|
ถ้าสติไม่อยู่กับตัว
(สำหรับ วันที่ 14 ก.ย. เวลา 16.30 18.00)
พบปะพูดคุยกับ ขุนเขา ริมน้ำ นักเขียนอิสระ เจ้าของสำนักพิมพ์อิราโต้ พับลิชชิ่ง กับผลงานเขียนเรื่อง ตราบโลกนี้ยังหมุนรอบตัว, มุมมองชีวิต และอุ่นรัก อุ่นเหงา
พร้อมแขกรับเชิญ โดม วุฒิชัย ในหัวข้อ เรียนรู้รัก..เข้าใจชีวิต
ร่วมเจาะลึก โดย คุณวริศวรรณ บุญวงษ์ (นุช ตี 10)
คลิกดูรายละเอียดได้ที่ //www.doubleabooktower.com
---------------------------
เพิงพเยีย
พ่อพเยีย (ตอน อายุ 25-26 ปี)
เพลงนี้ชื่ออะไรไม่มั่นใจ ดูเหมือนจะชื่อ "กุหลาบแดง"
ขับร้องโดยคุณไก่ พรรณิภา
จำได้ ว่ามีท่อนฮุคดังมากในยุคสมัยหนึ่ง
(ปลูกกุหลาบแดงไว้เพื่อเธอ...เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก)
ได้โค้ดเพลงที่บล็อกของคุณ cozmen ก็เลยเอามาฝากให้ฟังกัน
และขอมอบเพลงนี้เป็นพิเศษแด่...คุณยานา
ในฐานะที่เป็นเพื่อนเก่ากับคุณไก่ พรรณิภา
เผื่อได้ฟังแล้วอาจทำให้หวนรำลึกถึงความหลังครั้งก่อน
มองเห็นความจริงไหมว่า...ชื่อเสียงและความโด่งดังนั้นไม่มีอะไรแน่นอน
เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุและปัจจัยเสมอ
----------------------------------------------------------
ต้องทราบไว้ด้วยว่า เราเกิดความโลภทีหนึ่ง
มันจะเกิดอาสวะหรืออนุสัยเกี่ยวกับความโลภเพิ่มขึ้นครั้งหนึ่ง
คือจะโลภเก่งมากขึ้น ทุกคราวที่เราได้มีความโลภ.
อย่างโกรธเข้ามาทีหนึ่งนี้มันจะเพิ่มความเก่งในความโกรธมากขึ้นอีก. ความเก่งที่จะโลภ ความเก่งที่จะโกรธ ความเก่งที่จะหลง
เขาเรียกว่าอาสวะบ้างอนุสัยบ้าง
กล่าวคือความเคยชินที่จะโลภ จะโกรธ จะหลงนั้นมันเพิ่มขึ้นทุกทีๆ.
ฉะนั้นเราหยุดเสียได้ทีหนึ่งมันก็ลดความเคยชินลงไปได้
หยุดได้บ่อยๆมันก็ลดความเคยชินลงไปได้
เราเก่งในทางที่จะเพิ่ม ไม่เก่งในทางที่จะลด
อะไรมารักก็รัก อะไรมาโกรธก็โกรธ อะไรมาหลงก็หลง
ทีนี้มันก็เพิ่มอาสวะที่จะโลภ จะโกรธ จะหลงมากเกินไป
เมื่อต้องการจะละจะบรรเทาก็ต้องทำ :
มาให้โกรธอย่าโกรธ มาให้รักอย่ารัก
แล้วมันจะลดอำนาจของความเป็นอย่างนั้นลงไปๆ"
(พุทธทาสภิกขุ)
--------------------------------
ขณะที่ผมนั่งอยู่ในห้องเงียบๆจู่ๆผมก็นึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมานานแล้ว ผมจำได้ว่าเคยดูรายการที.วี.รายการหนึ่งที่มีการสัมภาษณ์ผู้หญิงที่ถูกข่มขืนบนรถไฟโดยพนักงานรถไฟคนหนึ่ง ก็น่าเห็นใจเธออยู่หรอกที่มาพลาดพลั้งเสียท่าให้พวกบ้ากามเข้า แต่ทว่าฟังเธอเล่าถึงรายละเอียดตั้งแต่ก่อนจะถูกข่มขืนจนกระทั่งแจ้งความเสร็จแล้ว กลับทำให้ผมนึกถึงเรื่องการมีสติอยู่กับตัวขึ้นมา
ผมมองด้วยสายตาคนภายนอกเข้าไปในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรื่องราวแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย แต่สิ่งที่ไม่คิดว่าน่าจะเกิดขึ้นได้นั้นก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ใครจะคิดว่าจะมีการข่มขืนกันขึ้นได้บนรถไฟขณะที่รถไฟกำลังวิ่ง ใครจะคิดว่าคนเราจะมีความกำหนัดเกิดขึ้นท่ามกลางการเดินทางของผู้คนจำนวนมาก สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเสียงอึกกระทึก และอื่นๆอีกมากมายที่ไม่น่าจะเกิดเรื่องราวเหล่านี้ได้ ในมุมหนึ่งก็คือตัณหาหน้ามืดเกิดขึ้นกับมนุษย์เพศผู้ที่เห็นผู้หญิงเป็นเหยื่อ แต่อีกมุมหนึ่งของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ สถานการณ์ที่ชั้นนอนรถไฟซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนอย่างนั้น ถ้าไม่ยินยอมพร้อมใจแล้วเป็นเรื่องยากนักที่จะเกิดขึ้นได้ ผมไม่ได้หมายความว่าเธอยินยอมพร้อมใจให้เกิดขึ้นนะครับ เพียงแต่จะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากจริงๆ แต่ที่เกิดขึ้นเพราะเธอถูกขู่บังคับ หากว่าถ้าเธอมีสติสัมปชัญญะเพียงเล็กน้อย