A ........ Z
Group Blog
 
All blogs
 
Love Generation:True love never runs smooth นะเอย



.
ระยะนี้มีโอกาสได้หยิบจับซีรีย์เก่าๆ ขึ้นมาปัดฝุ่นดู แบบไม่ตั้งใจ
ที่ไม่ตั้งใจ.....ก็เพราะว่า ถ้าไม่ออกอาการแบบรักข้าวรักของ เข้าให้แล้ว
อาจจะมีใครบางคน นำข้ออ้างนี้เป็นการปฏิรูปครัวเรือนครั้งใหญ่
ประมาณว่า......ถ้าเเกไม่เก็บเข้าที่เข้าทาง ยังวางระแกเรี่ยราดตามมุมบ้าน-ข้างบันได
ซาตานในร่างแม่อาจจะยั่วะโกธา พาลไล่จับทุกอย่างที่แลดูรกตารกใจ ไปขายทิ้งอย่างไม่ใยดี
งานนี้จึงจำเป็นต้องแสร้งทำเป็นใส่ใจ เพื่อส่งสัญญาณว่า
"ถึงของจะเก่าเก็บ แต่ก็เจ็บปวด หากพลัดพรากจากสิ่งอัน (เคย) เป็นที่รัก" นะแม่น๊า!



เลยทำให้มีโอกาสได้เปิดฉาย Love Generation ซีรีย์สุดหวงอีกชุดหนึ่ง
ที่ห่างหายจากการสอดใส่ให้ฉายภาพ จากเครื่องเล่นบุโร่ทังนับเป็นเวลาหลายปีดีดัก
แม้จะมีพระเอกทาคุยะเป็นผู้เล่น ก็หาได้สนพอๆกับทาคาโกะ มัตซู ที่พี่จำต้องสลัดรัก
เพราะเจอหญิงอื่นที่ใช่กว่า และอ่อนเยาว์ยิ่งนัก ในราคาดีวีดีที่ย่อมเยาขึ้น
เพราะตลาดออนไลน์ขายซีรีย์ชุดในหลายๆเจ้า เขาหั่นราคาแข่งขันกันอย่างดุเด็ด
เชื่อไหมว่า? โดยปกติความรู้สึกที่สองเมื่อกลับมาดู ย่อมจะไม่เทียบเท่ากับความรู้สึกแรก
ความรู้สึกที่ตื่นตาตื่นใจ ชนิดที่พรุ่งนี้รู้ว่าต้องตื่นแต่เช้า แต่ก็ยังอุตสาห์อดตาหลับขับตานอน
ดูอย่างมาราธอนชนิด ไล่ตอนต่ออีกตอน เพราะความที่มันสดใหม่ ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราว
มากไปกว่าคำโปรยสั้นๆ หลังกล่อง แล้วไปโปรยหนักๆ เมื่อแผ่นเริ่มทำงาน
แต่กลับเป็นว่า...........ความรู้สึกต่อ Love Generation ในรอบสอง กับรู้สึกดีกว่าในรอบแรกอย่างมาก
ส่วนเพราะอะไรนั้น จากสาธยายให้ทุกท่านได้ฟังกัน ว่าแล้วลิเกโรงนี้ก็เปิดโรง....... อี้อ้ออี้อ้อ



Love Generation อาจเป็นงานแรกสุด ที่ทำให้ผมรับรู้ว่า
เจ้ากระทาชายคิมูระ ทาคุยะ นี้ มิได้มีความสามารถแค่การร้อง เล่น เต้น อยู่กับวง SMAP เท่านั้น
แต่เรื่องการแสดง ไอ้หมอนี้ก็ดันมีพรสวรรค์ได้ไม่แพ้กัน (ถึงแม้ว่า เล่นเรื่องไหนๆ ก็ดูเป็นทาคุยะนะ ผมว่า)
เท่าที่สังเกตกับการรับเล่นซีรีย์แต่ละเรื่อง เจ้าทาคุยะมักจะได้รับบทที่เหมาะสมไล่เลี่ยไปกับวัยที่ชราขึ้นเสมอ
ไม่ว่าจะเป็น นักฮอกกี้ ใน pride นักขับเครื่องบินใน Good Luck ตลอดจนนายกฯใน Changes
ไม่ต้องมา Fake ชนิดเอาดินสอเขียนคิ้วมาทำเป็นตีนกา เอาแป้งโปะหน้ามาตบเส้นผม ให้ดูเป็นคนแก่
คือ ปล่อยไปตามสังสารวัฏสภาพ ช้าดีอย่างไร ก็อย่าได้รั้งหรือเปลี่ยนแปลงรูปทรงองค์เอว
และเท่าที่สังเกตุ (อีก) ระยะหลัง ความบันเทิงในญี่ปุ่นจะพยายามหลีกเลี่ยงการปู้ยี้ปู้ยำนักแสดงหลัก
ให้ต้องรับบทหนักชนิดเจริญวัยโดยฉับพลัน ประเภทเป็นเด็กก็ผูกเปีย หรือแก่นักก็เกล้าผม
แต่จะใช้นักแสดงแทนที่หน้าตาละม้ายคล้ายกัน หนักเข้าก็เอาพ่อแม่ของนักแสดงท่านนั้นมาร่วมเล่น
กันสักเลย อย่างที่เห็นใน Gelileo , Be With You หรือ Tokyo Tower เป็นต้น



