๒๖ มีนาคม ๒๕๖๓ // 2020年3月26日 // March 26, 2020




วันนี้ฉันก็ยังสบายดี 

แต่... เครียด 
ตื่นนอนมาทุกวัน แล้วรู้ว่าไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 มันไม่หมดไปสักที
ตรงกันข้าม มันกลับยิ่งเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น ฉันก็ยิ่งเครียดหนัก 
ไวรัสนี้มันไม่มีโอกาสได้ทำลายร่างกายของฉันโดยตรง
เพราะฉันดูแลตัวเองเป็นอย่างดี แต่มันได้ทำร้ายฉันในทางอ้อม
เพราะมันกัดกร่อนความสุขของฉันไปทีละนิด ๆ 

เมื่อความสุขเริ่มหายไป ความเครียดก็เริ่มก่อตัวขึ้น

แต่ความเครียดของฉันนั้น ยังเทียบไม่เท่ากับความเหนื่อยยากของหมอและพยาบาล




ฉันขอเป็นกำลังใจให้กับหมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์
รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง
ขอให้พวกคุณมีกำลังกายและกำลังใจที่เข้มแข็ง
ขอให้มีร่างกายที่แข็งแรง ปลอดภัยจากไวรัสนี้
ขอให้มีหัวใจที่แข็งแกร่ง ไม่หวั่นไหวไปกับคำพูดของคนที่ไร้ประโยชน์

ในเวลาที่ประเทศชาติเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสเช่นนี้
เราทุกคนได้เห็นแล้วว่า หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์
และเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง พวกเขาคือบุคคลที่ควรค่าแก่การยกย่อง
ควรค่าแก่การได้รับเสียงชื่นชมและสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง 
พวกเขาเป็นผู้ที่เสียสละอย่างแท้จริง เสียสละเวลาและความสุขส่วนตัว
เพื่อช่วยเหลือผู้คนจำนวนมากให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัย 
ขอขอบคุณพวกคุณทุกคนนะคะ 
ขอเป็นกำลังใจให้พวกคุณตลอดไป จนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้

พวกเราประชาชนทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องทำร่วมกัน นั่นคือ
ดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ปลอดภัยจากไวรัสนี้
ปฏิบัติและทำตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก
เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระและความเหนื่อยยากของบุคลากรทางการแพทย์
ถ้าพวกเราทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดภัยจากไวรัสนี้
พวกเขาก็จะเหนื่อยน้อยลง มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น 
พวกเราต้องช่วยพวกเขานะคะ 
เพราะพวกเขาก็เป็นคนเหมือนกับพวกเรา
เมื่อทำงานหนัก ก็มีเหนื่อยล้า ก็อยากจะพักผ่อนบ้าง
แต่ว่างานของพวกเขานั้น หยุดพักไม่ได้
เพราะถ้ายังมีคนไข้จำนวนมากอยู่แบบนี้ เขาก็ไม่สามารถที่จะหยุดพักได้ 


รู้มั้ย ทุกครั้งที่ฉันอ่านข่าวว่ามีบุคลากรทางการแพทย์ ติดเชื้อไวรัสนี้
ฉันน้ำตาไหลเลย  ไม่ใช่แค่เฉพาะที่ไทยเท่านั้น
รวมไปถึงทุกที่ ทุกประเทศบนโลกใบนี้
ฉันสงสารพวกเขาและเห็นใจพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง
พวกเขาทำงานอยู่ด้านหน้าพวกเรา
ทำงานอยู่ในพื้นที่เสี่ยงตลอดเวลา นั่นคือ โรงพยาบาล
ถ้าจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ลดลง 
ถ้าไม่มีพวกเขา แล้วพวกเราจะเป็นยังไง เราจะแย่แค่ไหน
อย่าลืมว่า ในโลกใบนี้ ไม่ใช่จะมีแต่เพียงโรคไวรัสนี้เท่านั้น
แต่ยังมีโรคอื่น ๆ อีกสารพัด ที่จะต้องได้รับการรักษา
เพราะฉะนั้น เรามาให้กำลังใจพวกเขาและปกป้องพวกเขากันนะคะ
สิ่งที่ประชาชนทั่วไปอย่างเราจะช่วยเหลือพวกเขาได้ดีที่สุดเลยก็คือ
"ปฏิบัติตามคำแนะนำให้ตัวเองและครอบครัว ปลอดภัยจากไวรัสนี้" 




ตอนนี้ ประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลักพันแล้ว
แน่นอนว่า สาเหตุหลักคือมาจากกลุ่มเดิม กลุ่มสนามมวย

ประเทศไทยเดินทางมาถึงจุดที่ย่ำแย่ 

จัดการแข่งขันมวยในวันนั้นทำไม?
ฟุตบอลไทย วอลเลย์บอล ยังให้เลื่อนแข่ง แต่มวย กลับให้แข่งได้ น่าแปลกพิลึก 
ทำไมไม่ดูสถานการณ์ต่าง ๆ รอบตัวว่ามีการระบาดของไวรัสนี้
ไม่ควรที่จะจัดกิจกรรมหรือการแข่งขันกีฬาที่จะมีคนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก

ผลลัพธ์ในวันนั้น สร้างความเสียหายอย่างมากให้กับประเทศชาติเหลือเกิน
ผู้คนในเวลานี้ต่างสับสน หวาดระแวง
การดำเนินชีวิตในแต่ละวันมีความยากลำบาก
เศรษฐกิจย่ำแย่ ความสุขหายไป
ทุกคนต่างแบกความเครียดและความกังวลใจเอาไว้
จากที่ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยของเรา พบผู้ติดเชื้อน้อยมาก  
กลับกลายเป็นว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่ก็เพราะ"สนามมวยในวันนั้น" 


คนที่ปล่อยให้มีการแข่งขันมวยเกิดขึ้นในวันนั้น
น่าจะโดน"หวด"ให้หมดทุกคน 5555555555555 

ท้องเสีย ให้ไปหาหมอ
แล้วถ้าปากเสีย ควรทำไงดีคะคุณหมอ? 
รักษายังไงดี? (อิอิ) 





สถานการณ์ทั่วโลกเป็นอย่างไรบ้าง? 