เหตุการณ์ที่เผชิญอยู่ต่อหน้านั้นย่อมมีโอกาสพลิกผันเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน แต่นี่ก็เป็นการมองจากสายตาของคนที่มองจากภายนอกเข้าไปเท่านั้น ถึงตรงนี้ผมยิ่งมองเห็นความสำคัญของสติมากยิ่งขึ้น กรณีนี้ถ้าเธอมีสติใช้ควบคู่กับสัมปชัญญะให้ทันเวลา รับรองว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นและจะไม่จบลงแบบนี้แน่นอน เธอมีการศึกษาระดับปริญญาโท ทำงานระดับหัวหน้าคนในบริษัทใหญ่โต แน่นอนเธอต้องเป็นคนที่มีการศึกษามีความรู้และสติปัญญา แต่ในเหตุการณ์ที่คับขันอย่างนั้นเธอ "ตั้งสติ" ไม่ได้
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนตู้นอนรถไฟ ซึ่งมีคนอื่นนอนอยู่ใกล้ๆด้วยไม่น้อย ผมมองเห็นว่ามีทางออกอื่นๆอีกถ้าเธอตั้งสติได้ ถ้าเธอไม่มัวคิดถึงแต่ แม่ หรือคิดถึงแต่ กลัวตาย เพียงแต่ถ้าเธอได้คิดว่าทำอย่างไรจึงจะทำให้เธอรอดพ้นจากการข่มขืนจากเขา เธออาจจะแกล้งพูดกับเขาดีๆก่อนก็ได้เพราะสังเกตว่าเธอก็เป็นคนพูดเก่งทีเดียว หรือคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะให้คนในโบกี้ข้างเคียงรู้ หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่ผ่านพ้นไปแล้วตอนนั้นเธอก็ไม่น่าจะต้องรอให้มาถึงปลายทาง ผมสรุปว่าเธอไม่ได้ใช้สติที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เธอปล่อยให้ความกลัวอยู่เหนือสตินั่นเอง ผมไม่ได้คิดจะซ้ำเติมหรือว่ากล่าวเธอในเรื่องนี้ แต่อยากยกให้เป็นอุทธาหรณ์ว่าเรื่อง สตินั้นสำคัญขนาดไหน ? เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการฝึกฝนให้มีสติอยู่ตลอดเวลาจนให้เกิดเป็นความเคยชิน ผมจำได้ว่ารายการเดียวกันนี้แหละเคยสัมภาษณ์นักศึกษาสาวคนหนึ่งที่รอดพ้นจากการถูกข่มขืนและเกือบถูกฆ่า จากสถานการณ์ที่เลวร้ายมากๆ ทั้งที่ฟังจากเรื่องที่เธอเล่ามานั้นเธอไม่น่ารอดชีวิตมาได้เลยด้วยซ้ำ เพราะเธออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีใครที่จะให้ความช่วยเหลือได้เลย ทั้งที่เธอถูกฝ่ายชายใช้พละกำลังย่ำยีอีก เธอเกือบเสียท่าอยู่รอมร่อและเกือบจะถึงขั้นถูกฆ่า ผมจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ แต่จำได้เพียงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอนั้นเหมือนกับที่เคยดูในภาพยนตร์ แล้วนางเอกก็รอดพ้นจากผู้ร้ายข่มขืนด้วยความเก่งกล้าสามารถ เพียงแต่มันเป็นเรื่องจริงเท่านั้นเอง แต่ครั้งนั้นผมจำได้อยู่อย่างเดียวว่าที่เธอรอดเหตุการณ์นั้นมาได้ด้วยสติ ในสถานการณ์ที่เลวร้ายและน่ากลัวกว่าเธอที่ถูกข่มขืนในรถไฟ แต่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกลับได้รับผลต่างกันอย่างคนละด้าน สถานการณ์และสภาพแวดล้อมของรายแรกนั้นแทบจะไม่น่าพลาดถูกข่มขืนได้เลย แต่เหยื่อกลับถูกข่มขืนสำเร็จ แต่ในขณะที่กรณีหลังตกอยู่ในสถานการณ์ไม่น่ารอดเลยแต่เธอกลับเอาตัวรอดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในเมื่อเหตุการณ์ผ่านมาถึงขั้นนี้แล้วก็ได้แต่อวยพรให้เธอหายบอบช้ำทางด้านจิตใจในเร็ววัน และก็ขอขอบคุณเธอแทนผู้หญิงทุกๆคนที่ออกมาเล่าเรื่องที่เธอเผชิญมาให้คนอื่นฟัง เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ในการระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น หากวันหนึ่งวันใดที่ผู้หญิงคนหนึ่งคนใดเผชิญกับสถานการณ์ที่เหมือนกับเธอหรือใกล้เคียงกับเธอ จะได้ไม่กระทำเหมือนที่เธอทำอีก เพราะได้พิสูจน์แล้วว่าที่เธอตัดสินใจเผชิญเหตุการณ์ด้วยวิธีแบบนั้นไม่สามารถรอดพ้นได้ จึงน่าจะมีหนทางอื่นให้เลือกอีก นั่นคือเรื่องเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของทุกๆคน นานๆจึงจะได้ยินได้ฟังสักครั้ง แต่ถึงกระนั้นเรื่องสติที่เราเคยได้ยินอยู่บ่อยๆนั้นไม่ใช่เรื่องที่รอใช้เฉพาะเหตุการณ์ใหญ่ๆหรือเมื่อยามเจอปัญหาวิกฤตเท่านั้น