร้างความทรงจำในสิ่งดีๆ ให้ผู้เขียนตลอดมา


(กรอบในการคัดเลือกซีรีย์ โดยวัดเอาจากทุกเรื่องที่ไม่ว่า ใหม่หรือเก่า
ในบรรดาซีรีย์แดนอายิโนะโมะโตะ ที่ได้ยลในรอบปีฉลูศก โดยคัดเอาส่วนที่จี๊ดๆ
และเฉพาะเรื่องที่โดนๆ เท่านั้น ซึ่งจำต้องตัดเรื่องโน้น ทิ้งเรือ่งนั้น แบบยากเย็นเข็นใจ
เพื่อให้ได้เรื่องที่แสนจะสุโค้ยย์ ชนิดที่ว่า .......เอยเรื่องใดมา
ฉากนั้นก็ผุดขึ้นมากลางใจ ส่วนเราจะคิดตรงกันรึไม่?
มีแต่พระเจ้ากับคนในแวดวงเดียวกันเท่านั้นมั้ง ที่จะรู้)



เริ่มต้นจากซีรีย์ที่มีฉากประทับใจ ในอันดับสิบ ได้แก่ Osen ของค่าย NTV
เป็นซีรีย์ที่เกือบจะตกอันดับ หลุดกรอบ จนผู้เขียนจำต้องละเลย
แต่ด้วยพลังของน้องอาโออิ ยู ในฐานะนายหญิงตัวแม่ "โอกามิ"
แห่งสำนักทำอาหารอิชโชอัง เลยทำให้ซีรีย์เรื่องนี้
ยังเป็นที่จดจำของผู้เขียน โดยเฉพาะฉากแสดงตัวตนและบุคลิกที่ชัดเจน
ที่ทำให้น้องยู หลุดจากฉากวัยรุ่นหน้าใส มาเป็นเจ้าสำนักที่มีรสนิยมในการ
ลงแช่น้ำอุ่นจากปฏิกรณ์เชื้อเพลิงพื้นบ้านอย่างฟืน และความเป็นเจ้าสำราญโดยการ
จิบสาเกหรือไม่ก้อซดเบียร์เป็นเหยือกๆ จนผู้เขียนต้องแอบปลงอาบัติในใจ
ในการละเมิดศีลข้อที่ห้าของคุณน้อง
ถ้าขาดเธอ ซีรีย์เรื่องนี้ก็ขาดใจ จากผู้เขียนไปโดยปริยาย

คลิ๊กตรงนี้ เพื่อกลับอ่าน osen เมนูที่ประเมินมูลค่ามิได้



ฉากเรื่องที่เก้า เป็นซีรีย์นิติวิทยาฮาเฮป่าช้าแตก อย่าง Mr.Brain
งานนี้ไม่เกี่ยวกับตัวตนของป๋ายะแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน
ความตื่นเต้นของรูปคดีก็ไม่ใช่สิ่งดลใจ แต่เป็นการวางกุศโลบายของสารเพิ่มพลังทางสมอง
อย่าง กล้วยหอม ซึ่งเป็นเรื่องกล้วยๆ ในการหารับประทานตามตลาดของสยามประเทศ
แต่ผู้เขียนเอง ก็กลับมองข้ามหรือละเลยไป โดยให้ความสนใจกับบรรดาพวก
ผลไม้นำเข้าประเภท เชอรี่ แอปเปิ้ล สาลี อินทผลัม โดยหารู้ไปว่า
นี้แหละ สารบำรุงสมองตัวยง ทานแล้วจะฉลาดแบบไม่ต้องพึ่งโปรตีนเม็ด
หรือซุปไก่ขวดละเกือบร้อย การที่ทีมสืบสวน IPS ทุกคนหันกลับมาตั้งโต๊ะประชุม
ชวนกันปอกกล้วยรับประทาน เท่ากับยอมรับการเป็นส่วนหนึ่งในทีมงาน
ของป๋ายะไปกลายๆ ในฐานะผู้นำเข้าในผลิตภัณฑ์โอท้อปภูมิภาค
เข้าสู่อาคารสำนักงานใหญ่ในความมั่นคงของชาติ



