ตั้งแต่วันเสาร์ที่แล้ว ฝนตกทุกวัน บางวันพายุเข้า ต้นไม้เล็กใหญ่ล้มระเนระนาด ถนนบางช่วงต้องปิดเพื่อเคลียร์เส้นทาง และใครที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อดินถล่ม หรือน้ำป่าที่พาดินโคลนมาด้วย ต้องฟังข่าวพยากรณ์ทุกวัน หมู่บ้านเรามีอยู่เขตนึง บ้านของเพื่อนที่นอนไประแวงไป กลัวน้ำป่ากวาดพังไปพร้อมกับคนในบ้าน 

ส่วนอิชั้นนั้นก็เฉียดฉิว ไม่ใช่ตัวคนแต่เป็นเรื่องรถราของตัวเอง เกือบจะได้รถใหม่แล้วซี ลมพัดแรงจนแป้นบาสของหลานชายล้มลงมา ดีที่ไม่ทับรถ อย่างในรูปค่ะ ไม่งั้นละก็ ประกันจ๋า ได้เวลาเครมกันแล้วจ้ะ 

และคืนนั้นไฟก็ดับจากทุ่มครึ่งถึงเที่ยงคืนครึ่ง จุดเทียนกันไป แสร้งว่าโรแม้นซ์กันไปนะ เสียดายไม่มีเทียนใหญ่ๆอย่างเทียนพรรษาบ้านเรา ไม่งั้นจุดอันเดียว สว่างกันไปทั้งบ้าน 

ส่วนวันนี้วันศุกร์ ฝนก็ยังโปรยปรายอยู่บ้าง แดดใสๆก็ยังไม่กลับมา คุณสามีผู้ซึ่งหยุดพักร้อนหนึ่งอาทิตย์ ผู้ซึ่งซ่อมคอมพิวเตอร์ไปสามเครื่อง และเครื่องดูดฝุ่นอีกหนึ่ง ''ซ่อมแก้เซ็ง'' ในวันฝนพรำ สุดท้ายแล้ว ซ่อมเสร็จก็ต้องมีการทดสอบดูว่า ใช้ได้ไหม ดูดฝุ่นวนไปซิคะที่รัก 

ความจริงแล้ว อยากออกไปกินข้าวนอกบ้านกันบ้าง แต่เนื่องด้วยสภาวะอากาศแบบนี้ อยู่บ้านก็ได้ฟะ เดี๋ยวเดือนหน้าฮีก็ได้หยุดอีกหนึ่งอาทิตย์ ค่อยออกไปกินอาหารมื้ออร่อยๆกันสักมื้อเนอะ อาทิตย์นี้ก็อยู่บ้าน นั่งถือศีลภาวนาให้ฝนฟ้าหยุดตกซะที อยากออกไปเดินเล่น สูดอากาศดีๆนอกบ้าน ถึงแม้อุณหภูมิจะลดต่ำลง เหลือราวๆ 10 องศา แต่คลุมเนื้อคลุมตัวดีๆ ก็ไม่เป็นไรแล้ว

No matter if the sun shines or not, I'm alwalys shining in eveyday.

จบการเข้ามาบ่นขิงบ่นข่าเพียงเท่านี้ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