ในชีวิตประจำวันแต่ละวันเหตุการณ์ปกติตั้งแต่ตื่นขึ้นมานั้น สติเป็นเรื่องที่จำเป็นไม่น้อยไปกว่าการหายใจเลย ผมยังจำที่ท่านพุทธทาสภิกขุเคยเทศน์ไว้ในทำนองว่า สตินั้นใช้ตั้งแต่เรื่องเล็กๆคือการเกาเวลาคัน ถ้าหากเราคันแล้วเราเผลอเกาอย่างไม่มีสติ จุดเล็กๆที่รู้สึกคันเพียงเล็กน้อยนั้นก็อาจจะกลายเป็นแผลได้ เพราะฉะนั้นการมีสติสัมปชัญญะจึงเป็นเรื่องจำเป็นตั้งแต่เรื่องเล็กๆในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงเรื่องการปฏิบัติธรรมขั้นบรรลุมรรคผลด้วยการเจริญสติก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้สติ ตั้งแต่เล็กจนโตเราเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสติมามากมาย แต่ไม่เคยคิดว่าสติจะมีความสำคัญมากมายขนาดนี้
ยิ่งนึกย้อนหลังจากชีวิตในวัยวันที่ผ่านมา จากวัยหนุ่มจนล่วงเลยมาถึงวันนี้ ความผิดพลาดที่ได้กระทำนั้นล้วนมีต้นเหตุจากการขาดสติเกือบทั้งนั้น แม้กระทั่งประทุษร้ายสติสัมปชัญญะตัวเองด้วยการดื่มกินและเสพของเมานานาชนิดในตอนนั้นก็ยังไม่เห็นโทษของการขาดสติ กลับกลายว่ามองเห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน บางคนเสียหายเกือบถึงชีวิตเพราะความคึกคะนองขาดสติ บางรายเสียอนาคตเพียงขาดสติชั่ววูบ หลวงพ่อชาเคยบอกว่า คนเราถ้าขาดสติไปห้านาทีก็เหมือนคนบ้าไปห้านาที นั่นแหละ แต่ทุกๆวันในชีวิตประจำวันที่เป็นอยู่เราดำเนินชีวิตกันอย่างขาดสติโดยไม่รู้ตัว เรามีเครื่องดื่มที่ประทุษร้ายสติสัมปชัญญะของตัวเองขายเกลื่อนกลาด เรามียาเสพติดที่ช่วยให้เสียสติให้เสพมากมาย บางทีเราก็คล้ายๆกับว่าดำเนินชีวิตอย่างสติสมบูรณ์พร้อม อาจจะดูมีสติในการข้ามถนน มีสติในการขับรถไม่ประมาท มีสติในการไม่ไปฆ่าฟันหรือทำร้ายผู้อื่น มีสติในสิ่งที่เห็นได้ง่าย แต่เรากับขาดสติในการดำเนินชีวิตอย่างไม่รู้ตัว เราหลงตัวเอง เราหลงรักเงินทอง เราหลงสิ่งต่างๆอย่างไม่รู้ตัว มุ่งหน้าหาเงินแต่เพียงอย่างเดียวราวกับชีวิตนี้ไม่มีวันตาย เราลืมที่จะความสุขที่อยู่กับปัจจุบัณขณะ เราผลัดว่าจะมีความสุขในวันข้างหน้า เราไขว่คว้าหาแต่เงินทองมารวมกองกันไว้ แล้ววันหนึ่งเราก็จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีโอกาสได้รู้จักกับคำว่า ชีวิต อย่างแท้จริง
เมื่อคืนนี้ได้ดูรายการ VIP คุณพิมใจ อินทะมูล หญิงเหล็กผู้น่ารักเป็นแขกของรายการ เธอบอกว่า "ขอบคุณที่เป็นเอดส์ เพราะทำให้เธอเห็นคุณค่าของชีวิต" บัดนี้เธออยู่กับเชื้อเอชไอวีมา 19 ปีแล้ว เธอดูแลสุขภาพกายและใจอย่างดี ซ้ำยังบำเพ็ญตัวเป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมมากมาย และดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีสติตลอดเวลา ถึงแม้ใครจะบอกว่าเธออายุจะสั้นแต่เธอบอกว่าเธอมีความสุขทุกนาที
ถึงวันนี้เธอบอกว่าไม่กลัวความตายแล้ว จะมีอะไรเบิกบานและปลอดโปร่งเท่ากับชีวิตที่อยู่อย่างไม่กลัวความตายเล่า ? เพราะถ้าไม่กลัวความตายเสียอย่าง ก็ไม่เห็นมีอะไรที่จะต้องกลัวอีก ขอบคุณเธอที่ออกมาแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตให้ฟัง (มีหนังสือเกี่ยวกับประวัติของเธอ ชื่อ เช้าวันใหม่ ในเงามืด เขียนโดย อรสม สุทธิสาคร) ขณะที่ผมนั่งเขียนหนังสืออยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง ผมได้ข่าวความตายของคนในหมู่บ้านเดียวกัน ทำให้ผมระลึกได้ว่า ชีวิตและความตายไม่ได้อยู่ห่างไกลกันเลย มันอยู่ใกล้กันแค่หายใจกับไม่หายใจเท่านั้น และการที่จะเตรียมตัวตายให้ดีที่สุดก็คือการดำเนินชีวิตในแต่ละวันอย่างมีสตินั่นเอง
------------------------------------------
Create Date : 04 กันยายน 2550 |
|
71 comments |
Last Update : 6 กันยายน 2550 20:25:29 น. |