เสียดายอยู่อย่าง ในตอนที่ ITV นำซีรีย์เรื่องนี้มาฉาย
ผู้เขียนยังคงเป็นยุวชนวัยเยาว์ ที่ยังเห่อความเป็นไทยตามนโยบาย Amazing Thailand
ฟังเพลงก็ต้องเพลงไทย ดูหนังก็ต้องหนังไทย แม้แต่ละครในตอนนั้นก็ยังต้องเป็นละครไทย
ถึงแม้จะรู้ถึงการมีอยู่ของ Love Generation ในอีกช่องของสถานีไทย ส่วนใหญ่ก็เปิดดูไว้
ในช่วงที่สถานีที่ฉายละครไทย กำลังมีมหากาพย์โฆษณานาทีละหลายแสน จึงเป็นการดูเพื่อคั่นเวลา
พอสลับรีโมทเปิดกลับมาดูละครไทย เห็นนางอิจฉาทำตาถลึงไส่ นางเอกศอกกลับด้วยวาจาเชือดเฉือน
นางอิจฉากรี๊ดหลั่น คุณแม่สามีวิ่งเข้าปลอบนางอิจฉา ต่อว่าความสถุลรุนชาติกิริยาของนางเอก
โหย.........จะมีอะไรหรรษาเท่าเวลานั้นอีกแล้ว สิบปีผ่านมา..........ทุกอย่างยังเหมือนเดิม!
แต่พอมองย้อนมาดูซีรีย์ญี่ปุ่นในปัจจุบัน มันก็ทำให้ผมรู้สึกได้ว่า
Love Generation เป็นซีรีย์ก้าวผ่าน ที่ไม่อาจเอามาสร้างในสมัยนี้ได้อีกต่อไปแล้ว





ในซีรีย์ Love Generation เป็นการว่าด้วยเรือ่งของความรัก หน้าที่และความรับผิดชอบ
เป็นเจเนเรชั่น ที่มีการไขว้สลับของเหตุบังเอิญหลักและเหตุบังเอิญรองอีกมากมาย
ถ้าว่ากันด้วยเรื่องหลักแล้ว ก็เป็นเรื่องของผู้คนวัยทำงานคอปกขาวในเมืองกรุงทั่วไป
โดยมีสมมติให้พี่น้องคู่หนึ่ง ที่มีความแตกต่างกันทั้งในนิสัย บุคคลิกและหน้าที่การงาน
คนน้องจะเป็นอื่นใครไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ "เจ้าเทปเป้" ที่พระเอกทาคุยะรับเล่นเป็นหนุ่มหลักลอย
อารมณ์ป่วนเป แถมยังเจ้าชู้ไม่หยอก เพิ่งจะเรียบจบจนได้เข้ามาทำงานในบริษัทโฆษณา
ในตอนแรกก็ทำอยู่ใน แผนกออกแบบช่างศิลป์ (creative agent) แต่ต่อมาถูกย้ายให้ไปอยู่ใน
แผนกฝ่ายขายโฆษณา (sales department) แบบฟ้าผ่า แบบที่เจ้าตัวก็ยังงงๆ ว่า "ตูทำผิดอะไรหว่า"
(ซึ่งในตอนสุดท้ายก็ช่วยเฉลย ว่าพี่นะไม่ผิดหรอก แต่พี่มักถูกเสมอนี้สิ....เขาเลยกลุ้ม)




ส่วนคนพี่เป็นอัยการมีอนาคต มาดแมนสุขุมภาพลุ่มลึก มีหลักมีการในชีวิต
ตามแบบฉบับสามีชาวญี่ปุ่นทุกระเบียบนิ้ว นามว่า "ซาโตอิจิ" คนนี้เล่นโดย มาซาอากิ ยูชิโนะ
(ล่าสุดปีนี้เล่นซีรีย์เรื่อง Jin หมอยุคโบราณ ของค่ายTBS)
ซึ่งถ้าดูตามโครงหน้า ก็ถือว่าเข้าเค้าพอที่จะนับญาติ ว่าเป็นพี่น้องท้องไส้ด้วยกันได้
แต่ความเป็น Love Generation จึงถูกสร้างสถานการณ์ให้อลหม่านยิ่งขึ้น เมื่อแฟนปัจจุบันของพี่ชาย
คือ ซานาเอะ ที่เล่นโดย ริซา จุนนะ (คนนี้ห่างจากวงการเป็นพักๆ งานก็ไม่ค่อยผ่านตา)
ดันเป็นอดีตคนรักในสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของเจ้าน้องชาย (ทาคุยะไง)
อีกทั้งเจ้าน้องชาย ก็ยังคงไม่เคยลืมและเฝ้าตามหามาโดยตลอด นับหลังจากเรียนจบ
เหตุที่เจ้าน้องชาย ซึ่งก็คือทาคุยะของเรา ตามหาไม่เจอ ก็เพราะซานาดะแฟนเก่า
ไปทำงานเป็นล่ามที่เมืองจีน และมีโอกาสได้ช่วยคดีๆหนึ่ง ซึ่งพี่ชายคือซาโตอิจิรับทำคดี
จึงเกิดความสัมพันธ์ลึกซึ้งซึ่งกันและกัน เป็นความลึกซึ้งชนิดที่พี่ชายตัวเองก็ไม่เคยทราบ
อีกทั้งซานาเอะก็ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าคนที่ตนกำลังคบหาดูใจเนเป็นพี่ชายของอดีตแฟนเก่า
อันนี้ถือว่าเป็นเจเนชั่นแรกเท่านั้น (Pre-Love Generotion)



