|
Concerto รักเราชาวสถาปนิก
มีงานเก่าเอามาเล่าขานได้อีกเรื่อง คราวนี้เลือกเอางานที่พอมีชื่อเสียงกันสักนิด ผสมกับดารานำชายสุดเทพอีกสักหน่อย โดยปกติแล้วผู้เขียน ไม่ค่อยที่จะเลือกโดยเอาตัวเลือก "นักแสดงชาย" เป็นตัวตัดสิน สักเท่าไรนัก เพียงทว่าถ้าไม่สุดวิสัยแบบที่ไม่รู้จะหยิบอะไรมาดูจริงๆ ตัวเลือกหนึ่งที่ยังพอน่าสนใจ ตามกระแสเกจิซีรีย์เขาลงความเห็นกันว่า ถ้าหากไม่รู้จะหยิบจับวางซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องไหนดี งานนี้ป๋ายะท่านช่วยได้ อีกทั้งระยะหลังๆ เริ่มปรากฎร่องรอยความชราภาพแบบพอตั้งเค้าตามลำดับวัย เลยคิดอุตริ ยอ้นเวลากลับไปหาวันวานหน้าใสปิ๊ง ของป๋าทาคุยะดูบ้าง ถึงอย่างไรซะ ความโบราณของระยะห่างจากเวลาปัจจุบัน ก็หาใช่ปัญหาของผู้เขียน ที่หมู่นี้มีแต่ความอิ่มเอิมใจ จากการย้อนเวลาไปกับความฝัน ตามประสาที่สิ่งปัจจุบัน ยังไม่น่าพึ่งใจพอ และจากอนาคตที่ยังคงไม่เห็นชะตากรรมว่าจะไปในทิศทางที่ดี ดูซีรีย์อดีตชาติสักที ก็ดีเหมือนกัน ตกผลึกทั้งคำวิจารณ์ ความสำราญก็ไม่ใช่น้อย เห็นแตกต่างได้ชัดว่า มันไม่เหมือนกับรูปแบบการนำเสนอในซีรีย์ฉบับปัจจุบัน ยิ่งความละเมียดแล้ว ต้องถือว่าเป็นครูที่ควรบูชา ที่น่าเสียดาย ณ ปัจจุบัน รูปแบบสไตล์เช่นนี้นับวันห่างหายไปไกล เพราะมุ่งใช้เทคนิคพิเศษไปผสมผสานเสียเหลือเกิน
แต่ครั้งนี้คงย้อนเวลาไม่ไกลกว่าครั้งก่อน เพราะไม่อยากเห็นเจ้าทาคุยะ ที่มือถืออมยิ้มยืนน้ำมูกไหลอยู่ไม่กี่ขวบเศษ แต่เจาะจงเอาในวัยที่เฮียแกเพิ่งจะยี่สิบเศษๆ กำลังเป็นวัยที่เจนโลกและพร้อมเผชิญโชคทุกรูปแบบ พ้นจากการคิดอ่านแบบเด็กสก๋อย และไม่ทำตัวถ่อยแบบจิกโก๋สิบแปดฝน มันจึงน่าเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่จะได้เห็นจังหวะจักโคน ไอ้ประเภทที่ใครบางคนเขาตั้งฉายาให้กับเฮียว่า "เจ้าชายแห่งซีรีย์ยุ่นๆ" ถ้าเป็นจริงขึ้นมา จะได้พึ่งศึกษาไว้ เกิดชาติหน้าฟ้าใหม่แล้วมีบุญญาเข้าวงการบันเทิงกับเขา จะได้เป็นทรัพยากรทางภูมิธรรม ตามประสาตายไปแล้วเอาทรัพย์สินศฤงคารร่วมไปไม่ได้ อย่างน้อยๆ ก็หวังจะพอเหลืออะไรให้ติดกะลาหัว ไปนึกจบภพชาติเอาดาบหน้าได้บ้าง
ผู้เขียนเลยเลือกชม ซีรีย์ในปี ๑๙๙๖ ของค่าย TBS ที่ชื่อ Concerto เป็น Concerto ที่ผู้เขียนนึกไปว่า จะเป็นซีรีย์ทางด้านดนตรีประมาณเดียวกับ Nodame อะไรเทือกนั้น แต่พอได้อ่านรายละเอียดสรรพคุณของเรื่องนี้เข้า กับเป็นคนละเรื่องกันเลย แม้แต่ Sakkyoku ที่เป็นชื่อเรียกในบ้านเขา ก็ยังเป็นศัพท์ที่มีความหมายว่า "นักประพันธ์เพลง" แต่มันดันกลับเป็นเรื่องราวของแวดวง "สถาปนิก" (architect) ที่ผู้เขียนไม่ค่อยคร่ำหวอดสักเท่าไรนัก ตามประสาคนดูพิมพ์เขียวของแปลนบ้าน ไม่ถนัดเท่ากับแผนการจัดผู้เล่นของทีมฟุตบอล หรือไม่ก็กระดานแปลนของน้ำเต้าปูปลา แต่เคยได้ยินชือ่เสียงเรื่องนี้แบบคราวๆ ก่อนหน้า จากอ.