จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
4 กันยายน 2550
 
All Blogs
 

ถ้าสติไม่อยู่กับตัว



(สำหรับ วันที่ 14 ก.ย. เวลา 16.30 – 18.00)


พบปะพูดคุยกับ ขุนเขา ริมน้ำ นักเขียนอิสระ เจ้าของสำนักพิมพ์อิราโต้ พับลิชชิ่ง
กับผลงานเขียนเรื่อง ตราบโลกนี้ยังหมุนรอบตัว, มุมมองชีวิต และอุ่นรัก อุ่นเหงา

พร้อมแขกรับเชิญ โดม วุฒิชัย ในหัวข้อ “เรียนรู้รัก..เข้าใจชีวิต”

ร่วมเจาะลึก โดย คุณวริศวรรณ บุญวงษ์ (นุช ตี 10)



คลิกดูรายละเอียดได้ที่ //www.doubleabooktower.com



---------------------------






เพิงพเยีย





พ่อพเยีย (ตอน อายุ 25-26 ปี)






เพลงนี้ชื่ออะไรไม่มั่นใจ ดูเหมือนจะชื่อ "กุหลาบแดง"

ขับร้องโดยคุณไก่ พรรณิภา

จำได้ ว่ามีท่อนฮุคดังมากในยุคสมัยหนึ่ง

(ปลูกกุหลาบแดงไว้เพื่อเธอ...เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอก)

ได้โค้ดเพลงที่บล็อกของคุณ cozmen ก็เลยเอามาฝากให้ฟังกัน

และขอมอบเพลงนี้เป็นพิเศษแด่...คุณยานา

ในฐานะที่เป็นเพื่อนเก่ากับคุณไก่ พรรณิภา

เผื่อได้ฟังแล้วอาจทำให้หวนรำลึกถึงความหลังครั้งก่อน

มองเห็นความจริงไหมว่า...ชื่อเสียงและความโด่งดังนั้นไม่มีอะไรแน่นอน

เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุและปัจจัยเสมอ




----------------------------------------------------------





“ต้องทราบไว้ด้วยว่า เราเกิดความโลภทีหนึ่ง

มันจะเกิดอาสวะหรืออนุสัยเกี่ยวกับความโลภเพิ่มขึ้นครั้งหนึ่ง

คือจะโลภเก่งมากขึ้น ทุกคราวที่เราได้มีความโลภ.

อย่างโกรธเข้ามาทีหนึ่งนี้มันจะเพิ่มความเก่งในความโกรธมากขึ้นอีก.

ความเก่งที่จะโลภ ความเก่งที่จะโกรธ ความเก่งที่จะหลง

เขาเรียกว่าอาสวะบ้างอนุสัยบ้าง


กล่าวคือความเคยชินที่จะโลภ จะโกรธ จะหลงนั้นมันเพิ่มขึ้นทุกทีๆ.

ฉะนั้นเราหยุดเสียได้ทีหนึ่งมันก็ลดความเคยชินลงไปได้

หยุดได้บ่อยๆมันก็ลดความเคยชินลงไปได้

เราเก่งในทางที่จะเพิ่ม ไม่เก่งในทางที่จะลด

อะไรมารักก็รัก อะไรมาโกรธก็โกรธ อะไรมาหลงก็หลง

ทีนี้มันก็เพิ่มอาสวะที่จะโลภ จะโกรธ จะหลงมากเกินไป

เมื่อต้องการจะละจะบรรเทาก็ต้องทำ :

มาให้โกรธอย่าโกรธ มาให้รักอย่ารัก

แล้วมันจะลดอำนาจของความเป็นอย่างนั้นลงไปๆ"



(พุทธทาสภิกขุ)



--------------------------------



ขณะที่ผมนั่งอยู่ในห้องเงียบๆจู่ๆผมก็นึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมานานแล้ว ผมจำได้ว่าเคยดูรายการที.วี.รายการหนึ่งที่มีการสัมภาษณ์ผู้หญิงที่ถูกข่มขืนบนรถไฟโดยพนักงานรถไฟคนหนึ่ง ก็น่าเห็นใจเธออยู่หรอกที่มาพลาดพลั้งเสียท่าให้พวกบ้ากามเข้า แต่ทว่าฟังเธอเล่าถึงรายละเอียดตั้งแต่ก่อนจะถูกข่มขืนจนกระทั่งแจ้งความเสร็จแล้ว กลับทำให้ผมนึกถึงเรื่องการมีสติอยู่กับตัวขึ้นมา


ผมมองด้วยสายตาคนภายนอกเข้าไปในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เรื่องราวแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย แต่สิ่งที่ไม่คิดว่าน่าจะเกิดขึ้นได้นั้นก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ใครจะคิดว่าจะมีการข่มขืนกันขึ้นได้บนรถไฟขณะที่รถไฟกำลังวิ่ง ใครจะคิดว่าคนเราจะมีความกำหนัดเกิดขึ้นท่ามกลางการเดินทางของผู้คนจำนวนมาก สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเสียงอึกกระทึก และอื่นๆอีกมากมายที่ไม่น่าจะเกิดเรื่องราวเหล่านี้ได้

ในมุมหนึ่งก็คือตัณหาหน้ามืดเกิดขึ้นกับมนุษย์เพศผู้ที่เห็นผู้หญิงเป็นเหยื่อ แต่อีกมุมหนึ่งของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ สถานการณ์ที่ชั้นนอนรถไฟซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนอย่างนั้น ถ้าไม่ยินยอมพร้อมใจแล้วเป็นเรื่องยากนักที่จะเกิดขึ้นได้ ผมไม่ได้หมายความว่าเธอยินยอมพร้อมใจให้เกิดขึ้นนะครับ เพียงแต่จะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากจริงๆ แต่ที่เกิดขึ้นเพราะเธอถูกขู่บังคับ

หากว่าถ้าเธอมีสติสัมปชัญญะเพียงเล็กน้อย เหตุการณ์ที่เผชิญอยู่ต่อหน้านั้นย่อมมีโอกาสพลิกผันเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน แต่นี่ก็เป็นการมองจากสายตาของคนที่มองจากภายนอกเข้าไปเท่านั้น

ถึงตรงนี้ผมยิ่งมองเห็นความสำคัญของ”สติ”มากยิ่งขึ้น กรณีนี้ถ้าเธอมีสติใช้ควบคู่กับสัมปชัญญะให้ทันเวลา รับรองว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นและจะไม่จบลงแบบนี้แน่นอน เธอมีการศึกษาระดับปริญญาโท ทำงานระดับหัวหน้าคนในบริษัทใหญ่โต แน่นอนเธอต้องเป็นคนที่มีการศึกษามีความรู้และสติปัญญา แต่ในเหตุการณ์ที่คับขันอย่างนั้นเธอ "ตั้งสติ" ไม่ได้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนตู้นอนรถไฟ ซึ่งมีคนอื่นนอนอยู่ใกล้ๆด้วยไม่น้อย ผมมองเห็นว่ามีทางออกอื่นๆอีกถ้าเธอ”ตั้งสติ”ได้ ถ้าเธอไม่มัวคิดถึงแต่ “แม่” หรือคิดถึงแต่ “กลัวตาย” เพียงแต่ถ้าเธอได้คิดว่าทำอย่างไรจึงจะทำให้เธอรอดพ้นจากการข่มขืนจากเขา

เธออาจจะแกล้งพูดกับเขาดีๆก่อนก็ได้เพราะสังเกตว่าเธอก็เป็นคนพูดเก่งทีเดียว หรือคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะให้คนในโบกี้ข้างเคียงรู้ หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่ผ่านพ้นไปแล้วตอนนั้นเธอก็ไม่น่าจะต้องรอให้มาถึงปลายทาง ผมสรุปว่าเธอไม่ได้ใช้”สติ”ที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เธอปล่อยให้ความกลัวอยู่เหนือสตินั่นเอง

ผมไม่ได้คิดจะซ้ำเติมหรือว่ากล่าวเธอในเรื่องนี้ แต่อยากยกให้เป็นอุทธาหรณ์ว่าเรื่อง ”สติ”นั้นสำคัญขนาดไหน ?

เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการฝึกฝนให้มีสติอยู่ตลอดเวลาจนให้เกิดเป็นความเคยชิน ผมจำได้ว่ารายการเดียวกันนี้แหละเคยสัมภาษณ์นักศึกษาสาวคนหนึ่งที่รอดพ้นจากการถูกข่มขืนและเกือบถูกฆ่า จากสถานการณ์ที่เลวร้ายมากๆ ทั้งที่ฟังจากเรื่องที่เธอเล่ามานั้นเธอไม่น่ารอดชีวิตมาได้เลยด้วยซ้ำ เพราะเธออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีใครที่จะให้ความช่วยเหลือได้เลย ทั้งที่เธอถูกฝ่ายชายใช้พละกำลังย่ำยีอีก เธอเกือบเสียท่าอยู่รอมร่อและเกือบจะถึงขั้นถูกฆ่า

ผมจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ แต่จำได้เพียงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอนั้นเหมือนกับที่เคยดูในภาพยนตร์ แล้วนางเอกก็รอดพ้นจากผู้ร้ายข่มขืนด้วยความเก่งกล้าสามารถ เพียงแต่มันเป็นเรื่องจริงเท่านั้นเอง แต่ครั้งนั้นผมจำได้อยู่อย่างเดียวว่าที่เธอรอดเหตุการณ์นั้นมาได้ด้วย”สติ”

ในสถานการณ์ที่เลวร้ายและน่ากลัวกว่าเธอที่ถูกข่มขืนในรถไฟ แต่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกลับได้รับผลต่างกันอย่างคนละด้าน สถานการณ์และสภาพแวดล้อมของรายแรกนั้นแทบจะไม่น่าพลาดถูกข่มขืนได้เลย แต่เหยื่อกลับถูกข่มขืนสำเร็จ แต่ในขณะที่กรณีหลังตกอยู่ในสถานการณ์ไม่น่ารอดเลยแต่เธอกลับเอาตัวรอดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

แต่ในเมื่อเหตุการณ์ผ่านมาถึงขั้นนี้แล้วก็ได้แต่อวยพรให้เธอหายบอบช้ำทางด้านจิตใจในเร็ววัน และก็ขอขอบคุณเธอแทนผู้หญิงทุกๆคนที่ออกมาเล่าเรื่องที่เธอเผชิญมาให้คนอื่นฟัง เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ในการระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น

หากวันหนึ่งวันใดที่ผู้หญิงคนหนึ่งคนใดเผชิญกับสถานการณ์ที่เหมือนกับเธอหรือใกล้เคียงกับเธอ จะได้ไม่กระทำเหมือนที่เธอทำอีก เพราะได้พิสูจน์แล้วว่าที่เธอตัดสินใจเผชิญเหตุการณ์ด้วยวิธีแบบนั้นไม่สามารถรอดพ้นได้ จึงน่าจะมีหนทางอื่นให้เลือกอีก นั่นคือเรื่องเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของทุกๆคน นานๆจึงจะได้ยินได้ฟังสักครั้ง

แต่ถึงกระนั้นเรื่องสติที่เราเคยได้ยินอยู่บ่อยๆนั้นไม่ใช่เรื่องที่รอใช้เฉพาะเหตุการณ์ใหญ่ๆหรือเมื่อยามเจอปัญหาวิกฤตเท่านั้น ในชีวิตประจำวันแต่ละวันเหตุการณ์ปกติตั้งแต่ตื่นขึ้นมานั้น สติเป็นเรื่องที่จำเป็นไม่น้อยไปกว่าการหายใจเลย ผมยังจำที่ท่านพุทธทาสภิกขุเคยเทศน์ไว้ในทำนองว่า “สตินั้นใช้ตั้งแต่เรื่องเล็กๆคือการเกาเวลาคัน ถ้าหากเราคันแล้วเราเผลอเกาอย่างไม่มีสติ จุดเล็กๆที่รู้สึกคันเพียงเล็กน้อยนั้นก็อาจจะกลายเป็นแผลได้”

เพราะฉะนั้นการมีสติสัมปชัญญะจึงเป็นเรื่องจำเป็นตั้งแต่เรื่องเล็กๆในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงเรื่องการปฏิบัติธรรมขั้นบรรลุมรรคผลด้วยการเจริญสติก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้สติ ตั้งแต่เล็กจนโตเราเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสติมามากมาย แต่ไม่เคยคิดว่าสติจะมีความสำคัญมากมายขนาดนี้

ยิ่งนึกย้อนหลังจากชีวิตในวัยวันที่ผ่านมา จากวัยหนุ่มจนล่วงเลยมาถึงวันนี้ ความผิดพลาดที่ได้กระทำนั้นล้วนมีต้นเหตุจากการขาดสติเกือบทั้งนั้น แม้กระทั่งประทุษร้ายสติสัมปชัญญะตัวเองด้วยการดื่มกินและเสพของเมานานาชนิดในตอนนั้นก็ยังไม่เห็นโทษของการขาดสติ กลับกลายว่ามองเห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน

บางคนเสียหายเกือบถึงชีวิตเพราะความคึกคะนองขาดสติ บางรายเสียอนาคตเพียงขาดสติชั่ววูบ หลวงพ่อชาเคยบอกว่า “คนเราถ้าขาดสติไปห้านาทีก็เหมือนคนบ้าไปห้านาที” นั่นแหละ แต่ทุกๆวันในชีวิตประจำวันที่เป็นอยู่เราดำเนินชีวิตกันอย่างขาดสติโดยไม่รู้ตัว เรามีเครื่องดื่มที่ประทุษร้ายสติสัมปชัญญะของตัวเองขายเกลื่อนกลาด เรามียาเสพติดที่ช่วยให้เสียสติให้เสพมากมาย

บางทีเราก็คล้ายๆกับว่าดำเนินชีวิตอย่างสติสมบูรณ์พร้อม อาจจะดูมีสติในการข้ามถนน มีสติในการขับรถไม่ประมาท มีสติในการไม่ไปฆ่าฟันหรือทำร้ายผู้อื่น มีสติในสิ่งที่เห็นได้ง่าย แต่เรากับขาดสติในการดำเนินชีวิตอย่างไม่รู้ตัว เราหลงตัวเอง เราหลงรักเงินทอง เราหลงสิ่งต่างๆอย่างไม่รู้ตัว มุ่งหน้าหาเงินแต่เพียงอย่างเดียวราวกับชีวิตนี้ไม่มีวันตาย เราลืมที่จะความสุขที่อยู่กับปัจจุบัณขณะ เราผลัดว่าจะมีความสุขในวันข้างหน้า เราไขว่คว้าหาแต่เงินทองมารวมกองกันไว้ แล้ววันหนึ่งเราก็จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีโอกาสได้รู้จักกับคำว่า “ชีวิต” อย่างแท้จริง

เมื่อคืนนี้ได้ดูรายการ VIP คุณพิมใจ อินทะมูล หญิงเหล็กผู้น่ารักเป็นแขกของรายการ เธอบอกว่า "ขอบคุณที่เป็นเอดส์ เพราะทำให้เธอเห็นคุณค่าของชีวิต" บัดนี้เธออยู่กับเชื้อเอชไอวีมา 19 ปีแล้ว เธอดูแลสุขภาพกายและใจอย่างดี ซ้ำยังบำเพ็ญตัวเป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมมากมาย และดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีสติตลอดเวลา ถึงแม้ใครจะบอกว่าเธออายุจะสั้นแต่เธอบอกว่าเธอมีความสุขทุกนาที

ถึงวันนี้เธอบอกว่าไม่กลัวความตายแล้ว จะมีอะไรเบิกบานและปลอดโปร่งเท่ากับชีวิตที่อยู่อย่างไม่กลัวความตายเล่า ? เพราะถ้าไม่กลัวความตายเสียอย่าง ก็ไม่เห็นมีอะไรที่จะต้องกลัวอีก ขอบคุณเธอที่ออกมาแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตให้ฟัง (มีหนังสือเกี่ยวกับประวัติของเธอ ชื่อ “เช้าวันใหม่ ในเงามืด” เขียนโดย อรสม สุทธิสาคร)

ขณะที่ผมนั่งเขียนหนังสืออยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง ผมได้ข่าวความตายของคนในหมู่บ้านเดียวกัน ทำให้ผมระลึกได้ว่า ชีวิตและความตายไม่ได้อยู่ห่างไกลกันเลย มันอยู่ใกล้กันแค่หายใจกับไม่หายใจเท่านั้น และการที่จะเตรียมตัวตายให้ดีที่สุดก็คือการดำเนินชีวิตในแต่ละวันอย่างมีสตินั่นเอง



------------------------------------------




 

Create Date : 04 กันยายน 2550
71 comments
Last Update : 6 กันยายน 2550 20:25:29 น.
Counter : 1126 Pageviews.

