Less is now.
<<
มีนาคม 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
22 มีนาคม 2560

Hello Spring 2017





เริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิอย่างเป็นทางการแล้ว ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งค่ะ ถึงแม้ว่าวันนี้และสองสามวันต่อไป อากาศจะอึมครึมมีฝนบ้างนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ไม่ได้เลวร้ายนัก ยังพอเห็นแดดลางๆอยู่บ้างตอนกลางวัน สนามหญ้าข้างบ้านโดนฝนจากเมื่อคืนนิดหน่อย รู้สึกเหมือนจะมีสีเขียวแซมขึ้นมาเยอะ แต่ต้นเชอรี่ยังไม่ผลิใบ ตุ่มๆอะไรก็ยังไม่เห็น คงอีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ คงจะได้เห็นใบไม้เขียวๆกันบ้าง 

บันทึกนึกอยากเขียน ----------ชีวิตช่วงนี้ก็เริ่มออกนอกบ้านมากขึ้น อย่างเมื่อวานตอนเช้าติดรถพี่เมาเข้าเมืองเพื่อไปหาหมอฟัน ขูดหินปูนประจำทุกหกเดือน ปกติขูดที่ไทยครั้งนึง ที่นี่ครั้งนึง ที่ไทยจะขูดที่กรุงเทพครั้งละหนึ่งพันบาท ที่นี่ขูดกับหมอสาวตัวเล็กๆแต่มือหนักใช้ได้ 555 คือตั้งแต่อยู่อิตาลีมาสิบปีเนี่ย เปลี่ยนหมอฟันไปสามคนแล้ว คนแรก หมอผู้หญิงและผู้ชาย สามีภรรยา ทั้งคู่มือไม่หนักมาก แบบพอดีๆ แต่หมอทั้งสองปิดคลีนิค ไปเปิดใหม่ที่สเปน จะตามไปทำกับหมอก็กระไรอยู่ เลยหาหมอประจำตัวใหม่ ได้หมอผู้ชายรูปร่างหน้าตาดี พูดเพราะ ถ้าหมอขูดหินปูนให้เองจะดีมาก เพราะหมอมือนิ่ม โอเคเช่นกัน แต่หลังๆมานี่ หมอคิวเยอะ โยนอิชั้นไปให้ผู้ช่วยหมออีกคน ที่ไม่ใช่หมอฟัน แต่จบหลักสูตรที่ขูดหินปูนได้ ทำงานร่วมกับหมอฟันในคลีนิค เป็นสาวใหญ่ มือหนักมากและอิชั้นไม่โอเคกับคนนี้ ครั้งที่สองไปอีก ย้ำกับเลขาหมอแล้วว่า ขอหมอผู้ชายคนเดิมมาทำให้เท่านั้น แต่พอไปถึง หมอไม่ว่าง ต้องทำกับสาวคนนั้นอีก อิชั้นเลยโบกมือลา หาคลีนิคที่ใหม่ จนมาเจอที่นี่ เปิดใหม่อยู่ในบริเวณห้างซูเปอมาร์เก็ตอันใหญ่โตประจำจังหวัด เลยเข้าไปนัดคิว ครั้งแรกหมอแสกนช่องปาก(ฟรี) และบอกว่า ฟันโอเค ไม่ต้องอุดหรือทำอะไรเลย ยกเว้นเหงือกที่อักเสบอยู่บ่อยๆ แต่มาขูดหินปูนปีละสองครั้ง น่าจะโอเคแล้ว เมื่อวานลองไปทำครั้งแรก หมอสาวคนนี้โอเค มีผู้ช่วยมาช่วยถือเครื่องดูดน้ำลายด้วย ในไทยคงเป็นเรื่องปกติ แต่ที่อิตาลีนี่ ปกติเราถือประคอง แล้วหมอจะย้ายท่อไปดูดตรงนั้นตรงนี้เอง พนักงานต้อนรับหน้าเคาเตอร์พูดจาดี คลีนิคสะอาดสะอ้าน เปิดไฟสว่างไสว ดูแล้วน่าเข้าไปใช้บริการ เดี๋ยวจะแนะนำให้คนอื่นๆไปใช้บริการต่อ ค่าบริการขูดหินปูนครั้งละ 50 ยูโร ไม่แพงค่ะ ที่เก่าๆที่เคยไป จ่ายแพงกว่านี้อีก 

---------- หลังจากไปหาหมอฟันตอนเช้า เที่ยงๆไปกินข้าวเที่ยงกับพี่เมาและเพื่อนร่วมงานของฮี เพราะว่าเรามีโปรแกรมจะไปเที่ยวทางภาคใต้ของสเปนด้วยกันสี่วันช่วงสัปดาห์ที่สองเดือนเมษา บางคนอิชั้นรู้จักแล้ว แต่อีกสองคนนั้นไม่ แต่พอเห็นหน้าและได้พูดคุยกันนิดๆหน่อยๆ รู้สึกถูกชะตาด้วย คงจะเป็นทริปที่ไม่ได้สร้างความหนักใจหรืออึดอัดใจระหว่างกันและกัน แล้วจะถ่ายรูปมาลงบล็อกแน่นอนค่ะ

---------- เล่าเรื่องอาหารมื้อเที่ยงของคนแถวนี้หน่อยค่ะ แบบที่ร้านทำให้สำหรับพนักงาน มนุษย์เงินเดือนในแถบนี้กิน ชาวอิตาเลี่ยนย่านนี้จะกินมื้อเที่ยงตอน 13.00 หรือ 13.30 ส่วนใหญ่แล้วร้านอาหารจะเตรียมอาหารประจำวันไว้ แต่ก็มีทั้งเมนูปกติด้วยเช่นกัน แต่ที่นิยมสั่งกินเพื่อความสะดวกรวดเร็ว เป็นอาหารจานเดียวประจำวัน ทุกวันๆเมนูจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ วันที่อิชั้นไปกินนั้นมี สปาเก็ตตี้คาร์โนนาร่ากับเนื้อ roasted beef หั้นแล่มาให้สองชิ้นบางๆราดน้ำซอสและมันฝรั่งบด ใส่ในจานใหญ่มาให้หนึ่งจาน ราคาต่อคนอยู่ที่ 10 ยูโร รวมน้ำเปล่า ไวน์ขาวหรือแดงคนละแก้ว และแน่นอนว่ารวมกาแฟเอสเพรสโซ่ให้อีกคนละถ้วย (คือตีราคา 10 ยูโรไว้เลย ใครจะกินไม่ครบเซ็ทก็จ่ายเท่านี้ แต่ใครจะขอกินเกินมาตรฐานก็จ่ายส่วนต่างไป) แต่อิชั้นว่ามันคุ้มค่านะคะ อิ่มแบบพอดีๆ ในราคาประหยัดแบบนี้ วินๆกันทั้งสองฝ่าย ทางร้านก็รู้ว่าต้องเตรียมของเท่าาไหร่ อะไร ยังไง พนักงานก็ทำงานง่ายขึ้น ลูกค้าก็ได้กินอาหารปรุงสุกใหม่ๆประจำวันและรวดเร็วทันใจ) 

---------- หลังจากมื้อเที่ยง พี่เมาและเพื่อนๆเค้าก็ไปทำงานต่อ อิชั้นเดินแยกออกมาเพื่อไปห้องสมุดค่ะ ไม่ได้แวะมานานมาก เล็งๆหนังสือไว้สองเล่ม แต่ก็ยืมมาแค่เล่มเดียว เพราะถึงยืมมาสองเล่มก็คงอ่านไม่ทัน ภาษาอิตาเลี่ยนของอิชั้นยังไม่เต็มร้อย คราวนี้ยืมเรื่อง La ragazza con l'orecchino di perla ภาษาอังกฤษคงเป็น Girl with a pearl earring ก่อนยืมก็หยิบมาอ่านลองเชิงดูก่อน ก็พออ่านได้ค่ะ มีบางคำที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ และเต็มไปด้วยเท๊นส์ Passato remoto ใครเรียนอิตาเลี่ยนมาก็เริ่ม งงเด้ งงเด้ เหมือนที่อิชั้นเริ่มเป็น 555 แต่ก็จะพยามยามอ่านให้จบภายในสองอาทิตย์นี้ ศุกร์หน้าจะเอาไปคืน ให้คนอื่นเค้ายืมอ่านบ้าง 


---------- ส่วนวันนี้ ไม่มีไรมาก หยิบหนังสือเรียนภาษาอิตาเลี่ยนมาเหลือบตามองผ่านๆ และหุงข้าว ยืนหั่นผักรวมมิตร ต้มจับฉ่ายกินมื้อเที่ยง ก่อนที่จะมาเขียนบล็อกนี่ล่ะค่ะ ส่วนตอนนี้ปิดคอม ไปนอนอ่านหนังสือต่อละ เจอกันบล็อกหน้า สวัสดีค่ะ 

ปิดท้ายกับรูปดอกโครคุส ดอกไม้เจ้าแรกๆที่งอกหลังหิมะละลายค่ะ ดอกนี้งอกอยู่หน้าบ้าน














Create Date : 22 มีนาคม 2560
Last Update : 22 มีนาคม 2560 20:55:31 น. 1 comments
Counter : 1177 Pageviews.  

 
อ่านแล้วชิลๆ นะคะ กับชีวิตที่นั่น

(ตัวพิมพ์เล็กไปนิดค่ะ ป้าลีต้องใส่แว่นละมั๊งเนี่ย)


โดย: Lee Jay วันที่: 25 มีนาคม 2560 เวลา:14:07:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

settembre
Location :
Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




A minimalist mindset>>>minimalist lifestyle.
I try to pay attention to everything I buy and keep.
Now I live by the concept of BALANCE.




เริ่มนับจำนวนคนอ่าน วันที่ 22/04/15




New Comments
[Add settembre's blog to your web]