"おみやげ…"(ของฝาก)ถ้อยคำสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงห้าวแตกหนุ่มหลุดออกจากปากของเด็กชายที่กำลังเติบโตมือของเขาล้วงลงในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตข้างขวาของเครื่องแบบนักเรียนเพื่อหยิบลูกสนขนาดเต็มอุ้งมือออกมายื่นใส่มือของฉันเด็กชายคนนั้นไม่ใช่ใครอากิ ลูกชายของฉันเองอากิเพิ่งเริ่มใช้ชีวิตของเด็กมัธยม๑มาได้๑๐วันปลายปีที่ผ่านมาครอบครัวของฉันยกโขยงกันไปดูโรงเรียนมัธยมของรัฐที่โน่นที่นี่หลายแห่งเพื่อเลือกเฟ้นหาโรงเรียนที่คิดว่าดีและเหมาะสมที่สุดให้กับอากิทางเขตให้สิทธิ์เลือกเข้าโรงเรียนรัฐที่ไหนก็ได้ในเขตที่พำนักอาศัยอยู่จนในที่สุดเรา(หมายถึงพ่อแม่ลูก)ตัดสินใจที่จะให้อากิเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งแถวๆ白金อยู่ไกลจากแมนชั่นพอสมควรอากิออกจากบ้าน๗.๔๐น.ใช้เวลาประมาณ๑๕นาทีเดินไปสถานีรถไฟ田町(ใกล้โรงเรียนประถมเก่าที่เคยเรียนมา๖ปี)เพื่อขึ้นรถเมล์ต่อไปอีกประมาณ๑๐กว่านาทีสภาพแวดล้อมต่างๆชีวิตประจำวันต่างๆของอากิเปลี่ยนไปและของฉันเองก็เช่นกันกิจกรรมที่ผู้ปกครองต้องให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนมีเยอะพอๆกับตอนสมัยประถมฉันต้องเริ่มต้นใหม่อีกแล้วกับการปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่โดยเฉพาะเรื่องการคบหาทำความรู้จักกับพวกแม่ๆคนอื่นๆซึ่งเป็นเรื่องที่ฝืนตัวเองชะมัดกับความเคยชินที่จะไม่พบปะสังสรรค์สุงสิงกับใครและค่อนข้างรำคาญพวกแม่ๆที่ชอบเม้าธ์ดี๊ด๊าหัวเราะดังลั่นไม่นินทาสามีนินทาลูกก็คุยเรื่องอะไรไม่รู้(วู้ อธิบายไม่ค่อยถูก)ซึ่งมันก็น่าแปลกใจว่าผู้หญิงทำไมเวลาเริ่มมีอายุแล้วส่วนมากจะกลายเป็นงั้นไปซะ(อ่า..ลืมไป...ตูก็ผู้หญิงนี่หว่า แถมเริ่มมีอายุ อิอิ)ปีนี้ฉันรับหน้าที่เป็นPTAคนหนึ่งในฝ่ายวารสารเพราะเพื่อนชวนให้ทำด้วยกันและการทำเลย์เอาท์สิ่งพิมพ์กับถ่ายรูปอะไรแบบนี้ไม่ได้ลำบากอะไรฉันนักยังไงก็ตามฉันคงจัดเวลาไม่ให้งานกล่องนี่มารบกวนงานของฉันเองได้อยู่เพื่อนคนนี้เป็นคนเดียวที่ฉันรู้จักในขณะนี้เขาเป็นแม่ของเพื่อนมะลิรู้จักตั้งกะสมัยลูกๆอยู่อนุบาลและเป็นคนแนะนำโรงเรียนนี้ให้ฉันเองแหละลูกชายเขาตอนนี้เป็นรุ่นพี่ของอากิ๑ปีเอาวะ...