 


สวัสดีครับทุกๆท่าน พอดีผมอัพบล็อกใหม่ เลยขอยกคอมเม้นท์ที่ยังไม่ได้ตอบในหน้าที่แล้ว เอามาไว้ที่นี่

ไว้มีเวลาค่อยคุยกันนะครับ


--------------------------------
อ่า..สวัสดีทุกๆคน คะ
อืม..เขิน...น จริงเลย (พี่โดม จะดีเหรอ ..เอ่อ ก็ได้)

พอดีแม่..ชอบมีข้อคิดและคำคม
(ไม่รู้จะเรียกว่า "อะไร"จึงถูกต้องตามภาษาไทย )
แต่อาเครญา ขอเรียกว่า คำคมข้อคิดของแม่ ก็แล้วกันคะ
ขอเริ่มต้น......คำว่า"ยิ่งหยุดยิ่งไกล ยิ่งไปยิ่งใกล้"คะ เป็นคำที่แม่จะคอยกระตุ้นให้เราไม่ท้อแท้ เมื่อเจอกับระยะทางข้างหน้าที่
ทีมองดูด้วยสายตาแล้ว "ไกลมาก"จริงๆ สำหรับก้าวเท้าเล็กๆของเรา
แม่มักบอกเมื่อเราขอพักและ"หยุด"เดิน
"ยิ่งหยุดยิ่งไกล ยิ่งไปยิ่งใกล้" นะลูก
เมื่อเยาว์...เราไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก แต่ก็รู้สึกได้เมื่อ.."เราแม่ลูก"ไปถึงจุดหมาย แห่งการเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจนั้นๆเสร็จสิ้น ได้บรรลุ...
เป็นตัวอย่างเล็กๆคะ

ปัจจุบัน อาเครญา เอามาใช้กับตัวเองเสมอๆเมื่อเจอปัญหา หรือเกิดอาการ "ไม่อยากเดิน"
คำนี้ของแม่ ยัง






โดย: อาเครญา IP: 58.10.64.151 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:17:55:11 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 88
สวัสดีตอนเย็นๆค่ะ พี่โดม

วันนี้รู้สึกว่าพี่โดมจะอารมณ์ดีกว่าทู๊ก..วันหรือเปล่า..

ตอบคอมเมนท์ได้" โดน " ใจมาก ลุงแก่ๆคนหนึ่งชอบมานั่ง
ดื่มเบียร์ตอนเย็นๆทุกวัน จนต้องถามว่าหนูเป็นอะไร นั่งหน้าจอหัวเราะอยู่คนเดียวไปได้..

เขาว่าหนูบ้า...



โดย: ยานา IP: 61.7.173.183 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:18:40:37 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 89
สวัสดีจ๊ะคุณโดมและมิตรรักทุกท่าน

หลังจากสอบผ่านก็ไม่ได้ฉลองอะไรทั้งนั้น
แต่อลันดีใจจนออกนอกหน้าโทรไปบอกญาติๆทั่วไปหมด
เมื่อวานฉันไปบ้านเพื่อนที่สอบไม่ผ่าน และมีเพื่อนอีกคนมาสมทบ สองคนนี้ไปสอบพร้อมกันและไม่ผ่าน ทั้งสองจึงขอร้องให้ฉันช่วยติวให้ ใจจริงฉันอยากจะช่วยเขามาก คนนึงเรียนจบ ป.6 ส่วนอีกคนเรียนจบ ม. 6
คนที่ทำให้ฉันหนักใจมากคือคนเรียนจบ ป.6 เพราะเธอเขียนภาษาไทยยังสะกดไม่ค่อยจะได้เลย
ปัญหาคือทั้งสองคนอ่านไม่ค่อยได้ และไม่เข้าใจความหมาย
ฉันกลับบ้านพร้อมกับความหนักใจ ก่อนกลับฉันได้แนะนำคนที่เรียนจบ ป.6 ว่าถ้ารอบนี้สอบไม่ผ่านก็ให้เข้าคอร์สเรียนภาษาเลยเพื่อให้ฐานแน่นก่อน

วันนี้เพิ่งกลับจากไปซื้อของที่ร้านของชำ ก็ได้เจอคนไทยทีกำลังจะไปสอบเร็วๆนี้เหมือนกัน 3 คน แต่ละคนเรียนจบ ป.6 กันทั้งนั้น
อ้อ....ลืมบอกไป..เข้าบล็อกหลายครั้งว่าจะพูดก็มัวพล่ามเรื่องอื่นซะก่อนเลยลืมทุกที
รูปคุณโดมตรงขวามือไม่เหมือนรูปหน้าตรงๆเลยนะ
แต่ก็ดูดีไปคนละแบบ ไม่อยากเชื่อว่าคนเดียวกัน






โดย: ป้าชุ IP: 86.142.11.200 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:21:05:32 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 90
หนูมารายงานตัวว่าอยู่กระบี่ค่ะ
(งานชิ้นสำคัญ อันคือภาระและหน้าที่..ที่ทำบัญชีให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเกาะพีพี) งานกำลังจะเสร็จแล้ว

หวังว่าจบงานนี้ หนูไปอบรมเขียนข่าวกะเทคนิคถ่ายภาพที่ จ.สุราษฎร์ พร้อมกับเปิดตัวเว็บที่หนูกับน้านพ ช่วยกันออกแบบให้ทาง สังฆมณฑลสุราษฎร์(คาทอลิค) ด้วย แอบปลื้มเล็กๆ ว่าเขาจะเปิดตัวว่าแจมกับน้าเป็นเว็บมาสเตอร์ด้วย

หลังจากนั้นก็ต้องปั่นนิยายให้เสร็จ อยากส่งนิยายประกวด (ของเดิมหายหมด่แล้ว) ให้ทันสิ้นเดือนกันยา (วิตกเหมือนกัน วันก่อนกลอนพานแว่นฟ้าก็ทำไม่ทัน)

แล้ว..ช่วงระหว่างนั้น..ฮิฮิ.. ช่วงระหว่างเขียนนิยาย ฝันเล็กๆ ว่าคงมีอิสระได้เดินทางอีกครั้ง หนนี้อยากไประยอง นอกจากเยี่ยมลูกค้า(ที่เราออกแบบเว็บให้) ก็อาจจะได้พบคุณหทัยชนก

เฮ้อ..แต่ตอนนี้ต้องไปเคลียร์งานก่อนแล้ว

แล้วจะแว่บมาอีกค่ะ.. จุ๊ๆ อย่าบอกใครน๊า ว่าสีน้ำฟ้าอู้งานมาโผล่ที่บล็อกพี่โดม




โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.164.85 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:21:11:34 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 91


มาร่วมแสดงความยินดีกับ ป้าชุ ค่ะ

ฝากสุขสันต์วันเกิดแม่น้องนิกด้วยค่ะ

อาโดมคะ สมองคนเรามีรอยหยักๆ มาจากการที่คนเราคิด ใช่มั้ยคะ นกจะพยายามอ่าน คิด เขียน บ่อยๆ ค่ะอา

อยากเก่งต้องเรียนรู้
มีครูอยู่ทุกที
เรียนรู้แล้วได้ดี
ทำอย่างนี้ " สุ จิ ปุ ลิ" ไง.....




โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:21:21:12 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 92
ถึงจะเครียดเล็กน้อย แต่หากยังนอนหลับได้ เมื่อตื่นขึ้น..ยังสนุกและรู้สึกเอ็นจอยกับงานที่ทำ ก็น่าจะไม่หลงทางนะ....รึเปล่า???

มีคนเคยบอกว่า .. หากไม่เคยทุกข์ แล้วจะรู้ว่าได้งัยว่าอะไรคือสุข..

ขอบคุณคะ สำหรับกำลังใจดี ในวันนี้ ได้อมยิ้มก่อนนอน Have a good night วันนี้ก็จะได้ Good morning พรุ่งนี้งัย..

การทำให้คนอื่นมีความสุขเนี่ยะ เค้าว่าได้บุญแรงนักเชียว.... แต่หากไม่สม่ำเสมอเนี่ยะ จะบาปไหมหนอ ????



โดย: ทะเล IP: 58.9.91.126 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:23:20:20 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 93
ต๊ายยย..คุณโดม คืนละสองร้อย
ทั้งหลัง หรือห้องเดียวคะ มีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองไทยอีก
เรายกโขยงกันไปนอนซะดีแมะ
น่าสนุกออกค่ะ ตื่นขึ้นมาเห็นน้ำ
เหมือนนอนริมทะเล

พูดอย่างกับแต่ละคนมีเวลาว่างตรงกันงั้นแหละ แต่แม่น้องนิกฝันเอาไว้น่ะค่ะ มีครั้งนึงดูทีวีเห็น
ร้านอาหารจีน กินทั้งโต๊ะ 4000 บาท กี่คนก็ได้ เห็นแล้วอยากพาพี่ไปกิน แต่หน้าที่ลอยมานี่ เป็นหน้าพี่หนอนฯกับหนูแป้งนะคะ
ว่าท่าจะชอบกินและกินได้เยอะ

ไม่ได้ว่าพี่เขานะคะ แต่กินแล้วต้องคุ้มอ่ะค่ะ นึกอย่างนี้แหละ
ตรงไปหรือปล่าวคะพี่หนอนฯ



โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.66 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:0:21:51 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 94
คุณพ่อพเยียคะ ใช่ค่ะ ROOTS เป็นเรื่องของทาส แต่ที่ไม่น่าเชื่อ ผู้เขียนก็คือลูกเหลน รุ่นที่ 8 (ถ้าจำไม่ผิด) ของ "Kunta Kinte" ตัวเองไม่เคยอ่านเรื่องนี้ค่ะ ก็เพิ่งจะได้ดูแบบชัดๆ ที่กาน่านี่ล่ะค่ะ

คุณป้าชุคะ ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ มิน่าล่ะ ไม่ค่อยเห็นเรื่องเขียนของคุณป้าชุ ตอนนี้คงได้อ่านแบบเต็มๆ บ้างนะคะ

คุณสีน้ำฟ้า ถ้าอยากได้วัตถุดิบเขียนนิยายแบบแปลกๆ ลองมาหาวัตถุดิบที่แอฟริกาไหมคะ อาจจะได้เรื่องแบบตะลึงตึงๆๆ ก็ได้นะ

คุณp tim คะ...
ดีใจจังเลยค่ะ มีเพื่อนร่วมอุดมกาม เดียวกันแล้วววว (อุ้ยทำไมต้องมาทำหน้าตาแบบนี้ห้องคุณพ่อพเยียด้วยเนี่ยยยยย)



โดย: shin chan (alei ) วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:3:32:10 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 95




โดย: ชมจันทร์ IP: 202.29.77.2 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:11:03:23 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 96
แบบว่า.."เมา" ออกมาจากสำนักงานบัญชี พอถึงบ้านก็เปิดบล็อกแก๊ง บ้านตัวเองไม่มีคนคุยด้วย มาหาแถวนี้ดีกว่า อิอิ

เลื่อนเม้าส์ขึ้นๆ ลงๆ
ขอคุยกับคุณ shin chan ดีกว่า อิอิ.. ก็เล่นชวนกันไปไกลขนาดนั้น.. เอ่อ ละห้อยเลยค่ะ





โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.149.214 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:11:40:23 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 97
แวบแรกที่เข้ามาอ่านแบบผ่าน ๆ พบที่แพรจารุ พูดว่า "ในงานชุมนุมนักเขียน ๔ ภาค มีการพูดถึงเรื่องบล็อก"

ลุงใจหายวาบคิดว่า "โดนของฉันเข้าแล้วกระมัง" ใจคิดระแวง

แต่พออ่านพบคำเฉลยเป็นว่า "เพื่อเขียนเรื่องแนวเกาหลี" ก็โล่งใจไป

ที่นครศรีธรรมราชก็มีนักเขียน(ซีไรท์) คนหนึ่งพูดถึงเรื่องบล็อกกับนักเขียนเหมือนกัน....

แต่ยังไม่เฉลยในที่นี้หรอก ขออุบไว้มั่ง เรียกร้องความสนใจ (ไม่หัวเราะแล้ว เดี๋ยวโดนว่า)




โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.236.156 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:16:30:05 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 98
แม่น้องนิกจ๊ะ

ที่ว่า "ร้านอาหารจีน กินทั้งโต๊ะ 4000 บาท กี่คนก็ได้ เห็นแล้วอยากพาพี่ไปกิน แต่หน้าที่ลอยมานี่ เป็นหน้าพี่หนอนฯกับหนูแป้งนะคะ
ว่าท่าจะชอบกินและกินได้เยอะ"
ฮะ ฮ่า รู้ได้ไงเนี่ย
โป๊ะเชะเลย
แต่ถ้ามาเมืองไทย อยากกินอาหารจีน ฝีมือใช้ได้ ราคาไม่แพง มีภัตตาคารที่รู้จักกัน จะพาไปชิม

ป้าชุจ๊ะ
ขอแสดงความยินดีที่สอบผ่านเรียบร้อย หายห่วงกังวลไปอีกเรื่องนะ

อาเครญา
ชอบคำคมของแม่จังที่ว่า "ยิ่งหยุดยิ่งไกล ยิ่งไปยิ่งใกล้" จะเก็บไว้สอนลูกบ้าง

ผู้คนบ้านพ่อพเยียคึกคักจัง มีเวลาน้อยก็เลยทักทายไม่ทั่วค่ะ เอาเป็นว่าสวัสดีทุก ๆ คน แล้วค่อยมาคุยใหม่ค่ะ



โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 202.28.180.201 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:17:28:55 น.



สวัสดีครับทุกๆท่าน พอดีผมอัพบล้อกใหม่ เลยขอยกคอมเม้นท์ที่ยังไม่ได้อบในหน้าที่แล้ว เอามาไว้ที่นี้ ไว้มีเวลาค่อยคุยกันนะครับ

 

โดย: พ่อพเยีย 4 กันยายน 2550 18:02:16 น.  

 

เพิงปัจจุบันรึเปล่าคะ?? สวยจัง

นึกยังงัยเอารูปบาดใจแบบนี้มาลงคะเนี่ยะ ??? สงสัยอยากให้คนเห็นอารมณ์ดีนะ.... รู้ละว่าบล๊อกนี้มีแรงดึงดูดจริงๆด้วย .. เครียดทีไรเข้ามาแล้วต้องอมยิ้มทุกที แต่วันนี้อมยิ้มไม่อยู่จริงๆ ยิ้มจนถึงรูหูเลย....

เดี๋ยวจะกลับมาอ่านใหม่นะคะ..
ก็เห็นรูปแล้วอดแซวไม่ได้จริงๆ ;D

 

โดย: ทะเล IP: 58.9.160.165 4 กันยายน 2550 18:07:00 น.  

 

ขอฝากข่าวหน่อยนะคะ
เรียน พี่น้องทุกท่าน
มีเรื่องขอกำลังสนับสนุน เนื่องด้วย รัฐบาลมีแนวโน้มจะตกลงเซ็นต์สัญญาอนุญาตให้มีการทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอในไร่นาได้ ตอนนี้หลายๆ ส่วนกำลังคัดค้านกันอยู่ ดังนั้นตอนนี้ทางเครือข่ายเกษตร และทาง กป.อพช.ภาคเหนือ เห็นว่าเราจำเป็นต้องแสดงพลังในการคัดค้านนโยบายดังกล่าว จึงได้มีการนัดหมายเคลื่อนกำลังกันในวันที่ 10 กันยายน 2550 โดยนัดหมายเจอกันที่ คลังเกษตรอินทรีย์ มีกำหนดการดังนี้
08.30 น. เจอกันที่ลานคลังเกษตรอินทรีย์ (เจเจมาร์เก็ต)
09.00 น. รับฟังการสรุปข้อมูล GMO และสถานการณ์ความเคลื่อนไหว
10.30 น. เคลื่อนขบวน(โดยรถยนต์) ไปที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
11.30 น. ยื่นจดหมายต่อผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมแสดงพลังคลื่นประชาชน
12.00 น. แยกย้ายกันกลับ
ทั้งนี้ขอความร่วมมือมายังพี่น้องเครือข่ายต่างๆ ให้พร้อมใจกัน แสดงพลังคัดค้าน ยับยั้งนโยบายของรัฐที่รับใช้ทุนข้ามชาติ โดย
1. แจ้งชื่อองค์กร เพื่อลงนามในท้ายจดหมายยื่นต่อรัฐบาลผ่านผู้ว่าฯ เชียงใหม่
2. ระดมกำลัง เพื่อร่วมกันเคลื่อนไหวคัดค้าน การลงนามของรัฐบาลในวันที่ 10 กันยายน 2550 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. - 12.00 น.

ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ ต๋อม 081 - 5954459 และ อ้อ 086 - 9158704
ระดมกำลังให้ได้มากที่สุด ไม่จำกัดจำนวนค่ะ
ด้วยเชื่อมั่นในพลังการเปลี่ยนแปลงจากทุกท่าน
สำนักงาน กป.อพช.ภาคเหนือ

 

โดย: ภาคี IP: 203.113.50.14 4 กันยายน 2550 18:10:36 น.  

 



สวัสดีครับคุณทะเล

(ต้องรีบตอบคุณทะเลก่อน เดี๋ยวคำตอบหายไปหมด)

ไม่ต้องสงสัยหรอก

ที่เอารูปมาลงก็เพราะอยากให้คนเห็นนั่นแหละครับ

แต่เห็นเพื่ออะไร ก็ไปตีความเองก็แล้วกัน

ไม่มีอะไรซับซ้อนหรอกน่า !

ก็แค่อยากอวดว่าตอนหนุ่มๆผมไว้ผมยาวนะ ! เท่านี้แหละครับ

เป็นรูปที่เซ็นข้างหลังให้ "เธอ" โดยให้รูปมาอยู่กับเธอก่อน แล้วตัวจริงก็ตามมาในเวลาต่อมา

(ถ้าบาดตาบาดใจใครก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ)



ส่วนเพิ่งที่เห็นก็คือเพิงปัจจุบันนี่แหละครับ เพิ่งถ่ายสักสองอาทิตย์เห็นจะได้

 

โดย: พ่อพเยีย 4 กันยายน 2550 18:37:21 น.  

 

สายัณห์สวัสดีค่ะพี่โดม
--------------------------------
อ่านจบ แล้วตั้งสติ ว่าจะเขียนเม้นท์อย่างไรดี
กับเรื่องเล่าที่เขียนให้อ่านในวันนี้

"จะมีอะไรเบิกบานและปลอดโปร่งเท่ากับชีวิตที่อยู่อย่างไม่กลัวความอีกเล่า ? เพราะถ้าไม่กลัวความตาย อย่างอื่นก็ไม่จำเป็นต้องกลัวแล้ว "

ณ วันนี้ไม่กลัวอะไรแล้ว
ชีวิตที่ผ่านมา ได้ประสบการณ์ใกล้ "ตาย" ตลอดเวลาค่ะ
สิ่งที่เสียดายคือ "ทำดีไม่พอ"
ไม่พอที่จะเอาไว้เป็น "ทุน" สำหรับภพใหม
เพราะเชื่อว่า "ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด"
เพราะเชื่อว่า "ยังไม่หลุดพ้นจากกฎแห่งกรรม"
และยังไม่ถึงซึ่ง "นิพพาน"

ปล. วันนี้เจอสิ่งที่กระตุ้นให้เรา คิดไม่ พูดไม่ ทำไม่ดี
พยายามตั้งสติ สงบอารมณ์ (ที่สุด) ยากเหมือนกันเนาะ

 

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 4 กันยายน 2550 18:57:57 น.  

 

ปล. ขออภัยค่ะ (แก้ไขคำตก บกพร่องนิดหนึ่ง)

ปล. วันนี้เจอสิ่งที่กระตุ้นให้เรา คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี
พยายามตั้งสติ สงบอารมณ์ (ที่สุด) ยากเหมือนกันเนาะ
บางครั้งต้องใช้อารมณ์ตลก กลบเกลื่อน
อะคึ่ ๆ

 

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 4 กันยายน 2550 19:04:21 น.  

 

สวัดดีค่ะลุงโดม

หนูจะมาเล่าประสบการวันนี้ให้ฟัง
วันนี้หนูไปขายบัตรมินิมารธอนไนติงเกล
กว่าจะกล้าเดินเข้าไปหาลูกค้าคนแรกต้องทำใจอยู่นาน
ไม่รู้จะพูดอะไรก่อนดี ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
แต่ก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ
ได้ประสบการใหม่ว่าการหาเงินมันลำบากจริงๆ
เวลา 2 ชัวโมงกับคน 3 คน ผลลัพธ์คือได้เงินมา 150 บาท
มันช่างเป็นสิ่งที่มีค่าเหลือเกิน
จากที่เคยมองมันว่าน้อยนิดหากเอาไปเดินชื้นของในห้าง

 

โดย: ลูกของพ่อค่ะ (lukkongpoka ) 4 กันยายน 2550 20:19:15 น.  

 

คนเคยหล่อ...(ดวงตาแบบนี้ทำหลอมละลายอิตถีเพศมานักแล้ว..อิอิ) ..คนเคยรัก คนเคยหลง คนเคยโกรธ และอีกหลายๆๆ ที่เคย..มันเบาบางและเจือจาง ไปจาก..เขา..คนนี้... ยินดี ด้วยคะ

 

โดย: อาเครญา IP: 58.10.64.248 4 กันยายน 2550 20:26:17 น.  

 

Wow !!!
ด้านหน้านี่บาดใจ แต่ด้านหลังคงซึ้งใจนะเจ้าคะ ...

แหะ..แหะยังไม่ได้อ่านที่คุณโดมเขียนเลย อดแซว ก่อนไม่ได้อีกละ

คุณโดมไว้หนวดมาตลอดเลยเหรอคะ? รูปไม่มีหนวดมีไหมคะ? ถ้าไม่มีหนวดแล้วจะเป็นยังงัยน้า...

โอเค เหนื่อยแซวละ..ยิ้มจนเหนื่อยเลย กลับไปอ่านสาระของคุณโดม วันนี้ดีฝ่า..

 

โดย: ทะเล IP: 58.9.91.126 4 กันยายน 2550 20:46:06 น.  

 

ชะอุ๊ย เคยเห็นรูปนี้ที่ไหนแล้วหนอ..
เพิ่งได้เห็น"สู่ฝัน"หลายเล่ม ก็เลยเห็นภาพพี่โดมเยอะหน่อยมั้ง
ว่าจะมีสติ..ก็เลยตกใจควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่ แหะๆ

..เรื่องผู้หญิงคนนั้นที่รถไฟ
เข้าใจว่าคนเรามีหลายปัจจัย
ที่หลอมมาเป็นบุคลิก นิสัย
เรื่องของวัยเด็ก การเติบโตที่ผ่านมา
สถานการณ์เดียวกัน บางคนก็เข้มแข็ง หากบางคนก็อ่อนแอหวาดหวั่นมากกว่าคนอื่น
บางที"สติ"ก็เลยหายาก มายากกว่าสตางค์นะคะ เกี่ยวไหมเนี่ย

รูปเพิงพเยีย ร่มรื่นรำไรดีจัง มีม่านบาหลีด้วย ใช่ไหมคะนั่น

 

โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน 4 กันยายน 2550 20:52:43 น.  

 

แว้บบ มา แอบเห็นหนุ่มผมยาวค่ะ


อยากบอกว่า หน้าเหมือน.....

ของเรามาก ๆ เลยค่ะ

ขอแว้บไปทำงานก่อน แล้วจะกลับมาอ่านอย่างมีสติ

เพราะตอนนี้ ทำอะไรไม่ค่อยจะมีสติซักเท่าไหร่

 

โดย: mojigirl 4 กันยายน 2550 21:45:37 น.  

 

มาแล้วค่ะ....

คิดเหมือนกันค่ะ...ว่าถ้าเกิดกับตัวเองจะมีสติคิดทำอะไรได้หรือเปล่า

เพราะโดยปกติ เป็นคนไม่ค่อยจะมีสติ สตังอยู่กับตัวซ่ะด้วย

อิอิ

 

โดย: mojigirl 4 กันยายน 2550 22:07:58 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณพ่อพเยีย

เย้ว ! เย้ว ! รูปพ่อพเยียตอนเป็นหนุ่มน้อยดูท่าทางเอาจริงกับชีวิตนะคะ ดูแววตาออกไปทางมุ่งมั่นหนักแน่นแม้นว่าใบหน้าจะมีรอยยิ้มจางๆ แต่พ่อพเยียตอนเป็นหนุ่มใหญ่กลับดูสบายๆเรียบง่าย นะคะ คงเป็นเพราะวันเวลาที่ผันผ่านมาทำให้พ่อพเยียดูสบาย สบายขึ้นด้วยอะไรหลายๆอย่างและด้วยสติเหมือนบทความนี้ อันนี้คิดเอาเองนะคะ

เรื่องของหญิงสาวที่พ่อพเยียกล่าวมาเคยได้ยินด้วยนะคะแต่ก็เลือนๆไปตามกาลเวลาแล้วค่ะ
วันนี้ยังไมซ่าส์นะคะ เพราะยังไม่ได้บิ้วล์อารมณ์ซ่าส์เลยค่ะ

จะเตรียมตัวดูเทปรีเพลย์รักบี้เพื่อวอร์มอัพเวริด์รักบี้ ที่กำลังจะมา
หนุ๊ก หนุกค่ะ
คัมมาเต๊ะ !!!
อึ๋ยซซซ อึ๋ยซซซ

 

โดย: ป้าซ่าส์ 4 กันยายน 2550 22:10:01 น.  

 

รบกวนฝากข่าวถึงป้าชุนิดนึงนะคะ
ขอบคุณป้าชุที่แวะมาเยียมที่บล๊อคนะคะ และ ป้าซ่าส์ได้ตอบคอมเม้นต์ป้าชุไว้ที่บล๊อคแล้วค่ะ
ว่างๆเชิญไปเดินเล่นได้ตลอดเวลานะคะ ยินดีต้อนรับคะ

 

โดย: ป้าซ่าส์ 4 กันยายน 2550 22:21:38 น.  

 

สวัสดีจ้ะอาเครญา

วันนี้ลืมเอาคำคมข้อคิดของแม่มาฝากใช่ไหม

รัก โลภ โกรธ หลง ใครๆก็คงเคยผ่านมาด้วยกันทั้งนั้น

ว่าแต่เมื่อโดดเข้าไปในกองไฟแล้ว ก็ต้องรีบออกมาให้เร็วที่สุด

แต่กว่าจะรู้ว่าเป็น "กองไฟ" ก็ไหม้เกือบหมดตัวแล้ว

(เพราะตอนอยู่ในกองไฟมันไม่รู้สึกว่าร้อนไง)

สวัสดีจ้ะหนูยานา

เรียกหนูแล้วฟังดูเด็กขึ้นเยอะเลยนะ

เมื่อคืนคงได้อะไรจากรายการ VIP บ้างหรอกนะ ต้องขอบคุณยานาที่ส่งข่าวมาให้ดูรายการนี้

ไม่งั้นก็คงพลาดอดดูคุณพิมใจ อินทะมูล หญิงเหล็กผู้น่ารัก


สวัสดีครับป้าชุ


ป้าชุครับ !

ถ้าอยากสอนเธอก็สอนเลยครับ

ไม่แน่นะ..คนที่จบปอหกเขียนภาษาไทยไม่ค่อยเป็นตัว เธออาจจะถนัดเขียนภาษาอังกฤษก็ได้นะครับ


สวัสดีจ้ะสีน้ำฟ้า

ทำไมช่างเก่งเกินตัวอย่างนี้
ทั้งเป็นเว็บมาสเตอร์
ทั้งเขียนนิยายส่งประกวด

เอาใจช่วยจ้ะ


สวัสดีจ้ะหลานนก


อยากเก่งต้องเรียนรู้
มีครูอยู่ทุกที่
เรียนรู้แล้วได้ดี
ทำอย่างนี้ " สุ จิ ปุ ลิ" ไง.....

นี่แหละหนูก็รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ?

อาก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรหรอก แต่ก็ชอบบอกคนโน้นคนนี้อยู่เรื่อย
แต่ก็ด้วยปรารถนาดีนั่นแหละจ้ะ

สวัสดีครับแม่น้องนิก

เรือนแพคืนละ 200 บาทต่อคนต่อคืนนะครับ

คือหมายถึงคนละ 200 ถ้า 2 คนก็ 400

แต่วันนั้นผมไปคนเดียวเลยได้เหมาทั้งหลังเลย 200 บาท

ดูร่ำรวยยังไงก็ไม่รู้ เหมาแพหลังเบ้อเริ่มนอนคนเดียว


สวัสดีครับคุณชิน

ดูหนังเรื่อง ROOTS ที่กาน่า

ย่อมได้อารมณ์กว่าที่ดูในเมืองไทยอยู่แล้ว

เพราะเหมือนได้ดูอยู่ในบรรยากาศร่วมกับพี่น้อง "คุนต้าคินเต้" ด้วย

เรื่องนี้ถ้าผมจำไม่ผิดมีแปลเป็นภาษาไทยด้วย คุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ยังเคยยกย่องว่าเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง (ถ้าผมจำไม่ผิดอีกนะ)


สวัสดีครับคุณชมจันทร์

คุณส่งยิ้มมา ผมก็ส่งยิ้มไป เจ็บคอใช่ไหมครับ เลยได้แต่ยิ้ม


สวัสดีครับพี่บูลย์

ช่างขี้ระแวงจริงๆเลยนะพี่บูลย์

นักเขียนที่นครฯพูดเรื่องบล็อกก็ใจหายวาบ (ทำไมต้องหายวาบด้วยล่ะ เขียนบล็อกเสียหายตรงไหนหรือครับ ?)

อยากหัวเราะก็กลัวจะโดนว่าอีก เฮ้อ..ขี้เกรงใจจริ๊ง

ว่าแต่วันนั้นนักเขียนคนนั้นเขาพูดเรื่องบล็อกว่าอย่างไรบ้างล่ะ เล่าให้ฟังบ้างสิครับ

สวัสดีจ้ะหนอน

ไม่เคยเชื่อมั่นอะไรหนอนเท่ากับบอกว่าร้านอาหารจีนที่ไหนอร่อยแล้วราคาไม่แพงเลย

เรื่องอาหารจีน ไม่ให้เชื่อคนจีนได้ยังไง ใช่ไหมล่ะ ?

สวัสดีจ้ะสาวบ้านนอก

ที่สาวนางว่า "วันนี้เจอสิ่งที่กระตุ้นให้เรา คิดไม่ พูดไม่ ทำไม่ดี
พยายามตั้งสติ สงบอารมณ์ (ที่สุด) ยากเหมือนกันเนาะ"

สิ่งกระตุ้นเร้านี่หมายถึงตัวบุคคลใช่หรือเปล่า ?

ใครกันนะทำให้สาวอารมณ์ดีเกือบเสียอารมณ์ไปได้

(แต่สาวนางเข้าวัดบ่อย คงมีภูมิต้านทานอยู่แล้วหละ)

ส่วนใหญ่เวลาเราโกรธหรือไม่พอใจใคร เรามักจะโทษคนอื่นทำให้เราโกรธเสมอแหละ

ความจริงเขาก็มีสิทธิ์ทำให้เราโกรธได้ แต่ตัวเราก็มีสิทธิ์เลือกว่าจะโกรธเขาหรือไม่ ? ตรงนี้อยู่ที่ตัวเราร้อยเปอร์เซ็นต์เลย

และเวลาเราโกรธหรือกระทบทุ่มเถียงกับใคร ?

เราก็มักจะเห็นสีหน้าหรือน้ำเสียงของคนอื่นที่กำลังโกรธ แต่เรามักไม่ค่อยเห็นสีหน้าหรือได้ยินน้ำเสียงของตัวเองว่ากำลังโกรธอยู่

พ่อพเยียก็ยังไม่พ้นหรอกในเรื่องโกรธเนี่ยะ บอกคนอื่นง่ายกว่าบอกตัวเอง แต่ก็พยายามอยู่จ้ะ

โกรธทีก็โง่ทีแหละ


สวัสดีจ้ะหลานเบญจ์

ถ้าหนูรู้ค่าของเงินตั้งแต่ยังเป็นเด็กก็ดีแล้วหละ จะได้รู้จักใช้จ่าย

แต่ก็ไม่ต้องถึงกับนับถือบูชา "เงิน" เสียยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกหรอกนะหลาน

เพราะในชีวิตเรายังมีเรื่องอื่นๆที่ต้องเรียนรู้มากกว่าการ "หาเงิน"อีกมากมายหลายอย่าง

ดูท่าทางหนูเป็นคนที่เวลาที่จะทำอะไรต้องทำให้สำเร็จแน่เลย ลุงขอชม

สวัสดีจ้ะยิปซีสีน้ำเงิน

นอกจากจะเป็นหญิงสาวโรแมนติคแล้ว ยังเป็นคนวิเคราะห์เจาะลึกผู้คนเก่งด้วยหรือนี่ ?