ฉากเรื่องที่แปด เป็นงานที่ทำให้ผู้เขียนแยกแยะระหว่างเส้นแบ่งของ
อัจฉริยะกับคนบ้าได้ยากเย็นนัก จากซีรีย์เรื่อง Galileo
ด้วยพล็อกเรื่องที่แสนจะซับซ้อน กับระดับสติปัญญาของฆาตกรระดับฟิสิกส์โอลิมปิก
แต่ก็ใช่ว่าจะยากเย็นเข็นใจนัก กับระดับสติปัญญาในการไขข้อข้องใจทางคดี
ของนักสืบกาลิเลโอ ที่มีวัยวุฒิและคุณวุฒิระดับอาจารย์มหาวิทยาลัย
มาซาฮารุทำให้ตัวละคร...............เป็นที่น่าจดจำตัวหนึ่งในบรรดาซีรีย์สืบสวนสอบสวน
ที่มีให้เห็นเกลื่อน โดยเฉพาะเวลาที่ "Thinkแว้บ" ในการปะติดปะต่อตามหลักฐานเชือ่มโยง
แล้วเฮียจำต้องรีบกุลีกุจอ คว้าชอล์กหรือปากกามาแลกเชอร์แปรเป็นรูปสูตรทางคณิตศาสตร์
โดยไม่กลัวว่านี้เข้าข่ายความผิด ในการทำลายที่สาธารณะให้ได้รับความเสียหาย
หรือเลอะเทอะเปรอะเปื้อน หลังจากหาค่าสัมประสิทธิ์ทางข้อมูลเสร็จสิ้น
ก็จะไม่ลืมท่าดัชนียิ่งยง ยอดบัวงาม ที่ชี้กลางหน้าผาก อันถือเป็นท่าจบที่สมบูรณ์
จากนั้นที่เหลือเรอะ? ก็เตรียมมุ่งไปในการจับกุมแบบไม่ต้องรอสั่งฟ้องจากอัยการ

คลิ๊กตรงนี้ เพื่อกลับอ่าน Galileo โอ้!ทำให้อาการเสพย์ติดซีรีย์กำเริบอีกแล้ว

คลิ๊กตรงนี้ เพื่อกลับอ่าน Galileo : Suspect X ฟิสิกส์หรือคณิตศาสตร์ ก็ไม่อาจแก้ปัญหาชีวิตได้



ฉากที่เจ็ด ก็ยังไม่พ้นเรื่องของ "ท่า"
แต่ท่านี้ มีเรือ่งของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์เข้ามาผสมปนเป ให้หลุดโลกแฟนตาซีหน่อยๆ
จะเป็นอะไรได้ ก็จากเรื่อง Love Operation ที่ยามะพีต้องชี้โปชี้เปเกือบตลอดทุกตอน
"ฮาเลลูยา เเชนส์" ประโยคที่อินคริสตจักรนิดๆ ตามประสากระทำการย้อนเวลา
ผ่านเคหสถานศักดิ์สิทธิ์อย่างโบสถ์ โบสถ์ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งระหว่าง
สาวที่แอบชอบมาตั้งแต่เด็ก กับ อดีตอาจารย์ฝึกสอนในสมัยมัธยมปลายผู้แสนดี
ความที่พระเอกของเราไม่เอาอ่าว สวรรค์ก็เลยเป็นใจส่งฑูตเทวดาให้มีโอกาสแก้ตัว
โดยให้พรในการย้อนเวลาเพื่อไปเปลี่ยนแปลงภาพในงานแต่ง
ที่มักมีพระเอกไปเสลอทุกรูป บอกตามตรงว่าตอนแรก ที่มาเจอท่าฮาเลลูยา แชนส์
เล่นเอาฮาจนเกือบตกเก้าอี้ แต่พอได้สดับเป็นตอนๆไป
สุดท้ายก็ต้องถึงกับภาวนาในใจ ให้ท่านฑูตเทวดามอบโอกาสพิเศษในการย้อนเวลา
ให้พระเอกเขาอีกรอบ แม้มีเงื่อนไขว่า ผู้เขียนต้องทำท่านี้ตามไปด้วยก็เถอะ
ฮาเลลูยา แชนส์!!