ส่วนเจเนเรชั่นถัดมา เป็นความรักของคู่พระคู่นาง (Pro-Love Generation)
ซึ่งก็ยังคงเป็นทาคูยะผู้สวมบทเทปเป้ของเรา มาเกิดรักใหม่กับคนปัจจุบัน
คนปัจจุบันที่ว่า คือ ริโกะ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คุณน้องทากาโกะ มัตซูของเรานี้แหละ
เป็นความรักที่พบเจอกันโดยอุบัติเหตุแปลกๆ ที่ริมถนน ประมาณว่าน้องริโกะเพิ่งอกหักจากแฟนหนุ่ม
พี่ทาคุยะเรา ในบทต้องเป็นคนเจ้าชู้อยู่แล้ว จึงวางแผนจะเคี้ยวสาวเจ้าแบบอ้างข้างๆคูๆ
ว่าไหนๆก็ตกรถไฟแล้ว สู้มาแชร์ค่าโรงแรมม่านรูดเป็นที่พักคนละครึ่งกันไม่ดีกว่าเหรอ?
น้องมัตซูของผมก็แสนจะใจง่าย ก็รับปากรับคำ ทำให้คนดูอย่างผมออกอาการตื่นเต้นเล็กๆ
โธ่! แค่ตอนแรกจะได้เห็นอะไรดีๆสักแล้ว แต่ประทานโทษเจ๊มัตซูของผมคง Heart มาจนเพลี้ย
หัวถึงหมอนก็นอนปั๊บ แถมยังนอนกรนสักอีก แม้พี่ทาคุยะเทปเป้ตุเร้ๆ ด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
ยังบ่นอย่างหมดอารมณ์ แต่ช่างเถอะเพ่ คนดูอย่างผมกับหมดอารมณ์สักยิ่งกว่า
มิน่า...........ITV ถึงกล้ามาเอาฉายช่วงสองทุ่มครึ่ง ปัดโธ่ป้าด



จนทาคุยะเทปเป้ได้เริ่มเข้าทำงานในแผนกใหม่ ก็อ้ออ้าวประหลาดใจ
ว่าหญิงคนคุ้นๆหน้า ที่ทำงานในแผนกออฟฟิคเดียวกัน เป็นเจ๊ที่เพิ่งเจอกันที่โรงแรมม่านรูดนี้เอง
(แถมยังหายตัวแต่เช้าค่าห้องก็ไม่ร่วมจ่าย เก่งทั้งกลเกมส์และกลชีวิต แสบนักนะหมวย!)
เห็นอาการแสบเบื้องต้นขนาดนี้ เข้าใจได้เลยว่า ต่อจากนี้ที่เหลือก็เป็นการละเลงฝีปากฝีคม
ชนิดหยดต่อหยด เม็ดต่อเม็ด ชนิดที่ของรักของหวงของแต่ละฝ่าย ก็เล่นกันไม่เว้น
ของรักของหวงที่ว่าก็ใช่อื่นไกล แหวนของคู่หมั่นอดีตแฟนเก่าของริโกะมัตซู พี่ทาคุยะเทปเป้
ก็เขวี้ยงลงแม่น้ำเฉยเลย โดยอ้างว่า คิดจะทิ้งรักเก่าจนต้องตัดใจให้ขาด รุ่งขึ้นเจอเจ๊สวนเลย
ผมสลวยสวยเก๋ตามสไตล์เด็กอาร์ทของพี่ทาคุยะ ก็โดนปลายกรรไกรจากน้ำมือของเจ๊ริโกะมัตซู
หั่นซะแบบไม่ใยดี โดยอ้างอีกเช่นกันว่า หากคิดจะเริ่มงานที่ใหม่ ควรทำตัวให้เหมาะสมกับสถานที่
กลิ่นปะทุจากสงครามตามฉบับพ่อแง่แม่งอน ก็เปิดฉากชนิดรสเผ็ดจี๊ดจ้าด ตั้งแต่ตอนแรกสักแล้ว
เห็นทีต้องประกาศพรบ. ให้เป็นพื้นที่ฉุนเฉินในบริษัทสักแล้ว