แน่นอนว่าการที่เราจะเป็นคนอย่างไรนั้น ก็ต้องเริ่มสะสมกันมาตั้งแต่เด็กนั่นแหละจ้า

สวัสดีครับคุณ mojigirl

บอกมานะครับที่ว่าเหมือน....นั้นเหมือนใคร ?


สวัดสีครับป้าซ่าส์

เพิ่งรู้นะครับว่าเวลาจะซ่าส์ ต้องบิ้วล์อารมณ์ด้วย

ผมตอบสั้นๆแค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับ เพราะวันนี้ยกมาตอบยาวเหยียดเลย หมดแรงแล้ว ขอพักก่อน

สวัสดีครับ !

 

โดย: พ่อพเยีย 4 กันยายน 2550 23:32:09 น.  

 

สวัดสีครับคุณทะเล

เกือบลืมตอบที่ถามผมว่า..."รูปไม่มีหนวดมีไหมคะ? ถ้าไม่มีหนวดแล้วจะเป็นยังงัยน้า..."

รูปที่ไม่มีหนวดมีอยู่สองครั้งคือตอนบวชพระครับ

 

โดย: พ่อพเยีย 4 กันยายน 2550 23:39:16 น.  

 

คุณพ่อพเยียค่ะ คิดเหมือนกันค่ะ ว่าท่านประธานาธิบดีKufuor น่าจะมอบรางวัลให้ชินนะเนี่ยยยย ไม่หรอกค่ะ ที่เขียนไว้ในบล็อกทั้งหมดเป็นข้อมูลดิบ เผื่อว่าอนาคตอาจจะได้นำมาใช้ประโยชน์ได้บ้างค่ะ ความจริงมีเรื่องร้อยแปดในกาน่าที่มันน่าสนใจ เพียงแต่ต้องตั้งสติมานั่งเขียนให้มันเป็นเรื่องเป็นราว ....เรื่องของคุณพ่อพเยียวันนี้ ถ้าพี่...(เรื่องหญิงบนรถไฟ) ทราบ..พี่เขาคงดีใจที่เรื่องราวของพี่เขาได้เป็นอุทาหรณ์ ไม่ว่าหญิงชาย..เรื่องของพี่คนนี้ได้เขียนเป็นวิทยานิพนธ์ไว้ที่ธรรมศาสตร์ เกือบ 300 หน้า(ถ้าเจ้แกไม่สติแตกตอนทำวิทยานิพนธ์อาจจะได้มากกว่านั้น) .....ใครมีโอกาสเข้าห้องสมุดก็ลองไปอ่านดูว่า..ไม่ใช่แค่สติอย่างเดียว

คุณสีน้ำฟ้าค่ะ เพิ่งทราบว่าสำนักงานบัญชีมีอะไรให้ "เมา" กับเขาด้วย แถมมี "ละห้อย" อีก ไม่ทราบว่าอะไร "ห้อย" คะ อย่าให้ห้อยนานนะ โปรดระวังแรงโน้มถ่วงของโลก ลงไปแล้วขึ้นมาลำบาก ก๊ากกก แซวเล่นนะ

ไม่ทราบว่า คุณป้าซ่าส์ กับ คุณยานา(ที่เคยเม้นต์เรื่องเกี่ยวกับญี่ปุ่น) นี่คนเดียวกันหรือปล่าวคะ

 

โดย: shin chan (alei ) 5 กันยายน 2550 3:21:21 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน

สำนักงานบัญชีสหกรณ์จังหวัดค่ะ.. ตอนนี้สีน้ำฟ้าช่วยทางเกาะพีพีทำเอกสารด้านบัญชี ส่ง กำลังจะปิดงบฯ ด้วยความที่มะงุมมะงาหราเอง ถึงแม้จะมีเพื่อนที่เป็นมืออาชีพออนไลน์มาช่วย ก็ยังใส่ตัวเลขผิดช่องอยู่นั่นแล (ก็ช่องมันเยอะ)

งานนี้ถือเป็นงานช่วยสังคมอีกหนึ่งงาน นับจากหลังจากสึนามิมาน่ะค่ะ พอดีติดอยู่ในกลุ่มผู้ก่อสตั้งสหกรณ์ฯ ก็ร่วมด้วย ช่วยเขาตลอดมา

ล่าสุดลดบทบาทมาเหลือแต่ทำงานเอกสารนี่แหละ มึนแต้ๆ เจ้า..

ฉะนั้นออกจากสำนักงานฯ มาก็เลยเกิดอาการเมาตัวเลข เช่นนี้แล

ส่วนอาการละห้อยเพราะคุณ shin chan ชวนไปหาข้อมูลแถวแอฟริกา..(ใช่ม๊ะ เขียนถูกรึเปล่าก็ไม่รู้) นั่นแหละๆ ก็ไกลเหลือเกินนี่นะ แต่ก็อยากไปนะนั่น ฮิฮิ ถ้ามีแรง มีทุน

ก็ว่ากันไป

----
พี่โดมคะ สีน้ำฟ้าโลภมากตังหาก อะไรก็อยากทำ แต่ยังเป็นผลปรากฏว่า ทำได้ไม่ดีสักอย่างค่ะ...

ชอบตัวหนังสือแบบบ้านพี่โดม เดี๋ยวจะเอาไปปรับแต่งที่บล็อกมั่ง ^^

 

โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.149.139 5 กันยายน 2550 7:33:40 น.  

 

สวัสดีค่ะ..พี่โดม.

กาลเวลาผ่านไป..ทุกอย่างก็เปลี่ยนตามกาล..

พี่โดมไว้ผมยาว ไว้หนวด แสดงถึงความเป็นศิลปิน นักศิลป ที่มีอยู่ในตัวโดยไม่ต้องบอกออกมาเป็นภาษาพูด..

แม้ปัจจุบันอาจจะเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะพี่โดมหันมาสนใจธรรมะมากขึ้น พยายามแบ่งปัน
ความรู้ที่เข้าใจมา ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รับรู้และเรียนรู้ตาม..

ขอชื่นชมด้วยใจจริงค่ะ..

คุณ ชิน จังคะ
เข้าใจว่าคุณคงเห็นคำว่า คัมบาเต๊ ซึ่งคำนี้เป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วเลยคิดว่าเป็น ยานา

ไม่ใช่ค่ะ..คุณป้าแก..ดูจากการเขียนแล้ว เหมือนยังวัยรุ่นอยู่เลย

pasa san

Hajimemashite yoroshiku.
o negaishimasu.

 

โดย: ยานา IP: 61.7.173.13 5 กันยายน 2550 8:01:18 น.  

 

สวัสดีครับทุกท่าน

ก่อนทำงานก็เข้ามาทำงานเสียก่อน


กำลังจะตอบคอมเม้นท์ จังหวะเข้าบล็อกแก๊งไม่ได้พอดี



สวัสดีครับคุณชิน

ขอย้อนถามประโยคที่ว่า "
เรื่องของคุณพ่อพเยียวันนี้ ถ้าพี่...(เรื่องหญิงบนรถไฟ) ทราบ..พี่เขาคงดีใจที่เรื่องราวของพี่เขาได้เป็นอุทาหรณ์ ไม่ว่าหญิงชาย..

เรื่องของพี่คนนี้ได้เขียนเป็นวิทยานิพนธ์ไว้ที่ธรรมศาสตร์ เกือบ 300 หน้า"

คุณชินรู้จักกับผู้หญิงคนที่ผมเขียนถึงด้วยหรือครับ ?

หมายถึงใครเป็นคนเขียนวิทยานิพนธ์ 300 หน้า

ผมฟังแล้วงงๆ เจ้าของเรื่องเป็นผู้เขียนวิทยาพนธ์เองใช่ไหมครับ ?

เรื่องแรงโน้มถ่วงของโลกนี่ คุณชินเข้าใจปล่อยมุขจัง


สวัสดีจ้ะสีน้ำฟ้า

เรื่องการทำงานที่เรารักนั้นไม่ใช่เรียกว่าโลภหรอก

น่าจะเริ่มต้นจากที่ว่า พอใจที่จะทำมากกว่า การงานที่ทำด้วยความพอใจนั้นเรียกว่า "ฉันทะ" หนึ่งในอิทธิบาทสี่นั่นแหละ

เมื่อเราทำงานที่เราพอใจทำแล้วงานมีคุณสมบัติตรงกับการเข้าประกวดแล้วเราก็ส่งประกวด ก็ไม่เห็นเป็นไร พ่อพเยียก็ไม่ได้รังเกียจการส่งงานเขียนเข้าประกวด

แต่ถ้าทำเพราะอยากได้รางวัลนี่สิ ! มีรางวัลเป็นตัวตั้ง เพราะอยากได้รางวัลจึงเขียน (มีนักเขียนเก่าใหมจำนวนไม่น้อยที่อาศัยตรงนี้เป็นแรงใจ) ข้อนี้ก็ไม่ผิดอะไรหรอก แต่ทว่ามันเหนื่อยจ้ะ
พอไม่ได้ก็จะผิดหวังเท่านั้นเอง

แต่ถ้าเริ่มต้นที่ฉันทะ -วิริยะ -จิตตะ - วิมังสา ครบสี่ข้อ รับรองว่าประสบความสำเร็จแน่นอน และไม่ต้องเหนื่อยใจด้วย

ไม่ว่าจะได้รางวัลหรือไม่ได้ก็ตาม

(ขอโทษที..อดไม่ได้จริงๆนะคุณโด๊ม ! อดสอนไม่ได้จริงๆ เอาซะหน่อยน่า ไม่ว่ากันนะ - สีน้ำฟ้า คนแก่ก็อย่างนี้แหละ อย่าถือสาเลย - ด้วยปรารถนาดี)


สวัสดีจ้ะหนูยานา

อันที่จริงการไว้ผมยาวก็คือรูปแบบของการแต่งตัวอย่างหนึ่ง

เพียงแต่ใช้ธรรมชาติที่มีอยู่ซึ่งมันงอกอยู่บนหัวเรานั่นแหละ เราจะไว้ทรงไหน อย่างไร ก็ตามแต่ผู้เป็นเจ้าของเส้นผม

(ที่จริงที่ไว้ผมยาวก็เพราะชอบนั่นแหละ - พอเราบอกว่าชอบเราก็ไม่ต้องสร้างเหตุผลว่าเพราะนั่นเพราะนี่ จะถูกถามบ่อยว่าทำไมว่าจึงไว้ผมยาว - ก็ตอบง่ายๆว่าเพราะชอบ)

บางทีก็หลงเชื่อคนอื่น หลงเชื่อตัวเองว่าไว้แล้วเหมาะกับใบหน้า อันที่จริง "เหมาะกับใจ" เรามากกว่า

ลองสังเกตดูเถอะจะไว้ผมทรงไหนก็แล้วแต่ มันจะเหมาะกับหน้าเราหรือไม่ ไม่สำคัญเท่ากับเหมาะกับใจเราหรอก พอเราพอใจก็ใช้ได้แหละ

แต่เส้นผมก็บอกสิ่งที่อยู่ในหัวได้ไม่มากเท่าไรหรอก เพราะสิ่งที่อยู่ในหัวจะออกมาในรูปแบบของการกระทำ หรือการดำเนินชีวิตมากกว่า

สมัยนั้นผู้ชายผมยาวยังมีไม่ค่อยมากเหมือนทุกวันนี้ ผมก็หลงกับเส้นผมและทรงผมตัวเองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เวลาใครทักว่าผมสวยจัง เส้นผมมีน้ำหนักนะ ใช้แชมพูอะไร เท่จัง (หลงตัวเองระเบิดเลย)

แทบไม่เคยคิดจะตัดสั้น จนกระทั่งมีลูกแล้วก็ยังไม่ตัด ทั้งสระทั้งนวดครีม อย่างน้อยก็สัปดาห์ละสองสามครั้ง (ไม่สระทุกวันหรอก)


ถึงวันนี้ที่ตัดผมสั้นเกรียนในตอนแรกก็เพราะอยากเปลี่ยนใบหน้าและปล่อยวางกับการติดยึดทรงผมตัวเองบ้าง แต่ต่อๆมาก็พบว่า...

อันที่จริงเส้นผมก็เป็นเพียงหนึ่งในอาการสามสิบสองของร่างกายเหมือนกับพวก ขน, เล็บ, ฟัน, หนัง, เนื้อ, เอ็น, กระดูก ,ปอด, ตับ, ม้าม, หัวใจ, พังผืด, ไส้ใหญ่, ไส้น้อย, อาหารใหม่, อาหารเก่า, เลือด, น้ำลาย, เสลด เหล่านี้เป็นต้น

แต่เราไปให้ความสำคัญมันเกินเหตุ อันที่จริงแค่รักษาดูแลความสะอาดก็พอแล้ว แต่นี่เราให้ความสำคัญมันมากถึงกับเป็นหน้าเป็นตาเป็นบุคลิก เป็นโลโก้ เป็นตัวตน ฯลฯ

แต่ก่อนไม่รู้หรอกว่า "ครบอาการสามสิบสอง" คืออะไร นึกว่าอวัยวะในร่างกายมีสามสิบสองอย่าง จะว่าจริงๆเพิ่งรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เรียกว่าอาการสามสิบสองเมื่อสักไม่ถึงสิบปีมานี่เอง

พอจะไล่ก็ยังไล่ไม่ครบหรอก เพราะห่างวัดเลยลืมไปบ้าง

ใครจะนึกว่า "อาหารเก่า" กับ "อาหารใหม่" ก็ถูกนับว่าเป็นอาการสามสิบสองของร่างกายด้วย

พระพุทธเจ้านี่สุดยอดเยี่ยมจริงๆ

แต่ถึงกระนั้นแม้ไว้ทรงผมสั้นก็ไม่ได้ปล่อยวางเสียหมดก็ยังติดยึดพอสมควร แต่ก็เบากว่าแต่ก่อน เวลาตัดผมก็ยังบอกช่างอยู่ว่าต้องการทรงโน้นทรงนี้

ประโยชน์ที่ได้รับจากผมสั้นในตอนนี้ก็คือสะดวกในการดูแล แต่ต้องเข้าร้านตัดผมบ่อยอย่างน้อยก็เดือนละครั้ง

แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ชายผมยาวเคยชินก็คือไว้ผมยาวแล้วก็จะเคยชิน และความเคยชินนี่แหละทำให้ไม่ค่อยจะเปลี่ยนทรง

เคยชินเพราะเส้นผมก็เป็นอวัยวะหนึ่งในร่างกายของผู้เป็นเจ้าของ และเคยชินทางด้านความรู้สึก
ความเคยชินนี่เปลี่ยนแปลงยากกว่าอย่างอื่น

ถึงวันนี้ไม่ว่าใครจะผมสั้นหรือผมยาว ผมว่าไม่สำคัญ เพราะเป็นเพียงรูปแบบภายนอกอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือเนื้อหาภายในชีวิตมากกว่า

 

โดย: พ่อพเยีย 5 กันยายน 2550 13:03:19 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่โดม..

สีน้ำฟ้ามีนิสัยที่ไม่ค่อยดีนัก..เรื่องวินัยในการเขียนงาน ในเมื่ออยากเป็นมืออาชีพมากขึ้นก็ต้องฝึกฝนค่ะ

วัตถุประสงค์การส่งงานเข้าประกวด .. เพราะอยากค่ะ.. อยากฝึกหัดตัวเองให้รู้จักวินัยในการเขียน โดยอาศัยเวลาในกติกางานประกวดเป็นตัวบังคับตัวเอง

แหะ แหะ ในเมื่อฝึกตัวเองด้วยตัวเองไม่ได้ ก็อาศัยกติกาเหล่านี้เป็นตัวยึดเหนี่ยว

ทำได้ทันเวลา ก็ได้ส่ง ทำไม่ได้ก็อด หมดสิทธิ์ไป..งานอื่นก็ขยันเพิ่มขึ้นอีก ก็ว่ากันไปค่ะ

รางวัลเป็นส่วนหนึ่งของการพิสูจน์จากผู้อื่น..ซึ่งล้วนแล้วแต่มีคุณวุฒิในแวดวงวรรณกรรม ถ้าได้รางวับคงดีใจ แต่ถ้าไม่ได้..ถือว่าบรรลุจุดประสงค์แห่งตัวเอง คือได้ส่งงานตามกำหนดเวลาแล้วนะ คราวหน้าต้องพัฒนาฝีมือ

---
ฟังนี้ติดหนึบที่บล็อกนี้ เพราะหาที่หย่อนใจ เรื่องงานเครียดๆ เลยแวะมาบ่อยๆ (แวะหรือแว้บ? ^__^ ฮี่ฮี่)

พี่โด๊ม..พี่โดมสอนน่ะดีแล้วค่ะ สีน้ำฟ้าดีใจ ที่พี่ยังใส่ใจแนะนำให้

อีกอย่างพี่โดมสอนนิ๊ม..นิ่ม น่าฟัง(อ่าน)

ฮิฮิ.. ยิ้มเลยไป คิดถึงบล็อกไหนๆ ..