สุวินัย ที่เคยเล่าผ่านรายการ ว่ามีรูปแบบสไตล์เดียวกับ Hero ที่ทาคุยะเคยเล่นไว้ในอีกสิบปีต่อมา เป็นเรือ่งเกี่ยวกับคนหนุ่มที่ไม่ได้ผ่านลำดับการของโครงสร้างทางการศึกษาและ เนื้อหาทางตลาดวิชาอาชีพเป็นหลัก กล่าวง่ายๆ คือ ถ้าในฮีโร่ป๋ายะแกสำเร็จความเป็นอัยการ ด้วยการที่จบเพียงชั้นมัธยม และที่เหลือจากนั้นก็ไปศึกษาค้นคว้ากันเอาเองฉันใด ในคอนเซอร์โตก็เป็นเยี่ยงนั้น เมื่อป๋ายะของเรา ต้องรับบทเป็น "ทากาคุระ คาเครุ" คนหนุ่มช่างฝันที่อยากจะเป็นสถาปนิกชั้นนำของโลก มีแรงบันดาลใจในเบื้องต้น ที่จะออกแบบโบสถ์ในจินตนาการ โดยได้รับอิทธิพลทางความคิดมากจากสถาปนิกเลื่องชื่อ อิบิซาวา โคสุเกะ คนที่เขาเปรียบดั่งแม่แบบของความฝันและการใช้ชีวิต โดยที่อีกฝ่ายไม่เคยรู้จักหน้าคาตาของกันและกันเลยมาก่อน แล้วอยู่ๆเช้าวันหนึ่ง ป๋ายะที่รับบทเป็นเจ้าคาเครุ กำลังขีดๆเขียนๆแบบแปลนอยู่กลางพื้นทราย หันมองไปท้องทะเล ก็มีชายในชุดทักซิโด้เดินจากท้องทะเลขึ้นมาบนชายหาด
Where is there? (ที่นี้ที่ไหนเนี๊ย) Japan (ญี่ปุ่นไง เพ่) Yes,I Knew.What's beach? (เออ!รู้แหละน๊า ว่าแต่ทะเลแถวไหนละ?) kamamura beach . Where are you from?) (คามามุระอะ ว่าแล้วพี่จากการไหนเหรอ?) Land of the Angle (ดินแดนแห่งสวรรค์วะ)
มาแบบประหลาดยังไม่พอ ยังสะเออะตอบแบบกวนๆได้อีก คุยกันสักพัก ป๋ายะที่กำลังขีดพื้นทรายยิกๆ หันกลับขึ้นมาดู พี่ชายคนแปลกหน้า ก็นอนสลบเมือกทับแบบแปลนของป๋ายะอย่างสงบ เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นใจ ทำไงได้ ดันโผล่จากน้ำแล้วพูดภาษาญี่ปุ่นชาวเรากันได้ เลยต้องรับไว้เป็นอุปการะตามประสาเพื่อนร่วมชาติ พอพี่คนแปลกหน้าตื่นขึ้นมาอีกที ชักเอะ! กลับมานอนโผล่ในอีกที ซึ่งคราวนี้เป็นห้องเช่าของป๋ายะของเรานี้แหละ แต่ทว่า คนที่อยู่ในห้องมิใช่ป๋ายะคาเครุ แต่เป็นแฟนสาวที่กำลังต้มถั่วปุยๆอยู่ ถึงสลบสไลแค่ไหน แต่ความทรงจำของเฮียท่านยังดี เลยถามว่าถึงผู้มีพระคุณโดยทันที
What is your darling doing out there? (แฟนเธอที่ช่วยชีวิตฉัน ไปไหนแล้วเหรอ) Beyond there is an old church (เลยไปที่โบสถ์เก่าแล้วละ) There is talk of rebuilding .He is drawing of blueprint (เห็นบอกว่าจะไปออกแบบพิมพ์เขียวขึ้นใหม่)
พอพี่ท่านคนแปลกหน้าได้ยินเช่นนั้น ก็ยิ้มอุบและพยายามที่จะบอกอะไรสักอย่าง แต่แฟนเจ้าคาเครุ ซากากิ ฮานา ซึ่งก็คือนางเอกของเรื่อง (เล่นโดย มิยาซาวา ริเอะ) ก็ไม่ยอมเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้บอกอะไรมากมาย เจ๊แกก็สาธยายไปเรื่อย ทั้งเรื่องแฟนของเธอมั้ง ถั่วต้มที่หุงจนไหม้บางละ ชีวิตอันลำบากลำบน ที่ต้องโดนเจ้าพวกยากูซ่าทวงหนี้เป็นระยะๆ แต่สิ่งที่เธอย้ำนักย้ำหนาอยู่เสมอ คือ อิบิซาวา โคซุเกะ เป็นแม่แบบที่สำคัญ ให้คาเครุแฟนเธอ ไม่เคยละทิ้งความฝันที่จะเป็นสถาปิกอย่างที่ตั้งใจ แม้ว่าเจ้าตัวจะใช้ชีวิตไปวันๆ มีเงินทองระดับอัตคัดและไม่มีโอกาสเรียนมหาลัย ในสาขาวิชาที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดทั้งชีวิต แม้ว่าระดับฝีมือเข้าขั้นเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ก็ตาม (เสียดายที่ประเทศญีปุ่นเขา ไม่มีโครงการช้างเผือกเหมือนกับบ้านเรา ไม่งั้นเรื่องนี้คงไม่ได้เกิด) ดูแค่นี้ คงพอเดาออกนะครับว่า คนแปลกหน้าที่ป๋ายะได้ช่วยชีวิตไว้นี้ คือ ใคร เพราะหลังจากที่คุณพี่กลับไป คุณพี่ก็ไม่ได้ไปอาบน้ำอาบท่าอะไร ขึ้นไปเปิดตัวงานนิทรรศการของตัวเองโดยทันที มีแขกเหรื่อเพื่อนฝูงและสื่อมวลชน เข้ารุมห้อมล้อมอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เหล่าบรรดาเศรษฐีต่างก็ยื้อแย่งให้เขา ช่วยไปออกแบบอาคารสำนักงานอย่างไม่ขาดสาย แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังปลีกตัวเพื่อไปตอบแทนพระคุณผู้ช่วยชีวิตเขา แต่นั้นอาจจะเป็นพรหมลิขิตของสถาปนิกชื่อดัง อิบิซาวา โคซุเกะ ได้ประสบโชคถึงสองชั้น (ถ้าลุงแกมามาก อาจยิ่งมีสิทธิ์มาก)
โชคชั้นที่หนึ่ง ได้เจอะกับสถาปนิกหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ แต่เรียนจบแค่ชั้นมัธยม อย่างคาเครุ (ป๋ายะเรานี้แหละ) ซึ่งนอกจากมีความสามารถแล้ว ยังเข้าถึงหัวจิตหัวใจ ของสถาปนิกเทพ อย่าง โคซุเกะ ในฐานะที่ได้ศึกษาผลงานและชีวประวัติมาเป็นอย่างดี
Where did you study this? (ไปเรียนจากที่ไหนมาละตั๋ว) In High School and I read books,Study on my own.l also look at other people's design. Ebisawa Kosuke ,Never met him but I am influenced by him (แค่ชั้นมัธยมนะเพ่ และอ่านจากพวกหนังสือหนังหา ส่วนใหญ่ก็ เรียนด้วยตัวเองอะ และครูพักลักจำจากบรรดานักออกแบบเจ้าอื่นๆ อย่างอิบิซาวา โคซุเกะ นี้ใช่เลย! ไม่เคยเจอตัวเป็นๆหรอก แต่ได้รับ อิทธิพลของผลงานเขาเต็มๆเลยละ)
โชคชั้นที่สอง ได้พบกับสาวที่ใช่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นแฟนสาวของคาเครุ ที่เป็นนางเอกของเรื่องนี้เอง เพราะไม่ว่าสิ่งไหนที่เจ๊แกปรารถนา ลุงโคซุเกะแกตอบสนองความต้องการนั้นได้ทันใจและทันเหตุการณ์ ตามประสาสถาปนิกที่สร้างอภิมหาโครงการ กินส่วนต่างค่าออกแบบจนล่ำซำ น้องหนูอยากจะโปยบิน ลุงแกก็หิ้วเอาเครื่องบินส่วนตัวพร้อมออกให้บริการ ไม่ทันไรน้องหนูก็ช่างฝันอยากมีชุดกิโมโนสวยๆใส่ ลุงแกก็ใช้เส้นสายคนในวงการรีบรุดจัดหามาให้ ยังเสริมออปชั่นพิเศษเกินฝัน โดยพาไปดูงานออกแบบแฟชั่นโชว์แบนด์นอก จิบไวน์ในงานเปิดตัวตามที่ต่างๆ ปรนเปรอกันสักเพียงนี้ รักใหม่ของลุงท่านก็บังเกิดเพื่อไปชดเชยรักครั้งเก่า ที่เพิ่งเลิกราไปหมาดๆ
She stayed with him 20 years and left .l wonder why? Maybe he was not her dream any longer. (หล่อนยืนหยัดอยู่กับเขามากว่ายี่สิบปีจนต้องเลิกลากันไป เล่นเอาประหลาดใจ ไม่ใช่น้อย อาจเป็นเพราะเขาไม่ใช่ชายในฝันมาเนินนาน)