ส่วนต่อจากนั้นที่เหลือ ก็เป็นการประชันฝีมือการแสดงที่เนียน
จนคิดว่าเป็นคู่รักในชีวิตจริง ของพี่ทาคุยะกับเจ๊มัตซู
จนต้องให้ต้นตะบองเพชรเป็นตัวแทนความเจ็บแสบประจำทรวง
ความที่อยู่ในหน่วยงานเดียวกันภายใต้ความสัมพันธ์เบื้องต้นที่ไม่ดีนัก
ส่วนตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นละครไทยหรือซีรีย์ญี่ปุ่น (หรือซีรีย์เกาหลีก็เถอะ)
ดูจะไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก ถือเป็นสูตรสำเร็จประการหนึ่งของผู้สร้าง
ที่ต้องสร้างจุดขัดแย้งโลดโผน ดีกว่ามารักปิ๊งปังกันตั้งแต่ต้นเรื่องแบบราบเรียบ
จากนั้นที่เหลือ ก็เป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ให้แต่ละฝ่าย มาพบกับจุดที่ดีที่เคยมองข้าม
ด้วยความมีอคติที่เป็นม่านบังตาในแรกเริ่ม จากนั้นก็ค่อยๆหันมาใช้ปัญญาพิจารณา
จนนำมาสู่ความรัก-ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ กลายเป็นราคะเอ้ยความรักในที่สุด
แต่กว่าจะก่อเกิดขึ้นได้ แต่ละฝ่ายก็ต้องคลี่คลายปมต่อเนื่องของตนเอง อย่างในซีรีย์เรื่องนี้
ผู้เขียนบทใช้หลักการคลี่คลายปม ด้วยการจัดระเบียบความสัมพันธ์เดิม
โดยสร้างชุดระเบียบความสัมพันธ์ใหม่ ซึ่งก็มิใช่เรื่องง่าย ตราบใดที่ยังคงมี "วิจิกิจฉา"
คือ ความลังเลสงสัย ในสายความสัมพันธ์เดิมว่าจะหวนกลับคืนมา เป็นเหมือนถ่านไฟเก่าที่รอ
วันปะทุกลับคืน จนนำมาสู่ความไม่เชื่อใจกันและกัน เพราะทุกคนต่างก็มีบาดแผลทางจิตใจ
ด้วยกันทุกฝ่าย



อย่างเจ้าเทเป้ทาคุยะเองก็เป็นคนเจ้าชู้ และไม่อาจตัดใจเด็ดขาดจากคนรักเก่า
พี่ชายอย่างซาโตอิชิก็มีแผลจากการทรยศหักหลังคู่รักเก่า เพื่ออนาคตทางหน้าที่การงานและคู่รักเก่า
ก็ตามราวีไม่เลิก อีกทั้งไม่แน่ใจความสัมพันธ์ระหว่างแฟนปัจจุบันกับน้องชายตัวเอง
ส่วนแฟนเก่าซานาเอะก็ยังมีความรู้สึกดีดีกับเทปเป้ แต่ต้องเก็บความรู้สึกไว้ในฐานะ
ที่จะเป็นพี่สะใภ้ตัวอย่างของเทปเป้ในอนาคต ผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้เทปเป้เป็นที่ปรึกษา
ส่วนริโกะมัตซูของผมทำได้อย่างเดียว คือ งอน
เพราะไม่เหลือทางเลือกอื่นใด เนื่องจากตกหลุมเทปเป้แบบหมดหัวใจ ไม่ตกหลุมได้ไง
บทจะขอคืนดี พี่เล่นยกตัวเองว่าอีกหลายสิบปี พี่จะแก่อ้วนพุงพุยและหัวล้าน
แต่อยากจะได้ใครสักคนแถวนี้ที่เป็นยัยแก่ หนังเหี่ยว มาช่วยคอยดูแลยามแก่เฒ่า
ประโยคนี้แม้แต่ชายอกสามศอกครึ่งอย่างผม ก็ยังอ่อนระทวยเมื่อได้ฟังไปไม่ใช่น้อย





เสน่ห์ของซีรีย์เรือ่งนี้ เท่าที่อ่านการแสดงความคิดเห็นของคนที่ได้รับชมหลายหลายวัย
(Variety Generation of Comment) ต่างก็มุ่งเน้นถึงตัวคู่พระคู่นางระหว่าง
เจ้าทาคูยะกับน้องทากาโกะ มัตซู เป็นเสียส่วนใหญ่ (ความจริงมัตซูกับทาคุยะ เจอกันครั้งแรก
แต่มัตซูได้บทนางรองไปใน Love Vocation) ซึ่งก็ไม่เเปลกหรอก บทสร้างกันสักขนาดนั้น
จนกระทั่งต้องให้ทั้งคู่มาโคจรพบเจออีกหลายครั้งใน Business Is Still Running Tonight
,Chuusingura 1/47 แต่ที่น่าจดจำยิ่งกว่าก็ คือในซีรีย์เรื่อง Hero
ซึ่งเสียงต้อนรับก็ดีไม่จืดจางไปจากคนดู แม้จะทิ้งช่วงห่างไปเนินนานพอดู
อันเป็นปรากฎการณ์ไม่บ่อยนัก ที่นักแสดงพระเอกพระนางที่เคยร่วมเล่นด้วยกัน
จะมีโอกาสหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง จากซีรีย์คนละเรือ่ง  (อ.สุวินัย บอกว่าน้องหนูมัตซูคงใกล้หมดช่วง
เพราะมีทาเกยุชิที่คล้ายคลึงกันเข้ามาทดแทน อันนี้ เถียงนะจารย์ ลูกบุ๋นอาจจะใช่แต่ลูกบู๊ น้องมัตซูกินขาดอะ)
ส่วนมากโอกาสกลับมาจักเอ๋เจอกัน ถ้าไม่ใช่ตอนต่อภาคสองหรือตอนสเปเชียล ก็ต้องโน่นเลย
ฉบับภาพยนตร์ The Movie เพราะในซีรีย์ Hero ลักษณะบทของการแสดง
ความที่มีระยะห่างทางตำแหน่งระหว่างอัยการกับผู้ช่วย ทำให้ความห่างเหินแนบชิดสัมพันธ์
แบบที่เคยรู้สึกใน Love Generationดูจืดจางทันตา เข้าใจว่าเบียดเวลาที่เหลือทั้งหมด
ให้กับการสืบสวนคดีความและถ่ายเทส่วนแบ่งทางเวลาให้กับตัวละครรองๆ
ที่เดินให้กร่อในสำนักคดีความ แต่กับทาคุยะแล้ว ดูลดความเป็นตัวเองลงไปเยอะ
เพื่อให้เวลากับเนื้อหาคดี ส่วนน้องมัตซูลงทุนเปลี่ยนLook ให้ผมสั้น-สวมแว่นสายตาอินเทรน
ส่วนพี่ทาคุยะก็หันมาสวมสเวเตอร์โคตเปลี่ยน lookไม่กี่อย่าง จึงคล้ายๆมากลับชาติ
ตามมาหลอกหลอน เพื่อชดใช้หนี้กรรมที่เคยก่อ เป็นบุพเพกตบุญญาตา
ซึ่งคิดว่าคงไม่มีดาราสาวคนไหนเล่นได้ "ใช่เลย" กว่านี้อีกแล้ว แม้พี่ทาคุยะจะปะทะฝีปาก
(แถมประกบ) เจ้าแม่ซีรีย์ ทั้ง โค ชิบาซากิ อายาเสะ ฟุกาซึ เอะริ ทาเกยุชิ ยูโกะ หรือ พี่โทโมมิ ก็ตาม
แต่ก็ไม่เคยเห็นแม่นางเหล่านั้น มาชดใช้บ่วงกรรม เหมือนกับน้องมัตซูคนนี้อีกเลย




