เรื่องเล่าเช้าวันอาทิตย์ : ตื่นเช้า 9.30 (เช้าสำหรับอิชั้นในวันไม่ไปทำงาน) อาบน้ำแต่งตัวไปดื่มคาปูชิโน่ฟองนุ่มๆแกล้มครัวซองค์อร่อยๆ และซื้อของเข้าบ้านสามสี่อย่าง ได้เมล่อนมากินกับอิตาเลี่ยนแฮม parma prosciutto น้ำอัดแก๊ซซ่าๆ (เดี๋ยววันหลังจะเล่าเรื่องน้ำดื่มอีกที น่าสนใจนะคะ ว่าทำไมชาวอิตาเลี่ยนชอบดื่มน้ำซ่าๆแบบโซดาบ้านเรา) ซื้อน้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์ แค่นี้แหละ จ่ายตังค์เรียบร้อย แต่ตรงเคาเตอร์แคชเชียร์ มีน้ำหอมสเปรย์อย่างในรูปขายขวดละ 1.99 ยูโร ก็มีหลายกลิ่น หยิบกลิ่นดอกกล้วยไม้มาดม มันหอมแบบกลิ่นสำหรับผู้ใหญ่ๆหน่อย อืม ลังเลว่าจะซื้อดีไหมหนอ แต่เห็นราคาแค่นี้เองอ่ะ เลยคว้าหมับมาอันนึง ยื่นเหรียญสองยูโรให้แคชเชียร์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านด้วย ฮีบอกว่า อืม ขายดีนะปุ๊กกี้ ใครไปใครมา หยิบมาดมก็ซื้อกันแทบทุกราย อิชั้นได้แต่ยิ้มๆ และคิดในใจว่า แหงละ เอามาดัก ล่อตาล่อใจลูกค้าตรงเคาเตอร์ แล้วราคาแค่นี้ เนอะ ใครๆก็เผลอหยิบติดมือมาด้วย ตอนนี้อิชั้นก็ลองฉีดดู อื้อหือ กลิ่นคนแก่ชัดๆ แต่ซื้อมาแล้วนิ รู้งี้หยิบกลิ่นส้มมายังจะดีกว่า เอาไงดี ฉีดๆใส่ตัวไปเหอะ แก่ก็แก่วะ 555
ปล ต้นกระบองเพชร ยังสบายดีกันทุกต้นนะคะ หวังว่าคงจะอยู่ด้วยกันยาวๆ
ที่ฟินแลนด์ไม่ได้มีภูเขาแบบนี้มากนักถ้าไม่ขึ้นไปทางเหนือของประเทศ แต่โดยปกติป้าลีและครอบครัวจะขึ้นเหนือปีละครั้งเพื่อพาเด็กๆไปเล่นสกีค่ะ ที่นั่นบางปีก็หนาวมาก -29 คือสถิติสูงสุดที่พวกเราเคยไป้สกีดาวฮิลค่ะ
แต่ - 38 คือสถิติของการติดลบที่ป้าลีเคยสัมผ้สในฟินแลนด์
หนูอยู่ทางนั้นเป็นไงมั่งคะ หนาวมากแค่ใหน เขียนมาเล่าเรื่องราวๆ สู่กันฟังเรื่อยๆ นะคะ ป้าลีขอเป็นแฟนคลับค่ะ