ประกอบกับสถานภาพการประคองรักระหว่าง ฮานากับคาเครุ ก็ไม่ค่อยจะราบรื่นเหมือนเมื่อครั้งในอดีต เพราะทั้งคู่เริ่มมีปากมีเสียง อุปสรรคปัญหาและความยากจนเข้ามาประทังอย่างต่อเนื่อง คาเครุก็ให้เวลากับการออกแบบเสียจนลืมให้เวลากับแฟน อีกทาง ฮานาก็รู้สึกว่าไม่อาจจะทนความแร้งแค้นแบบไม่เห็นอนาคต หากยังจะอยู่กิน กับคาเครุได้อีกต่อไป ความยากไร้เป็นสถานะที่อันตราย นอกจากจะทำลาย กระเพาะอันหิวโซแล้ว ยังจะไปทำร้ายความสัมพันธ์รักที่มีมาแต่ปางก่อน
Please pray that l'll never leave Kakeru's side. (ได้โปรดช่วยอธิษฐานให้ฉันกับคาเครุอยู่เคียงข้างกันด้วยเถอะ)
อธิษฐานใครไม่อธิษฐาน ดันไปอธิษฐานกับลุงโคซุเกะ ที่กำลังหมายปองคุณน้องผู้กำลังขอคำอธิษฐานอยู่ งานนี้จึงเข้าทาง ลุงเสียเต็มประดา กลายเป็นว่าลุงแกก็ยิ่งมั่นเที่ยวรับเที่ยวส่งน้องฮานามากขึ้น กว่าแต่กอ่น ขณะเดียวกันก็เหมือนชดเชยความปรารถนาดีที่ประสงค์ร้าย โดยเอ่ยปากชักชวนให้คาเครุ เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมออกแบบ ที่ปัจจุบันลูกน้องหลายคนของแก ทนความเป็นเจ้าระเบียบจนต้องยื่นใบลาออก ไปตั้งหลายคน
Would you please reconsiders? Working for me .lt 'll make your life easier. (เฮ้ย ลื้อน่าจะลองไปพิจารณานะ ทำงานกับอั๊ว มันจะทำให้ชีวิตลื้อง่ายขี้นเยอะ) They said no matter how cruelly you treat it a cat will forgot 3 steps later. (มีคนเคยกล่าวว่า ความเจ็บป่วดสักพักก็จางหาย ไม่ต่างจากแมวที่เดินเกิน ไปสามก้าว สักพักมันก็จะลืมก้าวย่างของตัวมันเอง)
แต่เจ้าคาเครุก็ใช่ย่อย พอรู้ว่าคนที่แกช่วยชีวิตไว้ เป็นไอดอลในดวงใจ ก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวตลก อีกทั้งยังไปแอบเห็น แฟนตัวเองกับลุงไอดอลจุจุ๊บกันในรถแบบสองต่อสอง เลยต้องมีการเล่นแง่กันสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ยอมรับสภาพของตัวเอง ส่วนหนึ่งก็เพื่อความฝัน อีกส่วนหนึ่ง ก็เพื่อให้สาวเจ้าที่เรารักมีความสุขกับสิ่งที่เป็น แม้สิ่งนั้นจะทุกข์ระทม เพราะคนที่รักไปมักจี่ถึงขั้นแต่งงงแต่งงานกับลุงโคซุเกะไอดอลในดวงใจ โดยที่ตัวเองก็ต้องมาเป็นลูกน้องของลุงโคซุเกะ ว่าที่สามีของอดีตคนรักตัวเอง อย่างที่ต้องตักกระโหลกชะโงกดูเงาของตัวเอง
She were wearing that beatiful kimono .Drank wine and a famous architect was driving her home.lt 'll never happen with me. (หล่อนได้สวมกิโนโมสวยๆ ดื่มไวน์และยังมีสถาปนิกชื่อดังเป็นสารัตถีขับรถ ไปส่งถึงบ้าน สิ่งเหล่านี้ถ้าเธอยังอยู่กับฉัน คงไม่มีทาง) I can draw blueprints but l can not plan my own life (ออกแบบพิมพ์เขียวมาก็หลายชิ้น แต่ออกแบบชีวิตตัวเองสักชิ้นยังทำไม่ได้เลย)