ส่วนหนึ่งสิ่งที่ทำให้ ซีรีย์เรื่องนี้ประทับจิตประทับใจ มากกว่าการได้ดูครั้งแรก
ว่าด้วยอีกหนึ่งเจเนเรชั่นของการทำงาน (Work Generation)
เรื่องทัศนคติในการทำงานของลูกจ้างบริษัท ต้องขอเกริ่นนิดหน่อยก่อนว่า
ความที่เคยดูซีรีย์เรื่องนี้ในนานมาแล้ว สถานภาพตอนนั้นยังอยู่ในช่วงที่ "มือกำลังเบ่งบาน"
แต่เป็นเบ่งบานจากการแบมือขอตังค์ทางบ้าน หาได้เกิดจากการลงมือแบกหามทำงานจนตัวโกร่ง
ยังคงเป็นช่วงเวลาที่การทำเวรและช่วยทำความสะอาดภายในบ้าน เป็นเรื่องของการชอบจัมปิ้งโดดหนี
มากกว่าการแอตติ้งลงมือทำ สาสน์ที่ได้รับจากการเสพของซีรีย์ในตอนนั้น จึงเป็นประเด็นว่า
ด้วยความรักและความไว้เนื้อเชื่อใจ เพียงประเด็นเดียว แต่พอเมื่อได้กลับมาดูในวัยทำงาน
ซีรีย์เรื่องนี้กลับ "พรั่งพรู" ในการดำเนินการใช้ชีวิตในฐานะลูกจ้างรายเดือน
และพร้อมรับสภาพกับความเปลี่ยนแปลงนานาประการที่เกิดขึ้นจากการทำงาน
ความจริงก็แปลก ทั้งๆที่ซีรีย์เรือ่งนี้มีอัตราส่วนในเรื่องของความรักพอๆกับเรื่องของการทำงาน
เพียงแต่ประเด็นการทำงานไม่ได้สะท้อนรูปลักษณ์ผ่านตัวละครที่มีชีวิตจริงใจ
แต่เป็นความกลมกลืนอย่างแยกแยะไม่ออก ระหว่างหน้าที่ความรับผิดชอบ
กับการบริหารความสัมพันธ์ของคู่รัก เพราะต่างก็ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน
เราจึงไม่เห็นทาคุยะเทปเป้ทิ้งงานเพื่อคนรัก มีแต่จะทำงานให้เสร็จโดยให้คนรักยืนรอ
เลยเป็นความรักที่มีทั้งขาขึ้นและขาลง โดยเข้าใจสภาพว่า งานต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด
(และไม่แปลกใจ ถ้าสามีบ้านไหนจะอาจแต่เรื่องงาน)




แต่ที่แปลกใจอย่างก็คือ พอความรักไม่คืบ ลูกค้าเอเจนซี่ก็ปฏิเสธการซื้อสักงั้น
พอรักเดิน เส้นทางการขายก็กลับไปได้สวย แสดงว่า "ศาสตร์รัก" กับ "ศาสตร์งาน"
ล้วนเป็นศาสตร์ที่ยากนักจะหยั่งถึง แต่สองอย่างนี้ ก็เหมือนหัวหน้าของเทปเป้ทาคุยะบอก
(พูดไม่บ่อย แต่ต่อยแต่ละครั้งเจ็บๆทั้งน่าน)