Counter : 1126 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 4 กันยายน 2550 18:02:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทะเล IP: 58.9.160.165 4 กันยายน 2550 18:07:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภาคี IP: 203.113.50.14 4 กันยายน 2550 18:10:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 4 กันยายน 2550 18:37:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลูกของพ่อค่ะ (lukkongpoka ) 4 กันยายน 2550 20:19:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาเครญา IP: 58.10.64.248 4 กันยายน 2550 20:26:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทะเล IP: 58.9.91.126 4 กันยายน 2550 20:46:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: mojigirl 4 กันยายน 2550 21:45:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: mojigirl 4 กันยายน 2550 22:07:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าซ่าส์ 4 กันยายน 2550 22:10:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าซ่าส์ 4 กันยายน 2550 22:21:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 4 กันยายน 2550 23:32:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 4 กันยายน 2550 23:39:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: shin chan (alei ) 5 กันยายน 2550 3:21:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.149.139 5 กันยายน 2550 7:33:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยานา IP: 61.7.173.13 5 กันยายน 2550 8:01:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 5 กันยายน 2550 13:03:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.149.139 5 กันยายน 2550 13:26:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.149.139 5 กันยายน 2550 13:28:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.233.159 5 กันยายน 2550 13:54:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าซ่าส์ 5 กันยายน 2550 14:01:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าซ่าส์ 5 กันยายน 2550 14:03:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: p.tim IP: 222.123.82.172 5 กันยายน 2550 16:09:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าชุ IP: 86.142.11.200 5 กันยายน 2550 16:31:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: p tim IP: 222.123.82.172 5 กันยายน 2550 18:29:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาเครญา IP: 58.10.64.248 5 กันยายน 2550 19:18:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทะเล IP: 58.9.162.51 5 กันยายน 2550 19:28:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.60.14 5 กันยายน 2550 20:02:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 5 กันยายน 2550 21:06:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: filmgus 5 กันยายน 2550 21:46:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยานา IP: 61.7.173.163 5 กันยายน 2550 22:22:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 5 กันยายน 2550 23:00:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าซ่าส์ 5 กันยายน 2550 23:44:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.91 6 กันยายน 2550 6:03:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยานา IP: 61.7.173.37 6 กันยายน 2550 7:40:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.149.139 6 กันยายน 2550 8:38:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) 