|
Yasuko to Kenji สิงห์คะนอง น้องหนูขอร้อง
ผู้เขียนไม่รู้หรอกนะว่า พี่น้องจะรู้สึกเช่นไรกับข่าวคราวของเหล่าบรรดา แก็งค์ซิ่งครองเมือง ที่บิดแหว๋นกันตั้งแต่ถนนหลวงไปจนถึงมุมตรอกท้ายซอย เพียงได้เห็นข่าวประเภทตามหน้าจอทีวีไทยด้วยแล้ว ก็มีความรู้สึก เซ็ง-เบื่อและวุ่นวาย อาจสบถบรรพบุรุษเหล่ากอตามสภาพ แต่ผิดกับเด็กแก็งค์ซิง่ครองเมือง ที่เป็นซีรีย์คอมเมดี้จากค่าย NTV ของญี่ปุ่น ที่พออ่านเรื่องย่อพอประมาณ ดันไปมีความรู้สึก ตื่นเต้น เฝ้ารอ กระวนกระวาย และอยากยกธูปกราบบูชาบรรพบุรษตามเหล่ากอสภาพ ด้วยผลผลิตทางทุนวัฒนธรรมเฉพาะของค่ายนี้ ที่มักจับกลุ่มแบดบอย มาปู้ยี้ปู้ย่ำทำซ้ำแปรสภาพ ให้กลายเป็นงานอรรถรสเย้ยสภาพแห่งโลกความเป็นจริง ที่ไม่กะเอาให้ขำเป็นตาย แต่ก็มีความหมายดีๆแอบแฝง เพียงแต่เขาเอาจุดขายในความสนุกเป็นที่ตั้ง แต่ลับหลังก็เล่นเอาซึ้งจนน้ำตาคลอ
เหตุที่ทำไมต้องเป็นค่าย NTV นะเหรอ? เพราะค่ายนี้มีมาตราฐานการทำเรื่องในแนวแบดบอย จนเป็นล่ำเป็นสัน มีความแม่นยำ ในการร้อยเรียงและยิงฉมังได้ตรงจุดโดนใจวัยสะรุ่น มีสูตรสำเร็จเฉพาะของทางสถานี ที่ถือเป็นสูตรตายสนิท ชนิดที่แวดวงอโคจรไหน เข้าใกล้ในรัศมีสูตรการันตีสำเร็จแบดบอยคัมปานีนี้เข้า เป็นต้องเสร็จทุกราย และไปมีความหมายเป็นบวกอยู่เสมอ ทำให้นักชมคราวรุ่นและเคยรุ่น เห็นเข้ายังปรีดาและชักเริ่มแยกแยะสังคมเลวในคนดีไม่ถูก ไม่ใช่ชนิดที่ดูข่าวแล้วตามมาตบซ้ำปัญหา แต่เป็นการขุดปัญหาสังคมเยาวชนที่ว่าหนักๆ เอามาขัดเกลา เขย่ามุข แล้วเข้าสู่กระบวนการอนิเมทลิเซชั่น ให้แลมีความเป็นการ์ตูนภายใต้บริบทของปัญหาที่ซุกซ่อนจริงภายในสังคม ที่ดูแล้วอาจเรียกอารมณ์ขำปนฮา แต่ขณะเดียวกันก็รับรู้ว่าปัญหานี้ยังมีจริงบนท้องถนน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว ล้วนแล้วแต่สร้างชือ่ให้กับสถานี NTV ทั้งสิ้น อาทิ Gokusen ทั้งสามภาค ,My Boss My Hero และรวมถึงเรื่องนี้ Yasuko to Kenji ที่ผู้เขียนอยากตั้งชื่อภาษาไทยว่า "แก็งค์ซิงสิงห์คะนอง น้องหนูขอร้อง"
I'm Oki Yasuko.Ever since our parents died in an accident I've been living with my brother.It's absolutely terrible. He hides his indentity as a manga artist because he's actually a loud ex-biker gang leader. (ฉันชื่อโอกิ ยาสุโกะ นับตั้งแต่พ่อแม่ของเราได้ตายไปด้วยอุบัติเหตุ ฉันก็ได้อาศัยอยู่พี่ชายเพียงสองคน มันเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ เขานะได้หลบซ่อนตัวตนด้วยการผันมาเป็นนักวาดการ์ตูน เพราะอะไรนะเหรอ เพราะเขาเคยเป็นหัวหน้าเด็กแหว๋นชื่อเสียงนามกระฉ่อนนะสิ)
Also my crush's sister seem to be a rival of his Surely,it's like a Romeo and Juliet scenario. (อีกทั้งนะ น้องสาวผู้แสนจะบอบบางอย่างฉัน ยังถูกกระทำเยี่ยงนักโทษในสายตาเขา แน่ละสิน้อ มันไม่ต่างไปจากบทประพันธ์ ในโรมิโอแอนด์จูเลียทเลยว่าไหม)