โหย! เจอฉากนี้เข้าไป เล่นเอาซึ้งสะกิดติ่งใจให้แป้วตาม ไม่ต้องเป็นนักออกแบบสถาปนิกก็เหอะ คนธรรมดาอย่างผมๆ ก็ทำไม่สำเร็จ สักชิ้นเหมือนกัน ไอ้ข้อสถานะ บางทีเห็นผู้คนบอกว่ามันต้องหัวจิตหัวใจเป็นหลัก เออ!ไอ้นั้นไม่เถียง แต่ไอ้สถานะมันก็เป็นตัวประกอบแวดล้อม ที่ครอบคลุม ไปทุกภาคส่วนของชีวิต จะแตะจะกินหรือจะใช้ไม้สอยอะไร ก็ให้ดูสถานะปัจจุบันเป็นหลัก การตลาดยังเจาะกลุ่มลูกค้าตั้งหลายจำพวก มีทั้งตลาดบน ตลาดกลางและตลาดล่าง และนอกจากนี้ยังมีแยกย่อยไปอีกเพียบ คาเครุเลือกที่จะยอมรับความเป็นจริง เป็นความจริงที่ประกอบไปด้วยความสุข เป็นสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของคนรัก และสุขจากหน้าที่การงานที่ชอบ แต่ลึกๆแล้ว ก็รู้สึกโหยหาความสัมพันธ์แบบเก่ากอ่น อยากให้เราได้มาอยู๋ด้วยกัน อันนี้ดูจากเจ้าคาเครุ แม้จะมีหญิงอื่นแต่ก็ดูจะไม่จริงจัง หลักจากที่ได้เลิกลากับฮานา เหมือนจะรอคอยโอกาส แม้ว่าคนทั้งสองจะทำนิติสัญญารักในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เรียบร้อย แต่นั้นเป็นเพียงพิธีกรรม เพราะเอาเข้าจริงบทที่คนจะเลิกลา เขาไม่แสวงหาเวลาที่มงคลอะไรอื่นแล้ว มีแต่จะรีบเลิกไปให้พ้นๆ แล้วมีแบ่งสินสมรส โดยไม่ยอมให้ใครได้มากกว่าหรือน้อยไปกว่ากัน
เป็นซีรีย์สิบตอน ที่ถ้านับเอาจากตัวบทจริงๆแล้ว ก็เหมือนเป็นชีวิตของคู่รักคนเหงา ที่ตัวละครทั้งสามฝ่าย ต่างก็มีส่วนขาด และส่วนดีที่จะเติมเต็มความสัมพันธ์ของตัวละครสามฝ่าย ให้สมบูรณ์ คนหนึ่งซึ่งมีบาดแผลจากความที่เป็นคนธรรมดาจนๆ ขณะที่อีกคนมีรักแต่ขาดซึ่งความสุขสบายที่จะเติมเต็ม อีกคนมีสุขจากชื่อเสียงและเงินทองที่พรั่งพร้อม แต่ไม่เข้าใจอดีตคนรัก ว่าทำไมถึงกล้าที่จะเลิกลา และแสวงสิ่งที่ใช่จากสถานะที่สมบูรณ์ในปัจจุบัน ถ้าเป็นจิ๊กซอ ก็ต้องถือต่างคนต่างก็มาอุดรอยโหว๋จากช่องที่ไม่สมบูรณ์ ให้เป็นผืนภาพที่เต็มส่วน ป๋ายะในบทคาเครุก็มาช่วยเสริมงานในฐานะ ผู้ช่วยมือดี ที่เข้าใจถึงแนวสไตล์ของอิบิซาวะ โคซุเกะได้เป็นอย่างดี ชนิดที่ไม่เคยมีลูกน้องคนไหน ที่จะตอบสนองให้ได้ ซึ่งโคซุเกะเองก็ช่วย สนับสนุนคาเครุให้แจ้งเกิดในแวงวงสถาปนิกแห่งญีปุ่นอย่างเต็มที่
My Hitosuyanagi House or This Church.l through about submitting my paper blank. (รู้ไหม ตอนที่คณะกรรมการให้กระดาษเปล่า เพื่อลงคะแนนสถาปัตยกรรมแห่งปี ระหว่างเรือนฮิโตสุยานากิ ของอั๊วกับโบสถ์ของลื้อ) Waited until the last minute and wrote down this church (อั๊วรอจนวินาทีสุดท้าย และดันเสือกลงคะแนนให้โบสถ์ของลื้อ In just year ,l raised my Enemy (เพียงแค่ปีเดียว นี้อั๊วได้สร้างศัตรูขึ้นมาอีกคนแล้วเหรอเนี๊ย)