"ถ้าลองไม่สนุกไปกับงาน ก็มีชีวิตที่สังกะตายไปวันๆ แล้วงานจะออกมาดีไปได้อย่างไร"

และเมื่อเราปรับทัศนคติต่องานในแนวใหม่ แม้เราไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกงานในบางครั้ง
แต่ทุกครั้งเราสามารถปรับท่าทีที่จะสนุกไปกับงานได้ ซึ่งงานก็จะออกมาดีได้
แต่ไม่ได้หมายความว่า "ลูกค้า" จะชื่นชอบกับงานชิ้นนั้นเสมอไป
แน่นอนเราอาจจะโทษลูกค้าว่าตาไม่ถึงบ้าง แต่เราสักอีกที่จะไม่โทษตัวเอง
เพราะได้ทำงานนั้นอย่างสุดความสามารถแล้ว โอ้!ดูทาคุยะรับบทมาหลายอาชีพแล้ว
แต่จี๊ดใจสุดๆ จากคนหัวอกในอาชีพคล้ายๆกัน ก็จากเรื่อง Love Generation นี้แหละ
แม้การบริหารความขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน พี่ทาคุยะก็กระทำที่ชี้แนะทางออก
ไม่อยากเชื่อว่า ปัญหาที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน พีท่านจะชี้ทางให้แล้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน
สิบปีก่อนในสมัยที่ยังใช้กล้องถ่ายรูปชนิดฟิลม์และยังใช้สติกเกอร์แบะโทรศัทพ์แทนสกรีนวอลเปเปอร์




เป็นซีรีย์เลิฟ คอมเมดี้ ฉบับกุ๊กกิ๊กคบรสสมวัยทำงาน ที่ตอนนั้น
ต้องถือว่าหน้ายังละอ่อนด้วยกันทั้งคู่ และปัจจุบันยังเป็นแถวหน้าของวงการ
แต่อาจจะหงุดหงิดในตอนท้ายๆในช่วงง้องอน ว่าคนบ้าอะไรจะออกลูกงอนกันสักขนาดนั้น
งอนกันตั้งแต่หน้าฝน จนไปสุดอีกทีตอนหน้าหนาวหิมะตกหนัก อีกทั้งโชคชะตาพยาเทพ
ก็ช่างพิสูจน์-ดูใจ สร้างอุปสรรคให้สวนทางกันสักเหลือเกิน เป็นซีรีย์เก๋ๆ ที่ใช้สัญลักษณ์
แอปเปิ้ลและป้ายโฆษณาแฝงนัยยะบางประการ "True love never runs smooth"
มาประกอบฉากอย่างไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลของตัวผู้กำกับ ว่ากลัวไม่เข้าใจแก่นเรื่องรึยังไง?
กระนั้นก็ซีรีย์ที่เอาใจตลาดในวงกว้าง แต่ไม่ค่อยรู้สึกถึงอะไรที่ดูแปลกใหม่มหัศจรรย์
หากเป็นไปตามยุคสมัยนิยมที่มักไม่หนีไปจากแนวนี้ เป็นซีรีย์ตามสูตรที่ปัจจุบันอาจหาดูได้ยาก
เพราะวงการบันเทิงญี่ปุ่นเขาก้าวข้ามซีรีย์รักๆใคร่ๆ โดยหยิบยกให้เป็นประเด็นรอง
แต่ให้ความสำคัญกับ มิตรภาพ สังคมร่วมหมู่ ความฝันและอุดมการณ์เป็นประเด็นหลัก
ส่วนตัวผู้กำกับ นางายามะ โคโซะ ก็อยู่ในช่วงที่พี้คสุดๆ การได้กำกับ Love Generation
ตอนนั้นปี ๑๙๗๗ ถือว่าคนดูโชคดีมากๆ เพราะได้รับรางวัล TDAA ในสาขาผู้กำกับถึงสองปีซ้อน
ทั้งจากเรื่องนี้และปีต่อมาจากเรื่อง Kira Kira Hikaru ที่เกี่ยวกับนิติเภสัชศาสตร์
ถ้าชอบผู้กำกับท่านนี้ แนะนำงานน่าดูอย่าง Love Vocation , Slow Dance
และล่าสุด Buzzer Beat (แถมPlatonic Sexอีกเรื่อง อิอิ)





แต่ที่น่ากังขายิ่งกว่า ก็เกี่ยวกับรางวัลนี้ละ เมื่อป๋าทาคุยะได้รางวัลในสาขาพระรอง
พระแม่เจ้า! ดูแต่ต้นยันจบ ป๋าทาคุยะของเรา มันเล่นบทรองตรงไหนหว่า ?
ดูป๋าจะโผล่หน้าจอมากกว่าพี่ของมันสักอีก บทอะไรก็ประเคนให้เหนือกว่า
รึว่าม้วนหนังของ คกก.กับของผม มันจะเป็นคนละฉบับกัน? ไม่แน่ฉบับนำขาย
อาจตัดต่อเพื่อเอื้อหน้าทาคุยะ เป็นการเอาใจตลาดแฟนๆเมืองไทย แต่อย่างไงเสีย
ก็เป็นปีทองสำหรับค่าย ฟูจิทีวี เพราะซีรีย์หน้าร้อนปีเดียวกัน อย่าง Beach Boys
ก็ได้เข้าฉายใน ITV บ้านเราอีกเช่นกัน รับประทานเงินบาทบ้านเราเห็นๆ
ซีรีย์ที่ไม่ว่าเจเนเรชั่นไหน ถ้าไม่เริ่มต้นที่ความไว้ใจ ความรักที่ให้ก็ไร้ราคา
.......