Yasuko to Kenji เป็นซีรีย์ที่ทำมาจากการ์ตูน ที่ลงในเครือของนิตยสารโชนัน โดยทั้งวาดและสร้างพล็อกเรื่องเอง ภายใต้นามนักเขียน "อารุโกะ" เป็นเรื่องราวของพี่น้องกำพร้าคู่หนึ่ง ที่บิดามารดาเส่ียชีวิตจากอุบัติเหตุ เมื่อสิบกว่าปีก่อน พี่ชายจึงต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการวาดการ์ตูนตาใสหาเลี้ยงชีวิต เพื่อส่งเสียเลี้ยงดูน้องสาว "โอกิ ยาซุโกะ" ที่กำลังโตเป็นสาวเข้าสู่ชีวิตมัธยมปลายเต็มขั้น ด้วยช่องว่างระหว่างวัย จึงเป็นเหตุให้เคนจิ เป็นพี่ชายที่เข้มงวดและหวงน้องสาว ยิ่งกว่าไข่ในหิน ซึ่งสร้างความอึดอัดใจในการใช้ชีวิตวัยรุ่นของยาซุโกะเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกัน ในอดีตพี่ชายของยาซุโกะ ซึ่งก็คือนายเคนจิ เคยเป็นหัวหน้าแก็งค์มอเตอร์ไซด์ประจำถิ่น ที่มักมีเรื่องขัดแย้งในการทับซ้อนพื้นที่ กับหัวหน้าแก็งค์อีกฝ่าย ที่ชื่อ "ซึบากิ เอริกะ" เป็นหัวหน้าแก็งค์มอเตอร์ไซด์ฝ่ายหญิง ที่แอบปลื้มนายเคนจิ ทั้งๆที่เป็นคู่แข่งต่างแก็งค์ มาแต่ไหนแต่ไร เมื่อกาลเวลาล่วงเลยผ่าน แต่ละฝ่ายก็แปรสภาพจากกลุ่มคนใต้ดิน โผล่พรวดขึ้นมาทำสัมมาอาชีพอยู่บนดิน ที่ปัจจุบัน เอริกะหันมาเปิดร้านขายดอกไม้ ใช้ชีวิตเป็นสาวอินโนเซนท์เส้นตื้น เสมือนหนึ่งว่าไม่เคยข้องเเวะกับทางอโคจรใดใดเลยมาก่อน ความที่ร้านดอกไม้ เป็นทางผ่านระหว่างบ้านกับทางโรงเรียนของน้องยาสุโกะ เลยทำให้ยาสุโกะกับเอริกะมีความสัมพันธ์อย่างเข้าอกเข้าใจแบบแนบแน่นแสนจะใกล้ชิด นอกจากนี้น้องชายของเอริกะ ที่ชื่อ "ซึบากิ จุน" ก็เป็นถึงหนุ่มดาวโรงเรียน ที่ตัวน้องหนูยาสุโกะแอบปลื้ม ในอารมณ์ไม่ต่างไปจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ารักแต่ประการใด แต่ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ก็มาติดอยู่ในปัญหาประการเดียว คือ ตัวพี่ชายเคนจิ ที่นอกจาก จะเขี้ยวกับน้องสาวเพียงคนเดียวไม่หาย อีกด้าน ก็ยังประกาศความเป็นศัตรูของสองตระกูล แบบคงทนและถาวรที่ฝังรากลึกใส่กลุ่มตระกูลซึบากิ ชนิดที่ถ้าบ่าวโรมิโอเกิดดันมีใบขับขี่ และสาวจูเลียทขี่มอเตอร์ไซด์เป็น มันก็คืองานวรรณกรรมอมตะของ เช็คสเปียร์สชัดๆเลย
เนื้อเรื่องก็มีสั้นๆแค่นี้ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมึนงงมากมาย จะว่าไปพล็อกเรื่องในแต่ละตอน ก็หมุนวนในประเด็นแก่นหลักเดิมๆ ที่นึกสงสารความเป็นทายาทสารบบสกุลนักเลง เพราะสังเกตมากี่เรื่องๆ ตัวเอกก็ต้องแบบเบาะในความเป็นลูกกำพร้าพ่อแม่ สภาพอุบัติเหตุไม่ตายดีแบบยกครัว ที่มักจะบอกเกริ่นแต่เนิ่นๆแล้วยังไม่ชัดเจน ให้บุตรที่เกิดจากสายสกุลอโคจร เสริมกำลังความมีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากเทือกบิดามารดาโดยปกติวิสัย แต่ทว่า กลับไปได้ความรักความอบอุ่นเป็นพลังทดแทน ที่ทำถ้าว่าจะไม่แพ้รักแท้ของพ่อและแม่ ทั้งจากเครือญาติก็ดี หรือบริวารที่ยังพอมีเหลืออยู่