6 กันยายน 2550 11:39:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: p_tham 6 กันยายน 2550 17:14:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: p_tham 6 กันยายน 2550 17:15:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาเครญา IP: 58.10.64.248 6 กันยายน 2550 18:58:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ขุนเขา ริมน้ำ IP: 124.121.226.140 6 กันยายน 2550 20:56:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: shin chan (alei ) 6 กันยายน 2550 23:46:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฮอลล์ IP: 58.8.133.25 7 กันยายน 2550 3:24:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฮอลล์ IP: 58.8.133.25 7 กันยายน 2550 3:29:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: mojigirl 7 กันยายน 2550 10:42:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: J IP: 203.154.114.253 7 กันยายน 2550 11:07:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตะโกลา (ปลาท่ีถูกทอดทิ้ง) IP: 58.9.142.76 7 กันยายน 2550 14:03:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 7 กันยายน 2550 20:37:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.86 8 กันยายน 2550 9:02:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 8 กันยายน 2550 14:32:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 8 กันยายน 2550 14:39:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 8 กันยายน 2550 15:47:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าซ่าส์ 8 กันยายน 2550 16:34:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 8 กันยายน 2550 16:51:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: นกบาดเจ็บ IP: 125.26.182.254 8 กันยายน 2550 17:13:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: jam (สีน้ำฟ้า ) 8 กันยายน 2550 21:15:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: บอนหวาน 8 กันยายน 2550 23:19:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ขวัญ IP: 77.49.209.98 16 พฤษภาคม 2551 4:49:02 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
ด้วยความยินดี... หากมีผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่าย,บทความ หรือข้อเขียนต่างๆ ใน Blog นี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด สามารถทำได้เลยทันที โดยไม่ต้องขออนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
เว้นเสียแต่ว่า
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย
|
|
|
|
|
|
|
สวัสดีครับทุกๆท่าน พอดีผมอัพบล็อกใหม่ เลยขอยกคอมเม้นท์ที่ยังไม่ได้ตอบในหน้าที่แล้ว เอามาไว้ที่นี่
ไว้มีเวลาค่อยคุยกันนะครับ
--------------------------------
อ่า..สวัสดีทุกๆคน คะ
อืม..เขิน...น จริงเลย (พี่โดม จะดีเหรอ ..เอ่อ ก็ได้)
พอดีแม่..ชอบมีข้อคิดและคำคม
(ไม่รู้จะเรียกว่า "อะไร"จึงถูกต้องตามภาษาไทย )
แต่อาเครญา ขอเรียกว่า คำคมข้อคิดของแม่ ก็แล้วกันคะ
ขอเริ่มต้น......คำว่า"ยิ่งหยุดยิ่งไกล ยิ่งไปยิ่งใกล้"คะ เป็นคำที่แม่จะคอยกระตุ้นให้เราไม่ท้อแท้ เมื่อเจอกับระยะทางข้างหน้าที่
ทีมองดูด้วยสายตาแล้ว "ไกลมาก"จริงๆ สำหรับก้าวเท้าเล็กๆของเรา
แม่มักบอกเมื่อเราขอพักและ"หยุด"เดิน
"ยิ่งหยุดยิ่งไกล ยิ่งไปยิ่งใกล้" นะลูก
เมื่อเยาว์...เราไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก แต่ก็รู้สึกได้เมื่อ.."เราแม่ลูก"ไปถึงจุดหมาย แห่งการเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจนั้นๆเสร็จสิ้น ได้บรรลุ...