ฉากที่หก เป็นซีรีย์ที่ผู้เขียน ต้องใส่หัวใจความเป็นพระเอกเอาไว้ภายใน
กับ Buzzer Beat โดยเฉพาะในตอนที่น้องเคอิโกะต้องตะโกนแหกปากบนอพาร์ตแมน
ขณะที่พระเอกยามะพีก็ยืนรอฟังบนสนามซ้อมบาสสาธารณะ บทมันเศร้า
เพราะนางเอกพยายามหักห้าม ไม่ให้เผลอใจไปหลงรักในตัวพระเอก
แม้คุณน้องจะพยายามสร้างเงื่อนไขต่างต่างนานา No Kiss บ้างละ
ไม่สัมผัสแตะตัวบ้างละ จะไม่เข้าใกล้ในระยะห้าเมตรบ้างแหละ
ขอเพียงอย่าได้หนีหน้าทำเป็นเหินห่างกันอีกเลย พูดอย่างงี้ ก็เข้าทางพระเอกเขาดิ
แหกปากไปก็เหมือนให้ท่า แถมเคหสถานคุณน้องกับสนามบาสคุณพี่
ก็ใช่ว่าจะอยู่ห่างไกลกันสักที่ไหน ทำให้เชื่อแล้วว่าผู้เขียนก็เป็นพระเอกได้
เพราะคิดไม่ต่างกัน จากนั้นที่เหลือก็ใส่เกือกเกียร์ห้า วิ่งเข้าไปหาอย่างจู่โจม
ละเมิดเงื่อนไขทั้งหลายแหล่ที่นางเอกตะโกนป้าวๆ อยู่หยกๆ แต่มันได้ใจ
ท่านพ่อยกแม่ยก ที่ตามลุ้นตามเชียร์ให้กับคู่นี้มาเนินนาน

คลิ๊กตรงนี้ เพื่อกลับอ่าน Buzzer Beat:Love Make Me Strong



ฉากที่ห้า เป็นบทสรุปตอนท้ายของเรื่อง ที่กว่าคนดูจะผ่านพ้นมาได้
ก็ต้องบอกว่า เอาใจช่วยทุกตัวละครกันจนเหนื่อย กับซีรีย์ Last Friend
หลังจากที่เพื่อนรักในสมัยมัธยมปลาย ต่างก็มีวีถีชีวิตก้าวเดินกันไปคนละทาง
ความรักที่แตกต่างทางบุคลิกตามทางเลือกในใจตน ของเพื่อนห้าคนในบ้านหลังเดียวกัน
เป็นรักที่ยากจะสมหวังบรรจบ เมื่อ ทาเครุรักรุกะ รูกะรักมิจิรุ มิจิรุรักโซซึเกะ
โซซึเกะรักตัวเอง จะมีสมหวังบ้าง ก็คู่ของ โทโมฮิโกะกับเอริ
แต่กระนั้น ก็ต้องนั่งลุ้นกันจนเหนื่อย เป็นซีรีย์ศาลาคนเศร้าที่มาเคล้าความสุข
ก็ในท้ายที่สุด เป็นรักแบบไม่ได้ครอบครอง ด้วยรักแบบเพื่อนผ่องน้องพี่ที่มีแต่การให้
กว่าจะเห็นรอยยิ้มของทุกคนได้ ก็หมดน้ำตาไปเป็นปีบๆ ตั้งหลายสิบตอน