ผู้เขียนไม่รู้หรอกนะว่า วง "Tokio" จะมีอิทธิพลต่อกลุ่มวัยรุ่นบ้านเขาแค่ไหน แต่การใช้ทรัพยากรบุคคลเชิงภาพลักษณ์ (imaged personal resource) ก็ทำให้สมาชิกอย่างน้อยๆก็สองคน คือ นางะเซะ โทโมยะและ มาซึฮิโระ มัตซึโอกะ มีสัญญะของความเป็นแบดบอย ปรากฎขึ้นติดตัวในแบนด์ของวง tokio อย่างน้อยๆ ในความรู้สึกของผู้เขียน ที่แม้จะร้องฮัมไม่ได้สักเพลง แต่หลงเชื่อไปว่า Tokio มีความเป็น "กบฎทางสังคม" แฝงอยู่ในตัวตนของวงการเพลง ที่แม้ไม่ได้เอากีต้าร์เขวี้ยง หรือไล่กระทึบกล่องชุด แต่ก็เผลอไปเชือ่มโยงจากสิ่งที่เห็นในซีรีย์ อย่างที่โรล็องด์ บาร์ตส์ ผู้อธิบายสัญวิทยาและมายาคติ ว่าในทุกๆตรรกะที่สื่อความหมาย โดยใช้สัญญะ เป็นมายาคติสื่อความหมายที่อาศัยการยึดครองวัตถุ โดยพิจารณาซึ่ง ประโยชน์ใช้สอยควบคู่กับลักษณะของวัตถุ เป็นการสวมทับความหมายไปอีกชั้น สร้างภาพลักษณ์การเป็น "ไอ้เสือกลับใจ" ที่นอกจากจะเป็นคนดีที่ตอนสุดท้ายแล้ว ซีรีย์ยังได้สอดแทรกความเป็นสัญญะแบดบอยไว้ในตัวบุคคล อย่างน้อยๆ ก็ทำให้วง tokio ในการรับรู้ของสาธารณชน มิใช่วงเด็กดิอินโนเซนท์อีกต่อไป สำหรับนายมัตซึโอกะ เรื่องนี้อาจจะทำให้ช่องว่างของความอยากชิดใกล้ นั้นดูห่างไกล เมื่อเทียบกับครั้งที่แสดงใน Psychometer Eiji กับ Nurseman เพราะพี่แกเล่นได้แรงและแลดูสถุล ตามสไตล์ของเด็กแหว๋นนอกรัง เข้าใจว่าหลังจากการซ้อหลังเลิกวง อาจมีการติวเป็นการส่วนตัวกับรุ่นเพื่อน อย่าง เจ้าโทโมยะ ที่่ผ่านงานแสดงกุ๊ยๆ อย่าง My Boss My Hero หรือ Tiger and Dragon ว่าจะเอาความร้าย บวก ฮา ผสมให้สมประกอบอย่างไร ให้สัมฤทธิ์ผลแก่คนดู ส่งผลให้ ฉากการเจรจาล้มโต๊ะ(กินข้าว) และพฤติกรรมของอาการหน้างิกเพราะคิดเก็กการ์ตูนไม่ขึ้น กลายเป็นสิ่งที่ติดตัวและยังขาดเสียมิได้ในแต่ละตอน จะเสียดายก็ตรงที่สูตรสำเร็จ แบบคนดีสองบุคคลิก ที่จำต้องปกปิดความจริงเอาไว้เพื่อกะเอาฮา ใน Yasuko to Kanji ดูจะไม่จำเป็นต้องปิดมิดชิดอะไรมากมาย ยังคงปล่อยตัวตนที่เป็นอยู่ และอยู่อย่างที่เคยเป็น ให้กับนายเคนจิได้ปฎิบัติตน ทั้งในส่วนหน้าฉากและหลังฉากอย่างเต็มที่ และเต็มทาง อยา่่งน้อยก็เป็นจิ๊กโก๋ประเภทปากร้าย แต่ใจดี แสดงออกลึกๆแต่ละที ก็ต้องมีลูกเล่น ลีลา และลูกแก้ตัว แถมท้ายมาเสมอ แต่กระนั้นก็ได้ใจสำหรับคนดู ที่ชอบอะไรที่ดูตรงๆแรงๆ ตามสไตล์เด็กบู้ที่ไม่ต้องการอะไรเยิ่นเย้อ แต่มั่นใจได้อย่างหนึ่งว่า ถ้าน้องคนใดได้ตัวละครอย่างนายเคนจิเป็นพี่แล้วไซร้ ต่อไปภายภาคหน้าเกิดเป็นอัมพฤตอัมพาตหรือสวมชุดเจ้าหญิงนินทากระทันหัน อย่างน้อย ก็จะมีกระทาพี่ชายนายเคนจิคอยอยู่เฝ้าไว้มิได้ห่าง