 

โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.149.139 5 กันยายน 2550 13:26:54 น.  

 

แก้ไขคำผิดค่ะ..

--
ฟังนี้ เป็น... พักนี้

 

โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.149.139 5 กันยายน 2550 13:28:49 น.  

 

เห็นรูปโดมแล้วบอกตนเอง
ว่า นี่ละศิลปินแอนด์นักเขียนโดยแท้ละ

และนึกต่อไปว่า "ภาพลัษณ์อย่างนี้" ไม่น่าจะได้มีโอกาสไปรู้จักกับ "คนอย่างลุงเล้ย"

เพราะแม้แต่ปัจจุบันนี้ก็เถอะ โดมก็...

ห่างไกลกับผมมาก ไม่ว่าจะในด้านงานเขียนหรือความเป็นศิลปิน

แต่ก็ยินดีที่สุดล่ะที่ได้รู้จัก เพราะผลแห่งการรู้จักก็ทำให้ความฝันที่ค้างคาอยู่เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๓

ได้บรรลุมาถึงขั้นนี้

เพลงไพเราะมาก ถูกจริตแฮะ พอดีวันนี้ผมเพิ่งซ่อมลำโพงเสร็จ และเพิ่งเอามาติดตั้ง
ปรับแก้อยู่พักใหญ่ คือมันไม่ดัง ทั้ง ๆ ที่ ๆ หน้าจอบอกว่า ติดตั้งถูกแล้วให้คลิก ok

ทว่าก็ยังดังเฉพาะลำโพงตัวที่มีเพาเวอร์ อีกตัวไม่ดัง

ทำยังไงดี... สุดท้ายลองตะแคงตัวตรงข้ามที่ไม่ดั คราวนี้ดังแฮะ สายโดนหนูกัดแหว่ง ๆ ไปนิด
แต่การตั้งตะแคงก็กินที่บนโต๊ะ ทางแก้ทำไง

จับมันคว่ำลง เอาด้านล่างขึ้นบน ทีนี้ดังดีแฮะ

จบ

(ขอฝากถึงท่านผู้เมตตา โดปรดช่วยเอาเพลงลูกทุ่งเพราะ ๆ ไปใส่ให้เวบ "คน(บ้าน)นอก" ด้วยเถอะ เพลงสมัยใหม่วัยรุ่นฟังไม่เป็นฮิ ๆ (วันนี้กล้าหัวเราะ แบบว่าเผลอไปน่า)

 

โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.233.159 5 กันยายน 2550 13:54:20 น.  

 

แวะมาดูรูปพ่อพเยียตอนหนุ่มๆอีกรอบมันคุ้นๆตาค่ะแต่นึกไม่ออกหง่ะค่ะ

ขอยืนยันค่ะว่าป้าซ่าส์และคุณยานาเป็นคนละคนกันค่ะ
และก็ขอขอบคุณ คุณยานาด้วยที่บอกว่าป้าซ่าส์ยังเป็นวัยรุ่นอยู่


//upload2.postimage.org/624764/JFBQ00163070213B.jpg.....ถ ถถถ ถถถถถถถถ ถูกต้องนะคร้าบบบบ....
เป็นวัยรุ่นตอนปลาย ปล๊าย ปลายแล้วละค่ะ
คำว่า คัมมาเต๊ะ !! ที่ป้าซ่าส์พูดนั้นได้ยินมาจากนักรักบี้ชาวนิวซีแลนด์ที่ใช้
ร้องให้ฮึกเหิม และข่มขวัญคู่ต่สู้ก่อนลงสนามแข่งค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าถูกต้องรึเปล่านะคะ
แต่ฟังกี่ครั้งๆๆก็ได้ยินอย่างนี้ทุกครั้งเลยค่ะ อันที่จริงยาวกว่านี้แต่ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ
คิดว่าเป็นภาษาชนเผ่า เมารี (เมาลี) เอ๊!! สะกดไงแล้วน๊า ลืมแล้วอ่ะ นั่นแหละค่ะ

 

โดย: ป้าซ่าส์ 5 กันยายน 2550 14:01:55 น.  

 

อ๊ากกกกก รูปไม่ขึ้น แหะๆๆๆ

 

โดย: ป้าซ่าส์ 5 กันยายน 2550 14:03:32 น.  

 

ขอไปตั้งสติก่อนนะจ้ะ

 

โดย: p.tim IP: 222.123.82.172 5 กันยายน 2550 16:09:09 น.  

 

สวัสดีจ๊ะคุณโดมและแฟนๆชาวบล็อกทุกท่าน

ฝากถามคุณนายโป่งแยงผ่านบ้านนี้หน่อยนะจ๊ะ ว่า...
เป็นอะไรเหรอ ถึงขนาดจะไปตั้งสติน่ะ...สติมันล้มลงหรือไง...แหะๆ...ล้อเล่นจ๊ะ...คิดถึงทุกคนนะจ๊ะ


 

โดย: ป้าชุ IP: 86.142.11.200 5 กันยายน 2550 16:31:59 น.  

 

สวัสดีจ้ะ จริงๆ แล้ว มีเรื่องจะเล่า
แต่ก็ขอไปตั้งสติ ทำงานที่ค้างไว้ก่อนจ้ะ ป้าชุ โทรฯ มาหาติ๋มด้วยจ้ะ

ขอโทษนะ พ่อ กำนัน ขอใช้พื้นที่ ประกาศ หาคนหายหน่อยจ้ะ

 

โดย: p tim IP: 222.123.82.172 5 กันยายน 2550 18:29:50 น.  

 

หวัดดีคะ พี่โดม

คำคมของแม่ วันนี้
มีคำว่า "เหนื่อยมันไม่ติดตัวนะลูก เหนื่อยแล้วมันก็หาย"
แม่จะสอนเมื่อลูกๆรู้สึกว่าการทำงานที่แม่ให้หนักและเหนื่อย แม่จะบอกและถามทุกครั้งหลังเสร็จสิ้นภารกิจว่า "ที่เหนื่อยเมื่อครู่นี้ มันหายหรือยัง มันติดอยู่กับตัวหรือเปล่า...ลูกๆของแม่ทุกคนล้วนได้ฟังคำนี้..มากบ้างน้อยบ้าง ตามแต่คนไหน จะใกล้ชิด ช่วยงานแม่มากกว่ากัน ด้วยวัย..และงาน...ที่เด็กๆอย่างพวกเรามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ..แต่ทุกคนต้องช่วยแบ่งเบาภาระให้แม่...
ทุกครั้งที่รู้สึกเหนื่อย..อาเครญา...จะท่องคำนี้ไว้คะ...ตัวขี้เกียจมันจะไม่กล้าเข้าใกล้ ...คะ


 

โดย: อาเครญา IP: 58.10.64.248 5 กันยายน 2550 19:18:28 น.  

 

หากมีโอกาสที่ดีๆ มาทักทายจงรีบไขว่คว้าเอาไว้ เพราะโอกาสนั้นอาจไม่แวะกลับมาทักคุณอีกเลย...

เมื่อเริ่มเดินทาง รู้สึกโชคดีจังที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ...เดินมาได้สักระยะหนึ่งก็ยังแฮปปี้ จึงคิดว่าคงถูกทางและเหมาะกับเรา...ตัดสินใจทุ่มเท จะยอมเหนื่อยสุดๆ สัก 5 ปีเพื่อให้ได้ความมั่นคง ไม่ต้องการรวย แต่อยากมีชีวิตที่รู้สึกว่ามั่นคง...

เส้นทางก็ยังราบเรียบสวยงาม แถมมีโอกาสดีๆ มากมาย ให้ฉกฉวย จนลืมนึกถึง ประโยคที่ว่า หากคุณไม่พบกับอุปสรรคใดๆเลย แสดงว่าทางเส้นนี้ย่อมไม่ใช่เส้นทางสู่ประตูแห่งความสำเร็จ....

เริ่มถึงกลางทาง รู้สึกเหนื่อย กับโอกาสดีๆที่คว้าเอาไว้มากมาย จนบางครั้งเกือบท้อ ยังดีที่ไม่รู้สึกแย่...

แล้วความสุขหายไปไหนละ ????

มีคนใจดีมาบอกว่า...หากวันนี้ไม่มีความสุข แล้ววันพรุ่งนี้จะเชื่อได้อย่างไรว่าจะสุข... กลับมาทบทวนอีกครั้งว่าทำอะไรอยู่ ???
เราพลาดไปตรงไหนนะ ????

คนใจดีก็มาตอบว่า...เราขาดสติในการดำเนินชีวิตอย่างไม่รู้ตัว เราหลงตัวเอง เราหลงรักเงินทอง เราหลงสิ่งต่างๆอย่างไม่รู้ตัว มุ่งหน้าหาเงินแต่เพียงอย่างเดียวราวกับชีวิตนี้ไม่มีวันตาย เราลืมที่จะมีความสุขที่อยู่กับปัจจุบันขณะ เราผลัดว่าจะมีความสุขในวันข้างหน้า เราไขว่คว้าหาแต่เงินทองมารวมกองกันไว้ แล้ววันหนึ่งเราก็จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีโอกาสได้รู้จักกับคำว่า “ชีวิต” อย่างแท้จริง
เราหลงลืมที่จะมีเวลาให้กับคนที่เรารัก และรักเรา ให้กับคนที่มีคุณค่ากับเราอย่างแท้จริง

หากมีคนมาบอกว่า ...อีก 5 วันคุณจะต้องตาย ให้คุณขอมาว่าอยากจะทำอะไร อยากจะได้อะไร........เพียง 5 ข้อ

คำตอบ ...... คงแตกต่างกันไป

แต่จะมีคนที่โชคดีสักกี่คนบนโลกใบนี้ ที่จะบอกว่า ฉันก็จะตื่นขึ้นมาทำในสิ่งที่ฉันทำอยู่ทุกวันนี้แหละ เพราะฉันมีความสุขอยู่แล้ว

1 ปีที่แล้ว แทบจะไม่เคยกลับบ้านเลย กินนอนในที่ทำงาน..
3 เดือนที่ผ่านมา กลับบ้านกินข้าวกับพ่อ แม่แทบทุกคืน
สิ้นปีนี้ และปีต่อๆไปจะพา คนแก่ๆ 2 คนไปเที่ยวบ่อยๆ

โอกาสที่ดี ย่อมเป็นสิ่งที่ดีเสมอ หากเราเลือก ที่จะไขว่คว้า และรับมันไว้อย่างมีสติ อย่าเพลอ !!









 

โดย: ทะเล IP: 58.9.162.51 5 กันยายน 2550 19:28:46 น.  

 

เข้ามาสวัสดีพ่อพเยียนะคะ
ช่วงนี้ตอนเย็นๆยุ่งมาก เวลาชักไม่ลงตัว
สงสัยเทอมหน้าต้องปรับเปลี่ยนเวลาการเรียน การรับลูกแล้วค่ะ

เห็นรูปสมัยหนุ่มแน่นของพ่อพเยียแล้วคิดถึงคุณสุรชัย สมบัติเจริญ
ไม่ใช่ว่าหล่อสูสีกันหรอก
คิดถึงเพลงไอ้หนุ่มผมยาว อันสุดฮิตตอนนั้น
เพลงนดนตรีดีและี้คุณดนูเลือกคนร้องได้เหมาะจริงๆ
ฟังทีไรก็ยังอมยิ้มสุขใจแบบขำๆ
ว่าแล้วน่าจะส่งเพลงนี้มาให้พี่โดมแปะลงบล๊อกนี้นะ
เข้ากับรูปเป๊ะ.....

ว่าแต่หน้านี้มีเพลงเหรอ หนูไม่ได้ยินค่ะ
อาบูลย์พูดเหมือนได้ยินเพลงด้วย หนูเลยสงสัยจัง...

สวัสดีทุกคนค่ะ มีความสุขถ้วนหน้านะคะ

พี่หนอนฯอย่าทำงานมากเดี๋ยวผอม หนูเป็นห่วง...

 

โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.60.14 5 กันยายน 2550 20:02:35 น.  

 

สวัสดีจ้ะสีน้ำฟ้า

เมื่อสมัยหนุ่มๆก็ไม่เคยมีวินัยในการเขียนเหมือนกัน เพราะมัวแต่เมา

และคิดทื่อๆว่าถ้ามีวินัย ฟังดูแล้วไม่มีอิสระ เพราะวินัยมักใช้กับพระหรือทหาร กับนักเขียนหรือศิลปินใช้ไม่ได้

แต่เดี๋ยวนี้เข้าใจแล้วว่าคนที่จะเป็นนายของตัวเองได้นั้นต้องมีวินัยอย่างยิ่ง

แต่วินัยของนักเขียนนั้นไม่ได้ว่าต้องเป๊ะๆ หรือว่าขีดเส้นตายอะไรตื่นขึ้นมา 6 โมงเช้า ก้มหน้าก้มตาเขียนอย่างเดียว (แต่ถ้าใครทำได้ก็ดี)

คุณจะทำงานเวลาไหนก็ได้ตามสบาย แต่ต้องมีกำหนดเสร็จแน่นอน อย่างน้อยก็มีเดทไลน์สำหรับตัวเอง

จะทำงานเวลาไหนก็เลือกเอาเองให้เหมาะใจก็แล้วกัน

พ่อพเยียก็ไม่ใช่มีวินัยดีอะไรหรอก แต่อยากบอกว่า 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ถือว่ามีวินัยใช้ได้ระดับหนึ่ง (เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมาในการเขียนหนังสือ)

ซึ่งถึงวันนี้มันไม่ได้รู้สึกว่าเป็นวินัยแล้ว มันเป็นความรู้สึกว่าถ้าเวลาผ่านไปแล้วคุณไม่ได้เขียนหนังสือหรือไม่ได้เขียนอะไรเลย
มันก็จะรู้สึกชีวิตว่างๆว้างๆ อย่างบอกไม่ถูก

 

โดย: พ่อพเยีย 5 กันยายน 2550 21:06:21 น.  

 


เวลาทำสวนทีไรชอบนึกถึงหนังสือของคุณพ่อพเยียและเข้ากับหัวข้อบลอกนี้พอดี

อันว่าเรื่องสติไม่อยู่กับตัวหรือว่าเรื่องความโลภนั้น
ถ้าหากว่าเราปล่อยให้มันเข้ามามากๆ ถึงค่อยกำจัด
มันก็เหมือนต้นหญ้านั่นแหละ เผลอแป๊บเดียวขึ้นรกเต็มสวน
ขึ้นกว่าจะถอนออกหมด

ปล.เห็นภาพคุณพ่อพเยียแล้วโอ้ อยากแอบกริ๊ด

สมัยสาวๆ มีแอบเปรี้ยวชอบไอ้หนุ่มผมยาวมากๆ เลยค่ะ อิ อิ

 

โดย: filmgus 5 กันยายน 2550 21:46:48 น.  

 

เดี๋ยวพรุ่งนี้จะติดต่อเขาแล้วจะแนะนำเขาเข้าบล็อกพี่โดม..

ยังไม่รับปากว่าจะได้หรือเปล่า

ได้ข่าวแล้วจะส่งนกพิราบไปบอก
นะคะ..

ทีนี้หลับสบาย....

 

โดย: ยานา IP: 61.7.173.163 5 กันยายน 2550 22:22:30 น.  

 

สวัสดีครับพี่บูลย์

พี่ก้อพูดเกินไป..

ศิลปินในความคิดของผมคือบุคคลที่ทำงานศิลปะ ไม่ว่าจะทำงานสาขาใดก็ตาม เขียนรูป เขียนหนังสือ ร้องเพลง แต่งเพลง ฯลฯ

คือทำงานอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับศิลปะ และมีผลงานศิลปะออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม

แต่เราคงเคยได้ยินว่าคนนั้นคนนี้ "อารมณ์ศิลปิน" ไหม ?