เป็นตัวอย่างเล็กๆคะ
ปัจจุบัน อาเครญา เอามาใช้กับตัวเองเสมอๆเมื่อเจอปัญหา หรือเกิดอาการ "ไม่อยากเดิน"
คำนี้ของแม่ ยัง
โดย: อาเครญา IP: 58.10.64.151 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:17:55:11 น.
ห่างไกล ไม่ห่างกัน 88
สวัสดีตอนเย็นๆค่ะ พี่โดม
วันนี้รู้สึกว่าพี่โดมจะอารมณ์ดีกว่าทู๊ก..วันหรือเปล่า..
ตอบคอมเมนท์ได้" โดน " ใจมาก ลุงแก่ๆคนหนึ่งชอบมานั่ง
ดื่มเบียร์ตอนเย็นๆทุกวัน จนต้องถามว่าหนูเป็นอะไร นั่งหน้าจอหัวเราะอยู่คนเดียวไปได้..
เขาว่าหนูบ้า...
โดย: ยานา IP: 61.7.173.183 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:18:40:37 น.
ห่างไกล ไม่ห่างกัน 89
สวัสดีจ๊ะคุณโดมและมิตรรักทุกท่าน
หลังจากสอบผ่านก็ไม่ได้ฉลองอะไรทั้งนั้น
แต่อลันดีใจจนออกนอกหน้าโทรไปบอกญาติๆทั่วไปหมด
เมื่อวานฉันไปบ้านเพื่อนที่สอบไม่ผ่าน และมีเพื่อนอีกคนมาสมทบ สองคนนี้ไปสอบพร้อมกันและไม่ผ่าน ทั้งสองจึงขอร้องให้ฉันช่วยติวให้ ใจจริงฉันอยากจะช่วยเขามาก คนนึงเรียนจบ ป.6 ส่วนอีกคนเรียนจบ ม. 6
คนที่ทำให้ฉันหนักใจมากคือคนเรียนจบ ป.6 เพราะเธอเขียนภาษาไทยยังสะกดไม่ค่อยจะได้เลย
ปัญหาคือทั้งสองคนอ่านไม่ค่อยได้ และไม่เข้าใจความหมาย
ฉันกลับบ้านพร้อมกับความหนักใจ ก่อนกลับฉันได้แนะนำคนที่เรียนจบ ป.6 ว่าถ้ารอบนี้สอบไม่ผ่านก็ให้เข้าคอร์สเรียนภาษาเลยเพื่อให้ฐานแน่นก่อน
วันนี้เพิ่งกลับจากไปซื้อของที่ร้านของชำ ก็ได้เจอคนไทยทีกำลังจะไปสอบเร็วๆนี้เหมือนกัน 3 คน แต่ละคนเรียนจบ ป.6 กันทั้งนั้น
อ้อ....ลืมบอกไป..เข้าบล็อกหลายครั้งว่าจะพูดก็มัวพล่ามเรื่องอื่นซะก่อนเลยลืมทุกที
รูปคุณโดมตรงขวามือไม่เหมือนรูปหน้าตรงๆเลยนะ
แต่ก็ดูดีไปคนละแบบ ไม่อยากเชื่อว่าคนเดียวกัน
โดย: ป้าชุ IP: 86.142.11.200 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:21:05:32 น.