สำหรับ หนูมิกาโกะ ทาเบะ ที่เล่นเป็น "ยาสุโกะ" น้องสาวเจ้าเคนจิ ที่เผลอแป้ปๆ น้องแกก็โตเป็นสาวอย่างสมใจ นับตั้งแต่ติดตามจากงาน ภาพยนตร์ชิ้นแรกๆ ไม่ว่าจะเป็น เจ้าหุ่นกระป๋องHinokio เมื่อสักห้าปีก่อน จนต่อมาดูเหมือนจะไปเป็นศิษย์รักของ ผกก. แนวฝันวันมัธยมปลาย อย่าง มาซาฮิโกะ นากาซาวะ เพราะโผล่ไปเป็นตัวเอกในหนังของ ผกก. ให้นักแสดงคนอื่นอิจฉาเล่น อาทิ way of blue sky และ Night Time Picnic ในซีรีย์เรื่องนี้ เธอดูจะเล่นได้เด่นกว่าใครๆ ในฐานะตัวศูนย์กลางของการดำเนินเรื่องทั้งหมด ขณะเดียวกันด้วยวัยที่กำลังน่ารักสดใส และการมองโลกในแง่ดี มีกำลังใจในการใช้ชีวิตท่ามกลางสังคมของครอบครัวที่ไม่น่าพิสมัยในสายตาใครๆ เป็นเด็กหญิงต๊องๆ ที่มีความได้เปรียบกว่านักแสดงรุ่นเดียวกัน ที่ได้รับการบ่มเพาะทางงานแสดงตั้งแต่ยังอายุย่างเข้าทำบัตรประชาชน แค่ได้เห็นหน้านังดูคนนี้ ก็เชื่อแล้วว่าบริวารแวดล้อมทั้งหลายย่อมต้องมีความสุข จากรอยยิ้มที่สดใสตามเธอไปด้วยอย่างแน่นอน เพราะถ้าตัวละครตัวนี้ ไม่สามารถซื้อใจคนดูได้ตั้งแต่เริ่มเรื่อง ก็เห็นท่าว่าซีรีย์เรื่องนี้จะเดินต่อไปได้ลำบาก เพราะเราไม่อาจคาดหวังความมหัศจรรรย์จากพล็อกเรื่องอันเกลื่อนกลาด ที่ปัจจุบันนานเข้า กลายเป็นสูตรสำเร็จธรรมดาสูตรหนึ่งของค่าย NTV ไปเสียแล้ว อืม ลืมบอกไปอีกว่า คนที่มาเล่นเป็นหนูโยสุโกะในวัยเด็ก คือ นักแสดงเด็กคนเดียวกัน ที่เล่นในเรื่อง Flowershop without Roses ซึ่งหนูยูกิคนนี้ ก็ยังคงรับบทผลิตน้ำตาเรียกคะแนนความสงสาร ตามความสามารถถนัดถนี่ ที่ไม่สงสารเบ้าตาตัวเองอีกเช่นเคย ซึ่งนับแต่ flowershop น้องหนูก็มีงานชุก ที่แม้เจียดเวลาเพื่อเบียดเวลาเรียนไม่ได้ แต่หลายค่ายก็นิยมนำน้องหนูมารับบทนางเอกวัยเด็กในฐานะดารารับเชิญ สักตอนสองตอน ซึ่งคงพอค่าเล่าเรียนต่อไปได้อีกหลายเทอม
ส่วนคนที่ดึงดูดในเบื้องต้น ตั้งแต่เห็นลิสต์ในรายชื่อนักแสดงแล้ว คงหนีไม่พ้นน้องเรียวโกะ ฮิโรสุเอะ ที่ยังอยากคงสรรพนามตามชื่อว่าน้องตลอดไป ด้วยการติดตามผลงานการแสดงมานับเป็นสิบกว่าปี ถ้าว่ากันด้วยความสามารถทางการแสดงแล้ว เจ๊ฮีโระสุเอะก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใครๆ แต่ในซีรีย์เรื่องนี้ที่ต้องเล่นเป็นสาวสองสถานะ ที่หน้าฉากเป็นสาวหวานร้านดอกไม้ แต่อดีตเบื้องหลังเป็นถึงหัวหน้าแก็งค์มอเตอร์ไซด์ขาใหญ่ ไม่ใช่เด็กสก๊อยสวมกางเกง ขาสั้นลายดอก ซ้อนท้ายไอ้หนุ่มเด็กแหว๋นที่ไหน ที่แม้แต่เส้นทางอิทธิพล ยังไปทับขาและเบิ้นท่อไอเสียใส่หัวหน้าแก็งค์อย่างเคนจิเข้า
รู้สึกได้ถึงบารมีที่ถูกกดทับ โดยไม่สมกับประสบการณ์อันเชี่ยวและพรสวรรค์ที่มีอยู่ ถ้าดูเอาเรือ่ง ก็คงหมดเรื่องที่จะคุย เพราะเจ๊เรียวโกะเธอหวานเกินจะเชื่อว่าเคยเลวมาแต่ไร แต่ถ้าดูอย่างไม่เอาเรือ่งเอาราวนัก แล้วมีใครสักคนกล่าวขึ้น อย่างกระทบกระเทียบเข้าให้ว่า เจ๊แกเล่นได้อย่างดูออกเลยว่ามันเป็นการแสดง ผู้เขียนผู้นี้ คงจะสวนกลับออกไปว่า "เออ แล้วคนอื่นมันไม่ได้แสดงรึไงกันละ(ฟะ)" แต่ถึงกระนั้นก็เจียมตนว่า ในระยะหลังๆ เจ๊ฮีโระสุเอะเธอรับเล่นซีรีย์แต่ละเรื่อง ได้ไม่เข้าตาผู้เขียนเลย ไม่ว่าจะเป็น triangle, Long Wedding Road รวมทั้ง Yasuko to Kenji ด้วยก็ตาม เข้าใจเอาเองอีกแล้วว่า เอเยนซี่ผู้เลือกบท น่าจะมีปัญหาต่อการใช้ทรัพยากรตัวบุคคลของฮีโระสุเอะ หรือไม่ก็องค์ประกอบโดยภาพรวมของเรื่อง มันมีปัญหาเกินกว่าที่เจ๊ฮีโระสุเอะจะแบกรับไหว ถ้าดูให้พอหายคิดถึง คงหายขาดเพราะแต่ละเรื่องที่รับเล่น ล้วนแล้วแต่เทช่วงเวลาให้กับเจ๊อย่างล้นเหลือ ในบางช่วงที่ไม่น่ามีก็ฝืนบังคับให้มันมี ถ้าดูอย่างมีเป้าหมายอย่างสูงสุดแบบผู้เขียน เรื่องนี้ก็ถือว่าสมหวังดั่งตั้งใจ แบบไม่พกสาระใดใดให้รกสมอง นอกจากหน้าตางามๆของใครไม่กี่คน