ฉากที่สี่ จากงานโปรดักชั่นและทุนสร้างที่ยิ่งใหญ่ใน The Grand Family
แต่ผู้เขียน กับมาประทับใจในฉากเล็กๆ ในต้นเรื่อง
ในฉากที่พ่อกับลูกที่ไม่กินเส้นมาแต่ไหนแต่ไร มาพบปะพูดคุยในสวนของคฤหาสถ์
เกี่ยวกับเรื่องการขอกู้เงินเพื่อไปลงทุนสร้างเตาเผาเหล็ก ราคาหลายหมื่นล้านเยน
พูดไปพูดมา ตัวพ่อไม่รู้อีกท่าไหน วกกับมาพูดถึงปลาทองโชกุนของเจ้าคุณปู่
ที่จะออกมาแหวกว่ายทุกครั้ง หากได้ยินเสียงตบมือของเจ้าคุณปู่เข้า
ความที่ตัวพ่อ นอกจะไม่กินเส้นตัวลูกทาคุยะแล้ว ยังไม่กินเส้นกับปู่ของพระเอกอีก
แต่ตัวลูกสิ มีความคล้ายคลึงกับตัวปู่ในทุกระเบียดนิ้ว เลยท้าให้ลองตบ
พอได้ตบก็เป็นเรื่องสิ ก็ปลาตัวนี้ไม่โผล่หน้ามากว่าสองปี
เหมือนสื่อความนัยเอาไว้หลายอย่างในเรื่อง ว่าเจเนเรชั่นใหม่ของตระกูลมันเปียว
จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในไม่ช้า ว่าจะเกิดศึกเลือดครั้งนี้ถึงขั้นล้างตระกูล

คลิ๊กตรงนี้ เพื่อกลับดู
ความยอดเยี่ยมในสายการเข้าชิงรางวัลในใจผู้เขียน ใน สิ้นปีทีไร ก็มานั่งจัดรางวัลซี่รีย์สุโค้ยย์แห่งปีฉลูศก





ฉากที่สาม เป็นเรื่องของเกมส์กีฬากันบ้าง แต่ไม่ใช่ผลของการแพ้ชนะ
แต่ว่ากันด้วยเรื่องของ การให้ความสำคัญแก่ลูกศิษย์ของผู้เป็นครู ใน
Rookies เมื่อครั้งหนึ่งชมรมเบสบอลไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาทในการแข่งขัน
จนต้องโดนโทษปิดชมรมในที่สุดท้าย จากนั้นสมาชิกทุกคนเลยไร้ซึ่งคุณค่า
หันมาเป็นนักเรียนอันธพาลแทน จนกระทั่งมีครูคนใหม่ที่ชื่อ คาวาโตะ
ครูที่มีดีกรีต่อยเด็กทะลุกระจกหน้าต่างลงจากชั้นสอง ต้องมาเป็นหัวหน้าโค้ชประจำทีม
ในขณะที่ครูท่านอื่นๆ ต่างหลีกหนีจากเผือกร้อนของลูกศิษย์กลุ่มนี้
ครูคาวาโต้กลับยื่นหน้าแบกรับด้วยความจริงใจ และมุ่งมั่นที่จะทำความฝัน
ของเหล่าเด็กเกให้เป็นจริง โดยเฉพาะฉากที่เล่าถึงข้อดีของลูกศิษย์ชมรมเบสบอล
โดยเลิกมองแบบจอ้งจับผิดแบบที่เคยเป็นมา
แบบไล่เรียงเป็นคนๆ พร้อมกับรอยยิ้มอย่างเชื่อมั่น แก่ลุงท่านหนึ่งที่มักเดินโต๋เต๋ในโรงเรียน
ลูกศิษย์ต่อให้โฉดชั่วแค่ไหน เป็นเผลอได้ยินเข้า เป็นต้องเสร็จทุกรายไป