ห่างไกล ไม่ห่างกัน 90
หนูมารายงานตัวว่าอยู่กระบี่ค่ะ
(งานชิ้นสำคัญ อันคือภาระและหน้าที่..ที่ทำบัญชีให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเกาะพีพี) งานกำลังจะเสร็จแล้ว
หวังว่าจบงานนี้ หนูไปอบรมเขียนข่าวกะเทคนิคถ่ายภาพที่ จ.สุราษฎร์ พร้อมกับเปิดตัวเว็บที่หนูกับน้านพ ช่วยกันออกแบบให้ทาง สังฆมณฑลสุราษฎร์(คาทอลิค) ด้วย แอบปลื้มเล็กๆ ว่าเขาจะเปิดตัวว่าแจมกับน้าเป็นเว็บมาสเตอร์ด้วย
หลังจากนั้นก็ต้องปั่นนิยายให้เสร็จ อยากส่งนิยายประกวด (ของเดิมหายหมด่แล้ว) ให้ทันสิ้นเดือนกันยา (วิตกเหมือนกัน วันก่อนกลอนพานแว่นฟ้าก็ทำไม่ทัน)
แล้ว..ช่วงระหว่างนั้น..ฮิฮิ.. ช่วงระหว่างเขียนนิยาย ฝันเล็กๆ ว่าคงมีอิสระได้เดินทางอีกครั้ง หนนี้อยากไประยอง นอกจากเยี่ยมลูกค้า(ที่เราออกแบบเว็บให้) ก็อาจจะได้พบคุณหทัยชนก
เฮ้อ..แต่ตอนนี้ต้องไปเคลียร์งานก่อนแล้ว
แล้วจะแว่บมาอีกค่ะ.. จุ๊ๆ อย่าบอกใครน๊า ว่าสีน้ำฟ้าอู้งานมาโผล่ที่บล็อกพี่โดม
โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.164.85 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:21:11:34 น.
ห่างไกล ไม่ห่างกัน 91
มาร่วมแสดงความยินดีกับ ป้าชุ ค่ะ
ฝากสุขสันต์วันเกิดแม่น้องนิกด้วยค่ะ
อาโดมคะ สมองคนเรามีรอยหยักๆ มาจากการที่คนเราคิด ใช่มั้ยคะ นกจะพยายามอ่าน คิด เขียน บ่อยๆ ค่ะอา
อยากเก่งต้องเรียนรู้
มีครูอยู่ทุกที
เรียนรู้แล้วได้ดี
ทำอย่างนี้ " สุ จิ ปุ ลิ" ไง.....
โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:21:21:12 น.
ห่างไกล ไม่ห่างกัน 92
ถึงจะเครียดเล็กน้อย แต่หากยังนอนหลับได้ เมื่อตื่นขึ้น..ยังสนุกและรู้สึกเอ็นจอยกับงานที่ทำ ก็น่าจะไม่หลงทางนะ....รึเปล่า???
มีคนเคยบอกว่า .. หากไม่เคยทุกข์ แล้วจะรู้ว่าได้งัยว่าอะไรคือสุข..
ขอบคุณคะ สำหรับกำลังใจดี ในวันนี้ ได้อมยิ้มก่อนนอน Have a good night วันนี้ก็จะได้ Good morning พรุ่งนี้งัย..
การทำให้คนอื่นมีความสุขเนี่ยะ เค้าว่าได้บุญแรงนักเชียว.... แต่หากไม่สม่ำเสมอเนี่ยะ จะบาปไหมหนอ ????
โดย: ทะเล IP: 58.9.91.126 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:23:20:20 น.
ห่างไกล ไม่ห่างกัน 93
ต๊ายยย..คุณโดม คืนละสองร้อย
ทั้งหลัง หรือห้องเดียวคะ มีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองไทยอีก
เรายกโขยงกันไปนอนซะดีแมะ
น่าสนุกออกค่ะ ตื่นขึ้นมาเห็นน้ำ
เหมือนนอนริมทะเล
พูดอย่างกับแต่ละคนมีเวลาว่างตรงกันงั้นแหละ แต่แม่น้องนิกฝันเอาไว้น่ะค่ะ มีครั้งนึงดูทีวีเห็น
ร้านอาหารจีน กินทั้งโต๊ะ 4000 บาท กี่คนก็ได้ เห็นแล้วอยากพาพี่ไปกิน แต่หน้าที่ลอยมานี่ เป็นหน้าพี่หนอนฯกับหนูแป้งนะคะ
ว่าท่าจะชอบกินและกินได้เยอะ
ไม่ได้ว่าพี่เขานะคะ แต่กินแล้วต้องคุ้มอ่ะค่ะ นึกอย่างนี้แหละ
ตรงไปหรือปล่าวคะพี่หนอนฯ
โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.66 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:0:21:51 น.