แต่ส่วนหนึ่งคาเครุก็ต้องพร้อมที่จะสูญเสียคนรัก แม้ว่าจริงๆแล้ว ไม่ว่าเขาจะเลือกที่จะเป็นทีมงานส่วนหนึ่งของโคซุเกะรึไม่ ฮานะอดีตคนรักก็ต้องจากไปจากเส้นใยบางๆ ที่พร้อมจะขาดสะบั้นลง แต่คาเครุเลือกที่จะประนีประนอมกับตัวเอง คือ ได้ทำงานกับคนที่เขาเคารพ มาทั้งชีวิตและได้เห็นหน้าอดีตรักอยู่เนื่องๆ แม้โคซุเกะจะรู้ว่านั้นมิใช่สิ่งดี ต่อสถานะสมรสคู่ หากยังมีอดีตแฟนตัวเองอย่างโคซุเกะ วนเวียนอยู๋ใกล้ๆ แต่ซีรีย์เรื่องนี้ ดีหน่อยที่จะให้ตัวละครนางเอกอย่าง "ฮานะ" เป็นผู้ตัดสินความเป็นไป ของตัวละครเอกทั้งสองฝ่าย ที่ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมารูปแบบไหน ล้วนแล้วแต่เกิดจากการเลือกตัดสินใจ ในฐานะตัวกลางที่เชื่อมโยงจุดหลักของเรื่อง ไม่่ไปขาดสะบั้นทางสายสัมพันธ์เดิม แต่ยังคงสายสัมพันธ์เดิมไว้เพียงแต่แปรเปลี่ยนไปอีกรูปแบบ ดังนั้น ในทุกๆการเทปันใจของน้องเขา ย่อมมีผู้สมหวังและอโสมนัสขึ้นมาพร้อมกันทันที ซึ่งมันยากสำหรับการชั่งใจของผู้ชม เพราะความที่ไม่มีบท "ผู้ร้าย" ในซีรีย์ ทั้งคาเครุและโคซุเกะ จึงเป็นตัวละครที่คนดูอยากจะให้ผลของมัน ออกมาเสมอในรูปของสมานฉันท์ ซึ่งซีรีย์เรื่องนี้ก็มีทางออกของมันในตัว และเสน่ห์โคตรๆของซีรีย์เรื่องนี้ คือ ทิ้งปมจบในแต่ละตอนให้คนดูต้องสุดถวิล ชนิดเข้าใจหัวอก ถึงคนดูสมัยก่อนเลยว่า การรอคอยตอนต่อไปในวันศุกร์ของสัปดาห์หน้า มันช่างทรมานเพียงใด
เอาเข้าจริง สูตรของซีรีย์ประเภทนี้ที่เป็นรักสามเศร้าของเราสามคน เป็นที่ฮิตกันมากในกลางปี ๙๐ เพราะก่อนหน้านี้ผู้เขียนก็ได้ชม Love Generation ที่ป๋ายะลงมือเล่นอีกเช่นกัน ก็มีระดับโครงสร้างที่ไม่ต่างกัน แต่คราวนั้น เป็นคนรักเก่าของป๋ายะแก ไปเป็นแฟนของพี่ชายตัวเอง ยังคงเข้ากรอบของ "บุคคลที่ตนเคารพ" กับ "หญิงที่เคยรัก" แต่ใน Love Generation เขามีทางออกที่ดีกว่า โดยสร้างตัวละครหญิง อย่าง น้องมัตซู เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำรอง ที่ตอนหลังกลายเป็นทางเลือกหลัก ส่วนเรื่องของพัฒนาการตัวละคร อันนี้ไม่ต้องห่วง แต่ที่น่าห่วงคงจะเป็นการหวนความสัมพันธ์รัก แบบคงเดิมระหว่างฮานะกับคาเครุ ที่จะกลับมารีเทรินรักกันเเบบเก่า หรือจะดำรงไว้ซึ่ง สถานภาพรักสมรสแบบปัจจุบัน อันนี้ดูจนมาเกือบจะจบก็ยังเดาทางแทบไม่ออก ซึ่งความสัมพันธ์ตรงจุดนี้จะคู่ขนานไปกับ masterpieace project เพื่อให้สมกับเป็นงานชิ้นเอก ที่คาเครุได้ปลุกปั้นตั้งแต่ตอนแรก ในนาม Church of Heaven อันมีความหมายถึง องค์สถาปัตย์แห่งสรวงสวรรค์ ที่รับรองว่า เด็กถาปัตถ์จะต้องออกอาการกรี๊ดกร๊าดกะตู้ฮู้เป็นแน่แท้ ใยถึงวิจิตรได้ถึงเพียงนี้ งานนี้ยังได้ผู้กำกับประจำสถานี TBS คิโยฮิโระ มาโกโตะ มาพิถีพิถัน ในเรื่องงานกำกับ (เป็นผู้กำกับคนเดียวกับ Otousan และ Nada So So ภาคซีรีย์ ) และพิถีพิถันยิ่งขึ้นกับเพลงบรรเลง ที่ได้ฝรั่งตาน้ำข้าว อย่าง Burt Bacharach ที่เคยทำสกอร์เพลงใน Austin Powers มาแล้ว