คลิ๊กตรงนี้ เพื่อกลับอ่าน
Rookies มือใหม่ใจเกินร้อย




ฉากที่สอง เป็นมิตรภาพของคนแปลกหน้า ทั้งที่จริงแล้ว เขาเป็นพ่อ-ลูกกัน
จากเรื่อง Shiroi Haru หรือ White Spring เป็นฉากที่เล่นเอา
ผู้เขียนต้องต่อมน้ำตาแต๋วแตก ยังคิดอยู่ในใจว่าเพียงตอนแรกๆ ก็เล่นเอาซึ้ง
จนทำท่าว่าถึงอยากดูต่อ แต่ก็เสียดายน้ำตาของลูกผู้ชาย เพราะฝีมือสองนักแสดง
ที่เล่นเป็นพ่อ (อาเบะคุง) กับ ลูกสาว (หนูโนโซมิจัง) เล่นแบบกินกันไม่ลง
ความจริงมันมีลูกซึ้งอีกมากมายหลายตอน สำหรับความสัมพันธ์แบบปกปิด
แต่ฉากตอนที่ลุงอาเบะออกมาจากคุก แบบสิ้นเนื้อประดาตัว อีกทั้งไม่เหลือใคร
สัญญาณไซเรนในท้อง ก็ร้องเรียกหาอาหารเป็นระยะๆ จนกระทั่งมาพบหนูโนโซมิ
ผู้รักษาสัจจะคำมั่น แบบชนิดถอดแบบจากผู้เป็นแม่ ฉกขนมปังจากในร้าน
ทั้งๆที่ไม่เคยมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยเลยมาก่อน มามอบให้แก่คนที่ไม่รู้ว่า
เขานี้แหละเป็นปะป๊าของแท้ จะเป็นการทำไปด้วยสายสัมพันธ์ พรหมลิขิตหรือดีเอ็นเอ
ก็ตามแต่ แต่มันก็ทำให้หนูโนโซมิ เป็นดาราที่น่าจับตามอง
ที่ผู้เขียนจะตามหลอกหล่อนไปจนเฒ่าจนแก่ เหมือนกับที่เคยทำกับน้องฮิโรสุเอะ
อย่างไรอย่างนั้น

คลิ๊กตรงนี้ เพื่อกลับอ่าน
shiroi haru ดอกไม้ผลิที่รอวันขาว




และอันดับที่หนึ่ง อันนี้เลือกแบบไม่ยากเย็นนัก
เพราะเป็นอันดับที่วางไว้ก่อนหน้าแบบแบเบรอะ จะว่าไปหากจะให้จัดอันดับ
ซีนในดวงใจในรอบทศวรรษ ฉากปฐมต้นตอนเปิดเรื่องของ Flowershop without Roses
ถือเป็นฉากคลาสสิกต่อไปอีกนาน เพราะแทบจะไม่ต้องบรรยายเล่าเรื่องอื่นใดให้มากมาย
เป็นรูปแบบในลักษณะเดียวกันกับในการ์ตูนอนิเมชั่นเรื่อง UP ที่ปล่อยให้ภาพเล่าเรื่อง
โดยมีการบรรเลงเครื่องเสียงไวโอลินเป็นตัวประกอบ เป็นการเล่าแบบการปูเรื่อง
โดยอาศัยการตัดช๊อตเฉพาะช่วงพัฒนาการะหว่างผู้เป็นพ่อ คือ ตัวชิอิจิ กับ ตัวชิสุกะ
ผู้เป็นลูกนับแต่แรกเกิด เรียกว่ามีการระดมภาพหลายสิบช๊อตไล่เรี่ยงไปตามอายุวัย
ของบุตรธิดา เป็นสามถึงสี่นาที ที่อธิบายความเป็นไปของชิสุกะจนกระทั่งถึงวัยอนุบาล
ที่พูดได้เขียนคล่องเดินเหินสะดวก ซีรีย์ที่ถ้าเปิดเรื่องไม่ประทับใจ
ก็มีโอกาสถูกเอาออกจากเครื่องเล่นได้โดยง่าย แต่กับ FWR เหมือนเป็นลางบอกเหตุว่า
เราได้เดินทางถูกทางแล้ว คงคุ้มค่าทั้งเงิน เวลาและการรีวิวในบล็อกส่วนตัวแทบจะบัดดล