ไม่รู้เหมือนกันนะว่าอารมณ์ศิลปินน่ะคืออารมณ์แบบไหน ?

พี่บูลย์นั่นแหละศิลปินตัวจริง ทำงานศิลปะตั้งหลายอย่าง ทั้งเขียนรูป แต่งเพลงลูกทุ่ง เขียนหนังสือ เขียนนิยาย เขียนเรื่องสั้น เขียนกลอน (ด้นสดได้เลย)


ผมน่ะทำอะไรเกี่ยวกับงานศิลปะไม่เป็นสักอย่าง ที่รักและชอบทำก็คืองานเขียนหนังสือนี่แหละ

แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นศิลปินกับขาเลย

เรื่องการทำงานของพี่บูลย์กับผมนั้น อย่ายกย่องผมถึงขนาดนั้นเลย (ไม่จริงหรอกน่า)

เราต่างก็ทำงานที่เรารักและเราถนัด ถึงแม้จะเขียนหนังสือเหมือนกัน แต่ก็มีความต่างกันในเรื่องที่เขียน

แต่ความต่างกันนั้นไม่ได้หมายความว่าของใครจะดีกว่าของใครนะครับ

ผมก็ดีใจที่ได้รู้จักกับพี่บูลย์ ถึงแม้บางครั้งจะมีกระแนะกระแหน ขบๆกัดๆกันบ้างเล็กๆน้อยๆ พอเป็นกระษัย ก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองกัน

เรื่องเพลงลูกทุ่งที่อยากเอาลงบล็อกนั้น ลองเรียนรู้นิดหน่อยทำไม่ยากหรอกครับ ถ้าผมทำได้พี่บูลย์ต้องทำได้แน่นอน

สวัสดีครับป้าซ่าส์

กรุณากลับมาเอารูปที่ไม่ขึ้นมาขึ้นใหม่ให้เรียบร้อยนะครับ

ผมอยากเห็นว่าเป็นรูปอะไร ?


สวัสดีครับคุณp tim

ตั้งสติได้หรือยังจ๊ะ


สวัสดีครับป้าชุ

ช่วยคุณนายโป่งแยงตั้งสติด้วยนะครับ


สวัสดีจ้ะอาเครญา

คำคมสองคำแล้วนะ แม่จำมาหรือแม่คิดเอง ลองสอบถามแม่ดูสิ ว่าจำจากคนแก่ยุคก่อนต่อๆมาหรือเปล่า ?

เพราะเห็นว่าสองคำนี้คิดว่า เป็นคำคมที่ใช้ได้ทีเดียว

"เหนื่อยมันไม่ติดตัวนะลูก เหนื่อยแล้วมันก็หาย"

แจ๋วจริงคุณแม่ของอาเครญา

สวัสดีครับคุณทะเล

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่เล่าสู่กันฟัง

อ่านคอมเม้นท์คุณแล้วผมก็แอบยิ้มอยู่ในใจ


สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า

หน้านี้มีเพลงสิ ตอนแรกเป็นเพลงบรรเลง เพิ่งเจอเพลง "กุหลาบแดง" โดนใจ เลยเปลี่ยนใหม่ (ตอนพี่บูลย์ได้ยินไม่ใช่เพลงนี้)

ถ้าเข้ามาช่วยบอกทีนะว่าได้ยินไหม ?




สวัสดีครับคุณfilmgus

ผมชอบคอมเม้นท์เปรียบเทียบของคุณจัง เข้าท่าทีเดียว และใช่จริงๆเสียด้วย !

เรื่องความโลภนั้นถ้าหากว่าเราปล่อยให้มันเข้ามามากๆ ถึงค่อยกำจัดมันก็เหมือนต้นหญ้านั่นแหละ เผลอแป๊บเดียวขึ้นรกเต็มสวนขึ้นกว่าจะถอนออกหมด

 

โดย: พ่อพเยีย 5 กันยายน 2550 23:00:30 น.  

 

จริงๆแล้วก้อเป็นแค่อิโมเล็กๆเองค่ะ แต่จัดให้พ่อพเยียดูอีกรอบก็ได้ค่ะ

.....ถ ถถถ ถถถถถถถถ ถูกต้องนะคร้าบบบบ....

แค่นี้แหล่ะค่ะหลับฝันดีค่ะ

 

โดย: ป้าซ่าส์ 5 กันยายน 2550 23:44:51 น.  

 

สวัสดีโดม
เพิ่งอัพบล็อกเสร็จ คืนนี้ไม่รู้เป็นอะไรคอมมันกวนอารมณ์ กว่าจะ
เอาอยู่ ปวดตาหมดเลย มาบอกก่อน ที่จะหยุดพักยาว พรุ่งนี้หกโมงเย็นไปแสดงความยินดีกับวสันต์หน่อย ไปด้วยกันไหม นัดต๋วงไว้ จะไปดื่มชากันที่บ้านต๋วง
เอางานไปดูกัน วสันต์กระสันจะทำหนัง จะให้ช่วยเรื่องบท (ซื้อกล้องตัวใหม่อีกแล้ว..)

หมู่นี้คงสติดีมั้ง เลยไม่ค่อยสะตึสักเท่าไหร่ แล้วโทรสายฟ้ามาบอกข่าวนะ...

 

โดย: สัญจร ดาวส่องทาง 6 กันยายน 2550 2:29:14 น.  

 

ชื่นชมในความหล่อเมื่อยังวัยรุ่นต้นๆของเจ้าของบล๊อกก่อนดีกว่า

ตอนหนุ่มๆ จอห์นไม่ยักกะหล่อขนาดนี้นะคุณโดม แต่แก่มาหล่ออ่ะ

แม่น้องนิกปลงๆกับชีวิตมาเรื่อยๆค่ะ เบื่อเหตุคนไม่ปลงข้างๆตัว
ตัวเองเลยปลงซะเอง แม่น้องนิกขอเพียงแค่ นอนหลับสบาย
ไม่มีทุกข์ มีใช้ตามอัตภาพ ไม่ต้องรวยเหนือใคร เท่านี้ก็พอใจแล้วค่ะ

เงินนี่..หาได้เรื่อยๆเท่าที่เราจะมีปัญญาหา แต่ความสุขนี่ อยากได้มากแต่มันไหลเข้ามายากซะจริงๆ

+++++++++++
ขอบคุณคุณนกค่ะพี่อวยพรวันเกิดให้ ก็แก่ๆตามพี่ๆเขาไปค่ะ
(อุ๊ย..พูดความจริงดังไป)

++++++++
พี่หนอนฯ

เห็นจริงอย่างพี่โนเธอว่าค่ะ
อย่านอนดึกนัก เดี๋ยวผอม
แล้วจะไม่สวยเหมือนเดิม
จะจำกันไม่ได้ซะปล่าวๆน่ะ

เราห่วงพี่หนอนฯผอมกันน่ะ
แต่ดูท่า..พี่หนอนฯคงเตรียม
สำรับมื้อดึกไว้ข้างๆคอมฯแน่ๆเลย

พักนี้ ตั้งแต่หายไหล่เดี้ยง หายกลัวตาย มันอยากไปสารพัดเลยพี่หนอนฯ

++++++++++
พี่ตะเบบูญ่า

คารมไม่เป็นรองนะพี่นะ
เอ๊ะ..หรือเราไม่เคยรู้ว่าพี่เราคารม
ไม่ธรรมดา

ไปละ..เดี๋ยวพี่กลับมาจิก เจ็บปวดไปซะปล่าวๆ..นะเรา

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.91 6 กันยายน 2550 6:03:36 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าค่ะ..พี่โดม.

ต้องขอขอบคุณมากๆ สำหรับเพลงที่มอบให้..

เมื่อคืนด้วยความรีบเลยไม่ได้อ่านและดูอย่างละเอียด..ฟังแค่พี่โดมถามมีลำโพงหรือเปล่า ให้เปิดลำโพงด้วย..หนูก็ซื่อจนเซ่อเปิดลำโพงก็ได้ยินเพลงกุหลาบแดงของไก่..แต่ไม่ได้อ่านความละเอียด..จนถึงเช้านี้.

ขอบคุณในความตั้งใจและความ
ปรารถนาดีต่างๆ ที่พี่โดมคอยมอบให้ รวมทั้งกำลังใจ
ทั้งให้สติต่างๆอยู่เสมอๆ

จะจดจำ ใส่ใจ ไม่ลืมเลือน

ทั้งคำเตือน คำสอน พรทั้งหลาย

น้อมก้มรับ ทุกคำ ใส่ใจกาย

แม้นชีพวาย ขอสลาย ไปพร้อมกัน.

 

โดย: ยานา IP: 61.7.173.37 6 กันยายน 2550 7:40:16 น.  

 

สวัสดีครับป้าซ่าส์

ขอบคุณครับสำหรับรูปลิงจ๋อน่ารัก แหมนึกว่าจะส่งรูปป้าซ่าส์สมัยสาววัยรุ่นมาให้ดูบ้าง ผมเห็นในบล็อกป้าซ่าส์แล้วรูปผมยาวมากเลย

สวัสดีครับพี่ปอน

หยุดพักยาวเลยหรือ ?

เป็นเพราะคอมพ์หรือเป็นเพราะสายตาครับ

พรุ่งนี้หกโมงเย็น เสียดายผมมีนัดตอนสี่โมงเย็น สงสัยไม่ได้ไปแน่เลย เพราะอยู่คนละทิศกันเลย

อยากไปพบวสันต์เหมือนกันแหละ เพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว

เดี๋ยวผมจะโทรไปหานะครับ

สวัสดีครับแม่น้องนิก

"ความพอใจ"นั่นแหละครับที่เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขอย่างแท้จริง

คำว่า "บ่อเกิด" นั้นมีความหมายลึกซึ้งนะครับ

ไม่มีความสุขไหนเลย... ที่ไม่มี "ความพอใจ" อยู่ในนั้น ลองนึกทบทวนดูสิ...ใช่ไหมครับ

สำหรับแม่น้องนิกนั้นสุดยอดอยู่แล้ว แค่สองสามข้อก็เป็นต้นทุนที่หาความสุขได้ไปตลอดแล้ว "ฐานะดี สามีหล่อ...ลูกน่ารักและเรียนเก่ง"

สวัสดีจ้ะยานา

เมื่อวานนี้ท่องเน็ตไปพบบล็อกที่มีเพลงให้ฟัง ก็เห็นเพลงนี้เข้าก็เลยนึกถึงยานา เคยเล่าให้ฟังถึงคุณไก่ ที่ร้องเพลงนี้ว่ารู้จักและเป็นเพื่อนกันมากันตั้งแต่เธอยังไม่ได้ร้องเพลงนี้ และก็ยังรู้จักกันตลอดมา

และได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตเธอเล็กๆน้อยๆ ก็ทำให้รู้สึกว่าเมื่อได้ฟังเพลงนี้แบบได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวนักร้องบ้าง

ก็นับว่าเป็นการฟังเพลงที่แตกต่างออกไปจากการฟังเพลงใครสักคนที่ไม่เคยรู้เรื่องราวของเขาหรือเธอ


บอกเลยว่าฟังเพลง "กุหลาบแดง"ตอนนี้ความรู้สึกแตกต่างไปจากฟังเพลงนี้ตอนที่เพลงนี้กำลังดังๆในตอนนั้น

 

โดย: พ่อพเยีย 6 กันยายน 2550 8:13:20 น.  

 

สวัสดีค่ะ.. ยามเช้าของกระบี่วันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนอีกแล้ว

เมื่อวานเห็นพาดหัวข่าว สำนักสีเขียว .. เรือนักท่องเที่ยวแบบเที่ยวรอบเกาะทั้งวันล่มอีกแล้ว

เฮ้อ.. ฟังแล้วกลุ้ม เพราะมีคนเสียชีวิตด้วย ลูกค้ากลุ่มหลักซะด้วย คือชาวอิสราเอล .. เป็นห่วงเกาะพีพี ซึ่งคงจะเงียบเหงาไปอีกนานแหละ

แจมเองไม่ได้ลงเกาะนานมาก.. เกือบครึ่งปีแล้วมั๊ง เป็นอะไรไม่รู้ พักหลังนี้เกิดอาการกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หลังจากช่วงที่ไปเจอพายุฝนบนเรือกลางทะเลเข้า 3-4 หน.. ก็เลยไม่อยากเดินทางอีก

สำหรับงานเขียน..เห็นด้วยกับพี่โดมทุกประการ..ฉะนั้นแจมก็เลยคิดว่า.. อีกหน่อยคงได้ทำงานประเภทนี้บ่อยขึ้น..

---แอบฟังผู้ใหญ่คุยกัน (พี่ปอนกับพี่โดม.. ลุ้นนิดๆ เขาจะทำหนังประเภทไหนกันหนอ?)

 

โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.149.139 6 กันยายน 2550 8:38:34 น.  

 

หวัดดีค่ะพ่อเพยีย

สมัยสาวๆเคยฟังเพลงกุหลาบแดง
แล้วเสียน้ำตาค่ะ...อิอิ อารมณ์คล้อยตามยามความรู้สึกอ่อนแอ

พ่อเพยีย ตอนหนุ่มๆหล่อไม่แพ้ตอนนี้เลยนะคะ

 

โดย: คนเลวที่แสนดี 6 กันยายน 2550 10:57:45 น.  

 


สวัสดียามสายค่ะ อาโดม

ห่างหายไป 2 วัน กลับมาอ่านทุก Comment จนตาลายเลยค่ะ แต่ก็สนุก และได้ข้อคิดดีดีมากมาย

** ลุงบูลย์คะ..
อยากได้เพลงอะไรคะ บอกชื่อเพลงกับคนร้องมาได้ค่ะ ถ้านกหาเพลงนั้นได้ จะช่วยทำโค้ดให้ ลุงจะได้เอาไปวางไว้ที่บล็อก หรือจะให้นกส่ง file เพลงไปให้ที่เมล์ก็ได้ค่ะ

** พี่อาเครญาคะ..
คำคมของแม่พี่คล้ายกับของแม่นกเลยค่ะ แม่มักจะบอกว่า "เหนื่อยน่ะไม่นาน นั่งพักแล้วมันก็หาย" นกเองก็จะเอาคำนี้มาเตือนตนเวลาขี้เกียจค่ะ

** คุณแจมคะ..
จะมาเมื่อไหร่ แจ้งที่เมล์นะคะ แล้วนกจะบอกเบอร์โทร จะได้นัดเจอกันค่ะ อยากพบ อยากเจอ คุณแจมเหมือนกัน แล้วจะพาเที่ยวนะคะ ขออนุญาตน้านพไว้ก่อนได้เลยค่ะ

หันกลับมาคุยเจ้าของบ้านนะคะ

อาโดมคะ..
ได้ข้อคิดมากกับการใช้สติค่ะ ในความเป็นหญิง เมื่อเวลาจะไปไหนมาไหน ก็คงต้องระมัดระวังตัวให้มาก ส่วนใหญ่นกจะไปไหนมาไหนโดยการขับรถไปเอง ถึงกระนั้นก็ยังกลัวค่ะ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีข่าวอันตรายมากมายของผู้หญิงที่ขับรถไปไหนๆ คนเดียวด้วย ถ้าไปที่ใดค่ำๆ มืดๆ จะไม่จอดรถในที่เปลี่ยวค่ะ จริงอย่างอาโดมว่าค่ะ ทุกอย่างต้องใช้สติ

ขอบคุณที่อาคอยสอนนะคะ ไม่เคยรู้สึกจะต่อว่าอะไรอาเลย กลับนึกดีใจมากๆ และขอบคุณอามากๆ ที่คอยสอนหลาน ใจดีกับหลาน นกยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะที่มีอาใจดีอีกท่านหนึ่ง

เห็นรูปอาโดมแล้ว โอ้โฮ อาดูดีมากค่ะ ดูดีในสไตล์เซอร์ๆ ของหนุ่มผมยาวนะคะ นกเองก็ผมยาว แต่เมื่อไปเทียบผมกับผู้ชายผมยาว จะเห็นว่า ผมของผู้ชายจะดูเงา สลวย มากกว่าผมของผู้หญิงจริงๆ นะคะ ทำไมเป็นอย่างนั้นก็ไม่ทราบค่ะ


 

โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) 6 กันยายน 2550 11:39:00 น.  

 

 

โดย: p_tham 6 กันยายน 2550 17:14:32 น.  

 


รบกวนคุณโดมเช็คหลังไมค์ด้วยค่ะ

 

โดย: p_tham 6 กันยายน 2550 17:15:14 น.  

 

หวัดดีคะ..พี่โดม

อาเครญา คิดเอาเองว่า คำคมหรือคำสอนพวกนี้คงสืบทอดต่อๆกันมา...