กลายเป็นว่า กับซีรีย์เรื่องนี้ ผู้เขียนกับเฉยๆในการแสดงของทาคุยะ ในวัยยี่สิบหมาดๆ อาจจะด้วยบทหรือด้วยรัศมีบารมีที่ยังไม่พร้อมจะเปล่งประกาย ก็ไม่ทราบได้ แม้พี่แกจะไว้ผมสลวย แต่งตัวฮิบๆ ทำตัวกร่างแบบเด็กอาร์ท ที่ไม่สำเร็จการศึกษาระดับมหาลัย ที่รัฐธรรมนูญบ้านเราชี้ช่องให้เป็นพอเป็นสส.ได้ แต่กับนักแสดงประชันฝ่ายชายอีกคน ที่รับเป็น สถาปนิกโคซุเกะ คือตัวลุง "ทามุระ มาซาคาซุ" ผู้เขียนว่า เป็นนักแสดงที่มีลูกล่อลูกชนแพรวพราว จนไม่แปลกใจว่าทำไมน้องฮานะ จึงต้องนอกใจมารับการอุปถัมภ์จากลุงท่านนี้ ลุงแกทำให้ผู้พอเชื่อได้ว่า น่าจะเป็นนักสถาปนิกจริงได้ ไม่ได้ด้วยแบบแปลนที่ลุงวาดหรอกนะ แต่ด้วยอารมณ์ติสท์แบบสถาปนิกเขาชอบเป็น ประเภทเอามือลูบคาง จูนหัวสมอง ขณะที่ในมือคีบบุหรี่ปุยๆ โห!มันใช่เลย ลีลาการพูดของแก เต็มไปด้ยความเชื่อมั่น พร้อมที่จะให้คนอื่นฟังแก ขณะเดียวกัน แกก็ไม่พร้อมที่จะไม่ยอมให้ใครพูดขึ้นสวนในขณะที่แกกำลังคุย ดูงานซีรีย์จากที่แกเล่นก็ไม่บ่อยนัก เพราะนานๆแกจะรับเล่นซีรีย์สักเรื่อง แต่เท่าที่ผ่านตา ก็ในบทปะป๋าชินโด ชิโร่ ของลูกสาวสี่คนใน Otousan ของผู้กำกับคนเดียวกันกับซีรีย์เรื่องนี้ เป็นความเท่ห์แบบคนมีกะตังค์ ที่ดับรัศมีให้ทาคุยะยังไม่พร้อมแจ้งเกิด จึงมิแปลกใจหากแฟนทะคุงคลับ จะไม่ค่อยรู้จักมักคุ้นกับซีรีย์เรื่องนักก็ตาม ส่วนนางเอ๊ก นางเอกนี้ มิยาซาวา ริเอะ ความจริงเจ๊แกก็เป็นคนดังในประเทศ แต่กับประเทศไทย แทบไม่เคยมีผลงานในชาวประชาได้ยลตา ประวัติชีวิตเจ๊ก่อนจะเล่นซีรีย์เรื่องนี้ ก็ต้องบอกว่าโชกโชน มิได้แสนดี เหมือนกับในซีรีย์ ทั้งการเลิกรากับแฟนหนุ่มนักมวยปล้ำ การฆ่าตัวตาย ปัญหาทางบ้าน และภาวะโรคไม่อยากอาหาร (Anorexia) แต่เสริมข้อดีข้อหนี่ง เพราะในเรื่องนี้มีเจ๊โย คิริโกะ มาีร่วมเล่นในบท อดีตศรีภรรยาสถาปิกอิบิซาวา ใครเห็นเจ๊ท่านนี้คงร้อง อ้อ! เพราะเจ๊เพิ่งจะขายโรงศพจนผู้เขียนต้องหลั่งน้ำตา ใน Departures มาอีกทีสมัยเจ๊สาวๆ ก็สาวไม่หยอกเหมือนกันนะเออ
That is her choice,It is her house .Not yours. (นั้นเป็นสิ่งที่ลูกค้าเธอเลือก มันเป็นที่ของลูกค้า มิใช่ของลื้อ) But I am building the house .It is my masterpiece too. (แต่ ผมก็ออกแบบมันมากับมือ นี้มันเป็นงานชิ้นเอกของผมนะ)
พูดไปงานสถาปนิกก็มิใช่เรื่องง่าย ตราบใดพื้นฐานความเป็นจริง จำต้องตอบสนองความต้องการพื้นฐานของลูกค้า ซึ่งเป็นทั้งผู้ใช้สอย ผู้อยู่อาศัยและไหนจะออกเงินลงทุนทั้งค่าสร้างงาน ค่าออกแบบอีก อาชีพสถาปนิกจึงเป็นหน่วยงานๆหนึ่ง ที่มีสถานะเป็นผู้รับจ้าง ที่ต้องสนองความต้องการตามชุดคำสั่ง ด้วยจากประสบการณ์และวิชาชีพที่ตนร่ำเรียนมา สถาปนิกขึ้นชื่ออาจเป็นได้เพียงแค่กึ่งๆศิลปิน ที่ไม่ได้เป็นนักจิตศิลปะเต็มตัว ที่อยากจะวาดอะไรตามนึกคิดทั้งหมด แล้วสะบัดปลายปากพู่กันลงบนผืนผ้าใบ แต่สถาปนิกจำต้องประนีประนอมรอมชอมกับฝ่ายวิศวกรผู้สร้าง ทั้งเรื่องข้อจำกัดการสร้าง การหาวัสดุอุปกรณ์ โครงสร้างรองรับของพื้นที่ และตอบสนองเจตจำนงของผู้ออกแบบ เพื่อให้ตรงในองค์ประกอบพร้อมในการก่อสร้างเคหสถาน ซึ่งถ้าสถาปนิกอยากจะเป็นศิลปินอย่างเต็มตัว นอกจากไม่ได้ค่าออกแบบเองแล้ว อาจจะต้องควักทุนเข้าเนื้อทั้งกองเพื่อเป็นที่ซุกหัวนอนของผู้ออกแบบเอง แต่กระนั้นก็ตาม สถาปนิกก็เหนือชั้นกว่าไปกว่าเหล่าบรรดาศิลปินและจิตกร ที่