ญี่ปุ่น เลื่อนการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก 2020 ไปเป็นปีหน้าแล้ว
แต่ถึงแม้จะจัดแข่งขันปีหน้า แต่ก็ยังคงใช้ชื่อเดิมอยู่ ไม่ใช้เป็นปี 2021
ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่น จะค่อนข้างควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้เป็นอย่างดี
แต่ว่า ส่วนใหญ่ประเทศอื่น ๆ นั้น กลับยังไม่สามารถควบคุมได้
มิหนำซ้ำ ในเวลานี้ หลายประเทศกลับมีการแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ด้วยเหตุผลนี้ จึงจำเป็นต้องเลื่อนการแข่งขันโอลิมปิกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สงสารญี่ปุ่นมาก น้ำตาจะไหลเลย 
เตรียมการมาเป็นอย่างดี เตรียมพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพ
เตรียมจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เตรียมที่จะมีเงินหมุนสะพัดในประเทศ 
แต่สุดท้าย มาพังเพราะไวรัสนี้

ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ฉันรัก รองจากไทย
เพราะฉะนั้น เมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่ดี ฉันก็เจ็บปวดไปด้วยเสมอ
ขอเป็นกำลังใจให้ญี่ปุ่นนะคะ 



สถานการณ์ของผู้ติดเชื้อทั่วโลก
จีน ยังคงเป็นอันดับหนึ่ง

อิตาลี เป็นอันดับสอง แต่มีแนวโน้มสูงมากที่จะแซงหน้าจีน

สหรัฐอเมริกา เป็นอันดับสาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนน่าตกใจ

สเปน เป็นอันดับสี่ และตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแซงหน้าจีนไปแล้ว แต่ยังเป็นรองอิตาลีอยู่

มันน่าเจ็บปวดและน่าเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง
ที่ประเทศอื่น ๆ กลับมีตัวเลขผู้เสียชีวิตมากกว่าประเทศต้นทางของการแพร่ระบาด
ทั้งที่อยู่กันคนละทวีป คนละมุมโลก ไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย
แต่ไวรัสนี้ก็ยังเดินทางไปสร้างความทุกข์ทั้งกายและใจ
เบียดเบียนความสุขของคนในประเทศนั้น ๆ
และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ไปจนยับเยิน

อ่านข่าวแล้วเศร้าใจทุกที

วันนั้น ฉันยังเห็นสโมสรฟุตบอลของสเปน 
ทำป้ายให้กำลังใจประเทศจีนในเรื่องของไวรัสนี้ ให้ต่อสู้ ให้เข้มแข็ง

แต่วันนี้ พวกเขาต้องให้กำลังใจกันเองแล้ว 
ทวีปยุโรป สาหัสมาก โดยเฉพาะอิตาลี หนักกว่าใครเลย
แล้วตอนนี้ สเปนกำลังจะตามมาแล้ว

ถ้าฉันไม่ได้สนใจเรื่องฟุตบอล คือ ฉันสนใจฟุตบอลอย่างจริงจังมา 3-4 ปีแล้ว
ถ้าหากที่ผ่านมา ฉันไม่ได้สนใจเรื่องฟุตบอลยุโรป
วันนี้ ตอนนี้ ฉันก็คงจะแค่รับรู้ข่าวเอาไว้ว่า"ยุโรปกำลังแย่เรื่องไวรัสนะ"
ฉันก็จะรับรู้เอาไว้แค่นั้น แต่ไม่เอามาทุกข์ มาเครียดอะไร

แต่ตอนนี้ วันนี้ มันไม่ใช่แล้ว ฉันรักฟุตบอลยุโรป
แล้วฉันก็เลยรักและสนใจประเทศในทวีปยุโรปไปด้วย 
พอรู้ข่าวแบบนี้ ฉันก็ทุกข์ใจไปด้วย เครียดไปด้วย ไม่มีความสุขเลย




ตอนนี้ การใช้ชีวิตของทุกคนเกือบทั่วโลกเลยมั้ง
เรียกได้ว่า เป็นการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
คืออะไรรู้มั้ย? 
คือเราต้องระมัดระวังตัวเองในด้านสุขภาพมากขึ้น 
เราต้องท่องและพึงระลึกไว้เสมอว่า"ฉันจะต้องปลอดภัยจากไวรัสนี้"

เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อคนที่เรารัก เพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติ
เพื่อหมอและพยาบาล เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ 
เพื่อเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง

เหมือนเป็นสิ่งที่เราต้องท่องจำทุกวันว่า
"เราต้องรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น"

และภาวนาอยู่ในใจทุกวันว่า
ขอให้ควบคุมการแพร่ระบาดได้สักทีเถอะ
ขอให้มียาหรือวัคซีนที่จะมารักษาได้โดยตรงสักทีเถอะ

อยากจบแล้ว 

 
 

Facebook