ห่างไกล ไม่ห่างกัน 94
คุณพ่อพเยียคะ ใช่ค่ะ ROOTS เป็นเรื่องของทาส แต่ที่ไม่น่าเชื่อ ผู้เขียนก็คือลูกเหลน รุ่นที่ 8 (ถ้าจำไม่ผิด) ของ "Kunta Kinte" ตัวเองไม่เคยอ่านเรื่องนี้ค่ะ ก็เพิ่งจะได้ดูแบบชัดๆ ที่กาน่านี่ล่ะค่ะ
คุณป้าชุคะ ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ มิน่าล่ะ ไม่ค่อยเห็นเรื่องเขียนของคุณป้าชุ ตอนนี้คงได้อ่านแบบเต็มๆ บ้างนะคะ
คุณสีน้ำฟ้า ถ้าอยากได้วัตถุดิบเขียนนิยายแบบแปลกๆ ลองมาหาวัตถุดิบที่แอฟริกาไหมคะ อาจจะได้เรื่องแบบตะลึงตึงๆๆ ก็ได้นะ
คุณp tim คะ...
ดีใจจังเลยค่ะ มีเพื่อนร่วมอุดมกาม เดียวกันแล้วววว (อุ้ยทำไมต้องมาทำหน้าตาแบบนี้ห้องคุณพ่อพเยียด้วยเนี่ยยยยย)
โดย: shin chan (alei ) วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:3:32:10 น.
ห่างไกล ไม่ห่างกัน 95
โดย: ชมจันทร์ IP: 202.29.77.2 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:11:03:23 น.
ห่างไกล ไม่ห่างกัน 96
แบบว่า.."เมา" ออกมาจากสำนักงานบัญชี พอถึงบ้านก็เปิดบล็อกแก๊ง บ้านตัวเองไม่มีคนคุยด้วย มาหาแถวนี้ดีกว่า อิอิ
เลื่อนเม้าส์ขึ้นๆ ลงๆ
ขอคุยกับคุณ shin chan ดีกว่า อิอิ.. ก็เล่นชวนกันไปไกลขนาดนั้น.. เอ่อ ละห้อยเลยค่ะ
โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.149.214 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:11:40:23 น.
ห่างไกล ไม่ห่างกัน 97
แวบแรกที่เข้ามาอ่านแบบผ่าน ๆ พบที่แพรจารุ พูดว่า "ในงานชุมนุมนักเขียน ๔ ภาค มีการพูดถึงเรื่องบล็อก"
ลุงใจหายวาบคิดว่า "โดนของฉันเข้าแล้วกระมัง" ใจคิดระแวง
แต่พออ่านพบคำเฉลยเป็นว่า "เพื่อเขียนเรื่องแนวเกาหลี" ก็โล่งใจไป
ที่นครศรีธรรมราชก็มีนักเขียน(ซีไรท์) คนหนึ่งพูดถึงเรื่องบล็อกกับนักเขียนเหมือนกัน....
แต่ยังไม่เฉลยในที่นี้หรอก ขออุบไว้มั่ง เรียกร้องความสนใจ (ไม่หัวเราะแล้ว เดี๋ยวโดนว่า)
โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.236.156 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:16:30:05 น.
ห่างไกล ไม่ห่างกัน 98
แม่น้องนิกจ๊ะ
ที่ว่า "ร้านอาหารจีน กินทั้งโต๊ะ 4000 บาท กี่คนก็ได้ เห็นแล้วอยากพาพี่ไปกิน แต่หน้าที่ลอยมานี่ เป็นหน้าพี่หนอนฯกับหนูแป้งนะคะ
ว่าท่าจะชอบกินและกินได้เยอะ"
ฮะ ฮ่า รู้ได้ไงเนี่ย
โป๊ะเชะเลย
แต่ถ้ามาเมืองไทย อยากกินอาหารจีน ฝีมือใช้ได้ ราคาไม่แพง มีภัตตาคารที่รู้จักกัน จะพาไปชิม
ป้าชุจ๊ะ
ขอแสดงความยินดีที่สอบผ่านเรียบร้อย หายห่วงกังวลไปอีกเรื่องนะ
อาเครญา
ชอบคำคมของแม่จังที่ว่า "ยิ่งหยุดยิ่งไกล ยิ่งไปยิ่งใกล้" จะเก็บไว้สอนลูกบ้าง
ผู้คนบ้านพ่อพเยียคึกคักจัง มีเวลาน้อยก็เลยทักทายไม่ทั่วค่ะ เอาเป็นว่าสวัสดีทุก ๆ คน แล้วค่อยมาคุยใหม่ค่ะ
โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 202.28.180.201 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:17:28:55 น.
สวัสดีครับทุกๆท่าน พอดีผมอัพบล้อกใหม่ เลยขอยกคอมเม้นท์ที่ยังไม่ได้อบในหน้าที่แล้ว เอามาไว้ที่นี้ ไว้มีเวลาค่อยคุยกันนะครับ