Architecture is imagination and reality. (สถาปนิก คือ ผู้สร้างความฝันและทำให้มันเป็นจริงได้)........
ข้อมูลจาก //wiki.d-addicts.com/Kyosokyoku
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2553 12:46:34 น. |
|
17 comments
|
Counter : 1457 Pageviews. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.35.98 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:46:51 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.35.98 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:57:05 น. |
|
|
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:28:25 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.11.224 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:22:53 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.11.224 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:40:03 น. |
|
|
|
โดย: chanpanakrit IP: 111.84.80.152 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:54:23 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.31.56 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:08:09 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.173.91.151 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:37:13 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.173.91.155 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:58:56 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.0.41 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:42:36 น. |
|
|
|
โดย: prysang วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:42:12 น. |
|
|
|
| |
|
|
งานเก่าๆของทาคุยะ บางเรื่องหาสั่งยาก
ไอ้ที่ทำเป็นgift set ก็สุดแพง
ตัวอย่างเช่นเรื่องGiftกว่าจะหาได้ ก็เรียกว่าไม่ง่าย
เรื่องนี้เข้าใจว่าที่คุณchanpanakritดู เป็นซับอิ้งใช่ไหมคะ
อ่านแล้วสงสารคาเครุจังค่ะ
ภาพนางเอกที่คุณchanpanakritแปะ เธอดูสวยเศร้าๆนะคะ
อ่านที่คุณchanpanakritเขียนแล้ว
อยากดูติดหมัดเลยค่ะ ยิ่งบอกว่าทิ้งปมแต่ละตอนไว้
โอ๊ย!ยิ่งอยากดู
ปล.ได้ไปที่ร้านชิบูญ่าที่คลองถมมาไม่มีทั้งFireworks ทั้งApril Storyค่ะ
แต่มะนาวก็สั่งทางเน็ตไปแล้วค่ะ สงสัยต้องลองเขียนไปสั่งเรื่องนี้เพิ่มเผื่อมี
555เพิ่งรู้ว่าคุณchanpanakritรู้จักแปลนน้ำเต้าปู ปลาด้วย
นึกถึงงานศพสมัยเด็กๆเลยค่ะ