ฉันจำไม่ได้หรอกว่า...เริ่มดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ก็พอจะจำได้ว่า...มาเริ่มติดใจกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟก็หลังจากมาญี่ปุ่นแล้วพอสมควรน้ำตาล๑คอฟฟี่เมต๒เป็นสูตรเก่าๆตอนสมัยเรียนที่เมืองไทยที่มักจะใช้กาแฟเป็นตัวช่วยถ่างลูกตาไม่ให้หลับเวลาที่จะต้องอยู่ดึกเพื่อทำการบ้านส่งอาจารย์"กาแฟขมๆมันจะอร่อยไปได้ยังไง"นั่นเป็นความคิดในสมัยนั้นที่มีพอๆกับความคิดที่ว่า"เบียร์ขมๆมันจะอร่อยไปได้ยังไง"...แต่วันนี้ฉันเปลี่ยนไปฉันกลับหลงใหลในรสขมๆของกาแฟเหมือนกับที่ในที่สุดฉันหลงใหลในความขมของเบียร์(หมายเหตุ: ตอนนี้เลิกของมึนเมาเด็ดขาดแล้วฮ่ะ)......ฉันเพียงอยากจะเล่าให้ฟังว่า..หากเป็นกาแฟแล้วปกติฉันมักจะดื่มกาแฟดำขมๆไม่ใส่อะไรอื่นเลยแต่เมื่อเช้านี้อยู่ๆก็นึกครึ้มๆอะไรไม่รู้เอานมข้นที่อยู่ในตู้เย็นมาใส่ในถ้วยกาแฟร้อนของตัวเองใช้ช้อนค่อยๆคนนมข้นให้ละลายจนเข้ากันดีจากกาแฟสีดำใสกลายเป็นสีน้ำตาลขุ่นฉันยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบละเลียด...ความหวานมันของกาแฟที่ใส่นมข้นแตกต่างกับความหวานมันของกาแฟที่ใส่น้ำตาลกับคอฟฟี่เมตรสชาติแบบนี้เป็นรสชาติที่คุ้นเคยเมื่อสมัยนานมากแล้ว...แก้วใสๆใส่กาแฟร้อนมีชั้นนมข้นอยู่ที่ก้นแก้วโจ๊กร้อนๆกับจานใส่ปาท่องโก๋เก้าอี้เหล็กกลมๆเก่าๆกับโต๊ะเหล็กสี่เหลี่ยมหนังสือพิมพ์กับกลิ่นหมึกผู้คนเดินไปมาต่างคนต่างเริ่มต้นชีวิตวันใหม่ๆในยามเช้าภาพต่างๆมันผุดขึ้นมาทันใด...กาแฟถ้วยนี้รสชาติแบบนี้ทำให้ฉันคิดถึงเมืองไทยและพลอยทำให้คิดถึงใครใครที่อยู่ที่เมืองไทยขึ้นมาจับใจ
ฉันเป็นเพียงผู้หญิงหัวโตคนนึง....เป็นเรื่องน่าดีใจสำหรับทุกเช้าที่ตื่นมาพบว่าตัวเองยังมีลมหายใจ
เนอะๆๆๆ
(ไม่ชอบกาแฟเย็นเพราะ ความหอมของกาแฟ หดหายหมดเลย)
เมื่อวานถามเพื่อนว่า
"แกๆๆ แกว่ากาแฟที่ไหนอร่อยสุด"
(ข้าน้อยหมายถึง ร้านไหนอร่อยอ่ะ)
.
.
.
เพื่อนบอกว่า
"บนยอดภูกระึดึงตอนเดือน มกรา"