รวมถึงเครื่องมือที่สร้างประสิทธิภาพสูตรสำเร็จทางต่อมฮา ที่ทาง NTV ใช้ในการตีกินมาโดยตลอดอย่างได้ผล คือ เหล่าลูกเห็บลูกหาบ หรือเรียกง่ายๆว่า ลูกสมุนที่ต้องเป็นสองรองหัวหน้า ที่เคยใช้กันมาได้ดี อย่างในซีรีย์ Gokusen ก็มีบ่าวรับใช้อ้วน-ผอม นายหญิง อย่าง เท็ตซึ กับ มิโนรุ ขณะที่ My Boss My Hero เลือกใช้คู่หูต่างวัยรับใช้คูโจ อย่าง เทรุยะกิ กับ คาซึยะ ดังนั้น Yasuko To Kenji ก็ไม่หลงลืมที่จะใช้สูตรนี้ เพื่อกันเหนียวเช่นกัน โดยเลือกใช้ โมสุ ที่เล่นโดย อุชิยามา ชินจิ ผู้มีชั่วโมงบินความเป็นขี้ข้านางน้อย ในบท มิโนรุ ในซีรีย์ Gokusen และอีกคน คือ อาจิดาซุ ที่รับบทโดย วาตาเบะ โกดะ ที่ตลอดชีวิตการรับเล่นซีรีย์ ก็ไม่ค่อยจะได้รับบทเด่นอะไร กับชาวบ้านเขาอีกเช่นกัน ซึ่งก็มีผลุบๆโผล่ๆ อย่างในซีรีย์ Operation Love,Hotaru no Hikari และSaru Lock ก็ต้องเรียนตามตรงว่า สูตรสำเร็จที่ว่านี้ไม่ทำปฏิกิริยาความเป็นตัวช่วยของความสนุก เท่าไรนัก ที่นอกจากเป็นบทเสริมที่ไม่มีความโดดเด่นเชิดหน้าชูตาอย่างเห็นคุณค่าเท่าไรนัก ความลงตัวในการรับมุขของตัว โมสุ กับ อาจิดาสุ ที่ดูจะฝืดๆเฝือๆ ที่วันๆก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่า การที่ช่วยเคนจิถมสีกับตกแต่งกราฟฟิค บทจะให้หวนขึ้นหลังอานมอเตอร์ไซด์ ก็ใช้เพียงไม่กี่ฉากให้สมศักดิ์กศรีลูกกระจ๊อก แต่ละวันส่วนมาก ก็มาปั่นต้นฉบับการ์ตูนตาหวานกลมโป๋ ภายใต้ชื่องานของนายเคนจิ ให้ดูน่ารัก สดใสและทันในเดธไลท์เวลาส่งงานเข้าแท่นพิมพ์
และอีกหนึ่งสูตรสุดท้าย อันเป็นของตายของค่าย NTV เขา ก็คือ ตัวละครสุภาพบุรุษสุดภูมิฐาน ที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าความเป็นอุดมคติของสาวๆ ที่นอกจากหน้าตาจะดีแล้ว ยังต้องมีความเป็นสุภาพสุดเรียบร้อย แบบที่เอาให้คอนเทรสกับตัวเองแบบเเบ่งแยกให้เห็นอย่างเด่นชัด ถ้าเป็นอย่างใน gokusen บทอย่างนี้ก็จะตกกับครูผู้เป็นหวานใจของยัยยาคุมิ แต่ถ้าไปตกอยู่กับ My Boss My Hero ให้เข้าแล้ว บทนี้จะต้องเป็นของ นายน้อยผู้เป็นน้องชายทางสายเลือดของคูโจมาคิโกะอย่างแน่นอน แต่พอบทบังคับนี้ มาตกใส่ใน Yasuko to Kanji ให้เข้า บุคลิกภาพเชิงอุดมคติแบบแมนๆนี้ ก็ตกเป็นของน้องชายของเอริกะ อย่าง หนุ่มชุน ผู้เป็นหวานใจมายดาร์ลิ่งของน้องหนูยาสุโกะแทน เป็นไอ้หนุ่มอีกคน ที่ดูจะเขย่งเข้าวงการตามรอยพระเอกทัตซึโอโกะ เพราะหนุ่มโอคุระ ทาดาโยชิ ก็นั่งทับเก้าอี้ตำแหน่งมือกลองแต่อยู่กันคนละวงกับเฮียเท็ตซึซังเขา