ข้อมูลจาก


//forums.popcornfor2.com/
//jkdramas.com/jdramas/index.htm
//wiki.d-addicts.com/Love_Generation
//www.popcornfor2.com/stars/matsu.php
รายการวิทยุ ชวนคิดชวนคุย คลื่นผู้จัดการ


รูปเยอะหวังว่าทุกถูกใจใกล้สิ้นปีนะขอรับ......ฮ้อเหนื่อย!







แถมมิวสิควีดีโอให้ย้อนความหลังครั้งเยาว์วัย ดูให้สะเทือนใจ ว่าความชราภาพ
แห่งปลายเดือน ช่างโหดร้ายกับเหล่าทุกผู้ทุกนางเน้อะเน้อ









Create Date : 06 ธันวาคม 2552
Last Update : 29 ตุลาคม 2555 20:30:02 น. 8 comments
Counter : 3761 Pageviews.

 
ขอสารภาพว่าเรื่องนี้ซื้อมาดูแต่เปิดได้แค่ตอนแรกเห็นภาพมันเก่าๆเลยหยุดไว้ก่อนจนป่านฉะนี้ยังดูไม่จบเลยท่าน


โดย: MamLHC วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:13:47:45 น.  

 

สวัสดีจร้า... วันหยุด มาช๊อปกระจาย ที่ตลาดโรงเกลือ....ค่ะ เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์

หลังจากทำงานจนแทบไม่มีเวลาหายใจ วันหยุดที่ผ่านมาเลยไปเที่ยวตลาดโรงเกลือที่ จ.สระแก้วมาค่ะได้ของกลับบ้านมามากมาย เผอิญไปได้แฮร์พีช(ผมปลอม)มาค่ะสำหรับลูกศิษย์ที่อยุ่ชั้นมัธยมต้นที่ผมต้องสั้นเวลาแสดงต้องใช้ผมปลอมช่วยอยู่ทุกครั้ง ได้พักผ่อนก็สบายขึ้นและต้องเตรียมลุยงานต่อในวันที่๑๑ ในพิธีเปิดปิดกีฬาจังหวัด ครูเกศได้รับความไว้วางใจจากประธานกลุ่มให้จัดขบวนพาเหรดค่ะ คุณchanpranakritสบายดีนะคะไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:22:54:18 น.  

 
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำให้เราได้รู้จักและรัก"ป๋ายะ"อย่างบ้าคลั่งมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ


โดย: k-jap (อ้อมแขนอันอบอุ่น ) วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:7:56:29 น.  

 
ดูเรื่องนี้ ในปีนี้ และเป็นช่วงที่ดูซีรีย์ญี่ปุ่นแรกๆ กับนักแสดงคนแรกๆ ที่ชอบอย่างทาคุยะ ชอบเนื้อหาแนวนี้มาก แบบจิกกัด รำคาญกันก่อน และแล้วรักก็เกิดจากความเคยชิน ยิ่งเป็นเพื่อนกันฉันรักเธอยิ่งโปรดเป็นพิเศษ แต่ว่า จะหงุดหงิดช่วงงอนตอนท้ายสักเล็กน้อยด้วยเหมือนกันนะ เพราะเห็นว่ามากไป ชักมากไปแล้ว แม้ภาพจะเก่ามากแล้ว แต่เพราะเป็นเนื้อเรื่องในสไตล์ที่ชอบนี่แหละ ถึงดูจนจบ ส่วนมัตสึ ก็เฉยๆนะเคยดู Hero กับเรื่องนี้แหละ หากย้อนกลับไปในช่วงที่ละครภาพมันเก่าๆ แล้ว สงสัยภาพมันเก่านางเอกเลยไม่ค่อยถูกตา แต่ยกเว้น เรียวโกะ ไว้คนนะ เพราะคนนี้โปรดมาก


โดย: prysang วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:12:18:45 น.  

 
รู้สึกดีจังเลย บางครั้งความทรงจำในช่วงเวลาหนึ่งเหมือนมันกลับมา


โดย: นู๋แนน IP: 118.173.177.28 วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:10:54:39 น.  

 
เรื่องนี้ดูหลายรอบมากค่ะ ครั้งแรกดูจาก ช่อง ITV ตอนนั้นเรียนอยู่ ม.6 (10 ปีที่แล้ว 55+) ที่ดูตอนนั้นชอบมากๆค่ะ จำได้ว่าวันไหนที่มีฉายจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ใจจดจ่อที่จะรอเวลาได้ดู ประทับใจตั้งแต่ต้นจนจบ พอเรียนอยู่ปี 4ก็ได้มีโอกาส ซื้อ DVD มาเก็บไว้ดู หยิบมาดูกี่ครั้งๆก็ไม่เบื่อ เพลงเพราะ บรรยากาศ บท นักแสดง ลงตัวค่ะ


โดย: ko IP: 202.12.97.100 วันที่: 8 ธันวาคม 2553 เวลา:15:19:47 น.  