คลิ๊กตรงนี้ เพื่อกลับอ่าน
Flowershop Without Roses กุหลาบมีขาย แต่ร้านนี้ไม่มีให้



จบแล้ว สำหรับสิบอันดับซีนสุโค้ยยในใจผู้เขียน ที่เหลือจากนี้เป็นทีของคุณบ้างแล้วละ!! ........




ภาพจาก prysang@bloggang .ใน Mr.Brain
capture เองบ้าง และจากอินเตอรเน็ตนั้นโน่นนี้ ทั่วไป





Create Date : 23 มกราคม 2553
Last Update : 13 มีนาคม 2553 11:24:16 น. 4 comments
Counter : 2250 Pageviews.

 
ไม่มีความสามารถจัดอันดับอย่างคุณหรอก
เราแค่ดูหนัง รับอรรถรสแล้วจบลงไป
ซาบซึ้ง ทั้งเรื่อง

แต่ถ้าให้หาฉากหรือข้อความประทับใจจากหนังสือละก็
อันนี้ ...ทำได้


โดย: นัทธ์ วันที่: 23 มกราคม 2553 เวลา:22:50:53 น.  

 
พลาดบล็อกนี้ ไปตอนไหน Osen ,White spring, Mr.Brain และ Galileo ไม่เคยดู สำหรับสองเรื่องหลัง แรกๆ อยากดูเหมือนกัน แต่พออกหักจาก unfair เลยทำอารมณ์อยากดูแนวสืบสวนสอบสวนหายไปเยอะเลย

ฮาเลลลูยา ใน Operation love ไม่ปลื้มซักเท่าไร เอาพีจังมาทำท่าอะไรเนี่ย

ส่วนใน Buzzer Beat ชอบ ท่าตะเบ๊ะ ค่ะ ไม่ว่าจะที่ลานเล่นบาส ตอนมะพีไปดูนางเอกเล่นไวโอลิน หรือตอนอำลา

ใน last friend ชอบการสื่อความหมายจากแก้วน้ำสามสีลายเดียวกันของ มิจิรุ รุกะ และทาเคชิ ฉากบีบน้ำตาที่สุด แน่นอนอยู่แล้ว ต้องเป็นตอนที่ทาเคชิ กอดรุกะที่ร้องไห้

The grand family และ the flower shop without ross เป็นฉากเดียวกันกะท่านว่าเลย

Rookies ต้องเป็นฉากซื้อใจลูกศิษย์แต่ละคน เช่นการถอนหญ้าจากสนาม การเดิมพันกับอานิยะ และตอนหนุ่มๆ ยอมสวมชุดลงเบสบอลลงสนามครั้งแรก ทั้งกลุ่มแรกๆ ที่ลงมาแบบเขินๆ หรือตอนอานิยะยืนถือไม้เบสบอลทำเท่ห์อยู่ข้างยูอิ เมื่อเพื่อนๆ เหลียวมา และตอนชินโจวเดินฝ่าวงล้อมลงสู่สนาม

ส่วนความสุโค่ยในใจตัวเองเรื่องอื่น ๆ

-ฉาก Team Dragon ใน IRYU เดินออกจากห้องผ่าตัด พร้อมด้วยเสียงดนตรีประกอบ ที่ให้ความรู้สึกถึงการเป็นคณะฮี่โร่ที่ยิ่งใหญ่มาก