คงรู้อยู่นะว่าเท็ตซึซัง เขานั่งเปิดตาตีกลองให้กับวง Tokio มาเป็นชาติ แต่ทาดาโยชิหน้าใหม่คนนี้ เขาเป็นเด็กในสังกัด Johnny's Entertainment ที่ไปตีกลองโป๊งๆ ให้อยู่กับวง Kanjani8 ความที่ไม่เคยดูงานก่อนๆของหมอนี้มาเลย การที่ต้องรับบทเป็นคุณชายสุขุมแห่งดาวโรงเรียน ก็เป็นบทสร้างภาพ ให้ยืนเก๊ะๆ เตะตาสาวๆ แล้วสะกดอารมณ์ไม่ให้พลุกพล่านเกินงาม จึงไม่มีอะไรมากไปกว่าการขายความหน้าตา มีชาติสกุลที่พ่อเป็นถึงประธานบริษัท(ตามเรื่อง) อย่างน้อยๆก็ทำให้น้องโยสุโกะ มีเป้าหมายแห่งการช่วงชิงให้กับชีวิต มีกิจวัตรฝันจนเพ้อแม้เผลอเข้าในเวลาเรียน แต่หน้าตาก็ไม่น่าจะมาเป็นน้องชายของเอริกะจัง ด้วยตาไม่เหมือน จมูกไม่ใช่ ปากเบี้ยวไปนิดและลูกบู๊ก็ไม่มีให้ปรากฏ หากไม่ทำตัวแย่จนถูกดองงาน เข้าใจว่าน่าจะมีโอกาสได้แจ้งเกิดอยู่ในวงการต่อไปนานๆ แต่บทอย่างนี้ใครเล่นก็น่าสงสาร เพราะไม่ได้มีมิติด้านลึกของตัวละคร ให้โดยโชว์ความสามารถทางการแสดง นอกจากกินบุญเก่าของความหน้าตาดี ที่พ่อแม่ให้มาพอให้เป็นบุญถาวร แต่ดูในเชิงเปรียบเทียบแล้ว บทของเจ้าชุน ดูจะมีโอกาสได้โชว์ของดีมากกว่าใครๆที่กล่าวอ้าง เพราะผู้สร้างเขาเจียดบท ให้คุณน้องโอกุระ ทาดาโยชิ ได้แสดงออกเชิงการแสดง ซึ่งจะมากไปกว่าตอน ทำเพลงร่วมกับวงบอยแบนด์............รึไม่ อันนี้ก็ไม่ทราบได้ เพราะไอ้ผู้เขียนคนนี้ก็ไม่เคยอยู่ทนฟังเสียด้วยสิ
It's true that.Yasuko isn't very smart.She isn't a looker. and she makes eggs salty.She's carefree slow and stubborn. I don't know what to do with her. (มันจริงเสียยิ่งกว่าจริง ยาสุโกะนั้นดูไม่แจ่ม ไม่น่าหลงใหลและทอดไข่ก็แสนที่จะเค็ม ทำอะไรก็ไม่คิดหน้าคิดหลัง แถมยังดื้อรั้งเสียอีก จนพี่ชายอย่างฉันไม่รู้จะจัดการอย่างไร)
But she's a great woman,She's the world's best woman. (แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่วิเศษที่สุด เป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลกนี้ก็ว่าได้)
ความจริงถ้าจะให้จับประเด็นที่ต้องการนำเสนอใน Yasuko to Kenji ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรไปมาก นอกเสียจากความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง และการเปิดเผยความรู้สึกลึกๆในจิตใจ เป็นเรื่องของ Self-mastry ว่าด้วยทักษะการการบริหารจัดการเรื่องของตนเอง ตามความรู้สึกที่ตัวเองปรารถนา มากไปกว่าสิ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่หรือมาตราฐานทางสังคม ขีดเส้นไว้ และต้องการบรรลุศักยภาพนั้นด้วยกำลังที่ตนเองมีอยู่ ไม่ใช่พึ่งพิงบารมีของผู้อื่น เมื่อเราสามารถบริหารจัดการเรื่องของตนเองได้ จะมีภารกิจควบคู่อย่างต่อเนื่องถึงการบริหารดูแล ผู้อื่นที่ตนรู้จัก ไมว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง เครือญาติและลูกน้องเพื่อนฝูง ซึ่งนี้ก็จะเป็นจุดแข็งของเรื่องที่กล่าวย้ำมาโดยตลอดทุกตอน แต่ถ้าหวังในความบันเทิง