 
เราว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่แสดงกึ๋นเก๋ไก๋ของผู้กำกับค่ะ เนื้อเรื่องดูเหมือนงอนกันไปงอนกันมา แต่สำหรับเรานี่คือชีวิตของคนวัยเริ่มต้นทำงาน วัยที่ไฟกำลังแรง จากแบมือขอตังค์พ่อแม่มาเป็นหารายได้เลี้ยงตัว จากเด็กที่เชื่อฟังคำสั่งสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์ สู่โลกของการทำงานที่มี element แตกต่างจากบ้าน และ ตำราเรียน

สมัย 13 ปีที่แล้ว Love Generation เป็นงานร่วมสมัยที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตหนุ่มสาวในเมืองหลวง ความรัก การงาน ปัญหาชีวิต แต่ละเรื่องแต่ละปมที่เข้ามาถักทอร้อยเรียงให้เห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว

หากมองกันจริง ๆ แล้ว แม้เดี๋ยวนี้เทรนด์เสื้อผ้าหน้าผมจะเปลี่ยน เทคโนโลยีจะก้าวล้ำนำสมัย แต่แก่นชีวิตของหนุ่มสาววัยทำงานโดยเฉพาะ ณ ใจกลางเมืองโตเกียว เราว่าไม่เปลี่ยนไปจากสิ่งที่นำเสนอใน Love Generation แม้แต่น้อยค่ะ

ในเรื่อง Love Generation นี้เรานิยมชมชอบในประเด็นของสัญลักษณ์ที่เน้นใจความสำคัญของเรื่อง True love never runs smooth และ ผลแอปเปิ้ล เป็นเรื่องที่น่าคิดน่าติดตาม และ มีความหมาย

ประเด็นเรื่องแอปเปิ้ลนี้มีการตีความกันอย่างกว้างขวางในกลุ่มของคนดูละคร ซึ่งเชื่อกันว่าแอปเปิ้ลมีนัยยะสำคัญเกี่ยวกับความรักค่ะ แอปเปิ้ลในเรื่องปรากฎออกมาในหลากหลายลักษณะ เป็นแก้วที่มีภาพสะท้อนบิดเบี้ยวกลับหัว บางครั้งก็สะท้อนภาพได้อย่างเที่ยงตรง และ สุดท้ายจากแก้วใสกลายเป็นแอปเปิ้ลของจริง

สรุปง่าย ๆ แอปเปิ้ลนั้น แทนพัฒนาการความรักของเทปเปและริโกะนั่นเองค่ะ เมื่อเริ่มแรกแอปเปิ้ลยังเป็นแก้วใสบอบบาง เพราะ ทั้งคู่ต่างยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตนเอง อุปสรรคที่มีก็มากมาย ภาพที่สะท้อนออกมาจึงบิดเบี้ยว ด้วยมีความเจ็บปวด เข้าใจผิด ไม่เชื่อใจปะปน กาลผ่านไปเมื่อซื่อตรงกันมากขึ้นภาพสะท้อนในแอปเปิ้ลแก้วจริงออกมาอย่างเที่ยงตรง แต่ก็ยังอยู่ในภาวะที่เพราะบาง

ครั้นมาถึงตอนท้ายเรื่อง แอปเปิ้ลที่คุณพ่อของริโกะโยนมาให้ เป็นแอปเปิ้ลจริง ๆ ก็สื่อถึงความรักที่แท้ของพ่อแม่ที่มีต่อลูกเสมอพร้อมถ้อยคำที่บอกว่าถ้าคิดว่าไม่ไหวก็ให้กลับบ้าน ริโกะนำแอปเปิ้ลลูกนั้นกลับมาด้วย โยนขึ้นลงด้วยที่ท่าครุ่นคิด แอปเปิ้ลลูกนั้นสลับกันระหว่างแอปเปิ้ลจริง และ แอปเปิ้ลแก้ว

สื่อถึงความคิดของริโกะในตอนนั้นถึงความรักของเธอ และ เทปเป เป็นความจริงหรือเป็นเพียงแก้วใสบอบบาง แต่เมื่อโยนครั้งสุดท้ายแอปเปิ้ลในมือของเธอกลายเป็นแอปเปิ้ลสีแดงของจริง ลงท้ายแล้วเมื่อผ่านอุปสรรคนานา ได้เติบโตในด้านความคิด ตกผลึกในด้านการทำงาน และ ด้านความรัก True Love จึงเกิดระหว่างคนสองคนค่ะ


โดย: วรินทร์รตา วันที่: 12 ธันวาคม 2553 เวลา:23:57:06 น.  

 
good
//www.konosuke-matusita.com/
//www.mbldaypassdeals.com/
//www.erven-voor-ontwikkeling.com/
//www.bossen-van-bezinning.com/
//www.rustandbonescreenplay.com/
//www.vivesolutionsinc.com/
//www.darinkamontano.com/
//www.awfmmellowtouch.net/
[url=//www.mbldaypassdeals.com/]Canada Goose Outlet Sale & Womens Winter Jackets[/url]


โดย: Canada Goose Outlet Sale & Womens Winter Jackets IP: 31.41.217.112 วันที่: 25 ธันวาคม 2556 เวลา:7:41:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mr.Chanpanakrit
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mr.Chanpanakrit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.