-Yasashii Jikan แก้วกาแฟ เซรามิคที่นิโนะปั้นและเผาเองเพื่อเป็นของขวัญให้พ่อ เหมือนเป็นตัวแทนทั้ง ความรัก ห่วงใย สำนึกผิด และขอโทษ ฉากแผ่นหลังของนิโนะที่วิ่งหนีเข้าป่าหิมะเพราะไม่อยากให้พ่อรู้ว่าแอบมาอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกันกับที่พ่ออยู่ เป็นอะไรที่สะเทือนใจสุดๆ เช่นเดียวกับการเผาแขนตัวเองเพื่อลบรอยสัก การพบกันของพ่อลูกบทสรุปของการพลัดพรากเพราะความโกรธเคือง น้ำตาทะลักทะลายค่ะ

- Engine ต้องเป็นฉากเด็กชายชุนตะ วิ่งตามรถตู้บ้านอุปถัมภ์เด็กกำพร้า ที่ทาคุยะเป็นคนขับ เมื่อบ้านอุปถัมภ์ถูกสั่งปิด และทาคุยะต้องขับรถส่งเด็กๆ แยกไปตามสถานที่รับดูแลแห่งอื่นๆ ฉากนี้ได้ใจมาก น้ำตาท่วมท้นเช่นกัน และฉากจบที่เด็กทั้ง 13 คน วิ่งเลาะขอบสนามรถแข่ง ตามทาคุยะที่เข็นความพ่ายแพ้เข้าเส้นชัยด้วยสปิริต

- long love letter ฉากหลุมยักษ์กลางเมือง ดูแล้วหวิวมาก

- Beautiful life ฉากทาคุยะเกาะท้ายรถเข็นนางเอกและเล่นสไลด์ไปตามทางเดิน แต่ยังไม่ได้ใจเท่า ท่าการดึงรถเข็นนางเอกด้วยเท้าของเฮียท่าน

- Call Center ฉากการออกอากาศขายสินค้าของรายการ TV Shopping ของ นานเคียวสุ ไอกุ

- Minomoto no Yoshisune ฉากการรบกลางท้องทะเลและการล่มสลายของตระกูลไทระ ที่ยังคงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของตระกูลนักรบที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะความกล้าหาญของเหล่าสตรีตระกูลไทระ อาเบะ แสดงเป็นแม่ทัพของตระกูล และสู้จนลมหายใจสุดท้าย ถึงจะแพ้แต่เท่ห์มาก

- ความหมายของ "หัวใจประชาชน" ในChange และการปราศรัยและประกาศยุบสถาของนายกรัฐมนตรีเคย์ตะ

- Tokyo Tower เป็นฉากที่มาคุงมองตามแผ่นหลังแม่ หลังกลับไปเยี่ยมตอนแม่ป่วยและพาออกจากโรงพยาบาล เพราะแผ่นหลังของแม่ มาคุงจึงเอ่ยปาก "แม่ครับ แม่อยากไปอยู่โตเกียวกับผมมั้ย" ซึ้งสุโค่ย
- แถมท้ายสุด ด้วยฉากแกงค์มอเตอร์ไซด์ของพี่ชายอีดงซอล ไล่ต้อนรถของชินแทฮวาน เป็นการไล่ล่าเอาชีวิตศัตรูคู่อาฆาต ได้มันส์สุโค่ย

















โดย: prysang วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:04:37 น.  

 
อ้อ ตกไป เรื่องสุดท้ายที่ว่ามันส์สุโค่ยน่ะ เป็นซีรีย์เกาหลี เรื่อง East of eden


โดย: prysang วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:07:33 น.  

 
ตีหนึ่งกว่า ยังไม่หลับไม่เหรอท่าน แต่เห็นการพรั่งพรูของซีนสุโค้ยย์ส่วนตัว ดูคล้ายจะติดแน่นซึมลึกอยู่ไม่ใช่น้อย ต่อติดมั้งไม่ติดมั้ง เป็นเรื่องธรรมดา


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:30:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.