ด้วยแล้ว เรื่องนี้ประเคนให้เพียงประมาณหนึ่งไม่มากนักเมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่างใน My Bossฯ และ Gokusen ที่ให้ได้อิ่มกว่าและบทแข็งแรงกว่า เข้าใจว่าพลังของชื่อเสียงและบารมีของนักแสดง มีผลต่อการขับเคลื่อนและประคอง ความเป็นไป ซึ่งไม่แน่ใจว่าถ้าปลุกปั้นนักแสดงใหม่ทั้งทีม บางทีเรื่องนี้อาจเป๋แบบกู๋ไม่กลับก็เป็นไปได้ ยิ่งเห็นความนิยมไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ มาเรียงๆ แสดงว่าเกิดความผูกพันของตัวละครในใจคนดูตามลำดับ ขณะที่อิทธิพลของเด็กแหว๋น ก็ค่อยๆจางไป แต่ไปให้ความสำคัญกับผลงานในอาชีพนักวาดการ์ตูนของเคนจิแทน ถือเป็นการเปลี่ยนแผนทางสโลแกนอย่างได้ผล ชนิดที่อาจลืมไปว่ากำลังดูซีรีย์ที่ว่า ด้วยอดีตสิงห์นักซิงที่หันมาจับปากกาวาดการ์ตูน ไม่ใช่นักเขียนการ์ตูนจอมซ่าแต่ทว่า ดันผันมาเขียนในแนวการ์ตูนรักหวานแหวว โดยปล่อยให้มอเตอร์ไซด์แต่งไปจอดให้ฝุ่นจับเล่น ถือเป็นงานผิดฟิวส์ของผกก. Gokusen อย่าง โอตานิ ทารุ ที่หันมาสายพิราบ โดยไม่เน้นในสายจับเตะ แล้วหักศอก แบบหนึ่งต่อสิบ หรือภาษาง่ายๆว่าหมาหมู่ แบบฟุ่มเฟือยในทุกตอนของตอนท้ายๆ อย่างที่เคยเป็น ถึงแม้มีบ้างในช่วงแรกๆ แต่ก็ถือว่าน้อย
ถ้าข้อจำกัดประมาณนี้ การสร้างเพียงแค่ตอนเดียวก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก แต่สถานีฉลาดพอ ที่จะทำให้เรื่องราวไปไกลได้มากไปกว่านั้น โดยค่อยไปพัฒนาสร้างมุข และหยอดประเด็นเสริม ให้เรื่องพอเดินไปต่อได้ แต่คงเป็นความฉลาดของทีมงาน ที่รู้จักการบริหารเงื่อนไขที่มีอยู่น้อย และทยอยใส่มุขอันแสนจิปาถะ ตรงโน้นมุข ตรงนี้หน่อย แม้ว่าในหลายๆมุข ความขำจะไม่ปรากฎอย่างเด่นชัด แต่อย่างไรเสีย ความวุ่นวายและความอลหม่านในสถานการณ์ มีให้เห็นปรากฎอย่างชัดเจน แม้จะตั้งคำถามถึงความจำเป็นถึงความ "ต้องมี" ในมุขนั้นๆเองก็ตาม และด้วยความที่พล็อกที่มาจากการ์ตูนญิ๊งๆ ที่เป็นคอเมดี้ขำๆแบบดูเวอร์ น้ำหนักในการจะพาให้ซีรีย์เรื่องนี้ไปตลอดลอดฝั่ง โดยไม่ล่มไปกับการวนมุขที่จำเจ ส่วนหนึ่งต้องยกให้กับ "พลังดารา" ที่มีส่วนสำคัญกับการพาซีรีย์เรื่องนี้ไปถึงสิบตอน มันคือสีสันที่สร้างส่วนผสมแม้จะขาดไปบ้าง แต่ก็มีพลังส่วนเกินทับถมให้สมดุลอยู่ตลอด เป็นผลให้ Yasuko to Kenji เป็นงานแบดบอยคอเมดี้ ที่มีเอกลักษณ์ แตกต่างจากสายสกุลโกคูเซนและมายบอสฯ อย่างโดดเด่น ดูมีความเป็นกันเองอย่างเต็มที่ งานนี้จึงต้องอาศัยนักแสดงตัวเก๋า มีประสบการณ์มากพอ ที่จะเดินหมาก วางเกม ให้เรื่องราวที่ไม่น่าจะมีสาระถูกมองข้ามด้วยพลังในการแสดง หากใครเป็นแฟนพันธ์แท้และพันธ์ทาง ของ My Boss และ Gokusen และยังไม่สะอิดสะเอียน เลียนรสชาติของสูตรสำเร็จประเภทนี้ Yosuko to Kenji จะมาช่วยเสริมความต่อเนื่องของรสชาติที่แม้จะไม่ถูกใจ เต็มอิ่ม แต่ความถูกปากจากรสชาติที่คุ้นเคย ก็เป็นความปลอดภัยในโภชนายากูซาซีรีย์ไปได้อีกเปลาะนึงเช่นกัน........