เพียงแต่คำและวิธีการที่สอน อาจมีความต่าง...ในการเรียบเรียงคำ
พอดีแม่ของอาเครญา ท่านเป็น"ศิลปินพื้นบ้าน"เชี่ยวชาญเรื่อง "กลอน"คะ
ภาษาของท่าน...จึงออกมาอย่างที่บอกคะ

สวัสดี คุณหทัยชนก คะ ยินดีที่รู้จัก พี่โดมคุยให้ฟังอยู่บ้างคะ มีโอกาสคงได้รู้จักตัวคะ

หวัดดีทุกๆคนด้วยคะ
วันนี้ต้องขอแค่นี้ก่อน จะรวบรวมนำมาเสนอใหม่คะ

 

โดย: อาเครญา IP: 58.10.64.248 6 กันยายน 2550 18:58:40 น.  

 


ขอบคุณคุณโดมสำหรับมิตรภาพ

...

รบกวนเช็คอีเมล์ yahoo อีกรอบด้วยค่ะ

 

โดย: ขุนเขา ริมน้ำ IP: 124.121.226.140 6 กันยายน 2550 20:56:46 น.  

 

สวัสดีค่ะอาโดม

จริงด้วยค่ะ คนเราถ้ามีสติทำอะไรแม้ไม่สำเร็จอย่างใจหวังแต่มันก็ออกมาดูไม่ขี้เหร่เกินไป

อย่างเวลาทำข้อสอบบางคนเจอข้อสอบแล้วสติเตลิดอะไรที่เคยเรียนอะไรที่ท่องไว้หายไปเกลี้ยง ถ้าตั้งสติได้ค่อยๆคิดค่อยๆทำมันก็คงไม่แย่ขนาดนั้น

***วันนี้หลานอาโดนภัยคุกคามโดยไม่รู้ตัว โดยตัวตนไม่ชอบหาเรื่องชาวบ้าน แต่ก็นะค่ะคุณอา อยู่ดีๆชาวบ้านก็เอาเรื่องมาให้เรารู้สึกเซ็ง ...เฮ้อ...เค้ามาหาว่าหนูเป็นนกสองหัวไปซะงั้น แวบแรกที่รู้ตัวว่าโดนเอาไปว่าในทางที่ไม่ดีก็มีโกรธนะค่ะ แต่ก็คิดอีกทีช่างเขาเถอะ คนเราพอว่างมากไม่รู้จักหาอาหารใส่สมองก็เที่ยวให้ร้ายคนอื่นไปทั่ว...

 

โดย: มัยดีนาห์ 6 กันยายน 2550 22:33:48 น.  

 

สบายดีกาน่าค่ะคุณพ่อพเยีย "ผู้หญิงบนรถไฟ" ที่กล่าวถึง เคยรู้จักค่ะ เธอไปศึกษาต่อปริญญาโทอีกใบและต่อสู้คดีของเธอ พร้อมเขียนวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับเรื่องของเธอค่ะ น่าสนใจมาก ใครอยากรู้ความเป็นมาเป็นไป การต่อสู้ที่ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่ถูกกระทำ กับผู้ชายที่กระทำ แต่เป็นการต่อสู้กับอำนาจรัฐที่เป็นผู้ชายค่ะ ชื่อจริงพี่เขาลืมแล้วล่ะ เรื่องวิทยานิพนธ์ก็ยาวไป ลืมเหมือนกันค่ะ

คุณยานา ดีใจจังที่คุณยังเข้ามาในบล็อก สุขภาพเป็นอย่างไรบ้างคะ ถ้าตอนนี้อยู่ญี่ปุ่นก็ระวังไต้ฝุ่นบุกหน่อยแล้วกันค่ะ

ป้าซ่าส์ รับทราบแล้วเปลี่ยน แหม....แต่ป้านี่ ซ่าส์ สมชื่อเลย

ปล.สุดท้าย เห็นคุณพ่อพเยียบอกว่าตอนผมยาวดูแลสระ+ ครีมนวด ...อายจัง ผมยาวแต่ไม่ค่อยอยากจะดูแลเลย ที่นี่ไม่กล้าตัดผม กลัวได้ทรงแอฟริกัน ใครจะเชื่อว่าทุกวันนี้ตัดผมเอง

 

โดย: shin chan (alei ) 6 กันยายน 2550 23:46:18 น.  

 

อ่านตาแฉะไปเลยค่ะ...

มารายงานตัวว่าอ่านหมดทุกเรื่องของทุกคนแล้วค่ะ

หมดแรงที่จะเขียนอะไรต่อเลยค่า....คราวที่แล้วไปเม้นท์ไว้ในเรื่องเก่าของพี่โดม เม้นท์จบ เปิดอีกรอบ อ้าว...พี่โดมขึ้นเรื่องใหม่ไปแล้ว...เฮ้อ...


ปล.ภาพพี่โดมผมยาว แทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ สาวๆ แม่ยก เอ๊ย!...แฟนคลับบ้างไหมน้อ....

เผ่นดีก่า...

ดอกไม้ปลายปืน....
//weblog.manager.co.th/publichome/pijika/

 

โดย: ฮอลล์ IP: 58.8.133.25 7 กันยายน 2550 3:24:18 น.  

 

ไปยกของเก่ามาเองค่ะ....เจ้าบ้านไม่เห็น
---------------------- -----------

สวัสดีค่ะ ทุกๆ ท่าน

หายหน้าไปนาน...
กลับมาอีกที โห...อ่านจนตาลายเลยค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอบคุณพี่โดมที่เล่าเรื่องงานวันนั้น และลงภาพฮอลล์แค่เสี้ยวเดียว...(หากลงเต็มๆ คงเรทติ้งตก)

ยินดีกับป้าชุ...เฮ้!!! ป้าชุสอบผ่านแว้ว....เดี๋ยวจะนัดเพื่อนมาฉลองให้นะคะ...เอาให้เมาไปเลย (ป้าชุระวัง นั่งอยู่เฉยๆ อาจเมาอัตโนมัติ)..........

คิดถึงแม่น้องนิก ยานา นะคะ ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างมานั่งประจำการ หน้าคอมพ์เลยค่ะ

ดีใจที่ได้พบกับพี่ตะเบบูญ่า พี่หนอนเมืองกรุงฯ

เสียดาย ที่พี่โดม ไม่ได้แนะนำให้รู้จัก คุณกฤติศิลป์ ศักดิ์ศิริ คนนามสกุลเดียวกัน (อยากถามว่าเป็นญาติกันรึเปล่าคะ)

ไม่ได้แวะเยี่ยมบ้าน ชบาฉาย นานแล้วด้วยค่ะ แต่ยังไม่ลืมคุณปะการังนะคะ....


ขอบคุณ คุณแพรจารุ ที่เล่าเรื่องงานเชียงใหม่ ความจริงฮอลล์ควรจะต้องไป แต่ไปไม่ได้ค่ะ พี่ๆ เค้าเดินทางคืนวันศุกร์ แต่เราต้องทำงานดึก เลยขอตัวไม่ไปค่ะ

อ่านของทุกท่านนะคะ...แต่คุยด้วยแค่นี้พอค่ะ ง่วงแล้ว....ขอตัวไปนอนพัก ก่อนเริ่มงานดึกๆ นะคะ




โดย: ฮอลล์ IP: 58.8.138.124 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:19:39:50 น.

 

โดย: ฮอลล์ IP: 58.8.133.25 7 กันยายน 2550 3:29:03 น.  

 

สวัสดีจ้ะสีน้ำฟ้า


ใครที่รู้ว่าชอบทำอะไรตั้งแต่ยังหนุ่มยังสาวก็ถือว่าเป็นกำไร คือเริ่มต้นได้เร็ว

พ่อพเยียกว่าจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งก็สี่สิบกว่าแล้ว...แต่ก็ยังดีที่ถือว่าได้เริ่มต้น

จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนพูด รู้สึกจะเป็นคุณพจนา จันทรสันติ นักเขียนคนหนึ่งที่พ่อพเยียชื่นชอบมาก

ประโยคนั้นคือ "ถ้าเราได้ทำสิ่งที่เราชอบวันละเล็กละน้อย แล้วเราก็จะได้ทำมันมากขึ้น" (ประมาณนี้แหละ แต่ของเดิมเขาพูดได้สละสลวยกว่านี้)

สวัสดีครับคนเลวที่แสนดี

เท่าที่จำได้เกี่ยวกับเพลงนี้ เหมือนเคยอ่านใครที่เกียวข้องกับการทำอัลบั้มชุดนี ดูเหมือนนักแต่งเพลงหรือใครจำไม่ได้ ให้สัมภาษณ์ว่า

อันที่จริงเพลงนี้ไม่ได้ตั้งใจจะให้ดังหรือเป็นเพลงโปรโมตหรอก แต่งเพื่อเติมอัลบั้มให้เต็ม แต่พอเปิดขึ้นมาเพลงนี้กลับดังระเบิดกว่าเพลงที่ตั้งใจโปรโมต

(แปลกเหมือนกันนะว่าผมไปจำอะไรเกี่ยวกับเพลงนี้ได้ไง ทั้งๆที่ไม่ใช่เป็นเพลงที่ชื่นชอบเป็นพิเศษสักหน่อย - แต่พอมาฟังตอนนี้ชอบแล้ว รู้สึกว่าเพราะกว่าตอนที่เพลงนี้ดังเสียอีก-เขาเรียกว่าจิตปรุงแต่งน่ะ)

เคยอ่านหนังสือของท่านพุทธทาสภิกขุ เรื่อง"คนถึงธรรมธรรมถึงคน" จำความได้ประมาณว่า ไม่ว่างานอะไรก็ตามที่ประสบความสำเร็จนั้น จะมีเทคนิคที่จะให้ประสบความสำเร็จเสมอ
เพียงแต่บางทีผู้ทำก็ยังไม่รู้จักว่ามันคืออะไร

ความสำเร็จทุกชนิดไม่ว่าเป็นอะไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องฟลุ้คหรือเรื่องบังเอิญที่จะทำให้เพลงๆหนึ่งดังเปรี้ยงขึ้นมาในยุคสมัยหนึ่ง

(และไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยที่จะมีเพลงอมตะที่สามารถฟังได้ทุกยุคทุกสมัย)

เพียงแต่เราไม่รู้รายละเอียดว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้างที่ทำให้เพลงๆหนึ่งดังขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นคำร้อง ทำนอง เสียงร้องของผู้ร้อง การประชาสัมพันธ์ สถานการณ์ในตอนนั้น อื่นๆอีกมากมาย

แต่เคล็ดลับเหล่านี้ก็มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ และทั้งๆที่รู้ๆก็ไม่สามารถทำได้ทุกเพลงด้วย เพราะเพลงแต่เพลงไม่ว่าจะเพราะหรือไม่เพราะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ร้องอย่างเดียว แต่อยู่ที่ผู้ฟังด้วย


สวัสดีครับคุณขุนเขา ริมน้ำ

เป็นอันว่าเราตกลงกันตามนัดหมายนะครับ

สวัสดีอาเครญา

ค่อยๆทยอยเอามาลงนะ ว่าแต่จำได้หมดหรือเปล่า ? เชื่อไหมว่าบางที่คำคมหรือสุภาษิตประโยคเดียวเปลี่ยนแปลงชีวิตบางคนได้มากกว่านิยายเล่มหนาๆอีกนะ จะบอกให้

สวัสดีจ้ะหลานมัยดีนาห์

ใครนะทำให้หลานอากลายเป็นนกสองหัวไปได้ อุ๊ย! พูดล้อเล่นน่า

เมื่อก่อนอาก็เป็นอย่างหลานนี่แหละ เวลาใครว่าอะไรที่เราไม่ใช่จะโกรธมาก ตามอธิบาย และชี้แจงอยู่นั่นแหละ ว่า "ผมไม่ใช่อย่างนั้น ผมไม่ใช่อย่างนี้"

แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยแล้ว เบาไปเยอะ แลอาอยากบอกคาถาไว้นิดนึงคือ "คำพูดของคนอื่น ไม่อาจทำให้เราดีเราชั่วได้หรอก นอกจากการกระทำของตัวเอง"

แล้วเราก็ไม่สามารถห้ามผู้อื่นไม่ให้พูดเรื่องเราได้เสียด้วยสิ เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ตัวก็รีบปล่อยวางเสียเถิด ไปเขียนกลอนเขียนนิยายดีกว่า - หนูทำถูกแล้วที่ไม่ถือสาน่ะ


สวัสดีครับคุณชิน

ขอบคุณครับที่เข้ามาตอบคำถามที่ผมถามไว้


สวัสดีจ้ะฮอลล์

ตอนแรกก็ลงรูปด้านหน้าฮอลล์ด้วย แต่โดยรวมแล้วดูไม่ค่อยลงตัวก็เลยเอารูปออก ลงด้านข้างด้านเดียวก็กินขาดแล้วหละ

คุณสเลเตเธอใจดีส่งรูปมาให้ งานที่นัดอาเครญา ผ่านพ้นไปด้วยดีใช่ไหม ?

ถ้าโอกาสเหมาะกันน่าจะได้พบกับสองสาวนี้สักครั้งหนึ่งนะ

 

โดย: พ่อพเยีย 7 กันยายน 2550 8:04:36 น.  

 



 

โดย: mojigirl 7 กันยายน 2550 10:42:41 น.  

 

ทักทายสวัสดีทุกผู้ทุกนามครับ

พี่โดม เซอร์จริง ๆ

หน้าบ้าน หน้ามอง เข้ากับนโยบาย กทม. จริง ๆ

วันนี้อ่านข่าว มีการระดมพลเหล่าวิศวะ จะช่วยออกแบบให้กรุงเทพ ฯ น่าอยู่ แม้จะเป็นงานหนัก ไม่แน่ใจ แต่ก็เอาใจช่วย อย่างไรเสีย เริ่มจากหน้าบ้าน หน้ามอง ฉบับทำด้วยมือเรา แบบที่พี่โดมทำ ถือว่าได้ช่วยชุบชีวิตสังคมเมืองที่แห้งแล้งได้ระดับหนึ่ง

 

โดย: J IP: 203.154.114.253 7 กันยายน 2550 11:07:03 น.  

 

สวัสดีค่ะ

เข้ามาเยี่ยมชมหลายวันแล้ว โมงยามนี้ อิฉันกำลังปล้ำอยู่กับการมีบล็อกเป็นของตัวเอง...แบบเห็นคนอื่นมีแล้วอยากมีบ้าง อ่านวิธีทำ ลงทำหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ เนื่องด้วยความอ่อนด้อยในการใช้เครื่องประมวลผลข้อมูล

อย่างไรก็ตาม อิฉันพยายามต่อไป...สู้เขา ปลาท่ีน้าโดมทอด (ขาย) ทิ้ง

ไปก่อนนะคะ วันหลังจะเข้ามาอ่านอย่างละเอียด

 

โดย: ตะโกลา (ปลาท่ีถูกทอดทิ้ง) IP: 58.9.142.76 7 กันยายน 2550 14:03:33 น.  

 

สวัสดีครับ mojigirl



หนึ่งยิ้มมาสองยิ้มไปก็แล้วกันนะครับ


สวัสดีครับคุณj


ถ่ายหน้าบ้านแบบแน่นๆ เพราะรกมาก เลยถ่ายเฉพาะทางเข้าหน้าประตู แต่คุณjเคยเห็นของจริงแล้วนี่ว่ารกขนาดไหน

"รกที่อยู่ได้ รกใจอยู่ยาก" ว่าไปโน่น


สวัสดีจ้ะปลาจิงจ้าง

ทำเลยเรื่องบล็อกน่ะ ถ้าทำที่บล็อกแก๊งมีปัญหาอะไรที่ไม่ยากนัก พอจะให้คำแนะนำได้บ้าง

แต่เข้าบล็อกป้ามดก็ครบเครื่องแล้วนะ ลองดูสิ

 

โดย: พ่อพเยีย 7 กันยายน 2550 20:37:33 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่โดม
มาเยือนยามดึกดื่น..
เพิงพเยีย หน้าบ้านหรือคะนั่น น่ามอง น่าอยู่ ร่มรื่น
ที่บ้าน,หน้าบ้าน เมเปิล โตวันโตคืน แม้รู้ว่าผิดที่ผิดทางสำหรับเมเปิลอยู่บ้าง แต่ก็รอคอยค่ะ.. มีความสุขกับการรอ การลุ้น แต่อย่างไรเสีย ทุกวี่วันเรายังพอหาความสุขได้จากการมองกิ่ง ก้าน ใบ ที่เพิ่มขึ้น โตขึ้น

บล็อกพี่โดมคึกคักเหมือนเช่นเคยนะคะ อ่านแล้วอบอุ่นใจ

ขอบคุณในความอาทร

 

โดย: นกแสงตะวัน 8 กันยายน 2550 0:21:20 น.  