เพื่อลูก อีกไม่กี่ปีเองฉันก็คงทำตัวตามปกติต่อไปนั่นแหละทำในสิ่งที่ตนเองรับผิดชอบก็พอแล้วโรงเรียนที่อากิเรียนอยู่นี้เป็นโรงเรียนเล็กๆ นักเรียนไม่มากนักแม้ว่าจะเป็นโรงเรียนเก่าอายุมากแล้วแต่สภาพแวดล้อมดีมากๆได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดีมีต้นไม้มากมายรอบล้อมโรงเรียนน้อยนักที่โรงเรียนในเมืองจะมีสภาพแบบนี้ตอนนี้นักเรียนทั้งโรงเรียนมีเพียง๕๕คนจากที่ฟังครูอธิบายแผนการเรียนการสอนของทางโรงเรียนก็คิดว่าดีมากหากทำได้ตามนั้นคุณครูใหญ่น่ารักมากเป็นกันเองกับนักเรียนด้วยความที่นักเรียนไม่มากฉันคิดว่าคุณครูจะดูแลนักเรียนแต่ละคนได้ทั่วถึงแน่บรรยากาศแบบนี้เหมาะสมกับเด็กชายอากิจังเลยเด็กชายที่รักการประดิษฐ์เป็นชีวิตจิตใจสุภาพ เงียบขรึม จริงจัง ไม่ค่อยสุงสิงกับใครนัก(เหมือนใครหว่า).........”おみやげ…”ลูกสนที่อากิยื่นให้ฉันนั้นเป็นลูกสนที่เก็บจากสนามในโรงเรียนน่ารักไม่เปลี่ยนเลยลูกเอ๊ยตั้งแต่สมัยยังตัวเล็กๆวันดีคืนดีก็มีซากุระหนึ่งดอกมาฝากวันดีคืนดีก็มีดอกจิ๋วๆของไฮเดรนเยียมาฝากวันดีคืนดีก็มีก้อนหินข้างทางก้อนเล็กๆมาฝากวันดีคืนดีก็มีกระดาษพับ折り紙มาฝากวันดีคืนดีก็มีนั่นนี่มาฝาก...มันน่าชื่นใจที่ยังมีอะไรเล็กๆน้อยๆแต่ทำให้รู้สึกอบอุ่นที่ในใจมันน่าชื่นใจที่ภายในใจยังสื่อสารกันได้เสมอมันน่าชื่นใจที่ยังมีสายใยบางเบาแต่เหนียวแน่นสานอยู่ระหว่างเราความรักไม่จำเป็นต้องเอ่ยด้วยถ้อยคำความรักแสดงได้ด้วยการกระทำวันนี้ วันที่๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๐อากิครบ ๑๓ ขวบเต็มแฮปปี้เบิ๊ดเดยู้ฮูแฮปปี้เบิ๊ดเดยู้ฮูเป็นเด็กดีแข็งแรงมีความฝันมีความมุ่งมั่น ทำความฝันให้เป็นจริงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตนะลูกนะรักมากเจ้าค่ะ
ฉันเป็นเพียงผู้หญิงหัวโตคนนึง....เป็นเรื่องน่าดีใจสำหรับทุกเช้าที่ตื่นมาพบว่าตัวเองยังมีลมหายใจ
ขอให้หนูเติบโตเป็นสุภาพบุรุษนะคะ
น้าเคยเจอแค่หนเดียว แต่จำได้เสมอว่า
อากิหล่อมากๆ ตอนนี้เสียงห้าวแบบหนุ่มน้อย
แล้วเหรอครับ คงจะสูงกว่าคุณแม่แล้วแน่ๆ เลย
.
.
.
อ่านที่พี่ซิลลี่เขียนถึงแม่ๆ แล้ว เห็นภาพมากๆ เลยค่ะ
พอคนหนึ่งพูด อีกคนหนึ่งต้องพูดดังกว่า ด้วยท่าทางที่ร่าเริงยิ่ง
พ่อของลูกโซ่บอกว่า ทำไมแม่ๆ ทุกคนถึงได้มีแพทเทิร์นเดียว
กันขนาดนี้
วดี ก็ไม่รู้ว่า ตัวเองจะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นแบบนั้นด้วยรึปล่าว
บางที เราก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน
แม่ๆ ต้องทึ่งกับฝีมือและผลงานที่พี่ทำแน่ๆ เลยค่ะ