ครั้งหนึ่งเคยร่ายไว้ถึงยากูซ่าซีรีย์ ไว้ใน
My Boss My Hero เจ้าพ่อขอไปเรียนหนังสือ
และ
Gokusen ลูกสาวเจ้าพ่อขอเป็นครู
Create Date : 28 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 29 สิงหาคม 2553 18:47:26 น. |
|
33 comments
|
Counter : 2793 Pageviews. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.53.131 วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:0:19:32 น. |
|
|
|
โดย: ~HiPpOKreA~ วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:1:41:21 น. |
|
|
|
โดย: prysang วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:11:26:40 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.45.201 วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:20:07:50 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.45.201 วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:17:57:46 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.44.115 วันที่: 4 กันยายน 2553 เวลา:17:11:45 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.4.150 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:20:31:38 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.91.215 วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:20:27:22 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.55.81 วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:20:48:13 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.61.0 วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:17:02:28 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.173.95.242 วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:19:38:10 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.3.232 วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:20:53:19 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 118.173.68.53 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:16:35:45 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.25.101.251 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:20:39:32 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.22.113 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:20:46:42 น. |
|
|
|
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.94.20 วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:20:29:20 น. |
|
|
|
| |
|
|
เรื่องนี้ที่บ้านมีอยู่แล้ว แต่ไม่ได้สนใจเลยค่ะ
เพราะได้รับความอนุเคราะห์มาจากการโหลดบิท
เคยเปิดดูหน่อยหนึ่งตอนได้มาครั้งแรกๆ
แต่เห็นแต่งตัวประหลาดๆเลยถูกซุกไว้ก้นลิ้นชัก
แต่พออ่านแล้วก็น่าสนุกนะคะ คู่ปรับต่างเพศ
แถมแค้นฝังลึกอีกต่างหาก
พระเอกมัตซึโอกะ มาจากรากเหง้าเดียวโทโมยะหรอกเหรอคะ
สงสัยจะตัวใหญ่ยักษ์แบบเดียวกันแหงมๆ
มารับบทพี่ชายที่แสนดี อืม!ที่คงรักน้องสาวสุดชีวิต
ประเภทน้องสาวข้าใครอย่าแตะอะไรประมาณนั้นใช่ไหมคะ
มีหนูยูกิแสดงด้วยเหรอ ดีจังน้องหนูแสดงบทบีบน้ำตาเก่ง
อ่านตั้งนานนึกว่าจะไม่กล่าวถึงน้องหนูเรียวโกะซะแล้ว
(หุ หุเรื่องนี้ไม่เรียกป้าเรียวโกะแล้วเหรอคะ)
เรื่องนี้ดูการแสดงหน้าตาของพระเอกมัตซึโอกะที่แปะให้ดูแล้ว
ยังกะก็อปการแสดงสีหน้าของโทโมยะมาอย่างนั้นล่ะค่ะ
ส่วนเรียวโกะที่ไม่ได้ใส่ชุดแดงดูสวยหวานเชียวค่ะ
(สงสัยจขบ.ถึงขั้นเพ้ออีกแหงมๆ)
ว้าว!ไล่มาเกือบภาพสุดท้ายถึงได้เห็นภาพที่อยากดู
หนูน้อยยูกิกับบทที่ถนัด ตาฉ่ำเชียว
และเมื่อหยอดไว้ว่าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้My Boss
ก็ไม่น่าจะพลาดเรื่องนี้ใช่ไหมคะ
โอเคค่ะ ไม่มีปัญหาในเมื่อไม่ต้องเสียกะตังค์หาซื้อมา
คงต้องไปขุดขึ้นมาจากก้นลิ้นชักซะแล้วค่ะ