 

วันเสาร์แล้วเน้อ...ลุงโดม...

สวมรอย....เรียกลุงเสียหน่อย....เห็นบ้านนีเด็กเล็ก เด็กน้อยเข้ามาเรียกทั้งลุง ทั้งอา เอาละวา....เราก็เรียกมั่ง

เผื่อใครหลวมตัวเรียกเราว่าพี่....เหอ...เหอ....


ไม่ได้แวะเวียนมาซะหลายวัน...ต๊กกะใจโม้ดเลยนึกว่าลุงโดมจะออกอัลบั๊มใหม่....reunion ประมาณวงอีเกิล วงคิส อะไรปานนั้น......

แต่เอาเหอะ..ถึงไม่ออกอัลบั๊มก็เป็นสติเตือนใจเหมือนพี่โดมเขียนนั่นแหละ....ว่า

.........สังขารนั้นมันไม่เที่ยงหนอ........
ดูแต่เจ้าของบล๊อคสิ...เลยเที่ยงไปตั้งกะบ่ายสี่ละมั้ง (อ้อ...ยังไม่ถึง บ่ายสี่นั่นประมาณลุงบูลย์ เอาเลยเที่ยงมาสักครึ่งชั่วโมงก็แล้วกัน )


เห็นด้วย...ยืนยัน...นั่งยัน....กะเรื่องสติสตังค์(อย่างหลังยิ่งสำคัญ)

เรื่องเล่าผ่านปากสตรี.....บางครั้งผู้ฟังอาจเป็นเพียงเหยื่อ
เพราะในคราบของความบอบบางอ่อนไหว...เธอซ่อนคมดาบพันเหลี่ยมไว้เพื่อรอเชือดเชือนบางสิ่ง...จึ่งสร้างความอ่อนแอไว้เป็นหลุมพราง
ในเกราะแกร่งกำแพงกร้าว....ผู้หญิงคนนั้นกลับเป็นผู้ที่อ่นแอมาที่สุดจึงสร้างเกราะป้องกันกาย

ผู้หญิงทำได้เกือบทุกอย่างที่ผู้ชายทำ....และอาจจะทำได้ดีกว่า แต่บางสิ่งเธอเลือกที่จะไม่กระทำ...........อาจเพียงเพราะ ให้ผู้ชายได้ภาคภูมิใจว่าได้เป็นผู้เหนือกว่า เพราะสิ่งที่กระทำผู้หญิงไม่สามารถกระทำได้

การที่ผู้หญิงร้อยเรื่องราวเรียงรายจำนรรจาเรื่องน่าอับอาย.....เป้าหมายซับซ้อนกว่าเรื่องที่เธอสร้าง หรือบางครั้งอาจเพียงโค่นป่าทั้งป่าเพื่อหากระรอกตัวเดียว....

คุณผู้ชาย...โปรดระมัดระวัง!!!!!!

อันนี้เป็นต่อมสมองส่วนตัวเด้อ.....ท่านผู้ชมที่อายุต่ำกว่า 30 ปีโปรดมีผู้ปกครองร่วมรับชมและใช้วิจารณญานในการรับฟัง...

 

โดย: ปลายแปรง 8 กันยายน 2550 7:16:45 น.  

 

กลับมาอีกรอบ...ลืม

เรื่องไร่หอม ไร่กระเทียมก็เกาหัวอยู่เหมือนกันแหละ

เพราะแถวบ้านเวลาเขาไปทำงานจะเรียกว่า "ไปไฮ่" คือ ไปไร่ ก็คือสวนทำพืชไร่ทั่วไป
ถ้าไปนาจะเรียกว่า "ไปโต้ง(ต้ง)" คือ ไปทุ่งนา

อาจเป็นเพราะแถวบ้านไม่มีสวนมากมายเหมือนที่อื่นกระมัง คำนี้เลยไม่ค่อยได้ยินใช้กันนัก จะมีแต่ ไปไฮ่ ไปนา(ใช้เป็นคำสร้อยร่วมกัน ถ้าไปทุ่งอย่างเดียว ก็ไปโต้ง)

เออเนอะ...ท่าจะต้องไปรื้อต่อมสมอง ประลองปัญหาอีกเที่ยวแล้วชะนั้นแล

 

โดย: ปลายแปรง 8 กันยายน 2550 7:25:33 น.  

 

หวัดดีคะคุณโดมและมิตรรักแฟนหมอเพลง
แม่นกตัวนี้เป็นวันละโรค วันนี้ปวดหัว มันนี้เหนื่อย ลูกนกสองตัวรับกรรมพันธ์จากแม่คนหนึ่งเป็นโรคปวดหัวเหมือนแม่ อีกคนเป็นโรคหัวใจรั่วแต่กำเนิด แม่รั่วหลังจากผ่าตัตสมอง ตอนนี้ลูกนกกำลังติตคอมอย่างแยกไม่ออก อาจารย์บรรเจิดโฉม สอนว่าทำอะไรต้องมีสติ แม่นกไม่เคยมีสติเลย สติแตกทุกที พรุ้งนี้จะให้ตาตีฟพิมท์ ลิฟวิงส์ วิว ถ้าดิฉันเป็นอะไรก็แล้วแต่ชึ่งไม่รับรู้แต่ยังหายใจปร่อยให้ตายได้เลย เพราะกลัวตัวเองอยู่ในสภาพไม่สวย ก็เลยอยู่ไปวันๆ คิดแบบเผ่าชาไก คิดแต่วันนี้พรุ้งนี้ก็ช่างมัน คิดดีเหมือนกันนะเผ่านี้

 

โดย: แม่นกกระจาบ (ดาวกระพริบฟ้า ) 8 กันยายน 2550 7:59:07 น.  

 

แวะมาอ่านค่ะคุณโดม
วันนี้วันศุกร์ ดีใจจังที่ได้พัก

เย็นนี้ได้รับโปสการ์ดจาก
คุณน้าวีดวาด คุณยายถามคุณน้าว่า..แม่น้องนิกมีลูกสองคนไม่ใช่เหรอ (แอบจำได้ด้วยนะคุณยาย)

มาแปะคำพูดไว้ตรงนี้ เผื่อคุณยายแวะมาบล๊อกลูกเขยก่อน
ว่าเดี๋ยวหนูส่งรูปลูกชายไปให้ดูค่ะ

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.86 8 กันยายน 2550 9:02:56 น.  

 

ตกใจ คิดว่าถ้าสติไม่อยู่กับตัว
ต้องไปงานนี้..แหะๆ
งานข้างบนไกลจังเลย
ขุนเขาริมน้ำปะทะโดม วุฒิชัย
อา..คนละแนวเลยในความรู้สึก
แต่งานนี้ไม่มีห่วงอะไรนะ
ขุนเขาน่ะ..หล่อมาก คริคริ...

 

โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน 8 กันยายน 2550 12:04:32 น.  

 

สวัสดีครับ

แวะมาที่นี่เป็นครั้งแรก
สะดุดใจกับชื่อ "ยานา"
เพราะเคยเห็น yana ในเว็บครูจรัล ที่มีสำนวนการเขียนที่สวยงามแต่เศร้า
เลยไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่

ผมเคยเห็นผลงานการเขียนของคุณโดม (ขออนุญาตเรียกพี่นะครับ)
ในขวัญเรือนครับ

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 8 กันยายน 2550 14:32:42 น.  

 

ขวัญเรือนวางอยู่ตรงหน้านี่เลยครับ

กำลังรออ่านจดหมายจากยุคสมัยอันเศร้าหมองอยู่ครับ

เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากครับ

ผมชอบซื้อนิตยสารมาเก็บแล้วค่อยๆอ่าน

ผลก็คือ อ่านดีเลย์เป็นเดือนเลยครับ 555

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 8 กันยายน 2550 14:39:57 น.  

 

สวัสดีจ้ะปลายแปรง

เรื่องไร่หรือสวน ตอนนี้อีเมล์ไปบอกฝ่ายพิสูจน์อักษรให้ช่วยตรวจทานหาคำที่ถูกต้องให้ด้วย

เพราะเห็นคนเหนือสองคนยืนยันทั้งคู่ ก็เลยทำให้ลังเล

สวัสดีครับคุณบุญสิตา ดาวกระพริบฟ้า อารมณ์ดี

ถ้าอยู่กับวันนี้ได้จริงๆแล้วละก็ดีสิครับ เพราะถือว่าเป็นการอยู่กับปัจจุบันขณะ จริงๆอยากจะอยู่กับวินาทีนี้ให้ได้ด้วยซ้ำ แต่อยู่ไม่ค่อยได้หรอก

คนเราคอยจะไปอยู่กับสิ่งที่ล่วงไปแล้วและสิ่งที่ยังมาไม่ถึงอยู่เรื่อยแหละ

คติเผ่าซาไก เขาว่าเผ่าซาไกไม่เคยเป็นโรคปวดหัวเลยนะ



สวัสดีครับแม่น้องนิก

ได้ข่าวว่าบ้านแถวตะกั่วป่ากำลังขยันส่งโปสการ์ดกันทั้งพี่ทั้งน้องเลยเชียว ก็น่าสนุกดีนะ แม่น้องนิกเข้าชมรมเรารักโปสการ์ดด้วยหรือเปล่าครับ ?



สวัสดีจ้ะยิปซีสีน้ำเงิน

เมื่อวานไปพบหน้าขุนเขา ริมน้ำมาแล้ว หน้าเธอยังละอ่อนนัก เท่ากับว่าพ่อพเยียไปงานนี้ก็ไปหาเรื่องให้หน้าแก่โดยใช่เหตุน่ะสิ

จะเต็มใจเชิญมาหรือว่าไม่รู้ว่าจะเชิญใครไป ก็เต็มใจไปทั้งนั้นแหละจ้า


สวัสดีครับคุณกะว่าก๋า

ยินดีที่แวะเข้ามาทักทายกัน
จะเรียกพี่เรียกน้าก็ยินดีทั้งนั้น

ส่วนคุณยานาที่บล็อกนี้กับคุณ yana ที่เว็บคุณจรัล ไม่ทราบว่าจะเนคนเดียวกันหรือเปล่า ต้องรอให้คุณยานามาตอบเองนะครับ

 

โดย: พ่อพเยีย 8 กันยายน 2550 15:47:45 น.  

 

สวัสดี มีสุขค่ะพ่อพเยีย
สบายดีอ๊ะป่าว
กินข้าวแล้วยัง
ไปไหนมั่งมั้ยเอ่ย
555555
อีกหนึ่งคำถาม
คิดถึงป้าซ่าส์มั้ยค๊า
เป็นคำถามที่ถามแบบน่าไม่อายที่ซู้ดดดดดดดดด ในโลกเลยค่ะ

สุขสันต์วันเสาร์นะค๊า

 

โดย: ป้าซ่าส์ 8 กันยายน 2550 16:34:55 น.  

 

กลับมารายงานตัวอีกครั้งว่า
อ่านจบแล้วครับสำหรับจดหมาย
คมคายทั้งคำถามของพี่
และลุ่มลึกกับคำตอบของท่าน ว.วชิรเมธี

สรุปสั้นๆว่า
ตอนนี้สังคมไทยขาด "ปัญญา" อย่างแรงครับ



 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 8 กันยายน 2550 16:51:08 น.  

 

นก..ไร้หัวใจ
ไม่ควรเสียใจที่ถูกมองข้าม
แงงงง...(ทำใจ)
ไม่มีอะไรเศร้าไปกว่าการถูกลืมค่ะพี่โดม...

ช่วงนี้กำลังบริหารใจให้เข้มแข็ง
และจะเป็นนกแสงตะวันคนเดิมในเร็ววัน
...

สวัสดีบ่ายวันเสาร์ที่น่าจะเป็นวันพักผ่อน
อย่าทำงานมากจนลืมพักนะคะ

บายๆ


 

โดย: นกบาดเจ็บ IP: 125.26.182.254 8 กันยายน 2550 17:13:36 น.  

 

เอาความคิดถึงมาตั้งไว้ค่ะ..
จากบ้านพี่โดมแล้ว..สั่งความคิดถึงไว้แล้ว

ว่าปลิวไปหาพี่ๆ น้องๆ ด้วย

ตอนนี้อยู่ที่เกาะพีพีค่ะ.. ลงมาเรือบ่ายวันนี้ นักท่องเที่ยวไม่เยอะนัก

การก่อสร้างยังคงดำเนิน

พรุ่งนี้ได้ไปถ่ายรูปจะเอามาฝาก ถ้าหากว่า..มีโอกาสใช้เน็ตอีก สมัยนี้เน็ตยังนาทีละ 2 บาทอยู่ค่ะ

ชั่วโมงละ 100 บาท ถือว่าไม่แพงเนื่องจากไฟปั่น ค่าไฟที่ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบค่าไฟเดือนๆ หนึ่งหลายบาท.. อย่างร้านทำเน็ตอย่างเดียว เฉลี่ยก็เกือบหมื่นแล้วค่ะ (อย่างต่ำแปดพัน)

เรียกว่าต้นทุนผลิตสูง ค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปเป็นปกติ

แหะ แหะ ร้อนตัวเดี๋ยวหาว่าพีพีแพงแล้วไม่ใครมาเที่ยว

 

โดย: jam (สีน้ำฟ้า ) 8 กันยายน 2550 21:15:18 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณโดม

กลางวันอากาศร้อน
กลางคืนฝนตก
หลับสบาย
ช่วงนี้เจองานยุ่งๆ หลายอย่าง
แต่ว่าหัวใจก็สบายดี
ยิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องราวที่นี่
ก็ยิ่งรู้สึกดีค่ะ


 

โดย: บอนหวาน 8 กันยายน 2550 23:19:00 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณพะเยีย

ดิฉันได้อ่านเรื่องที่คุณเขียน และเห็นด้วยอย่างมากค่ะ ถ้าสติไม่อยู่กับตัว แต่ในกรณีแรก ดิฉันขอยืนยันได้ว่า ผู้หญิงที่ถูกข่มขืนบนรถไฟ เธอมีสติแน่นอน เธอถึงรอดชีวิตมาได้ เพราะว่าเธออ่อนเพลียจากการทำงานมาทั้งวัน เธอจึงหลับ เมื่อรู้สึกตัวก็ถูกคนมานั่งคร่อมอยู่บนตัว เอามือกดที่คอของเธอ จนเธอไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ เธอพยายามที่จะต่อสู้เอาตัวรอด แต่เธอถูกทุบที่ท้องน้อยอย่างแรงหลายครั้ง(ส่งผลให้มดลูกของเธออักเสบเรื้อรัง จนต้องตัดทิ้ง) ที่สะโพกและหน้าขาด้านซ้าย ถูกทุบจนน่วม(ข้อสะโพกของเธออักเสบเรื้อรัง ถึงขั้นต้องผ่าตัด ) ถ้าเธอไม่มีสติ ยังคงต่อสู้ดิ้นรนเอาตัวรอด เพื่อให้พ้นจากการข่มขืน เธอก็คงไม่มีชีวิตรอดจนทุกวันนี้ เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ สูงเพียง 14 8 ซม. ขณะที่พนักงานการรถไฟคนนั้น ตัวใหญ่และสูงกว่า 170 ซม. และขอยืนยันว่า เพราะเธอมีสติในตอนนั้น ตอนที่แม่วูบเข้ามา ทำให้เธอต้องรักษาชีวิตให้รอด (ไม่อย่างนั้น เธอคงตายไปแล้ว และอาจถูกจับโยนจากรถไฟ อย่าลืมซิคะว่า เป็นช่วง 00.00-05.00 . รถไฟแล่นด้วยความเร็วและไม่จอดสถานีเลย และผู้โดยสารก็มีไม่ถึงครึ่ง แล้วก็เป็นเวลานอนด้วยนะคะ)
ดิฉันเพิ่งมีโอกาสเสริ์ชหาข้อมูล เลยมาเจอที่บล็อกของคุณ และขอยืนยันว่า เห็นด้วยอย่างมาก ถ้าคนเรามีสติ..... ดิฉันคือผู้หญิงคนนั้นค่ะ.

ขวัญระวีร์
love_thailand@windowslive.com

 

โดย: ขวัญ IP: 77.49.209.98 16 พฤษภาคม 2551 4:49:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.